ซินแสจางยกมือขวาขึ้นมานับอย่างคาดเดาไม่ได้ จากนั้นก็พูดเรียบๆ “ยี่สิบล้าน”กู้เจี้ยนกั๋วหายใจเข้าลึก ๆ แม้ว่ายี่สิบล้านจะไม่นับว่ามากจนเกินไป แต่ก็ไม่ใช่จำนวนที่น้อยเลย อีกทั้งราคานี้ยังสูงกว่าที่กู้เจี้ยนกั๋วประเมินไว้ในใจอีกด้วย จัดว่าเป็นราคาที่สามารถควักออกมาจ่ายได้ด้วยความวู่วามแต่ตอนนี้กู้เจี้ยนกั๋วยังไม่สามารถวู่วามได้ แม้ว่าจะเชื่อคำพูดของซินแสจางแต่ก่อนที่จะเกิดเรื่องขึ้นจริง กู้เจี้ยนกั๋วก็ยังมีหวังในโชคอยู่“ยี่สิบล้านไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ เลยนะครับ ผมคนเดียวคงจะตัดสินใจอะไรไม่ได้ ต้องให้คนในครอบครัวหารือกันก่อนถึงจะได้”กู้เจี้ยนกั๋วหาข้ออ้าง อยากจะถ่วงเวลาไปก่อนชั่วคราวซินแสจางเจอสถานการณ์แบบนี้มาเยอะแล้วจึงพูดยิ้ม ๆ “ไม่มีปัญหา ผมรอพวกคุณได้สามวัน”“ขอบคุณซินแสจางมากครับ งั้นพวกเราส่งซินแสกลับไปพักที่โรงแรมก่อน เดี๋ยวเราจัดอาหารค่ำมื้อใหญ่ไว้รับรองซินแสเลย”ซินแสจางพยักหน้าเล็กน้อย “ฉันกับพวกลูกศิษย์กลับก่อนแล้ว พวกคุณหารือกันเถอะ จริงสิ เด็กคนนั้นที่ต่อว่าฉันว่าเป็นคนหลอกลวงคนนั้นล่ะ”สายตาของทุกคนมองไปที่หลี่โม่กันเป็นตาเดียว ในแววตาของคนไม่น้อยที่ปรากฏเป็นแววตาที
โรงแรมซิสทีน คือโรงแรมที่ซินแสจางพักอยู่อาหารค่ำที่จัดเตรียมให้ซินแสจางก็เตรียมที่โรงแรมซิสทีนเช่นกันกู้เจี้ยนกั๋วกับกู้เจี้ยนเจียงรีบมาเตรียมการที่โรงแรมก่อนนานแล้ว หลังจากจัดการเรียบร้อยกู้เจี้ยนกั๋วก็ส่งข้อความหาหมิงเต๋อ นัดให้หมิงเต๋อออกมาพบเจอพูดคุยกันกู้เจี้ยนกั๋ววางแผนว่าจะถามถึงความชอบของซินแสจาง เพื่อเตรียมทำให้ซินแสมีความสุขในตอนค่ำสักหน่อยไม่นานหมิงเต๋อก็เดินเข้ามาในห้องที่กู้เจี้ยนกั๋วอยู่ พูดพลางยิ้มตาหยี “คุณกู้ทั้งสองคนนัดผมมาก่อน ไม่ทราบว่ามีอะไรจะชี้แนะครับ”“อาจารย์หมิงเต๋อเชิญนั่งก่อนครับ พวกเราอยากจะถามเรื่องพื้นที่พลังไม่ดีสักหน่อย มันอันตรายถึงขนาดนั้นจริง ๆ เหรอครับ?”“เรื่องนั้นต้องอันตรายสิครับ ถ้าเป็นพลังไม่ดีเล็ก ๆ ซินแสก็คงลงมือช่วยจัดการให้พวกคุณแล้ว แต่สถานที่ที่สร้างโรงงานพวกคุณ เป็นพลังไม่ดีมาก ๆ ถ้าไม่แก้ไขให้หมดสิ้นไป เกรงว่าจะมีคนตายเจ็ดแปดคนทุกปีครับ”คำพูดของหมิงเต๋อทำให้กู้เจี้ยนกั๋วกับกู๋เจี้ยนเจียงหน้าถอดสีทันที หนึ่งปีมีคนตายเจ็ดแปดคนแบบนี้ใครจะรับได้กันล่ะ?ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็ คงไม่ต้องได้เปิดโรงงานแล้ว ได้เงินเท่าไหร่ก็ไม่เพียงพอเอา
ซินแสจางนั่งหลับตาทำสมาธิพิงอยู่ที่โซฟา หมิงเต๋อเดินมาที่ข้างกายซินแสจางด้วยสีหน้ามีความสุข “อาจารย์ ผมขู่พวกเขาแล้ว พวกเขาเตรียมส่งไอ้หลี่โม่ไปที่ก่อสร้างคืนนี้ จะได้กำจัดไอ้เลวนั่นระบายความโกรธให้อาจารย์พอดี”“ทำได้ไม่เลว หาคนที่มีความสามารถดี ๆ มาสักสองสามคนไปฆ่ามันคืนนี้ ทำที่เกิดเหตุให้ดูดีหน่อย”ซินแสจางพูดทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ลืมตา“ท่านอาจารย์วางใจได้ นี่ไม่ได้เป็นการทำครั้งแรกเสียหน่อย พวกเรามีประสบการณ์โชกโชนแล้ว ผมไปจัดการก่อนนะครับ”ซินแสจางพยักหน้าเล็กน้อย หมิงเต๋อหันหลังเดินออกไปและเริ่มหาคนไปจัดการตามแผน......กู้หยุนหลานนั่งอ่านเอกสารอยู่หลังโต๊ะทำงาน แต่อ่านอย่างไรก็อ่านไม่เข้าหัว เลย เรื่องที่คิดในหัวล้วนเป็นเรื่องที่หลี่โม่มีปัญหากับซินแสจางเรื่องลี้ลับแบบนี้ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ สุดท้ายซินแสจางพูดว่าหลี่โม่จะเกิดเหตุเลือดตกยางออก ถ้าหลี่โม่เกิดอุบัติเหตุขึ้นจริง ๆ อย่างนั้นควรจะทำอย่างไรล่ะ?กู้หยุนหลานที่ยิ่งคิดก็ยิ่งกังวลใจ จึงมีความคิดที่ว่าทำอะไรได้ก็ทำก่อน คิดว่าคืนนี้จะให้หลี่โม่ไปขอโทษซินแสจาง จากนั้นก็จะเชิญซินแสจางแก้เรื่องที่หลี่โม่จะเลือดตกยางออกให
อาหารค่ำเริ่มเวลาสองทุ่มตรงเวลาตอนที่กู้หยุนหลานกับหลี่โม่เข้าไปในห้องจัดเลี้ยง กู้เจี้ยนเจียงก็ขวางพวกเขาสองคนไว้“หยุนหลาน เมื่อกี้ซินแสจางกำชับไว้เรื่องหนึ่ง บอกว่าให้ส่งคนไปเอาดินที่ตรงกลางที่ก่อสร้างกลับมาหนึ่งกำมือ บอกว่าต้องดูหลังจากที่พลังไม่ดีแข็งแกร่งในตอนกลางคืน พลังไม่ดีจะกัดกร่อนดิน ฉันคิดว่าจะให้หลี่โม่ไปน่ะ”เหตุผลที่กู้เจี้ยนเจียงมาหาทำให้กู้หยุนหลานหมดหนทางที่จะปฏิเสธ ทำได้เพียงควักกุญแจรถออกมาส่งให้หลี่โม่“งั้นคุณก็ไปเถอะ รีบไปรีบกลับนะคะ”“ได้ ผมไปไม่นานก็กลับมา”หลี่โม่หยิบกุญแจรถแล้วออกไป มุมปากของกู้เจี้ยนเจียงกระตุกขึ้นมาเหมือนจะบอกว่าแผนการสำเร็จแล้ว“หยุนหลาน เราเข้าไปกันเถอะซินแสจางดูจะชอบพอเธอนะ คืนนี้เธอต้องพูดจากับเขาดี ๆ ล่ะ” กู้เจี้ยนเจียงกำชับกู้หยุนหลานพยักหน้า แล้วเดินเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงกับกู้เจี้ยนเจียงซินแสจางนั่งตรงที่นั่งหลัก กู้เจี้ยนกั๋วนั่งอยู่ขวามือของซินแสจาง ส่วนที่นั่งทางซ้ายมือของซินแสจางเป็นที่นั่งว่างกู้เจี้ยนกั๋วเห็นกู้หยุนหลานเข้ามา ก็กวักมือพูด “หยุนหลานมานี่เร็ว มานั่งกับซินแสจางสิ”กู้หยุนหลานลังเลเล็กน้อย แล้วกัดฟั
หลี่โม่ทักทายคนงานที่เฝ้าอยู่ แล้วสาวเท้าก้าวเข้าไปตรงกลางที่ก่อสร้างหมิงเต๋อที่ซ่อนอยู่ในความมืดเห็นหลี่โม่เดินเข้าไปตรงที่ลึก ๆ ของที่ก่อสร้าง จึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาส่งข้อความ เตือนพวกลูกน้องที่ซุ่มโจมตีอยู่ตรงกลางให้ระวังให้ดีออกมาซุ่มโจมตีหลี่โม่ครั้งนี้ หมิงเต๋อเตรียมยอดฝีมือหกคนมาซุ่มโจมตี ส่วนตัวเขาก็อยู่ที่ข้างนอก เตรียมเล่นตุกติกรบกวนการรับรู้ของคนที่เฝ้าอยู่ สร้างฉากผีหลอกหลอนหลี่โม่เดินช้า ๆ ไปที่ตรงกลางที่ก่อสร้าง สายตากวาดมองไปรอบ ๆ ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มเย็นชา“ออกมาให้หมด มาเล่นตุกติกแบบนี้ ไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับฉันเลย ซินแสจางส่งพวกแกมาใช่ไหม ฝีมือแบบนี้อ่อนด้อยเกินไป”หลี่โม่พูดไปพลางควักบุหรี่มาไว้ที่ปากยอดฝีมือทั้งหกคนที่ซุ่มอยู่ไม่ไกล เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่โม่ก็รู้สึกสับสนเล็กน้อยนี่พวกเขาถูกพบเข้าได้อย่างไร? เขาโกงอยู่หรือเปล่า?ทั้งหกคนสบตากัน พวกเขาไม่ได้ผลีผลาม รอหลี่โม่ดำเนินการขั้นต่อไปก่อนหลี่โม่เห็นทั้งหกคนไม่พูดอะไร เขาพ่นควันบุหรี่สีขาวออกมา แล้วใช้ปลายเท้าเตะก้อนหินก้อนหนึ่งก้อนหินก้อนนั้นกระเด็นออกไป ลอยเข้าไปในพงหญ้าและโดนเข้าที่หัวขอ
ในยอดฝีมือทั้งห้าไม่มีคนไหนในนั้นเป็นคู่ต่อสู้ของหลี่โม่ได้เลย ไม่นานก็กลายเป็นศพห้าศพนอนอยู่บนพื้นแล้วรวมกับยอดฝีมือที่ถูกหลี่โม่เตะก้อนหินใส่จนตายเมื่อกี้ด้วย หกคนที่หมิงเต๋อจัดเตรียมมานั้นตายหมดแล้วหมิงเต๋อเข้าไปในที่ก่อสร้างอย่างเงียบๆ แต่กำลังเล่นตุกติกอยู่ข้างนอกเพิงคนงาน คนงานหลายคนที่เฝ้าอยู่ตกใจจนตัวสั่นยืนอยู่รวมกันเมื่อเห็นคนงานที่ดูตกใจกัน หมิงเต๋อก็หยิบมือถือมาดูเวลา ตอนนี้ห่างจากตอนที่หลี่โม่เข้าไปในที่ก่อสร้างผ่านไปแล้วสิบห้านาทีหมิงเต๋อคิดว่ายอดฝีมือที่จัดเตรียมไว้ได้จัดการหลี่โม่ไปแล้วและจัดการกับสิ่งที่ทำให้คนตกใจแล้ว ก็รีบเข้าไปในศูนย์กลางที่ก่อสร้าง คิดจะจัดการสถานการณ์ว่าหลี่โม่ตายโหง(ตายแบบไม่คาดคิด)แต่ตอนที่หมิงเต๋อเข้าไปถึงกลับอึ้ง มองศพหกศพอยู่เกลื่อนพื้น วิญญาณของหมิงเต๋อแทบจะหลุดออกจากร่างเลยหมิงเต๋อพ่นคำหยาบคายออกมา ตกใจจนขาทั้งสองข้างอ่อนแรง ตอนที่เขาหันหลังกำลังจะหนี เขาก็พบว่าหลี่โม่ยืนอยู่ข้างหลังตัวเองแล้ว กำลังจ้องมองตัวเองด้วยสายตาเย็นชาหมิงเต๋อขนลุกทั้งตัวทันที รีบถอยหลังอย่างรวดเร็ว แต่ขณะที่ก้าวถอยหลัง เขาก็สะดุดกับศพหนึ่ง ล้มลงไปข้าง
ในระหว่างที่หลี่โม่กำลังกลับ คนงานที่เฝ้าอยู่ก็เริ่มโทรศัพท์กันอย่างตื่นตระหนก แจ้งเรื่องลี้ลับที่เกิดขึ้นเมื่อกี้โทรศัพท์ต่อกันมาเป็นทอด ๆ จนในที่สุดประธานหวังก็โทรหากู้เจี้ยนกั๋วแล้วเล่าเรื่องให้ฟังหลังจากกู้เจี้ยนกั๋วฟังเสร็จสีหน้าก็จริงจังขึ้นมาซินแสจางเห็นอารมณ์ของกู้เจี้ยนกั๋วดูแปลกไปก็แอบดีใจ คิดว่าน่าจะเป็นทางหมิงเต๋อทำงานได้ดีเลย“เสี่ยวกู้ นี่เป็นอะไรไป รับโทรศัพท์แล้วก็ดูอารมณ์ไม่ดีเลย”ซินแสจางหน้านิ่ง ถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบายใจเท่าไหร่ใบหน้าของกู้เจี้ยนกั๋วมีรอยยิ้มขึ้นมา เขายกแก้วเหล้าแล้วพูด “ผมต้องดื่มให้คุณอีกแก้ว คุณเป็นผู้สูงส่งที่อยู่ท่ามกลางคนสูงส่งจริง ๆ พูดอะไรไม่ผิดเลยสักนิด ที่ก่อสร้างเกิดเรื่องขึ้นจริง ๆ แล้ว”“ฮะ? เกิดเรื่องอะไรขึ้น บอกมาหน่อยสิ” ซินแสจางพูดนิ่ง ๆ “เมื่อกี้คนงานที่เฝ้าโรงงานโทรมารายงานว่า ที่ก่อสร้างเกิดเรื่องแล้ว พวกเขาล้วนหลบอยู่ในเพิงคนงานไม่กล้าออกไป ได้ยินแค่เสียงร้องโหยหวนดังอยู่ทุกที่ ดูเหมือนว่าจะผีพูดว่าจะเอาชีวิตอะไรสักอย่าง ฟังแล้วน่ากลัวมาก ๆ ครับ”กู้หยุนหลานฟังที่กู้เจี้ยนกั๋วอธิบาย ในใจก็เริ่มเป็นห่วงหลี่โม่ขึ้นม
เสียงที่ดังออกมาจากโทรศัพท์ ทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องจัดเลี้ยงตะลึงไม่ใช่ควรจะตายแต่หลี่โม่คนเดียวเหรอ ทำไมถึงมีคนตายหกคน?“พวกแกดูให้ดี จะมีคนตายหกคนได้ยังไง!” กู้เจี้ยนกั๋วถามอย่างสงสัย“พวกเราดูดีแล้วครับ มีหกคน! ตาเบิกโพลง ตายตาไม่หลับกันหมดเลย พวกเราไม่ทำงานนี้แล้ว พวกคุณให้คนอื่นมาทำเถอะ น่ากลัวเกินไปแล้ว!”คนงานที่เฝ้าอยู่พูดเสร็จก็วางสายไปแล้วทยอยออกจากที่นั่นกู้เจี้ยนกั๋วหันไปมองทางซินแสจาง แล้วถามอย่างงุนงง “ซินแสจาง คุณดูสิว่านี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมมีคนตายตั้งหกคนล่ะ!”เรื่องอื่นไม่พูดถึง แค่เรื่องที่ก่อสร้างมีคนตายหกคน ก็มากพอให้กู้เจี้ยนกั๋วเหลือทนแล้ว เรื่องนี้ต้องให้ตำรวจมาดู หลังจากตำรวจเข้ามาแทรกสืบสวนแล้ว ก็เลี่ยงไม่ได้ต้องปิดที่ก่อสร้างไว้ จะได้เปิดอีกเมื่อไหร่ก็บอกไม่ได้เลยแม้ว่าจะเปิดได้แล้ว แต่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ประกอบกับคำพูดที่ซินแสจางพูดก่อนหน้านี้ เกรงว่าจะไม่มีบริษัทก่อสร้างมาทำงานก่อสร้างนี้แล้วกู้เจี้ยนกั๋วอยากจะร้องไห้ให้ตาย เดิมทีคิดว่าจะให้โอกาสนี้ฆ่าหลี่โม่ ใครจะรู้ว่าจะเกิดเรื่องใหญ่แบบนี้ซินแสจางกระสับกระส่าย ครุ่นคิดว่าเกิดเรื่องขึ้น