แชร์

Chapter15.ความลับ

            “เจ้าเป็นคนขี้น้อยใจตั้งแต่เมื่อใดกัน”  หลินเหิงอี้หัวเราะออกมา ตบไหล่หลานสาวเบาๆ ให้เดินไปนั่งที่ศาลา “เล่ากันว่าไข่มุกน้ำตาจันทราเป็นล้ำค่าที่อดีตฮ่องเต้ทรงพระราชทานให้ตระกูลกัวที่เคยร่วมทัพทำศึกด้วยกันมา จึงเสมือนเป็นตัวแทนของอดีตองค์ฮ่องเต้ไม่มีใครกล้าแตะต้องตระกูลกัวได้ และมอบให้บุตรชายคนโตของแต่ละรุ่น บุตรชายจะนำไข่มุกน้ำตาจันทรานี้มอบให้หญิงสาวที่แต่งงานด้วย เมื่อทั้งสองมีบุตรชาย มารดาจะเป็นผู้มอบไข่มุกน้ำตาจันทราให้บุตรชายคนโตเพื่อมอบให้ภรรยาเอกของตน  เป็นเช่นนี้ทุกรุ่นสืบต่อมา”

            “ให้ก็เหมือนไม่ได้ให้ ยังไงก็เป็นของในตระกูลกัวอยู่ดี”  นางบ่นพึมพำเบาๆ “ไม่เห็นมีอะไรพิเศษเลย  หรือเพราะที่ใต้เท้ากัวยังไม่แต่งภรรยาเพราะไข่มุกน้ำตาจันทราหายไป”

            “ไข่มุกน้ำตาจันทราหายรึ?”   คราวนี้หลินเหิงอี้ขมวดคิ้ว “ลุงไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน”

            “เอ่อ...หลานคาดเดาส่งเดช เพราะเห็นว่าใต้เท้ากัวยังไม่ได้แต่งภรรยา”

            “เหตุใดหลานสนใจเรื่องใต้เท้ากัว? หรือเพราะวันที่ไปมอบของขวัญแทนลุง ได้พบใต้เท้ากัวจึงหลงใหลในรูปโฉมหล่อเหลาของใต้เท้าเข้าแล้ว”

            “ท่านลุงอย่ามากล่าวหาหลานเช่นนี้นะ”  นางทำท่าฮึดฮัดไม่พอใจ  คนหยาบคายเช่นนั้นนางไม่มีวันสนใจเด็ดขาด! “หลานแค่อยากรู้เรื่องไข่มุกน้ำตาจันทราเท่านั้น!”

            “ลุงเองไม่มีวาสหนาเคยพบเห็นไข่มุกน้ำตาจันทราหรอกนะ  ลุงเองไม่ได้ยินข่าวว่าไข่มุกน้ำตาจันทราหายไป แต่ของล้ำค่าเช่นนั้นตระกูลกัวต้องเก็บรักษาอย่างดีแน่นอน ซ้ำยังได้ยินว่าใต้เท้ากัวมีวรยุทธ์สูงส่งไม่มีทางที่จะมีใครบุกปล้นชิงไปได้แน่”

            หญิงสาวสบตากับผู้เป็นลุง ไม่เห็นแววตาซ่อนเรื่องใดไว้ ไม่เหมือนคนโกหก นางจึงได้แต่หลุบตาลงและครุ่นคิดในใจ

            ‘แล้วเหตุใดเขาจึงมาตามหาไข่มุกน้ำตาจันทราจากนางเล่า  ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดเป็นแน่ ท่านลุงใหญ่เป็นเพียงพ่อค้า ไม่รู้เพลงยุทธ มีวิชาต่อสู้ป้องกันตัวเล็กน้อย ไม่มีกำลังภายใน  ซ้ำยังไม่เคยเห็นไข่มุกน้ำตาจันทรา  เช่นนี้แล้วท่านลุงจะเป็นขโมยได้อย่างไรเล่า’

            ขณะที่หลินอวี้เจินกำลังคิดหลายตลบเรื่องไข่มุกน้ำตาจันทรา  พ่อบ้านก็เข้ามารายงานพร้อมพาพ่อบ้านตระกูลกัวเข้ามาพบนางและหลินเหิงอี้

            “ข้าน้อยเป็นพ่อบ้านจวนใต้เท้ากัว นำจดหมายและเทียบเชิญมามอบให้คุณหนูหลินอวี้เจินขอรับ”

            “เทียบเชิญ?”  หลินอวี้เจินหันไปมองหน้าหลินเหิงอี้  เห็นท่านลุงใหญ่พยักหน้ารับแล้วนางจึงยื่นมือไปรับ

            “จดหมายจากคุณชายน้อยกัวอี้เซียวขอรับ”

 พ่อบ้านกล่าวอย่างสุภาพ

“บ่าวต้องรอรับคำตอบจากคุณหนูหลินกลับไปด้วย”

            หญิงสาวรับจดหมายมาแล้วคลี่อ่านทันที แม้จิตใจขุ่นมัวแต่เห็นลายมือไร้ระเบียบนี่แล้ว นางกลับเผลอยิ้มออกมา เนื้อความในจดหมายบอกเล่าเพียงสั้นๆ ว่าคิดถึงนาง อยากพบนางและอวดรูปวาดของเขาให้นางดู

            “เจินเอ๋อร์”  หลินเหิงอี้เรียกหลานสาวเบาๆ  นางเงยหน้าแล้วส่งยิ้มให้

            “คุณชายกัวอี้เซียวเพียงแค่อยากอวดรูปวาดของเขากับข้า”  เพียงแค่คิดถึงท่าทางไร้เดียงสาของเขาแล้ว ดวงตานางก็เป็นประกาย น่าเสียดายที่เขาหยุดความคิดไว้ที่เด็กเจ็ดขวบทั้งตอนนี้อายุสิบสี่ปีแล้ว นางเป็นบุตรสาวคนเดียวจึงรู้สึกเอ็นดูกัวอี้เซียวมากนัก

“ถ้าท่านลุงไม่ว่าอะไร หลานขอไปพบคุณชายกัวอี้เซียวได้ไหมเจ้าคะ”

            ขยับปากอยากห้ามปราม แต่คิดว่าหลานสาวคงไม่ยินดีแน่ กัวอี้เซียวเป็นเด็กหนุ่มน่าสงสาร  เรื่องนี้คนในเมืองตันหยางรู้ดี  หากเขาปฏิเสธเพียงเพราะไม่ต้องการให้หลานสาวยุ่งกับคนชั้นสูงก็เกรงว่าจะทำให้หลานเสียใจ เพราะดูท่าทางแล้วหลินอวี้เจินมีจิตใจบริสุทธิ์ไม่ได้คิดเป็นอื่นกับคุณชายกัวอี้เซียว

            “ตามใจหลานเถิด”

            หญิงสาวยิ้มกว้างแต่นึกได้ว่ามีผู้อื่นอยู่ ไม่ใช่คนในครอบครัวนางก็สำรวมกิริยามากขึ้นแล้วหันไปทางพ่อบ้านจวนใต้เท้ากัว

            “ได้ ข้าจะไปพบคุณชายกัวอี้เซี้ยว ”

            “คุณชายน้อยได้ยินต้องดีใจเป็นแน่ เช่นนั้นพรุ่งนี้บ่าวจะให้คนนำรถม้ามารับแม่นางหลินขอรับ”

            “ไม่ต้อง ข้าไปเองได้”   คนอื่นจะมองนางอย่างไร มีรถม้าของใต้เท้ากัวมารับสตรีที่ยังไม่ออกเรือนถึงบ้านเล่า

            “แต่ว่า...”

            “ไม่มีแต่ เช่นนั้นข้าจะไม่ไป”

            “ขอรับ บ่าวจะนำความนี้ไปรายงานนายท่าน บ่าวขอตัวกลับก่อน”

            “ส่งแขก”  หลินเหิงอี้บอกกับพ่อบ้านของตน  เขาเหลือบตามองทางหลานสาว ไม่คิดว่านางจะกล้าขัดใจคำสั่งของใต้เท้ากัว

            “วางใจเถิดเจ้าค่ะ ไม่มีเรื่องอันใดให้ท่านลุงต้องกังวล ข้าแค่ไปพบเด็กซุกซนคนหนึ่งเท่านั้น”

            หลินอวี้เจินคลี่ยิ้มอ่อนหวานพลันคิดถึงคนที่ทำให้นางต้องเจ็บปาก  หรือนี้จะเป็นแผนการที่เขาต้องการคำตอบเรื่องไข่มุกน้ำตาจันทรา

ดีล่ะ

พรุ่งนี้นางจะขอดูผลงานของตนเองเสียหน่อยว่า  รอยฟันของนางงดงามบนใบหูของเขาหรือไม่!

            หลินเหิงอี้กวาดสายตามองหลานสาวที่แต่งกายเรียบง่าย  แม้จะไม่มีความรู้เรื่องเสื้อผ้าอาภรณ์นักแต่เท่าที่เห็นนางช่างเลือกได้เรียบง่ายจนน่าประหลาดใจ หากเทียบกับบรรดาเด็กสาววัยเดียวกันในเมืองนี้หรือแม้กระทั้งลูกๆ ของหลินยี่จื่อน้องชายคนรองของเขา  แต่ละคนล้วนเลือกเสื้อผ้าอาภรณ์หรูหรา แต่เขามักเห็นหลินอวี้เจินเลือกเสื้อผ้าที่เรียบร้อยแต่เนื้อผ้าอย่างดีและตัดเย็บประณีต

เช่นเดียวกับวันนี้ที่นางสวม ชุดสีเขียวราวใบไม้แรกผลิสัมผัสแสงแดด เส้นผมยาวสลวยประดับด้วยปิ่นหยกรูปผีเสื้อ ขับเน้นให้ร่างเล็กๆ น่าทะนุถนอม  นางมีดวงตางดงามเช่นเดียวกับมารดาที่ตายจากไปแล้ว  จึงไม่น่าแปลกใจนักที่หลินยี่ห้านบิดาของหลานสาวคนนี้จะรักและตามใจบุตรสาวมาก  มากเสียจนไม่คิดแต่งภรรยาใหม่ ผิดกับเขาที่มีเหตุผลมากกว่าที่หลายคนเข้าใจ

            เพราะหวังสร้างฐานะให้มั่นคง เขาเดินทางรอนแรมแต่ละครั้งนานสามถึงสี่เดือนจึงจะกลับบ้านสักครั้ง แม้แต่งภรรยามานาน แต่น้องชายคนรองที่ดูแลกิจการร้านค้ากลับมีบุตรชายบุตรสาวก่อนเขาเสียอีก  กว่าเขาจะทำให้ภรรยาตั้งครรภ์ได้ ก็ตั้งครรภ์ไล่เลี่ยกับภรรยาของน้องชายคนเล็กพอดี

ด้วยความตั้งใจว่าจะอยู่บ้านดูแลภรรยาในช่วงที่นางคลอดลูก เขาโหมงานอย่างหนักเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเดินทางไปไหนอีก ทว่ากลับทำให้เขายิ่งไม่มีเวลาใกล้ชิดภรรยา  วันที่เขากลับมาถึงบ้าน นางประสบอุบัติตกน้ำ เขาไม่รู้ว่าทำไมนางถึงตกน้ำได้ แม้บ่าวไพร่ช่วยนางขึ้นจากน้ำได้แต่สุขภาพนางไม่แข็งแรง นางตกเลือดและจากไปพร้อมลูกในครรภ์

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status