แชร์

ไอ้พวกคนน่ารังเกียจ

ด้านหลังของเขาตามมาด้วยบุรุษอีกหลายคน บุรุษคนหนึ่งสวมอาภร์สีม่วง เป็นผ้าไหมชั้นดีศีรษะสวมกว๊านหยกสีขาวเนื้อดีแกะลวดลายกิเลน หยกห้อยเอวคือชิ้นที่นางขโมยมันไปจำนำเมื่อวันก่อน เขาคือเว่ยเซียวหยางคนสารเลวที่ทำลายร่างเดิม ซ่งจื่อเหยียนเดินไปหาเย่วหลีก่อนจะยกเท้าถีบไปที่ยอดอกเหวินเปียวทันที จนเขาเซไปหลายก้าว

เว่ยเซียวหยางตาลุกทันทีที่คนของตนถูกทำร้าย เขาเดินเข้ามาหานางจับคางบบีบอย่างแรง แต่ซ่งจื่อเหยียนไม่หวาดกลัวนางสบสายตาอย่างไม่ยอมแพ้ เว่ยเซียวหยางเอ่ยเสียงเข้ม

“กล้าดีอย่างไรมาทำร้ายคนของข้า ซ่งจื่อเหยียน”

 ”แล้วเจ้าเล่า เว่ยเซียวหยาง เลี้ยงสุนัขเช่นไรปล่อยกันคนไปทั่ว หรือว่าเจ้าเองก็ไม่ต่างจากสุนัขของตน”

“ซ่งจื่อเหยีน..กล้าเรียกชื่ออ๋องเช่นข้าตรงๆ ใครให้ความกล้าเจ้ากัน”

“ต้องมีใครให้ความกล้าข้าด้วยหรือ คนเช่นท่านมีอันใดให้น่าเคารพหรือ ก็แค่ตำแหน่งติดตัวมาตอนเกิด อยากฆ่าข้าก็ควรลงมือเลย ทางที่ดีอย่าให้ข้าเป็นฝ่ายลงมือก่อน”

เว่ยเซียวหยางเหวี่ยงนางไปข้างๆ ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้กลางห้อง เขามองเห็นตะกร้าใบใหญ่ มีมีดเล่มใหญ่ใส่เอาไว้ นางแต่ตัวผิดไปมิได้ใส่ชุดสวยงามเช่นคืนนั้นที่เขาเจอ นางแต่งกายเตรียมพร้อมที่จะไปไหนสักที่ เว่ยเซียวหยางเอ่ยปากกับคนตรงหน้า

“จวนของข้ากลายเป็นแปลงผักเป็นเล้าไก่เล้าหมูไปตั้งแต่เมื่อไหรกัน ทำจนเละเทะไปหมด”

“ข้าหรือทำจนเละเทะ นี่เว่ยเซียวหยางท่านเปิดตาสุนัขของท่านมองให้ดีๆ นะแปลงผักอยู่ด้านใน เล้าไก่เล้าหมูอยู่ด้านหลัง ตรงไหนที่ท่านบอกว่าสกปรกเละเทะ นั่นคืออาหารท่าน กินเศษหินดินทรายได้กลืนเลือดราษฎรได้ แต่ข้าไม่ใช่ เพราะข้าไม่ใช่ขุนนางจไปอมงบหลวงเช่นพวกท่านคงทำไม่ได้”

“เจ้าว่าอย่างไรนะ กล้าดูถูกว่าข้ารังแกราษฎรกินเลือดเนื้อชาวบ้านอมงบประมาณหรือ”

“เฮ้อ..ช่างเถอะ ท่านมาวันนี้ต้องการอะไรถ้าไม่มีอะไรแล้วข้าจะไปแล้ว พี่เย่วเล่อ เย่วหลีไปกันเถอะ”

ซ่งจื่อเหยียนต้องการให้เย่วหลีไปแจ้งแก่ทางบ้านป้าหูว่าวันนี้จะฝากฮุ่ยหมินนานหน่อยจนกว่าเว่ยเซียวหยางจะไป แต่นางยังไม่ทันเดินไปไหนก็ถูกเขารวบตัวมานั่งบนตัก เหล่าองครักษ์ต่างฃก้มหน้าไม่กล้ามองท่านอ๋องของพวกเขา เว่ยเซียวหยางเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงทำเช่นนี้เหมือนกัน เขารู้สึกว่านางกำลังท้าทายและเขายอมไม่ได้ ซ่งจื่อเหยียนดิ้นออกจากตักเขาแต่เว่ยเซียวหยางกดนางไว้

“ปล่อยข้าเว่ยเซียวหยาง เอามือโสโครกของท่านออกไป”

“ดีนี่ข้าโสโครกหรือ ซ่งจื่อเหยียนเจ้าลืมไปหรือเปล่าว่าเราเป็นอะไรกัน มีเมียที่ไหนไม่ให้สามีแตะต้องตนเอง”

“อย่ามาปากพล่อยนะ ข้าไม่เคยนับว่าท่านเป็นสามีข้า หากไม่ใช่เพราะข้าถูกวางยาคนอย่างท่านไม่มีทางได้เข้าใกล้ข้าหรอก ปล่อยข้า ว้าย”

เว่ยเซียวหยางอุ้มตัวคนบนตักลอยขึ้นก่อนจะพาเดินไปด้านใน เขาคำนวณไม่ยากว่านางอยู่ห้องไหน ขายาวกำลังจะก้าวเข้าห้องแต่ซ่งจื่อเหยียนชะงัก ของบุตรชายยังไม่ได้เก็บหากเขาเข้าไปเจอคงปิดไม่อยู่ ซ่งจื่อเหยียนจึงใช้น้ำเย็นเข้าลูบ ได้ยินมาว่าเขาเกลียดสตรี ยิ่งเป็นสตรีที่มีจริตมารยาเขายิ่งรังเกียจ ซ่งจื่อเหยียนจึงเอ่ยด้วยบน้ำเสียงอ่อนหวานชวนเลี่ยน

“ท่านอ๋องเพคะ ทรงปล่อยหม่อมฉันเถอะเพคะตอนนี้หม่อมฉันสำนึกผิดแล้ว จื่อเหยียนไม่กล้าแล้วเพคะ”

“เอ๋..สำนึกผิดไวเหลือเกินนะแม่ตัวดี แต่ดูเหมือนข้ากำลังอยากปลดปล่อยเสียแล้ว ห่างเมียมาตั้งปีกว่า”

“ตะ แต่ว่าหม่อมฉันน่ารังเกียจนะเพคะ คือว่าท่านอ๋องอย่าทรงฝืนองค์เองเลยเพคะ หม่อมฉันยอมรับผิดแล้ว”

เว่ยเซียวหยางมองคนในอ้อมกอดเขายิ้มมุมปากให้นาง หึ ดูท่านางจะเอาตัวรอดเก่งเหลือเกิน อีกอย่างเขามีงานต้องทำไม่ว่างมานั่งเล่นสนุกกับนางจึงวางซ่งจื่อเหยียนลงก่อนจะเอ่ยจริงจัง

“ข้าจะใช้ที่นี่ทำค่ายผู้ลี้ภัย ส่วนเจ้ากับสาวใช้จะมีรถม้ามารับไปส่งที่อี้โจวเพื่อเฝ้าสุสานบรรพบุรุษที่นั่น พรุ่งนี้ยามอู่พวกเจ้านายบ่าวออกเดินทางได้”

ซ่งจื่อเหยียนคำนวณในใจ นางอยากไปตั้งน่านแล้วติดที่ฮุ่ยหมิ่นยังเพิ่งจะแปดเดือนเท่านั้น แต่ในเมื่อเขาออกปากไล่นางก็ต้องไป ซ่งจื่อเหยียนพยักหน้ารับคำ

 

เว่ยเซียวหยางเดินออกมาด้านนอก องครักษ์ต่างก็งงปกติท่านอ๋องคงบีบคอนางตายไปแล้วกล้าด่าพระองค์ถึงเพียงนี้ เว่ยเซียวหยางสั่งคนไปจัดการห้องหับที่เหลือ โชคดีที่ซ่งจื่อเหยียนเลือกพักเรือนที่เล็กสุดในจวนเพราะจะได้ทำความสะอาดทั่วถึง เหล่าองครักษ์พากันไปที่เรือนใหญ่ไม่มีผู้ใดสนใจเรือนเล็กอีกเลย

ซ่งจื่อเหยียนกระซิบบางอย่างกับเย่วหลี สาวน้อยพยักหน้าก่อนจะออกไปจากจวน นางเจอกับเหวินชางที่เพิ่งมาตรงหน้าจวน เหวินชางมองอย่างแปลกใจที่เจอนางที่นี่ แต่ยังไม่ทันเอ่ยทักทายเด็กน้อยก้เจอกับสายตาที่มองเขาเหมือนศัตรู จากนั้นนางก็ตรงไปยังบ้านสองสามีภรรยาที่เขาเพิ่งไปมาเมื่อวาน

คนของเขามองแปลงผักก่อนจะถามเว่ยเซียวหยางว่าต้องถอนไหม แต่เว่ยเซียวหยางบอกเก็บไว้เอาเป็นเสบียงได้ มีแปลงผักกว่าสามสิบแปลง มีไก่กว่าสองร้อยตัวและมีหมูอีกแปดตัว ซ่งจื่อเหยียนได้ยินนางก็เอ่ยขึ้น

“ท่านอ๋อง หมูไก่เลี้ยงต้องใช้เงิน ผักเหล่านี้เมล็ดพันธ์ต้องซื้อหาหากทรงต้องการควรจ่ายตามราคาตลาดไหมเพคะ”

“หืม เจ้าอยู่บ้านข้าๆ ยังไม่คิดค่าเช่าเจ้ายังกล้าคิดเงินของเล็กๆ น้อยๆ เพียงนี้ ซ่งจื่อเหยียนเจ้ามิเกินไปหน่อยหรือ เหวินเปียวเจ้าไปจัดการหาคนมาดูและไก่และหมูเหล่านั้น เปิดค่ายเมื่อไหร่จะได้มีอาหารสำรอง”

เย่วเล่อมองหน้าบุราที่หาเรื่องนางเมื่อวาน ใบหน้ายังมีรอยแดงที่นางตบหึคนสารเลว เหวินเปียวรอจังหวะเท่านั้น เขาจะสั่งสอนให้หลาบจำจนลืมไม่ลงทีเดียว

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status