“งั้นอย่างน้อย ตอนนี้เราสองคนก็รู้จักกันแล้วนะ ฉันขอแนะนำตัวอีกครั้ง ฉันชื่อส้มโอ เรียกว่าส้มเฉย ๆ ก็พอ”
เธอยิ้มอย่างอ่อนหวาน ดวงตาเป็นประกายขณะที่ยื่นมือเรียวบางไปข้างหน้า
“ครับ ผมชื่อคเชณทร์ เรียกผมว่าเชน”
เขายื่นมือมาจับมือเธอ สัมผัสอุ่น ๆ ที่ทำให้หัวใจกระตุก
“เอิ่ม ... เรียกว่าอะไรก็ได้ครับ ถ้าชื่อผมมันทำให้คุณ ...”
เขาพูดอึกอัก ลังเลเล็กน้อย เมื่อนึกได้ว่าชื่อของตนนั้นบังเอิญไปพ้องกับชื่อคนที่เคยทำให้เธอเจ็บปวด
“เรียกอะไรดีล่ะ ฉันขอเรียกว่า .. คุณหมีแล้วกันนะ”
“ทำไมล่ะ?”
“ห้ามขำฉันนะ .. ฉันเคยขี่ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่เขาซื้อให้ แต่ดูเหมือนตอนนี้ ..”
เธอหยุดพูดชั่วขณะสายตาทอดมองไปยังร่างกำยำของคนตรงหน้าด้วยแววตาเว้าวอน
“ฉันจะเจอตุ๊กตาหมี ‘ตัวใหญ่’ ของฉันเข้าแล้วสิ”
เธอยิ้มกริ่มพลางกัดริมฝีปากตัวเองเล็ก ๆ แววตาอาบย้อมด้วยความปรานารถ น้ำเสียงเธอมันช่างยั่วยวนคนฟังให้หื่นกระหาย
“แต่ คุณยังไม่เคยขี่ ‘คุณหมี’ เลยนะ”
ดวงตาหยาดเยิ้มจ้องมองใบหน้าสวย และเผยยิ้มยั่ว
“อยากลอง ‘ขี่’ ไหม?”
ร่างบางลุกขึ้นเดินมาตรงยังหน้าคเชณทร์ เขานั่งอยู่บนโซฟาเดี่ยว เอนหลังพิงพนักด้วยท่าทีสบาย
เธอชันเข่าขึ้นคร่อม นั่งทับต้นขาแกร่งของเขา สองมือจับชายเสื้อยืดตัวใหญ่แล้วถอดมันช้า ๆ แววตายั่วยวนทอดมองมายังใบหน้าคม เธอสะบัดเรือนผมเบา ๆ
ก้อนเนื้อสวยปรากฏอยู่เบื้องหน้าเขา มุมปากยิ้มย่องอย่างพอใจ นิ้วสากค่อย ๆ แตะต้องปลายถันก่อนจะบดขยี้ พลางเค้นคลึงก้อนเนื้อสวยอย่างมันมือ
เอวบางร่อนเล็ก ๆ บนต้นขาราวกับยั่วยุให้ความหรรษานั่นเติบใหญ่ ปลายจมูกชายหนุ่มแตะสัมผัสเต้าอวบ ลมหายใจอุ่น ๆ รินรดเต้านั้น ทำให้เธอเสียวซ่าน
“อื้อ..”
เธอครางแผ่วด้วยความพอใจ ก่อนที่เขาจะแลบลิ้นเลียไล้ตามเนินเนื้อ ขณะที่นิ้วยังคงสะกิดเขี่ยปลายถันให้ชูชัน
“คุณชอบแบบไหน”
“ฉันไม่รู้สิ เมื่อคืนมันครั้งแรก”
ดวงตาคู่สวยทอดมองชายที่เธอนั่งคร่อมร่างเขาด้วยเพลิงอารมณ์ชุกโชน ขณะที่เขายังคงระรัวลิ้นสากที่ยอดถันจนแข็งขืน
“คุณปล่อยใจมาเลย ชอบแบบไหน ผมจัดให้คุณได้หมด”
เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยแผ่วเบา ขณะที่ริมฝีปากเลื่อนไปยังปลายถันอีกข้าง มือหนานวดคลึงเต้าอวบราวกับจะให้มันบี้แบน
“อื้อ .. คุณหมีของฉัน ...”
เธอครางเสียงนุ่มนวล มือเรียวจิกผมชายหนุ่มไว้แน่น เธอกดศีรษะเขาลงจะใบหน้าเขาแนบชิดอยู่กับเต้าอวบเธอ
ลิ้นอุ่นพลันเร่งรัวขึ้น ก่อนจะใช้ฟันขบยอดอกเบา ๆ มันกลับทำให้ยอดถันแข็งสู้ลิ้นเขาขึ้นไปอีก
เขาละใบหน้าจากเต้าอวบ สอดสายตาทอดมองหญิงสาวที่อยู่ด้านบน
“คุณมัน ... โคตรยั่วเลย รู้ตัวป่ะ?”
เธอไม่ตอบเขา แต่กลับลุกออกจากตัก คุกเข่าลงกับพื้นด้านล่าง มือเรียวปลดตะขอ และรูดซิบกางเกงอย่างช้า ๆ สองมือของเธอดึงขอบกางเกงลงเบา ๆ และพบกับดุ้นแข็งชูชันที่ซ่อนอยู่ภายใน
เธอคว้ามันอย่างกระหายอยาก ใช้ปลายลิ้นแตะสัมผัสหัวอวบอูมช้า ๆ ไล้เส้นสลึงจากบนลงล่าง
“ซีดด!”
เสียงครางของชายหนุ่มดังขึ้นสบทบ เธอยิ้มมุมปากอย่างพอใจก่อนจะครอบครองริมฝีปากลงไป ส่วนกลางกายขยายใหญ่ขึ้นอีกจนอวบคับริบฝีปาก เธออมขึ้นลงจนสุดลำเนิบ ๆ ก่อนเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น และเร็วขึ้น
มือแกร่งจับประคองท้ายทอยสาวไว้ พลางขบกัดริมฝีปากตนเบา ๆ ก่อนจะเปล่งเสียงครางกระเส่า ความเสียวซ่านนั้นมันพุ่งสูงขึ้นจนเขาแทบคุมสติไม่อยู่
“อ่าห์! ส้ม! ส้ม!! เร็วอีก”
มือหนาพลางประคองศีรษะสาว เขาทนไม่ไหวก่อนจะใช้เอวเด้งรับจังหวะโพรงปากอุ่น ความเสียวสะท้านพุ่งสูงขึ้นแต่นั่นมันยังไม่สาแกใจเธอ เธอละจากท่อนเอ็นอวบ ครอบปากที่พวงเนื้อแล้วดูดเบา ๆ พลางสลับใช้ลิ้นเลียไล้ มือเรียวไม่ปล่อยให้ว่าง เธอกำท่อนเอ็นนั้นแล้วชักรูดเนิบ ๆ
“ซีดดด!”
เธอเลื่อนสายตาไปมองคนที่นั่งด้านบน เขาหลับตาพริ้มพร้อมกับเสียงครางเครือในลำคอ ยิ่งทำให้เธอตั้งอกตั้งใจปรนเปรอเขาให้สมสุข
ลิ้นสาวละจากพวงเนื้อมายังดุ้นแข็ง พลางตวัดเลียชิมอย่างละเมียดละไม หมุนวนลิ้นรอบดุ้งแข็งชายหนุ่ม เธอดูดดุนอย่างเอร็ดอร่อย โดยไม่มีท่าทีรังเกียจ
เธอครอบปากลงอีกครั้ง พลางรูดขึ้นรูดลงอย่างมัวเมาจนเขาพ่ายแพ้ต่อความเสียวซ่านที่อีกฝ่ายมอบให้ เขาไม่อาจทนได้อีกต่อไป
“อ๊าส์ ...”
กลิ่นความเป็นชายคละคลุ้ง น้ำขาวข้นพวงพุ่งในปาก เธอยังคงดูดหัวเห็ดราวกับไอติมรสหวาน พลางเก็บกลืนของเหลวร้อนลงคอไป
ชายหนุ่มมองเธอด้วยแววตาที่อยากจะกลืนกิน มือหนาคว้าแขนเรียวพลางกระชากเธอให้ขึ้นมาคร่อมตัก กางเกงขาสั้นตัวจิ๋วถูกเขากระชากมันออกอย่างร้อนใจ
“เสียวมั้ย?”
เธอเอ่ยถามเขาแผ่วเบาพลางคลี่ยิ้มจาง ๆ คเชณทร์ไม่ตอบรับแต่เขามองเธอด้วยแววตาของนักล่าที่กำลังจะตะครุบเหยื่อ
เขาใช้มือกดต้นขา ให้ช่องทางสวาทเธอโอบรับท่อนเอ็นอุ่นของเขา เธอน้ำหนักลงอย่างช้า ๆ ขณะที่ท่อนเอ็นกำลังสอดแทรกเข้าไปในโพรงเนื้ออุ่น
“ซีดด! อ๊าส์! เสียว คุณหมี”
เธอขย่มตอเนื้อเบา ๆ ก่อนจะเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น ถี่ขึ้น เสียงครางกระเส่าของชายหญิงทั้งสองเล็ดลอดออกตามไรฟัน ความเสียววาบแผ่ซ่านไปทั่วร่าง
“อ๊าส์ อ๊าส์ เสียว”
ส้มโอร้องพลางครางเสียว เธอยังคงขย่มตอเนื้อนั้นด้วยความเร็วต่อเนื่องราวกับว่าถ้าช้ากว่านี้มันจะไม่สาแก่ใจเธอ
ขณะที่คเชณทร์ก็ใช้เอวเด้งรับสวนให้เข้าท่วงท่า หวังว่าท่อนเอ็นมันจะเข้าไปลึกพอ
“แบบนี้ดีมั้ย?”
เธอถามเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน ดวงตากลมโตจ้องมองใบหน้าคนเบื้องล่างที่กำลังใช้ลิ้นตวัดปลายถัน
“อือ แบบนี้แหละ ซีด!”
เขาตอบพลางคราง มือหนาเลื่อนไปโอบรัดบั้นท้ายขาวผ่อง เขาใช้มือตีลงไปทีสองที จนเธอร้องส่งเสียง
“เพี๊ยะ!! เพี๊ยะ!!
“โอ๊ย อ๊าส์”
รอยแดงที่ก้นเธอปรากฏขึ้นชัด เธอยังคงขย่มตออย่างเมามัน และเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นกว่าเดิม
“อ๊าส์ ... ฉะ ฉันนน”
ต้นขาและหน้าท้องเธอเริ่มเกร็ง เสียงพูดเธอติดขัด ลมหายใจหอบถี่ ในที่สุดเธอถึงฝั่งฝัน หยาดน้ำใสแตกสาดกระเซ็นอาบท่อนเอ็นของคเชณทร์
ดวงตาคู่คมเหลือบมองใบหน้าหญิงสาวที่หวานหยาดเยิ้มหลังจากเธอเสร็จสมอารมณ์หมาย โพรงเนื้ออุ่นตอดขมิบท่อนเอ็นรัวถี่จนเขาเสียววาบ
แขนแกร่งโอบร่างบางของเธอไว้แนบชิด ก่อนจะลุกขึ้นยืนและเดินไปที่เตียงนอนใหญ่ เขาวางร่างบางลงโดยไม่ให้ท่อนเอ็นหลุดออกจากโพรงรัก เพราะมันยังคงตอดรัดเขาไว้
เขาจับเรียวขาเธอพาดบ่า โยกเอวซอยถี่ เน้นตรงจุดอย่างรู้ใจ ทำต่อไปอย่างไม่ลดละ พร้อมกับเสียงครางดังลั่นของหญิงสาว นิ้วโป้งกดลงที่ติ่งเสียวพร้อมกับคลึงวนรัวซ้ำ
“อร๊าง สะ เสียวว”
“เสร็จอีกสักทีสิ”
“มะ มะไหว”
“น่านะ .. คนดี อย่าดื้อกับคุณหมีนะคะ”
เขาแทงอัดรัวจังหวะอย่างต่อเนื่อง ความเหน็ดเหนื่อยไม่เคยมีในตัวเขา นิ้วโป้งหนาที่คลึงติ่งเสียวก็เร่งรัวจังหวะขึ้น
“แอร๊ยยยย”
เธอแผดเสียงดังลั่นพร้อมกับร่างบางที่กระตุกเกร็ง หยาดน้ำใสพุ่งออกอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาถอนกายออก ใช้ลิ้นตวัดเลียรับหยาดน้ำใสจากที่พวยพุ่งจากกลีบทางรัก เอร็ดอร่อย
“อื้มม”
เขาครางส่ง เธอครางตอบ ร่างบางกระตุกไม่พัก เขาพลันสอดดุ้นแข็งเข้าไปอีกครั้งในขณะที่โพรงเนื้อตอดรัดอย่างดี
“โอย เสียว”
เขาแทงเข้ามาจนมิดด้าม และชักออกจนสุด ทำซ้ำวนสองสามครั้ง ก่อนจะร่อนส่ายเอวอย่างไม่บันยะบันยังอีกครั้ง
“โอ๊ย ซีดดดด จะแตกแล้ว”
จังหวะทำรักหนักแน่นจนเตียงใหญ่สั่นไหวไปตามแรงดัน
ตับ ตับ ตับ!!
“ซีดดดด!!!”
สิ้นเสียงชายหนุ่ม น้ำสวาทสีขาวขุ่นก็พุ่งอาบชโลมเรือนร่างหญิงสาว กลิ่นคาวลอยคลุ้งรอบกายเธอ ก่อนที่ชายหนุ่มจะทิ้งตัวลงนอนอยู่เคียงข้าง
ใบหน้าทั้งสองหันมาสบตากัน พวกเขาคลี่ยิ้มบาง อย่างพอใจในกันและกัน
สามสัปดาห์ต่อมา วันที่ส้มโอต้องติดสินใจว่าจะเช่าโรงแรมนี้อยู่ต่ออีกเดือน หรือว่าจะตอบรับข้อเสนอของคเชณทร์ เมื่อสองสัปดาห์ก่อนที่เจอกันครั้งล่าสุด น้ำเสียงทุ้มต่ำของเขายังก้องอยู่ในหู ชายแปลกหน้าคนนั้นที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นคนที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี “ส้ม ถ้าคุณไม่มีที่ไป มาอยู่คอนโดผมก็ได้นะ” คเชณทร์เอ่ยเสียงเรียบ แววตาคมจ้องมองเธอด้วยความอ่อนโยน “ให้ฉันไปอยู่กับคุณน่ะเหรอ?” “ไม่ได้อยู่กับผมหรอก ห้องนั้นผมมันว่าง ผู้เช่าเก่าเพิ่งย้ายออก” “แล้วคุณคิดค่าเช่าเท่าไรล่ะ” เธอสบตาเขาราวกับสนใจ “ถ้าเป็นคุณผมไม่คิดเงินหรอก คุณอยู่ไปเถอะ คุณเองก็เหลือเงินเก็บไม่มากแล้วนี่ ไหนจะเรียน ป.โท ปีสุดท้ายอีก” เธอย่นคิ้วพลางหรี่ตามองชายตรงหน้าอย่างฉุกคิด เพราะเหตุใดเขาจึงเสนอห้องว่างที่คอนโดให้เธออยู่ฟรีกันแน่ “เอ .. คุณจะเป็นเสี่ยเลี้ยงฉันเหรอ?” เธอพูดพลางขำ “อืม จะว่างั้นก็ได้นะ” เขาตอบกลับพร้อมรอยยิ้มกว้าง “ให้ฉันไปอยู่ฟรีแลกกับอะไรเหรอ?” “ถ้าเป็นตอนนี้คงมีเรื่องเดียวแหละนะ ... เราสองคนต่างก็รู้กั
“ส้ม …” “เราเลิกกันเถอะ …” “อะไรนะ” คำพูดที่เธอไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากคนรักที่คบหากันมานานถึง 7 ปี เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แววตาเขาไม่ได้สะท้อนถึงความโศกเศร้า หรือเสียใจเลยสักนิด “ทะ ทำไมล่ะ? เชน” “เธออย่าเสียเวลากับเราเลย” เขาเบือนหน้าหนี เมื่อเห็นแววตาใสซื่อของเธอ “มะ .. ไม่ เราไม่ได้เสียเวลาเลย นะ .. นี่ไง ปีหน้าเราก็จบ ป.โทแล้ว เราก็จะได้แต่งงานกัน” ส้มโอมองใบหน้าคมของชายคนรักด้วยแววตาสั่นไหว มือเล็กคว้าแขนแกร่งของเขา ราวกับขอร้องว่าอย่าไป เธอยังจำได้ดีวันที่เขาให้คำมั่นสัญญาว่าจะรอจนกว่าเธอจะเรียนจบแล้วจะแต่งงานสร้างครอบครัวด้วยกัน แต่ทว่า … วันนี้กลับกลายเป็นเขาที่ดูเหมือนจะทำผิดสัญญา “ส้ม .. พอเถอะ” ราเชนชักแขนออกจากการเกาะกุมของมือเล็ก ๆ สายตาเย็นชามองใบหน้าสวยอย่างอึดอัดใจ สายตาเศร้าหมองช้อนขึ้นมองคนตัวสูง ริมฝีปากสั่นระริก เขาเหมือนโลกทั้งใบของเธอ หากวันนี้เสียเขาไปเธอเองก็ไม่รู้จะมีชีวิตต่อได้เช่นไร ในเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา เขาคือคนเดียวที่เธอมีอยู่ ชีว
ริมฝีปากอวบอิ่มแช่ค้างอยู่ที่ริมฝีปากเขา พร้อมลมหายใจอุ่น ๆ ที่คลุ้งกลิ่นไวน์อ่อน ๆ มือหนาโอบอุ้มร่างบางพลางพยุงขึ้น เขาจับเธอพลิกให้เธอนอนเอนกายอย่างสบายบนเตียงนุ่ม “เชน ส้มไม่ได้อยากจูบเชน” ที่ผ่านมาราเชนมอบให้เธอเพียงรสจูบหวานล้ำ แต่ไม่เคยแตะต้องผิวกายหรือสัมผัสเรือนร่างที่เธอเฝ้าบำรุง เพราะอยากให้เธอเสียความบริสุทธิ์ให้เขาในวันแต่งงาน “ส้มอยากเป็นของเชน” หญิงร่างบางที่นอนราบอยู่บนเตียงเอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสียงอ่อนระโหย ก่อนส่งสายตาเว้าวอน คเชณทร์ไม่รีรอ เขาชันเข่าคร่อมร่างเล็กที่อยู่เบื้องล่าง สองแขนแกร่งค้ำยันร่างหนา โน้มใบหน้าลงมาใกล้ เขางับริมฝีปากล่างของเธอที่แววตามองมาด้วยอารมณ์ใคร่ที่เต็มเปี่ยม เขาบดคลึงริมฝีปากสัมผัสรสจูบอย่างแผ่วเบา เขาผละออกชั่วครู่ ก่อนจะลอบมองใบหน้านวลเนียนของเธอ “อยากเป็นของเชนเหรอ?” เสียงทุ้มต่ำกระซิบแผ่วเบาอยู่ข้างหูของหญิงสาว เธอครางตอบแผ่วเบา “อือ” ก่อนที่เขาใช้ลิ้นเลียไซ้ใบหู กลิ่นกายหอมอ่อน ๆ ของหญิงสาวทำให้เขาขาดสติ ศีลธรรมอันดีได้ถูกเก็บซ่อนไว้ส่วนลึก ริมฝีปากค่อย ๆ ไล
แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องผ่านกระจกใสของห้องพักชั้น 32 ละอองแสงสีทองอ่อน ๆ ทอประกายระยิบระยับ ส้มโอนอนนิ่งอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์ ร่างบางถูกห่มคลุมด้วยผ้านวมสีขาวนุ่ม เธอยังคงหลับใหลด้วยความอ่อนล้าจากค่ำคืนอันเร่าร้อน ใบหน้าสวยดูสงบนิ่งราวกับเทพธิดาที่หลับใหล ดวงตาคู่สวยค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก ศีรษะเธอหนักอึ้งด้วยอาการเมาค้าง ร่างบางพลิกตะแคงข้าง มือเรียวคลำหาโทรศัพท์ แต่ไม่รู้ว่าไปวางไว้ตรงไหน เธอจึงตัดสินใจลุกขึ้นนั่ง “นี่มัน … อะไรเนี่ย!!” ดวงตาคู่เหลือบเห็นเดรสสีแดงตุ่น และแพนตี้สีครีมของเธอ วางกองอยู่ปลายเตียงราวกับถูกทอดทิ้ง ภาพชายหนุ่มเชิ้ตขาวคนเมื่อคืนแล่นปราดเข้ามาในห้วงคำนึง เมื่อเธอนึกได้จึงหันมองไปที่เตียงนอน .. แต่บนเตียงใหญ่ กลับไม่พบใคร ที่นอนเคียงข้าง “ฝันเหรอ? แต่ฝันอะไร บ้าบอชะมัด” มือเรียวเล็กกุมขมับที่ปวดตึบ เธอรู้สึกลำคอแห้งผากต้องการดื่มน้ำเปล่าให้ชุ่มคอเสียหน่อย จึงค่อย ๆ ยกเรียวขาขาวให้ก้าวลงจากเตียงนอน แต่ทว่า.. .. ความเจ็บแสบที่แก่นกลางกายมันปะทุขึ้น จนเธอเผลอร้องออกมา “ซีด! โอ๊ยเจ็บ!”
สามสัปดาห์ต่อมา วันที่ส้มโอต้องติดสินใจว่าจะเช่าโรงแรมนี้อยู่ต่ออีกเดือน หรือว่าจะตอบรับข้อเสนอของคเชณทร์ เมื่อสองสัปดาห์ก่อนที่เจอกันครั้งล่าสุด น้ำเสียงทุ้มต่ำของเขายังก้องอยู่ในหู ชายแปลกหน้าคนนั้นที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นคนที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี “ส้ม ถ้าคุณไม่มีที่ไป มาอยู่คอนโดผมก็ได้นะ” คเชณทร์เอ่ยเสียงเรียบ แววตาคมจ้องมองเธอด้วยความอ่อนโยน “ให้ฉันไปอยู่กับคุณน่ะเหรอ?” “ไม่ได้อยู่กับผมหรอก ห้องนั้นผมมันว่าง ผู้เช่าเก่าเพิ่งย้ายออก” “แล้วคุณคิดค่าเช่าเท่าไรล่ะ” เธอสบตาเขาราวกับสนใจ “ถ้าเป็นคุณผมไม่คิดเงินหรอก คุณอยู่ไปเถอะ คุณเองก็เหลือเงินเก็บไม่มากแล้วนี่ ไหนจะเรียน ป.โท ปีสุดท้ายอีก” เธอย่นคิ้วพลางหรี่ตามองชายตรงหน้าอย่างฉุกคิด เพราะเหตุใดเขาจึงเสนอห้องว่างที่คอนโดให้เธออยู่ฟรีกันแน่ “เอ .. คุณจะเป็นเสี่ยเลี้ยงฉันเหรอ?” เธอพูดพลางขำ “อืม จะว่างั้นก็ได้นะ” เขาตอบกลับพร้อมรอยยิ้มกว้าง “ให้ฉันไปอยู่ฟรีแลกกับอะไรเหรอ?” “ถ้าเป็นตอนนี้คงมีเรื่องเดียวแหละนะ ... เราสองคนต่างก็รู้กั
“งั้นอย่างน้อย ตอนนี้เราสองคนก็รู้จักกันแล้วนะ ฉันขอแนะนำตัวอีกครั้ง ฉันชื่อส้มโอ เรียกว่าส้มเฉย ๆ ก็พอ” เธอยิ้มอย่างอ่อนหวาน ดวงตาเป็นประกายขณะที่ยื่นมือเรียวบางไปข้างหน้า “ครับ ผมชื่อคเชณทร์ เรียกผมว่าเชน” เขายื่นมือมาจับมือเธอ สัมผัสอุ่น ๆ ที่ทำให้หัวใจกระตุก “เอิ่ม ... เรียกว่าอะไรก็ได้ครับ ถ้าชื่อผมมันทำให้คุณ ...” เขาพูดอึกอัก ลังเลเล็กน้อย เมื่อนึกได้ว่าชื่อของตนนั้นบังเอิญไปพ้องกับชื่อคนที่เคยทำให้เธอเจ็บปวด “เรียกอะไรดีล่ะ ฉันขอเรียกว่า .. คุณหมีแล้วกันนะ” “ทำไมล่ะ?” “ห้ามขำฉันนะ .. ฉันเคยขี่ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่เขาซื้อให้ แต่ดูเหมือนตอนนี้ ..” เธอหยุดพูดชั่วขณะสายตาทอดมองไปยังร่างกำยำของคนตรงหน้าด้วยแววตาเว้าวอน “ฉันจะเจอตุ๊กตาหมี ‘ตัวใหญ่’ ของฉันเข้าแล้วสิ” เธอยิ้มกริ่มพลางกัดริมฝีปากตัวเองเล็ก ๆ แววตาอาบย้อมด้วยความปรานารถ น้ำเสียงเธอมันช่างยั่วยวนคนฟังให้หื่นกระหาย “แต่ คุณยังไม่เคยขี่ ‘คุณหมี’ เลยนะ” ดวงตาหยาดเยิ้มจ้องมองใบหน้าสวย และเผยยิ้มยั่ว
แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องผ่านกระจกใสของห้องพักชั้น 32 ละอองแสงสีทองอ่อน ๆ ทอประกายระยิบระยับ ส้มโอนอนนิ่งอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์ ร่างบางถูกห่มคลุมด้วยผ้านวมสีขาวนุ่ม เธอยังคงหลับใหลด้วยความอ่อนล้าจากค่ำคืนอันเร่าร้อน ใบหน้าสวยดูสงบนิ่งราวกับเทพธิดาที่หลับใหล ดวงตาคู่สวยค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก ศีรษะเธอหนักอึ้งด้วยอาการเมาค้าง ร่างบางพลิกตะแคงข้าง มือเรียวคลำหาโทรศัพท์ แต่ไม่รู้ว่าไปวางไว้ตรงไหน เธอจึงตัดสินใจลุกขึ้นนั่ง “นี่มัน … อะไรเนี่ย!!” ดวงตาคู่เหลือบเห็นเดรสสีแดงตุ่น และแพนตี้สีครีมของเธอ วางกองอยู่ปลายเตียงราวกับถูกทอดทิ้ง ภาพชายหนุ่มเชิ้ตขาวคนเมื่อคืนแล่นปราดเข้ามาในห้วงคำนึง เมื่อเธอนึกได้จึงหันมองไปที่เตียงนอน .. แต่บนเตียงใหญ่ กลับไม่พบใคร ที่นอนเคียงข้าง “ฝันเหรอ? แต่ฝันอะไร บ้าบอชะมัด” มือเรียวเล็กกุมขมับที่ปวดตึบ เธอรู้สึกลำคอแห้งผากต้องการดื่มน้ำเปล่าให้ชุ่มคอเสียหน่อย จึงค่อย ๆ ยกเรียวขาขาวให้ก้าวลงจากเตียงนอน แต่ทว่า.. .. ความเจ็บแสบที่แก่นกลางกายมันปะทุขึ้น จนเธอเผลอร้องออกมา “ซีด! โอ๊ยเจ็บ!”
ริมฝีปากอวบอิ่มแช่ค้างอยู่ที่ริมฝีปากเขา พร้อมลมหายใจอุ่น ๆ ที่คลุ้งกลิ่นไวน์อ่อน ๆ มือหนาโอบอุ้มร่างบางพลางพยุงขึ้น เขาจับเธอพลิกให้เธอนอนเอนกายอย่างสบายบนเตียงนุ่ม “เชน ส้มไม่ได้อยากจูบเชน” ที่ผ่านมาราเชนมอบให้เธอเพียงรสจูบหวานล้ำ แต่ไม่เคยแตะต้องผิวกายหรือสัมผัสเรือนร่างที่เธอเฝ้าบำรุง เพราะอยากให้เธอเสียความบริสุทธิ์ให้เขาในวันแต่งงาน “ส้มอยากเป็นของเชน” หญิงร่างบางที่นอนราบอยู่บนเตียงเอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสียงอ่อนระโหย ก่อนส่งสายตาเว้าวอน คเชณทร์ไม่รีรอ เขาชันเข่าคร่อมร่างเล็กที่อยู่เบื้องล่าง สองแขนแกร่งค้ำยันร่างหนา โน้มใบหน้าลงมาใกล้ เขางับริมฝีปากล่างของเธอที่แววตามองมาด้วยอารมณ์ใคร่ที่เต็มเปี่ยม เขาบดคลึงริมฝีปากสัมผัสรสจูบอย่างแผ่วเบา เขาผละออกชั่วครู่ ก่อนจะลอบมองใบหน้านวลเนียนของเธอ “อยากเป็นของเชนเหรอ?” เสียงทุ้มต่ำกระซิบแผ่วเบาอยู่ข้างหูของหญิงสาว เธอครางตอบแผ่วเบา “อือ” ก่อนที่เขาใช้ลิ้นเลียไซ้ใบหู กลิ่นกายหอมอ่อน ๆ ของหญิงสาวทำให้เขาขาดสติ ศีลธรรมอันดีได้ถูกเก็บซ่อนไว้ส่วนลึก ริมฝีปากค่อย ๆ ไล
“ส้ม …” “เราเลิกกันเถอะ …” “อะไรนะ” คำพูดที่เธอไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากคนรักที่คบหากันมานานถึง 7 ปี เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แววตาเขาไม่ได้สะท้อนถึงความโศกเศร้า หรือเสียใจเลยสักนิด “ทะ ทำไมล่ะ? เชน” “เธออย่าเสียเวลากับเราเลย” เขาเบือนหน้าหนี เมื่อเห็นแววตาใสซื่อของเธอ “มะ .. ไม่ เราไม่ได้เสียเวลาเลย นะ .. นี่ไง ปีหน้าเราก็จบ ป.โทแล้ว เราก็จะได้แต่งงานกัน” ส้มโอมองใบหน้าคมของชายคนรักด้วยแววตาสั่นไหว มือเล็กคว้าแขนแกร่งของเขา ราวกับขอร้องว่าอย่าไป เธอยังจำได้ดีวันที่เขาให้คำมั่นสัญญาว่าจะรอจนกว่าเธอจะเรียนจบแล้วจะแต่งงานสร้างครอบครัวด้วยกัน แต่ทว่า … วันนี้กลับกลายเป็นเขาที่ดูเหมือนจะทำผิดสัญญา “ส้ม .. พอเถอะ” ราเชนชักแขนออกจากการเกาะกุมของมือเล็ก ๆ สายตาเย็นชามองใบหน้าสวยอย่างอึดอัดใจ สายตาเศร้าหมองช้อนขึ้นมองคนตัวสูง ริมฝีปากสั่นระริก เขาเหมือนโลกทั้งใบของเธอ หากวันนี้เสียเขาไปเธอเองก็ไม่รู้จะมีชีวิตต่อได้เช่นไร ในเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา เขาคือคนเดียวที่เธอมีอยู่ ชีว