“ฉันขอแนะนำให้แกทำตัวดี ๆ เข้าไว้จะดีกว่านะ นี่ไม่ใช่ที่ที่แกจะมาทำตัวยังไงก็ได้ตามอำเภอใจ ให้พวกเรากรอกไวน์ใส่ปากแกซะดี ๆ ไม่อย่างนั้นชีวิตแกลำบากแน่” จากนั้นหวังจงเฉิงก็ขู่ ความอดทนของหลี่โม่หมดลง ในขณะที่เขากำลังจะจัดการไอ้สองคนปากดีนั้นด้วยกำปั้น พ่อบ้านก็รีบเข้าไปในห้องโถงกลาง "คุณท่าน คุณเหวินมาแล้วครับ! หวู่เต้าเหวินอยู่ที่นี่แล้ว คุณเหวินส่งต้นศุภโชคคู่ทองและเงินมาให้หนึ่งคู่เพื่อแสดงความยินดีกับคุณปู่ในวันเกิด" งานเลี้ยงวันเกิดที่มีชีวิตชีวาและวุ่นวายไปด้วยเสียงแขกเหรื่อในงานก็เงียบลงในทันที! หลังจากเงียบไปสามวินาทีเสียงเอะอะก็ดังขึ้น ราวกับว่าตอนนี้มีคนกดปุ่มหยุดความเงียบไว้ชั่วคราว แขกทุกคนต่างตกใจกับการมาถึงของหวู่เต้าเหวิน และพวกเขาทั้งหมดก็เริ่มพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น"หวู่เต้าเหวิน คือบุคคลอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรมการจัดเลี้ยงในกรุงโซล คุณเหวินนั้นยอดเยี่ยมมาก" "ฉันได้ยินมาว่า คุณเหวินเป็นหนึ่งในสี่วีรบุรุษแห่งกรุงโซล ไม่เพียงแต่เขามีธุรกิจใหญ่โตเท่านั้น แต่เขามีอำนาจล้นฟ้าเลยแหละ" "มีงานเลี้ยงของบุคคลผู้ทรงอำนาจและผู้มั่งคั่งตั้งกี่งานที่จัดขึ้นในห้องโถงทา
คุณปู่หวังรู้สึกว้าวุ่นเล็กน้อยเพราะเขาเชิญหวู่เต้าเหวินมานั่งที่โต๊ะหลัก แต่หวู่เต้าเหวินไม่ตอบสนองเลย เห็นได้ชัดเลยว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะมาฉลองวันเกิด นอกจากนี้ท่าทางที่หวู่เต้าเหวินมองไปรอบ ๆ ราวกับว่าเขากำลังมองหาใครสักคน คุณปู่หวังคาดเดาในใจไปต่าง ๆ นานา ตามหาคู่อริอยู่หรือเปล่า? หรือกำลังมองหาเพื่อน? หรือว่าจะมาหา... ขณะที่คุณปู่หวังกำลังทำอะไรไม่ถูก หวู่เต้าเหวินก็เห็นหลี่โม่นั่งอยู่ที่มุม เมื่อเห็นร่างของหลี่โม่ รอยยิ้มอันอ่อนน้อมก็ฉายขึ้นบนใบหน้าของหวู่เต้าเหวิน เขาผลักหวังจินซานออกไปข้าง ๆ แล้วเดินไปหาหลี่โม่ “คุณเหวิน คุณกำลัง...” คุณปู่หวังเห็นว่าหวู่เต้าเหวินเดินจากไปแล้วหลังจากเพิ่งพูดได้ครึ่งประโยค ดังนั้นเขาจึงได้แต่พาลูก ๆ หลาน ๆ เดินไปเร็ว ๆ เพื่อให้ทันหวู่เต้าเหวิน ตระกูลหวังไม่สามารถที่จะล่วงเกินคนใหญ่คนโตคนนี้ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงระมัดระวังการกระทำเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเห็นว่าหวู่เต้าเหวินกำลังเดินไปหาหลี่โม่ คุณปู่หวังและคนอื่น ๆ ต่างก็เบิกตากว้างอย่างคิดไม่ออกว่าหวู่เต้าเหวินกำลังจะทำอะไร หวู่เต้าเหวินเดินตรงเข้าไปหาหลี่โม่แล้วยืนนิ่ง จากนั้นโ
ในขณะที่ทุกคนเงียบและงุนงง พ่อบ้านก็รีบวิ่งพุ่งเข้ามาอีกรอบทันที“คุณท่านครับ คุณหลง! เฉียวเจิ้งหลงส่งพืชอายุวัฒนะร้อยปีเพื่อฉลองวันเกิดของคุณท่านครับ”ว้าว!ทุกคนใรงานต่างอ้าปากค้าง!สีหน้าทุกคนต่างตกตะลึง!คุณปู่หวังหันกลับมาช้าๆพร้อมสีหน้าแปลก ๆหวู่เต้าเหวินมาโดยไม่ได้รับเชิญก็ทำให้คุณปู่หวังประหลาดใจมากแล้ว หนำซ้ำตอนนี้เฉียวเจิ้งหลงก็มาโดยไม่ได้รับเชิญอีก นี่มันเกิดอะไรขึ้นหวังจินซานพูดด้วยเสียงทุ้มว่า “เรายังไม่ได้เชิญเขา มีใครเชิญมาไหมครับ?”หวังจินไห่และคนอื่น ๆ ต่างส่ายหัวทีละคน คุณปู่หวังขมวดคิ้วและพูดว่า “ในเมื่อแขกผู้มีเกียรติมาถึงประตู เราก็ต้องต้อนรับพวกเขา ไปทักทายพวกเขากับปู่หน่อยซิ”ขณะที่คุณปู่หวังเดินไปที่ทางเข้าห้องโถง เฉียวเจิ้งหลงก็เดินเข้ามาพอดีเฉียวเจิ้งหลงโบกมือให้คุณปู่หวังอย่างสบาย ๆ “คุณปู่หวังมีความสุขและมีอายุที่ยืนยาว ขอแสดงความยินดีด้วย”“ขอบคุณคุณหลงที่นี่นะครับ เชิญคุณหลงมานั่งที่โต๊ะหลักเถอะครับ”คุณปู่หวังกล่าวด้วยรอยยิ้มทั่วใบหน้าของเขาทว่าเฉียวเจิ้งหลงไม่ได้สนใจคำพูดของคุณปู่หวังเลย แต่กลับมองไปรอบ ๆ ราวกับกำลังมองหาบางสิ่งเมื่อมอ
คุณหลงจะคีบอาหารให้หลี่โม่?สมาชิกในตระกูลหวังต่างพากันปวดหัวและรู้สึกแย่ไปหมดเมื่อได้ยินคำพูดของเฉียวเจิ้งหลงนี่มันบ้ายิ่งกว่าให้หนูไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวของแมวเสียอีก!หลี่โม่มีสิทธิ์อะไร?เขาเป็นแค่คนไร้ประโยชน์ มีสิทธิ์อะไรที่จะให้คุณหลงคีบอาหารให้เขา!คนไร้ประโยชน์อย่างเขาจะได้รับเกียรติเช่นนี้ได้อย่างไร!แม้แต่คนทั้งกรุงโซลก็ไม่มีใครกล้าให้คุณปู่คีบอาหารให้!สมาชิกตระกูลหวังต่างว้าวุ่นและพวกเขาทั้งหมดต่างมองไปที่หลี่โม่ด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อแขกเหรื่อยิ่งตกใจมากอย่างอธิบายไม่ถูกพร้อมทั้งมองหลี่โม่ด้วยสายตาประหลาดใจ ทุกคนไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเขาคิดที่จะทำอะไรกันแน่“นี่มันมากเกินไปหรือเปล่า ว่ากันว่าหลี่โม่เป็นแมงดาเกาะผู้หญิงกินที่ไร้ประโยชน์ไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมคุณหลงและคุณเหวินถึงเคารพเขาขนาดนี้ล่ะ?”“มันคงเป็นเรื่องบังเอิญถ้าจะบอกว่ามีคนหนึ่งที่เคารพเขา แต่ทั้งคุณหลงและคุณเหวินต่างให้ความเคารพขนาดนี้ แสดงว่ามันต้องมีสาเหตุที่แท้จริง”“ทั้งคุณหลงและคุณเหวินต่างเรียกเขาว่าคุณชายหลี่ พวกคุณลองคิดดูสิว่าคนที่ให้ของขวัญวันเกิดสุดพิเศษเมื่อกี้นี้ก็คือคุณชายหลี่เช่นกัน เป็
หวังฟางและกู้เจี้ยนหมินอยู่ข้างหลังสุด พวกเขาต่างหันไปมองหลี่โม่ซ้ำแล้วซ้ำแล้วอย่างกับเห็นผีหวังฟางรู้ดีว่าลูกเขยของตัวเองไร้ประโยชน์แค่ไหน แต่ทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าดูน่าอัศจรรย์มาก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!หลี่โม่ทำให้เฉียวเจิ้งหลงและหวู่เต้าเหวินเคารพขนาดนั้นได้อย่างไร!กู้หยุนหลานมองไปที่หลี่โม่ซึ่งกำลังจดจ่อกับการทานอาหารโดยไม่สนใจอะไร มีแสงแปลก ๆ ส่องประกายในดวงตาเธอความสงสัยก่อนหน้านี้หลายส่วนรวมกันอยู่ในใจของกู้หยุนหลาน และหลังจากรวบรวมแล้วเธอก็เกิดความสงสัยมากขึ้นหลี่โม่เป็นใครกันแน่?ก่อนที่กู้หยุนหลานจะคิดออก ชูจงเทียนก็ได้เข้ามาในห้องโถงกลางแล้ว“คุณปู่หวัง ดูเหมือนคุณยังแข็งแรงดีอยู่เลยนะครับ ผมขออวยพรให้คุณมีอายุยืนยาวและสมดั่งปรารถนา”ชูจงเทียนโค้งไหว้พร้อมกล่าวคำอวยพรวันเกิดแล้วเริ่มมองไปรอบ ๆลูกน้องสองคนตาเฉียบคมที่ติดตามชูจงเทียนเห็นร่างของหลี่โม่ทันทีและกระซิบว่า “เทียนเย่ คุณชายหลี่อยู่ตรงนั้นครับ”เมื่อชูจงเทียนเห็นร่างของหลี่โม่ รอยยิ้มที่แสดงความเคารพหลี่โม่ก็ปรากฏบนใบหน้า“คุณเทียนเย่ เชิญมานั่งที่โต๊ะหลักเลยครับ”คุณปู่หวังพูดซ้ำหลายครั้งด้วยความ
แขกเงียบไปครู่หนึ่งและทุกคนมองไปที่หวังจงเหิงด้วยสายตาที่โง่เขลาเรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว หวังจงเหิงผู้นี้ยังกล้าไปหาเรื่องกับหลี่โม่ นี่มันรนหาที่ตายชัด ๆ !ในใจของหวังจงเหิงมีแต่ความเกลียดชังและความเกลียดชังที่ไม่มีที่สิ้นสุดต่อหลี่โม่หากไม่สามารถทำลายภาพลักษณ์ของหลี่โม่ได้ หวังจงเหิงเข้าใจดีว่าสถานะของตัวเองจะลดลงอย่างมากนี่เป็นเรื่องหลอกลวงทั้งสิ้น!หลี่โม่เป็นคนขอให้ชูจงเทียนและคนอื่นๆ มาแสดง!ปีศาจตัวน้อยในใจของหวังจงเหิงกำลังคำรามในขณะนี้ หวังจงเหิงคิดว่าตัวเองเป็นนักสู้ที่กล้าหาญและกำลังจะเปิดเผยตัวตนที่น่าเกลียดของปีศาจและกลายเป็นฮีโร่ที่ทุกคนชื่นชมทว่าในวินาทีถัดมา ลูกน้องของชูจงเทียนก็ตบหน้าหวังจงเหิงอย่างดุเดือด“เพียะ!”ตบจนหูแทบดับ หลังจากที่ตบหน้ามือแล้วตามด้วยหลังมือ แก้มทั้งสองข้างของหวังจงเหิงพองขึ้นทันที“แล้วแกมันตัวอะไร ถึงกล้าตะโกนใส่หน้าคุณชายหลี่แบบนี้!”ลูกน้องด่าเสียงดังเจ็บแสบแก้วหูในใจของหวังจงเหิงมีเสียงน้ำแข็งแตกเป็นเสี่ยง ๆ และความฝันที่จะเป็นฮีโร่ในก่อนหน้านี้ก็หายวับไปในทันทีการตบหูดับทำให้จินตนาการของหวังจงเหิงแตกสลายและทำให้หวังจงเหิง
คุณปู่หวังเดินไปหาหลี่โม่อย่างตัวสั่น หวังจินชานและคนอื่น ๆ ก็เดินตามไป“ในเมื่อเทียนเย่ คุณหลงและคุณเหวินต่างก็นั่งอยู่ที่โต๊ะนี้ คนแก่อย่างผมคงจะต้องนั่งเป็นคนสุดท้าย”คุณปู่หวังรู้ดีแก่ใจ ในเมื่อชูจงเทียนและคนอื่น ๆ มาที่นี่เพื่อหลี่โม่และคิดว่าที่ที่หลี่โม่นั่งอยู่คือโต๊ะหลัก ถ้าอย่างนั้นคุณปู่หวังจึงไม่กล้าขอนั่งที่โต๊ะหลักตามสัญชาตญาณและยอมเป็นผู้น้อยที่นั่งสุดท้ายถ้าหากเปลี่ยนเป็นได้พบกับชูจงเทียนและอีกสองคนในโอกาสอื่น คุณปู่หวังจะไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะนั่งในที่นั่งสุดท้ายด้วยซ้ำคุณปู่หวังดึงเก้าอี้ออกมาและนั่งลงแต่โดยดี เขามองไปที่ชูจงเทียนและอีกทั้งสองด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า เขาต้องแสดงสีหน้าที่ดีต่อหน้าหลี่โม่ แต่คุณปู่หวังยังคงไม่สามารถระงับใบหน้านั้นไว้ได้ชั่วขณะหนึ่งชูจงเทียนทั้งสามคนไม่ได้สนใจคุณปู่หวังเลยเพราะความสนใจพุ่งไปที่หลี่โม่หมดแล้วหลี่โม่รู้สึกทำตัวไม่ถูกมากที่ถูกชูจงเทียนทั้งสามคนเฝ้ามอง บวกกับความจริงที่ว่าทุกคนในตระกูลหวังต่างจ้องมองเขาโดยยืนอยู่ข้างหลังคุณปู่หวัง ซึ่งให้หลี่โม่ไม่มีอารมณ์ที่จะทานอีกแล้ว“ผมรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย หยุนหลานและผมขอตัวกลับก่
เมื่อเห็นท่าทางที่จริงจังของกู้หยุนหลาน หลี่โม่ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งและกำลังจะเล่าเรื่องทั้งหมดทันใดนั้น!จู่ ๆ ก็มีรถโรลส์-รอยซ์ แฟนธอมจอดข้าง ๆ ทั้งสองคน เฉียนฝูเปิดประตูและลงมาจากรถเฉียนฝูมองไปที่หลี่โม่พร้อมรอยยิ้มแล้วเดินไปข้าง ๆ ทั้งสองคน “คุณชายหลี่ครับ ขอบคุณคุณชายหลี่ที่ช่วยเหลือในครั้งก่อนที่ทำให้ผมทำงานได้เสร็จไวมาก ผมได้ยินมาว่าคุณชายหลีมาร่วมงานวันเกิดของคุณปู่หวัง ผมเลยตัดสินใจเตรียมของเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้”กู้หยุนหลานมองไปที่เฉียนฝูอย่างสงสัย จากนั้นมองไปที่หลี่โม่และถามอย่างสงสัย “คุณเตรียมอะไรไว้เหรอคะ?”“ผมช่วยคุณชายหลี่จัดเตรียมของขวัญวันเกิดให้คุณปู่หวัง แต่ผมก็ไม่รู้ความตั้งใจของคุณชายหลี่ ผมก็เลยไม่ได้ลงนามคุณชายหลี่ไป และลงนามไปแค่ว่าเป็นคุณชายหลี่”“ที่สำคัญชูจงเทียน เฉียวเจิ้งหลงและหวู่เต้าเหวินต่างก็เป็นเพื่อนของผม ผมเลยเชิญให้พวกเขามาช่วยสนับสนุนและทำให้บรรยากาศดีขึ้น ไม่ทราบว่าคุณชายหลี่พอใจกับการจัดเตรียมของผมไหมครับ?”คำพูดของเฉียนฝูเป็นตุเป็นตะ กู้หยุนหลานเกือบจะเชื่อในสิ่งที่เฉียนฝูพูดแล้วแต่เมื่อนึกถึงของขวัญวันเกิดสุดพิเศษที่ลงนามโดยคุณชายหลี่