Share

ค่ำคืนคนโสด
ค่ำคืนคนโสด
Author: เริงใจ

บทที่ 1

last update Last Updated: 2025-03-01 19:32:04

         “ส้ม …”

         “เราเลิกกันเถอะ …”

        

         “อะไรนะ”

         คำพูดที่เธอไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากคนรักที่คบหากันมานานถึง 7 ปี เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แววตาเขาไม่ได้สะท้อนถึงความโศกเศร้า หรือเสียใจเลยสักนิด

         “ทะ ทำไมล่ะ? เชน”

         “เธออย่าเสียเวลากับเราเลย” เขาเบือนหน้าหนี เมื่อเห็นแววตาใสซื่อของเธอ

         “มะ .. ไม่ เราไม่ได้เสียเวลาเลย นะ .. นี่ไง ปีหน้าเราก็จบ ป.โทแล้ว เราก็จะได้แต่งงานกัน”

         ส้มโอมองใบหน้าคมของชายคนรักด้วยแววตาสั่นไหว มือเล็กคว้าแขนแกร่งของเขา ราวกับขอร้องว่าอย่าไป

         เธอยังจำได้ดีวันที่เขาให้คำมั่นสัญญาว่าจะรอจนกว่าเธอจะเรียนจบแล้วจะแต่งงานสร้างครอบครัวด้วยกัน

         แต่ทว่า … วันนี้กลับกลายเป็นเขาที่ดูเหมือนจะทำผิดสัญญา

         “ส้ม .. พอเถอะ”

         ราเชนชักแขนออกจากการเกาะกุมของมือเล็ก ๆ สายตาเย็นชามองใบหน้าสวยอย่างอึดอัดใจ

         สายตาเศร้าหมองช้อนขึ้นมองคนตัวสูง ริมฝีปากสั่นระริก เขาเหมือนโลกทั้งใบของเธอ หากวันนี้เสียเขาไปเธอเองก็ไม่รู้จะมีชีวิตต่อได้เช่นไร ในเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา เขาคือคนเดียวที่เธอมีอยู่ ชีวิตเธอไม่เหลือใครอีกแล้ว

         “เชน .. เราอยู่ไม่ได้”

         “ส้ม!”

         เขาถอนหายใจยาวอย่างหน่ายใจ ดวงตาคมจ้องมองร่างเล็กด้วยท่าทีหมางเมิน

         “เราคบกับส้มต่อไม่ได้แล้ว ส้มเข้าใจมั้ย?”

         ราเชนกระแทกเสียงอย่างเหลืออด การบอกเลิกครั้งนี้ดูเหมือนมันจะยืดเยื้อและเนิ่นนานกว่าที่เขาคิด เพราะที่ผ่านมาส้มโอมักจะเชื่อฟังเขาอย่างดี เขาพูดอะไรเธอก็จะคล้อยตามหมด เว้นแต่ครั้งนี้ ... ที่เธอดื้อรั้น

         “เราไม่เข้าใจ ทำไมล่ะ ทำไม?”

         หยาดน้ำใสร่วงเผาะจากตาคู่สวย น้ำเสียงสั่นเครือน้อย ๆ ส่งผ่านความรู้สึกเจ็บปวดออกไป

         “เราทำคนอื่นท้อง!!”

         ประโยคนั้นทำเอาเธอนิ่งงันราวกับท่อนไม้แข็งแม้ลมพัดก็มิได้สั่นไหว ประโยคนั้นยังคงก้องสะท้อนอยู่ในโสตประสาทเธอซ้ำ ๆ ราวกับเทปที่เล่นวน

         “เราทำคนอื่นท้อง!!”

         “เราทำคนอื่นท้อง!!”

         “เราทำคนอื่นท้อง!!”

         “อะไรนะ?” เธอกรีดร้องราวกับคนบ้า ที่เสียสติ เธอพูดประโยคเดิมซ้ำ ๆ

         “ไม่จริง! ไม่จริง!! ไม่จริง!!!”

         เรือนหน้าสวยบิดเบี้ยวจากการร้องไห้และความเสียใจที่จู่โจมใส่อย่างไม่ใยดี มือเรียวขยุ้มเรือนผม ราวกับจะฉีกกระชากออกจากหนังศีรษะ เสียงกรีดร้องของเธอดังก้องภายในห้องสี่เหลี่ยมที่กำลังเคยเป็นพื้นที่ปลอดภัยของเธอ แต่วันนี้ … มันกลับไม่มีอีกแล้ว

         “ส้ม! ส้ม!!”

         มือหนาของเขาคว้าเอาข้อมือเล็กที่ขยุ้มผมตัวเองจนหลุดออกเป็นหย่อม ๆ พลางเอ่ยชื่อเธอเสียงแข็งหวังเรียกสติ

         “ทำไมทำกับเราแบบนี้ ทำไม?!”

         หยาดน้ำใสไหลรินอาบแก้มเนียน เรียวขาที่เคยแข็งแรงกลับอ่อนยวบ ทิ้งตัวลงตรงพื้นกระเบื้องด้านล่าง

         “เราผิดเอง แต่ตอนนี้เธอคนนั้นกำลังตั้งท้องลูกของเรา เราต้องรับผิดชอบเธอ”

         “แล้วเราล่ะ? ใครจะรับผิดชอบความรู้สึกของเรา”

         คำถามนั้นกลับไม่มีเสียงตอบรับจากราเชน ใบหน้าเศร้าสร้อยไล่สายตามองชายคนรักที่นั่งนิ่งอยู่ตรงหน้า

         “ส้มไปมีชีวิตที่ดีกว่านี้เถอะ อย่าอยู่กับเราเลย”

         เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเนือย ๆ ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าเธออย่างจริงจัง มันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับ .. เขา แต่ไม่ใช่เธอ

         “คนเหี้ย!!”

         เสียงสั่นเครือแปรเปลี่ยนเป็นเสียงแข็ง เธอเอ่ยคำหยาบคายคำแรกในชีวิตออกมาด้วยแววตาเศร้าหมอง คำนี้มันคงเหมาะกับเขาที่สุดในเวลานี้

         มือเล็กปาดน้ำตารวดเร็ว หาก 7 ปีที่ผ่านมามันไม่มีความหมายแล้วเธอก็ไม่รู้จะรั้งชายหลายใจไว้เพื่ออะไร คงเป็นอย่างที่เขาพูด ชีวิตเธอมันควรไปได้ดีกว่านี้

        

        หนึ่งสัปดาห์ต่อมา

         ส้มโอหอบข้าวของและเสื้อผ้า ออกจากคอนโดของราเชนอย่างทุลักทุเล เธอไม่มีที่ให้ไป เพราะครอบครัวของเธออยู่ที่ต่างประเทศ เธอเป็นคนดึงดันขอย้ายมาอยู่ที่ไทยกับชายคนรักตั้งแต่เริ่มคบกัน

         ชีวิตโสดในเมืองใหญ่ของเธอได้เริ่มต้นขึ้น โรงแรมจึงเป็นที่พักพิงเดียวที่เธอจะใช้พักผ่อน และเยียวยาหัวใจที่แหลกสลายจากชายที่ไม่รู้จักพอ

         นับดาว : ส้ม วันนี้ที่เรานัดกันฉันไปไม่ได้แล้วอะ

         เพื่อนสาวคนสนิทของเธอส่งข้อความแจ้งข่าวร้าย หลังจากนัดหมายกันไว้ ว่าจะดื่มฉลองให้กับชีวิตโสดของเธอด้วยกันบนบาร์หรูของโรงแรม

         ส้มโอ : อือ ไม่เป็นไร

         นับดาว : แกห้ามไปกินคนเดียวนะ สัญญากับฉันก่อน

         นับดาว : ฉันเป็นห่วงแก

         ส้มโอคลี่มุมปากยิ้มบาง หลังจากอ่านข้อความเพื่อนสาว นับดาวรู้ดีว่าส้มโอไม่เคยดื่มของมึนเมา หรือนั่งร้านเหล้า ผับ บาร์มาก่อน หากเธอไปคนเดียวคงเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น

         ส้มโอ : อืม ฉันอยู่ที่ห้องนี่แหละ

         นับดาว : แน่นะแก

         ส้มโอ : อื้อ ไว้นัดกันใหม่นะ

         ร่างบางในชุดเดรสสีแดงตุ่น ทรุดตัวลงนั่งข้างเตียง เธอโอบกอดเข่าตัวเองไว้แน่น ราวกับต้องการปลอบประโลมหัวใจที่แหลกสลาย ความเงียบในห้องดังก้องจนแทบทนไม่ไหว มันยิ่งตอกย้ำความโดดเดี่ยวที่กัดกินหัวใจของเธอ

         ส้มโอปรากฏกายอีกครั้งในบาร์หรูชั้น 72 ของโรงแรม หลังจากที่ความเงียบในห้องมันทำให้เธอเกือบสติหลุด หยาดน้ำใส ๆ ที่ไหลลงเปื้อนแก้มสวยแทบจะทำให้เครื่องสำอาง ที่เธอแต่งแต้มร่อนหาย ร่างบางเดินตามหลังบริกรหนุ่มไปยังโต๊ะที่เธอจองไว้

         สมุดเมนูสีน้ำเงินเข้ม สลักชื่อบาร์และโรงแรมด้วยตัวอักษรสีทอง ถูกเปิดออกด้วยมือเรียวเล็ก ดวงตาคู่สวยทอดไล้มองชื่อเมนูอาหารมากมาย แต่เธอกลับไม่รู้จะเลือกอะไรใส่ท้องที่ร้องกิ่ว

         “มีเมนูแนะนำมั้ย?” เธอเอ่ยเสียงใสพลางถามบริกรหนุ่มที่ยืนอยู่ข้าง ๆ

         “คุณผู้หญิงทานเนื้อมั้ยครับ”

         เธอสูดลมหายใจเข้าลึกและปล่อยมันออก เมนูเนื้อคือสิ่งที่ราเชนโปรดปรานมากที่สุด เธอและราเชนมักจะทานด้วยกันเป็นประจำ เพราะเมื่อเธอเห็นสีหน้าของเขาตอนทานของโปรด มันทำให้เธอรู้สึกมีความสุขทุกครั้ง

         “ไม่ค่ะ”

         ดวงตาคู่สวยเลื่อนมองไปที่เมนูอย่างรวดเร็ว พลางคิดว่าอะไรก็ได้ ขอแค่เพียงสั่งมา ตอนนี้ต่อให้เป็นอาหารมิชลินสามดาวเธอก็กินไปเพื่อให้มีลมหายใจต่อก็เท่านั้น

         “ล็อบสเตอร์อบชีสแล้วกันค่ะ”

         “เครื่องดื่มรับอะไรดีครับ”

         ส้มโอเปิดไปยังหน้าเมนูเครื่องดื่มที่ขึ้นหราละลานตา แต่เธอกลับไม่รู้จะดื่มอะไร ตอนนี้ลำคอเธอแห้งผาก ร่างกายต้องการเครื่องดื่มมึนเมา หวังว่ามันจะช่วยให้เธอนอนหลับได้สบาย

         “ไวน์มั้ย ไวน์มันทำจากองุ่น” หญิงสาวพึมพำกับตัวเองเกิดมา 26 ปี เธอไม่เคยได้ลิ้มรสของมึนเมาสักประเภท ดวงตาสวยเลื่อนสลับระหว่างไวน์ขาวและไวน์แดงที่ขึ้นชื่อไว้หรา ก่อนจะเหลือบสายตาไปมองบริกรหนุ่มที่ยืนรอเธออย่างใจจดจ่อ นั่นมันทำให้เธอรู้สึกกดดันมากขึ้น

         “เอาอันนี้แล้วกันค่ะ ฉันสั่งเท่านี้ก่อน” นิ้วชี้เรียวจิ้มไปยังชื่อไวน์แดงขวดละค่อนหมื่น ก่อนจะพับสมุดเมนูเล่มงามไว้บนโต๊ะ บริกรก้มหน้ารับ และเดินจากไปด้วยท่าทีสุภาพ

         ใบหน้าสวยนั่งเท้าคาง พลางทอดมองวิวเมืองใหญ่ในเวลากลางคืน แสงสีมากมายจากตึกสูงระฟ้าทอประกายทำให้ค่ำคืนนี้มันช่างดูสวยงดงาม แต่สำหรับเธอนั้นมันก็แค่แสงไฟที่บ่งบอกช่วงเวลา ที่ผ่านไปอย่างโดดเดี่ยวอีกคืน

         สายตาเลื่อนลอย พลางคิดถึงเรื่องวันวานที่เคยผ่าน จนไปสะดุดเข้ากับชายหนุ่มที่นั่งอยู่โต๊ะด้านหน้า ใบหน้าคมเข้ม เรือนผมดำขลับจัดแต่งเป็นทรงอย่างดูดี สวมเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมเม็ดบนออก สายตาของเขาสบประสานเข้ากับเธออย่างพอดิบพอดีด้วยความบังเอิญ ก่อนที่เขาจะคลี่ยิ้มน้อย ๆ ให้ราวกับเป็นการทักทาย

         เวลาดูเหมือนหยุดนิ่ง ตั้งแต่หยดแรกของไวน์แดงสัมผัสริมฝีปาก รสชาติหวานละมุนและกลิ่นหอมอ่อน ๆ ชวนให้เคลิบเคลิ้ม แก้วแรกผ่านลำคอราวกับน้ำผึ้งที่ละลายลงสู่ความรู้สึก จนเธอไม่อาจต้านทานแรงดึงดูดของมันได้ ยิ่งดื่ม ยิ่งเหมือนถูกมนตร์สะกด ให้จมดิ่งลงสู่ห้วงรสชาติอันเย้ายวนใจ

         ล็อบสเตอร์อบชีสที่นำมาเสิร์ฟเย็นชืด เพราะเธอเมินใส่ หากแต่มือเรียวกลับยกแก้วไวน์กระดกพรวด แก้วแล้ว แก้วเล่า จนทำให้ชายหนุ่มเสื้อเชิ้ตขาวชำเลืองมองเธอเป็นระยะ

         “อร่อยจัง หมดขวดแล้วกินต่ออีกดีกว่า” เธอพึมพำกับตัวเองเพราะติดใจในรสสัมผัส อาการมึนงงเริ่มคืบคลานเข้ามา หากแต่มันกลับทำให้เธอรู้สึกดี แววตาหยาดเยิ้มจ้องมองชายเชิ้ตขาวที่นั่งอยู่ตรงข้าม เธอคลี่ยิ้มหวาน และยกแก้วไวน์ขึ้นจิบด้วยท่าทางเย้ายวน

         ชายเชิ้ตขาวที่นั่งอยู่ลำพังจ้องมองเธอด้วยแววตาลึกล้ำ ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มอย่างช้า ๆ เผยให้เห็นความคมคายบนใบหน้าหล่อเหลา เขาลูบไล้เรือนผมสีดำขลับที่ถูกสายลมแห่งความสูงกว่าเจ็ดสิบชั้นรบกวนจนยุ่งเหยิงเล็กน้อย เขาตัดสินใจลุกจากที่นั่ง เดินมาหาเธอพร้อมกับแก้วไวน์ในมือ

         “สวัสดีครับ มาดื่มคนเดียวเหรอครับ?” ชายหนุ่มเอ่ยทักทายหญิงสาวร่างบางในเดรสสีแดงตุ่น คนตัวสูงกว่าเผลอมองร่องอกอึ๋มของหญิงสาว เขารีบเลื่อนสายตาไปทางอื่น

         “ค่ะ” ส้มโอพยักหน้ารับพลางยิ้มกริ่ม ต้นคอเธอดูโอนอ่อนกว่าเมื่อครู่

         “นั่งด้วยได้มั้ย?”

         “เชิญค่ะ” เธอผายมือเชื้อเชิญ ไล่สายตาขึ้นมองร่างสูง

         “คุณมีเรื่องเครียดอะไรหรือเปล่า?” เขาเหลือบเห็นแก้วไวน์ที่ว่างเปล่าในมือของเธอ

         “คุณดื่มเร็วไปหน่อยนะ ว่ามั้ย?”

         “ใครสนกันล่ะ ฉันรู้แค่ว่ามันอร่อย มันทำให้ฉันลืมอะไร ๆ ได้หลายอย่าง”

         “และอาจจะลืมทางกลับบ้าน” เขาคลี่ยิ้มกว้างอย่างหยอกล้อ ก่อนจะปรายตามองใบหน้าเนียนสวยที่สีหน้าแดงระเรื่อด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์

         “ฉันพักที่นี่ ฉันอยู่ที่นี่ยาวเป็นเดือน และดูเหมือนจะอยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ” สายตาเธอทอดมองไกลออกไป มันไม่มีจุดโฟกัส หรือจุดไหนที่ทำให้เธอสนใจได้เลยสักนิด

         “ทำไมล่ะ?” เขายกแก้วไวน์ขึ้นจิบ เปลี่ยนนั่งท่าไขว่ห้างแบบสบาย ๆ สายตาจ้องมองไปที่เธอด้วยความสนใจ

         “ฉันไม่มีที่ไปน่ะคุณ” ส้มโอพูดเสียงเรียบ เอื้อมหยิบขวดไวน์แดงขึ้นมาริน แต่ทว่ามือหนาของชายหนุ่มนั้นรวดเร็วกว่า เขาคว้าเอาไว้ และเป็นฝ่ายรินไวน์ให้เธอราวกับบริกรส่วนตัว

         “ขอบคุณนะ”

         ดวงตาคู่สวยเหลือบมองใบหน้าคมของชายแปลกหน้าที่มานั่งร่วมโต๊ะเธอด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ 7 ปีที่ผ่านมาเธอไม่เคยแลตามองใครนอกจากราเชน

         “คุณรู้อะไรไหม? ฉันคือคนโง่ที่โดนสวมเขา  .. หึ!!” เธอพูดพลางหัวเราะในลำคอ ราวกับสมเพศตัวเองที่เทิดทูนบูชาความรักและภักดีให้กับแฟนเก่าจนหมดหัวใจ และไม่แม้ที่จะสงสัยหรือตั้งคำถามในอดีตคนรักเลยสักนิด

         เขานิ่งเงียบไม่พูดอะไร เพียงแค่ส่งยิ้มหวานให้เธอ และปล่อยให้เธอระบายความรู้สึกออกมา เขาจะทำหน้าที่เป็นผู้ฟังที่ดีเอง

         “ฉันไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดขนาดนี้มาก่อน ฉันหมดเรี่ยวแรงที่จะทำอะไร ฉันไม่แม้อยากจะมีลมหายใจอยู่ต่อ” เธอยกแก้วไวน์ขึ้นก่อนจะดื่มรวดเดียวหมด เสียงฐานแก้วกระทบกับโต๊ะเบา ๆ มือหนาของชายหนุ่มเชิ้ตขาวจึงรินไวน์ให้เธออีกครั้ง

         “7 ปีที่คบกัน ฉันพยายามทำทุกอย่างให้ออกมาที่ดีสุด เพื่อเรา และครอบครัวเล็ก ๆ ของเรา” เธอสบตาเขา พร้อมส่งเสียงหัวเราะ เธอนึกขำที่ตัวเองบอกเล่าความน่าสมเพศให้ชายแปลกหน้าฟัง 

         “คุณเริ่มเมาแล้วนะ รู้ตัวไหม?” ชายเชิ้ตขาวพูดด้วยน้ำเสียงสุขุม สายตาเขาทอดมองหญิงตรงหน้าด้วยความเป็นห่วง 

         “รู้ รู้สิ แต่มันทำให้ฉันรู้สึกดีเป็นบ้า ฮ่าฮ่า” เธอหัวเราะลั่นจนโต๊ะใกล้เคียงต่างเหลือบตามอง

         “เบา ๆ หน่อย คุณอยู่ห้องไหนผมไปส่ง”

         “ไม่เอา!” เธอตวาดเสียงดัง จนตกเป็นเป้าสายตาอีกครั้ง

         “ถ้าเข้าห้องแล้วฉันจะกินกับใคร ว่าแต่ .. คุณชื่ออะไร”

         “โอเค คุณตั้งสติหน่อย เดี๋ยวผมจะนั่งกินเป็นเพื่อนคุณที่ห้องเอง ตอนนี้เรากลับห้องคุณกันเถอะ” ชายเชิ้ตขาวหันรีหันขวางพลางก้มหัวเล็ก ๆ ให้กับบรรดาสายตามากมายที่จับจ้องมาอย่างไม่พอใจ

         ร่างสูงประคองร่างบางที่เรียวขาอ่อนแรงก่อนจะหยุดอยู่ที่หน้าห้องหนึ่งในชั้น 35 เขาควานหาคีย์การ์ดที่อยู่ในกระเป๋าถือของเธอ และแตะมันที่หน้าประตูู ก่อนที่เขาจะพาร่างบางเดินเข้าไปอย่างทุลักทุเล

         “คุณเมาแล้วนะ”

         “ยังไม่บอกชื่อฉันเลย คุณชื่ออะไร” เธอแผดเสียงใส่หลังจากที่ร่างบางโซเซเอนถลาลงบนเก้าอี้นุ่ม สายเดี่ยวเส้นเล็กที่เกาะบ่าเธอไว้ค่อย ๆ เลื่อนลง

         “ผมชื่อคเชณทร์ เรียกผมว่าเชนก็ได้”

         “ฮะ? อะไรนะ เชนหรอ ไอ้เหี้ยเชนเหรอ?”

         เธอตะเบ็งเสียงสุดคอ ลุกขึ้นพรวด แต่อาการมึนเมาจากแอลกอฮอล์ทำให้ร่างบางเซล้มลง ดวงตาเธอพล่าเลือนมองชายตรงหน้าเป็นอดีตคนรักที่เขาเพิ่งทอดทิ้งเธอ

         “เฮ้ย!! คุณ!! เดี๋ยว ๆ”

         คเชณทร์เอ่ยเสียงอ่อน โอบร่างบางลุกขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยความเป็นห่วง หญิงสาวอยู่ในอาการมึนเมากว่าที่เขาคิด

         “ไม่ต้องมาแตะตัวฉันเลย คนเลว”

         มือเล็กผลักแผ่นอกกว้างสุดแรงเกิด แต่ดูเหมือนเขาจะไม่สะทกสะท้าน มือหนาเกาะกุมหัวไหล่เนียนของเธอเอาไว้ทั้งสองข้าง พลางเขย่าเล็ก ๆ

         “ตั้งสติ ๆ”

         เขาเอ่ยเสียงดัง ดวงตาเบิกกว้างอย่างตื่นตระหนก พอจะเดาสถานการณ์ได้ว่า ชายที่ทอดทิ้งเธออาจจะชื่อเชนเช่นเดียวกับเขา โลกใบนี้มันช่างกลมกว่าที่เขาคิด

         “บอกว่าอย่ามาแตะตัวฉันไง แกเป็นคนบอกเองว่าจะไม่ถึงเนื้อถึงตัวฉัน จนถึงวันแต่งงาน ฉันรอมา 7 ปี แล้วสุดท้าย มึงก็ไปมีคนอื่น!!”

         มือเล็กยกขึ้นกำหมัดพลางทุบไปทั่วแผ่นอกและวงแขนล่ำ แต่ยิ่งเธอดิ้นสายเดี่ยวเส้นเล็กก็ยิ่งเลื่อนคล้อยต่ำ จนชุดเดรสเธอมันเลื่อนลง เผยให้เห็นเนินอกขาวผ่อง

         แม้ความหวังดีและห่วงใยจะขึ้นมาเป็นอันดับแรก แต่เขาเองก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งในวัยสามสิบที่ลุ่มหลงในเรือนร่างสตรี การที่ได้เห็นเนินเนื้อใต้ร่มผ้ามันทำให้เขาใจสั่นหวั่นไหว เขาสลัดความคิดชั่วช้านั้นทิ้งไป เลื่อนสายตามาจับจ้องใบหน้าเธอ

         ริมฝีปากที่แต่งแต้มสีแดงตุ่นกำลังเผยอเล็ก ๆ พร้อมคำพูดที่เธอพ่นออกอย่างไม่เป็นศัพท์ แต่ไม่ว่าจะวางสายตาตรงไหนก็ทำให้เขาแทบคุมสติไม่อยู่

         “ไอ้เชน ไอ้คนชั่ว บอกให้ปล่อย”

         มือเล็กทุบแผงอกรัวด้วยความหงุดหงิด ใบหน้าบึ้งตึงย่นคิ้วอย่างไม่ชอบใจ 

         “ไม่ปล่อยใช่มั้ย? ได้!!”

         เธอกระชากคอเสื้อเขา จนร่างใหญ่เสียหลักเซล้มลงทับทาบบนร่างเธอ    

         ใบหน้าเรียวสวยใกล้ชิดใบหน้าเขาจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่รินรดกัน ดวงตากลมจ้องมองชายตรงหน้าด้วยแววตาขึงขัง ก่อนจะเปลี่ยนท่าที

         ริมฝีปากอิ่มสีแดงตุ่นประทับลงริมฝีปากเขาอย่างจัง ด้วยฤทธิ์มึนเมา

         “อื้อ”

         ริมฝีปากของเขาสนองรสจูบของเธอ เขาไม่แม้แต่จะขัดขืน ความคิดชั่วช้าที่สลัดออกเมื่อครู่มันวาบเข้ามา เขาปล่อยให้ร่างกายเป็นไปตามหัวใจและแรงปรารถนา

Related chapters

  • ค่ำคืนคนโสด   บทที่ 2

    ริมฝีปากอวบอิ่มแช่ค้างอยู่ที่ริมฝีปากเขา พร้อมลมหายใจอุ่น ๆ ที่คลุ้งกลิ่นไวน์อ่อน ๆ มือหนาโอบอุ้มร่างบางพลางพยุงขึ้น เขาจับเธอพลิกให้เธอนอนเอนกายอย่างสบายบนเตียงนุ่ม “เชน ส้มไม่ได้อยากจูบเชน” ที่ผ่านมาราเชนมอบให้เธอเพียงรสจูบหวานล้ำ แต่ไม่เคยแตะต้องผิวกายหรือสัมผัสเรือนร่างที่เธอเฝ้าบำรุง เพราะอยากให้เธอเสียความบริสุทธิ์ให้เขาในวันแต่งงาน “ส้มอยากเป็นของเชน” หญิงร่างบางที่นอนราบอยู่บนเตียงเอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสียงอ่อนระโหย ก่อนส่งสายตาเว้าวอน คเชณทร์ไม่รีรอ เขาชันเข่าคร่อมร่างเล็กที่อยู่เบื้องล่าง สองแขนแกร่งค้ำยันร่างหนา โน้มใบหน้าลงมาใกล้ เขางับริมฝีปากล่างของเธอที่แววตามองมาด้วยอารมณ์ใคร่ที่เต็มเปี่ยม เขาบดคลึงริมฝีปากสัมผัสรสจูบอย่างแผ่วเบา เขาผละออกชั่วครู่ ก่อนจะลอบมองใบหน้านวลเนียนของเธอ “อยากเป็นของเชนเหรอ?” เสียงทุ้มต่ำกระซิบแผ่วเบาอยู่ข้างหูของหญิงสาว เธอครางตอบแผ่วเบา “อือ” ก่อนที่เขาใช้ลิ้นเลียไซ้ใบหู กลิ่นกายหอมอ่อน ๆ ของหญิงสาวทำให้เขาขาดสติ ศีลธรรมอันดีได้ถูกเก็บซ่อนไว้ส่วนลึก ริมฝีปากค่อย ๆ ไล

    Last Updated : 2025-03-01
  • ค่ำคืนคนโสด   บทที่ 3

    แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องผ่านกระจกใสของห้องพักชั้น 32 ละอองแสงสีทองอ่อน ๆ ทอประกายระยิบระยับ ส้มโอนอนนิ่งอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์ ร่างบางถูกห่มคลุมด้วยผ้านวมสีขาวนุ่ม เธอยังคงหลับใหลด้วยความอ่อนล้าจากค่ำคืนอันเร่าร้อน ใบหน้าสวยดูสงบนิ่งราวกับเทพธิดาที่หลับใหล ดวงตาคู่สวยค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก ศีรษะเธอหนักอึ้งด้วยอาการเมาค้าง ร่างบางพลิกตะแคงข้าง มือเรียวคลำหาโทรศัพท์ แต่ไม่รู้ว่าไปวางไว้ตรงไหน เธอจึงตัดสินใจลุกขึ้นนั่ง “นี่มัน … อะไรเนี่ย!!” ดวงตาคู่เหลือบเห็นเดรสสีแดงตุ่น และแพนตี้สีครีมของเธอ วางกองอยู่ปลายเตียงราวกับถูกทอดทิ้ง ภาพชายหนุ่มเชิ้ตขาวคนเมื่อคืนแล่นปราดเข้ามาในห้วงคำนึง เมื่อเธอนึกได้จึงหันมองไปที่เตียงนอน .. แต่บนเตียงใหญ่ กลับไม่พบใคร ที่นอนเคียงข้าง “ฝันเหรอ? แต่ฝันอะไร บ้าบอชะมัด” มือเรียวเล็กกุมขมับที่ปวดตึบ เธอรู้สึกลำคอแห้งผากต้องการดื่มน้ำเปล่าให้ชุ่มคอเสียหน่อย จึงค่อย ๆ ยกเรียวขาขาวให้ก้าวลงจากเตียงนอน แต่ทว่า.. .. ความเจ็บแสบที่แก่นกลางกายมันปะทุขึ้น จนเธอเผลอร้องออกมา “ซีด! โอ๊ยเจ็บ!”

    Last Updated : 2025-03-01
  • ค่ำคืนคนโสด   บทที่ 4

    “งั้นอย่างน้อย ตอนนี้เราสองคนก็รู้จักกันแล้วนะ ฉันขอแนะนำตัวอีกครั้ง ฉันชื่อส้มโอ เรียกว่าส้มเฉย ๆ ก็พอ” เธอยิ้มอย่างอ่อนหวาน ดวงตาเป็นประกายขณะที่ยื่นมือเรียวบางไปข้างหน้า “ครับ ผมชื่อคเชณทร์ เรียกผมว่าเชน” เขายื่นมือมาจับมือเธอ สัมผัสอุ่น ๆ ที่ทำให้หัวใจกระตุก “เอิ่ม ... เรียกว่าอะไรก็ได้ครับ ถ้าชื่อผมมันทำให้คุณ ...” เขาพูดอึกอัก ลังเลเล็กน้อย เมื่อนึกได้ว่าชื่อของตนนั้นบังเอิญไปพ้องกับชื่อคนที่เคยทำให้เธอเจ็บปวด “เรียกอะไรดีล่ะ ฉันขอเรียกว่า .. คุณหมีแล้วกันนะ” “ทำไมล่ะ?” “ห้ามขำฉันนะ .. ฉันเคยขี่ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่เขาซื้อให้ แต่ดูเหมือนตอนนี้ ..” เธอหยุดพูดชั่วขณะสายตาทอดมองไปยังร่างกำยำของคนตรงหน้าด้วยแววตาเว้าวอน “ฉันจะเจอตุ๊กตาหมี ‘ตัวใหญ่’ ของฉันเข้าแล้วสิ” เธอยิ้มกริ่มพลางกัดริมฝีปากตัวเองเล็ก ๆ แววตาอาบย้อมด้วยความปรานารถ น้ำเสียงเธอมันช่างยั่วยวนคนฟังให้หื่นกระหาย “แต่ คุณยังไม่เคยขี่ ‘คุณหมี’ เลยนะ” ดวงตาหยาดเยิ้มจ้องมองใบหน้าสวย และเผยยิ้มยั่ว

    Last Updated : 2025-03-01
  • ค่ำคืนคนโสด   บทที่ 5

    สามสัปดาห์ต่อมา วันที่ส้มโอต้องติดสินใจว่าจะเช่าโรงแรมนี้อยู่ต่ออีกเดือน หรือว่าจะตอบรับข้อเสนอของคเชณทร์ เมื่อสองสัปดาห์ก่อนที่เจอกันครั้งล่าสุด น้ำเสียงทุ้มต่ำของเขายังก้องอยู่ในหู ชายแปลกหน้าคนนั้นที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นคนที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี “ส้ม ถ้าคุณไม่มีที่ไป มาอยู่คอนโดผมก็ได้นะ” คเชณทร์เอ่ยเสียงเรียบ แววตาคมจ้องมองเธอด้วยความอ่อนโยน “ให้ฉันไปอยู่กับคุณน่ะเหรอ?” “ไม่ได้อยู่กับผมหรอก ห้องนั้นผมมันว่าง ผู้เช่าเก่าเพิ่งย้ายออก” “แล้วคุณคิดค่าเช่าเท่าไรล่ะ” เธอสบตาเขาราวกับสนใจ “ถ้าเป็นคุณผมไม่คิดเงินหรอก คุณอยู่ไปเถอะ คุณเองก็เหลือเงินเก็บไม่มากแล้วนี่ ไหนจะเรียน ป.โท ปีสุดท้ายอีก” เธอย่นคิ้วพลางหรี่ตามองชายตรงหน้าอย่างฉุกคิด เพราะเหตุใดเขาจึงเสนอห้องว่างที่คอนโดให้เธออยู่ฟรีกันแน่ “เอ .. คุณจะเป็นเสี่ยเลี้ยงฉันเหรอ?” เธอพูดพลางขำ “อืม จะว่างั้นก็ได้นะ” เขาตอบกลับพร้อมรอยยิ้มกว้าง “ให้ฉันไปอยู่ฟรีแลกกับอะไรเหรอ?” “ถ้าเป็นตอนนี้คงมีเรื่องเดียวแหละนะ ... เราสองคนต่างก็รู้กั

    Last Updated : 2025-03-01

Latest chapter

  • ค่ำคืนคนโสด   บทที่ 5

    สามสัปดาห์ต่อมา วันที่ส้มโอต้องติดสินใจว่าจะเช่าโรงแรมนี้อยู่ต่ออีกเดือน หรือว่าจะตอบรับข้อเสนอของคเชณทร์ เมื่อสองสัปดาห์ก่อนที่เจอกันครั้งล่าสุด น้ำเสียงทุ้มต่ำของเขายังก้องอยู่ในหู ชายแปลกหน้าคนนั้นที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นคนที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี “ส้ม ถ้าคุณไม่มีที่ไป มาอยู่คอนโดผมก็ได้นะ” คเชณทร์เอ่ยเสียงเรียบ แววตาคมจ้องมองเธอด้วยความอ่อนโยน “ให้ฉันไปอยู่กับคุณน่ะเหรอ?” “ไม่ได้อยู่กับผมหรอก ห้องนั้นผมมันว่าง ผู้เช่าเก่าเพิ่งย้ายออก” “แล้วคุณคิดค่าเช่าเท่าไรล่ะ” เธอสบตาเขาราวกับสนใจ “ถ้าเป็นคุณผมไม่คิดเงินหรอก คุณอยู่ไปเถอะ คุณเองก็เหลือเงินเก็บไม่มากแล้วนี่ ไหนจะเรียน ป.โท ปีสุดท้ายอีก” เธอย่นคิ้วพลางหรี่ตามองชายตรงหน้าอย่างฉุกคิด เพราะเหตุใดเขาจึงเสนอห้องว่างที่คอนโดให้เธออยู่ฟรีกันแน่ “เอ .. คุณจะเป็นเสี่ยเลี้ยงฉันเหรอ?” เธอพูดพลางขำ “อืม จะว่างั้นก็ได้นะ” เขาตอบกลับพร้อมรอยยิ้มกว้าง “ให้ฉันไปอยู่ฟรีแลกกับอะไรเหรอ?” “ถ้าเป็นตอนนี้คงมีเรื่องเดียวแหละนะ ... เราสองคนต่างก็รู้กั

  • ค่ำคืนคนโสด   บทที่ 4

    “งั้นอย่างน้อย ตอนนี้เราสองคนก็รู้จักกันแล้วนะ ฉันขอแนะนำตัวอีกครั้ง ฉันชื่อส้มโอ เรียกว่าส้มเฉย ๆ ก็พอ” เธอยิ้มอย่างอ่อนหวาน ดวงตาเป็นประกายขณะที่ยื่นมือเรียวบางไปข้างหน้า “ครับ ผมชื่อคเชณทร์ เรียกผมว่าเชน” เขายื่นมือมาจับมือเธอ สัมผัสอุ่น ๆ ที่ทำให้หัวใจกระตุก “เอิ่ม ... เรียกว่าอะไรก็ได้ครับ ถ้าชื่อผมมันทำให้คุณ ...” เขาพูดอึกอัก ลังเลเล็กน้อย เมื่อนึกได้ว่าชื่อของตนนั้นบังเอิญไปพ้องกับชื่อคนที่เคยทำให้เธอเจ็บปวด “เรียกอะไรดีล่ะ ฉันขอเรียกว่า .. คุณหมีแล้วกันนะ” “ทำไมล่ะ?” “ห้ามขำฉันนะ .. ฉันเคยขี่ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่เขาซื้อให้ แต่ดูเหมือนตอนนี้ ..” เธอหยุดพูดชั่วขณะสายตาทอดมองไปยังร่างกำยำของคนตรงหน้าด้วยแววตาเว้าวอน “ฉันจะเจอตุ๊กตาหมี ‘ตัวใหญ่’ ของฉันเข้าแล้วสิ” เธอยิ้มกริ่มพลางกัดริมฝีปากตัวเองเล็ก ๆ แววตาอาบย้อมด้วยความปรานารถ น้ำเสียงเธอมันช่างยั่วยวนคนฟังให้หื่นกระหาย “แต่ คุณยังไม่เคยขี่ ‘คุณหมี’ เลยนะ” ดวงตาหยาดเยิ้มจ้องมองใบหน้าสวย และเผยยิ้มยั่ว

  • ค่ำคืนคนโสด   บทที่ 3

    แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องผ่านกระจกใสของห้องพักชั้น 32 ละอองแสงสีทองอ่อน ๆ ทอประกายระยิบระยับ ส้มโอนอนนิ่งอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์ ร่างบางถูกห่มคลุมด้วยผ้านวมสีขาวนุ่ม เธอยังคงหลับใหลด้วยความอ่อนล้าจากค่ำคืนอันเร่าร้อน ใบหน้าสวยดูสงบนิ่งราวกับเทพธิดาที่หลับใหล ดวงตาคู่สวยค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก ศีรษะเธอหนักอึ้งด้วยอาการเมาค้าง ร่างบางพลิกตะแคงข้าง มือเรียวคลำหาโทรศัพท์ แต่ไม่รู้ว่าไปวางไว้ตรงไหน เธอจึงตัดสินใจลุกขึ้นนั่ง “นี่มัน … อะไรเนี่ย!!” ดวงตาคู่เหลือบเห็นเดรสสีแดงตุ่น และแพนตี้สีครีมของเธอ วางกองอยู่ปลายเตียงราวกับถูกทอดทิ้ง ภาพชายหนุ่มเชิ้ตขาวคนเมื่อคืนแล่นปราดเข้ามาในห้วงคำนึง เมื่อเธอนึกได้จึงหันมองไปที่เตียงนอน .. แต่บนเตียงใหญ่ กลับไม่พบใคร ที่นอนเคียงข้าง “ฝันเหรอ? แต่ฝันอะไร บ้าบอชะมัด” มือเรียวเล็กกุมขมับที่ปวดตึบ เธอรู้สึกลำคอแห้งผากต้องการดื่มน้ำเปล่าให้ชุ่มคอเสียหน่อย จึงค่อย ๆ ยกเรียวขาขาวให้ก้าวลงจากเตียงนอน แต่ทว่า.. .. ความเจ็บแสบที่แก่นกลางกายมันปะทุขึ้น จนเธอเผลอร้องออกมา “ซีด! โอ๊ยเจ็บ!”

  • ค่ำคืนคนโสด   บทที่ 2

    ริมฝีปากอวบอิ่มแช่ค้างอยู่ที่ริมฝีปากเขา พร้อมลมหายใจอุ่น ๆ ที่คลุ้งกลิ่นไวน์อ่อน ๆ มือหนาโอบอุ้มร่างบางพลางพยุงขึ้น เขาจับเธอพลิกให้เธอนอนเอนกายอย่างสบายบนเตียงนุ่ม “เชน ส้มไม่ได้อยากจูบเชน” ที่ผ่านมาราเชนมอบให้เธอเพียงรสจูบหวานล้ำ แต่ไม่เคยแตะต้องผิวกายหรือสัมผัสเรือนร่างที่เธอเฝ้าบำรุง เพราะอยากให้เธอเสียความบริสุทธิ์ให้เขาในวันแต่งงาน “ส้มอยากเป็นของเชน” หญิงร่างบางที่นอนราบอยู่บนเตียงเอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสียงอ่อนระโหย ก่อนส่งสายตาเว้าวอน คเชณทร์ไม่รีรอ เขาชันเข่าคร่อมร่างเล็กที่อยู่เบื้องล่าง สองแขนแกร่งค้ำยันร่างหนา โน้มใบหน้าลงมาใกล้ เขางับริมฝีปากล่างของเธอที่แววตามองมาด้วยอารมณ์ใคร่ที่เต็มเปี่ยม เขาบดคลึงริมฝีปากสัมผัสรสจูบอย่างแผ่วเบา เขาผละออกชั่วครู่ ก่อนจะลอบมองใบหน้านวลเนียนของเธอ “อยากเป็นของเชนเหรอ?” เสียงทุ้มต่ำกระซิบแผ่วเบาอยู่ข้างหูของหญิงสาว เธอครางตอบแผ่วเบา “อือ” ก่อนที่เขาใช้ลิ้นเลียไซ้ใบหู กลิ่นกายหอมอ่อน ๆ ของหญิงสาวทำให้เขาขาดสติ ศีลธรรมอันดีได้ถูกเก็บซ่อนไว้ส่วนลึก ริมฝีปากค่อย ๆ ไล

  • ค่ำคืนคนโสด   บทที่ 1

    “ส้ม …” “เราเลิกกันเถอะ …” “อะไรนะ” คำพูดที่เธอไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากคนรักที่คบหากันมานานถึง 7 ปี เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แววตาเขาไม่ได้สะท้อนถึงความโศกเศร้า หรือเสียใจเลยสักนิด “ทะ ทำไมล่ะ? เชน” “เธออย่าเสียเวลากับเราเลย” เขาเบือนหน้าหนี เมื่อเห็นแววตาใสซื่อของเธอ “มะ .. ไม่ เราไม่ได้เสียเวลาเลย นะ .. นี่ไง ปีหน้าเราก็จบ ป.โทแล้ว เราก็จะได้แต่งงานกัน” ส้มโอมองใบหน้าคมของชายคนรักด้วยแววตาสั่นไหว มือเล็กคว้าแขนแกร่งของเขา ราวกับขอร้องว่าอย่าไป เธอยังจำได้ดีวันที่เขาให้คำมั่นสัญญาว่าจะรอจนกว่าเธอจะเรียนจบแล้วจะแต่งงานสร้างครอบครัวด้วยกัน แต่ทว่า … วันนี้กลับกลายเป็นเขาที่ดูเหมือนจะทำผิดสัญญา “ส้ม .. พอเถอะ” ราเชนชักแขนออกจากการเกาะกุมของมือเล็ก ๆ สายตาเย็นชามองใบหน้าสวยอย่างอึดอัดใจ สายตาเศร้าหมองช้อนขึ้นมองคนตัวสูง ริมฝีปากสั่นระริก เขาเหมือนโลกทั้งใบของเธอ หากวันนี้เสียเขาไปเธอเองก็ไม่รู้จะมีชีวิตต่อได้เช่นไร ในเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา เขาคือคนเดียวที่เธอมีอยู่ ชีว

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status