“กลับมาหาเดี๋ยวนี้นะ ฉันบอกให้กลับมา” เพราะปากหนักไม่เคยเอ่ยขอโทษใครง่ายๆ นั่นทำให้เอวาไม่ยอมพูดคำที่เธอควรจะพูดออกไปในเวลานี้มากที่สุด เอาแต่ตะโกนเรียกให้ปรวีณ์กลับไปหา แต่เขาก็ไม่เหลียวแลสักนิด ยิ่งเป็นแบบนี้ก็ยิ่งโกรธจนเลือดขึ้นหน้า“บอกให้กลับมาไง ไอ้โง่ คนอย่างแกน่ะหรือจะหาใครได้ดีกว่าฉัน อยากไปก็ไปเลย ไป!” แม้จะอยู่ในรถ แต่ปรวีณ์ก็ได้ยินประโยคนี้ชัดเจนเต็มสองหู เขาเพ่งมองเอวาผ่านหน้ารถด้วยแววตาไม่พอใจ ก่อนจะขับออกไปอย่างเร็วเมื่ออยู่ตามลำพังแทนที่จะสงบสติอารมณ์ เอวากลับทำลายข้าวของในห้องพักภายในคอนโดมิเนียมของปรวีณ์จนหลายอย่างพังไปกับมือ สลับกรี๊ดเสียงดังลั่น ก่อนจะมานั่งกำมือแน่นอยู่บนโซฟา“แล้วเราจะได้เห็นดีกัน” คนอย่างเอวาไม่เคยถูกใครทิ้ง ต่อให้เธอจะเป็นคนเริ่มก่อนก็ตามที ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นและต้องการเอาชนะ ไม่ว่ายังไงเธอต้องควงธาวินให้เร็วที่สุด หนึ่งเพื่อทำให้ปรวีณ์เจ็บที่กล้าทิ้งเธอไปแบบนี้ สองคือทำให้วันเมษาอริหมายเลยหนึ่งของเธอเจ็บ งานนี้มีแต่เธอเท่านั้นที่ได้กับได้ แต่ทำไมการเลิ
“ไม่เป็นไรค่ะ”“พี่ทำตัวบ้าๆ แบบนี้ได้ยังไงกัน เอาเป็นว่าเราสองคนกลับไปเป็นพี่เป็นน้องกันอย่างแต่ก่อนคงเข้าท่ากว่าเป็นไหนๆ”“ใช่ค่ะ” วันเมษายิ้มออก เมื่อเห็นปรวีณ์ยิ้มได้“แล้วนี่ษาจะแต่งตัวไปไหน ให้พี่ไปส่งไหม”“คงไม่ต้องครับ” ธาวินยอมเสียมารยาทเอ่ยแทรกขึ้น มีหรือที่เขาจะจำปรวีณ์ไม่ได้ เพราะนี่คือรักครั้งก่อนของวันเมษา แต่รักครั้งก่อนหรือจะสู้รักปัจจุบันและอนาคตอย่างเขา“คุณวิน” วันเมษาหันขวับไปมองชายหนุ่ม เขามายืนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เห็นฉากที่เธอถูกปรวีณ์รั้งตัวไปกอดหรือเปล่าก็ไม่รู้“สวัสดีครับ ผมธาวิน คนรักของคุณษา”“ปรวีณ์ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” ปรวีณ์เอ่ยแนะนำตัวเองบ้าง ก่อนจะพินิจมองชายหนุ่มตรงหน้าที่เขาพูดอย่างไม่อ้อมค้อมว่าเป็นคนรักของวันเมษา ที่สำคัญวันเมษาเองก็ไม่ได้แสดงท่าทีปฏิเสธแม้แต่น้อย แสดงว่าธาวินพูดเรื่องจริง“เอ่อ&helli
“อ้าววิน ลมอะไรหอบมาถึงที่นี่ได้ ปรกติเห็นแต่โทรมาสั่งเค้กให้สาว” ลินินเอ่ยถามลูกพี่ลูกน้อง โดยลืมสังเกตไปว่าตอนนี้ธาวินไม่ได้นั่งอยู่คนเดียว ข้างๆ กลับมีสาวร่างเล็กนั่งอยู่ด้วย แต่เพราะธาวินตัวค่อนข้างโตจึงนั่งบังเธอเสียจนมิด“ลิน” ธาวินหันขวับไปมองลินินเช่นกัน ร้อยวันพันปีลินินไม่เคยจะเข้ามาที่นี่ เพราะจะสิงสถิตอยู่อีกสาขาเสียมากกว่า แต่ทำไม๊ ทำไมวันนี้เขาถึงแจ็กพอตแตก มาเจอเสียได้ แถมยังเอ่ยทักประโยคที่ทำให้วันเมษาคิ้วขมวดรอฟังเฉลย“อุ๊ย! ขอโทษ นึกว่ามาคนเดียว”“พี่ษาครับ นี่ลินลูกพี่ลูกน้องผมเอง” ไหนๆ ก็เจอกันแล้ว ธาวินจึงแนะนำให้ทั้งสองสาวรู้จักกันเสียเลย“สวัสดีค่ะ” วันเมษาส่งยิ้มให้ลินิน พร้อมกับเอ่ยทักทาย“สวัสดีค่ะ คนนี้เหรอวิน น่ารักดีออก ไม่บอกไม่รู้ว่าอายุมากกว่า” ลินินส่งยิ้มกลับมาให้วันเมษาเช่นเดียวกัน เพราะธาวินไม่เคยโทรมาสั่งเค้กสักครั้ง แต่อยู่ๆ ก็สั่งแล้วให้ไปส่งที่ออฟฟิศแห่งหนึ่ง เธอจึงไล่บี
“ผมธามครับ เป็นเพื่อนสนิทของวิน” ธามเอ่ยแนะนำตัวเอง ก่อนจะพินิจมองหน้าวันเมษาอย่างสนใจ“ษาค่ะ…เชิญคุณธามเข้ามาก่อนสิคะ” ขณะเอ่ยก็เปิดประตูรั้วให้แขกของธาวิน“ขอบคุณครับ” เสียงทุ้มเอ่ยรับ ก่อนที่ธามจะแทรกตัวเข้าไปในบ้าน แล้วเดินตามผู้หญิงตัวเล็กๆ เข้าไปภายในเมื่อก้าวเข้ามาในห้องรับแขก ก็เห็นธาวินนอนอยู่บนโซฟาตัวยาว ท่าทางสบายๆ ของเพื่อนสนิท ทำให้ธามหมั่นไส้ นี่สรุปไม่ทุกข์ไม่ร้อนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาเลยใช่ไหม“ตามสบายครับคุณษา เพราะปรกติผมก็เข้านอกออกในที่นี่บ่อยๆ” ธามเอ่ยเสียงดังฟังชัด ชัดชนิดที่ว่าทำให้คนหลับตื่นได้“บ่อยๆ”“ครับ…เพราะผมกับวิน เราสนิทกันมาก นอนด้วยกันตลอด” ขณะพูดก็หันไปมองธาวิน“นอนด้วยกันตลอด” วันเมษาอุทานออกมาเบาๆ หรือสิ่งที่เธอคิดจะเป็นจริง ธาวินเป็นเกย์และธามก็คือคนรักของเขา สวรรค์ทรงโปรด กรุณาประทานความจริงให้เธอที
“สรุปเอ็งเอาไง หนีไปบวชมันเลยไหม”“ความคิดเอ็งเข้าท่าว่ะ”“อย่าเลย เดี๋ยวผ้าเหลืองร้อน” ธาวินส่ายหน้าให้ เพราะดูท่าธามจะเอาจริง เป็นหนุ่มนักธุรกิจมาแรง ที่ใครๆ ต่างจับตามอง แต่กลับมาหมดท่าเพราะเรื่องที่ตัวเองสร้างขึ้นเสียได้“งั้นข้าขอยืมตัวคุณษาสักวันได้ไหม”“ยืมตัวคุณษา ยืมไปทำไม”“ยืมไปแสดงตัวว่าเป็นแฟนข้าหน่อย ดาริณจะได้เลิกคิดจะกลับมา แม่ข้าก็จะได้เลิกจับคู่ข้ากับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้สักที”“ไม่ได้”“เฮ้ย! นี่เอ็งตอบแบบไม่คิดเลยเหรอวะ เพื่อนรักเดือดร้อนมาก บากหน้ามาหาที่พึ่งทั้งที”“เอ็งเลิกคิดใช้แผนนี้ไปได้เลย คุณษาเสียชื่อเสียงหมด” ต่อให้ธามลงไปนั่งคุกเข่าร้องขอ ธาวินก็ยังคงตอบเหมือนเดิม ว่าไม่“หวงหรือไง”“ใช่…หวงมาก” สองหนุ่มสบตากันนิ่งๆ&ld
“รู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังทำหรือพูดอะไรออกมา”“รู้ค่ะ แล้วหมอรู้ตัวไหมว่าทำให้เอวาคลั่ง” เมื่อบังคับให้เขาสัมผัสกับหน้าอกตัวเองไม่สำเร็จ เอวาก็พยายามจูบธาวินอีกครั้ง เพราะไม่ว่ายังไงเขาต้องยอมใจอ่อนสักอย่างสิ ยื้อกันไปยื้อกันมา ตอนนี้เอวาแทบจะขึ้นมานั่งคร่อมอยู่บนตัวของธาวิน“ต่อให้หมอกำลังคบกับยัยษาอยู่ แต่เอวาก็ใจกว้างพอที่จะไม่สนใจเรื่องเล็กน้อยแค่นั้น ขอแค่หมอเปิดใจให้เอวาบ้าง เราไม่ต้องเจอกันทุกวัน ขอแค่วันหยุดสักวันก็พอ เอวาขอแค่นั้นจริงๆ นะคะ” คำร้องขอที่ฟังดูน่าสงสารถูกเอ่ยมาจากริมฝีปากอิ่มที่เคลือบด้วยลิปสติกสีสวย แต่มันกลับไม่เป็นผล“แต่ผมไม่ต้องการ”“หมอคะ ตอนนี้เอวาโสด รับรองว่าเอวาจะไม่ทำให้หมอต้องเสียใจแน่ นะคะ มาคบกับเอวาเถอะ”“ไม่…ปล่อยผม”“ทำไมคะหมอ เอวาไม่ดีตรงไหน ทำไมถึงสู้ยัยษานั่นไม่ได้” ขณะพูดเอวาก็พยายามเข้าหาธาวินแต่ก็ถูกเขาผลักออก“คุณก็น่
“พี่ษาครับ” เสียงแหบพร่าของธาวินเอ่ยชิดใบหูเล็กๆ ของคนบนตัก ก่อนจะงับเล่นเบาๆ สร้างความเสียวซ่านให้วันเมษาจนต้องส่งเสียงครางออกมา อารมณ์ปรารถนาในร่างกายของเธอลุกโชนจนไม่อาจดับมอดได้หากธาวินไม่ช่วย“พี่วินขา ษา…” วันเมษารู้สึกอายที่จะเอ่ยว่าเธอนั้นต้องการเขา แต่ถึงจะไม่พูดธาวินก็เดาใจเธอออก“ต้องการผมหรือเปล่า” น้ำเสียงของธาวินฟังดูเซ็กซี่เหลือเกิน ไหนจะแววตาที่ดูหยาดเยิ้มเชิญชวนนี่อีก ทำเอาวันเมษาสั่นสะท้าน“อื้อ…ตะ…ต้องการ” น้ำเสียงกระท่อนกระแท่นของคนบนตักเอ่ยตอบธาวินจึงรีบปลดเข็มขัด ตามด้วยกระดุมกางเกง ขยับสะโพกเพื่อร่นกางเกงให้ลงต่ำอีกหน่อย นั่นก็เพียงพอให้บางสิ่งบางอย่าง ซึ่งตอนนี้กำลังตื่นตัวผงาดออกจากอันเดอร์แวร์สีขาวที่แสนจะอึดอัดธาวินใช้ปลายนิ้วเกี่ยวขอบบิกินี่ตัวน้อยของวันเมษาเพื่อเปิดทางสำหรับบางสิ่งบางอย่าง ขณะที่ส่งอีกนิ้วเข้าไปสำรวจความพร้อม นั่นทำให้เธอครางออกมาอีกครั้ง ก่อนจะขบเม้มริมฝีปากอย่างทรมาน ใจก็เต้นโครมคราม รอสิ่งท
“ยัยษา แกเป็นบ้าไปแล้วเหรอ”“สมัยนี้ตรวจดีเอ็นเอว่าใครคือพ่อง่ายจะตายไป ไม่ต้องรอให้คลอดด้วยซ้ำ ถ้าเธอมั่นใจว่าท้องกับหมอวินจริงๆ ก็เอาผลตรวจดีเอ็นเอมาพิสูจน์ ฉันจะได้ไม่คิดว่าเธอมโนเอาเอง” วันเมษาเชื่อใจธาวิน ว่าเขาไม่ใช่คนแบบนี้แน่ๆ และเธอก็ไม่ใช่นางเอกน้ำเน่า ที่พอได้ยินว่านางร้ายท้องกับพระเอกแล้วจะต้องน้ำตาตก เธอยอมยกปรวีณ์ให้เอวาไปครั้งนั้นแค่ครั้งเดียวพอแล้ว จะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นกับธาวินอีกแน่“ได้…แล้วเราจะได้เห็นดีกัน” เอวาเอ่ยขึ้นก่อนจะลุกออกไป ค่อยนัดวันเมษาออกมาพบเป็นการส่วนตัวอีกครั้ง เพราะตอนนี้ข้างกายเธอมีทั้งเก๋ไก๋และเฟื่องรัตน์อยู่ แผนเธอไม่สำเร็จง่ายๆ แน่“พูดอะไรออกไปน่ะยัยษา นี่แกรักหมอวินจนสมองกลับแล้วหรือไง”เฟื่องรัตน์ที่ดูเหมือนจะเชื่อเรื่องนี้เกินห้าสิบเปอร์เซ็นต์เอ่ยขึ้น คิดแล้วก็น่าผิดหวัง เธอไม่น่าหลงชื่นชมธาวินเลยให้ตาย“ใจเย็นๆ ยัยเฟื่อง รอบเดือนแกหมดไปแล้วนี่ ทำไมอารมณ์ร้อนจัง หา” เก๋ไก๋เอ่ยปราม
“ผมขอโทษนะครับ ที่ไม่สามารถพาพี่ษาไปที่ที่มันโรแมนติกกว่าชั้นดาดฟ้าของโรงพยาบาล”“ไม่เป็นไรค่ะ ที่ไหนก็ไม่สำคัญถ้าไม่มีพี่วินอยู่ด้วย”“ไว้ผมจะชดเชยให้ทีหลังนะครับ”“ค่ะ” วันเมษายิ้มเขินนาฬิกาจอยักษ์ของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง โชว์เวลาอยู่ไกลๆ เสียงนับถอยหลังดังผ่านลำโพงขนาดใหญ่ให้ได้ยินแว่วๆ แต่ก็พอจะจับใจความได้ กระทั่งเสียงห้า สี่ สาม สองและหนึ่งดังขึ้น ตามด้วยเสียงพลุที่พร้อมใจกันจุดขึ้นบนท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างสวยงามตระการตาแต่วันเมษามีเวลาได้ชื่นชมความสวยงามของพลุ ได้เพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น เพราะตอนนี้เธอกำลังหลับตาพริ้มรับจูบที่แสนอ่อนหวานจากธาวิน ในที่สุดจูบที่เธอปรารถนาในคืนเคาท์ดาวน์ก็เป็นจริง“สวัสดีปีใหม่ครับพี่ษา”“สวัสดีปีใหม่ค่ะพี่วิน” ทั้งคู่ยิ้มให้กัน ก่อนที่ธาวินจะโน้มตัวลงมาจูบวันเมษาอีกครั้งซึ่งเธอก็เขย่งปลายเท้าจูบเขากลับไปเช่นเดียวกัน จูบจากความรักจึงแสนหอมหวานแล
วันเมษาบอกพี่ชายว่าเธอจะกลับมาช่วยงานที่โรงแรม ซึ่งวันธันวาก็ไม่ได้คัดค้าน ดีเสียอีกหลังจากนี้เขาจะได้แบกเป้ขึ้นหลัง ออกเที่ยวรอบโลก ทำตามความฝันดูสักตั้งเพราะชายอันเป็นที่รัก อยู่ใกล้แค่รั้วกั้น ทำให้นาราชาแทบกินไม่ได้ นอนไม่หลับ วันๆ ได้แต่ตามส่องธาม หลบตามเสาบ้าง หลบตามผ้าม่านบ้าง พฤติกรรมชวนหลอนของเธอพลอยทำให้ธามรู้สึกเสียวสันหลังแปลกๆ แต่ใช่ว่าธามเท่านั้นที่รู้สึก สองสาวฝาแฝดเองก็รู้สึกไม่น้อย“แกจะหลบตามมุม ตามหลืบในบ้านฉันอีกนานไหมยัยจิ้ง” พระเพื่อนเอ่ยถามขึ้น“ถ้าไม่หลบ คุณธามก็ต้องเห็นฉันน่ะสิ”“เห็นก็เห็นไปสิ ไม่เห็นแปลกเลย” พระแพงมาเป็นลูกคู่ให้แฝดผู้พี่“ไม่เอาหรอก เดี๋ยวเขารู้ว่าฉันแอบชอบเขาอยู่” ขณะพูดก็ยังไม่วายชะเง้อคอยาวออกไปยังบ้านหลังที่อยู่ติดกัน“โอ๊ย! ถ้ารู้นะ ป่านนี้รู้ไปตั้งนานแล้ว แกไม่ใช่จะพึ่งชอบเขาเสียหน่อย ชอบมาเป็นปีๆ ไม่สิ นี่เข้าปีที่สามแล้วนะ”“ใช่” คราวนี้พระเพื่อนเปลี่ยนมาเป็นลูกคู่ให้น้องสาวบ้าง“แอบช
“ครับ” เสียงทุ้มน่าฟังเอ่ยรับ ก่อนจะเดินตามแม่เลี้ยงดุจดาวเข้าไปภายในบ้านส่วนพ่อเลี้ยงกำธรนั้นก็ยังคงนั่งนิ่ง ไม่ยอมสนทนากับธาวินสักเท่าไหร่นัก หนำซ้ำบางครั้งยังหันมาจ้องราวกับจับผิด“คบหากันตั้งแต่เมื่อไหร่”“ประมาณครึ่งปีครับ”“ทำงานอะไร หน้าอ่อนๆ แบบนี้คงยังเรียนหนังสืออยู่มั้ง” ขณะถาม พ่อเลี้ยงกำธรก็สบตาธาวินมาตรงๆ ซึ่งชายหนุ่มเองก็ไม่ได้หลบสายตาแต่อย่างใด“ผมเป็นหมอครับ ปีนี้อายุยี่สิบเก้า” คำตอบที่ได้ยิน ทำให้คนฟังพอใจอยู่ไม่น้อย แต่ก็จะติก็แค่เรื่องอายุของธาวินที่น้อยกว่าวันเมษาบุตรสาวอยู่หลายปี“แต่ลูกสาวฉันปีนี้สามสิบสาม อายุห่างกันแบบนี้ไม่กลัวคนอื่นนินทา ว่าคบผู้หญิงแก่หรือไง” ประโยคนี้ดังไปถึงหูคนที่อายุสามสิบสามเข้าอย่างจังวันเมษาหน้ายู่ พ่อนะพ่อ เผาเธอซะได้“ไม่กลัวครับ”“อืม…แล้วนี่พ่อแม่ล่ะทำอะไร เป็นหมอเหมือนกันไหม”“ท่านสองคนเสียไปแล้วครับ”“มีพี่น้องกี่คน” คนถามยังคงยิงคำ
“บุกยังไงเพื่อน ขืนสุ่มสี่สุ่มห้า ให้ยัยจิ้งเข้าไปหาตอนนี้ มีหวังเขาได้ตอกหน้าหงายกลับมาน่ะสิ แถมนี่กำลังจะแต่งงานด้วย ขืนโผล่หน้าไปสารภาพรัก มีหวังได้หัวเราะเยาะเอา ดีไม่ดีว่าที่ภรรยาเขาได้จ้างคนมาตบ โทษฐานไปสร้างความรำคาญกับว่าที่สามีสุดหล่อ” คำพูดของพระแพงที่พอจะเดาความคิดของแฝดผู้พี่ออกนั้น ทำเอาคนฟังถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่“คิดแล้วก็กลับไปซดน้ำใบบัวบกแก้ช้ำในแป๊บ” นาราชาคอตก รู้สึกเศร้าใจกับความรักที่ไม่อาจสมหวังได้ของตน“อย่าพึ่งถอยสิแก” พระเพื่อนตบบ่าเล็กๆ ของนาราชาเบาๆ“ไม่ถอยได้ยังไง มองมุมไหน ฉันก็คงไม่สมหวังหรอก อกหักรักคุดต่อไปยัยจิ้งเอ๊ย”“เอาน่ะ ถ้าเป็นฉันนะ จะใช้เวลาที่เหลือก่อนที่คุณธามจะแต่งงานให้คุ้มค่าที่สุด เก็บเกี่ยวความสุขไว้ เพื่อรักษาแผลใจตอนเขาไม่โสดแล้ว” ฟังแบบนี้ใจของนาราชาก็ชื้นขึ้นมาได้หน่อย ก่อนจะดีดนิ้วราวกับคิดแผนอะไรดีๆ ออก“แกคิดแผนอะไรดีๆ ออกแล้วงั้นเหรอจิ้ง”“ต
วันเมษายื่นเรื่องขอลาออก พอเอาเข้าจริงเธอก็แอบใจหายอยู่ไม่น้อยที่ต้องกลับไปช่วยงานครอบครัวเช่นนี้ยังดีที่คนรักหนุ่มเข้าใจ ซึ่งก่อนที่ธาวินจะขึ้นไปเชียงใหม่เพื่อพาวันเมษาไปพบกับย่า ญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ รวมทั้งวันเมษาเองก็จะพาเขาไปพบครอบครัวของเธอด้วยเช่นเดียวกันนั้นแต่ก่อนอื่น เธอก็นัดหมายให้ธาวินได้พบกับเก๋ไก๋และเฟื่องรัตน์อย่างเป็นทางการ เพื่อแนะนำชายหนุ่มให้เพื่อนสนิททั้งสองได้รู้จักในฐานะคนรู้ใจ เพราะก่อนหน้านี้ ธาวินเองก็ได้พาเธอไปเปิดตัวกลับกลุ่มเพื่อนสนิทของเขามาแล้ว ซึ่งหนึ่งในนั้นคือธาม คนที่เคยไปหาธาวินที่บ้านยามที่วันเมษาและธาวินพูดคุยกันนั้น สรรพนามที่พวกเขาเอ่ยเรียกอีกฝ่ายที่แสนจะน่ารัก ก็ทำเอาหนึ่งสาวแท้และหนึ่งสาวเทียมแอบอิจฉาแรง“พอมานั่งแนะนำตัวแบบนี้ ก็เขินเหมือนกันนะครับ” เสียงทุ้มของธาวินเอ่ยขึ้น เมื่อวันเมษาเอ่ยแนะนำเขาต่อหน้าเก๋ไก๋และเฟื่องรัตน์ว่าแฟน“เขินแล้วคุณหมอน่ารักออก รู้งี้จีบซะก็ดี” เก๋ไก๋เท้าคางเอ่ยขึ้น ขณะที่จงใจส่งสายตาโลมเลียม
เมื่อซื้อของเสร็จ ปรวีณ์ก็ตรงกลับบ้านทันที เสียงรถที่ได้ยิน ทำให้เอวารีบวางแก้วนมที่ดื่มไปได้เพียงครึ่งแก้วลงกับโต๊ะ ตรงหน้าคืออาการเช้าที่เธอฝืนกินไปได้เกือบหมด ก่อนจะลนลานหาทางทำลายหลักฐาน เพราะไม่อยากให้ปรวีณ์ได้ใจ หากรู้ว่าเธอดื่มนมและกินอาหารที่เขาเตรียมไว้ให้จังหวะที่เขาก้าวเข้ามาในห้องครัว เอวาก็จงใจเทนมลงในอ่างล้างจาน อาหารที่เหลือก็เทใส่ถังขยะ แล้วแสร้งทำท่าทางใช้กำปั้นทุบหน้าท้องตัวเอง“ทำอะไรน่ะเอวา” ปรวีณ์รีบเข้ามาห้ามเอวาทันที“รำคาญ เบื่อ ทำอะไรก็ไม่ได้ กินอะไรก็ไม่ได้ หรือต่อให้กินได้ก็อ้วกออกมาหมด เอวาไม่ชอบที่ต้องท้อง ไม่อยากท้อง ไม่อยากมีลูกเข้าใจไหม” ใช่ว่าเอวาอยากหงุดหงิดแบบนี้ แต่เพราะอะไรๆ หลายอย่างกำลังเปลี่ยน ไหนจะเรื่องงานที่คงต้องหยุดยาว ไหนจะรูปร่างที่คงต้องอ้วนกว่าที่เป็นอยู่ เธอจึงยังตั้งรับไม่ทัน“แต่เราทำให้เขาเกิดมาแล้ว” ชายหนุ่มพยายามข่มความไม่พอใจเอาไว้“เกิดแล้วไง เอวาไม่อยากได้ คลอดเมื่อไหร่ เราต่างคนต่างอยู่
“อื้อ” รับปากเสร็จก็ดีดตัวลงจากเตียงนอนอย่างว่องไว ก่อนจะหายเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อล้างหน้าแปรงฟันเมื่อครู่ธาวินมาซะใกล้ ไม่รู้ได้กลิ่นปากเธอหรือเปล่า ว่าแล้วก็หยิบน้ำยาล้างปากขึ้นมากลั้วปากเพื่อเพิ่มความสดชื่นหลังแปรงฟันเสียหน่อย ก่อนจะแง้มประตูห้องน้ำ ก็สบตาเข้ากับธาวินที่นั่งหล่ออยู่บนเตียงนอนพอดีมองมุมไหนธาวินก็ดูดี ไม่รู้มาตกถึงท้องเธอได้ยังไง สงสัยเพราะพรหมลิขิต มั้ง!“มองผมแบบนี้ มีอะไรหรือเปล่าครับพี่ษา” ขณะเอ่ยถามก็เดินตรงมาหาคนตัวเล็ก วันนี้เป็นวันหยุด เธอจึงสวมแค่เสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้น ทำให้ธาวินได้เห็นอีกมุมของวันเมษา“แค่สงสัยว่าเรารักกันได้ยังไง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้า เราแทบไม่รู้จักกันเลย”“ต้องยกความดีให้คัพเล็กๆ ตรงนี้” ธาวินชี้นิ้วมายังหน้าอกของวันเมษา เธอจึงแยกเขี้ยวกลับไปให้“หมอทะลึ่ง”“หืมม์…เอ่ยคำต้องห้ามนะครับ”“ตั้งใจพูด เพร
เริ่มจากเสื้อตัวบนของเธอ ตอนนี้ถูกธาวินถอดออกไปแล้ว ตามด้วยกางเกงยีนส์สีเข้มที่เขาร่นลงไปกองไว้ตรงข้อเท้า ทำให้ตอนนี้บนตัวของวันเมษาเหลือแค่ชุดชั้นในสีขาว เข้าชุดกันเพียงสองชิ้นเท่านั้นธาวินไล้จูบคนรักสาวตั้งแต่ใบหน้า ลากสัมผัสกึ่งจมูกกึ่งปากร้อนๆ มาตามผิวขาวลออตาและหอมกรุ่นจนถึงลำคอ เนินอกคู่สวยที่ยังคงถูกปกป้องจากบราเซียร์ตัวจิ๋ว วันเมษาหายใจสะท้านยามที่ธาวินสัมผัสร่างกาย ก่อนจะอายเป็นทวีคูณเมื่อมองเห็นตัวเองผ่านกระจก แต่ไม่นานสติก็หลุดลอยจากสัมผัสของชายหนุ่มอีกครั้ง“พี่ษาของผม หอมไปทั่วตัว” คำชมของธาวินช่างแผ่วเบา แต่ทว่ากลับทำให้ร่างกายของวันเมษาตื่นตัว ก่อนจะสะดุ้งเมื่อรับรู้ว่าตอนนี้ธาวินกำลังใช้มืออีกข้างสัมผัสจุดกึ่งกลางลำตัวของเธอ“พี่วิน” วันเมษาเอ่ยเรียกชายหนุ่มเสียงแหบพร่า อารมณ์ปรารถนาเธอถูกปลุกปั่นจนลุกโชน ทำให้ทรมานเพราะต้องการให้เขาช่วยปลดปล่อย“ครับ” ขณะขานรับ ใบหน้าของธาวินอยู่ห่างจากหน้าอกของวันเมษาเพียงนิดเดียว ก่อนจะเอื้อมมือไปปลดตะขอ นั่นทำให้บราเซ
ใกล้จะถึงเที่ยงคืน ธาวินก็ขับรถไปส่งวันเมษาถึงที่บ้าน เจ้าบ้านกล่าวคำล่ำลาแบบเขินๆ เพราะในใจยังไม่อยากให้คนรักหนุ่มกลับไปตอนนี้ แต่ก็อายที่จะเอ่ยชวนให้เขาค้างกับเธอธาวินเองก็อึกๆ อักๆ เหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ไม่พูด กระทั่งตัดสินใจกล่าวลาแล้วขับรถออกไปวันเมษายืนมองรถของคนรักหนุ่ม กระทั่งเขาเลี้ยวออกจากซอยไป จึงก้มหน้าก้มตาเดินเข้าบ้าน“ทำไมไม่ชวนให้เขาค้างที่นี่ หืม” วันเมษาเอ่ยถามตัวเอง ถึงจะเคยแนบชิดกับธาวินมาหลายครั้ง แต่ทุกครั้งก็เกิดนอกบ้านเธอทั้งสิ้นนี่นา ใครจะกล้าชวนให้เขานอนด้วย ทั้งๆ ที่ใจอยากทำแต่ปากกลับไม่กล้านี่สิ“ไม่ต้องมโน เลิกคิดได้แล้วยัยษาเอ๊ย ยัยหื่น” คนแอบหื่นเอ่ยว่าตัวเอง ก่อนจะสะดุ้งกับเสียงที่ได้ยิน“บ่นคิดถึงผมอยู่หรือครับพี่ษา”“อุ๊ย! หมอ มาได้ไงคะเนี่ย” วันเมษาตาโตเพราะไม่คิดว่าจะเป็นธาวิน“ขับรถกลับมาครับ พอดีคิดถึงคนแถวนี้ ยังไม่อยากกลับ” คราวนี้หมอหนุ่มเอ