แชร์

บทที่ 8

ผู้เขียน: อู๋ซิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2023-11-21 11:48:08
ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง น้องชายของสวีอู่ก็ตายซึ่งมันทำให้เขารู้สึกโกรธแค้น ข่าวแพร่สะพัดไปทั่วทั้งเมืองเซี่ยชวนรวมไปถึงมณฑลทั้งสาม!

โลกใต้ดินแห่งมณฑลทั้งสามราวกับเกิดแผ่นดินไหวไปชั่วขณะ!

กองกำลังชุดเทาที่ได้ระดมพลเอาไว้เกือบหมดแล้วมุ่งหน้าสู่เมืองเซี่ยชวน!

ยามดึกดื่นเที่ยงคืน

ณ บ้านของหัวหน้าทีมหลิวประจำหน่วยลาดตระเวนเมืองเซี่ยชวน

กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง!

เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องปลุกให้เขาตื่นจากหลับใหล หัวหน้าทีมหลิวรับสายอย่างหมดความอดทน "มีเรื่องอะไร!"

"หัวหน้าทีมหลิว... เกิดเรื่องแล้วครับ! ผมไม่รู้ว่าใครมันตาไร้แววฆ่าน้องชายของสวีอู่ตาย! ผมได้ยินมาว่าตายอนาถเชียวล่ะ แถมยังได้ยินเสียงแผดร้องดังไปทั่วทั้งย่านอีกต่างหาก!"

ศีรษะของหัวหน้าทีมหลิวส่งเสียงอื้ออึง!

เขาหายง่วงเป็นปลิดทิ้งขึ้นมาทันที!

เขากระโดดผลุงจากเตียงลงสู่พื้นทันที จากนั้นก็ดวงตาเบิกกว้างแล้วถามว่า "เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ใครมันเป็นคนทำ! รนหาที่ตายแล้วใช่ไหม?"

"ผมก็ไม่รู้หรอกครับ! ในมณฑลทั้งสามยังจะมีใครกล้าแตะต้องน้องชายของเขาอีก ผมล่ะสงสัยจริง ๆ เชียว!"

"ใครมันจะไม่รู้บ้างว่าสมัยก่อนต้าหู่ผู้เป็นน้องชายได้ช่วยชีวิตของสวีอู่เอาไว้หลายครั้งหลายครา? สายสัมพันธ์ระหว่างสองพี่น้องแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าทองคำ การแตะต้องต้าหู่ก็เท่ากับแตะต้องสุสานบรรพชนของสวีอู่! วันนี้ถึงกับมีคนกล้าแตะต้องขึ้นมาจริง ๆ!"

"คนผู้นี้ไม่กลัวตาย มิหนำซ้ำยังอยากก่อปัญหาให้กับพวกเราด้วย! ผมได้ยินมาว่าสวีอู่ถึงกับเรียกให้สี่ราชันย์สวรรค์กลับมาด้วยล่ะ!"

"อะไรนะ!"

หัวหน้าทีมหลิวรู้สึกตื่นตกใจมากเสียจนรีบเอ่ยขึ้นมาว่า "คุณรีบไปเรียกทุกคนเดี๋ยวนี้เลย! ผมอยากจัดประชุมฉุกเฉิน! เดี๋ยวนี้เลย!"

"ครับ!"

หลังจากวางสายแล้ว หัวหน้าทีมหลิวก็นั่งลงบนเตียง แผ่นหลังชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อเย็น ๆ...

ภรรยาร่วมเรียงเคียงหมอนลืมตาขึ้นมองเขาที่เป็นแบบนี้ จากนั้นเธอก็เอ่ยถามเสียงเบาว่า "เฒ่าหลิว คุณเป็นอะไรหรือเปล่า? มีคดีใหญ่งั้นเหรอ?"

หัวหน้าทีมหลิวพูดเสียงสั่น "ใหญ่สิ! ออกจะใหญ่เกินไปด้วยซ้ำ!"

ภรรยากลอกตาด้วยความไม่พอใจ "จะใหญ่สักแค่ไหนกันเชียว? ถึงขนาดฟ้าถล่มเลยไหมเล่า?"

"น่ากลัวยิ่งกว่าฟ้าถล่มเสียอีก... น้องชายของสวีอู่ตายแล้วน่ะสิ!"

"อะไรนะ?!" ภรรยาลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจ

ในตอนนั้นเอง

ณ ห้องชั้นบนสุดของสตาร์ ไนท์คลับ

ชายผู้มีชื่อเสียงแห่งเมืองเซี่ยชวนที่มีสมญานามว่าบอสโหวกำลังผลัดกันดื่มกับสาว ๆ อยู่ในห้องด้วยความสำราญใจ เขามีความสุขมากทีเดียว!

ยามที่อารมณ์พุ่งทะยานสูงขึ้น ชายหนุ่มที่อยู่นอกประตูก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าหม่นคล้ำ "บอสครับ เกิดเรื่องแล้ว... น้องชายของสวีอู่ตายแล้วครับ..."

บอสโหวรู้สึกตื่นตระหนกเสียจนผลักหญิงสาวข้างกายออกไป "แกว่ายังไงนะ? ต้าหู่ตายแล้วงั้นเหรอ?"

"มันตายแล้วกลายเป็นก้อนเนื้อเละ ๆ จากนั้นก็ถูกส่งมาไว้หน้าบ้านของสวีอู่..."

บอสโหวพลันหัวเราะขึ้นมาทันที "ตายซะได้ก็ดี! พับผ่าสิ! สวีอู่ทั้งโอหังบังอาจและไม่เห็นกฎหมายอยู่ในสายตา! นับว่ากรรมตามสนองแล้ว!"

แต่ชายหนุ่มกลับเอ่ยเสียงแผ่วเบาอย่างไม่ยินดีว่า "บอสครับ เมื่อสามปีก่อนคุณกับสวีอู่แย่งชิงเขตแดนกัน มันตัดนิ้วของคุณไปสองนิ้วและคุณก็แทงมันไปหนึ่งแผล ตอนนี้สวีอู่คิดหาทางแก้แค้น พวกเราเคยมีเรื่องกับมันมาก่อน ควรจะระวังสักหน่อยหรือเปล่า?"

คำพูดประโยคนี้เตือนให้บอสโหวนึกขึ้นมาได้...

สีหน้าของเขาหม่นคล้ำเพราะรู้ดีแก่ใจว่าตนเองย่อมไม่ใช่คู่มือของสวีอู่! ตอนนี้สวีอู่กำลังหมกมุ่นอยู่กับการแก้แค้น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ อีกฝ่ายนับเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของเขาเลยก็ว่าได้!

"ไปกันเถอะ! หนีออกนอกประเทศกันเดี๋ยวนี้เลย! จองเที่ยวบินให้ฉันด้วยล่ะ!"

"ให้ตายสิวะ! ไอ้โง่นั่นทำแบบนี้อีกแล้ว! ฉันต้องหนีไปซ่อนตัวก่อน!"

บอสโหวสวมเสื้อผ้าแล้วเดินสบถออกไป...

เมื่อผู้จัดการที่อยู่ตรงประตูเห็นอีกฝ่ายรีบออกมาจากห้อง เขาก็รีบถามพร้อมยิ้มให้ว่า "บอสโหว คุณมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ล่ะ? น้อง ๆ บริการไม่ดีเหรอครับ? ถ้าไม่ชอบใจล่ะก็ เดี๋ยวผมจะไปเปลี่ยนชุดใหม่มาให้คุณเดี๋ยวนี้แหละ..."

บอสโหวมองเขาด้วยสายตาเย็นชา "แกจะไปทำไม? พอดีเกิดแผ่นดินไหวขึ้นในเมืองเซี่ยชวน! ฉันจะหนีไปซ่อนตัวก่อน!"

ถนนปาจิ่ว ณ เมืองหนึ่งทางทิศตะวันออกของเซี่ยชวน

ตอนนี้มีเสียงร้องตะโกนเข่นฆ่าดังขึ้นบนถนนไม่หยุดหย่อน! การต่อสู้อันแสนดุเดือดได้อุบัติขึ้นแล้ว!

ทั้งสองฝ่ายต่างใช้ดาบเข้าห้ำหั่น! ช่างเป็นภาพที่ชวนสะพรึงนัก!

ในยามนี้เอง คนร่างสูงใหญ่ก็ต่อสู้แหวกฝูงชนออกมา! คนผู้นี้มีแผ่นหลังที่แสนแข็งแกร่ง! มีดใหญ่ทั้งสองเล่มที่ถือเอาไว้เต็มไปด้วยเลือด! ราวกับปีศาจมารร้ายที่มาสู่ผืนพิภพ!

คนผู้นี้เป็นหนึ่งในสี่ราชันย์สวรรค์ที่อยู่ภายใต้สำนักของสวีอู่ เฮยหลางราชันย์สวรรค์แห่งบูรพาทิศ!

ทันทีที่เขาปรากฏตัวขึ้น อีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะสูญเสียพลังกดดันไปทันที จากนั้นแววตาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว!

"ฮะ...เฮยหลางมาแล้ว! หนีเร็ว! หนีเร็วเข้า!"

แค่เฮยหลางยืนอยู่ตรงนั้นก็ทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวแล้ว...

ไม่นานเหล่าศัตรูก็หายไปราวกับสายน้ำ เฮยหลางมองพวกเขาหนีไป แววตาคลุ้มคลั่งของเขาแปรเปลี่ยนเป็นไม่ไยดี...

กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง!

ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือก็พลันดังขึ้นมา เฮยหลางหยิบขึ้นมาแล้วเห็นว่าเป็นสายจากขวางเสอ

พวกเขาคือสี่ราชันย์สวรรค์ที่คอยคุ้มครองสวีอู่และแผ่ขยายอาณาเขตออกไปทั้งสี่ทิศ พวกเขาไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว เมื่อพวกเขาได้รับสายจากขวางเสอ เฮยหลางก็ยกยิ้มมุมปากแล้วรีบรับสายทันที "ขวางเสอ! ไม่เจอกันตั้งนานเลยนะ! "

"เฮยหลาง รีบกลับมาที่เซี่ยชวนเร็วเข้า! เกิดเรื่องแล้ว!" ขวางเสอเอ่ยเสียงแผ่วเบา

เฮยหลางตื่นตกใจ "มีเรื่องอะไรงั้นรึ? เกิดเรื่องขึ้นกับนายท่านอู่เหรอ?"

"น้องชายของนายท่านอู่ตายแล้วน่ะสิ! นายท่านอู่เลยพาลคลุ้มคลั่งใหญ่เลย!"

"ไอ้พวกรนหาที่ตาย!!"

เฮยหลางร้องตะโกนอย่างโกรธจัด! พลังชั่วร้ายทั่วร่างพลันปะทุขึ้นมาทันที "ใครมันบังอาจแตะต้องน้องชายของนายท่านอู่! ฉันจะสับมันให้เป็นชิ้น ๆ เลย!"

"นอกจากนั้น นายท่านอู่ก็สั่งให้พวกเรากลับมาให้หมด ราชันย์ทิศประจิมกับราชันย์ทิศอุดรรีบกลับไปแล้ว ฉันเลยต้องโทรมาบอกนายให้วางทุกอย่างที่กำลังทำอยู่แล้วกลับเมืองเซี่ยชวนทันทียังไงล่ะ!"

"ฉันคิดว่าคราวนี้เมืองเซี่ยชวนคงจะเกิดการเปลี่ยนขั้วอำนาจหมดหน้ากระดานเลยล่ะ!"

บทที่เกี่ยวข้อง

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 9

    ในขณะเดียวกัน ณ ตระกูลเซี่ย เมื่อเซี่ยอิ่งกลับมาถึงบ้าน เซี่ยเทาพ่อของเธอก็รีบเข้าไปต้อนรับแล้วถามพร้อมยิ้มให้ว่า "เป็นยังไงบ้างลูกรักของพ่อ? นายท่านอู่ตอบรับโครงการของพวกเราหรือเปล่า?" เซี่ยอิ่งยิ้มด้วยความทะนงตน "แหงอยู่แล้วค่ะ! ลูกสาวพ่อเป็นใครกันเล่า? พวกเราต้องเจรจากันได้อยู่แล้ว! นอกเหนือไปจากนั้นไม่ใช่แค่โครงการนี้เท่านั้น แต่ภายภาคหน้าทุกโครงการที่อยู่ในมือของนายท่านอู่ก็อาจจะมอบให้พวกเราด้วย!" เมื่อเซี่ยเทาได้ยินเช่นนี้ก็ตกตะลึง ดวงตาของเขาฉายแววตื่นเต้นแล้วรีบดึงแขนลูกสาวของตัวเอง "เข้ามาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้คุณย่าของลูกฟังสิ!" ในห้องหนังสือบนชั้นสอง หญิงชราผมขาวที่แลดูมีอายุราว ๆ เจ็ดสิบกว่าปีกำลังนั่งเก้าอี้โยกพลางถือหนังสือพิมพ์แล้วค่อย ๆ อ่าน คนผู้นี้คือนายหญิงผู้เฒ่าแห่งตระกูลเซี่ย คุณย่าของเซี่ยอิ่ง เมื่อประตูเปิดออก เซี่ยเทาก็เดินเข้ามาพร้อมกับเซี่ยอิ่ง "แม่ครับ! มีเรื่องดีเกิดขึ้นด้วยล่ะ!" นายหญิงผู้เฒ่าวางหนังสือพิมพ์แล้วถอดแว่นอ่านหนังสือ จากนั้นก็มองเซี่ยอิ่งที่กำลังเดินเข้ามาด้วยสีหน้าอิ่มอกอิ่มใจแล้วรีบเอ่ยถามขึ้นมาว่า "มีอะไรงั้นเหรอ?" เซี่ยอิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-21
  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 10

    คิ้วตาของเซี่ยอิ่งเต็มไปด้วยแววเบิกบานใจ จากนั้นเธอก็จูงโต้วโต่วออกไป แต่ขณะที่เซี่ยอิ่งกำลังจะพาเธอไป ประตูก็พลันถูกผลักให้เปิดออก! ในตอนนั้นเอง! เซี่ยอิ่งใจเต้นโลด! เส้นประสาทเองก็เครียดเขม็งเช่นกัน! เธอนึกว่าหลี่ชิงเฟิงมาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นชายอีกคนหนึ่งแทน ชายร่างสูงชะลูดคนนี้สวมชุดเครื่องแบบทหาร! เขามีท่าทางไม่ธรรมดาสามัญเลยสักนิด! เป็นนายพลอาวุโสหม่าคุนนั่นเอง! วันนี้เขาได้ยินมาว่าลูกสาวของจอมอสูรกำลังพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ดังนั้นเขาจึงนำอาหารเสริมมาด้วย เดิมทีเขาคิดจะเอามามอบให้แก่หลี่ชิงเฟิง แต่กลับพบเซี่ยอิ่งเข้าโดยบังเอิญแทนเสียได้ เมื่อเห็นว่าเธอเป็นคนพาโต้วโต่วออกมา เขาก็ตื่นตัวขึ้นมาทันที "คุณเป็นใครกัน? คุณไม่ใช่แม่ของเด็กคนนี้นี่นา!" เขาไม่รู้จักเซี่ยอิ่ง แต่เซี่ยอิ่งรู้จักเขา! นี่คือคนใหญ่คนโตที่มักจะปรากฎตัวในโทรทัศน์อยู่เป็นประจำ! เซี่ยอิ่งแข้งขาไร้เรี่ยวแรงและปากคอแห้งผาก จู่ ๆ เธอก็นึกขึ้นได้ว่านายท่านอู่เคยบอกว่านายพลอาวุโสมารักษาอาการเจ็บป่วยของตนเองที่โรงพยาบาล หรือว่าจะเป็นหม่าคุน? ! นี่คือมหาเทพองค์หนึ่ง! อย่าว่าแต่ได้พูดคุยด้วยเลย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-21
  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 11

    ในขณะเดียวกัน ประตูคฤหาสน์ก็เปิดออกโดยมีสวีอู่ยืนอยู่ตรงประตูด้วยสีหน้าหม่นคล้ำ ดวงตากลัดเลือดและมีแววอาฆาตแค้น! แต่กลับให้ความรู้สึกซูบซีดอิดโรยมากกว่า... สี่ราชันย์สวรรค์ยืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว เมื่อเห็นพี่ใหญ่ของพวกเขาเป็นเช่นนี้ ก็ทำให้โทสะในใจของทั้งสี่คนเริ่มที่จะค่อย ๆ ปะทุขึ้นมา... ขวางเสออดไม่ได้ที่จะถามว่า "นายท่านอู่! ไอ้หมอนั่นมันมาจากที่ไหนกัน!" สวีอู่ยังคงมีสีหน้าหม่นคล้ำและน้ำเสียงแหบแห้งอยู่บ้าง "อย่าห่วงไปเลย พวกเรามากันครบแล้วใช่ไหม? เข้ามาสิ ฉันอยากให้พวกนายรู้อะไรบางอย่าง!" หลังจากสวีอู่พูดจบก็หันหลังเดินกลับไป สี่ราชันย์สวรรค์พร้อมบรรดาพี่น้องของพวกเขาจึงเดินตามเข้าไปในบ้านด้วย มีบรรยากาศชวนให้อึดอัดจนถึงขีดสุดในคฤหาสน์ขนาดใหญ่! ทุกคนต่างรู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลย พวกเขาติดตามสวีอู่มาหลายปี ยังมีเหตุการณ์อะไรที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนบ้างล่ะ? แต่ก็ไม่เคยเห็นสวีอู่เป็นแบบนี้มาก่อน! เขาโกรธจัด! เมื่อสวีอู่มาถึงห้องโถงแล้ว เขาก็หันกลับมานั่งเก้าอี้พลางค่อย ๆ หลับตาลงแล้วสูดหายใจลึก ๆ จากนั้นก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "เฮยหลาง พาตัวมันมาทีสิ" "รับทรา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-21
  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 12

    หลังจากสวีอู่กล่าวคำพูดอาจหาญมาจนถึงตรงนี้ เขาพบว่าอีกฝ่ายกลับไม่ตอบอะไรเลยสักคำจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา "ทำไมเล่า แกกลัวหรือไง?" "เศษสวะเอ๊ย! งั้นก็รอเก็บศพลูกสาวของแกได้เลย!" คราวนี้มีเสียงดังขึ้นมาจากทางนั้นบ้าง "ไม่จำเป็นต้องก่อนรุ่งสางหรอก ฉันทนรอนานขนาดนั้นไม่ไหว!" "ฉันจะปรากฎตัวภายในหนึ่งชั่วโมง" เสียงนี้ราวกับดังขึ้นมาจากขุมนรกชั่วกัลป์ผสานกับหิมะเดือนเก้าที่ชวนให้หนาวไปถึงกระดูกสันหลัง! เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าไม่มีคำพูดข่มขู่สักคำ แต่กลับทำให้เขาตื่นตะลึงไปหลายวินาที! สวีอู่กลับโมโหจัดแล้วพูดจากระโชกโฮกฮากขึ้นมาว่า "ได้! ฉันหวังว่าตอนที่แกเจอฉันจะยังกล้าพูดแบบนี้อยู่ก็แล้วกัน! ฉันจะฆ่าแกให้ตายในชั่วโมงเดียว!" เปรี้ยง! ! ! ฟ้าผ่าบนฟากฟ้าและนภามืดมิดราวกับจุดสิ้นสุดของโลกกำลังจะมาเยือน! ภายในโรงแรมหอแปดเซียน บรรยากาศชวนอึดอัดยิ่งนัก จากนั้นหลี่ชิงเฟิงก็ยืนอยู่ตรงหน้าของหน้าต่างบานหนึ่ง โทรศัพท์ในมือแหลกละเอียดทันที! เมฆฝนในฟากฟ้าไกลสุดลูกหูลูกตาราวกับว่าจะรุนแรงมากยิ่งขึ้น! สายลมที่จู่ ๆ ก็รุนแรงขึ้นมาทำให้สายฝนนอกหน้าต่างส่งเสียงดังกรอบแกรบ! ในยามนี้ชั้นล่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-21
  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 13

    ในขณะนั้นเอง ณ คฤหาสน์ชิงสุ่ย คฤหาสน์ชิงสุ่ยปลูกสร้างอยู่บนหุบเขา มันเป็นบ้านพักตากอากาศที่สวีอู่เปิดสู่โลกภายนอกเพื่อต้อนรับแขกผู้มาเยือนสัปดาห์ละครั้ง แต่ยามที่จำเป็นก็จะเป็นพระราชวังฤดูร้อนของสวีอู่ด้วย ฝนฟ้าชักจะเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ และเมฆดำทะมึนในเมืองก็คล้อยต่ำลงมาทุกที ๆ ตอนนี้คฤหาสน์ชิงสุ่ยได้ถูกปิดตายและหยุดการติดต่อกับโลกภายนอก สวีอู่ที่มาถึงที่นี่พร้อมเหล่าพี่น้องทั้งหลายที่กำลังรอคอยให้หลี่ชิงเฟิงมาถึง ในตอนนี้เอง ชายหนุ่มที่อยู่ข้างนอกก็วิ่งเข้ามาในห้องแล้วบอกว่า "นายท่านอู่! มีข่าวจากข้างนอกว่าไอ้เด็กหลี่ชิงเฟิงเองก็ระดมกำลังพลด้วยครับ" เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนี้ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่หัวเราะออกมา! เฮยหลางยิ้มเย็นชา "ให้ตายสิวะ! ไอ้เด็กนี่มันไม่กลัวตายจริง ๆ! มันคิดจะหาคนมาช่วยงั้นรึ? ฉันก็อยากจะรู้นักว่าเมื่อกวาดสายตามองไปทั่วมณฑลทั้งสาม จะมีใครกล้าช่วยมันบ้าง!" "ใครมันจะไปมีคนเยอะกว่านายท่านอู่ของพวกเราอีกเล่า? ฉันคิดว่าไอ้เด็กนี่มันโง่เง่าสิ้นดี!" "ในมณฑลทั้งสามแห่งนี้มีใครบ้างที่ไม่รู้ว่านายท่านอู่คือจอมราชันย์!" เมื่อสวีอู่ได้ยินเช่นนี้ แววตาก็ฉายประกา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-21
  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 14

    เมฆฝนในท้องฟ้าอันห่างไกลที่รวมตัวกันก่อตัวเป็นพายุหมุนไปทั่วเมืองเซี่ยชวน! ราวกับว่ากำลังจะมีพายุลูกใหญ่มาเยือน... รถยนต์สีดำสนิทสองคันเร่งความเร็วไปตามท้องถนน จนในที่สุดก็มาหยุดนิ่งอยู่ตรงที่เปิดโล่งห่างจากคฤหาสน์ชิงสุ่ยไม่กี่ร้อยเมตร ประตูรถเปิดออกแล้วหลี่ชิงเฟิงก็ค่อย ๆ ลงจากรถ เย่เซียวที่อยู่ข้างหลังกำลังถือร่มคันสีดำคอยคุ้มศีรษะให้หลี่ชิงเฟิง... หลี่ชิงเฟิงไม่พูดอะไรสักคำ เขากำลังมองดูคฤหาสน์หลังใหญ่ในหุบเขาที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก ตอนนี้เย่เซียวค่อย ๆ เดินเข้ามาหาเขา "จอมอสูร ยอดฝีมือของอสูรรัตติกาลมารวมตัวกันและกำลังรอคำสั่งของพี่อยู่นะ" หลี่ชิงเฟิงพยักหน้าโดยไม่เอ่ยสิ่งใด จากนั้นหันกลับไปขึ้นรถแล้วมองเซี่ยเซียนอินที่ยังคงหลับใหลอยู่ข้าง ๆ ตัวเขา แม้จะหลับอยู่ ทว่าเซี่ยเซียนอินก็ยังมีหยดน้ำตาที่ใสราวกับผลึกแก้วแขวนค้างอยู่ตรงหางตา ชวนให้ดูน่าสงสาร... หลี่ชิงเฟิงยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้เธอแล้วเอ่ยเสียงเบาขึ้นมาว่า "เซียนอิน พอขึ้นฟื้นตื่นขึ้นมา โต้วโต่วก็จะกลับมาหาคุณโดยไร้ซึ่งรอยขีดข่วนและไอ้พวกที่รังแกคุณก็จะหายไปจากโลกใบนี้" "ผมให้สัญญา" หลังจากหลี่ชิงเฟิงพูดจบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-21
  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 15

    ณ ลานกว้างของคฤหาสน์ชิงสุ่ย มีคนกลุ่มใหญ่ยืนอยู่ตรงนั้น! สวีอู่กับสี่ราชันย์สวรรค์กำลังนั่งดื่มชาพลางมองดูนาฬิกาอยู่ในห้อง... เฮยหลางที่รอจนชักจะเริ่มหมดความอดทนถึงกับเอ่ยขึ้นมาว่า "ให้ตายเถอะ! คงไม่ใช่ว่าไอ้เศษสวะนั่นไม่มาหรอกนะ? ฉันอยากจะรู้นักว่ามันจะหาใครมาช่วย!" ในตอนนี้เอง ชายคนหนึ่งที่อยู่ตรงประตูด้านนอกก็วิ่งพรวดเข้ามา "นายท่านอู่! คนมาแล้วครับ!" สวีอู่ลุกขึ้นทันทีพลางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "มีคนมากันเท่าไรล่ะ?" "สะ...สี่..." ชายหนุ่มกล่าว สวีอู่กับสี่ราชันย์สวรรค์มองหน้ากันแล้วหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังพร้อมกัน! "สี่คน! ฉันบอกแล้วยังไงล่ะว่าในมณฑลทั้งสามไม่มีใครกล้าช่วยมันหรอก! ฮ่าฮ่า!" "สี่คนนี้มารนหาที่ตายถึงที่นี่เลยเชียวรึ?" สวีอู่โบกมือแล้วยิ้มพลางกล่าวว่า "จับตัวนังเด็กไม่มีพ่อคนนั้นไปขังเอาไว้ซะ! ออกไปดูไอ้ขี้แพ้สี่คนนี้กันเถอะ!" เมื่อสวีอู่เดินออกจากประตู เขาก็มาอยู่ตรงหน้าลานกว้างของคฤหาสน์ชิงสุ่ย ลานกว้างมีขนาดใหญ่โตจนสามารถบรรจุผู้คนได้นับหมื่นคน! ตอนนี้ลานกว้างเต็มไปด้วยผู้คนจนดำมืดไปหมด! กินเนื้อที่ส่วนใหญ่ของลานกว้างเข้าไปแล้ว! ขวางเสอเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-21
  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 16

    เปรี้ยง——! ! ! เมฆฝนขนาดมหึมาก่อตัวอยู่บนท้องฟ้า! ในที่สุดระเบิดพลังอันแกร่งกล้าของเขาออกมา! บังเกิดสายฟ้าฟาดขึ้นมาทันที! ทันใดนั้นทั่วทั้งคฤหาสน์ชิงสุ่ยก็สว่างราวกับยามกลางวัน! ทุกคนต่างเห็นว่าสายฟ้าที่ผ่าฟาดลงมานี้แหวกท้องนภาออกจากกัน! ทำให้เมฆฝนดำทะมึนแยกออกเป็นสองส่วน! ระหว่างเมฆฝนทั้งสองส่วน! มีลำแสงสายหนึ่งสาดส่องลงมา! สวีอู่หรี่ตามองก็เห็นเงาดำที่ราวกับดาวตกพากันหลั่งไหลเข้ามา! ตู้ม! ปัง ปัง! ! ตู้ม! ! ! เงาดำพวกนี้ต่างพุ่งตัวมาอยู่ข้างหลังหลี่ชิงเฟิงและพื้นก็พลันยุบลงทันที! มีเพียงแค่สวีอู่ที่เห็นได้ชัดเจนว่าเงาดำทุกสายล้วนแล้วแต่เป็นคนผู้หนึ่ง! ระ...เรื่องแบบนี้ไม่มีทางเป็นไปได้หรอกน่า! ในเวลาเพียงชั่วไม่กี่อึดใจ! ก็มีคนเกือบพันคนอยู่ข้างหลังหลี่ชิงเฟิง! "หน่วยรบสี่จอมอสูรรายงานตัว! ใครมันกล้าอวดดี!" "หน่วยรบแปดพญามัจจุราชมาช่วยล่าช้าเกินไป! ได้โปรดยกโทษให้ด้วยครับ!" "หน่วยรบสิบหกอาชาโลหิต! ผมได้รับคำสั่งให้มาเข่นฆ่าเจ้าพวกโจรชั่ว! โปรดบัญชามาได้เลย!" "หน่วยรบสามสิบหกปรมาจารย์วิญญาณรายงานตัว! โปรดบัญชามาได้เลย!" ในยามนี้ สีหน้าสวีอู่ที่ก่อนหน้านี้ยั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-21

บทล่าสุด

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 286

    "พ่อไม่ไปนะ!" จู่ ๆ เซี่ยเทาก็แผดเสียงร้องพลางกระโดดข้ามโซฟาแล้ววิ่งไปที่ประตูหลัง! เจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายตอบสนองว่องไว! เพียงก้าวเดียวก็ประชิดตัวพลางจับเขากดลงกับพื้นแล้วบังคับสวมกุญแจมือ สิบนาทีต่อมา ภายในห้องสอบสวน เสี่ยวอิ๋งนั่งหน้าเครียดอยู่ตรงนั้นพร้อมด้วยความคิดมากมาย ตำรวจที่อยู่ฝั่งตรงข้ามดูวิดีโอแล้วถามว่า "เท่าที่พวกเราทราบมา คนที่อยู่ในวิดีโอคือเซี่ยเทาพ่อของคุณ ตอนนี้เขาอยู่ห้องข้าง ๆ คุณจะอธิบายสิ่งที่เขาพูดว่ายังไงล่ะ?" เสี่ยวอิ๋งสูดลมหายใจลึก ๆ พลางผุดรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า "ฉันไม่รู้หรอกค่ะ ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไร ทำไมคุณถึงไม่ถามเขาเองล่ะคะ?" "แน่นอนว่าพวกเราย่อมต้องถามเขาอยู่แล้ว แต่คุณเป็นลูกสาวของเขา คุณจะไม่รู้เรื่องนี้เลยเชียวเหรอ?" เซี่ยอิ่งลูบคางพลางครุ่นคิดอย่างรอบคอบแล้วจู่ ๆ ก็พูดขึ้นมาว่า "จริงด้วยสิ! ดูเหมือนเขาจะเคยบอกว่าทำความผิดร้ายแรงบางอย่างแล้วอยากจะหนีไป! ฉันถามเขาว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ แต่เขาก็ไม่ยอมบอกอะไรเลยแถมยังบอกว่ายิ่งฉันรู้ให้น้อยเท่าไรก็ยิ่งดี! วันหน้าให้ฉันดูแลตัวเองให้ดี ๆ..." "พูดต่อไปสิ" "จากนั้น

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 285

    "จะวิธีอะไร ฉันก็อยากลองดูทั้งนั้น!" เสี่ยวอิ๋งเอ่ยโดยไม่ลังเล "ขอเพียงคุณช่วยให้ฉันไม่ต้องติดคุก! วิธีไหนฉันก็อยากจะลองดู!" เย่เจี้ยนเหอเงยหน้ามองเธอแล้วพูดเสียงเย็นชาว่า "โยนความผิดเรื่องทั้งหมดนี้ให้พ่อของเธอแบกรับไว้!" เมื่อเสี่ยวอิ๋งได้ยินเช่นนี้ ศีรษะของเธอก็ส่งเสียงอื้ออึง! ตอนแรกสังเวยคุณย่าไปแล้ว ตอนนี้ถึงทีพ่อของเธอแล้วงั้นเหรอ? เย่เจี้ยนเหอจ้องมองเธอ "ไม่มีเวลาคิดแล้ว จะตกลงหรือจะติดคุก!" "ฉันตกลง! ฉันตกลงค่ะ! ขอเพียงคุณช่วยให้ฉันไม่ต้องติดคุก คุณอยากให้ฉันทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น!" เสี่ยว อิ๋งผงกศีรษะซ้ำไปซ้ำมา เย่เจี้ยนเหอจึงพยักหน้าแล้วพูดว่า "เดี๋ยวฉันจะเรียกทนายเข้ามา พวกเขาจะบอกเธอว่าต้องพูดหรือทำอะไร จากนั้นเธอก็แค่รอให้ตำรวจเรียกตัว" เสี่ยวอิ๋งผงกศีรษะ "ฉะ...ฉันเข้าใจแล้วค่ะ" พอกลับมาถึงบ้าน เสี่ยวอิ๋งก็เจอพ่อของเธอ เมื่อทั้งสองคนสบตากัน ดวงตาของเสี่ยวอิ๋งก็ฉายแววน่าหวาดกลัว เซี่ยเทาก็รู้ได้โดยไม่ต้องคิดเลย ลูกสาวของเขารู้เรื่องแล้ว "เสี่ยวอิ๋ง พ่อทำอาหารให้ลูกกินด้วยนะ ดูสิ..." "กินบ้าอะไรเล่า!" เสี่ยวอิ๋งพลันควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ขึ้นมาทันที! เธอร

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 284

    ในสถานการณ์เช่นนี้ ขืนเสี่ยวอิ๋งมัวแต่เข้าไปพัวพันคงได้จบเห่กันพอดี การเก็บเธอไว้น่าจะยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง เสี่ยวอิ๋งเองก็เป็นคนฉลาดจึงผงกศีรษะแล้ววิ่งออกทางประตูหลัง... เย่เซียวคิดจะเข้าไปขวาง แต่กลับถูกหลี่ชิงเฟิงห้ามเอาไว้ "ไม่ต้องไล่ตามหรอก วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของหวังเจิ้น อย่าทำอะไรน่าเกลียดเกินไปเท่านี้ก็พอแล้ว" เย่เซียวพยักหน้าแล้วยืนอยู่ข้างหลังโดยไม่พูดอะไรสักคำ ในตอนนี้เอง ปี้ไห่เทาก็เดินยิ้มเข้ามา "เหล่าหวัง วันนี้ฉันต้องขอโทษด้วยจริง ๆ นะ! ทั้ง ๆ ที่เป็นงานเลี้ยงวันเกิดดี ๆ ที่นายควรจะมีความสุขแท้ ๆ แต่กลับลงเอยแบบนี้เสียได้..." หวังเจิ้นถอนหายใจ "ช่างเถอะ" "เหล่าหวัง ตระกูลเย่ก็เป็นหนึ่งในสมาชิกหอการค้าเทียนเหมินของพวกเรา เย่เจี้ยนเหอดันพานังคนชั้นต่ำแบบนั้นมาเสียได้ กลับไปเมื่อไหร่ฉันย่อมต้องตำหนิเขาแน่! ฉันจะทำให้เขาจำให้ขึ้นใจเชียวล่ะ! เมื่อพวกเรากลับถึงเมืองหลวงเมื่อไหร่ ไห่เทาย่อมต้องมาขอขมาของแน่นอน" หวังเจิ้นโบกมือ "คุณเกรงใจเกินไปแล้ว ช่างมันเถอะ ผมไม่ถือสาหรอก" ปี้ไห่เทาพยักหน้าพลางขยิบตาให้เย่เจี้ยนเหอ จากนั้นพวกเขาสองคนก็ก้าวเดินจากไป ขณ

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 283

    เสี่ยวอิ๋งโมโหจนคิดอะไรไม่ออกแล้ว เธอชี้นิ้วใส่หลี่ชิงเฟิงแล้วด่ากราดว่า "แกคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน! คู่ควรที่จะมอบของขวัญให้ฉันแล้วงั้นเหรอ?" "หุบปากไปซะ พ่อตาของแกโดนซ้อมขนาดนั้น เขยอย่างแกไม่กล้าแม้แต่จะผายลมเสียด้วยซ้ำไป! แกยังกล้ามาก่อเรื่องที่นี่อีกงั้นรึ?" "ถ้าฉันเป็นแกล่ะก็ คงได้โหม่งเสาโทรศัพท์ตายไปแล้ว!" "ไร้ยางอายสิ้นดี!" เมื่อเห็นเสี่ยวอิ๋งหน้าแดงก่ำและลำคอแข็ง หลี่ชิงเฟิงกลับยิ่งขบขันพลางกล่าวว่า "ฉันคิดว่าเธอต่างหาก มั้งที่น่าจะเป็นฝ่ายโหม่งเสาโทรศัพท์?" ทันทีที่เขาพูดจบ หน้าจอขนาดยักษ์ข้างหลังล็อบบี้ก็พลันสว่างขึ้น! หลังจากนั้นไม่กี่วินาที แสงก็สลัวลงแล้ววิดีโอก็เริ่มฉายบนหน้าจอขนาดยักษ์ เมื่อเสี่ยวอิ๋งหันหน้าไป สิ่งแรกที่เธอเห็นก็คือเซี่ยเทาที่กำลังนอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง โดยมีสาวสวยอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธออยู่ข้างกาย! หึ่ง! เสี่ยวอิ๋งศีรษะจวนจะระเบิดอยู่แล้ว! เธอได้แต่ยืนนิ่งงันอยู่ตรงนั้น! มันเป็นวิดีโอที่ก่อนหน้านี้หลี่ชิงเฟิงถ่ายเอาไว้นั่นเอง! เมื่อเห็นเสี่ยวอิ๋งนิ่งงันไป หลี่ชิงเฟิงก็นิ้มแล้วพูดเสียงดังขึ้นมาว่า "ทุกท่าน ผู้ชายที่อยู่ในวิดี

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 282

    เงินหลายล้านบาทไม่ได้จ่ายไปโดยไร้ประโยชน์แล้ว! ศาสตราจารย์เฒ่าโดนเขาหลอกเข้าแล้วจริง ๆ! เสี่ยวอิ๋งเองก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทันใดนั้นก็ยิ้มพลางชี้นิ้วมาที่หลี่ชิงเฟิง "ตอนนี้แกจะว่ายังไงเล่า? เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าแจกันของแกมันเป็นของปลอม!" "น่าตลกชะมัดเลย! ฉันเสนอทางออกให้ แต่แกกลับยืนกรานที่จะขุดหลุมฝังตัวเองให้ได้! ไม่มีใครห้ามแกได้เลย!" เมื่อหลี่ชิงเฟิงได้ยินเช่นนี้ก็ยิ้มจาง ๆ แล้วหันมามองศาสตราจารย์หลี่พลางพูดว่า "ศาสตราจารย์หลี่ ช่วยดูขอองผมอีกสักครั้งเถอะครับ" คาดไม่ถึงว่าศาสตราจารย์หลี่จะส่ายหน้าแล้วยิ้มพลางกล่าวว่า "ไม่ต้องดูหรอก" เซี่ยอิ่งหัวเราะพลางกล่าวว่า "แจกันใบนั้นของแกมันปลอมชัดเจนเกินไป! ศาสตราจารย์หลี่ไม่มองให้เสียสายตาหรอก!" ในยามนี้เอง ศาสตราจารย์หลี่ก็เหลือบมองเธอแล้วสายหน้า "สาวน้อย ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นสักหน่อย ฉันยังพูดไม่ทันจบเลย ถึงแม้ว่าแจกันใบนี้จะฝีมือยอดเยี่ยมจนเกือบจะสมบูรณ์แบบ แต่มันเป็นของปลอมจริง ๆ" "ส่วนแจกันของคุณหลี่ ทันทีที่เข้ามาผมก็เห็นแล้วล่ะ มันเป็นของจริง ดังนั้นผมจึงไม่ต้องตรวจดูเลย" หลังจากศาสตราจารย์หลี่พูดจบ ทั้งห้องก็เ

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 281

    ไม่มีใครคาดคิดว่าหลี่ชิงเฟิงจะมีท่าทีแข็งกร้าวเช่นนั้น! ปี้ไห่เทาที่คอยสังเกตการณ์อยู่ข้าง ๆ แอบรู้สึกว่าชักไม่ได้การเสียแล้ว หลี่ชิงเฟิงคนนี้ดูไม่เหมือนเขยไร้ประโยชน์อย่างที่ข่าวร่ำลือกันเอาไว้เลยสักนิด การที่ยังสามารถสงบนิ่งได้ในภาวะคับขันเช่นนั้น มิหนำซ้ำยังพูดจาเสียคล่องปากและท่าทีเจ้าแผนการของอีกฝ่าย เขาไม่เชื่อหรอกว่าคนแบบนี้จะเป็นเขยไร้ประโยชน์ไปได้ สิ่งที่น่าสงสัยมากที่สุดคือ ต่อให้อีกฝ่ายจะก่อเรื่องเช่นนั้น แต่หวังเจิ้นที่อยู่ข้าง ๆ กลับไม่มีวี่แววที่จะโมโหเลยสักนิด พวกเขาต่างอาศัยอยู่ในเมืองหลวง เขาเองก็รู้นิสัยของหวังเจิ้น อีกฝ่ายไม่ใช่ตาเฒ่าที่นิสัยดิบดีอะไรเลย พอปี้ไห่เทานึกได้เช่นนี้ เขาก็ทอดสายตามองเย่เจี้ยนเหออีกครั้ง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายสายตาหลุกหลิกอยู่บ้าง เขาก็พอจะเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ดูเหมือนว่าแจกันลายครามสมัยราชวงศ์หยวนใบนี้จะมีบางอย่างผิดปกติจริง ๆ เสียด้วย ตอนนี้เย่เซียวยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมเจตนาสังหารอันแรงกล้า! เย่เจี้ยนเหอกับเสี่ยวอิ๋งหวาดกลัวจนไม่กล้าขยับตัวไปชั่วขณะ ไม่นานปี้ไห่เทาก็ลุกขึ้นแล้วมองหลี่ชิงเฟิงด้วยสายตาเย็นชา "ทำแบบนี้

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 280

    "ฉุดเศรษฐกิจให้ดิ่งลงเหวงั้นรึ? ถ้าทุกคนทำตัวเป็นไอ้เศษสวะชอบหลอกกินข้าวนิ่มอย่างแก ประเทศชาติก็คงจะพินาศไปตั้งนานแล้ว!" "ช่างน่าหัวเราะสิ้นดี! แกมันก็แค่มดปลวกตัวหนึ่งแท้ ๆ กล้าดียังไงถึงได้มาหัวเราะเยาะใส่พวกเรา?" ในตอนนี้เอง จู่ ๆ หวังเจิ้นที่เอาแต่เงียบมาจนถึงตอนนี้ก็ตบโต๊ะ! ทุกคนพลันหุบปากฉับ! หวังเจิ้นแววตามืดมน เขาเหลือบมองทุกคนแล้วเอ่ยน้ำเสียงเย็นชาว่า "พวกคุณหมายความว่ายังไงกัน? คิดจะก่อจลาจลในงานเลี้ยงวันเกิดของผมรึไง? พวกคุณไม่เห็นแก่หน้าผมเลย! คิดจะทำอะไรกันแน่!" เมื่อหวังเจิ้นโกรธขึ้นมา แม้แต่ปี้ไห่เทาก็ยังไม่กล้าล่วงเกิน นับประสาอะไรกับพวกเขากันเล่า "เหล่าหวัง ได้โปรดใจเย็นลงก่อนเถอะ เอาแบบนี้เป็นยังไง เพื่อจะได้รู้ว่าแจกันลายครามสมัยราชวงศ์หยวนใบไหนเป็นของจริงใบไหนเป็นของปลอม คุณก็แค่เชิญผู้เชี่ยวชาญให้มาประเมินก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ?" "คุณเองคร่ำหวอดอยู่ในแวดวงของเก่ามานานหลายปี เช่นนั้นก็น่าจะรู้จักผู้เชี่ยวชาญในวงการนี้เยอะอยู่บ้างใช่ไหมล่ะ?" หวังเจิ้นถอนหายใจพลางพยักหน้าแล้วพูดว่า "ก็ได้! ในเมื่อพวกคุณอยากเถียงกันดีนัก งั้นก็มาทำให้เรื่องนี้กระจ่างกันไปเลย

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 279

    หลังจากหลี่ชิงเฟิงพูดจบ ทุกคนก็ตะลึงงันไปชั่วขณะแล้วหัวเราะลั่น! เสี่ยวอิ๋งกับเย่เจี้ยนเหอหัวเราะอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง จากนั้นพวกเขาก็ชี้นิ้วใส่หลี่ชิงเฟิงแล้วพูดว่า "แกมันขี้โม้จนไม่เลือกเวลาจริง ๆ พับผ่าสิ! ลำพังแค่คุยโวโอ้อวดต่อหน้าพ่อตาโง่ ๆ ของแกไม่พอ แต่ยังจะมาคุยโวโอ้อวดต่อหน้าพวกเราอีกงั้นเหรอ?" ปี้ไห่เทาที่อยู่อีกด้านเองก็มีสีหน้าที่เต็มไปด้วยแววดูถูกดูแคลน "ลำพังแค่พวกเราคนใดคนหนึ่งก็ผ่านโลกมามากกว่าแกถึงสิบชาติภพรวมกันเสียอีก แกกล้าพูดแบบนั้นออกมาได้ คิดว่าพวกเราโง่หรือไงกัน?" "ผ่านโลกมามาก? คุณคิดว่าตัวเองผ่านโลกมามากแล้วงั้นรึ?" หลี่ชิงเฟิงยิ้มเหยียดหยันพลางเอ่ยเสียงทุ้มลึก "วันนี้ผมจะช่วยเปิดโลกทัศน์ของคุณเองก็แล้วกัน เย่เซียว เอาของขวัญของพวกเราออกมา" เย่เซียวผงกศีรษะ จากนั้นเขาก็หยิบแจกันลายครามสมัยราชวงศ์หยวนออกมาจากกล่องแล้ววางลงต่อหน้าทุกคน ทันทีที่พวกเขาเห็นแจกันลายครามสมัยราชวงศ์หยวน ทุกคนก็ถูกแจกันใบนั้นดึงดูดความสนใจเข้าแล้วจริง ๆ เย่เจี้ยนเหอหน้าถอดสีแล้วตรวจสอบแจกันลายครามสมัยราชวงศ์หยวนโดยละเอียดถี่ถ้วนแล้วให้รู้สึกสับสน ฝีมือช่างวิจิตรประณีตนัก!

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 278

    เย่เจี้ยนเหอยิ้มเหยียดหยัน "แกคิดจะแข่งกับฉันงั้นรึ? ก็ได้ ฉันจะเอาออกมาให้แกได้เปิดหูเปิดตาก็แล้วกัน ฉันขอพนันเลยว่าชั่วชีวิตแกน่าจะได้เห็นเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ" หลังจากเย่เจี้ยนเหอพูดจบก็ดีดนิ้ว จากนั้นผู้ช่วยคนงามที่อยู่ข้างหลังก็รีบเดินเข้ามา ของขวัญของอีกฝ่ายเองก็อยู่ในกล่อง มิหนำซ้ำยังมีขนาดพอ ๆ กับของเขาอีกต่างหาก เย่เจี้ยนเหอยิ้มอวดดีแล้วพูดว่า "มหาเศรษฐีหวัง ผมได้ยินมาว่าคุณชอบสะสมของเก่ามากทีเดียว ดังนั้นผมจึงสั่งให้เพื่อนที่อยู่ต่างประเทศประมูลของสิ่งนี้มาให้คุณเป็นพิเศษ เชิญดูเอาเองเถอะครับ!" หลังจากพูดจบ ผู้ช่วยสาวก็เปิดกล่องแล้วสายตาของทุกคนก็ทอดมองมาที่มือของผู้ช่วยสาว! แจกันลายครามใบหนึ่งค่อย ๆ เผยรูปลักษณ์ที่แท้จริงออกมา! เมื่อหลี่ชิงเฟิงเห็นแจกันใบนี้ก็ถึงกับตะลึงงัน... ช่างเหมือนกับแจกันลายครามที่เขาซื้อมาไม่มีผิดเพี้ยนเลย! เขาเหลือบมองเย่เซียวที่อยู่ข้างหลังโดยไม่รู้ตัว จากนั้นเย่เซียวก็เอ่ยกระซิบข้างหูว่า "เป็นของปลอมแน่ ๆ ครับ" ในยามนี้เอง เย่เจี้ยนเหอก็หยิบแจกันขึ้นมาแล้วเดินมาอยู่ตรงหน้าทุกคนแล้วพูดเสียงดังว่า "แจกันลายครามสมัยราชวงศ์ห

DMCA.com Protection Status