ในช่วงเวลาแต่ละวันที่ซือซิ่วซิ่วได้รับความทรมาน ฉันฉลองวันเกิดไปสามครั้ง จนอายุสามขวบแล้วฤดูหนาวฉันหยิบเอาเมล็ดแตงโมกับลูกอม ไปเกาะอยู่ตรงหน้าต่างมองดูภายนอกอย่างอารมณ์ดีซือซิ่วซิ่วสวมชุดนอนตัวบาง สวมรองเท้าแตะ กำลังตัวสั่นซักผ้าขัดรองเท้าท่ามกลางลมหนาว ดูแล้วน่าสงสารมาก เหตุการณ์ครั้งนี้เหมือนกับตอนนั้นที่เธอตัดผ้าห่มฉันจนแหลก แล้วสั่งให้ฉันถอดเสื้อออกจนหมดเพื่อคุกเข่าคำนับเธอกลางหิมะส่วนเหล่าพี่น้องของเธอแต่ละคนก็ถูกฉันจัดการเรียบร้อย ถ้าไม่ล้มละลายก็ตกงานทำให้ความแค้นในใจของฉันหายไปบ้างแต่ซือเฟิงยังเหมือนระเบิดเวลาที่อยู่ในใจฉันวันหนึ่ง ตระกูลหลินได้รับเชิญให้ไปร่วมงานเลี้ยงหนึ่งหลินเผิงกำชับซือซิ่วซิ่ว “ยังไงเธอก็เป็นแม่ของลูก ชิงชิงอยู่ห่างเธอไม่ได้ ดังนั้นเธอไปดูแลลูกเถอะนะ”ซือซิ่วซิ่วสบตากับฉัน ในดวงตาของพวกเราสองคนล้วนมีความทะเยอทะยานและความแค้น อีกทั้งยังหมายมาดว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง!เพราะฉันกับเธอได้ทำข้อตกลงร่วมกัน ขอเพียงเธอช่วยฉัน เธอจะได้รับเงินก้อนโตแล้วหนีไปภายในงานเลี้ยง มีผู้คนไปมาขวักไขว่เพราะทักษะที่ยอดเยี่ยมของช่างแต่งหน้า ทำให้ซือซิ่วซิ่วดู
คนที่เอาใจหลินเผิงต่างทยอยถอยออกไป ผู้คนรอบข้างมากมายต่างมองซือเฟิงด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัย เหมือนกำลังมองตัวตลกหลินเผิงแค่นหัวเราะ “คุณซือครับ ถ้าไม่มีหลักฐานก็อย่าพูดจามั่วซั่ว ผมเป็นคนทำการค้าแบบตรงไปตรงมานะครับ”ซือเฟิงโมโหทันที “ไม่ต้องมาทำไขสือ! ทั้งที่คุณรู้ว่าด้านใต้ที่ผืนนั้นเป็นสุสานขนาดใหญ่ แต่กลับแกล้งประมูลราคาแข่งกับผม จนต้องล้มละลาย!”ซือเฟิงพูดไปมากมาย แต่หลินเผิงกลับหัวเราะอย่างดูแคลน“ต่อให้ผมรู้ว่าที่ตรงนั้นคือสุสานแล้วจะทำไม?”“ถุย! คอยดูเถอะ! ฉันจะทำให้แกตายทั้งเป็น!”หลังจากเรื่องนี้จบลง หากเป็นไปตามแผนที่ฉันวางไว้ ซือซิ่วซิ่วต้องมอบฉันให้ซือเฟิงซือซิ่วซิ่วประหม่าขึ้นกะทันหัน “คงไม่เกิดเรื่องหรอกนะ?”“ไม่หรอก” ฉันตอบเสียงเรียบ ในไม่ช้า ฉันถูกมอบไปสู่มือใหญ่คู่หนึ่ง ฉันรู้ดี เจ้าของมือคู่นี้ก็คือซือเฟิง ฉันแกล้งทำเป็นนอนหลับสนิท“ซือซิ่วซิ่ว เธอกำลังมีแผนอะไร?”ซือเฟิงมองฉันตลอดเวลา คล้ายจะมองฉันให้ทะลุปรุโปร่ง ฉันถูกจ้องจนอึดอัดไปหมดซือซิ่วซิ่วได้ยินคำพูดของเขา จึงพูดเสียงสั่น “พี่คะ พี่หมายความว่ายังไง ฉันก็ทำตามที่พี่บอกไง!”“หึ” ซือเฟิงลูบไล้แก้ม
ในไม่ช้ารถขับขึ้นไปบนทางด่วน ฉันอยู่ในอ้อมกอดของซือเฟิง ส่วนซือซิ่วซิ่วนั่งอยู่ข้างคนขับฉันพยายามขัดขวางสุดฤทธิ์ อีกทั้งถ่วงเวลา ในที่สุดรถตำรวจก็ตามมาถึง เพราะฉันแจ้งความตั้งแต่ตอนที่เสี่ยวหลิวขับรถออกนอกเส้นทางแล้วพอซือเฟิงตกใจ เขาจึงตีหลินเผิงให้สลบ จากนั้นพาฉันกับซือซิ่วซิ่วไปขึ้นรถของเขาท่ามกลางความมืดเขาหัวเราะเยือกเย็น “หึ ซิ่วซิ่ว พี่เป็นคนมีน้ำใจมากนะ พี่ให้โอกาสเธอมาตั้งหลายครั้ง แต่เธอกลับทำอย่างนี้ เก่งไม่เบาเลยนะ” ซือซิ่วซิ่วสั่นไปหมดทั้งตัว “พี่คะ ฉันพาเธอออกมาตามคำสั่งของพี่แล้วนะ!”“พี่คะ เห็นแก่หน้าพ่อกับแม่ พี่อย่าทำให้ฉันลำบากใจอีกเลยค่ะ”ซือเฟิงหัวเราะ แล้วพูดเสียงเข้ม “เป็นของเล่นก็ไม่ได้ ทำหน้าที่ก็ไม่ดี ต่อไปฉันไม่ทำให้เธอลำบากใจอีกแล้วละ”หลังจากการฉุดกระชากและเสียงกรีดร้อง ฉันรู้สึกว่ามีลมตีเข้ามาในรถเมื่อฉันลืมตาหันมอง เห็นเพียงแผ่นหลังของซือซิ่วซิ่วที่ถูกผลักตกรถและเสียงกรีดร้องของเธอ!“ว๊าย!”ฉันตกใจจนสะดุ้งฉันรู้ว่าซือเฟิงเป็นโรคจิต แต่ไม่คิดว่าเขาอาการของเขาจะหนักจนถึงขั้นนี้ประตูรถปิดเองโดยอัตโนมัติ อุณภูมิในรถเพิ่มขึ้นทันที ซือเฟิงจู
เมื่อฉันลืมตาขึ้นอีกครั้ง ได้กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโชยมาที่จมูกฉันดิ้นอย่างอึดอัด แต่เหมือนจะทำให้หลินเผิงตกใจตื่น เขาลืมตาที่แดงก่ำ หลังจากเห็นฉันตื่น เขารีบกดกริ่งขอความช่วยเหลือ “ไม่เป็นไรนะ?”ฉันส่ายหน้า พยายามปกปิดความรู้สึกสับสน “ฉันไม่เป็นไร”ระหว่างที่พูด ฉันเอ่ยถาม “ซือเฟิงเป็นยังไงบ้าง ตอนนี้เข้าคุกไปหรือยัง? แล้วซือซิ่วซิ่วเป็นยังไงบ้าง?”“ซือซิ่วซิ่วบาดเจ็บสาหัส เป็นอัมพาตท่อนล่าง ซือเฟิงขับรถชนสะพาน แขนของเขาบาดเจ็บ ถูกจับตัวไปแล้ว”“แต่ว่าเขากอดเธอเอาไว้แน่น เธอไม่ได้รับบาดเจ็บ”“เธอหมดสติเพราะตกใจมากเกินไป แล้วก็มีพวกบาดแผลถลอกเล็กน้อย”ฉันรู้สึกประหลาดใจมาก นึกไม่ถึงว่าเขาอยากตายด้วยการขับชนสะพาน แต่โชคดีที่เขารอดมาได้ จะได้รับบทลงโทษ ความจริงฉันเตรียมใจตายนานแล้ว หากสามารถพาปีศาจชั่วไปลงนรกได้ ถึงตายฉันก็ยินดีแต่ซือเฟิงล่ะ?ในใจเขาคิดว่ารักฉัน แต่การกระทำกับความคิดแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง บางทีในช่วงสุดท้ายของชีวิต เขาอาจจะเพิ่งสำนึกได้“ซือเฟิงอยากเจอเธอ จะเจอหรือเปล่า?”“ไปเจอสักหน่อยเถอะ”หลินเผิงมองดูฉันอยู่สักพัก จึงได้พูดขึ้น“ก่อนหน้านี้เธอบอกฉันว่าอยา
“โอ๊ย...!”เจ็บ…ซือซิ่วซิ่วถือน้ำเดือดหนึ่งร้อยองศาราดลงบนมือของฉัน!ฉันถลึงดวงตากลมโตเพราะเจ็บปวดรวดร้าว จากนั้นเสียงกรีดร้องโหยหวนก็ดังขึ้นทันที“ซือซิ่วซิ่ว...คุณหนูซือ ปล่อยฉันไปเถอะ...”“ขอร้องเธอละ...”ฉันอยากต่อต้าน แต่ถูกคนข้างหลังกดเอาไว้เมื่อเห็นคนสวมชุดกระโปรงสีแดงปรากฏตัวตรงหน้า ฉันขอร้องอ้อนวอนใบหน้าหมดจดของซือซิ่วซิ่วเจือด้วยเสียงหัวเราะที่บ้าคลั่งดังกระแทกเข้ามาในหูฉัน“แกเป็นคนชั้นต่ำที่ไม่มีใครเอา คู่ควรมาเทียบกับฉันเหรอ?”หลังจากเธอออกคำสั่ง น้ำร้อนถูกราดลงมาบนใบหน้าของฉันอีกครั้ง“พี่ซิ่วซิ่ว ดูหน้าของมันสิ เหมือนกุ้งมังกรเล็กลวกสุกหรือเปล่า?”เสียงหัวเราะลูกสมุนของซือซิ่วซิ่วดังเข้าหูฉัน จากนั้นได้ยินเสียงที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังของซือซิ่วซิ่วดังขึ้น“โจวผิง แกน่าจะขอบคุณฉันนะ คนชั้นต่ำอย่างแกไม่คู่ควรกับใบหน้าอย่างนี้!”ระหว่างที่พูด ซือซิ่วซิ่วเอามีดแหลมออกมาหนึ่งเล่ม แล้วกรีดลงบนใบหน้าของฉันไม่รู้เป็นเพราะอะไร อาจเพราะต้องการเอาชีวิตรอดหรือเพราะความเจ็บปวด จู่ ๆ ทำให้ฉันดิ้นรนจนหลุดจากการเกาะกุมฉันวิ่งหนีอย่างลนลาน ซือซิ่วซิ่วพาลูกสมุนของเธ
เมื่อฉันลืมตาขึ้นอีกครั้ง ฉันกลับตกอยู่ในอ้อมกอดที่อบอุ่น หรือว่าฉันทะลุมิติ?เมื่อคิดได้อย่างนั้น ฉันสบเข้ากับสายตาที่อ่อนโยนลึกซึ้งมากซือซิ่วซิ่ว?แม้จะดูเหนื่อยล้ามาก แต่ก็เต็มไปด้วยความรักของคนเป็นแม่ ทว่าใบหน้าคือใบหน้าของปีศาจอย่างซือซิ่วซิ่ว!“เด็กดี!เฮ้อ!แก้วตาดวงใจของแม่”ฉันมองหน้าซือซิ่วซิ่ว พร้อมกับเบิกตาโตคำพูดของเธอเต็มไปด้วยความอ่อนโยน แต่ฉันเหมือนตกลงไปในบ่อน้ำแข็ง ภาพที่ถูกทารุณกรรมในโรงเรียนฉายชัดในหัวฉันเหมือนหนังเรื่องหนึ่งฉันดิ้นรนสุดแรงในอ้อมกอดของเธอ มือน้อยที่อ้วนจ่ำม่ำจิ้มไปที่ดวงตาของเธอ แต่เพราะมือเล็กเกินไปจึงทำให้เอื้อมไม่ถึงซือซิ่วซิ่วตกใจที่ฉันดิ้นอย่างรุนแรง “ว๊าย ว๊าย! ไม่ต้องกลัวนะ เด็กดี”เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของซือซิ่วซิ่ว ทำให้ฉันมั่นใจอย่างหนึ่ง!ฉันเกิดใหม่แล้ว!เกิดใหม่เป็นลูกสาวของซือซิ่วซิ่ว!
“ลูกฉี่เหรอ?” เสียงหนักแน่นเสียงหนึ่งดังขึ้นใบหน้าของซือซิ่วซิ่วแดงระเรื่อทันที “ให้ฉันดูหน่อยค่ะ”จากนั้นเธอรีบถอดผ้าอ้อมสำเร็จรูปออกมาจากตัวฉันแล้วมองดูแวบหนึ่ง “ลูกไม่เป็นไรนี่ ไม่ได้ฉี่นะ!”“ว๊าย!”เธอกรีดร้องเสียงแหลม แล้วโยนฉันขึ้นไปบนเตียงผู้ป่วยฉันร้องไห้เสียงดังทันทีชายคนนั้นก้าวเข้ามาอย่างรวดเร็ว แล้วอุ้มฉันเอาไว้ในอ้อมกอด จากนั้นปลอบเสียงค่อย “ไม่เป็นไรนะ...ไม่ร้อง ไม่ร้อง พ่ออยู่นี่”จากนั้นหันไปตะคอกอย่างโมโห “เธอโยนลูกได้ยังไง?”ซือซิ่วซิ่วชี้ไปที่หน้าตัวเอง “ลูก ลูกฉี่ใส่ฉัน!”“ลูกเป็นแค่เด็กเท่านั้น ควบคุมตัวเองไม่ได้ เธอก็ควบคุมตัวเองไม่ได้เหรอ?”“เธอเป็นแบบนี้จะเป็นแม่คนได้ยังไง ลูกยังเล็ก ถ้าเธอโยนจนลูกเป็นอะไรจะทำยังไง? ฉันจะวางใจให้เธอเลี้ยงลูกได้ยังไง!”ซือซิ่วซิ่วรู้สึกรันทดเหลือเกิน “ฉัน ฉันไม่ได้ตั้งใจนะคะ!”ชายคนนั้นทำหน้าตึง แล้วพูดเสียงเย็นทันที “ตั้งแต่วันนี้ฉันจะอายัดบัตรของเธอ ช่วงนี้เธอไปเรียนรู้ให้ดีเถอะว่าจะอบรมเลี้ยงดูลูกยังไง! ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น วัน ๆ อย่าคิดแต่จะออกไปช็อปปิง”ฉันหันมองชายหน้าตึงคนนี้ แล้วหันมองซือซิ่วซิ่วที่รันทดจน
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซือซิ่วซิ่วต้องใช้ชีวิตที่ ‘สวยงาม’ โดยการดูแลฉันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงขอเพียงเธออยากนอน ฉันจะร้องไห้เสียงดัง เธอเพิ่งกล่อมฉันอย่างเหน็ดเหนื่อยหนึ่งชั่วโมงถึงจะได้หลับไป สรุปฉันก็เริ่มร้องไห้อีกแล้วเมื่อเธอป้อนนม ฉันจะพ่นใส่หน้าเธอเพียงอย่างเดียวขอเพียงมีโอกาส ฉันจะดึงทึ้งผมของเธอ หรือเล่นใบหน้าของเธอเธอแทบบ้าเพราะการกระทำของฉัน แต่เดิมเธอคิดจะเอาใจสามีจะได้มีบัตรออกไปช็อปปิงแต่สุดท้ายกลับโยนฉันให้พี่เลี้ยงดูแลพอพี่เลี้ยงอุ้มฉันเอาไว้ในอ้อมกอด ฉันร้องไห้เสียงดังสนั่นไหวไหวทันที เสียงร้องแทบขาดใจทำให้คนทั้งคฤหาสน์ใจแทบสลายแม่สามีของเธอหรือคุณย่าของฉัน รีบมาตรงหน้าเธออย่างเอาเรื่อง พร้อมตำหนิ “ซือซิ่วซิ่ว! เธอเป็นแม่ประสาอะไร ไม่อยากเลี้ยงลูกแล้วใช่ไหม? ถ้าไม่อยากเลี้ยงลูกก็ไสหัวออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้!”“เป็นคนไร้ประโยชน์ที่เลี้ยงเสียข้าวสุกจริง ๆ !”ระหว่างที่ด่าทอ คุณย่าก็หันมาปลอบฉันด้วย หนำซ้ำฉันยังหยุดร้องไห้เพื่อให้ความร่วมมือฉันยิ้มอย่างได้ใจให้ซือซิ่วซิ่ว เธอตะลึงทันที “คุณแม่คะ! เธอ...เธอเป็นตัวประหลาดค่ะ!”คุณย่าขมวดคิ้วทันควัน “นี่เป็นลู