หวังจงฉวนมองด้วยความงงงวย เขาไม่รู้ว่าเบื้องลึกเบื้องหลังว่าเป็นมาอย่างไร เขาจึงไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้ตามอำเภอใจ สีหน้าคุณปู่หวังเปลี่ยนเป็นมืดลง เนื่องจากเขาโกรธมากจนอยากจะตีหลี่โม่ให้ตาย อย่างไรก็ตาม งานเลี้ยงวันเกิดได้เริ่มขึ้นแล้ว และไม่ใช่เรื่องง่ายที่คุณปู่หวังจะแสดงอารมณ์ได้ต่อหน้าผู้คนมากมาย ยิ่งกว่านั้นหากเหตุการณ์นี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ มันจะทำให้ตระกูลหวังกลายเป็นตัวตลก ดังนั้นคุณปู่หวังจึงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อนอย่างเย็นชาและค่อยจัดการเรื่องนี้ทีหลัง ขณะที่คุณปู่หวังกำลังจะพูดเพื่อสงบสติอารมณ์ พ่อบ้านที่อยู่นอกประตูก็รีบเข้ามา "ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับคุณท่าน" มีรอยยิ้มที่ตื่นเต้นบนใบหน้าของพ่อบ้าน คุณปู่หวังมองไปที่พ่อบ้านด้วยความงุนงงแล้วคิดว่า 'งานเลี้ยงวันเกิดช่างมีความสุขมากมายอะไรอย่างนี้' แต่อาหารงานเบี้ยงกำลังจะถูกสองสามีภรรยาไร้ประโยชน์แย่งไป ถ้าเรื่องนี้ถูกแพ่กระจายออกไปคงจะเป็นเรื่องตลกไปทั่วหมู่บ้าน พ่อบ้านตื่นเต้นมากจนไม่ได้สังเกตว่าคุณปู่หวังและฝูงชนมีสายตาที่ดูแปลกไป เขาจึงหยิบรายการของขวัญออกมาอ่าน “คุณท่าน มีแขกผู้มีเกียรติได้ส่งของขวัญมากม
“คุณหลี่งั้นรึ?” คุณปู่หวังตกตะลึงเล็กน้อย พลางคิดถึงคนแซ่หลี่ที่เขารู้จัก แต่หลังจากคิดไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว คุณปู่หวังก็ยังนึกไม่ออกว่าใครกันที่มีนามสกุลหลี่ ของขวัญมากมายเช่นนี้ ถ้าไม่มีทรัพย์สมบัติเป็นร้อย ๆ ล้าน คงไม่สามารถจะมอบให้เป็นของขวัญวันเกิดได้แน่นอนว่าต้องมาจากครอบครัวที่ร่ำรวย หวังจินซาน หวังจินไห่ และคนอื่น ๆ ก็เต็มไปด้วยความสงสัยเช่นกัน เพราะต่างก็คิดว่าในบรรดาหุ้นส่วนของตระกูลไม่มีชายใดที่มีนามสกุลหลี่เลย แต่ของขวัญวันเกิดมากมายเหล่านั้นอยู่ตรงหน้าพวกเขา หวังจินซานและคนอื่น ๆ ก็สงสัยเล็กน้อย คิดว่ามีคนส่งมาผิดหรือเปล่า? แต่งานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่หวังไม่ได้จัดขึ้นในโรงแรม แต่จัดที่ลานบ้านของเขาเอง ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะส่งผิด แขกเหรื่อต่างก็พึมพำเสียงต่ำเช่นกัน มองหาว่าใครเป็นคนให้ของขวัญ "พี่จ้าว พี่เป็นคนกว้างขวางมีผู้ติดต่อมากที่สุด รู้ไหมว่าใครคือคุณหลี่ที่เป็นให้ของขวัญวันเกิดนั่น" "ฉันคิดไม่ออกเลย ฉันรู้จักแขกเกือบทั้งหมดที่มาในวันนี้ ไม่มีใครชื่อหลี่เลย แล้วฉัก็นไม่เคยได้ยินตระกูลร่ำรวยที่ชื่อหลี่ในกรุงโซลด้วย คนให้ของขวัญนี่ลึกลับมากจริ
เมื่อหวังจินซานเห็นว่าไม่พบคุณหลี่ เขาคิดว่าเขาต้องกลับมาคุยหัวข้อเก่า เขาจะปล่อยให้หลี่โม่เจ้าหนูท่อตัวนี้ทำเสียโอกาสที่จะอวดลูกชายคนโตของเขาไม่ได้ “อย่าแม้แต่จะเอ่ยถึงคนไร้ค่านั่น มันทำให้ทุกคนอารมณ์เสียโดยไม่มีเหตุผล ทำลายบรรยากาศงานดี ๆ ของเรา จงฉวนรีบยกแก้วเคารพทุกท่านได้แล้ว” หวังจงฉวนยกแก้วของเขาและยืนขึ้น ทักทายกับผู้ที่มางานด้วยความเคารพ "จงฉวนมาที่นี่เพื่อขอบคุณทุกท่านที่ดูแลผม ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องการคำแนะนำ ผมหวังว่าตอนนั้นทุกท่านจะยินดีที่จะให้คำแนะนำแก่ผมนะครับ" คำพูดของหวังจงฉวนเต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้ ซึ่งไม่เพียงแต่ยกยอตัวเองเท่านั้น แต่ยังทำให้แขกทุกคนมีความสุขอีกด้วย แขกทุกคนยกแก้วขึ้นและดื่มร่วมกับหวังจงฉวน "จงฉวนมีช่างเก่งจริง ๆ ครั้งนี้เขาชนะสัญญาการพัฒนาพื้นที่รกร้างในเขตชานเมืองทางใต้ ถ้าเขามีความสัมพันธ์กับบริษัทหยุนจงหลาน ในอนาคตเขาจะไร้ขีดจำกัด" "บริษัทหยุนจงหลานลงทุนครั้งใหญ่ในครั้งนี้ ฉันได้ยินมาว่ากลุ่มที่อยู่เบื้องหลังนั้นทรงพลังมาก ตราบใดที่คุณใกล้ชิดกับพวกเขา คุณจะมีเงินมากมายในอนาคต" "ตราบใดที่พื้นที่รกร้างในชานเมืองทางตอนใต้สามารถพัฒ
ทั้งหวังฟางและกู้เจี้ยนหมินหัวหดและก้มหน้าลง พวกเขาไม่สามารถเอ่ยปากพูดอะไรอะไรได้เลย สองสามีภรรยาคิดว่านี่มันเป็นการเสียหน้าสุด ๆ ทั้งหมดเป็นเพราะหลี่โม่ไร้ประโยชน์ทำอะไรไม่ได้ ดังนั้นทั้งหวังฟางและกู้เจี้ยนหมินก็ไม่สามารถหักล้างคำพูดเหล่านี้ได้ หวังจงฉวนแสดงรอยยิ้มของผู้ชนะ แต่ก็ไม่ได้ต่อปากต่อคำกันต่อ และกลับไปเริ่มดื่มไวน์ต่อเพื่อขับเคลื่อนบรรยากาศของงานเลี้ยง มีหวังจงฉวนเป็นผู้ขับเคลื่อนบรรยากาศของงานเลี้ยงวันเกิด ทำให้ทั้งงานมีชีวิตชีวาขึ้น แขกและญาติพี่น้องมีช่วงเวลาที่ดี และผู้คนต่างพูดเยินยอให้ถูกใจคุณปู่หวัง หลังจากดื่มไวน์และลิ้มรสอาหารไปแล้วเล็กน้อย หวังจงเหิงและหวังจงเฉิงที่ดื่มไปมากเล็กน้อย ทั้งสองมองหน้ากันแล้วหันไปมองที่ที่หลี่โม่และกู้หยุนหลานอยู่ตรงนั้นพร้อมกัน ด้วยฤทธิ์สุราและความนึกคิดอยากหาความสนุก ทั้งสองจึงมีความคิดที่จะเล่นพิเรน หวังจงเหิงหยิบแก้วไวน์กับไวน์ขึ้นมาหนึ่งขวดและไปทางหลี่โม่ หวังจงเฉิงรีบตามมาด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ยบนใบหน้าของ “คนไร้ค่า นายไม่รู้จักมารยาทเลย ในฐานะน้องเขยของเรา นายไม่รู้หรือว่าต้องดื่มไวน์กี่แก้วเราถึงจะได้เป็นพี่น้องกัน? นี
“ฉันขอแนะนำให้แกทำตัวดี ๆ เข้าไว้จะดีกว่านะ นี่ไม่ใช่ที่ที่แกจะมาทำตัวยังไงก็ได้ตามอำเภอใจ ให้พวกเรากรอกไวน์ใส่ปากแกซะดี ๆ ไม่อย่างนั้นชีวิตแกลำบากแน่” จากนั้นหวังจงเฉิงก็ขู่ ความอดทนของหลี่โม่หมดลง ในขณะที่เขากำลังจะจัดการไอ้สองคนปากดีนั้นด้วยกำปั้น พ่อบ้านก็รีบเข้าไปในห้องโถงกลาง "คุณท่าน คุณเหวินมาแล้วครับ! หวู่เต้าเหวินอยู่ที่นี่แล้ว คุณเหวินส่งต้นศุภโชคคู่ทองและเงินมาให้หนึ่งคู่เพื่อแสดงความยินดีกับคุณปู่ในวันเกิด" งานเลี้ยงวันเกิดที่มีชีวิตชีวาและวุ่นวายไปด้วยเสียงแขกเหรื่อในงานก็เงียบลงในทันที! หลังจากเงียบไปสามวินาทีเสียงเอะอะก็ดังขึ้น ราวกับว่าตอนนี้มีคนกดปุ่มหยุดความเงียบไว้ชั่วคราว แขกทุกคนต่างตกใจกับการมาถึงของหวู่เต้าเหวิน และพวกเขาทั้งหมดก็เริ่มพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น"หวู่เต้าเหวิน คือบุคคลอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรมการจัดเลี้ยงในกรุงโซล คุณเหวินนั้นยอดเยี่ยมมาก" "ฉันได้ยินมาว่า คุณเหวินเป็นหนึ่งในสี่วีรบุรุษแห่งกรุงโซล ไม่เพียงแต่เขามีธุรกิจใหญ่โตเท่านั้น แต่เขามีอำนาจล้นฟ้าเลยแหละ" "มีงานเลี้ยงของบุคคลผู้ทรงอำนาจและผู้มั่งคั่งตั้งกี่งานที่จัดขึ้นในห้องโถงทา
คุณปู่หวังรู้สึกว้าวุ่นเล็กน้อยเพราะเขาเชิญหวู่เต้าเหวินมานั่งที่โต๊ะหลัก แต่หวู่เต้าเหวินไม่ตอบสนองเลย เห็นได้ชัดเลยว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะมาฉลองวันเกิด นอกจากนี้ท่าทางที่หวู่เต้าเหวินมองไปรอบ ๆ ราวกับว่าเขากำลังมองหาใครสักคน คุณปู่หวังคาดเดาในใจไปต่าง ๆ นานา ตามหาคู่อริอยู่หรือเปล่า? หรือกำลังมองหาเพื่อน? หรือว่าจะมาหา... ขณะที่คุณปู่หวังกำลังทำอะไรไม่ถูก หวู่เต้าเหวินก็เห็นหลี่โม่นั่งอยู่ที่มุม เมื่อเห็นร่างของหลี่โม่ รอยยิ้มอันอ่อนน้อมก็ฉายขึ้นบนใบหน้าของหวู่เต้าเหวิน เขาผลักหวังจินซานออกไปข้าง ๆ แล้วเดินไปหาหลี่โม่ “คุณเหวิน คุณกำลัง...” คุณปู่หวังเห็นว่าหวู่เต้าเหวินเดินจากไปแล้วหลังจากเพิ่งพูดได้ครึ่งประโยค ดังนั้นเขาจึงได้แต่พาลูก ๆ หลาน ๆ เดินไปเร็ว ๆ เพื่อให้ทันหวู่เต้าเหวิน ตระกูลหวังไม่สามารถที่จะล่วงเกินคนใหญ่คนโตคนนี้ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงระมัดระวังการกระทำเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเห็นว่าหวู่เต้าเหวินกำลังเดินไปหาหลี่โม่ คุณปู่หวังและคนอื่น ๆ ต่างก็เบิกตากว้างอย่างคิดไม่ออกว่าหวู่เต้าเหวินกำลังจะทำอะไร หวู่เต้าเหวินเดินตรงเข้าไปหาหลี่โม่แล้วยืนนิ่ง จากนั้นโ
ในขณะที่ทุกคนเงียบและงุนงง พ่อบ้านก็รีบวิ่งพุ่งเข้ามาอีกรอบทันที“คุณท่านครับ คุณหลง! เฉียวเจิ้งหลงส่งพืชอายุวัฒนะร้อยปีเพื่อฉลองวันเกิดของคุณท่านครับ”ว้าว!ทุกคนใรงานต่างอ้าปากค้าง!สีหน้าทุกคนต่างตกตะลึง!คุณปู่หวังหันกลับมาช้าๆพร้อมสีหน้าแปลก ๆหวู่เต้าเหวินมาโดยไม่ได้รับเชิญก็ทำให้คุณปู่หวังประหลาดใจมากแล้ว หนำซ้ำตอนนี้เฉียวเจิ้งหลงก็มาโดยไม่ได้รับเชิญอีก นี่มันเกิดอะไรขึ้นหวังจินซานพูดด้วยเสียงทุ้มว่า “เรายังไม่ได้เชิญเขา มีใครเชิญมาไหมครับ?”หวังจินไห่และคนอื่น ๆ ต่างส่ายหัวทีละคน คุณปู่หวังขมวดคิ้วและพูดว่า “ในเมื่อแขกผู้มีเกียรติมาถึงประตู เราก็ต้องต้อนรับพวกเขา ไปทักทายพวกเขากับปู่หน่อยซิ”ขณะที่คุณปู่หวังเดินไปที่ทางเข้าห้องโถง เฉียวเจิ้งหลงก็เดินเข้ามาพอดีเฉียวเจิ้งหลงโบกมือให้คุณปู่หวังอย่างสบาย ๆ “คุณปู่หวังมีความสุขและมีอายุที่ยืนยาว ขอแสดงความยินดีด้วย”“ขอบคุณคุณหลงที่นี่นะครับ เชิญคุณหลงมานั่งที่โต๊ะหลักเถอะครับ”คุณปู่หวังกล่าวด้วยรอยยิ้มทั่วใบหน้าของเขาทว่าเฉียวเจิ้งหลงไม่ได้สนใจคำพูดของคุณปู่หวังเลย แต่กลับมองไปรอบ ๆ ราวกับกำลังมองหาบางสิ่งเมื่อมอ
คุณหลงจะคีบอาหารให้หลี่โม่?สมาชิกในตระกูลหวังต่างพากันปวดหัวและรู้สึกแย่ไปหมดเมื่อได้ยินคำพูดของเฉียวเจิ้งหลงนี่มันบ้ายิ่งกว่าให้หนูไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวของแมวเสียอีก!หลี่โม่มีสิทธิ์อะไร?เขาเป็นแค่คนไร้ประโยชน์ มีสิทธิ์อะไรที่จะให้คุณหลงคีบอาหารให้เขา!คนไร้ประโยชน์อย่างเขาจะได้รับเกียรติเช่นนี้ได้อย่างไร!แม้แต่คนทั้งกรุงโซลก็ไม่มีใครกล้าให้คุณปู่คีบอาหารให้!สมาชิกตระกูลหวังต่างว้าวุ่นและพวกเขาทั้งหมดต่างมองไปที่หลี่โม่ด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อแขกเหรื่อยิ่งตกใจมากอย่างอธิบายไม่ถูกพร้อมทั้งมองหลี่โม่ด้วยสายตาประหลาดใจ ทุกคนไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเขาคิดที่จะทำอะไรกันแน่“นี่มันมากเกินไปหรือเปล่า ว่ากันว่าหลี่โม่เป็นแมงดาเกาะผู้หญิงกินที่ไร้ประโยชน์ไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมคุณหลงและคุณเหวินถึงเคารพเขาขนาดนี้ล่ะ?”“มันคงเป็นเรื่องบังเอิญถ้าจะบอกว่ามีคนหนึ่งที่เคารพเขา แต่ทั้งคุณหลงและคุณเหวินต่างให้ความเคารพขนาดนี้ แสดงว่ามันต้องมีสาเหตุที่แท้จริง”“ทั้งคุณหลงและคุณเหวินต่างเรียกเขาว่าคุณชายหลี่ พวกคุณลองคิดดูสิว่าคนที่ให้ของขวัญวันเกิดสุดพิเศษเมื่อกี้นี้ก็คือคุณชายหลี่เช่นกัน เป็