ริมฝีปากอวบอิ่มแช่ค้างอยู่ที่ริมฝีปากเขา พร้อมลมหายใจอุ่น ๆ ที่คลุ้งกลิ่นไวน์อ่อน ๆ มือหนาโอบอุ้มร่างบางพลางพยุงขึ้น เขาจับเธอพลิกให้เธอนอนเอนกายอย่างสบายบนเตียงนุ่ม
“เชน ส้มไม่ได้อยากจูบเชน” ที่ผ่านมาราเชนมอบให้เธอเพียงรสจูบหวานล้ำ แต่ไม่เคยแตะต้องผิวกายหรือสัมผัสเรือนร่างที่เธอเฝ้าบำรุง เพราะอยากให้เธอเสียความบริสุทธิ์ให้เขาในวันแต่งงาน
“ส้มอยากเป็นของเชน”
หญิงร่างบางที่นอนราบอยู่บนเตียงเอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสียงอ่อนระโหย ก่อนส่งสายตาเว้าวอน
คเชณทร์ไม่รีรอ เขาชันเข่าคร่อมร่างเล็กที่อยู่เบื้องล่าง สองแขนแกร่งค้ำยันร่างหนา โน้มใบหน้าลงมาใกล้ เขางับริมฝีปากล่างของเธอที่แววตามองมาด้วยอารมณ์ใคร่ที่เต็มเปี่ยม
เขาบดคลึงริมฝีปากสัมผัสรสจูบอย่างแผ่วเบา เขาผละออกชั่วครู่ ก่อนจะลอบมองใบหน้านวลเนียนของเธอ
“อยากเป็นของเชนเหรอ?”
เสียงทุ้มต่ำกระซิบแผ่วเบาอยู่ข้างหูของหญิงสาว เธอครางตอบแผ่วเบา “อือ” ก่อนที่เขาใช้ลิ้นเลียไซ้ใบหู กลิ่นกายหอมอ่อน ๆ ของหญิงสาวทำให้เขาขาดสติ ศีลธรรมอันดีได้ถูกเก็บซ่อนไว้ส่วนลึก
ริมฝีปากค่อย ๆ ไล้ลงตามแนวคอก่อนจะประทับรอยจูบช้า ๆ พลางสลับกับลิ้นสากที่ลากสัมผัส
“อือ~”
เสียงครางนุ่มนวลของสาวชื่อส้มดังขึ้นแผ่วเบา ชวนให้เขารู้สึกตื่นเต้น นิ้วมือสากเขี่ยสายเดี่ยวเส้นเล็กที่เกี่ยวบ่าเธอไว้ให้เลื่อนออก
มือหนาค่อย ๆ ไล้ไปตามเนินเนื้อเนียนที่เผยออกอย่างช้า ๆ ตามแรงของเขาที่ดึงเดรสแดงลง ขณะเดียวกันริมฝีปากก็ลิ้มลองสัมผัสตามเรือนร่างเนียนขาว เคล้ากลิ่นหอมอ่อน ๆ จากกายสาว
เดรสแดงถูกดึงลงไป จนในที่สุดก็หลุดออกจากเรือนร่างเนียน เต้าอูมไม่ได้ถูกห่อหุ้มด้วยชั้นใน แต่ถูกแผ่นซิลิโคนสีเนื้อปิดยอดปทุมถัน ท่อนล่างเหลือไว้เพียงแพนตี้ลูกไม้สีครีม
เขาคลี่ยิ้มบางอย่างพอใจ มองใบหน้าสวยของหญิงสาว ดวงตากลมโตสบตามองเขาด้วยแววตาเปี่ยมไปด้วยความปรารถนา
ไฟแห่งราคะร้อนรุ่มสุมในอก มือเล็กค่อย ๆ เอื้อมไปปลดกระดุมเสื้อของเขาช้า ๆ ก่อนที่เธอจะยันตัวขึ้นมาและพาริมฝีปากอวบอิ่มทาบทับลงบนริมฝีปากเขา เธอบดเบียดริมฝีปากที่เม้มชิด พลางขบงับริมฝีปากนั้นอย่างมอมเมา น้ำหนักที่กดลงมานั้นหนักแน่นจนทำให้หัวใจของเขาหลอมละลาย ก่อนจะเอนกายทาบทับร่างบางที่อยู่เบื้องล่าง
เขาใช้ลิ้นหนาแลบเลียรอยแยกริมฝีปาก ลิ้นนั้นแทรกซอนเข้าไป ปลายลิ้นเลียดุนเพดานปาก ตวัดลิ้นเลียช่องปากมันอุดเสียงครางอย่างลึกซึ้ง
“อือ~ อื้อ”
มือหนาเลื่อนไล้ไปตามเรือนร่างก่อนจะบีบเค้นเต้าอวบอิ่มที่ยังคงมีสิ่งกำบังยอดทุมถัน
เขาถอนลิ้นออกจากปากหญิงสาว ไล้เลียใต้คางลากยาวมาจนถึงเนินเนื้อ มือเรียวดึงแผ่นซิลิโคนออกอย่างช้า ๆ จนเผยให้เห็นตุ่มไตชูชันสีชมพูนมล่อตา นิ้วมือสากค่อย ๆ เคลื่อนไปคลึง และขยี้ เรียวขาของหญิงสาวพลางขยับขึ้นลงร้องครงด้วยความเคลิบเคลิ้ม
“อื้อ~ เสียว … ชะ ใช้-”
ยังไม่ทันสิ้นเสียงกระเส่า ลิ้นสากบรรจงโลมเลียปลายถันช้า ๆ ก่อนเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น ทั้งดูด ทั้งดึง
“อ๊ะ! ซีด!! เสียว เชน ส้มเสียว”
มือหนาบีบรัดเต้าตูมไว้อีกข้างได้หยุดลง ลิ้นสากที่รัวเลียยอดทุมถัน ถูกไล้ไปตามเรือนร่างช้า ๆ จนถึงโคนขาของเธอ นิ้วมือชายหนุ่มสัมผัสแผ่วเบาที่จุดอ่อนไหวผ่านแพนตี้สีเนื้อ นิ้วมือหมุนวนคลึงเบา ๆ แต่หากปลายลิ้นสากยังลงเลียที่โคนขาก่อนที่เขาจะหยุดทุกอย่าง และดึงแพนตี้ที่ปิดจุดสงวนออก
เนินเนื้ออูมเผยให้เห็นอยู่เบื้องหน้า เขายิ้มกว้างอย่างพึงใจ ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างดันขาหญิงสาวให้แยกออก ลิ้นอุ่นค่อย ๆ แตะสัมผัสติ่งเสียวช้า ๆ เสียงครางอื้ออึงแทรกสวนเข้ามา ทำให้เขาเร่งจังหวะปลายลิ้น เลียขึ้นเลียลงราวกับขนมหวานที่เขาโหยหา
“อ๊าห์! เสียว~”
นิ้วมือสากเลื่อนสััมผัสโพรงเนื้อ ก่อนจะดันเข้าไปเบา ๆ แต่ดูเหมือนมันจะแคบกว่าที่คิดไว้
“แกเป็นคนบอกเองว่าจะไม่ถึงเนื้อถึงตัวฉัน”
คำนั้นสะท้อนกลับเข้ามาในหูของเขาอีกครั้ง มันคงจะจริงอย่างที่เธอว่า คนรักของเธอยังคงถนอมความบริสุทธิ์นี้ไว้ แต่วันนี้เขากำลังจะพรากมันไป
เขาถอนนิ้วออกจากโพรงเนื้อ ก่อนจะใช้ลิ้นไล่เลียขึ้นลงตั้งแต่ติ่งเสียวจนถึงปากทางรัก สลับจังหวะช้าและเร็ว จนทำให้เธอร้องครางเสียงหลง
ไม่นานนักปลายลิ้นอุ่นร้อนก็ชอนไชเข้าไปในโพรงเนื้อช้า ๆ สัมผัสรสหวานล้ำจากน้ำปรารถนา ภายในโพรงเนื้อช่างอบอุ่นและแนบแน่น ก่อนที่เขาจะถอนลิ้นอีกครั้งและบรรจงเลียจุดกระสันด้วยจังหวะรัวเร็ว
“อ๊ะ! อ๊าส์! อ๊าส์!”
ลำตัวและเรียวขาเธอเกร็งขึ้นจนเขาสัมผัสได้ เขาไม่คิดจะหยุดแค่นี้ เขายังคงละเลงลิ้นให้ไวขึ้น พร้อมกับใช้ปลายนิ้วสากสอดเข้าไปในโพรงเนื้อช้า ๆ ทั้งดันเข้า และถอนออกเป็นจังหวะ
“อ๊ะ! อ๊าส์! อ๊าส์! ซีดดด”
หญิงสาวร้องเสียงหลง สติเธอพร่าเลือนพร้อมกับภาพสีขาวโพลน ร่างบางกระตุกเบา หยาดน้ำใสที่พุ่งออกจนเขาสัมผัสได้ถึงรสชาติหวานล้ำ
ร่างสูงขึ้นคร่อมร่างบางพลางปลดเข็มขัดที่รัดกางเกงสีดำไว้ ดวงตากลมโตของหญิงสาวสบเข้ากับเป้ากางเกงเขาที่ดุ้นแข็ง ๆ มันเด่นให้เห็นภายใต้ร่มผ้านั่น
มือเรียวเอื้อมไปรูดซิบกางเกงเขาอย่างรวดเร็ว และรุนแรง ก่อนที่เธอจะชันตัวลุกขึ้นอีกครั้งหวังช่วยเขาปลดเปลื้องตะขอนั้นออก
เธอและเขาช่วยกันดึงกางเกงสีดำ และบ็อกเซอร์ลง และความหรรษาจะตั้งชูชันต่อหน้าเธอ เธอกำไว้ แต่มันไม่มิดเพราะความใหญ่โตของมันเกินกำลังเธอไปมาก แต่เธอก็ไม่ย่อท้อแม้ดวงตาจะจ้องมองใบหน้าเขา แต่โพรงปากเธอกับสอดรับท่อนเอ็นนั้นไว้ในอย่างหื่นกระหาย
เธอไม่เคยทำ แม้มันจะเป็นครั้งแรกแต่ความอุ่นร้อนจากโพรงปากและลิ้นสาวทำให้เขาเผลอครางเสียงอ่อน
โพรงปากเธอรูดขึ้นรูดลงช้า ๆ เธอพยายามใช้ปลายลิ้นตวัดหัวเห็ดอย่างดูดดื่ม เขาใช้เอวสอบช่วยดันเข้าดันออกให้เธอราวกับให้มันได้จังหวะ
“อ่าส์! เสียว ส้ม ผมเสียว”
เธอเร่งจังหวะรูดขึ้นรูดลง พร้อมกับใช้ลิ้นสาวตวัดเลียพวงเนื้ออย่างกระหาย
มือหนาประคองศีรษะเธอ และกระทุ้งท่อนเอ็นเข้าไปให้ลึกเข้าไปในโพรงปาก
“อื้อ อื้อ”
เธอครางรับ รัวจังหวะให้เร็วขึ้นราวกับจะให้ชายหนุ่มปล่อยน้ำขาวขุ่นไหลออกมา แต่เขาไม่ยอมทำแบบนั้น
เขาชักท่อนเนื้อใหญ่ออกจากปากเธอ ผลักเธอลงเตียงเบา ๆ พร้อมกับยกขาเธอวางพาดบนบ่าเขา สอดท่อนเอ็นลำใหญ่เข้าไปในโพรงทางรักช้า ๆ
“โอ๊ย! เจ็บ!”
“อ่าส์ ซีดด!”
โพรงทางรักมันช่างคับแน่น แต่นั่นมันยิ่งทำให้เขาเสียววาบ
“ช้า ๆ นะ ถ้าคุณเจ็บ คุณบอก”
“อื้อ~”
เธอตอบพลางครางแผ่ว เขาค่อย ๆ ดันท่อนเอ็นเข้าร่องเนื้อจนสุดลำ ความรู้สึกเสียวซ่านเข้าครอบงำแทนความเจ็บ เขาโยกเอวเข้าออกช้า ๆ ใบหน้าเธอบิดเบี้ยวด้วยความเสียวซ่าน เขาจึงเร่งจังหวะทำรักนั้นให้เร็วขึ้น
“อ๊ะ ซีด อ๊าส์! รู้สึกดีชะมัด”
เธอร้องครางเสียว มือเรียวยกขึ้นบีบเค้นเต้าอวบตนเอง ยิ่งทำให้เขาเสียววาบก่อนจะเร่งจังหวะและกระแทกซ้ำ ๆ ราวกับเครื่องจักร
“อ๊าา~”
เขายังคงกระแทกจังหวะรักอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด พร้อมกับใช้นิ้วโป้งเค้นคลึงติ่งเสียวหวังให้เธอถึงสวรรค์ชั้นฟ้าอีกสักครั้ง
“อื้อออ~”
ตับ! ตับ! ตับ!
เสียงกายเนื้อกระแทกกันอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับเสียงเตียงกระแทกกับกำแพงห้องอย่างรุนแรง ร่างหญิงสาวเกร็งกระตุกวาบ และหยาดน้ำใสก็พุ่งออกมาจนเต็มต้นขาเขา
“ชอบไหม?”
เขายิ้มกริ่มพลางถามเธอด้วยน้ำเสียงกระเส่า เอสอบยังคงกระแทกกระทั้นมาอย่างไม่ใยดี
“ชะ ชอบ ยะ อย่าหยุด!! สะ เสียว!!”
เธอพูดอึกอักราวกับจะขาดใจ แต่เธอยังไม่ยอมให้เขาหยุดทำเช่นนั้น เสียงครางเธอยังคงดังขึ้นเป็นระยะราวกับเป็นสัญญาณบอกให้เขารับรู้ว่าเธอพอใจเพียงใด
“ซีดดด!! จะเสร็จ”
เขาพาท่อนเนื้อชักเข้าชักออกภายในโพรงทางรักอย่างเมามัน และในที่สุดเขาก็ชักออก น้ำขาวขุ่นพุ่งออกมาเต็มหน้าท้องเนียนราบ
แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องผ่านกระจกใสของห้องพักชั้น 32 ละอองแสงสีทองอ่อน ๆ ทอประกายระยิบระยับ ส้มโอนอนนิ่งอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์ ร่างบางถูกห่มคลุมด้วยผ้านวมสีขาวนุ่ม เธอยังคงหลับใหลด้วยความอ่อนล้าจากค่ำคืนอันเร่าร้อน ใบหน้าสวยดูสงบนิ่งราวกับเทพธิดาที่หลับใหล ดวงตาคู่สวยค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก ศีรษะเธอหนักอึ้งด้วยอาการเมาค้าง ร่างบางพลิกตะแคงข้าง มือเรียวคลำหาโทรศัพท์ แต่ไม่รู้ว่าไปวางไว้ตรงไหน เธอจึงตัดสินใจลุกขึ้นนั่ง “นี่มัน … อะไรเนี่ย!!” ดวงตาคู่เหลือบเห็นเดรสสีแดงตุ่น และแพนตี้สีครีมของเธอ วางกองอยู่ปลายเตียงราวกับถูกทอดทิ้ง ภาพชายหนุ่มเชิ้ตขาวคนเมื่อคืนแล่นปราดเข้ามาในห้วงคำนึง เมื่อเธอนึกได้จึงหันมองไปที่เตียงนอน .. แต่บนเตียงใหญ่ กลับไม่พบใคร ที่นอนเคียงข้าง “ฝันเหรอ? แต่ฝันอะไร บ้าบอชะมัด” มือเรียวเล็กกุมขมับที่ปวดตึบ เธอรู้สึกลำคอแห้งผากต้องการดื่มน้ำเปล่าให้ชุ่มคอเสียหน่อย จึงค่อย ๆ ยกเรียวขาขาวให้ก้าวลงจากเตียงนอน แต่ทว่า.. .. ความเจ็บแสบที่แก่นกลางกายมันปะทุขึ้น จนเธอเผลอร้องออกมา “ซีด! โอ๊ยเจ็บ!”
“งั้นอย่างน้อย ตอนนี้เราสองคนก็รู้จักกันแล้วนะ ฉันขอแนะนำตัวอีกครั้ง ฉันชื่อส้มโอ เรียกว่าส้มเฉย ๆ ก็พอ” เธอยิ้มอย่างอ่อนหวาน ดวงตาเป็นประกายขณะที่ยื่นมือเรียวบางไปข้างหน้า “ครับ ผมชื่อคเชณทร์ เรียกผมว่าเชน” เขายื่นมือมาจับมือเธอ สัมผัสอุ่น ๆ ที่ทำให้หัวใจกระตุก “เอิ่ม ... เรียกว่าอะไรก็ได้ครับ ถ้าชื่อผมมันทำให้คุณ ...” เขาพูดอึกอัก ลังเลเล็กน้อย เมื่อนึกได้ว่าชื่อของตนนั้นบังเอิญไปพ้องกับชื่อคนที่เคยทำให้เธอเจ็บปวด “เรียกอะไรดีล่ะ ฉันขอเรียกว่า .. คุณหมีแล้วกันนะ” “ทำไมล่ะ?” “ห้ามขำฉันนะ .. ฉันเคยขี่ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่เขาซื้อให้ แต่ดูเหมือนตอนนี้ ..” เธอหยุดพูดชั่วขณะสายตาทอดมองไปยังร่างกำยำของคนตรงหน้าด้วยแววตาเว้าวอน “ฉันจะเจอตุ๊กตาหมี ‘ตัวใหญ่’ ของฉันเข้าแล้วสิ” เธอยิ้มกริ่มพลางกัดริมฝีปากตัวเองเล็ก ๆ แววตาอาบย้อมด้วยความปรานารถ น้ำเสียงเธอมันช่างยั่วยวนคนฟังให้หื่นกระหาย “แต่ คุณยังไม่เคยขี่ ‘คุณหมี’ เลยนะ” ดวงตาหยาดเยิ้มจ้องมองใบหน้าสวย และเผยยิ้มยั่ว
สามสัปดาห์ต่อมา วันที่ส้มโอต้องติดสินใจว่าจะเช่าโรงแรมนี้อยู่ต่ออีกเดือน หรือว่าจะตอบรับข้อเสนอของคเชณทร์ เมื่อสองสัปดาห์ก่อนที่เจอกันครั้งล่าสุด น้ำเสียงทุ้มต่ำของเขายังก้องอยู่ในหู ชายแปลกหน้าคนนั้นที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นคนที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี “ส้ม ถ้าคุณไม่มีที่ไป มาอยู่คอนโดผมก็ได้นะ” คเชณทร์เอ่ยเสียงเรียบ แววตาคมจ้องมองเธอด้วยความอ่อนโยน “ให้ฉันไปอยู่กับคุณน่ะเหรอ?” “ไม่ได้อยู่กับผมหรอก ห้องนั้นผมมันว่าง ผู้เช่าเก่าเพิ่งย้ายออก” “แล้วคุณคิดค่าเช่าเท่าไรล่ะ” เธอสบตาเขาราวกับสนใจ “ถ้าเป็นคุณผมไม่คิดเงินหรอก คุณอยู่ไปเถอะ คุณเองก็เหลือเงินเก็บไม่มากแล้วนี่ ไหนจะเรียน ป.โท ปีสุดท้ายอีก” เธอย่นคิ้วพลางหรี่ตามองชายตรงหน้าอย่างฉุกคิด เพราะเหตุใดเขาจึงเสนอห้องว่างที่คอนโดให้เธออยู่ฟรีกันแน่ “เอ .. คุณจะเป็นเสี่ยเลี้ยงฉันเหรอ?” เธอพูดพลางขำ “อืม จะว่างั้นก็ได้นะ” เขาตอบกลับพร้อมรอยยิ้มกว้าง “ให้ฉันไปอยู่ฟรีแลกกับอะไรเหรอ?” “ถ้าเป็นตอนนี้คงมีเรื่องเดียวแหละนะ ... เราสองคนต่างก็รู้กั
“ส้ม …” “เราเลิกกันเถอะ …” “อะไรนะ” คำพูดที่เธอไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากคนรักที่คบหากันมานานถึง 7 ปี เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แววตาเขาไม่ได้สะท้อนถึงความโศกเศร้า หรือเสียใจเลยสักนิด “ทะ ทำไมล่ะ? เชน” “เธออย่าเสียเวลากับเราเลย” เขาเบือนหน้าหนี เมื่อเห็นแววตาใสซื่อของเธอ “มะ .. ไม่ เราไม่ได้เสียเวลาเลย นะ .. นี่ไง ปีหน้าเราก็จบ ป.โทแล้ว เราก็จะได้แต่งงานกัน” ส้มโอมองใบหน้าคมของชายคนรักด้วยแววตาสั่นไหว มือเล็กคว้าแขนแกร่งของเขา ราวกับขอร้องว่าอย่าไป เธอยังจำได้ดีวันที่เขาให้คำมั่นสัญญาว่าจะรอจนกว่าเธอจะเรียนจบแล้วจะแต่งงานสร้างครอบครัวด้วยกัน แต่ทว่า … วันนี้กลับกลายเป็นเขาที่ดูเหมือนจะทำผิดสัญญา “ส้ม .. พอเถอะ” ราเชนชักแขนออกจากการเกาะกุมของมือเล็ก ๆ สายตาเย็นชามองใบหน้าสวยอย่างอึดอัดใจ สายตาเศร้าหมองช้อนขึ้นมองคนตัวสูง ริมฝีปากสั่นระริก เขาเหมือนโลกทั้งใบของเธอ หากวันนี้เสียเขาไปเธอเองก็ไม่รู้จะมีชีวิตต่อได้เช่นไร ในเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา เขาคือคนเดียวที่เธอมีอยู่ ชีว
สามสัปดาห์ต่อมา วันที่ส้มโอต้องติดสินใจว่าจะเช่าโรงแรมนี้อยู่ต่ออีกเดือน หรือว่าจะตอบรับข้อเสนอของคเชณทร์ เมื่อสองสัปดาห์ก่อนที่เจอกันครั้งล่าสุด น้ำเสียงทุ้มต่ำของเขายังก้องอยู่ในหู ชายแปลกหน้าคนนั้นที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นคนที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี “ส้ม ถ้าคุณไม่มีที่ไป มาอยู่คอนโดผมก็ได้นะ” คเชณทร์เอ่ยเสียงเรียบ แววตาคมจ้องมองเธอด้วยความอ่อนโยน “ให้ฉันไปอยู่กับคุณน่ะเหรอ?” “ไม่ได้อยู่กับผมหรอก ห้องนั้นผมมันว่าง ผู้เช่าเก่าเพิ่งย้ายออก” “แล้วคุณคิดค่าเช่าเท่าไรล่ะ” เธอสบตาเขาราวกับสนใจ “ถ้าเป็นคุณผมไม่คิดเงินหรอก คุณอยู่ไปเถอะ คุณเองก็เหลือเงินเก็บไม่มากแล้วนี่ ไหนจะเรียน ป.โท ปีสุดท้ายอีก” เธอย่นคิ้วพลางหรี่ตามองชายตรงหน้าอย่างฉุกคิด เพราะเหตุใดเขาจึงเสนอห้องว่างที่คอนโดให้เธออยู่ฟรีกันแน่ “เอ .. คุณจะเป็นเสี่ยเลี้ยงฉันเหรอ?” เธอพูดพลางขำ “อืม จะว่างั้นก็ได้นะ” เขาตอบกลับพร้อมรอยยิ้มกว้าง “ให้ฉันไปอยู่ฟรีแลกกับอะไรเหรอ?” “ถ้าเป็นตอนนี้คงมีเรื่องเดียวแหละนะ ... เราสองคนต่างก็รู้กั
“งั้นอย่างน้อย ตอนนี้เราสองคนก็รู้จักกันแล้วนะ ฉันขอแนะนำตัวอีกครั้ง ฉันชื่อส้มโอ เรียกว่าส้มเฉย ๆ ก็พอ” เธอยิ้มอย่างอ่อนหวาน ดวงตาเป็นประกายขณะที่ยื่นมือเรียวบางไปข้างหน้า “ครับ ผมชื่อคเชณทร์ เรียกผมว่าเชน” เขายื่นมือมาจับมือเธอ สัมผัสอุ่น ๆ ที่ทำให้หัวใจกระตุก “เอิ่ม ... เรียกว่าอะไรก็ได้ครับ ถ้าชื่อผมมันทำให้คุณ ...” เขาพูดอึกอัก ลังเลเล็กน้อย เมื่อนึกได้ว่าชื่อของตนนั้นบังเอิญไปพ้องกับชื่อคนที่เคยทำให้เธอเจ็บปวด “เรียกอะไรดีล่ะ ฉันขอเรียกว่า .. คุณหมีแล้วกันนะ” “ทำไมล่ะ?” “ห้ามขำฉันนะ .. ฉันเคยขี่ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่เขาซื้อให้ แต่ดูเหมือนตอนนี้ ..” เธอหยุดพูดชั่วขณะสายตาทอดมองไปยังร่างกำยำของคนตรงหน้าด้วยแววตาเว้าวอน “ฉันจะเจอตุ๊กตาหมี ‘ตัวใหญ่’ ของฉันเข้าแล้วสิ” เธอยิ้มกริ่มพลางกัดริมฝีปากตัวเองเล็ก ๆ แววตาอาบย้อมด้วยความปรานารถ น้ำเสียงเธอมันช่างยั่วยวนคนฟังให้หื่นกระหาย “แต่ คุณยังไม่เคยขี่ ‘คุณหมี’ เลยนะ” ดวงตาหยาดเยิ้มจ้องมองใบหน้าสวย และเผยยิ้มยั่ว
แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องผ่านกระจกใสของห้องพักชั้น 32 ละอองแสงสีทองอ่อน ๆ ทอประกายระยิบระยับ ส้มโอนอนนิ่งอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์ ร่างบางถูกห่มคลุมด้วยผ้านวมสีขาวนุ่ม เธอยังคงหลับใหลด้วยความอ่อนล้าจากค่ำคืนอันเร่าร้อน ใบหน้าสวยดูสงบนิ่งราวกับเทพธิดาที่หลับใหล ดวงตาคู่สวยค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก ศีรษะเธอหนักอึ้งด้วยอาการเมาค้าง ร่างบางพลิกตะแคงข้าง มือเรียวคลำหาโทรศัพท์ แต่ไม่รู้ว่าไปวางไว้ตรงไหน เธอจึงตัดสินใจลุกขึ้นนั่ง “นี่มัน … อะไรเนี่ย!!” ดวงตาคู่เหลือบเห็นเดรสสีแดงตุ่น และแพนตี้สีครีมของเธอ วางกองอยู่ปลายเตียงราวกับถูกทอดทิ้ง ภาพชายหนุ่มเชิ้ตขาวคนเมื่อคืนแล่นปราดเข้ามาในห้วงคำนึง เมื่อเธอนึกได้จึงหันมองไปที่เตียงนอน .. แต่บนเตียงใหญ่ กลับไม่พบใคร ที่นอนเคียงข้าง “ฝันเหรอ? แต่ฝันอะไร บ้าบอชะมัด” มือเรียวเล็กกุมขมับที่ปวดตึบ เธอรู้สึกลำคอแห้งผากต้องการดื่มน้ำเปล่าให้ชุ่มคอเสียหน่อย จึงค่อย ๆ ยกเรียวขาขาวให้ก้าวลงจากเตียงนอน แต่ทว่า.. .. ความเจ็บแสบที่แก่นกลางกายมันปะทุขึ้น จนเธอเผลอร้องออกมา “ซีด! โอ๊ยเจ็บ!”
ริมฝีปากอวบอิ่มแช่ค้างอยู่ที่ริมฝีปากเขา พร้อมลมหายใจอุ่น ๆ ที่คลุ้งกลิ่นไวน์อ่อน ๆ มือหนาโอบอุ้มร่างบางพลางพยุงขึ้น เขาจับเธอพลิกให้เธอนอนเอนกายอย่างสบายบนเตียงนุ่ม “เชน ส้มไม่ได้อยากจูบเชน” ที่ผ่านมาราเชนมอบให้เธอเพียงรสจูบหวานล้ำ แต่ไม่เคยแตะต้องผิวกายหรือสัมผัสเรือนร่างที่เธอเฝ้าบำรุง เพราะอยากให้เธอเสียความบริสุทธิ์ให้เขาในวันแต่งงาน “ส้มอยากเป็นของเชน” หญิงร่างบางที่นอนราบอยู่บนเตียงเอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสียงอ่อนระโหย ก่อนส่งสายตาเว้าวอน คเชณทร์ไม่รีรอ เขาชันเข่าคร่อมร่างเล็กที่อยู่เบื้องล่าง สองแขนแกร่งค้ำยันร่างหนา โน้มใบหน้าลงมาใกล้ เขางับริมฝีปากล่างของเธอที่แววตามองมาด้วยอารมณ์ใคร่ที่เต็มเปี่ยม เขาบดคลึงริมฝีปากสัมผัสรสจูบอย่างแผ่วเบา เขาผละออกชั่วครู่ ก่อนจะลอบมองใบหน้านวลเนียนของเธอ “อยากเป็นของเชนเหรอ?” เสียงทุ้มต่ำกระซิบแผ่วเบาอยู่ข้างหูของหญิงสาว เธอครางตอบแผ่วเบา “อือ” ก่อนที่เขาใช้ลิ้นเลียไซ้ใบหู กลิ่นกายหอมอ่อน ๆ ของหญิงสาวทำให้เขาขาดสติ ศีลธรรมอันดีได้ถูกเก็บซ่อนไว้ส่วนลึก ริมฝีปากค่อย ๆ ไล
“ส้ม …” “เราเลิกกันเถอะ …” “อะไรนะ” คำพูดที่เธอไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากคนรักที่คบหากันมานานถึง 7 ปี เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แววตาเขาไม่ได้สะท้อนถึงความโศกเศร้า หรือเสียใจเลยสักนิด “ทะ ทำไมล่ะ? เชน” “เธออย่าเสียเวลากับเราเลย” เขาเบือนหน้าหนี เมื่อเห็นแววตาใสซื่อของเธอ “มะ .. ไม่ เราไม่ได้เสียเวลาเลย นะ .. นี่ไง ปีหน้าเราก็จบ ป.โทแล้ว เราก็จะได้แต่งงานกัน” ส้มโอมองใบหน้าคมของชายคนรักด้วยแววตาสั่นไหว มือเล็กคว้าแขนแกร่งของเขา ราวกับขอร้องว่าอย่าไป เธอยังจำได้ดีวันที่เขาให้คำมั่นสัญญาว่าจะรอจนกว่าเธอจะเรียนจบแล้วจะแต่งงานสร้างครอบครัวด้วยกัน แต่ทว่า … วันนี้กลับกลายเป็นเขาที่ดูเหมือนจะทำผิดสัญญา “ส้ม .. พอเถอะ” ราเชนชักแขนออกจากการเกาะกุมของมือเล็ก ๆ สายตาเย็นชามองใบหน้าสวยอย่างอึดอัดใจ สายตาเศร้าหมองช้อนขึ้นมองคนตัวสูง ริมฝีปากสั่นระริก เขาเหมือนโลกทั้งใบของเธอ หากวันนี้เสียเขาไปเธอเองก็ไม่รู้จะมีชีวิตต่อได้เช่นไร ในเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา เขาคือคนเดียวที่เธอมีอยู่ ชีว