Share

Chapter11. เหนื่อยล้า

            เด็กหนุ่มฉีกยิ้มกว้างตามด้วยอ้าปากหาวคำใหญ่แล้วค่อยๆ ผล็อยหลับไปในที่สุด 

            กัวจื่อหรานรอจนน้องชายหลับสนิทแล้วจึงลุกขึ้นยืน เขามองสมุดภาพในที่โผล่พ้นขอบผ้าห่มของกัวอี้เซียว  ใบหน้าอ่อนโยนหายไปสิ้น  เหลือเพียงรอยยิ้มร้ายกาจและแววตาดุดันที่หมายมั่นจะเค้นเอาความจริงจากคนตระกูลหลินให้ได้

            “พี่ไม่ได้ผิดคำพูดกับเจ้านะอี้เซียว พี่แค่ต้องเค้นความจริงเอาจากนางแค่นั้น”

.....

            แม้จะนั่งกินข้าวอยู่ แต่นางก็เผลออ้าปากหาวด้วยความง่วงงุนออกมา  ชายวัยกลางคนที่นั่งกินข้าวร่วมโต๊ะเห็นแล้วก็ทั้งสงสารและเอ็นดู

            “เพราะลุงแท้ๆ ทำให้หลานต้องลำบากเช่นนี้”

หลินเหิงอี้อาการดีขึ้นเจ็ดส่วนแล้วแต่หลานสาวบังคับให้เขาพักผ่อนให้เต็มที่   เขาเองก็ไม่ได้พักผ่อนมานานหลังจากคุยกับพ่อบ้านหานตงเห็นว่าหลินอวี้เจินสามารถจัดการงานต่างๆ ได้ดี เขาเองก็เบาใจและผ่อนคลายลงมาก

            “ท่านลุงใหญ่อย่าได้กล่าวเช่นนั้น”  หลินอวี้เจินรีบปฏิเสธ แต่นางเพลียมากจริงๆ จึงได้เสียมารยาทอ้าปากหาวทั้งที่กินอาหารเป็นเพื่อนท่านลุงใหญ่  “หลานดีใจ ไม่คิดว่าท่านลุงใหญ่จะไว้ใจหลาน  ให้หลานช่วยดูแลกิจการต่างๆ” 

            “เจินเอ๋อร์ไม่เหมือนผู้อื่นจริงๆ”  หลินเหิงอี้ส่งยิ้มเอ็นดูให้หลานสาวคนโปรด

            “เพราะท่านพ่อกับท่านลุงใหญ่อนุญาตให้หลานได้ใช้ชีวิตอิสระต่างหากละเจ้าค่ะ”  

หลินอวี้เจินคิดว่าตัวเองช่างโชคดีเหลือเกิน แม้บิดาเป็นบัณฑิตเปิดสำนักศึกษา แต่บิดากลับมิได้กวดขันและเคี่ยวเข็นให้นางเป็นกุลสตรีมากนัก ธรรมเนียมปฏิบัติต่างๆ ได้ศึกษาเรียนรู้อย่างเข้าใจ  แต่บิดาไม่เคยห้ามปรามหากนางสนใจอ่านเขียนหรือวาดรูป  นางอยากเรียนรู้การทำการค้า ท่านลุงใหญ่ก็ให้หลงจู๊มาสอนด้วยตนเอง  นางไม่ชอบเย็บปักถักร้อย แต่ก็พอทำได้บ้างเพียงแต่ไม่งดงามนัก บิดาก็ไม่เคยปริปากตำหนินาง นางเย็บถุงเงินให้ท่านลุงใหญ่ เป็นแบบเรียบๆ ท่านลุงใหญ่แสดงความชื่นชมพอใจ ขนาดมอบของขวัญให้นางหีบใหญ่จนบ้านลุงรองรู้เข้าไม่พอใจนัก 

และที่สำคัญ เมื่อนางมีเรื่องให้ทำมากมายจนเหนื่อยล้า สมองของนางก็ไม่เหลือที่ว่างให้คิดถึงคนที่ทำให้นางต้องปวดใจ

            หลินเหิงอี้โคลงศีรษะไปมา เขากินอิ่มแล้ว รับผ้าจากบ่าวรับใช้มาเช็ดมือ ครู่เดียวก็มีบ่าวรับใช้อีกคนนำยาเข้ามาให้  เขาขมวดคิ้วไม่อยากดื่มยาอีกแล้วแต่หลานสาวกลับยิ้มกริ่ม รับชามยามาจากบ่าวรับใช้แล้วยื่นให้หลินเหิงอี้ด้วยตนเอง

            “อดทนอีกสองสามวันท่านลุงใหญ่ก็ไม่ต้องกินยาแล้วเจ้าค่ะ”   นางกลั้นหัวเราะกับท่าทางของผู้ใหญ่ตัวโตที่กลัวยารสขม “อย่าดื้อเลยเจ้าค่ะ ยาเย็นจะยิ่งขม”

            ท่าทางหยอกล้อของหลินอวี้เจินทำให้คนเป็นลุงหน้าเสีย  จำใจคว้าชามยามาดื่มรวดเดียวหมดแล้วโบกมือไล่หญิงสาวออกไปจากห้อง

            “เจ้าก็ไปพักผ่อนได้แล้ว คืนนี้ไม่ต้องตรวจบัญชีแล้ว รีบนอนเถิด”

            “เจ้าค่ะ”  หญิงสาวหัวเราะเบาๆ แล้วลุกขึ้นเดินออกมา แม้จะเหนื่อยล้าและอยากหลับเต็มที่แล้ว แต่นางไม่อาจละเลยงานที่ยังค้างอยู่ได้ พรุ่งนี้เช้าจะมีเรื่องยุ่งอีก เมื่อนางเดินกลับมาที่ห้องก็ลงมืออ่านรายงานและดีดลูกคิดตรวจสอบความถูกต้อง

“คุณหนูยังไม่พักผ่อนหรือเจ้าค่ะ”   หวังหมิ่นเดินเข้ามาพร้อมบ่าวรับใช้อีกคนแล้วเปลี่ยนน้ำชาให้หญิงสาว “ใกล้ฤดูหนาวแล้วอากาศเริ่มเย็น วันนี้อาบน้ำเร็วหน่อยเถิดเจ้าค่ะ”

“พี่หวังหมิ่นให้คนเตรียมน้ำอุ่นให้ข้าเหมือนเดิมนั้นแหละ” 

หลินอวี้เจินหัวเราะเบาๆ  เรื่องเดียวที่นางเอาแต่ใจตัวเองคือการอาบน้ำ  นางชอบแช่น้ำอุ่นมากยิ่งทำงานหัวปั่นทั้งวันนางยิ่งชอบการแช่น้ำอุ่น

“พี่หวังหมิ่นเองก็ไม่ต้องดูแลข้าหรอก ให้เด็กๆ จัดการยกน้ำอุ่นมาแล้วก็ออกไปเถิด พี่เองก็ดูแลท่านลุงใหญ่ทั้งวัน คนป่วยดื้อรันพี่หวังหมิ่นก็เหนื่อยไม่แพ้ข้าหรอก”

หวังหมิ่นหัวเราะคิกคัก  อยู่ด้วยกันมาครึ่งเดือน นางชื่นชอบนิสัยของหลินอวี้เจินไม่น้อย นอกจากความเป็นกันเองไม่ถือตัวแล้ว ยังใจกว้างกับบ่าวรับใช้  คนไหนเจ็บป่วยหรือมีปัญหาเรื่องใด นางยื่นมือเข้าช่วยเหลือ 

นางพอรู้มาบ้างที่หลินอวี้เจินมาถึงตันหยางเพราะคู่หมั้นไปแต่งงานกับญาติผู้น้อง  นางจึงหลบมารักษาแผลใจที่นี่  คราแรกนางไม่ค่อยเข้าใจนัก หลายครอบครัวที่พี่น้องร่วมกันปรนนิบัติสามี แต่เมื่อได้ใกล้ชิดหลินอวี้เจินจึงเข้าใจได้  นางมีความรู้สึกนึกคิดเป็นอิสระ คล้ายเด็กผู้ชายในบ้างครั้ง อาจเพราะถูกเลี้ยงดูอย่างตามใจ การงานที่กุลสตรีพึ่งกระทำนางทำได้แต่ไม่งดงามประณีตนัก แต่ก็มิได้ห้าวหาญฝึกยุทธ์หรือขี่ม้า จะว่าไปก็ยังไม่เคยเห็นหลินอวี้เจินขี่ม้าเลย

“คุณหนู น้ำอุ่นพร้อมแล้วเจ้าค่ะ”

“พี่หวังหมิ่นไปพักผ่อนเถิด คืนนี้ข้าไม่เรียกใช้แล้ว พรุ่งนี้เช้าค่อยเข้ามา”

“คุณหนูรีบอาบน้ำนะเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวน้ำจะเย็นเสียก่อน”

หลินอวี้เจินยกมือขึ้นโบกไล่ แต่สายตายังจ้องอยู่ที่กระดาษตรงหน้า หวังหมิ่นคุ้นชินกับท่าทางเช่นนี้ของนางแล้วจึงพาบ่าวรับใช้คนอื่นออกมา ในห้องจึงเหลือเพียงหญิงสาวนั่งอ่านเอกสารการซื้อขายอยู่ลำพัง นางอ่านทวนซ้ำจนมั่นใจแล้วจึงใช้ตราประทับของหลินเหิงอี้ประทับลงไป เป็นอันเสร็จสมบูรณ์

หญิงสาวลุกขึ้นบิดเอวไปมา กวาดตามองจนมั่นใจว่าไม่มีผู้ใดแล้วจึงปลดสายคาดเอวแล้วถอดเสื้อผ้าออกด้วยท่าทางเกียจคร้าน  นางไม่ชอบให้ผู้อื่นมาค่อยปรนนิบัติเวลานางอาบน้ำ แต่ไหนแต่ไรนางก็เป็นเช่นนี้  หญิงสาวเดินมาที่อ่างอาบน้ำ กลิ่นหอมจากสมุนไพรที่หวังหมิ่นใส่ลงไป  ทำให้ใบหน้าอ่อนหวานระบายยิ้มอย่างพอใจ  มือเรียวยื่นไปแกว่งมือในน้ำ น้ำร้อนคลายตัวลงจนเริ่มอุ่นแล้ว เพราะนางมัวแต่ทำงานเพลินไป หญิงสาวแกะปมสายเอี้ยมแล้วถอดกางเกงชั้นในเหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่าแล้วจึงก้าวลงไปในอ่างน้ำอุ่น

เพียงร่างกายได้สัมผัสน้ำอุ่น นางเผลอครางเบาๆ อย่างผ่อนคลาย ยิ่งใส่สมุนไพรหอมลงไปด้วยยิ่งทำให้นางรู้สึกสบายตัว  มือเรียวหยิบผ้ามาเช็ดถูกผิวกายเบาๆ ก่อนจะเอนหลังพิงขอบอ่างไม้ วางแขนไว้ยังขอบอ่าง นางเคยเผลอหลับในอ่างแล้วร่างไถลลงไปในน้ำทำให้สำลักน้ำอยู่สองสามครั้ง  นางจึงพาดแขนไว้กับขอบอ่างเผื่อตัวเองเผลอหลับไปอีก

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status