สามสัปดาห์ต่อมา
วันที่ส้มโอต้องติดสินใจว่าจะเช่าโรงแรมนี้อยู่ต่ออีกเดือน หรือว่าจะตอบรับข้อเสนอของคเชณทร์
เมื่อสองสัปดาห์ก่อนที่เจอกันครั้งล่าสุด น้ำเสียงทุ้มต่ำของเขายังก้องอยู่ในหู ชายแปลกหน้าคนนั้นที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นคนที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี
“ส้ม ถ้าคุณไม่มีที่ไป มาอยู่คอนโดผมก็ได้นะ” คเชณทร์เอ่ยเสียงเรียบ แววตาคมจ้องมองเธอด้วยความอ่อนโยน
“ให้ฉันไปอยู่กับคุณน่ะเหรอ?”
“ไม่ได้อยู่กับผมหรอก ห้องนั้นผมมันว่าง ผู้เช่าเก่าเพิ่งย้ายออก”
“แล้วคุณคิดค่าเช่าเท่าไรล่ะ” เธอสบตาเขาราวกับสนใจ
“ถ้าเป็นคุณผมไม่คิดเงินหรอก คุณอยู่ไปเถอะ คุณเองก็เหลือเงินเก็บไม่มากแล้วนี่ ไหนจะเรียน ป.โท ปีสุดท้ายอีก”
เธอย่นคิ้วพลางหรี่ตามองชายตรงหน้าอย่างฉุกคิด เพราะเหตุใดเขาจึงเสนอห้องว่างที่คอนโดให้เธออยู่ฟรีกันแน่
“เอ .. คุณจะเป็นเสี่ยเลี้ยงฉันเหรอ?” เธอพูดพลางขำ
“อืม จะว่างั้นก็ได้นะ” เขาตอบกลับพร้อมรอยยิ้มกว้าง
“ให้ฉันไปอยู่ฟรีแลกกับอะไรเหรอ?”
“ถ้าเป็นตอนนี้คงมีเรื่องเดียวแหละนะ ... เราสองคนต่างก็รู้กันนี่” เขายิ้มกริ่มปรายตามองหญิงเบื้องหน้าอย่างมีเลศนัย
“โอเคมั้ยอยู่ฟรี 1 ปี หลังจากเรียนจบแล้ว ค่อยขยับขยายไป ถ้าคุณตกลง คุณโทรหาผมนะ ผมจะมารับ”
เขาวางนามบัตรใบสีขาวไว้บนโต๊ะตรงหน้าเธอ พร้อมกับเดินออกจากห้องไป
“ผมไปก่อนนะ หวังว่าคงได้เจอกันอีก”
มือเรียวคว้าเอานามบัตรสีขาวที่เธอเก็บไว้อย่างดีขึ้นมาอ่านอีกครั้ง
“คเชณทร์ สวัสดิ์ภักดิ์ กรรมการบริหาร บริษัท แอลเอ็ม จำกัด (มหาชน)”
เธออ่านชื่อและตำแหน่งของเขาอย่างพินิจพิเคราะห์ ก่อนที่มือเรียวอีกข้างจะคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต
บริษัทแอลเอ็ม เป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนสินค้าไอทียักษ์ใหญ่ของประเทศไทย ใบหน้าของเขาปรากฏอยู่ตามสื่อ และหน้าข่าวเศรษฐกิจ ข่าวสังคม แต่เธอไม่เคยเห็นเพราะเธอไม่ได้สนใจข่าวพวกนี้เสียเท่าไร
ร่างบางทิ้งตัวลงบนโซฟาเดี่ยวที่เคยเป็นที่ทำรักของเขาและเธอ สายตาเธอทอดมองออกไปนอกหน้าต่างบานใหญ่ราวกับขบคิด
“เราไม่มีใครแล้ว ถ้าตอนนี้ได้เขามาเป็นที่พึ่งพาชั่วครู่ก็คงไม่เสียหาย”
เธอพึมพำเบา ๆ คิดถึงสิ่งต่าง ๆ รอบตัว รวมถึง การเรียนปริญญาโทของเธอมันก็เป็นสิ่งที่หนักหนาสาหัส หากเธอยังใช้ชีวิตอยู่ที่โรงแรมเพียงลำพัง ค่าห้องเดือนหลายหมื่น มันคงทำให้เธอเครียดน่าดู
“อย่างน้อยอยู่เป็นเด็กเสี่ยสักปี คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง ดูเขาจะพอใจเราเหมือนกันนะ”
เธอตัดสินใจได้ก็กดเลขสิบหลักบนหน้าจอโทรศัพท์ ยกขึ้นแนบหูรอเสียงตอบรับจากปลายสายอย่างใจจดจ่อ
ตู้ด ตู้ด
“สวัสดีครับ” เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยดังขึ้น ทำให้เธอยิ้มกริ่มที่มุมปากอย่างเบาใจ
“คุณหมี ส้มเองนะ”
“ครับ ผมจำเสียงคุณได้ ว่าไงล่ะ คิดถึงผมเหรอ?”
“อื้ม” เธอขำในลำคอ ริมฝีปากฉีกยิ้มกว้าง
“ฉันคิดถึงคุณ จนอยากให้คุณมารับน่ะ”
“สรุป คุณรับข้อเสนอผมนะ”
“ถ้าไม่รับฉันจะโทรหาคุณมั้ย?”
“ครับ มายเลดี้ ตอนเย็นผมไปรับนะ คุณเก็บของรอได้เลย”
“รับทราบค่ะ คุณหมี”
“ผมคิดว่าของคุณจะเยอะกว่านี้”
คเชณทร์ลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สีดำ พลางเดินนำหน้าส้มโอไปที่ลาดจอดรถของโรงแรม
“ฉันมีเสื้อผ้าอยู่ไม่กี่ชุด แล้วก็ของใช้ส่วนตัวนิดหน่อย เองค่ะ”
เธอตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ ก่อนที่ฝีเท้าชะงักลงที่รถยนต์ SUV คันหรูสัญชาติยุโรป
“คุณหิวมั้ย?”
“นิดหน่อยค่ะ กะว่าถึงคอนโดคุณแล้ว ค่อยต้มบะหมี่กิน” เธอชี้นิ้วไปที่กระเป๋าเดินทาง ขณะที่เขากำลังยกมันขึ้นไป ราวกับบอกนัย ๆ ว่า ของใช้ส่วนตัวของเธอนั่น รวมไปถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปด้วย
“งั้นไปกินข้าวกันก่อน” ดวงคาตมจ้องมองเธอ พร้อมรอยยิ้มหวาน ก่อนที่เขาและเธอจะเดินขึ้นรถไป
หลังจากทานมื้อค่ำกันจนอิ่มหนำ เขาพาเธอมายังคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในย่านที่เงียบสงบ อาคารสูงสิบห้าชั้นตั้งตระหง่านท่ามกลางสวนขนาดย่อม แม้จะไม่ใช่คอนโดหรูระดับไฮเอนด์ แต่การตกแต่งที่เรียบง่ายและบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวก็ชวนให้รู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด
“คุณอยู่ได้มั้ย ห้องมันอาจจะเล็กไปหน่อย”
เธอกวาดตามองห้องพักหรูที่ตั้งตระหง่านอยู่บนชั้นสูงสุดของคอนโด ห้องขนาด 80 ตารางเมตรถูกออกแบบด้วยสไตล์โมเดิร์นที่ดูเรียบหรู เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นถูกเลือกสรรมาอย่างพิถีพิถัน วางเรียงตัวสอดประสานกันอย่างลงตัว เธอย่างก้าวสำรวจพื้นที่ไปเรื่อย ๆ จนมาหยุดที่ห้องนอนใหญ่ พร้อมห้องน้ำในตัวที่ดูหรูหราไม่แพ้กัน
“นี่เล็กแล้วเหรอ?”
ภายในห้องนอนใหญ่ถูกจัดวางอย่างดี เตียงขนาดคิงไซส์ตั้งเด่นเป็นสง่า ผ้าปูเตียงสีครีมอ่อนดูนุ่มละมุน ชวนให้สัมผัส ผนังด้านหนึ่งประดับด้วยทีวีจอแบนขนาดใหญ่ที่สะท้อนแสงวิบวับ ส่วนอีกด้านเป็นตู้เสื้อผ้าบิ้วท์อินที่ทอดตัวยาวจรดเพดาน ทุกองค์ประกอบล้วนสะท้อนความหรูหราและรสนิยมอันเลิศ
“มันใหญ่มากสำหรับฉันเลยนะ”
“ถ้าคุณชอบ ผมก็ดีใจ” เขายกยิ้มขึ้นมุมปากจนตาปิด
“แน่ใจเหรอ? ว่าให้ฉันอยู่ฟรี”
“อืม แต่ผมที่ข้อแลกเปลี่ยนนิดหน่อย” เขาทอดกายลงนั่งบนเตียงใหญ่ แววตาเขาเจือด้วยความหวัง
“คุณห้ามพาใครมาที่นี่ ที่นี่จะมีแค่คุณกับผมเท่านั้น”
“ฉันรู้อยู่แล้วล่ะ ถ้าวันนึงฉันมีแฟนขึ้นมา ฉันก็จะย้ายออกไปพร้อมคืนห้องให้คุณในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด”
“คุณไม่มีแฟนหรอก ไม่สิ .. คุณมีแฟนไม่ได้หรอก”
เขาโพร่งขึ้นมาจนทำให้เธอเลื่อนสายตาไปสบกับเขา ใบหน้าที่เคยสดใสกลับบึ้งตึงเล็ก ๆ
“ทำไมล่ะ ทำไมฉันจะมีไม่ได้?”
“ผมถูกใจคุณเกินกว่า .. จะให้คุณเป็นของใคร”
คนตัวสูงลุกพรวด เดินเข้ามาประชิดร่างบาง ส้มโอถอยหลังจนแผ่นหลังแนบชิดกับตู้เสื้อผ้าใหญ่ หัวใจเธอเต้นรัวเร็วขึ้นเล็กน้อย
“ผมมันคนเห็นแก่ตัวนะส้ม ผมให้สถานะคุณไม่ได้ แต่ผมสัญญาว่าจะดูแลคุณอย่างดี ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม”
เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นอยู่ข้างหู พลางเอาเธอขนลุกซู่ด้วยความเสียววาบ เขายืนประชิดตัวเธอจนสัมผัสถึงลมหายใจอุ่น
“เดี๋ยวค่ะ คุณหมี ฉันไม่คิดว่าคุณจะ ..”
ริมฝีปากเขาประกบเข้ากับริมฝีปากเธอโดยไม่ปล่อยให้เธอได้พูดจบประโยค
“อุน อี๋ (คุณหมี)”
ส้มโอพยายามผลักเขาออก แต่ริมฝีปากร้อนของเขาก็ยังคงประทับแนบแน่น มือบางทุบอกกว้างเบา ๆ หมายให้ถอยห่าง แต่มือแกร่งของเขากลับรวบข้อมือเล็กไว้ในอ้อมแขน กักขังเธอไว้ในพันธนาการ
ลิ้นอุ่นสอดแทรกเข้าไปในโพรงปาก เขาทั้งดุนและดันผนังปากของเธออย่างนุ่มนวล ดวงตาคมที่ลืมตามองเธออยู่พลันหลับตาพริ้ม
“คุณเป็นของผมแล้วนะส้ม ผมไม่ให้คุณไปไหน คุณตกอยู่ในหลุมพรางของผมแล้ว”
เขาถอนริมฝีปากออก พลางเอ่ยขึ้นแผ่วเบา นิ้วสากไล้ลูกผมที่ระใบหน้าสวย ดวงตาคมมองเธอด้วยแววตาหวานฉ่ำ
“คุณหมี”
“นับแต่วันนี้ไป คุณอยากได้อะไร จะใช้จ่ายอะไรให้บอกผม ผมจะดูแลอย่างดี ผมสัญญา แต่คุณต้องยอมผมทุกอย่างเหมือนกัน”
“แล้วถ้าวันนึงคุณเบื่อฉันล่ะ?”
“ชู่ .. ส้ม ผมไม่ใช่คนเบื่อง่าย”
มือหนาถกกระโปรงเดรสสีโอรสขึ้น ใช้นิ้วดึงแพนตี้ตัวจิ๋วออก เขาไม่อาจรอได้อีกต่อไป มือหนาจับเธอพลิกตัว ใบหน้าเนียนสวยแนบชิดกับบานประตูตู้เสื้อผ้า
มืออีกข้างกดแผ่นหลังเธอให้ก้มลง จนก้นงอนเผยรับกับดุ้นแข็งที่อยู่ภายในกางเกงผ้าสีดำ
เขาเปลื้องผ้าตัวเองออก คว้าท่อนเอ็นแข็ง พลางรูดขึ้นรูดลง ก่อนจะนำหัวเห็ดถูไถที่กลีบทางรัก
“อื้อ”
เสียงครางแผ่วเบาหลุดออกมาจากปากเธอ ก่อนที่เขาจะสอดท่อนเอ็นนั้นเข้าไปในโพรงเนื้ออุ่นอย่างเนิบ ๆ จนสุดลำโคน เอวสอบเด้งเข้าเด้งออกช้า ๆ ก่อนจะรัวจังหวะให้เร็วขึ้น
ปัก! ปัก!! ปัก!!!
เสียงเนื้อชนเนื้อเป็นจังหวะ เขายิ่งรัวเร็วให้ถี่ยิบ นิ้วมือเลื่อนไปนวดคลึงจุดกระสัน หญิงสาวจิกเกร็งปลายเท้า พลางส่งเสียงร้องดังลั่นด้วยความเสียวซ่าน
“อ๊าส์ อ๊าส์ คะ คุณ หมี”
“ร้องอีก ร้องมาดัง ๆ ซีด!!”
คุณหมีของส้มเด้งเอวสอบเข้าออกอย่างไม่ยี่หระ มือใหญ่ฟาดก้นง้นของเธอด้วยอารมณ์ที่พุ่งพล่าน เข้าชักเข้าชักออกจนสุดความยาวและควงเอวอย่างถี่ยิบ
“อ๊าส์ อ๊าส์ สะ เสร็จแล้ว ๆ”
“อ่าห์ ซีดด!”
ทั้งสองถึงจุดสุดยอดพร้อมกัน ก่อนที่คเชณทร์จะถอนกายออก น้ำขาวขุ่นที่เขาอัดเข้าไปในโพรงเนื้อมันเยอะจนล้นไหลพรูออกมา
“คะ คุณหมี ปล่อยในเหรอคะ?”
“อื้ม ผมเอาออกไม่ทัน”
“ทีหลังไม่ทำแบบนี้นะคะ” เธอเอ่ยดุพลางย่นคิ้วอย่างไม่พอใจ ก่อนจะดึงแพนตี้ออกจากหว่างขา
“แต่ผมชอบ ผมอยากทำแบบนี้อีก”
“อยากมีลูกหรือไง?” เธอสวนกลับ มองเขาด้วยตาเขียว
“คนอย่างคุณคงไม่ปล่อยให้มีลูก กับผู้ชายที่ไม่ได้รักหรอกมั้ง” เขาแค่นหัวเราะ พลางดึงกางเกงขึ้นก่อนจะใส่มันกลับไปที่เดิม
แววตาสั่นไหวมองชายตรงหน้าด้วยท่าทีหมองลง เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ และเดินหายลับเข้าห้องน้ำไป
1 ปีผ่านไป
หลังจากนั่งอดตาหลับขับตานอนทำวิทยานิพนธ์มายาวนานหลายเดือน จนถึงวันที่วิทยานิพนธ์เธอได้รับการยอมรับ และสำเร็จหลักสูตรการศึกษาระดับปริญญาโท
คุณหมี : ยินดีด้วยนะ
เธออ่านข้อความที่เขาส่งมาด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างปีติ ดวงตาคู่สวยกวาดสายตามองเพนท์เฮาส์หรูที่เธอใช้เป็นที่ซุกหัวนอน และที่ร่วมหลับนอนกับคเชณทร์ ความทรงจำมากมายมันผุดขึ้นในความคิด ภาพในหน้าของเขาที่ยิ้ม และเสียงหัวเราะ ฉายวนสลับกันไป เขาและเธอต่างใช้เวลาร่วมกันมากมาย ภายในหนึ่งปีที่ผ่านมา
นี่เราต้องไปแล้วสินะ ..
สัญญาหนึ่งปีที่เธอและเขาเคยให้ไว้แก่กันมันถึงวันที่ต้องจบ
มือเรียวคว้าโทรศัพท์ก่อนจะต่อสายหาเบอร์ที่เธอเพิ่งจะเลื่อนเจอเมื่อครู่ จากกระทู้ประกาศบ้านให้เช่าในอินเตอร์เน็ต
“สวัสดีค่ะ สนใจบ้านหลังนั้น มีคนจองหรือยังคะ?”
“ยังค่ะ ถ้าคุณสนใจมาชมบ้านก่อนได้นะคะ”
“สนใจค่ะ เดี๋ยวฉันเข้าไปเลยก็ได้”
“โอเคค่ะ”
เธอวางสายโทรศัพท์ เอื้อมมือไปคว้ากุญแจรถสปอร์ต รถยนต์ของคเชณทร์ ที่เขามอบไว้ให้เธอใช้
“จะไม่ได้เจอกันแล้วนะ เจ้าแดง”
เธอบอกลากุญแจรถสปอร์ตที่อยู่ในมือ ตลอดระยะเวลา 1 ปี เธอใช้เจ้านี่เป็นพาหนะพาเธอไปเรียน ไปชอปปิง หรือแม้กระทั่งไปเที่ยวกับคุณหมีของเธอ
เงินกินเปล่าเดือนละ 100,000 บาทที่คเชณทร์โอนให้ราวกับค่าตัว ทำให้ตอนนี้เงินในบัญชีเธอมีมากมาย ยังไม่รวมวันโอกาสต่าง ๆ ทั้งของใช้ เครื่องประดับ และเครื่องแต่งกาย
เธอไม่ใช่คนสุรุ่ยสุร่าย เธอรู้ดีว่าการจากลาต้องมาถึง เธอคิดปลอบใจตัวเองว่า แม้ว่าครั้งนี้จุดเริ่มต้นของเขาและเธอมันไม่ได้สวยหรูนัก อีกทั้งเธอและเขาก็ไม่มีสถานะชัดเจน แต่ระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา เขาก็ดูแลเธอ และให้อะไรเธอหลายอย่าง
เพราะก่อนหน้านี้เธอมีแต่เสียกับเสีย แต่มาอยู่กับคเชณทร์ เธอมีแต่ได้กับได้
ได้ทั้งเงิน .. ได้ทั้งความหรรษาจากคุณหมี
เธอเปิดประตูห้องพัก แต่ร่างสูงของคเชณทร์ กลับยืนอยู่ตรงนั้น ที่อีกฝั่งของประตู
“คุณหมี”
“จะไปไหน?” เขาถามด้วยแววตาดุดัน เมื่อเห็นกุญแจรถในมือของเธอ
“ไปดูบ้านค่ะ หมดสัญญาแล้ว ส้มก็ต้องไป”
“จะไม่มีใครไปไหนทั้งนั้น” เขาผลักเธอกลับเข้าไปในห้อง ปิดประตูลง มือใหญ่แย่งกุญแจรถจากเธอ และโยนกลับไว้ที่เดิม
“คุณหมีจะทำอะไรคะ?”
“ฉันแค่จะคุยกับเธอ เรื่องสัญญา” เขาพูดพลางทิ้งตัวลงที่โซฟายาว
ร่างบางเดินตามมาติด ๆ เธอเอนกายนั่งลงข้าง ๆ เขา
“สัญญา? ก็นี่ไงคะ ส้มกำลังทำตามสัญญา”
“ไม่ใช่สัญญานั้น สัญญาใหม่”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แววตาดุดันเมื่อครู่อ่อนลงเมื่อหันมองหน้าเธอ
“สัญญาใหม่?”
“ต่อสัญญากับฉันมั้ย?”
“ต่อยังไงคะ?” เธอเลิกคิ้วสูง เอียงคอถามเขาด้วยความฉงน
“ต่อสัญญาตลอดชีวิต”
“...”
คำว่า ‘ตลอดชีวิต’ ของเขา มันทำให้เธอสับสน เขาจะให้เธออยู่ในฐานะไหน กับคำว่าตลอดชีวิต
“คุณจะเอาส้มเป็นเมียเก็บไว้ตลอดชีวิตเหรอคะ? ส้มไม่เอาค่ะ” เธอนิ่งครู่หนึ่ง แววตาขมึงทึงจ้องใบหน้าเขาที่ส่งสายตาลึกซึ้งมายังเธอ
“คุณหมี ส้มก็ต้องมีชีวิตต่อค่ะ แต่ที่ผ่านมาส้มก็ขอบคุณ คุณหมีมากนะคะ ที่ดูแลส้มมาอย่างดี ทั้งที่พัก เจ้าแดง เงินทอง และของมากมาย”
“เดี๋ยวนะ! เมียเก็บ?”
“ค่ะ”
รอยยิ้มกว้างประดับบนใบหน้าเขา พลางหัวเราะร่วน เขาผิดเองที่ใช้สำบัดสำนวนกับเธอมากไป แทนที่จะพูดความรู้สึกและสิ่งที่เขาอยากจะบอกเธอไปตรง ๆ
“ส้ม ฟังนะ”
มือหนาเอื้อมมากุมมือเธอไว้แนบแน่น ดวงตาเขาทอประกายแวววับ
“ผมอยากมีคุณอยู่ในทุกที่ ทุกวัน และทุกเวลา ผมอยากใช้ชีวิตร่วมกับคุณ ยกย่องให้คุณเป็นภรรยา เป็นเมียรักบนเตียงนอน และเป็นแม่ของลูกผม”
“คะ .. คุณหมี!!”
เธอเอ่ยเสียงสั่นเครือ พยายามบีบมือเขาแน่น ราวกับให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้ฝันไป หลังจากย้ายมาอยู่คอนโดได้เพียงสามเดือน เธอได้รับการดูแลอย่างดีจากคเชณทร์ ความรู้สึกของเธอเริ่มแปรเปลี่ยน จากที่เฉย ๆ เป็นชอบ และจากที่ชอบ ก็เปลี่ยนความรัก เธอรักเขามาโดยตลอด แต่เธอไม่พูดออกไปให้เขารับรู้
เธอคิดว่าชายหนุ่มที่เลี้ยงดูเธอคนนี้ อาจจะมีหญิงสาวมากหน้าหลายตาให้เขาเชยชม และอาจจะมีคนที่เหมาะสมมากกว่าเธอ ในฐานะคู่ครองของเขา
“ผม ...”
เขาสูดหายใจลึก ๆ บัดนี้หัวใจของเขาเต้นระรัวขึ้นด้วยความตื่นเต้น เขาเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะคลายมันออกและยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มจาง ๆ
“ผมรักคุณนะ”
“..”
วงแขนแกร่งโอบกอดร่างบางของหญิงสาวตรงหน้าอย่างอบอุ่นและอ่อนโยน เธอเองก็กอดรัดเขาตอบด้วยความรักและความปรารถนา
“ผมจะดูแลคุณให้ดีกว่านี้ และจะดูแลคุณไปตลอด”
“...” เธอเงียบ หากแต่น้ำตาแห่งความดีใจไหลรินรดแก้มนุ่ม
“ส้มก็รักคุณค่ะ”
- จบบริบูรณ์ -
“ส้ม …” “เราเลิกกันเถอะ …” “อะไรนะ” คำพูดที่เธอไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากคนรักที่คบหากันมานานถึง 7 ปี เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แววตาเขาไม่ได้สะท้อนถึงความโศกเศร้า หรือเสียใจเลยสักนิด “ทะ ทำไมล่ะ? เชน” “เธออย่าเสียเวลากับเราเลย” เขาเบือนหน้าหนี เมื่อเห็นแววตาใสซื่อของเธอ “มะ .. ไม่ เราไม่ได้เสียเวลาเลย นะ .. นี่ไง ปีหน้าเราก็จบ ป.โทแล้ว เราก็จะได้แต่งงานกัน” ส้มโอมองใบหน้าคมของชายคนรักด้วยแววตาสั่นไหว มือเล็กคว้าแขนแกร่งของเขา ราวกับขอร้องว่าอย่าไป เธอยังจำได้ดีวันที่เขาให้คำมั่นสัญญาว่าจะรอจนกว่าเธอจะเรียนจบแล้วจะแต่งงานสร้างครอบครัวด้วยกัน แต่ทว่า … วันนี้กลับกลายเป็นเขาที่ดูเหมือนจะทำผิดสัญญา “ส้ม .. พอเถอะ” ราเชนชักแขนออกจากการเกาะกุมของมือเล็ก ๆ สายตาเย็นชามองใบหน้าสวยอย่างอึดอัดใจ สายตาเศร้าหมองช้อนขึ้นมองคนตัวสูง ริมฝีปากสั่นระริก เขาเหมือนโลกทั้งใบของเธอ หากวันนี้เสียเขาไปเธอเองก็ไม่รู้จะมีชีวิตต่อได้เช่นไร ในเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา เขาคือคนเดียวที่เธอมีอยู่ ชีว
ริมฝีปากอวบอิ่มแช่ค้างอยู่ที่ริมฝีปากเขา พร้อมลมหายใจอุ่น ๆ ที่คลุ้งกลิ่นไวน์อ่อน ๆ มือหนาโอบอุ้มร่างบางพลางพยุงขึ้น เขาจับเธอพลิกให้เธอนอนเอนกายอย่างสบายบนเตียงนุ่ม “เชน ส้มไม่ได้อยากจูบเชน” ที่ผ่านมาราเชนมอบให้เธอเพียงรสจูบหวานล้ำ แต่ไม่เคยแตะต้องผิวกายหรือสัมผัสเรือนร่างที่เธอเฝ้าบำรุง เพราะอยากให้เธอเสียความบริสุทธิ์ให้เขาในวันแต่งงาน “ส้มอยากเป็นของเชน” หญิงร่างบางที่นอนราบอยู่บนเตียงเอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสียงอ่อนระโหย ก่อนส่งสายตาเว้าวอน คเชณทร์ไม่รีรอ เขาชันเข่าคร่อมร่างเล็กที่อยู่เบื้องล่าง สองแขนแกร่งค้ำยันร่างหนา โน้มใบหน้าลงมาใกล้ เขางับริมฝีปากล่างของเธอที่แววตามองมาด้วยอารมณ์ใคร่ที่เต็มเปี่ยม เขาบดคลึงริมฝีปากสัมผัสรสจูบอย่างแผ่วเบา เขาผละออกชั่วครู่ ก่อนจะลอบมองใบหน้านวลเนียนของเธอ “อยากเป็นของเชนเหรอ?” เสียงทุ้มต่ำกระซิบแผ่วเบาอยู่ข้างหูของหญิงสาว เธอครางตอบแผ่วเบา “อือ” ก่อนที่เขาใช้ลิ้นเลียไซ้ใบหู กลิ่นกายหอมอ่อน ๆ ของหญิงสาวทำให้เขาขาดสติ ศีลธรรมอันดีได้ถูกเก็บซ่อนไว้ส่วนลึก ริมฝีปากค่อย ๆ ไล
แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องผ่านกระจกใสของห้องพักชั้น 32 ละอองแสงสีทองอ่อน ๆ ทอประกายระยิบระยับ ส้มโอนอนนิ่งอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์ ร่างบางถูกห่มคลุมด้วยผ้านวมสีขาวนุ่ม เธอยังคงหลับใหลด้วยความอ่อนล้าจากค่ำคืนอันเร่าร้อน ใบหน้าสวยดูสงบนิ่งราวกับเทพธิดาที่หลับใหล ดวงตาคู่สวยค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก ศีรษะเธอหนักอึ้งด้วยอาการเมาค้าง ร่างบางพลิกตะแคงข้าง มือเรียวคลำหาโทรศัพท์ แต่ไม่รู้ว่าไปวางไว้ตรงไหน เธอจึงตัดสินใจลุกขึ้นนั่ง “นี่มัน … อะไรเนี่ย!!” ดวงตาคู่เหลือบเห็นเดรสสีแดงตุ่น และแพนตี้สีครีมของเธอ วางกองอยู่ปลายเตียงราวกับถูกทอดทิ้ง ภาพชายหนุ่มเชิ้ตขาวคนเมื่อคืนแล่นปราดเข้ามาในห้วงคำนึง เมื่อเธอนึกได้จึงหันมองไปที่เตียงนอน .. แต่บนเตียงใหญ่ กลับไม่พบใคร ที่นอนเคียงข้าง “ฝันเหรอ? แต่ฝันอะไร บ้าบอชะมัด” มือเรียวเล็กกุมขมับที่ปวดตึบ เธอรู้สึกลำคอแห้งผากต้องการดื่มน้ำเปล่าให้ชุ่มคอเสียหน่อย จึงค่อย ๆ ยกเรียวขาขาวให้ก้าวลงจากเตียงนอน แต่ทว่า.. .. ความเจ็บแสบที่แก่นกลางกายมันปะทุขึ้น จนเธอเผลอร้องออกมา “ซีด! โอ๊ยเจ็บ!”
“งั้นอย่างน้อย ตอนนี้เราสองคนก็รู้จักกันแล้วนะ ฉันขอแนะนำตัวอีกครั้ง ฉันชื่อส้มโอ เรียกว่าส้มเฉย ๆ ก็พอ” เธอยิ้มอย่างอ่อนหวาน ดวงตาเป็นประกายขณะที่ยื่นมือเรียวบางไปข้างหน้า “ครับ ผมชื่อคเชณทร์ เรียกผมว่าเชน” เขายื่นมือมาจับมือเธอ สัมผัสอุ่น ๆ ที่ทำให้หัวใจกระตุก “เอิ่ม ... เรียกว่าอะไรก็ได้ครับ ถ้าชื่อผมมันทำให้คุณ ...” เขาพูดอึกอัก ลังเลเล็กน้อย เมื่อนึกได้ว่าชื่อของตนนั้นบังเอิญไปพ้องกับชื่อคนที่เคยทำให้เธอเจ็บปวด “เรียกอะไรดีล่ะ ฉันขอเรียกว่า .. คุณหมีแล้วกันนะ” “ทำไมล่ะ?” “ห้ามขำฉันนะ .. ฉันเคยขี่ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่เขาซื้อให้ แต่ดูเหมือนตอนนี้ ..” เธอหยุดพูดชั่วขณะสายตาทอดมองไปยังร่างกำยำของคนตรงหน้าด้วยแววตาเว้าวอน “ฉันจะเจอตุ๊กตาหมี ‘ตัวใหญ่’ ของฉันเข้าแล้วสิ” เธอยิ้มกริ่มพลางกัดริมฝีปากตัวเองเล็ก ๆ แววตาอาบย้อมด้วยความปรานารถ น้ำเสียงเธอมันช่างยั่วยวนคนฟังให้หื่นกระหาย “แต่ คุณยังไม่เคยขี่ ‘คุณหมี’ เลยนะ” ดวงตาหยาดเยิ้มจ้องมองใบหน้าสวย และเผยยิ้มยั่ว
สามสัปดาห์ต่อมา วันที่ส้มโอต้องติดสินใจว่าจะเช่าโรงแรมนี้อยู่ต่ออีกเดือน หรือว่าจะตอบรับข้อเสนอของคเชณทร์ เมื่อสองสัปดาห์ก่อนที่เจอกันครั้งล่าสุด น้ำเสียงทุ้มต่ำของเขายังก้องอยู่ในหู ชายแปลกหน้าคนนั้นที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นคนที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี “ส้ม ถ้าคุณไม่มีที่ไป มาอยู่คอนโดผมก็ได้นะ” คเชณทร์เอ่ยเสียงเรียบ แววตาคมจ้องมองเธอด้วยความอ่อนโยน “ให้ฉันไปอยู่กับคุณน่ะเหรอ?” “ไม่ได้อยู่กับผมหรอก ห้องนั้นผมมันว่าง ผู้เช่าเก่าเพิ่งย้ายออก” “แล้วคุณคิดค่าเช่าเท่าไรล่ะ” เธอสบตาเขาราวกับสนใจ “ถ้าเป็นคุณผมไม่คิดเงินหรอก คุณอยู่ไปเถอะ คุณเองก็เหลือเงินเก็บไม่มากแล้วนี่ ไหนจะเรียน ป.โท ปีสุดท้ายอีก” เธอย่นคิ้วพลางหรี่ตามองชายตรงหน้าอย่างฉุกคิด เพราะเหตุใดเขาจึงเสนอห้องว่างที่คอนโดให้เธออยู่ฟรีกันแน่ “เอ .. คุณจะเป็นเสี่ยเลี้ยงฉันเหรอ?” เธอพูดพลางขำ “อืม จะว่างั้นก็ได้นะ” เขาตอบกลับพร้อมรอยยิ้มกว้าง “ให้ฉันไปอยู่ฟรีแลกกับอะไรเหรอ?” “ถ้าเป็นตอนนี้คงมีเรื่องเดียวแหละนะ ... เราสองคนต่างก็รู้กั
“งั้นอย่างน้อย ตอนนี้เราสองคนก็รู้จักกันแล้วนะ ฉันขอแนะนำตัวอีกครั้ง ฉันชื่อส้มโอ เรียกว่าส้มเฉย ๆ ก็พอ” เธอยิ้มอย่างอ่อนหวาน ดวงตาเป็นประกายขณะที่ยื่นมือเรียวบางไปข้างหน้า “ครับ ผมชื่อคเชณทร์ เรียกผมว่าเชน” เขายื่นมือมาจับมือเธอ สัมผัสอุ่น ๆ ที่ทำให้หัวใจกระตุก “เอิ่ม ... เรียกว่าอะไรก็ได้ครับ ถ้าชื่อผมมันทำให้คุณ ...” เขาพูดอึกอัก ลังเลเล็กน้อย เมื่อนึกได้ว่าชื่อของตนนั้นบังเอิญไปพ้องกับชื่อคนที่เคยทำให้เธอเจ็บปวด “เรียกอะไรดีล่ะ ฉันขอเรียกว่า .. คุณหมีแล้วกันนะ” “ทำไมล่ะ?” “ห้ามขำฉันนะ .. ฉันเคยขี่ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่เขาซื้อให้ แต่ดูเหมือนตอนนี้ ..” เธอหยุดพูดชั่วขณะสายตาทอดมองไปยังร่างกำยำของคนตรงหน้าด้วยแววตาเว้าวอน “ฉันจะเจอตุ๊กตาหมี ‘ตัวใหญ่’ ของฉันเข้าแล้วสิ” เธอยิ้มกริ่มพลางกัดริมฝีปากตัวเองเล็ก ๆ แววตาอาบย้อมด้วยความปรานารถ น้ำเสียงเธอมันช่างยั่วยวนคนฟังให้หื่นกระหาย “แต่ คุณยังไม่เคยขี่ ‘คุณหมี’ เลยนะ” ดวงตาหยาดเยิ้มจ้องมองใบหน้าสวย และเผยยิ้มยั่ว
แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องผ่านกระจกใสของห้องพักชั้น 32 ละอองแสงสีทองอ่อน ๆ ทอประกายระยิบระยับ ส้มโอนอนนิ่งอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์ ร่างบางถูกห่มคลุมด้วยผ้านวมสีขาวนุ่ม เธอยังคงหลับใหลด้วยความอ่อนล้าจากค่ำคืนอันเร่าร้อน ใบหน้าสวยดูสงบนิ่งราวกับเทพธิดาที่หลับใหล ดวงตาคู่สวยค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก ศีรษะเธอหนักอึ้งด้วยอาการเมาค้าง ร่างบางพลิกตะแคงข้าง มือเรียวคลำหาโทรศัพท์ แต่ไม่รู้ว่าไปวางไว้ตรงไหน เธอจึงตัดสินใจลุกขึ้นนั่ง “นี่มัน … อะไรเนี่ย!!” ดวงตาคู่เหลือบเห็นเดรสสีแดงตุ่น และแพนตี้สีครีมของเธอ วางกองอยู่ปลายเตียงราวกับถูกทอดทิ้ง ภาพชายหนุ่มเชิ้ตขาวคนเมื่อคืนแล่นปราดเข้ามาในห้วงคำนึง เมื่อเธอนึกได้จึงหันมองไปที่เตียงนอน .. แต่บนเตียงใหญ่ กลับไม่พบใคร ที่นอนเคียงข้าง “ฝันเหรอ? แต่ฝันอะไร บ้าบอชะมัด” มือเรียวเล็กกุมขมับที่ปวดตึบ เธอรู้สึกลำคอแห้งผากต้องการดื่มน้ำเปล่าให้ชุ่มคอเสียหน่อย จึงค่อย ๆ ยกเรียวขาขาวให้ก้าวลงจากเตียงนอน แต่ทว่า.. .. ความเจ็บแสบที่แก่นกลางกายมันปะทุขึ้น จนเธอเผลอร้องออกมา “ซีด! โอ๊ยเจ็บ!”
ริมฝีปากอวบอิ่มแช่ค้างอยู่ที่ริมฝีปากเขา พร้อมลมหายใจอุ่น ๆ ที่คลุ้งกลิ่นไวน์อ่อน ๆ มือหนาโอบอุ้มร่างบางพลางพยุงขึ้น เขาจับเธอพลิกให้เธอนอนเอนกายอย่างสบายบนเตียงนุ่ม “เชน ส้มไม่ได้อยากจูบเชน” ที่ผ่านมาราเชนมอบให้เธอเพียงรสจูบหวานล้ำ แต่ไม่เคยแตะต้องผิวกายหรือสัมผัสเรือนร่างที่เธอเฝ้าบำรุง เพราะอยากให้เธอเสียความบริสุทธิ์ให้เขาในวันแต่งงาน “ส้มอยากเป็นของเชน” หญิงร่างบางที่นอนราบอยู่บนเตียงเอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสียงอ่อนระโหย ก่อนส่งสายตาเว้าวอน คเชณทร์ไม่รีรอ เขาชันเข่าคร่อมร่างเล็กที่อยู่เบื้องล่าง สองแขนแกร่งค้ำยันร่างหนา โน้มใบหน้าลงมาใกล้ เขางับริมฝีปากล่างของเธอที่แววตามองมาด้วยอารมณ์ใคร่ที่เต็มเปี่ยม เขาบดคลึงริมฝีปากสัมผัสรสจูบอย่างแผ่วเบา เขาผละออกชั่วครู่ ก่อนจะลอบมองใบหน้านวลเนียนของเธอ “อยากเป็นของเชนเหรอ?” เสียงทุ้มต่ำกระซิบแผ่วเบาอยู่ข้างหูของหญิงสาว เธอครางตอบแผ่วเบา “อือ” ก่อนที่เขาใช้ลิ้นเลียไซ้ใบหู กลิ่นกายหอมอ่อน ๆ ของหญิงสาวทำให้เขาขาดสติ ศีลธรรมอันดีได้ถูกเก็บซ่อนไว้ส่วนลึก ริมฝีปากค่อย ๆ ไล
“ส้ม …” “เราเลิกกันเถอะ …” “อะไรนะ” คำพูดที่เธอไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากคนรักที่คบหากันมานานถึง 7 ปี เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แววตาเขาไม่ได้สะท้อนถึงความโศกเศร้า หรือเสียใจเลยสักนิด “ทะ ทำไมล่ะ? เชน” “เธออย่าเสียเวลากับเราเลย” เขาเบือนหน้าหนี เมื่อเห็นแววตาใสซื่อของเธอ “มะ .. ไม่ เราไม่ได้เสียเวลาเลย นะ .. นี่ไง ปีหน้าเราก็จบ ป.โทแล้ว เราก็จะได้แต่งงานกัน” ส้มโอมองใบหน้าคมของชายคนรักด้วยแววตาสั่นไหว มือเล็กคว้าแขนแกร่งของเขา ราวกับขอร้องว่าอย่าไป เธอยังจำได้ดีวันที่เขาให้คำมั่นสัญญาว่าจะรอจนกว่าเธอจะเรียนจบแล้วจะแต่งงานสร้างครอบครัวด้วยกัน แต่ทว่า … วันนี้กลับกลายเป็นเขาที่ดูเหมือนจะทำผิดสัญญา “ส้ม .. พอเถอะ” ราเชนชักแขนออกจากการเกาะกุมของมือเล็ก ๆ สายตาเย็นชามองใบหน้าสวยอย่างอึดอัดใจ สายตาเศร้าหมองช้อนขึ้นมองคนตัวสูง ริมฝีปากสั่นระริก เขาเหมือนโลกทั้งใบของเธอ หากวันนี้เสียเขาไปเธอเองก็ไม่รู้จะมีชีวิตต่อได้เช่นไร ในเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา เขาคือคนเดียวที่เธอมีอยู่ ชีว