Share

บทที่ 12 แบ่งเงิน

last update Last Updated: 2024-12-11 22:36:17

บทที่ 12 แบ่งเงิน

พวกเขาทั้งสามช่วยกันขายเนื้ออยู่อีกเกือบ 1 ชั่วโมงเมื่อเห็นว่าเนื้อใกล้จะหมดแล้วจึงได้เก็บของและพวกกันออกมาจากตลาดมืดทันที…ระหว่างทางที่เดินออกมาหยางซีซีตาไวเธอเห็นว่ามีคนนำพวกทองและเครื่องประดับ ภาพวาด แจกันของเก่าโบราณออกมาวางขายกันอยู่หลายร้านทีเดียวเธอหันมองและดวงตาก็วาววับขึ้นมาทันที….คราวหน้าเจอกัน!!!!!

ทั้งสามรีบเดินออกมาจากตลาดมืดแห่งนี้ทันที เพราะถึงจะค้าขายได้ดีขนาดไหนแต่ว่าที่นี่ก็ถือว่าเป็นที่แหล่งผิดกฏหมายและอันตรายมากอยู่ดี และการที่พวกเขามีเนื้อมากมายมาขายก็อาจจะทำให้ถูกเพ่งเล็งได้ เพราะว่าพวกเขาเข้ามาเพียงตะกร้าใบเดียวเหตุใดถึงได้ขายเนื้อไม่หมดสักทีนะสิ หากจะนับรวมๆ แล้วเนื้อที่ขายไปนั้นเกือบ 220 ชั่งได้

เมื่อออกมาจากตลาดมืดแล้วทั้งสามก็ตรงไปที่สหกรณ์แวะซื้อพวกเครื่องปรุงนมผง น้ำตาล เกลือ ซีอิ้ว และเครื่องเทศอีกหลายอย่างและหยางฟู่เหยายังซื้อลูกอมตรากระต่ายไปให้หลานๆ ด้วยถุงใหญ่ หยางซีซีเห็นว่ามีแตงโมลูกไม่ใหญ่นักวางอยู่ รวมทั้งผลไม้หายากอย่างสตอเบอร์รี่และองุ่นที่ไม่รู้หลุดรอดมาได้อย่างไรอยู่ 2 กล่อง เธอจึงหยิบทันทีถึงแม้ว่าราคาของสตอเบอร์รี่จะแพงมากตกกล่องละ 15 หยวนทีเดียวแต่ว่าหยางซีซีนั้นมีแผนการเกี่ยวกับผลไม้ทั้ง 3 ชนิดนี้แล้วเธอจึงได้กัดฟันซื้อมันกลับไปด้วยเลย ความจริงเธออยากจะซื้อของมากกว่านี้ เธอเห็นพวกกระทะ หม้อ ชาม ช้อนตะเกียบที่อยู่ในตลาดมืด แต่เพราะว่ารีบจึงไม่ได้แวะซื้อ และอีกอย่างวันนี้พวกเธอรู้ว่าทางบ้านนั้นจะต้องรอแน่นอนจึงได้ซื้อเฉพาะที่จำเป็นก่อน และรีบออกมาจากสหกรณ์และตรงกลับบ้านทันที ต้องทราบว่าราคาสินค้าในสหกรณ์นั้นถูกกว่าในตลาดมืดมากพอสมควร แต่เพราะว่าบางอย่างจำเป็นต้องใช้ตั๋วทำให้คนที่ไม่มีตั๋วเมื่ออยากจะซื้อก็จำเป็นต้องเข้าไปซื้อในตลาดมืดนั้นเอง

ในการค้าขายวันนี้พวกเขารับทั้งเงินหยวนและรับตั๋วชนิดต่างๆ ด้วย และวันนี้ก็ได้ตั๋วมาหลายใบ ทั้งตั๋วผ้า ตั๋วเครื่องใช้ไฟฟ้า จักรยาน ซึ่งมีบางฉบับที่เป็นตั๋วที่สามารถใช้ได้ทั่วประเทศด้วย เพราะในยุคนี้นั้นมีเงินอย่างเดียวบางครั้งก็ไม่สามารถที่จะซื้อของได้ เพราะสินค้าบางชนิดจะมีเงื่อนไขเพิ่มคือจะต้องมีตั๋วจึงจะสามารถซื้อได้ เช่นพวกเนื้อสัตว์ ผ้า จักรเย็บผ้า และพวกของใช้ไฟฟ้าชนิดต่างๆ ซึ่งหากว่าประชาชนไม่มีตั๋วก็ไม่สามารถที่จะซื้อได้ ดังนั้น หยางฟู่เหยาที่เป็นคนรับเงินจึงได้รับหมด

ในขณะที่กำลังรอคิวที่จะจ่ายเงิน หยางซีซีก็หันไปเห็นหนังสือพิมพ์ที่วางขายอยู่ไม่ไกลนักเธอจึงให้หยางฟู่เหยาซื้อกลับไปด้วย ซึ่งราคาของหนังสือพิมพ์นั้นตกฉบับละ 1 หยวนถือว่าราคาพอรับได้ พวกเธอจ่ายค่าซื้อของไปทั้งหมด 90 หยวน

เมื่อได้ของที่ต้องการมาครบแล้ว ทั้งสามคนก็รีบเดินกลับบ้านด้วยความดีใจที่ได้เงินมาเยอะมากพอสมควร ไหนจะขายเนื้อที่นำมาถูกขายจนหมด พวกเขาต่างก็ตื่นเต้นกับการเดินทางกลับบ้านในวันนี้เป็นพิเศษแต่แล้วความสุขก็ต้องมาถูกขัดจังหวะ เมื่อพวกเขาพบว่ารถคันสุดท้ายที่วิ่งเข้าหมู่บ้านได้ออกไปแล้ว ทำให้พวกเขาจำต้องเดินเท้ากลับบ้านในวันที่อากาศหนาวเหน็บแบบนี้

แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่ด้วยพลังงานที่ได้รับจากผักวิญญาณ ทำให้พวกเขาไม่รู้สึกเหนื่อยล้าเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม พวกเขากลับรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและสามารถเดินได้เร็วขึ้นกว่าปกติมาก และแม้จะมีของที่ซื้อกลับหลายอย่างแต่เมื่อมันอยู่ในตะกร้ามิติมันก็ไม่ได้หนักอะไรเลย ทำให้การเดินกลับบ้านนั้นไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด

ขณะที่กำลังเดินกลับบ้านนั้น ท้องฟ้าก็เริ่มมืดครึ้มและมีเกล็ดหิมะเล็กๆ ลอยลงมาแตะต้องใบหน้าเบาๆ ยิ่งเดินไปนานเท่าไหร่ หิมะก็ยิ่งตกหนักขึ้นเรื่อยๆ จนมองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากสีขาวโพลนไปหมด

แต่ด้วยความแข็งแรงที่ได้รับมา พวกเขาจึงเดินได้เร็วขึ้นกว่าเดิมมาก และในที่สุดก็มาถึงบ้านเมื่อเวลา 4โมงเย็นพอดี เมื่อเปิดประตูเข้าไปในบ้าน อากาศที่อบอุ่นก็โอบล้อมร่างกายที่เปียกชื้นจากหิมะ พวกเขาทั้งสามคนต่างก็รู้สึกโล่งใจที่ได้กลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัย

เมื่อทั้งสามคนเปิดประตูบ้านออก ก็พบว่าบรรยากาศภายในอบอุ่นกว่าที่คิดไว้มาก พ่อแม่สามีและสะใภ้ใหญ่ยืนรอต้อนรับอยู่หน้าประตูบ้านด้วยความเป็นห่วง โดยเฉพาะเจ้าหยางตง ที่นั่งเล่นอยู่ใกล้เตาผิงก็ดูตื่นเต้นที่จะได้เห็นพ่อแม่กลับมา

สะใภ้ใหญ่รีบเดินเข้ามาหาน้องทั้งสาม และช่วยกันสลัดหิมะที่เกาะอยู่ตามเสื้อผ้าออกไปอย่างเบามือ จากนั้นก็รีบไปนำน้ำร้อนที่ต้มเอาไว้รอมาให้พวกเขาได้ดื่มเพื่อคลายความหนาวเย็น ในครอบครัวชาวนายากจนนั้นพวกเขาไม่สามารถที่จะหาซื้อชามาดื่มได้ดังนั้นพวกเขาจึงได้ต้มน้ำร้อนดื่มแทน หลังจากที่ทั้งสามได้ถอดเสื้อผ้าที่เปียกชื้นออก และได้จิบน้ำชาอุ่นๆ เข้าไป ร่างกายที่หนาวสั่นก็เริ่มกลับมาอบอุ่นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เจ้าหยางตงเมื่อเห็นว่าพ่อแม่กลับมาแล้วเขาก็วิ่งมากอดขาแม่ หยางฟู่เหยาล้วงเข้าไปในตะกร้ามิติและหยิบลูกอมตรากระต่ายออกมาทั้งถุงและให้เขานำไปแบ่งพี่ๆ น้องๆ สะใภ้ใหญ่เมื่อเห็นถุงลูกอมขนาดใหญ่ก็เลยบอกว่าให้กินได้คนละ 2 เม็ดเท่านั้นเพราะเดี๋ยวก็จะกินอาหารเย็นแล้ว เด็กๆ พยักหน้าแรงๆ และแบ่งลูกอมกันคนละ 2 ลูกและพวกเขาต่างก็รีบแกะและโยนเข้าปากทันที...เมื่อความหวานกระจายในปากเด็กๆ ต่างก็ยิ้มและหัวเราะด้วยความสุข

หยางฟู่เหยายื่นตะกร้าให้กับพี่สะใภ้ใหญ่นำไปจัดการต่อส่วนพวกเขาสามคนก็เข้าห้องเพื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแห้งและสะอาดและกลับออกมาที่ห้องโถงอีกครั้ง ตอนนี้คุณพ่อคุณแม่หยาง พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ใหญ่ และเด็กๆ ต่างก็นั่งรออยู่ที่โต๊ะแล้ว คุณแม่หยางเป็นคนบอกว่าให้ทานอาหารก่อนแล้วค่อยคุยเรื่องงานกัน

เมื่อทุกคนล้างมือและนั่งลงที่โต๊ะอาหาร ก็พบกับอาหารมื้อเย็นที่จัดเตรียมไว้อย่างน่ารับประทาน บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารมากมาย ชามหมูตุ๋นน้ำแดงสีเข้มส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย ผัดหมูใส่ผักกาดขาวสีเขียวสดดูกรอบน่าทาน ไข่เจียวต้นหอมจานใหญ่ ต้มกระดูกหมูใส่หัวไชเท้าส่งกลิ่นหอมหวานออกมา และกากหมูทอดโรยหน้าด้วยกระเทียมเจียวสีเหลืองกรอบน่าทาน ส่วนของหวานก็มีฟักทองนึ่งสีเหลืองทองหวานนุ่มเตรียมไว้รออยู่

คุณพ่อหยางเป็นคนแรกที่หยิบตะเกียบขึ้นมา คีบเนื้อหมูตุ๋นชิ้นโตสีน้ำตาลเข้มวางลงในชามของคุณแม่หยางอย่างทะนุถนอม ก่อนจะคีบให้ตัวเอง จากนั้นเมื่อทุกคนเห็นคุณพ่อหยิบตะเกียบแล้วพวกเขาก็เริ่มลงมือทานอาหารกันทันที เด็กๆ ต่างก็ตื่นเต้นกับอาหารมื้อเย็นวันนี้ โดยเฉพาะเนื้อหมูตุ๋นชิ้นโตที่พวกเขาได้คนละชิ้น และกากหมูทอดกรอบที่ถูกตักโป๊ะให้เติมชามอยู่ตลอดเวลา

เสียงหัวเราะร่าเริงของเด็กๆ ดังก้องไปทั่วห้องอาหาร บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความสุข ทุกคนต่างก็กินอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย โดยเฉพาะเด็กๆ ที่กินกันอย่างไม่ยั้ง เพราะได้กินอาหารที่ชอบอย่างเต็มที่

ขณะที่ทุกคนกำลังเพลิดเพลินกับมื้อค่ำอยู่นั้น สายตาของสมาชิกในครอบครัวก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปยังหยางซีซีอยู่บ่อยครั้ง ท่าทางการรับประทานอาหารของเธอนั้นช่างดูสง่างามและประณีตบรรจงเป็นอย่างยิ่ง ทั้งการวางตะเกียบ การเคี้ยวอาหาร และการกลืนลงคอ ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบราวจนดูราวกับว่ากำลังรับประทานอาหารอยู่ที่วังหลวงอย่างไรอย่างนั้น

บรรยากาศบนโต๊ะอาหารค่อยๆ เปลี่ยนไปอย่างช้าๆ จากที่เคยเป็นการรับประทานอาหารแบบบ้านๆ ก็เริ่มกลายเป็นบรรยากาศที่ดูสง่างามขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ เหตุผลก็คือท่าทางการกินอาหารที่สง่างามของหยางซีซี ที่ค่อยๆ ซึมซับเข้าไปในจิตใจของสมาชิกทุกคนในครอบครัว

ทุกครั้งที่หยางซีซียกแก้วน้ำขึ้นมาจิบ เธอจะทำอย่างนุ่มนวลและสง่างาม นิ้วเรียวค่อยๆ จับที่แก้วน้ำก่อนจะยกขึ้นมาดื่มอย่างช้าๆ หรือเมื่อวางตะเกียบลงบนโต๊ะ เธอก็จะวางอย่างเป็นระเบียบ ไม่ให้เกิดเสียงดังรบกวน ท่าทางเหล่านี้ดูเรียบง่ายแต่กลับให้ความรู้สึกถึงความสง่างามและความเป็นผู้ดีสูงส่ง

สมาชิกในครอบครัวต่างก็สังเกตเห็นและรู้สึกประทับใจในท่าทางของหยางซีซี พวกเขาเริ่มที่จะเรียนแบบโดยไม่รู้ตัว ทั้งการจับวางตะเกียบ การคีบอาหาร และการเคี้ยวอาหาร ทุกคนพยายามที่จะทำตามอย่างหยางซีซีให้ได้มากที่สุด จนกระทั่งบรรยากาศบนโต๊ะอาหารเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

เสียงดังจากการเคี้ยวอาหารและเสียงกระทบของชามกับตะเกียบที่เคยดังกังวาน กลับค่อยๆ เบาลงเรื่อยๆ ทุกคนกินอาหารอย่างแผ่วเบาและนุ่มนวลมากขึ้น จนดูราวกับว่ากำลังอยู่ในงานเลี้ยงอาหารค่ำที่หรูหรา

ส่วนหยางซีซีผู้มาเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของคนในครอบครัวนั้นก็ยังกินอาหารต่อไปเธอมีหันไปยิ้มให้กับลูกๆ ทั้งสองที่ลุยอาหารของตัวเองจนใบหน้าเลอะไปหมดด้วย

ครอบครัวหยางทานอาหารทุกอย่างจนหมด และตอนนี้พวกเขาก็กำลังจิบชาที่หยางซีซีให้หยางฟู่เหยาซื้อมาจากสหกรณ์กันอยู่อย่างสบายใจสบายท้อง ตอนนี้เมื่อทุกคนอิ่มสบายกันหมดแล้ว คุณแม่หยางไล่ให้เด็กๆ ไปเล่นที่เตียงเตาเช่นเดิม

ตอนนี้บนโต๊ะอาหารถูกเก็บและทำความสะอาดหมดแล้วโดยเหล่าสะใภ้ทั้งสาม หยางจิ่งจึงได้นำตะกร้ามิติมาตั้งและเริ่มหยิบของต่างๆ ที่ซื้อมาวันนี้ออกมา เริ่มจากเงินทั้งหมดที่ขายได้วันนี้ เขาหยิบเงินทั้งที่เป็นเหรียญและเป็นธนบัตร และตั๋วออกมากอง บนโต๊ะ จากนั้นก็หยิบทองคำและเครื่องประดับที่น้องสะใภ้สามซื้อมากองไว้ข้างๆ จากนั้นก็เป็นพวกนมผงมอลล์ 2 กระป๋อง เครื่องเทศต่างๆ ออกมา และผลไม้ทั้ง 3 ชนิด เมื่อเอาของออกมาจากตะกร้าหมด

หยางฟู่เหยาก็ได้เป็นคนรายงานให้ทุกคนได้รู้ทันที

“วันนี้เราขายไก่ 18 ตัว และขายเนื้อ 220 ชั่งได้เงินทั้งหมด 1500หยวนค่ะ และมีตั๋วชนิดต่างอีก 20 กว่าใบ น้องสะใภ้สามอยากได้พวกของเหล่านั้นเลยซื้อมา 100 หยวนและแลกกับเนื้อ20ชั่ง และให้ไก่แถมไป 2 ตัว จากนั้นพวกเราก็มาซื้อของที่สหกรณ์หมดไป 90 หยวน เหลือทั้งหมด 1310 หยวนค่ะ”

เมื่อเคลียร์บัญชีเสร็จเธอก็เลื่อนกองเงินและตั๋วไปทางคุณแม่หยางทั้งหมดทันที

ต้องทราบว่าตอนนี้บ้านตระกูลหยางนั้นยังไม่มีการแยกบ้านเงินที่ทุกคนหาได้จะนำมารวมกันเป็นส่วนกลางและให้คุณแม่หยางเป็นคนดูแล คุณแม่หยางนั้นมองกองเงินและตั๋วเหล่านั้นก่อนจะแบ่งออกเป็น 4 ส่วนด้วยกัน เธอหยิบออกมา 500 หยวน และเลื่อนไปทางสะใภ้สาม 500 หยวนที่เหลือกองละ 155 หยวนนั้นเธอเลื่อนไปที่หน้าลูกชายทั้งสอง..

“เงินก้อนนี้จะว่าไปก็มาจากสะใภ้สามทั้งหมด แม่จะแบ่งแบบนี้ก็แล้วกัน พวกลูกก็เก็บเอาไว้”

เหล่าสะใภ้และลูกชายต่างก็ตกใจในจำนวนเงินที่คุณแม่หยางนั้นแบ่งมาให้ หยางฟู่หลงเป็นคนเอ่ยขึ้นมาทันที

“พวกเราไม่ได้แยกบ้านกันเงินส่วนนี้ผมให้คุณแม่เก็บเอาไว้เถอะครับ เพราะตอนนี้พวกเราก็กินใช่ทุกอย่างรวมกันอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้เงินมา ส่วนของน้องสะใภ้สามนั้นคุณแม่ทำถูกแล้วครับ เพราะว่าของทุกอย่างก็มาจากน้องสะใภ้สามจริง เธอสมควรได้รับเงินส่วนนั้นไป”

พูดเสร็จเขาเลื่อนเงินกลับมาให้แม่ของเขาอีกครั้ง จากนั้นหยางจิ้งคนพูดน้อยประจำบ้าน ก็เลื่อนเงินของเขากลับมาที่หน้าคุณแม่หยางเช่นกัน เป็นการบอกว่าเขาเห็นด้วยนั้นเอง

คุณแม่หยางนั้นถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเลื่อนเงินไปที่เหล่าสะใภ้ทั้งสองแทน และเอ่ยขึ้นมาว่า

“ตอนนี้เด็กๆ กำลังโตพวกลูกๆ ก็เก็บเงินส่วนนี้เอาไว้เถอะหากว่าอยากจะซื้ออะไรหรือส่งให้พวกเขาเรียนหนังสือก็จะได้ไม่ลำบาก"

สะใภ้ทั้งสองเมื่อได้ยินสิ่งที่แม่หยางพูด พวกเธอก็ค่อยยื่นมื่อออกไปแล้วเก็บเงินก้อนนั้นทันที และยังหันไปมองน้องสะใภ้สามที่นั่งยิ้มอยู่ด้วยความขอบคุณ เพราะหากว่าไม่มีน้องสะใภ้สามวันนี้พวกเธอก็คงจะไม่ได้กินอิ่มและมีเงินมากมายเช่นนี้

หยางซีซีมองเงิน 500 หยวนของตัวเอง จากนั้นเธอจึงดึงออกมา 200 หยวนและส่งกลับให้คุณแม่หยางและเอ่ยขึ้นมาว่า

“ฉันใช้เงินไป 200 หยวนในการซื้อของเหล่านี้มาแล้วค่ะ ดังนั้นส่วนนี้ฉันคืนให้คุณแม่นะคะ”

จากนั้นสายตาทุกคนก็มองไปที่กองของทองคำและเครื่องประดับที่กองอยู่บนโต๊ะข้างๆ ผลไม้ทั้ง 3 ชนิด และหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น

*** นั่งทานข้าวกับฮองเฮาอะนะ เลยถูกนางละลายพฤติกรรมแบบไม่รู้ตัว.555 ***

***น้องเป็นคนยุติธรรมนะ****

*** สำหรับรีดที่รักที่เป็นห่วงน้องสาวของฮองเฮา ต้องรออีก 2-3 ตอนนะคะไรท์ถึงจะไปรับมา ดังนั้นใจเย็นๆ 5555 **** 

 

Related chapters

  • (จบแล้ว ) 70‘s หยางซีซีฮองเฮาทะลุมิติพร้อมมือวิเศษ   บทที่ 13 สร้างค่ายกลปลูกผัก

    บทที่ 13 สร้างค่ายกลปลูกผักหลังจากที่แบ่งเงินทองกันเรียบร้อยแล้ว ทุกคนต่างก็มีความสุขกับสิ่งที่พวกเขาได้รับมา ตอนนี้พวกเขาต่างก็ปรึกษากันว่าวันต่อไปใครจะเป็นคนไปขายของซึ่งก็ตกลงกันได้ว่าการขายของยังคงให้เป็น หยางจิ้ว สะใภ้รองและสะใภ้สาม เพราะถือว่าได้เข้าไปในตลาดมืดแล้ว ไม่ต้องให้คนอื่นๆ เข้าไปอีก ซึ่งหยางซีซีและครอบครัวได้ใช้เวลาพูดคุยพักใหญ่ จากนั้นบรรยากาศก็ค่อยๆ เงียบลงเมื่อคุณแม่หยางเม่ยหันไปมองกองทองคำและเครื่องประดับที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างสงสัย สายตาของเธอจับจ้องไปที่หยางซีซี ก่อนจะเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ"ลูกอยากได้ของพวกนั้นไปทำไมหรือสะใภ้สาม มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยนะแม่ว่า อีกอย่างหากมีเก็บเอาไว้ก็อันตรายด้วยหากว่าถูกคนของทางการค้นเจอ ในยุคนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้คนคือเสื้อผ้า อาหาร ของยังชีพต่างหาก ทำไมลูกถึงได้อยากได้ของพวกนี้กันแม่สงสัยจริงๆ"คำถามของคุณแม่หยางเม่ยทำให้บรรยากาศในห้องเงียบลงไปชั่วขณะ เพราะพวกเขาทุกคนก็เห็นด้วยในสิ่งที่แม่หยางพูด หยางซีซีเงยหน้าขึ้นมองคุณแม่สามีและทุกคน เธอเข้าใจดีว่าในยุค 70 สิ่งของเหล่านี้ไม่ได้มีความสำคัญเท่ากับอาหารและความอ

    Last Updated : 2024-12-11
  • (จบแล้ว ) 70‘s หยางซีซีฮองเฮาทะลุมิติพร้อมมือวิเศษ   บทที่ 14 อยากรู้อนาคตให้อ่านหนังสือ (พิมพ์)

    บทที่ 14 อยากรู้อนาคตให้อ่านหนังสือ (พิมพ์)หยางซีซีเอนหลังพิงหัวเตียงไม้เก่าๆ ความคิดของเธอวนเวียนอยู่กับคำพูดของหยางซีซีคนนั้น...น้องสาวที่ถูกทิ้งให้อยู่ในเงาของการใช้แรงงานอย่างทารุณของบ้านป้าและลุง"น้องสาวถูกรังแกอยู่ที่ปักกิ่งอย่างนั้นหรือ..."หยางซีซีพึมพำเบาๆ ดวงตาของเธอหรี่ลงราวกับกำลังมองทะลุผ่านกาลเวลาและระยะทางไปยังอีกฟากหนึ่งของประเทศความทรงจำเกี่ยวกับน้องสาวของร่างนี้ผุดขึ้นมาในหัว เธอจำได้ว่าลุงป้าที่ส่งเธอมาทำงานใช้แรงงานแทนลูกลูกของตัวเองเป็นคนอย่างไร คนแบบนี้ย่อมไม่มีทางปฏิบัติต่อน้องสาวของร่างนี้ด้วยความเมตตาแน่ๆ และการที่วิญญาณของหยางซีซีคนนั้นต้องมาปรากฏตัวต่อหน้าเธอเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ของน้องสาวต้องเลวร้ายมาก"แต่จะทำยังไงดีล่ะ..."หยางซีซีครุ่นคิดหนัก ปักกิ่งอยู่ไกลจากที่นี่มากแค่ไหนกันแน่ เธอเองก็ไม่เคยไปมาก่อน ในขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นหนังสือพิมพ์ที่วางอยู่บนโต๊ะพาดหัวมีคำว่า"ปักกิ่ง" เธออ่านคำนี้ออกมาเบาๆ ดวงตาของเธอเป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อยทันใดนั้นเอง เธอก็นึกขึ้นได้ว่าเธอสามารถที่จะเห็นอนาคตของคนและสิ่งของได้เพียงแค่สั

    Last Updated : 2024-12-11
  • (จบแล้ว ) 70‘s หยางซีซีฮองเฮาทะลุมิติพร้อมมือวิเศษ   บทที่ 15 เตรียมตัวเดินทางไปปักกิ่ง 

    บทที่ 15 เตรียมตัวเดินทางไปปักกิ่ง "ถ้าอยากได้เงินก้อนโตเร็วๆ คงต้องพึ่งพาพลังของหัตถ์เทวะแล้วล่ะนะ"หยางซีซีกระซิบกับตัวเองอย่างมั่นใจ ดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่นค่ำวันนั้นหยางซีซีได้บอกกับพ่อสามีว่าเธอต้องการที่จะเดินทางไปปักกิ่ง ให้คุณพ่อช่วยไปขอใบออกนอกพื้นที่ให้เธอด้วย โดยเธอจะออกเดินทางในอีก 3วันข้างหน้า คุณแม่หยางเมื่อได้ยินว่าลูกสะใภ้สามต้องการจะเดินทางกลับบ้านจึงได้ถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อหยางซีซีจึงได้บอกกับคุณแม่หยางว่าเธอเคยสัญญากับน้องสาวเอาไว้ว่าหากตั้งตัวได้จะไปรับมาอยู่ด้วย ดังนั้นเธอคิดว่าตอนนี้น่าจะถึงเวลาแล้ว และไม่ให้คุณแม่หยางเป็นห่วงหากว่าน้องเธอมาอยู่ด้วยเธอจะหาบ้านเช่าให้น้องเธออยู่เองเพราะว่าบ้านนี้ก็ทั้งเล็กและแคบ หากว่ามีเพิ่มมาอีกคนน่าจะอยู่กันลำบาก เมื่อคิดถึงตรงนี้หยางซีซีจึงได้เอ่ยกับคุณพ่อหยางว่า"คุณพ่อคะ หากว่าพวกเราต้องการจะสร้างบ้านใหม่จะทำได้หรือเปล่าคะ เพราะว่าบ้านเราก็เก่าและคับแคบมากแล้ว หากว่าขยับขยายออกไปหน่อยก็น่าจะดี”“ความจริงแม่ก็คิดอยู่เหมือนกันนะ เอาอย่างนี้ตาเฒ่าตอนที่ไปทำหนังสือของออกนอกพื้นที่กับหัวหน้าก็ลองถามเรื่องการจั

    Last Updated : 2024-12-11
  • (จบแล้ว ) 70‘s หยางซีซีฮองเฮาทะลุมิติพร้อมมือวิเศษ   บทที่ 1 ต่อให้เป็นหมอเทวดาก็ยากจะทำให้เจ้าฟื้นขึ้นมาได้!!

    บทที่ 1 ต่อให้เป็นหมอเทวดาก็ยากจะทำให้เจ้าฟื้นขึ้นมาได้!!“อ้ากกกก!!! เจ้า...เจ้า” ...หยางซีซีกระอักเลือดออกมาเป็นสาย นางพยายามที่จะชี้หน้าของเจียงกุ้ยเฟย ทว่าร่างกายที่เคยแข็งแรงกลับอ่อนล้าสิ้นเรียวแรงราวกับใบไม้เหี่ยวเฉาด้วยพิษร้ายแรงที่ร่างของนางได้รับ ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างมองไปยังใบหน้าของเจียงกุ้ยเฟยที่เต็มไปด้วยความชิงชังเคียดแค้น ใบหน้าที่เคยเป็นเพื่อนรักของนางมาตั้งแต่เด็กจนกระทั่งทั้งคู่ได้แต่งเข้าวังหลวงด้วยกันเจียงกุ้ยเฟยเดินเข้ามาช้าๆ เสียงหัวเราะเย้ยหยันของนางดังก้องกังวานไปทั่วบริเวณ"เจ้าคิดว่าจะหนีข้าไปได้อย่างนั้นรึ หยางซีซี! ฮ่าๆๆ"จากนั้นนางก็หยิบมีดสั้นขึ้นมาช้าๆ มีดสั้นเล่มนั้น เล่มที่นางเห็นว่าฮ้องเต้เป็นคนมอบให้เจียงกุ่ยเฟย นางจำอัญมณีตรงด้ามมันได้ เพราะเจียงกุ้ยเฟยนั้นมักนำมาให้นางดูตลอดเพราะว่านางชอบมีดเล่มนี้มากนางเลื่อนมีดสั้นเล่มนั้นไปมาใกล้กับหัวใจของหยางซีซีอีกครั้ง หยางซีซีกัดริมฝีปากแน่นพยายามจะพูดอะไรสักอย่าง แต่เสียงที่ออกมาได้เพียงเสียงครางแผ่วเบา"ข้า...ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าชนะง่ายๆ หรอก เจียงกุ้ยเฟย"เสียงของนางแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยินจากนั้นนางก็กระอั

    Last Updated : 2024-11-16
  • (จบแล้ว ) 70‘s หยางซีซีฮองเฮาทะลุมิติพร้อมมือวิเศษ   บทที่ 2 หยางซีซี

    บทที่ 2 หยางซีซีเหตุใดนางถึงได้ทะลุมิติมาในยุคอนาคตตั้งไกลถึง 1000 กว่าปีเช่นนี้? ในเมื่อนางก็ถูกฆ่าตายแล้วเหตุใดนางถึงไม่ได้ลงนรกหรือไม่ก็ขึ้นสวรรค์เหมือนคนอื่น? มีคำถามเกิดขึ้นมากมายในหัวของหยางซีซีในตอนนี้ นางพยายามนึกถึงความทรงจำที่ร่างเดิมทิ้งเอาไว้ให้เกี่ยวกับร่างนี้และครอบครัวนี้รวมทั้งในยุคสมัยนี้ด้วย หยางซีซีค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งได้ในที่สุด จากความเจ็บปวดตามร่างกายทำให้นางนั้นทราบว่าร่างนี้นั้นป่วยหนัก ไข้ขึ้นสูงจนกระทั่งเสียชีวิตลงอย่างเงียบคนเดียว โดยที่คนในบ้านนั้นไม่ทราบเลย นางมองไปรอบๆ ห้องเล็กๆ เก่าโทรมนี้ทำให้นางทราบได้ทันทีว่าชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวนี้นั้นยากจนมาก ไหนจะผ้าห่มเก่าบางที่มีเพียง 2 ผืนที่ห่มเด็กน้อย2คนนี้อยู่ที่แทบจะไม่สามารถป้องกันความหนาวเหน็บได้เลยก็ว่าได้ หยางซีซีหลับตานิ่งอีกครั้งจากนั้นก็นึกถึงความทรงจำต่างๆ เกี่ยวกับร่างนี้ทันที..เธอคนนี้คือหลิวซีซียุวชนหญิงผู้มีการศึกษาที่ถูกส่งมาทำงานจากปักกิ่ง เธอและน้องสาว (อายุ8 ขวบ) อาศัยอยู่กับลุงและป้าซึ่งครอบครัวที่ปักกิ่ง ซึ่งก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากนัก และในสังคมที่ผู้หญิงไม่มีค่าเธอจึงถูกครอบครัวของป้าส

    Last Updated : 2024-11-16
  • (จบแล้ว ) 70‘s หยางซีซีฮองเฮาทะลุมิติพร้อมมือวิเศษ   บทที่ 3 ฝ่ามือหัตถ์เทวะ

    บทที่ 3 ฝ่ามือหัตถ์เทวะหยางซีซียังคงมองฝ่ามือของตนเองด้วยความความดีใจ ดวงตาคู่สวยของเธอเบิกกว้างราวกับไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น นางค่อยๆ ยกมือขึ้นมาแนบแก้มเบาๆ เพื่อสัมผัสความรู้สึกนี้และให้แน่ใจว่าวิชาหัตถ์เทวะอันแสนวิเศษนั้นได้ตามนางมาสู่ยุคนี้ด้วยจริงๆทันใดนั้น นางก็ได้ยินเสียงลมหนาวพัดกระหน่ำผ่านบ้านไม้หลังเก่า ผนังบ้านสั่นไหวและครางเบาๆ เมื่อรับแรงลม หยางซีซีเงยหน้าขึ้นมองไปที่ผนังบ้านที่เก่าที่แทบจะบังแดดลมไม่ได้ สีหน้าของนางแสดงความเป็นห่วง ก่อนจะก้มหน้าลงมองเด็กน้อยทั้งสองอีกครั้งเด็กๆ กำลังนอนขดตัวอยู่บนเตียงเตาและขยับเข้าหาร่างของเธอ แต่ทว่าความหนาวเย็นจากลมหนาวที่รุนแรงก็ทำให้พวกเขาเหมือนจะสู้ไม่ไหว ริมฝีปากของเด็กน้อยทั้งคู่เริ่มซีดและสั่นเล็กน้อย แสดงให้เห็นถึงความหนาวเหน็บที่พวกเขาต้องทน หยางซีซีรู้สึกเจ็บปวดที่เห็นภาพนั้น นางค่อยๆ ลูบใบหน้าของเด็กน้อยทั้งสองเบาๆ ด้วยความอ่อนโยน ราวกับกลัวว่าพวกเขาจะตื่นจากการหลับเมื่อเห็นว่าผิวหน้าของเด็กๆ เริ่มผ่อนคลายลง นางใช้ฝ่ามือที่ตอนนี้มีพลังของหัตถ์เทวะวิ่งวนอยู่ ลูบไปที่เสื้อผ้าของเด็กๆ อย่างเบามือ ทันใดนั้น เสื้อผ้าที่เคยเ

    Last Updated : 2024-11-16
  • (จบแล้ว ) 70‘s หยางซีซีฮองเฮาทะลุมิติพร้อมมือวิเศษ   บทที่ 4 ตระกูลหยาง

    บทที่ 4 ตระกูลหยางเมื่อแสงสีขาวค่อยๆ ดับลง นางรู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่ามากกว่าที่เคย ตอนนี้หลังจากที่นางได้รับพลังการเยียวยาจะหัตถ์เทวะแล้ว ราวกับว่าร่างกายของตัวเองคล้ายจะสามารถเปล่งแสงออกมาได้อย่างไรอย่างนั้น หยางซีซีรู้สึกดีมากทีเดียว ตอนนี้นางมีฝ่ามือหัตถ์เทวะนางจะกลัวอะไรกับความลำบากยากแค้นกันเล่า…เอาหล่ะ!!! ทีนี้ก็มาดูกันว่าสวรรค์เตรียมอะไรให้นางบ้าง หลังจากที่ส่งนางมาอยู่ในยุคที่ยากลำบากเช่นนี้….หยางซีซีลุกขึ้นยืนและเดินไปที่หน้าต่างบานเก่า เธอค่อยๆ เปิดมันออกทันทีที่หน้าต่างเปิดเสียงลมหนาวพัดหวือหวาจนหน้าต่างไม้สั่นสะท้าน เธอเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆสีเทา หิมะสีขาวบริสุทธิ์ปกคลุมไปทั่วทุ่งนาจนกลายเป็นสีขาวโพลนราวกับผืนผ้าใบขนาดใหญ่ เกล็ดหิมะที่โปรยปรายลงมาเบาๆ เหมือนกับขนนกที่ร่วงหล่นจากท้องฟ้า ลมหนาวพัดกระหน่ำเข้ามาในห้องอีกครั้งพร้อมกับเกล็ดหิมะเล็กๆ ที่ปลิวว่อนไปมา เธอเบือนหน้าหนีลมหนาว แล้วมองออกไปยังทุ่งนาที่อยู่ด้านนอก บ้านเรือนของชาวบ้านส่วนใหญ่สร้างด้วยอิฐดินเผาหลังคาปูกระเบื้องสีเทา ดูเก่าแก่และทรุดโทรม ผนังบ้านหลายหลังเริ่มแตกร้าวเพราะสภาพอากาศที่

    Last Updated : 2024-11-16
  • (จบแล้ว ) 70‘s หยางซีซีฮองเฮาทะลุมิติพร้อมมือวิเศษ   บทที่ 5 ครอบครัวนี้ยากจนเกินไป

    บทที่ 5 ครอบครัวนี้ยากจนเกินไปหยางซีซีค่อยๆ เปิดประตูห้องและเดินออกไปตามเสียง เสียงกุกกักกระทบกันของหม้อไหดังมาจากห้องครัว เธอเห็นหยางชิงหลิงพี่สะใภ้ใหญ่กำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารเช้า ในกระทะขนาดใหญ่กำลังมีควันลอยฟุ้งออกมา กลิ่นหอมของโจ๊กเจือปนกับกลิ่นผักดองลอยมาในอากาศ ทำให้หยางซีซีรู้สึกหิวขึ้นมาทันที อาจจะเป็นเพราะไม่ได้กินอาหารมาทั้งคืนทำให้ตอนนี้แม้ได้กลิ่นอาหารเธอก็รู้สึกน้ำลายสอแล้ว เมื่อหยางชิงหลินเห็นว่าคนที่เดินมาคือสะใภ้สามเธอเอ่ยทักเบาๆว่า“น้องสะใภ้สามอาการดีขึ้นแล้วหรือ หากว่ายังไม่สบายอยู่ก็ยังไม่ต้องออกมาช่วยพี่หรอกนะ เดียวสะใภ้รองจะออกมาช่วยพี่เอง”น้ำเสียงของพี่สะใภ้ใหญ่ฟังดูอบอุ่น และแฝงเอาไว้ด้วยความห่วงใยอย่างจริงใจ หยางซีซีรีบเดินเข้ามายืนข้างและมองไปที่ของที่วางอยู่บนโต๊ะที่พี่สะใภ้ใหญ่เตรียมเพื่อจะทำอาหารเช้า ขณะเดียวกันหยางชิงหลิงมองสำรวจร่างกายที่ผอมแห้งของหยางซีซี เธอพบว่าวันนี้ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าในตอนที่น้องสะใภ้สามเดินเข้ามาเธอเหมือนจะเห็นประกายออร่าออกมาจากร่างของน้องสะใภ้สาม ไหนจะท่าเดินที่ดูเหมือนจะสง่างามราวกับจะลอยมาเหมือนพวกองค์หญิงองค์ชา

    Last Updated : 2024-11-16

Latest chapter

  • (จบแล้ว ) 70‘s หยางซีซีฮองเฮาทะลุมิติพร้อมมือวิเศษ   บทที่ 15 เตรียมตัวเดินทางไปปักกิ่ง 

    บทที่ 15 เตรียมตัวเดินทางไปปักกิ่ง "ถ้าอยากได้เงินก้อนโตเร็วๆ คงต้องพึ่งพาพลังของหัตถ์เทวะแล้วล่ะนะ"หยางซีซีกระซิบกับตัวเองอย่างมั่นใจ ดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่นค่ำวันนั้นหยางซีซีได้บอกกับพ่อสามีว่าเธอต้องการที่จะเดินทางไปปักกิ่ง ให้คุณพ่อช่วยไปขอใบออกนอกพื้นที่ให้เธอด้วย โดยเธอจะออกเดินทางในอีก 3วันข้างหน้า คุณแม่หยางเมื่อได้ยินว่าลูกสะใภ้สามต้องการจะเดินทางกลับบ้านจึงได้ถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อหยางซีซีจึงได้บอกกับคุณแม่หยางว่าเธอเคยสัญญากับน้องสาวเอาไว้ว่าหากตั้งตัวได้จะไปรับมาอยู่ด้วย ดังนั้นเธอคิดว่าตอนนี้น่าจะถึงเวลาแล้ว และไม่ให้คุณแม่หยางเป็นห่วงหากว่าน้องเธอมาอยู่ด้วยเธอจะหาบ้านเช่าให้น้องเธออยู่เองเพราะว่าบ้านนี้ก็ทั้งเล็กและแคบ หากว่ามีเพิ่มมาอีกคนน่าจะอยู่กันลำบาก เมื่อคิดถึงตรงนี้หยางซีซีจึงได้เอ่ยกับคุณพ่อหยางว่า"คุณพ่อคะ หากว่าพวกเราต้องการจะสร้างบ้านใหม่จะทำได้หรือเปล่าคะ เพราะว่าบ้านเราก็เก่าและคับแคบมากแล้ว หากว่าขยับขยายออกไปหน่อยก็น่าจะดี”“ความจริงแม่ก็คิดอยู่เหมือนกันนะ เอาอย่างนี้ตาเฒ่าตอนที่ไปทำหนังสือของออกนอกพื้นที่กับหัวหน้าก็ลองถามเรื่องการจั

  • (จบแล้ว ) 70‘s หยางซีซีฮองเฮาทะลุมิติพร้อมมือวิเศษ   บทที่ 14 อยากรู้อนาคตให้อ่านหนังสือ (พิมพ์)

    บทที่ 14 อยากรู้อนาคตให้อ่านหนังสือ (พิมพ์)หยางซีซีเอนหลังพิงหัวเตียงไม้เก่าๆ ความคิดของเธอวนเวียนอยู่กับคำพูดของหยางซีซีคนนั้น...น้องสาวที่ถูกทิ้งให้อยู่ในเงาของการใช้แรงงานอย่างทารุณของบ้านป้าและลุง"น้องสาวถูกรังแกอยู่ที่ปักกิ่งอย่างนั้นหรือ..."หยางซีซีพึมพำเบาๆ ดวงตาของเธอหรี่ลงราวกับกำลังมองทะลุผ่านกาลเวลาและระยะทางไปยังอีกฟากหนึ่งของประเทศความทรงจำเกี่ยวกับน้องสาวของร่างนี้ผุดขึ้นมาในหัว เธอจำได้ว่าลุงป้าที่ส่งเธอมาทำงานใช้แรงงานแทนลูกลูกของตัวเองเป็นคนอย่างไร คนแบบนี้ย่อมไม่มีทางปฏิบัติต่อน้องสาวของร่างนี้ด้วยความเมตตาแน่ๆ และการที่วิญญาณของหยางซีซีคนนั้นต้องมาปรากฏตัวต่อหน้าเธอเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ของน้องสาวต้องเลวร้ายมาก"แต่จะทำยังไงดีล่ะ..."หยางซีซีครุ่นคิดหนัก ปักกิ่งอยู่ไกลจากที่นี่มากแค่ไหนกันแน่ เธอเองก็ไม่เคยไปมาก่อน ในขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นหนังสือพิมพ์ที่วางอยู่บนโต๊ะพาดหัวมีคำว่า"ปักกิ่ง" เธออ่านคำนี้ออกมาเบาๆ ดวงตาของเธอเป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อยทันใดนั้นเอง เธอก็นึกขึ้นได้ว่าเธอสามารถที่จะเห็นอนาคตของคนและสิ่งของได้เพียงแค่สั

  • (จบแล้ว ) 70‘s หยางซีซีฮองเฮาทะลุมิติพร้อมมือวิเศษ   บทที่ 13 สร้างค่ายกลปลูกผัก

    บทที่ 13 สร้างค่ายกลปลูกผักหลังจากที่แบ่งเงินทองกันเรียบร้อยแล้ว ทุกคนต่างก็มีความสุขกับสิ่งที่พวกเขาได้รับมา ตอนนี้พวกเขาต่างก็ปรึกษากันว่าวันต่อไปใครจะเป็นคนไปขายของซึ่งก็ตกลงกันได้ว่าการขายของยังคงให้เป็น หยางจิ้ว สะใภ้รองและสะใภ้สาม เพราะถือว่าได้เข้าไปในตลาดมืดแล้ว ไม่ต้องให้คนอื่นๆ เข้าไปอีก ซึ่งหยางซีซีและครอบครัวได้ใช้เวลาพูดคุยพักใหญ่ จากนั้นบรรยากาศก็ค่อยๆ เงียบลงเมื่อคุณแม่หยางเม่ยหันไปมองกองทองคำและเครื่องประดับที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างสงสัย สายตาของเธอจับจ้องไปที่หยางซีซี ก่อนจะเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ"ลูกอยากได้ของพวกนั้นไปทำไมหรือสะใภ้สาม มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยนะแม่ว่า อีกอย่างหากมีเก็บเอาไว้ก็อันตรายด้วยหากว่าถูกคนของทางการค้นเจอ ในยุคนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้คนคือเสื้อผ้า อาหาร ของยังชีพต่างหาก ทำไมลูกถึงได้อยากได้ของพวกนี้กันแม่สงสัยจริงๆ"คำถามของคุณแม่หยางเม่ยทำให้บรรยากาศในห้องเงียบลงไปชั่วขณะ เพราะพวกเขาทุกคนก็เห็นด้วยในสิ่งที่แม่หยางพูด หยางซีซีเงยหน้าขึ้นมองคุณแม่สามีและทุกคน เธอเข้าใจดีว่าในยุค 70 สิ่งของเหล่านี้ไม่ได้มีความสำคัญเท่ากับอาหารและความอ

  • (จบแล้ว ) 70‘s หยางซีซีฮองเฮาทะลุมิติพร้อมมือวิเศษ   บทที่ 12 แบ่งเงิน

    บทที่ 12 แบ่งเงินพวกเขาทั้งสามช่วยกันขายเนื้ออยู่อีกเกือบ 1 ชั่วโมงเมื่อเห็นว่าเนื้อใกล้จะหมดแล้วจึงได้เก็บของและพวกกันออกมาจากตลาดมืดทันที…ระหว่างทางที่เดินออกมาหยางซีซีตาไวเธอเห็นว่ามีคนนำพวกทองและเครื่องประดับ ภาพวาด แจกันของเก่าโบราณออกมาวางขายกันอยู่หลายร้านทีเดียวเธอหันมองและดวงตาก็วาววับขึ้นมาทันที….คราวหน้าเจอกัน!!!!!ทั้งสามรีบเดินออกมาจากตลาดมืดแห่งนี้ทันที เพราะถึงจะค้าขายได้ดีขนาดไหนแต่ว่าที่นี่ก็ถือว่าเป็นที่แหล่งผิดกฏหมายและอันตรายมากอยู่ดี และการที่พวกเขามีเนื้อมากมายมาขายก็อาจจะทำให้ถูกเพ่งเล็งได้ เพราะว่าพวกเขาเข้ามาเพียงตะกร้าใบเดียวเหตุใดถึงได้ขายเนื้อไม่หมดสักทีนะสิ หากจะนับรวมๆ แล้วเนื้อที่ขายไปนั้นเกือบ 220 ชั่งได้เมื่อออกมาจากตลาดมืดแล้วทั้งสามก็ตรงไปที่สหกรณ์แวะซื้อพวกเครื่องปรุงนมผง น้ำตาล เกลือ ซีอิ้ว และเครื่องเทศอีกหลายอย่างและหยางฟู่เหยายังซื้อลูกอมตรากระต่ายไปให้หลานๆ ด้วยถุงใหญ่ หยางซีซีเห็นว่ามีแตงโมลูกไม่ใหญ่นักวางอยู่ รวมทั้งผลไม้หายากอย่างสตอเบอร์รี่และองุ่นที่ไม่รู้หลุดรอดมาได้อย่างไรอยู่ 2 กล่อง เธอจึงหยิบทันทีถึงแม้ว่าราคาของสตอเบอร์รี่จะแพงมากต

  • (จบแล้ว ) 70‘s หยางซีซีฮองเฮาทะลุมิติพร้อมมือวิเศษ   บทที่ 11 เนื้อแลกทองคำ

    บทที่ 11 เนื้อแลกทองคำ"นั่นมัน… ทองคำนี้!!! " หยางซีซีกระซิบกับตัวเองอย่างตกใจเธอมองไปที่กองทองคำและเครื่องประดับเหล่านั้นอีกครั้งด้วยความสงสัย ทำไมสองตาหลานถึงมีของมีค่าแบบนี้มาขายในตลาดมืดได้ และทำไมถึงไม่มีใครสนใจที่จะซื้อเลย หยางซีซีมองจ้องไปที่กองทองคำและเครื่องประดับอยู่นานก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปหาสองตาหลานทันที…ในฐานะฮองเฮา หยางซีซีเคยได้สัมผัสกับเครื่องประดับอันงดงามมากมายนับไม่ถ้วน ทั้งเพชรพลอยและทองคำบริสุทธิ์ต่างถูกนำมาประดับประดาตัวเธอเพื่อแสดงถึงฐานะและอำนาจ ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดแล้วของนอกกายเหล่านี้จะไม่สามารถที่จะช่วยชีวิตเธอเอาไว้ได้ก็ตามถึงกระนั้นความเป็นหญิงก็ยังคงฝังอยู่ในตัว เธอหลงใหลในความสวยงามของเครื่องประดับเช่นเดียวกับผู้หญิงทั่วไป การได้เห็นทองคำและเครื่องประดับถูกกองรวมกันไว้เหมือนของไม่มีค่าแบบนี้ ทำให้หัวใจของเธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก หยางซีซีเดินเข้าไปใกล้แผงขายของที่ดูจะทรุดโทรม สองตาหลานนั่งตัวงออยู่เพราะความหนาว อยู่ข้างๆ กองของประดับที่ดูจะขัดกับบรรยากาศของตลาดมืดแห่งนี้สายตานางจับจ้องไปยังกองทองคำและเครื่องประดับที่วางเรียงรายอยู่บนผืนผ้าเก่

  • (จบแล้ว ) 70‘s หยางซีซีฮองเฮาทะลุมิติพร้อมมือวิเศษ   บทที่ 10 เตรียมของไปขาย ‘ที่แห่งนั้น’

    บทที่ 10 เตรียมของไปขาย ‘ที่แห่งนั้น’หลังจากที่หยางซีซีให้ทุกคนฝึกลองใช้ตะกร้ามิติ จนทุกคนเข้าใจและสามารถที่จะทำเองได้แล้ว จากนั้นคนในตระกูลหยางก็เดินเรียงกันกลับไปที่สวนและเล้าไก่อีกครั้ง เมื่อไก่สองตัวที่กำลังนอนพักอยู่เห็นคนบ้านนี้เดินกลับมาหาพวกมันอีกแล้วพวกมันก็หันมองหน้ากันอย่างสงสัยก่อนจะส่งเสียงร้องออกมาเหมือนจะเป็นการถามว่า พวกเขามาทำไมกันอีก...ไข่ก็ไข่ให้ไปแล้วอย่างไร...เมื่อพวกมันมองไปด้านหลังเห็นเจ้าหนุ่มคนเดิมหอบผักกาดขาวมาหอบใหญ่เข้ามา พวกมันมองหน้ากันอีกครั้งอย่างบอกนะว่า.….ตอนที่คนตระกูลหยางกลับออกไปพวกเขาได้ไข่ที่เจ้าไก่ทั้งสองตัวช่วยกันเบ่งจนจะเป็นลมไปอีก 20 ใบ...ตอนนี้พวกมันสองตัวต่างก็พยายามที่เงยคอขึ้นมามองแต่ก็ทำไม่ได้เพราะความเหนื่อย หยางซีซีเห็นเช่นนั้นก็หัวเราะเบาๆ ก่อนพูดกับพวกมันว่าช่วงนี้พวกมันอาจจะต้องเหนื่อยหน่อยนะ จากนั้นเธอก็เทน้ำที่ใช้มือหัตถ์เทวะจุ่มลงไปและใส่พลังลงไปมากหน่อยให้พวกมันดื่มกิน และทันทีที่พวกมันกินน้ำอาการเหนื่อยล้าจากการเบ่งไข่มากมายนั้นก็หายเป็นปลิดทิ้งทันทีตอนนี้หากสังเกตดูดีตัวของพวกมันเหมือนจะอ้วนขึ้นและมีขนสีทองแซมออกมาหลายเส้นที

  • (จบแล้ว ) 70‘s หยางซีซีฮองเฮาทะลุมิติพร้อมมือวิเศษ   บทที่9 สร้างมิติใส่ของ

    บทที่9 สร้างมิติใส่ของ“..ฉันรู้รหัสค่ะ”สะใภ้รองผู้งดงามและเป็นคนเงียบ ๆ เอ่ยขึ้นมาเบาๆ“พี่ใหญ่ของฉันแอบส่งมาให้ฉันพร้อมกับของที่ส่งมาให้รอบล่าสุดค่ะ”เธอเฉลยให้ทุกคนได้ฟังว่าได้รหัสมาอย่างไร เพราะการที่จะได้รหัสที่จะเข้าไปในตลาดมืดนั้นไม่ง่ายนัก ต้องคนที่เคยเข้าไปเท่านั้นถึงจะได้มา เพราะตลาดมืดนั้นเป็นการสร้างขึ้นมาโดยผู้มีอิทธิพลกลุ่มหนึ่ง ดูเหมือนว่าจะเป็นทหารเก่าอะไรสักอย่างและหากว่าหยางฟู่เหยาจำไม่ผิดพี่ชายเธอเคยบอกว่าเจ้าของตลาดคือทหารเก่าที่ผันตัวมาเป็นเจ้าพ่อน่าจะชื่อฉีฮ้าว อะไรสักอย่างเธอก็จำไม่ค่อยได้เพราะว่าเส้นทางของภรรยาพวกชาวนาอย่างเธอนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกเจ้าพ่ออยู่แล้วก็เลยไม่อยากจะใส่ใจจำพูดถึงพี่ใหญ่ของหยางฟู่เหยาเขาคือจางอี้เฉิง พี่ใหญ่จางทำงานที่โรงงานเหล็กในตัวเมืองเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ ทำให้หน้าที่การงานและการเงินถือว่าดีมาก เพราะว่าสมัยนั้นการได้ทำงานโรงงานนั้นถือว่ามีชามข้าวเหล็กอยู่ในมือ กินใช่อย่างไรก็ไม่หมด คนส่วนใหญ่จึงอยากจะให้ลูกหลานเข้าทำงานในโรงงานกันมาก วันที่เธอได้พบพี่ใหญ่นั้นหยางฟู่เหยาจำได้ดี วันนั้นเธอกับหยางจิ้งเดินทางเข้าเมืองเพื่อซื้อของ

  • (จบแล้ว ) 70‘s หยางซีซีฮองเฮาทะลุมิติพร้อมมือวิเศษ   บทที่ 8 ต้องการหาเงินเข้าบ้าน

    บทที่ 8 ต้องการหาเงินเข้าบ้านบรรยากาศอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วห้องกินข้าวของบ้านหลังเล็กของตระกูลหยาง เสียงเคี้ยวอาหารเบาๆ ผสมผสานกับเสียงหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุขของเด็กๆ ทำให้บรรยากาศดูมีชีวิตชีวาผิดจากวันปกติ"เฮ้อ...ฉันไม่เคยได้กินเนื้ออิ่มขนาดนี้มาก่อนเลย"หยางจิ้ง ผู้เป็นคนพูดน้อยที่สุดของบ้านเอ่ยขึ้นเบาๆ คำพูดสั้นๆ นี้สะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกของทุกคนในบ้านได้เป็นอย่างดี วันนี้เป็นวันที่พิเศษจริงๆ เพราะพวกเขาได้กินเนื้อไก่กันอย่างเต็มที่ ไก่ 2 ตัว ทำอาหารออกมาได้มากมายและคุณแม่ก็ให้พวกเขากินกันเต็มที่เลยจริงๆ หลังจากที่ต้องอดอยากมานาน ต้องทราบว่าในยุค 70 ที่อาหารการกินนั้นขาดแคลนมาก การได้กินเนื้อสัตว์สักมื้อถือเป็นเรื่องที่หรูหราสำหรับครอบครัวชาวนาอย่างพวกเขามากเมนูอาหารวันนี้จัดเต็มตั้งแต่โจ๊กไก่แบบเข้มข้นคนละสองชาม หรือหากใครไม่พอก็เติมได้อีก น้ำแกงไก่รสเข้มข้น ไก่ผัดขิงหอมกรุ่นกินเข้าไปแล้วทำให้ร่างกายอบอุ่น ผัดผักกาดขาวที่รสชาติทั้งหวานทั้งกรอบ และอาหารจานพิเศษที่แม้จะปีใหม่ก็ยากที่จะได้กินนั้นคือ ไก่ทอดพริกเกลือกรอบนอกนุ่มใน ซึ่งเป็นเมนูพิเศษที่คุณแม่หยางเม่ยใจดีอนุญาตให้พ

  • (จบแล้ว ) 70‘s หยางซีซีฮองเฮาทะลุมิติพร้อมมือวิเศษ   บทที่ 7 กินเนื้อ กินเนื้อ กินเนื้อ

    บทที่ 7 กินเนื้อ กินเนื้อ กินเนื้อ“เรื่องมันก็เป็นอย่างนี้แหละค่ะคุณพ่อคุณแม่!!”หลังจากที่ทุกคนมากันครบและอาการตื่นเต้นจากการเห็นสวนผักเก่าๆ โทรมๆ ของพวกเขากลายเป็นเหมือนสวนสวรรค์ทุเลาลงบ้างแล้ว หยางซีซีก็เริ่มแต่งเรื่อง เออ...เริ่มเล่าเรื่องเกี่ยวกับมือวิเศษของเธอให้กับครอบครัวได้รู้กัน“คุณพ่อกับคุณแม่ของน้องสะใภ้สามที่ตายไปหลายปีแล้วมาเข้าฝันและให้พรวิเศษอย่างนั้นหรือ?”เป็นพี่สะใภ้ใหญ่ที่ได้ฟังเรื่องราวที่หยางซีซีเล่าเอ่ยถามออกมา และคำถามของเธอก็แทนใจของทุกคนในบ้านเลยทีเดียวหยางซีซีพยายามเล่าเรื่องราวของตนด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา แต่แฝงไปด้วยความศรัทธาและความอัศจรรย์ใจ อย่าลืมว่าเธอคือฮองเฮามาก่อนนะ การเล่าเรื่องให้คนเชื่อถือจะไปอยากอะไร..จริงไหม!!“พวกพี่ก็ทราบว่าฉันนอนป่วยอยู่หลายวัน ในตอนนั้นวิญญาณของฉันได้หลุดออกจากร่างไปแล้วค่ะ ฉันรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในอุโมงค์มืดๆ แล้วก็เห็นแสงสีทองสว่างอยู่ข้างหน้า ฉันเลยเดินตามแสงนั้นไปเรื่อยๆ แสงสีทองนั้นสว่างจ้าราวกับดวงอาทิตย์ มันดึงดูดให้ฉันเดินเข้าไปหาอย่างไม่รู้ตัว รู้สึกเหมือนถูกมันดูดกลืนเข้าไป ทันใดนั้นเอง ฉันก็ได้ยินเสียงเรี

DMCA.com Protection Status