แชร์

บทที่ 701

ผู้เขียน: นายกัวผู้เล่าเรื่อง
กู้ซิ่งเหว่ยถูกมัดมือทั้งสองข้างเอาไว้บนสังเวียน กลุ่มนักมวยล้อมรอบกู้ซิ่งเหว่ยเอาไว้ด้วยรอยยิ้มหยัน

“พวกแก พวกแกจะทำอะไร อย่าทำร้ายฉันนะ ฉันไม่ทนมือทนเท้านักหรอก ปล่อยฉันไปเถอะ?”

“ปล่อยแกน่ะเหรอ? ฝันไปเถอะ! แกเป็นคนที่คู่อริของฉันส่งมาเพื่อวางกับดักฉันโดยเฉพาะเลยใช่ไหม! มือของฉันมันเดี้ยงไปแล้ว การแข่งรอบต่อไปก็คงไม่สามารถเอาชนะได้อีกแล้ว!”

พี่ซานเตะเก้าอี้อย่างรุนแรง เก้าอี้ไม้เนื้อแข็งก็แหลกเป็นเสี่ยง ๆ ทันใด

เมื่อมองดูพี่ซานที่กำลังเดือดดาล วิญญาณของกู้ซิ่งเหว่ยก็แทบจะหลุดลอยไป

“ไม่ใช่ ไม่ใช่นะครับ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคู่อริของคุณคือใคร ผมแค่ต้องการให้คุณช่วยจัดการไอ้คนไร้ประโยชน์หลี่โม่นั่นเท่านั้นเอง”

"ถ้าเขาเป็นคนไร้ประโยชน์ แกก็คงเป็นขยะเปียกที่ไร้ประโยชน์ยิ่งกว่าเป็นหมื่นเท่า คนที่ฉันไม่สามารถเอาชนะได้ จะเป็นคนไร้ประโยชน์ได้ยังไง! อัดมันให้น่วม อัดจนกว่ามันจะกระอักเลือดออกมา”

พี่ซานออกคำสั่ง เหล่านักมวยพลันหยิบกระสอบป่านหนา ๆ มาห่อบนร่างของกู้ซิ่งเหว่ยเอาไว้ จากนั้นก็เริ่มชกไปบนร่างกายท่อนบนของกู้ซิ่งเหว่ย ราวกับกำลังชกกระสอบทราย

ผลัวะ ผลัวะ ผลัวะ

เสียงของกำปั้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 702

    “อ๋อ เอ่อ ฉันจะมาถามว่าซิ่งเหว่ยอยู่ที่นี่กับเธอหรือเปล่า หรือว่าพวกเธอเห็นซิ่งเหว่ยบ้างไหม?” กู้เจี้ยนกั๋วถามอย่างกินปูนร้อนท้อง “ผมเจอเขาในช่วงก่อนเที่ยงคืนนะครับ แต่เขาถูกกลุ่มเพื่อนของเขาพาไปแล้ว ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเขาไปที่ไหน” หลี่โม่กล่าวด้วยรอยยิ้มบาง “เพื่อนของเขา? ไอ้เจ้าเด็กนั่นมันไปเถรไถลที่ไหนอีก? ไม่รู้จักบอกกันสักคำ” กู้เจี้ยนกั๋วบ่นพึมพำเล็กน้อยทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น กู้เจี้ยนกั๋วหยิบมือถือออกมาดูหมายเลขโทรเข้าเล็กน้อย มันเป็นหมายเลขหนึ่งที่ไม่คุ้นเคย “สวัสดีครับผมกู้เจี้ยนกั๋ว ไม่ทราบว่าใครโทรมาครับ” "จากโรงพยาบาลศูนย์ค่ะ คุณกู้ซิ่งเหว่ยเป็นลูกชายของคุณใช่ไหมคะ?” “ใช่ครับ ลูกชายผมเอง เขาไปอยู่โรงพยาบาลศูนย์ได้ยังไง เขาเป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” กู้เจี้ยนกั๋วถามอย่างเคร่งเครียด “เขามีเลือดออกภายในรุนแรงมาก จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดด่วน คุณรีบมาที่โรงพยาบาลเพื่อเซ็นยินยอมก่อนการผ่าตัดด่วนเลยค่ะ มาให้เร็วที่สุดเลยนะคะ “ทำไมถึงมีเลือดออกภายในได้? มันคงไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตใช่ไหมครับ?” กู้เจี้ยนกั๋วตื่นตระหนกอย่างสมบูรณ์ “ไม่มีใครร

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 703

    ตอนเที่ยง ณ โรงงานร้างแห่งหนึ่งย่านชานเมือง พื้นที่โดยรอบของโรงงานร้างเต็มไปด้วยหน่วยเฝ้าระวังทั้งในที่แจ้งและที่ลับ และดวงตาจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังจับตามองการเคลื่อนไหวรอบโรงงาน ฉินจี้เย่นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยสีหน้าจริงจังและมีคนสิบกว่าคนนั่งห่างจากเขาไปไม่ไกลด้วยสีหน้าต่างกันไป บางคนก็เย็นชามาก บางคนเกียจคร้าน บางคนช่างพูดอยู่ไม่นิ่ง ดูไปแล้วช่างแปลกประหลาด “คุณชายฉิน แล้วราชาทหารที่คุณพูดถึงนั่นล่ะ พวกเราล้วนเป็นนักฆ่าเลี่ยงชื่อทั้งนั้น ไม่มีภารกิจไหนที่เราไม่เคยทำ อย่าเอาผู้นำอ่อนหัดมาสั่งการพวกเรา ไม่อย่างนั้นพวกเราไปทำกันเองซะยังดีกว่า” นักฆ่าที่นั่งหลุกหลิกอยู่ตลอด ดูไปแล้วเหมือนกับเด็กไฮเปอร์คนหนึ่งพูดขึ้น “เว่ยหย่ง นายสำเหนียกฐานะตัวเองให้ดีจะดีกว่า อย่าลืมสิว่าใครเป็นคนจ่ายค่าจ้างให้นาย” บอดี้การ์ดของฉินจี้เย่เอ่ยด้วยใบหน้าเย็นชา “เฮ้ย แกมันก็แค่สุนัขข้างกายคุณชายฉินไม่ใช่รึไง ไม่ว่าฉันจะทำอะไร ถึงยังไงฉันก็พึ่งความสามารถของตัวเองทำมาหากิน ยังไงก็มีเกียรติมากกว่าหมาอย่างแกเยอะ” เว่ยหย่งกล่าวอย่างเหยียดหยาม บอดี้การ์ดโกรธมากจนจะเอื้อมมือไปชักปืน แต่ฉินจี้เย่ยั้

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 704

    นักฆ่าอารมณ์ร้อนหลายคนตะโกนขึ้นว่าต้องการฆ่าหลี่โม่เพื่อระบายโทสะในใจ ฉินจี้เย่มองไปทางหลี่โม่ด้วยรอยยิ้ม “คุณหลี่ช่างสร้างเรื่องเก่งจริง ๆ คุณทักทายพวกเขาดี ๆ ไม่ได้เหรอครับ” “ก็แค่พวกกระจอก ทำไมฉันต้องทักทายด้วย” หลี่โม่กล่าวอย่างเรียบเฉย เว่ยหย่งส่งเสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว เขาหยิบมีดผ่าตัดออกมาจากกระเป๋าเสื้อ แล้วสะบัดข้อมือ มีดผ่าตัดกลายเป็นประกายแสงเย็นเยือกพุ่งไปยังหลี่โม่ เว่ยหย่งถือเป็นหนึ่งในสามอันดับต้นของนักฆ่ากลุ่มนี้ เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ ที่ชอบใช้อาวุธร้อนอย่างพวกปืนแล้ว เว่ยหย่งชอบใช้อาวุธเย็นมากกว่า ซึ่งเขาชอบใช้อาวุธลับเป็นพิเศษ ไม่รู้ว่าเขาได้รับอิทธิพลมาจากเรื่องฤทธิ์มีดสั้นหรือเปล่า ทำให้เว่ยหย่งหมั่นฝึกฝนทักษะการใช้มีดบินอย่างหนัก แทบจะเรียกได้ว่าอัตราเข้าเป้าเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยพื้นฐานหากได้สะบัดมีดบินออกไปแล้วก็ต้องได้เห็นเลือดกันบ้างล่ะ ครั้งนี้เว่ยหย่งรู้สึกว่ามันก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน ชั่วขณะที่มีดผ่าตัดพุ่งออกไป เว่ยหย่งก็เกิดรู้สึกว่าคราวนี้เขาโจมตีโดนหลี่โม่ได้อย่างแน่นอน และสั่งสอนบทเรียนให้กับไอ้เจ้าคนโอหังนี่สักหน่อย มีดผ่าตัดมีควา

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 705

    ฉินจี้เย่ชำเลืองมองไปยังหลี่โม่แล้วมองไปทางเหอปิง ควันเบื้องหน้าของเหอปิงเบาบางลง เมื่อมองสีหน้าของเหอปิงผ่านม่านควันก็รู้สึกว่าใบหน้าของเหอปิงบิดเบี้ยวไปเล็กน้อย เว่ยหย่งและคนอื่น ๆ มองหลี่โม่ด้วยสายตาโกรธจัด คิดว่าหลี่โม่นั้นกำลังยั่วยุอย่างโจ่งแจ้ง “มันชักจะโอหังไปแล้ว พี่ปิงพวกเราทนไม่ได้แล้ว” เว่ยหย่งเอ่ยด้วยลำคอแหบแห้ง ควันสีขาวสองสายพ่นออกมาจากรูจมูกของเหอปิง ควันหนาทึบลอยอยู่ตรงหน้าเขา ดูราวกับว่าเขากำลังจะกลายเป็นเซียนอย่างนั้น “ไม่ต้องรีบร้อน การจัดการราชาทหารนั่นต่างหากที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด” เหอปิงดีดขี้บุหรี่ทิ้งแล้วพูดอย่างเฉยเมย “ส่วนเขา ค่อยจัดการตอนสุดท้าย” “ราชาทหารมีอะไรต้องกังวลกัน ตอนนี้ราชาทหารมียั้วเยี้ยอย่างกับสุนัข ทหารราชาสิบคนก็มีพวกไร้ความสามารถอยู่แปดคนแล้ว” เว่ยหย่งกล่าวอย่างไม่พอใจ เมื่อครู่เสียหน้าด้วยน้ำมือของหลี่โม่แล้ว เว่ยหย่งแทบทนรอกู้หน้าคืนมาไม่ไหว แต่เว่ยหย่งนั้นไม่สามารถเอามันกลับคืนมาเองได้ เขาจึงได้แต่ขอให้เหอปิงช่วยลงมือ เหอปิงแค่นหัวเราะเย็นชา สายตามองไปที่ฉินจี้เย่ “คุณชายฉิน คุณไม่ต้องปิดไว้แล้ว บอกภูมิหลังของราชาทหาร

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 706

    สำหรับเย่จงเทียน หลี่โม่ก็ประหลาดใจเล็กน้อย เพราะว่าคนที่มีชีวิตอยู่แล้วมีตำนานได้มากขนาดนี้มีไม่กี่คนตึง ตึง ตึงเสียงฝีเท้าดังเป็นระเบียบราวกับเสียงกลองรบดังขึ้น คนกลุ่มหนึ่งใส่ชุดลายพราง พวกชายฉกรรจ์ที่มีกลิ่นอายสังหารกระจายไปทั่วทั้งตัวเดินเข้ามากลุ่มชายฉกรรจ์อีกด้านใส่ชุดฮาวาย เย่จงเทียนย่ำสเก็ตบอร์ด สูบไปป์และเดินอย่างช้า ๆภายใต้จังหวะการเดินที่เป็นระเบียบเรียบร้อยของพวกชายฉกรรจ์ เย่จงเทียนราชาทหารผู้นี้เห็นได้ชัดว่าเป็นราวกับนักเลง“โธ่ ทุกคนมาเร็วกันเอง เราไม่ได้มาสายใช่ไหม?”เย่จงเทียนหัวเราะร่าพลางพูดฉินจี้เย่รีบลุกขึ้น วิ่งเหยาะ ๆ ไปต้อนรับเย่จงเทียน“พี่เย่ พี่มาทันพอดีเลย ไม่เร็วไม่ช้าจนเกินไปหรอกครับ”ฉินจี้เย่พูดอย่างเอาใจนี่คือคนที่ผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังส่งมา ฉินจี้เย่ไม่ต้องใช้สมองคิดก็รู้ว่าต้องประจบเย่จงเทียนให้ดีเย่จงเทียนตบแก้มของฉินจี้เย่เบา ๆ หัวเราะแล้วพูด “นายคือเสี่ยวฉินสินะ ใช่แล้ว ๆ พูดจาได้ดี คนของนายมาหมดแล้วสินะ พวกเขาไม่ศรัทธาในตัวฉันใช่ไหม?”“เอ่อ… ผมไปพูดกับพวกเขาได้ครับ พวกเขาต้องเชื่อฟังคำสั่งของพี่แน่นอน”ฉินจี้เย่พูดอย่างกังวล

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 707

    “พี่เย่ คุณหลี่ พวกคุณอย่าเถียงกันแบบนี้เลยได้ไหม มีอะไรเราพูดจากันดี ๆ พวกซุนจื่อบรรพบุรุษอะไรนั่น พูดมากไปก็มีแต่เจ็บกับโกรธ”ฉินจี้เย่กัดฟันไกล่เกลี่ยให้เลิกทะเลาะกันเย่จงเทียนยิ้มขึ้นมาทันทีเหมือนไม่เคยโกรธมาก่อน “เสี่ยวฉิน คนที่นายหามาล้วนเป็นพวกวีรบุรุษเหมือนจะดูถูกฉันเย่จงเทียนนะ นี่เห็นฉันเป็นของเลี่ยงภาษีกันหรือไง?”แม้ว่าเย่จงเทียนจะกำลังยิ้ม แต่คำที่พูดออกมาทำให้ฉินจี้เย่ขนพองสยองเกล้าเลยการกระทำครั้งนี้เดิมทียึดเย่จงเทียนเป็นหลัก คนของลูกน้องฉินจี้เย่แค่มาช่วยเท่านั้นเอง แต่เพราะว่าแผนของฉินจี้เย่ผิดพลาดทำให้ตอนนี้ไม่ว่าพวกนักฆ่าอย่างเหอปิง หรือพวกที่มีการช่วยเหลือจากต่างประเทศอย่างหลี่โม่ก็ล้วนไม่เชื่อเย่จงเทียนฉินจี้เย่ที่ปวดหัวแทบระเบิด เขาเสียใจมากและพูดด้วยใบหน้าขมขื่น “ไม่ใช่ครับ ไม่ได้หมายความแบบนั้น ที่จริงคือปฏิบัติการครั้งนี้มันใหญ่เกินไป ทุกคนค่อนข้างกังวล พี่เย่อธิบายแผนการให้พวกเขาฟังดี ๆ พวกเขาต้องสบายใจขึ้นแน่นอน”ฉินจี้เย่พยายามอธิบาย เหอปิงสะบัดก้นบุหรี่ในมือและลุกขึ้นเดินผ่านควันบุหรี่ไปหาเย่จงเทียน“ราชาทหารเย่ ทุกคนล้วนเสี่ยงทำค้าขาย การจะไม่เช

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 708

    “เย่จงเทียน นี่คุณทำเกินไปหรือเปล่า ถ้ามีความสามารถก็มาสู้กับพี่ปิงของเราตัวต่อตัว อย่ามาใช้อาวุธที่ได้เปรียบมาทำร้ายคนอื่น”“ใช่ คุณมีความสามารถก็สู้กันตัวต่อตัวสิ ทำให้พวกเราเห็นว่าคุณเป็นผู้ชายที่กล้าหาญหรือเปล่า อย่าใช้อาวุธมาคุยกันแบบนี้สิ”เย่จงเทียนยิ้มเย็นชาและมองพวกของเหอปิงอย่างดูถูก “ฉันเป็นคนที่อยู่ในกองทัพ ไม่เคยทำเรื่องโง่ ๆ อย่างการสู้ตัวต่อตัวหรอก ถ้าพวกแกสามารถต้านได้ก็มาสู้กับพวกของฉัน แต่ถ้าพวกแกไม่สามารถต้านได้ก็อย่าพูดอะไรส่งเดช”สิ่งที่เย่จงเทียนพูดคือคำพูดทางทหาร ทางทหารไม่โอ้อวดกันเรื่องกำลังส่วนตัว เพราะว่ากำลังส่วนตัวไม่ได้มีประโยชน์มากเท่าไหร่ในกองทัพ ความสามารถในการบัญชาการนั้นสำคัญยิ่งกว่านายพลผู้กล้าหาญของราชวงศ์ก็เป็นแค่ผู้ริเริ่มเท่านั้น นายพลผู้มีชื่อเสียงล้วนใช้สมองหากิน ส่วนกำลังมีไว้เพื่อประดับเท่านั้น สำหรับเรื่องราวความกล้าหาญของนายพลผู้มีชื่อเสียงเหล่านั้นล้วนเป็นการตีความกันไปเองพวกเว่ยหย่งล้วนเป็นพวกในใจขุ่นเคืองแต่ไม่กล้าพูดออกมา ใช้สายตาโกรธเคืองมองเย่จงเทียนแต่กลับไม่กล้าด่าอะไรอีกอีกฝ่ายเอาปืนแก็ตลิงออกมาแล้ว ถ้ายั่วโมโหเย่จงเทียนจร

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 709

    เหอปิงจะพาพวกเว่ยหย่งกลับไป ยั่วโมโหก็ไม่ได้ซ่อนตัวก็ไม่ได้ ธุรกิจใหญ่โตตรงหน้าต้องการจะเอาชีวิตคนจริง ๆ อีกทั้งเหอปิงเองก็รู้สึกว่าอัตราความสำเร็จไม่มีเลยแม้แต่น้อยนักฆ่าทางด้านเหอปิงมีอยู่สิบกว่าคน ทหารรับจ้างที่เย่จงเทียนพามาก็เป็นกลุ่มสู้รบเล็ก ๆ สองกลุ่มรวมแล้วมีแค่สามสิบคนเท่านั้นคนทั้งหมดสี่สิบกว่าคนไปจัดการคนร้อยกว่าคนที่อยู่ในภูมิประเทศที่สะดวกกว่า อีกทั้งมีอาวุธครบมือ มีอาวุธหนักด้วย คิดอย่างไรก็รู้สึกว่าไร้สาระเหมือนเพ้อฝัน เพียงแค่เข้าร่วมเกรงว่าสุดท้ายแล้วผลที่ได้คือจะจบชีวิตกันทั้งหมดนี่ไม่ใช่การถ่ายภาพยนตร์ ไม่ได้มีฮีโร่ แม้จะเป็นตัวประกอบในภาพยนตร์ก็ตายได้ เหอปิงไม่ได้คิดว่าตัวเองจะคิดแก้ปัญหาในทุกสถานการณ์ได้ การกลับไปอย่างไม่ลังเลแบบนี้แหละถึงจะถูกแต่พวกเหอปิงเพิ่งเดินไปได้ก้าวเดียว ทหารรับจ้างที่ถือปืนแก็ปตลิงขึ้นมาทำมุมสี่สิบห้าองศาปิดล้อมไว้ อุปกรณ์เล็งอินฟราเรดที่ติดอยู่บนปืนในมือของทหารรับจ้างเล็งไปที่พวกของเหอปิงแล้ว แสงสีแดงส่ายไปมาอยู่บนตัวของพวกเหอปิงในโรงงานร้างเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหารทันที สีหน้าของพวกเหอปิงเปลี่ยนเป็นไม่สู้ดีการจะพุ่งออกไปข้างน

บทล่าสุด

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 945

    คังหย่งอันกดหมายเลขของคังหย่งเฉียน แล้วพูดเสียงเข้ม "หย่งเฉียน ฉันได้ยินมาว่า แกกับเหวินซินมีปัญหากันเรื่องวิลล่าบนยอดเขาเหรอ?" “พี่ใหญ่ มีปัญหากันน่ะสิ ศิษย์พี่เกิ่งยังถูกทำร้ายจนเข่าหักแล้ว! ศิษย์พี่เกิ่งติดต่อกับอาจารย์โอวหยางไปแล้ว เรื่องนี้อภัยให้ไม่ได้แน่นอน!” คังหย่งเฉียนโกรธแค้นคังเหวินซิน ถ้าไม่ใช่เพราะคังเหวินซินพาหลี่โม่ไปที่นั่น เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น แต่ในเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว คังหย่งเฉียนเองก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ทำได้เพียงเอาความโมโหไปลงที่คังเหวินซินเท่านั้น “หย่งเฉียน ไม่ว่ายังไงก็ตาม แกต้องรับรองความปลอดภัยของเหวินซิน ฉันไม่สนว่า อาจารย์โอวหยางพวกเขาจะทำอะไรกับเพื่อนของเหวินซิน แต่พวกเขาจะทำร้ายเหวินซินไม่ได้เด็ดขาด!” “พี่ใหญ่ ฉันไม่กล้ารับประกันหรอก รับประกันได้แค่ลูกชายของพี่จะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงตายเท่านั้น ถ้าอาจารย์โอวหยางต้องการลงโทษลูกชายของพี่จริง ๆ ฉันจะไปขวางได้ยังไง ฉันขวางไม่ได้หรอก ไม่กล้าขวางด้วย!" คังหย่งอันขมวดคิ้วแน่น หากคังหย่งเฉียนอยู่ต่อหน้าคังหย่งอันในตอนนี้ คังหย่งอันจะต้องตบเขาให้ตายคามือแน่นอน “หย่งเฉียน! แกเป็นอาข

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 944

    “ไอ้บัดซบเอ๊ย! ใครกล้ามาต่อกรกับฉันโอวหยางจื้อ มันผู้นั้นจะต้องตาย!” โอวหยางจื้อพึมพำอย่างด้วยความอาฆาตแค้น แล้วสั่งให้ลูกศิษย์ไปจองตั๋วเครื่องบิน ...... คังเหวินซินมาส่งหลี่โม่และคนอื่น ๆ ที่บ้าน หลังจากมองดูทั้งสามเดินเข้าไปข้างในแล้ว จึงสตาร์ทรถและขับออกไปอย่างช้า ๆ “อาเล็กถูกจัดการจนหมดท่าแล้ว ต้องบอกพ่อสักคำไหมนะ อาเล็กจะได้ไปตีไข่ใส่สีอีก” หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง คังเหวินซินก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดหมายเลขพ่อของเขาคังหย่งอัน “ฮัลโหล พ่อครับ ผมเพิ่งจะขายวิลล่าบนยอดเขาที่สวนหนานชุ่ยให้เพื่อผมไป ขายราคาต้นทุนน่ะครับ” คังหย่งอันขมวดคิ้ว "นั่นเป็นวิลล่าที่อาเล็กของแกจะเอาไม่ใช่เหรอ แกเอาไปให้เพื่อนได้ยังไง? ผู้จัดการฝ่ายขายว่ายังไงบ้าง?" คังเหวินซินอึ้งครู่หนึ่ง รู้สึกถึงความผิดปกติในคำพูดของคังหย่งอัน "พ่อ พ่อรู้ได้ยังไงว่าอาเล็กอยากได้วิลล่านั่น?” “อาเล็กของแกเคยบอกพ่อว่า วิลล่าหลังนั้นเป็นของขวัญที่เขาจะเก็บไว้ให้กับปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ในต่างประเทศโอวหยางจื้อ แกคงเคยได้ยินเกี่ยวกับโอวหยางจื้อมาบ้างใช่ไหม? เขาเคยรับหน้าที่เป็นผู้กำกับฉากแอ็คชั่นให้กับภาพย

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 943

    ในแผนกดูแลพิเศษของโรงพยาบาล คังหย่งเฉียนและคนอื่น ๆ นั่งล้อมรอบเตียง มองดูพี่เกิ่งค่อย ๆ ฟื้นคืนสติ เข่าที่หักของพี่เกิ่งได้รับการผ่าตัดแล้ว แต่หลังการผ่าตัด พี่เกิ่งจะได้แต่นั่งอยู่บนรถเข็นเท่านั้น “ซี๊ด ขากับเข่าฉันเป็นยังไงบ้าง?” พี่เกิ่งถามอย่างร้อนใจ “ศิษย์พี่ไม่ต้องกังวล ผ่าตัดเสร็จแล้ว เพียงแต่ระดับการรักษาของที่นี่ยังต่ำไปหน่อย หลังจากฟื้นตัวแล้วพี่ต้องนั่งรถเข็น” คังหย่งเฉียนพูดเสียงเบาหวิว “ไอ้บัดซบ! ฉันไม่อยากนั่งรถเข็น! ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้!” พี่เกิ่งคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว รู้สึกเลวร้ายไปทั้งร่างกาย ชีวิตบนรถเข็น ไม่ใช่ชีวิตที่พี่เกิ่งต้องการเลย ถ้าต้องนั่งรถเข็นแล้ว ต่อไปจะฝึกศิลปะการต่อสู้ หรือออกไปรังแกคนอื่นอย่างไร แล้วจะไปจีบสาว ๆ ได้อย่างไร! “ฉันจะย้ายโรงพยาบาล ฉันจะไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลที่ดีที่สุด!” “พี่เกิ่งอย่าเพิ่งตื่นตูม หมอบอกว่า รอพี่ฟื้นตัวดีแล้ว ก็สามารถทำการผ่าตัดครั้งที่สองในโรงพยาบาลที่ดีกว่านี้เพื่อเปลี่ยนข้อต่อเทียมได้” คังหย่งเฉียนปลอบใจพี่เกิ่งไปพลางก็ขยิบตาให้กับพวกพี่น้องคนอื่น ๆ ส่งสัญญาณให้พวกเขารีบมาช่วยกันโน้มน้าว ศิษย์พี่ห

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 942

    พี่เกิ่งร้องโหยหวนออกมา รู้สึกว่าขาซ้ายพลิกกลับไปด้านหลัง พลันสูญเสียการทรงตัวและล้มหงายไปข้างหลังทันที พลั่ก พี่เกิ่งล้มหงายลงกับพื้น ปากก็ร้องโหยหวนอย่างน่าเวทนา คังหย่งเฉียนถูกกระตุ้นด้วยเสียงร้องของพี่เกิ่งจนตัวสั่นไปทั้งตัว เสียงวิ้ง ๆ ที่ดังอยู่ในหัวยิ่งชัดเจนขึ้นมาทันใด คังหย่งเฉียนกุมใบหน้าที่บวมแดงไปครึ่งหนึ่งมองไปทางศิษย์พี่เกิ่ง ดวงตาของคังหย่งเฉียนก็แทบจะหลุดออกจากเบ้า ศิษย์พี่เกิ่งที่คังหย่งเฉียนเคยคิดว่า แข็งแกร่งไร้เทียมทานนั้น ตอนนี้กำลังร้องคร่ำครวญราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังจะตาย เมื่อมองขาขวาของพี่เกิ่งหักงอในองศาที่ผิดธรรมชาติ คังหย่งเฉียนก็รู้สึกว่า เลือดทั่วร่างกายเย็นเฉียบขึ้นมา นี่เป็นเรื่องที่มนุษย์สามารถทำได้อย่างนั้นเหรอ? นี่เป็นผลลัพธ์ที่สามารถใช้กำปั้นทำได้เหรอ? นี่มันซูเปอร์ไซย่าในตำนานหรืออย่างไรกัน?! พวกศิษย์น้องของพี่เกิ่งหลายคนต่างหวาดกลัวกับความเผด็จการของหลี่โม่ ทั้งกลุ่มพลันหมดความโอหังไปโดยสิ้นเชิง พวกเขาลากพี่เกิ่งขึ้นมาจากพื้นแล้ววิ่งตะบึงออกไปข้างนอกอย่างบ้าคลั่ง แม้แต่คำพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในที่นี้คือศิษย์

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 941

    คังเหวินซินรออยู่สามวินาที แต่ละวินาทีราวกับยาวนานเป็นปี รออยู่นานฝ่ามือของพี่เกิ่งก็ยังไม่ตบลงมาสักที คังเหวินซินจึงลืมตาขึ้น เมื่อเอียงหน้ามองเห็นฝ่ามือของพี่เกิ่งอยู่ห่างจากหน้าตนแค่เฉียดฉิว หัวใจของคังเหวินซินแทบจะกระโดดออกมาจากปาก หลังจากที่เห็นข้อมือของพี่เกิ่งถูกหลี่โม่คว้าไว้ คังเหวินซินถึงได้รู้สึกว่า หัวใจของตัวเองกลับเข้าที่ได้แล้ว คังเหวินซินที่สงบลงแล้ว รีบถอยไปหลบด้านหลังหลี่โม่ แล้วร้องตะโกนด้วยน้ำตาแห่งความซาบซึ้ง "อาจารย์!" “นายอย่าร้องไห้น่าสมเพชนักสิ มันทำฉันขายหน้านะ” หลี่โม่พูดด้วยรอยยิ้ม คังเหวินซินตะลีตะลานเช็ดเบ้าตา ไม่ยอมให้ตัวเองร้องไห้ออกมา พี่เกิ่งจ้องมองหลี่โม่อย่างโมโห แอบพยายามดึงข้อมือของตัวเองกลับมาอย่างลับ ๆ แต่ไม่ว่าพี่เกิ่งจะพยายามออกแรงแค่ไหน มือของหลี่โม่ก็ราวกับคีมปากเสือหนีบข้อมือของพี่เกิ่งเอาไว้แน่น จนข้อมือของพี่เกิ่งไม่มีทางสลัดหลุดได้เลย “ปล่อยมือฉัน!” พี่เกิ่งตวาดด้วยความโกรธเกรี้ยว “แกบอกให้ปล่อยก็ต้องปล่อยเหรอ? แกน่าจะอธิบายเรื่องที่จะลงไม้ลงมือกับลูกศิษย์ฉันเมื่อกี้นี้มาสักหน่อยไหม?” หลี่โม่พูดอย่างเย็นชา คังเหวินซินส

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 940

    กู้หยุนหลานมองไปยังหลี่โม่อย่างประหลาดใจ เมื่อเห็นหลี่โม่ขยิบตาให้ เธอจึงไม่พูดอะไรและเก็บความสงสัยไว้ในใจ ผู้จัดการหวังโบกมือให้พนักงานขายสาว พนักงานสาวที่ถือสัญญาอยู่แล้วเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว “ผู้จัดการหวัง นี่เป็นสัญญาของวิลล่ายอดเขาค่ะ แต่ราคานี้มัน…” สีหน้าของพนักงานสาวดูบูดเบี้ยวเล็กน้อย ถ้าขายวิลล่านี้ออกไปในราคาต้นทุน เธอคงไม่ได้รับค่าคอมมิชชั่นเลยสักแดง! ที่ผ่านมาเศรษฐีในเมืองฮั่นจำนวนมากต่างก็ถูกใจวิลล่าแห่งนี้ แต่เพราะมีการปิดกั้นการซื้อขาย เลยไม่ได้ขายอย่างเป็นทางการ เดิมทีพวกพนักงานสาวนั้นเตรียมพร้อมที่จะทำกำไรมหาศาลด้วยการขายวิลล่าหลังนี้หลังจากที่เปิดการขายแล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า ความฝันของพวกเธอกำลังจะมลายหายไปซะแล้ว “พวกเธอมีสิทธิ์พูดงั้นเหรอ? นี่คือการตัดสินใจของคุณชายใหญ่!” ผู้จัดการหวังตำหนิพนักงานขายสาว พนักงานสาวหดคอและปิดปากเงียบไม่กล้าพูดอีก ผู้จัดการหวังเปิดสัญญาตรวจดู หลังจากยืนยันความถูกต้องแล้ว เขาก็ถือสัญญาเดินไปหาหลี่โม่ “อ่านสัญญาดูก่อนนะครับ หากไม่มีปัญหาอะไร เราจะไปเซ็นสัญญาที่สำนักงานของผมกัน ผมไม่สามารถนำตราประทับอะไรพวกนั้นพกติดต

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 939

    “คุณชาย อย่ามาขู่ผมเลยครับ ผมไม่กลัวหรอกนะ สิ่งที่ผมพูดไปเมื่อครู่ล้วนมีเหตุมีผล หากไม่เชื่อก็ถามซินแสที่มาดูฮวงจุ้ยให้ได้เลยครับ คำพูดพวกนี้เขาเป็นคนพูดเองกับปากทั้งนั้น” ผู้จัดการหวังแข็งขืน ไม่ยอมถอยแม้แต่น้อย หลี่โม่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม "เหวินซิน อย่าหุนหันพลันแล่น ผู้จัดการหวังพูดถูกแล้ว คนที่โชคชะตาบารมีไม่ถึง ไม่มีทางข่มพลังฮวงจุ้ยอันยอดเยี่ยมได้แน่นอน” คังเหวินซินพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม "อาจารย์พูดถูกแล้วครับ แต่ด้วยบารมีของอาจารย์ จะต้องสามารถข่มมันได้อย่างแน่นอน พวกเรามาดูกันดีกว่า ที่นี่ล้วนได้รับการตกแต่งอย่างดี คุณหิ้วกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้เลย เหลือแค่ดูว่าวิลล่าหลังนี้ถูกใจคุณหรือเปล่าก็พอครับ” เมื่อเห็นคังเหวินซินพยายามเอาอกเอาใจหลี่โม่ ผู้จัดการหวังก็เกิดความสงสัยเล็กน้อย หรือว่าตนจะมองผิดไป? ผู้ชายที่สวมเสื้อผ้าแผงลอยทั้งตัวคนนี้ เป็นคุณชายเศรษฐีที่มาลองสัมผัสประสบการณ์ชีวิตงั้นเหรอ? ไม่อย่างนั้นทำไมคุณชายของตนถึงได้ไปประจบเอาใจเขาขนาดนี้กัน? “คุณชาย ท่านนี้คืออาจารย์ของคุณเหรอครับ?” ผู้จัดการหวังถามอย่างสงสัย “นี่คืออาจารย์ของฉันหลี่โม่ นายสุภาพกับอาจารย์ของฉัน

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 938

    “ไอ้สารเลวคนไหนไม่ดูตาม้าตาเรือ กล้ามาแย่งวิลล่าของอาจารย์ พวกแกยังมัวแต่กินอะไรกันอีก ไปดูด้วยกัน จัดการไอ้พวกสารเลวนั่นซะ” “ศิษย์พี่เกิ่งพูดถูก พวกเราทุกคนต้องไปดูด้วยกัน บ้านของอาจารย์ต้องดีที่สุดเท่านั้น จะผิดพลาดไม่ได้แม้แต่นิดเดียว” ศิษย์พี่เกิ่งและคนอื่น ๆ พากันลุกขึ้นทีละคน เมื่อเห็นเช่นนี้คังหย่งเฉียนก็เรียกให้พนักงานคิดเงินทันที แล้วจึงพาพวกของศิษย์พี่เกิ่งมุ่งตรงไปยังสวนหนานชุ่ย ... รถเมอร์เซเดสเบนซ์ขับเข้าไปในสวนหนานชุ่ย และขับตรงไปตามทางขึ้นยอดเขา ใกล้กับยอดเขาของเขาหนานชุ่ยนั้นมีที่ราบอยู่บริเวณหนึ่ง ที่ราบนี้ถูกนำมาใช้สร้างวิลล่า พร้อมทั้งปลูกต้นไม้พืชพรรณเขียวชอุ่มรอบ ๆ วิลล่าอีกด้วย ด้านหน้าวิลล่ายังมีลำธารที่ไหลมาจากยอดเขา ทำให้ฮวงจุ้ยของวิลล่านี้ยอดเยี่ยมมากไร้ที่ติ หน้าน้ำหลังเขา ตำแหน่งปากมังกรจัดวางฮวงจุ้ยอย่างดี ทำให้วิลล่าบนยอดเขาหลังนี้เลิศล้ำไม่มีใครเทียม รถเมอร์เซเดสเบนซ์จอดสนิทหน้าประตูวิลล่ายอดเขา ผู้จัดการหวังและพนักงานขายสาวสองคนยืนรอที่ประตูวิลล่าอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นรถเบนซ์จอดนิ่ง ผู้จัดการหวังก็รีบวิ่งเหยาะ ๆ เข้าไปช่วยเปิดประตูรถ

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 937

    ผู้จัดการหวังหยิบบุหรี่ออกมาคาบที่มุมปาก เตรียมจะสูบบุหรี่เพื่อสงบสติอารมณ์ คำขอของคังเหวินซินทำให้ผู้จัดการหวังตั้งตัวไม่ติด การจะดูบ้านมันไม่มีปัญหาหรอก แต่ถ้าอีกฝ่ายถูกใจขึ้นมาจริง ๆ จะทำอย่างไรล่ะ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรื่องราคาต้นทุนหรือเปล่า ถ้าคังหย่งเฉียนเข้ามาครอบครองวิลล่าหลังนี้ เขาก็คงไม่ได้เงินเลยสักแดงเดียว พอนึกถึงคังหย่งเฉียนขึ้นมาผู้จัดการหวังรู้สึกปวดจี๊ด ๆ ขึ้นมา เจ้านั่นเป็นปีศาจเจ้าสำราญแห่งตระกูลคัง วัน ๆ เอาแต่เกียจคร้าน กินดื่มเที่ยวเล่น ยิ่งกว่านั้นยังคบค้ากับพวกอันธพาล ก่อนหน้านี้ผู้อาวุโสตระกูลคังก็ยังถูกคังหย่งเฉียนยั่วโมโหจนเส้นเลือดในสมองตีบ แทบทุกคนในตระกูลคังล้วนทำเป็นไม่สนใจคังหย่งเฉียน ตราบใดที่คังหย่งเฉียนไม่ได้ก่อปัญหา ก็ไม่มีใครสนใจว่า คังหย่งเฉียนจะทำอะไร ถ้าหากยกวิลล่าให้เพื่อนของคังเหวินซินจริง ๆ คังหย่งเฉียนคงจะพาคนมาสับเขาเป็นชิ้น ๆ ถึงที่แน่ หลังจากสูบบุหรี่หมดมวน ผู้จัดการหวังก็ขยี้ก้นบุหรี่ลงในที่เขี่ยบุหรี่ รู้สึกว่ายังไงก็ควรแจ้งให้คังหย่งเฉียนรู้สักหน่อย ส่วนคังหย่งเฉียนจะต่อสู้กับคังเหวินซินอย่างไรนั้นก็เป็นเรื่องระหว่างพวกเขา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status