ใครบอกว่าความบังเอิญมันไม่มีอยู่จริง?
❛เขา❜ มีเซ็กซ์กับเธอและเป็นผู้ชายคนแรก ไม่ได้พลาดและก็ไม่ได้เมา แต่เรื่องบังเอิญมันเกิดตรงที่ว่าถุงยางที่สวมใส่ตอนมีเซ็กซ์กับเธอนั้น มันดันแตก!
เขาจึงเสนอความรับผิดชอบ ถ้าหากกินยาคุมฉุกเฉินแล้วเธอยังท้อง และหากตรวจ DNA แล้วเด็กคนนั้นคือลูกของเขาจริงๆ เขาก็พร้อมจะรับผิดชอบ
แต่ทว่า...เธอกลับไม่ยอมบอกเขาเลย ปกปิดเรื่องที่ตัวเองกำลังท้องอยู่นาน จนเขาเป็นฝ่ายที่ต้องสืบเรื่องนี้เสียเอง และก็ได้รู้ว่าเธอกำลังท้องจริงๆ แถมเป็นท้องแฝดอีกต่างหาก
"ทำไมถึงไม่ยอมติดต่อมา?"
"ฉันคิดว่าฉันเลี้ยงลูกได้ค่ะ อีกอย่าง...คุณไม่ได้ตั้งใจ คุณเองก็ป้องกันแล้ว ให้ฉันกินยาคุมฉุกเฉินแล้ว ฉันเอาเด็กไปผูกมัดคุณไม่ได้หรอกค่ะ"
"คิดว่าโลกนี้ เธอใช้ชีวิตอยู่ลำพังหรือยังไง"
"......"
"เด็กในท้องของเธอ ฉันจะรับผิดชอบเอง เพราะเขาคือลูกของฉัน"
ผลการตรวจทุกๆ อย่าง บวกกับช่วงเวลาที่เธอรู้ว่าตัวเองท้อง ต่อให้ไม่ตรวจ DNA ยังไงเขาก็เชื่อว่านี่คือลูกของเขา เพราะเธอดูเหมือนไม่ใช่คนที่จะ เอาไปมั่ว จนไม่รู้ว่าใครคือพ่อของเด็ก
*****************************
หลายเดือนก่อนหน้านั้น...
ณ โรงแรมหรูห้าดาวแห่งนึง
“ถุงยางมันแตก ฉันไม่ระวังเอง เธอเอาเงินนี่ไปซื้อยาคุมฉุกเฉินกินซะ ถ้ายังท้องก็ติดต่อฉันกลับมา ฉันจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง”
“เอ่อ...”
“แต่หลังจากที่ตรวจดีเอ็นเอแล้วเท่านั้น”
“คะ? มะ หมายความว่ายังไง”
“เธอคิดว่าฉันจะรับเลี้ยงเด็กที่ไม่ใช่ลูกของตัวเองจริงๆ เหรอ ฉันไม่ใช่พวกคนใจดี รับเลี้ยงลูกเสือลูกตะเข้หรอกนะ”
“ฉันไม่เข้าใจ..”
“เอาเป็นว่า...ถ้าท้องก็ติดต่อกลับมาก็แล้วกัน”
“ฉัน...คงไม่ท้องหรอกค่ะ นี่เป็นครั้งแรกมันคงไม่ง่าย..”
ชายหนุ่มลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าก่อนที่เขาจะหยิบเงินออกมาวางไว้จำนวนนึง จากนั้นก็เดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้เธอนั้นนั่งอยู่เงียบๆ คนเดียว
นี่คือการมีเซ็กซ์อย่างตั้งใจและรู้ตัวเองดีทั้งคู่ แต่ไม่มีใครคิดว่าถุงยางที่ใส่ตอนมีเซ็กซ์นั้นมันจะมีปัญหา นั่นก็หมายความว่าเธอเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้ง่ายๆ
มันยากนะกับการที่มีเซ็กซ์กันแบบสนุกๆ ผ่านไป แต่กลับตั้งครรภ์ขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ และต้องมารับผิดชอบในเรื่องนั้นทั้งๆ ที่ยังไม่ได้พร้อมอะไรเลยสักนิด
สามเดือนต่อจากนั้น...
โรงพยาบาลHH
“อาการที่คุณเป็นไม่น่าเป็นห่วงอะไรมากนะครับ แค่กำลังตั้งครรภ์”
“ค-คะ?!! ท้องงั้นเหรอคะ” เธอแทบไม่อยากจะเชื่อในประโยคจากปากของคุณหมอ คิดว่าตัวเองหูฝาดด้วยซ้ำไป
“ครับ อาการอาเจียนในช่วงเช้า เวียนหัว มีอาการพะอืดพะอม เป็นส่วนนึงของการตั้งครรภ์ครับ ไม่อันตรายอะไร เดี๋ยวซักสี่ห้าเดือนก็ดีขึ้นแล้ว”
“มะ มันเป็นไปได้ยังไงคะ คือว่าฉัน...”
“มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
“แค่ครั้งเดียวสามารถท้องได้ด้วยเหรอคะ?”
“ได้ครับ ขึ้นอยู่กับร่างกาย ความพร้อมและวันตกไข่ ถ้ามีเซ็กซ์ในช่วงวันที่ไข่ตก โอกาสท้องก็จะสูงมากครับ”
“.....” เธอไม่รู้จะพูดยังไงต่อเลย อยู่ๆ ก็ท้องขึ้นมาใครมันจะไปเตรียมตัวได้ทันล่ะ
ถึงเขาจะบอกไว้แล้วว่าให้ติดต่อกลับไปถ้าหากว่าเธอท้อง แต่ใครมันจะไปกล้าล่ะ เรื่องนี้ไม่มีใครตั้งใจอยากให้เกิดขึ้นเลย ทั้งเขาและเธอ มันไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยเหรอที่เธอจะอุ้มท้องไปให้เขารับผิดชอบ ทั้งๆ ที่วันนั้นเขาก็ป้องกันแล้วแท้ๆ
“จะฝากครรภ์เลยไหมครับ”
“ยังค่ะ ฉันขอกลับไปเตรียมตัวก่อน”
“หมอแนะนำให้ฝากครรภ์ตั้งแต่เนิ่นๆ นะครับ หมอจะได้ดูแลทั้งแม่และเด็กในครรภ์ด้วย”
“ค่ะ ฉันจะกลับมาอีกครั้งนะคะ”
หลังจากนั้นเธอก็กลับบ้าน การตรวจในครั้งนี้ผลของมันค่อนข้างจะทำให้เธอตกใจและหนักใจมากเลยทีเดียว อยู่ๆ ก็ต้องกลายเป็นแม่คนขึ้นมา ใครมันจะไปรับมือได้ทัน
“เป็นอะไรไปคะคุณหนู นั่งเหม่อเชียว”
“ขวัญท้อง”
“วะ ว่าไงนะคะ ตายจริง!!”
“ทำยังไงดีคะป้าเหยียน ขวัญไม่อยากมีลูกตอนนี้”
“ใครคือพ่อของเด็กคะ?”
“เรื่องนั้น...เราไม่ได้ตั้งใจจะมีลูกค่ะ ก็แค่เล่นกันสนุกๆ ไม่คิดว่า...”
“บอกเขาสักหน่อยมั้ยคะ”
“ไม่ดีหรอกค่ะ จะให้เขารับผิดชอบ เพียงเพราะการตั้งครรภ์ที่เกิดจากความรักสนุกเหรอคะ”
“แต่เป็นลูกของเขานะคะ ก็น่าจะเห็นแก่เด็ก”
“ป้าเหยียนช่วยขวัญเลี้ยงได้หรือเปล่าคะ ขวัญคงเลี้ยงคนเดียวไม่ไหว”
“เรื่องนั้นไม่ยากเลยค่ะคุณหนู”
“ขวัญจะไม่เอาแกออก ถึงจะเกิดมาเพราะความไม่ตั้งใจ แต่ขวัญก็ทำร้ายเลือดเนื้อของตัวเองไม่ลงอยู่ดี”
“อย่าทำเลยค่ะคุณหนู มันบาป”
“.....”
“ไม่บอกก็ไม่บอกค่ะ ป้าจะช่วยเอง”
เพียงขวัญ อายุ 25 ปี เธอเป็นสาวจากหมู่บ้านนึงที่เรียกว่าชนเผ่าบนเกาะก็ว่าได้ พ่อแม่ส่งให้เธอมาร่ำเรียนที่นอกเกาะ จนเธอนั้นเรียนจบและมีงานทำตั้งตัวได้ แต่แล้วโรคร้ายก็พรากครอบครัวของเธอไป คนบนเกาะก็เผชิญกับโรคร้ายจนแทบจะไม่เหลือใครอยู่แล้ว เธอจึงพาป้าที่เคยเป็นแม่บ้านบนเกาะมาอยู่ด้วย และก็เป็นญาติเพียงคนเดียวของเธอที่ยังเหลืออยู่
เธอเป็นเพียงนักธุรกิจเล็กๆ ขายอาหารเสริมที่พอมีพอกิน ไม่ถึงขั้นกับร่ำรวยมากมาย แต่อย่างน้อยก็ไม่ลำบาก ต่อให้จะมีเด็กน้อยเพิ่มมาอีกสักคนสองคนก็ตาม
ชีวิตต่อจากนี้คงจะเริ่มวุ่นวายแล้วสินะ เพราะเธอไม่ได้ท้องธรรมดา เด็กในท้องของเธอนั้น เป็นเด็กฝาแฝด!!
สองเดือนต่อมา...
ถึงจะท้องใหญ่มากแล้วแต่เพียงขวัญก็ยังต้องมาทำงานที่บริษัทเล็กๆ ของเธออยู่ พนักงานที่นี่มีเพียงไม่กี่คน แต่เป็นคนที่เธอรู้จักดีและไว้ใจได้ทั้งนั้น
“พี่ขวัญท้องใหญ่มากเลยอ่ะ”
“อืม ท้องแฝดก็ใหญ่แบบนี้แหละ หมอบอกว่าปกติ”
“ความจริงพี่ขวัญไม่ต้องมาก็ได้ สั่งงานไว้เดี๋ยวมิ้นจัดการต่อให้เอง ไม่ต้องห่วงเลย”
“อยู่บ้านมันน่าเบื่อน่ะ พี่ไม่รู้จะทำอะไร นั่งๆ นอนๆ มันก็หงุดหงิดตัวเอง เลยออกมาหางานทำ เผื่อจะได้หายหงุดหงิดลงบ้าง”
“ให้มิ้นเอางานส่งให้ทางเมลก็ได้”
“ไม่เป็นไร พี่ออกมาเองดีกว่า จะได้เปิดหูเปิดตาด้วย”
“เฮ้อ...ไม่ว่ามิ้นจะพูดยังไง พี่ขวัญก็ยังยืนยันว่าจะมาให้ได้สินะ”
“ไม่ต้องพูดหรอก พี่ดื้อจะตาย เราก็น่าจะรู้”
“อยากชวนพี่ขวัญไปเดินห้างเหมือนเมื่อก่อนอีกจัง”
“ก็ได้นะ พี่น่ะไปได้อยู่แล้ว แข็งแรงจะตายไป”
“มิ้นกำลังคิดอยู่นะ ว่าถ้าพี่คลอดแล้ว จะหาอะไรมารับขวัญหลานดี”
หญิงสาวพูดพร้อมกับลูกขึ้นไปจัดแจงเอกสาร ทำไปด้วยพูดไปด้วย เพราะงานมันไม่ได้มีอะไรให้ทำมากมาย จึงไม่ได้วุ่นวายสักเท่าไหร่
“มิ้นขอถามอะไรหน่อยสิพี่ขวัญ”
“ว่ามาสิ”
“ถ้าต้องเจอกับพ่อของเด็ก พี่จะทำยังไง”
“คงไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกมั้ง เขากับพี่เราไม่ได้อยู่ใกล้กันขนาดนั้น”
“พี่หมายถึง..”
“เขารวยน่ะ เป็นเจ้าของบริษัทใหญ่โต เทียบกับพี่แล้วอยู่คนละชั้นกันเลย กับมดตัวเล็กๆ ไม่อยู่ในสายตาของเขาด้วยซ้ำไป”
“พี่จะบอกว่าถ้าเจอกัน เขาคงจำพี่ไม่ได้งั้นเหรอ?”
“คิดว่างั้นนะ”
เธอคิดมาตลอดกับเรื่องที่เกิดขึ้น เธอไม่ตั้งใจจะบอกเขา ต่อให้ไม่รู้ว่าเขาคือใครเธอก็จะไม่บอก ทุกอย่างจะเป็นความลับและมันจะอยู่กับเธอตลอดไป จนถึงตอนนี้ก็มีแค่เธอที่รู้ว่าเด็กในท้องนั้นใครคือพ่อของพวกเขา
“แล้วถ้าได้เจอเขาจริงๆ พี่จะทำยังไงต่อ?”
“ไม่รู้สิ ก็คงเฉยๆ ไม่แสดงท่าทีอะไร”
“พี่นี่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวจังเลยนะ”
“พี่ถูกเลี้ยงมาในครอบครัวที่เข้มแข็ง ไม่ว่าเจอกับเรื่องอะไรก็ต้องรีบตั้งสติแล้วรับมือกับมันให้ทันก่อนจะสายเกินไป”
“ถึงว่า เจอเรื่องอะไรพี่ไม่ตื่นตระหนกเลย แม้กระทั่งเรื่องนี้”
“.....” ความเสียใจ ความเจ็บปวด เธอเองก็เผชิญมาเหมือนกัน เพียงแต่ก่อนหน้านั้นเธอมีภูมิคุ้มกันอยู่แล้ว หัวใจเข้มแข็งเธอเลยเสียใจอยู่ไม่นานก็ทำใจได้ เพราะชีวิตต้องเดินต่อ
ก๊อกๆๆ
“พี่ขวัญ มีคนมาขอพบน่ะ”
“ใครเหรอ?”
“ไม่รู้ค่ะ ไม่ทันได้ถามชื่อ แต่เขาบอกว่าสนิทกับพี่ขวัญ แต่ขอบอกว่า หล่อมากๆๆ ดีสุดๆ เลย”
“???” เพียงขวัญทำหน้างง เพราะเธอไม่ได้รู้จักใครที่ไหนที่หน้าตาดีอย่างที่พนักงานของเธอว่าเลย
ดูสนิทกันงั้นเหรอ แต่เธอไม่ได้มีคนสนิทเป็นผู้ชายเลยนะ จะเป็นรุ่นน้อง รุ่นพี่ คนรู้จัก เธอก็ไม่ได้สนิทกับเขาขนาดนั้น และก็ไม่มีเหตุผลจะต้องมาเจอกันแบบนี้ด้วย
แต่เธอก็อยากรู้อยู่ดีนั่นแหละ ใครกันนะที่อยากเจอเธอแบบนี้
“เขาอยู่ไหน?”
“รออยู่ด้านนอกค่ะ”
เพียงขวัญรีบลุกขึ้นก่อนจะเดินออกไปด้านนอก และได้เจอกับชายแปลกหน้าคนนึงยืนรอเธออยู่
“มาหาฉันเหรอคะ?”
“เจ้านายของผมมีธุระจะคุยด้วยครับ เชิญในรถเถอะครับ ด้านนอกมันร้อน”
“.....” เพียงขวัญลังเลเพราะเธอไม่ได้รู้จักคนนี้มาก่อน แล้วจะรู้จักเจ้านายของเขาได้ยังไงกัน
“เชิญเถอะครับ ไม่มีอันตรายหรอก ผมเอาชีวิตเป็นประกันได้เลย”
ประตูรถถูกเปิดออกเธอชั่งใจอยู่ไม่น้อยก่อนจะเข้าไปนั่งด้านใน จากนั้นประตูรถก็ปิดลง ส่วนคนที่คุยกับเธอก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้ตามเข้ามาด้วย
“ฉันบอกว่าท้อง ให้ติดต่อมาไม่ใช่หรือไง”
“!!!”
น้ำเสียงนี้มันทำเอาเธอตกใจจนนั่งตัวแข็ง เธอจำได้ดีเลย เธอไม่เคยลืม เป็นเขาหรอกเหรอที่อยากเจอเธอ ไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้ มือเล็กกุมท้องของตัวเองไว้แน่น ท้องใหญ่แบบนี้จะปกปิดก็คงไม่ได้แล้วสินะ “หายไปหลายเดือน ฉันคิดว่าเธอจะติดต่อกลับมา” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย ก่อนจะหันมองเธอที่นั่งอยู่ข้างๆ กัน สายตาที่แข็งกร้าวนั้นมันทำให้เธอรีบหลบสายตาของเขาด้วยความกลัว“คือว่า...”“จะพูดอะไรอีก?”“คุณเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ เด็กในท้องของฉันไม่ใช่ลูกของคุณหรอก ฉันแต่งงานมีสามีแล้วค่ะ”“หน้าตาของฉันเหมือนคนโง่ขนาดนั้นเลยหรือไง?!”น้ำเสียงที่เกรี้ยวกราดของเขาทำเอาเธอตกใจจนสะดุ้ง คอหดเหมือนกับสัตว์ที่กำลังหวาดกลัว แหงล่ะ น้ำเสียงของเขามันทุ้มน่ากลัวมากเลยด้วย“ปะ เปล่านะคะ ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นเลย”“แต่งงานแล้วไหนล่ะสามีของเธอ ทำไมไม่เห็นมาช่วยเธอทำงาน ฉันเห็นเธอทำงานอยู่คนเดียว”“เอ่อ...ระ เราแยกกันอยู่ค่ะ เขาทำงานอยู่อีกที่นึง”“ขนาดนี้แล้ว เธอยังจะโกหกอีกเหรอ หน้าตาฉันเหมือนเด็กอมมือหรือยังไง?”“คะ คุณพูดอะไรคะ ฉันไม่เข้าใจ”พรึ่บ!เอกสารซองสีน้ำตาลถูกยื่นให้แก่เธอ ถึงจะยังตกใจอยู่แต่ก็จำใจต้อ
บ้านโอนิกซ์ “เชิญค่ะคุณผู้หญิง”“เอ่อ ไม่ต้องเรียกฉันแบบนั้นหรอกค่ะ ฉันชื่อเพียงขวัญ เรียกขวัญเฉยๆ ก็ได้ค่ะ”“เข้าไปสิ นี่บ้านของฉันเอง”“ใหญ่จัง” เธอพึมพำเบาๆ กับตัวเอง พร้อมกับมองบ้านหลังใหญ่ที่เธอนั้นกำลังเดินเข้ามา บ้านหลังใหญ่ตระการตา สวยหรูมีแต่ของแพงๆ ไปหมดเลย“ของของเธอ เดี๋ยวให้คนยกขึ้นไปไว้บนห้องนอนของฉัน”“ดะ เดี๋ยว เราต้องนอนห้องเดียวกันเหรอคะ?”“ใช่ไง บอกแล้วว่าเธอต้องอยู่ในสายตาของฉันตลอด”“แต่ว่าเรา..”“เธอไม่มีสิทธิ์เลือก อย่าลืมว่าในท้องของเธอ คือลูกของฉัน”“.....” ใช้คำพูดนี้มาเป็นข้ออ้างแล้วเธอจะไปขัดอะไรได้ล่ะ ในท้องของเธอมีลูกของเขาอยู่มันก็เรื่องจริง แต่เธอแค่อยากได้ความเป็นส่วนตัวเหมือนกับตอนที่อยู่ที่บ้านหลังเดิมมันก็เท่านั้น“เอาของไปเก็บให้เรียบร้อยตามที่ฉันสั่ง”“ค่ะคุณโอนิกซ์”“คุณชื่อโอนิกซ์เหรอ?” เธอถามเสียงแผ่ว เพราะเพิ่งรู้ว่าเขาชื่อนี้ มันก็คงไม่แปลกหรอกเนอะ เพราะเธอไม่ได้รู้จักกับเขามาก่อนนี่นา อีกอย่างก็ไม่ได้ถามชื่อของเขามาก่อนด้วย “อืม เรียกว่านิคก็พอ ชื่อเล่นของฉัน”“ค่ะ”ดูท่าแล้วชื่อเล่นของเขาน้อยคนที่จะเรียกสินะ และก็ดูเหมือนว่าคนจะเกรงกลัวเ
หลายวันต่อมาโรงพยาบาลเอกชนHHวันนี้ครบกำหนดที่เพียงขวัญจะต้องมาตรวจร่างกายตามปกติในทุกเดือน เขาพาเธอมาตรวจเองกับมือเลย และมีหมอคนใหม่มาดูแลเธอต่อด้วย “เกร็งอะไรขนาดนั้น?” โอนิกซ์ถามคนข้างๆ เพราะเธอนั้นนั่งนิ่งแถมเอามือจิกกันไปมาไม่หยุดอีกต่างหาก แค่มาหาหมอตามปกติเอง ทำไมต้องดูเกร็งดูกลัวอะไรขนาดนั้นเขาดูคนออกนะ“ฉันแค่ตื่นเต้น” เธอตอบกลับ“ไม่ได้มาตรวจเป็นครั้งแรกสักหน่อยไม่ใช่หรือไง”“ก็ใช่ แต่มันเป็นครั้งแรกที่เปลี่ยนหมอ เปลี่ยนโรงพยาบาล แถมคุณก็มาด้วยอีก”“ฉันมาด้วยแล้วมันยังไง อึดอัดเหรอ?”“รู้สึกแปลกเฉยๆ ค่ะ คุณก็อย่าเอาแต่จ้องสิ”นั่งอยู่ข้างๆ กันเขามักจะหันมองเธอยู่ตลอด แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร มันบ่อยมากขึ้นเธอก็รู้สึกไม่เป็นตัวเอง มันเลยเกร็งไปหมด“ตอนรู้ว่าท้อง แพ้ท้องหรือเปล่า?”“แพ้ค่ะ ก็ปกติของคนท้อง”“แล้ว...”“คุณจะถามอะไรมากมายคะ ฉันไม่อยากตอบแล้วนะ เริ่มเวียนหัวแล้วด้วย” เธอพูดแทรกเขา ทำเอาโอนิกซ์ถึงกับถอนหายใจแรง ก่อนจะเบือนหน้าหนีไม่ได้ถามหรือพูดอะไรกับเธออีกจนกระทั่งถึงเวลาที่จะต้องเข้าห้องตรวจ...เพียงขวัญรีบลุกขึ้นเพราะถูกเรียกชื่อ โอนิกซ์รีบเดินเข้ามาประคองเพร
เวลาผ่านไป“ฉันต้องออกไปงานเลี้ยงผู้บริหาร ดึกๆ คงกลับ ง่วงก็นอนนะ ไม่ต้องรอฉัน” เขาพูดกับเธอ ขณะที่ตัวเองนั้นกำลังแต่งตัวอยู่เขาหล่อมากนะ พอใส่ชุดสูท มีเครื่องประดับแบบนี้แล้วมันดูดีสมกับเป็นเขาเลย อย่างที่คนเขาว่า คนหน้าตาดี จะใส่ชุดอะไรมันก็ดูดีไปหมดอยู่แล้ว “ค่ะ” เธอตอบ ความจริงเขาไม่จำเป็นจะต้องบอกเธอเรื่องนี้ก็ได้ เพราะเธอเองก็ไม่ได้มีสิทธิ์จะวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวของเขาอยู่แล้ว“ดึกๆ ถ้าหิวก็หาของในตู้เย็นกิน ฉันให้แม่บ้านแบ่งอาหารแช่ตู้ไว้ให้เผื่อหิว”“ขอบคุณค่ะ”“เป็นอะไร ทำไมทำหน้างั้น ไม่อยากให้ฉันไปหรือยังไง?” เขาหันมองเธอเล็กน้อยพร้อมกับรอยยิ้มที่ทำเอาเธอเขินจนต้องหลบหน้า ก่อนที่เขานั้นจะหันไปแต่งตัวหน้ากระจกต่อ“เปล่าค่ะ ฉันก็ปกติของฉัน”“งั้นเหรอ หึหึ”เขาชอบทำตัวแปลกๆ กับเธอ ชอบทำเหมือนกับว่าตลกทั้ง ๆ ที่เรื่องนั้นมันไม่ได้น่าขันอะไรเลยสักนิดเดียว เสียงหัวเราะในลำคอของเขา รอยยิ้มของเขา มันไม่เหมือนกับตอนแรกที่เธอกับเขาเพิ่งเจอกันเลยฟึ่บ~“อ๊ะ?” อยู่ๆ เขาก็เอามือมาวางบนหัวของเธอ ก่อนจะลูบเบาๆ เหมือนกำลังจะสื่อถึงอะไรบางอย่าง “เดี๋ยวฉันกลับมา”“อะ อื้อ” เพีย
โอนิกซ์พาเพียงขวัญเดินมาที่ห้องครัว ก่อนที่จะให้เธอนั่งลงบนเก้าอี้ ส่วนเขาก็ทำอะไรไม่รู้ เหมือนกำลังจัดเตรียมของกินให้กับเธอ ดูเขาตั้งใจเอามากๆ และมันก็ทำเอาเธออยากรู้ไม่น้อยเลยเหมือนกันว่ามันเพราะอะไร ไม่นานนักเขาก็เดินมาพร้อมกับจานใบเล็กๆ ที่ใส่ขนมเค้กหน้าตาน่าอร่อยอยู่ “ขนมเค้ก”“คะ?”“ก็เห็นบ่นว่าอยากกิน ฉันก็เลยแวะซื้อมาให้ ฉันสั่งร้านทำแบบไม่หวานมากนะ คนท้องกินหวานมากไม่ดี”“ขะ ขอบคุณมากนะคะ”“กินซะสิ”“คุณนิครู้ได้ยังไงคะ วันฉันอยากกินเค้ก”“เรื่องของเธอ มีอะไรบ้างที่ฉันไม่รู้”นั่นสินะ ไม่น่าถามเลย เรื่องของเธอเขาก็รู้ทุกอย่างอยู่แล้ว ต่อให้ไม่ได้ถามยังไงเขาก็สืบจนรู้เองอยู่ดี“เป็นอะไรของเธอ เค้กไม่ถูกใจเหรอ?”“เปล่าค่ะ”“......” เขามองเธอนิ่งๆ สายตานั้นเหมือนกำลังกดดันให้เธอตักเค้กที่เขายกมาให้นั้นใส่ปาก แล้วเอ่ยชมว่าอร่อยตามมารยาทใช่! มันก็ควรจะเป็นแบบนั้นนั่นแหละ“ฉันซื้อมาให้เยอะเลยนะอยู่ในตู้ อยากเลือกมั้ยล่ะ ฉันไม่รู้ว่าเธอชอบกินแบบไหน เลยซื้อมาทุกรสชาติเลย แต่เอาใส่จานมาแค่วนิลาชิ้นเดียว”“มะ ไม่ค่ะ ฉันชอบค่ะ ปกติเค้กฉันกินได้หมดเลย”“แล้วทำไมไม่กินล่ะ?”“ความจริงถ
ผ่านไปหนึ่งเดือน...“พี่คะ พี่ชาย..”“ครับๆ คุณเพียงขวัญต้องการอะไรครับ” ชายหนุ่มร่างกำยำรีบวิ่งหยวบหยาบเข้ามาเมื่อได้ยินเสียงเรียก“ฉันถามอะไรหน่อยสิ”“ครับ”“คุณนิคเขาหายไปไหนเหรอ?”“......”ปกติเธอก็ไม่เคยต้องร้อนใจอะไรแบบนี้หรอก แต่มีบางอย่างที่มันเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม จนเธอร้อนใจขึ้นมานั่นก็คือโอนิกซ์หายตัวไป ที่ผ่านมาปกติเขาไปทำงานก็จะกลับมาในช่วงเวลาเดิมตลอด แต่ตอนนี้มันแปลกไป เพราะจู่ ๆ เขาก็ไม่กลับมาเหมือนอย่างเคย“รู้หรือเปล่า เขาหายไปไหน”“ผมไม่ทราบครับ”“แล้วพอจะมีใครที่ฉันจะติดต่อหาได้มั้ย คนใกล้ตัวของเขาน่ะ ฉันเป็นห่วง”แหงสิอยู่ ๆ เขาก็มาหายตัวไป เธอเลยเป็นห่วงจนร้อนรนแบบนี้ ต่างจากคนอื่นที่ดูไม่ได้ร้อนรนอะไรเลย มีแต่เธอที่ร้อนใจอยู่คนเดียวไม่มีใครคิดเลยเหรอว่ามันแปลก หรือปกติเขาเป็นแบบนี้อยู่แล้วแต่สำหรับเธอมันผิดปกตินะ ตลอดระยะเวลาที่เธอมาอยู่ที่นี่เขาไม่เคยหายไปเลย เป็นคนที่รักษาคำพูดตลอด จะกลับดึก กลับช้า กลับเร็ว ทุกๆ อย่างที่บอกกับเธอไว้ เขาทำตามมันได้ดีเลย ราวกับว่าเธอคือภรรยาของเขาจริงๆ“ไม่มีครับ”“นี่พวกพี่ไม่ห่วงเขาเลยเหรอคะ เจ้านายหายไปทั้งคนนะ”พวกเขาม
ก๊อกๆๆ“คุณนิค!!” เพียงขวัญรีบเดินไปที่หน้าประตูด้วยความตกใจ เพราะเธอนั้นกำลังนั่งปรับทุกข์เรื่องของเขากับป้าคนสนิทอยู่เลย แต่เขากลับโผล่มาซะแล้ว มาตอนไหนก็ไม่รู้เลย“คิดถึงฉันอยู่เหรอ?” เขาเอ่ยถามพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย“ทะ ทำไมหน้าซีดแบบนี้ล่ะคะ ไม่สบายหรือเปล่าคะ?” เพียงขวัญถามด้วยความตกใจ เพราะสีหน้าของเขามันบ่งบอกอย่างนั้น เขาต้องไม่สบายหรือไม่ก็เป็นอะไรสักอย่างล่ะ เพราะคนปกติเขาคงไม่หน้าซีดเหมือนคนไม่มีเม็ดเลือดแดงฝาดขนาดนี้“ป้าลงไปช่วยแม่บ้านเตรียมอาหารก่อนนะคะ” ป้าเหยียนเดินออกมา สถานการณ์ตอนนี้มีบุคคลที่สามอยู่ด้วยมันคงไม่เหมาะสักเท่าไหร่“เข้ามาข้างในก่อนสิคะ”“ได้ข่าวว่าเธอไม่ยอมกินข้าว”“ข่าวจากไหนคะ มั่วแล้วนะ”“......” โอนิกซ์เงียบ“คุณนั่นแหละหายไปไหนมา จะไปไหนก็บอกกันสักหน่อยสิ คนอื่นชินแต่ฉันไม่ชินด้วยหรอกนะ ถ้าจะไม่กลับเพราะติดธุระ ตอบข้อความรับสายโทรศัพท์สักนิดก็ยังดี”“มัน...พังน่ะ” โอนิกซ์หยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมาให้เธอดู ให้เพียงขวัญนั้นเห็นว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะไม่รับสายหรือไม่อ่านข้อความของเธอเลยโทรศัพท์มือถือของเขามันพังจนเปิดไม่ติดแล้ว หน้าจอแตกละเอียดหม
สองเดือนถัดมา...ภายในห้องผ่าตัดโรงพยาบาลเอกชนHHบรรยากาศภายในห้องผ่าตัดนั้นมันเย็นเฉียบและเงียบกริบ ด้านหน้าของเพียงขวัญถูกกั้นด้วยผ้าสีเขียวสูงชนิดที่เธอมองไม่เห็นการกระทำของหมอและพยาบาลอีกฝั่ง เธอกลัวตื่นเต้นจนหัวใจนั้นเต้นรัวไปหมด แต่เป็นเพราะฤทธิ์กล่อมของยา มันเลยทำให้เธอนั้นไม่ได้ตื่นตระหนกอะไร บวกกับมีโอนิกซ์นั้นคอยอยู่ข้างๆ ไม่ห่าง เธอเลยอุ่นใจไปได้มากเลยทีเดียว“อือ...” เพียงขวัญครางเสียงสั่นกลัว ดวงตาของเธอพยายามจดจ้องไปที่การกระทำของหมอและพยาบาลที่กำลังทำคลอดอยู่ ใบหน้าของเธอซีดเผือก ตัวสั่น ที่ไม่รู้ว่าสั่นเพราะอุณหภูมิภายในห้องผ่าตัดหรือเป็นเพราะฤทธิ์จากยา“ไม่ต้องกลัวนะ” เสียงกระซิบแผ่วเบาข้างหู มันทำเอาเธอใจชื้นขึ้นมาแบบทันควันเขาไม่เคยปล่อยมือเธอเลย ตั้งแต่พามาโรงพยาบาล เตรียมตัวเข้าห้องคลอด ฉีดยา จนกระทั่งตอนนี้เวลาในตอนนี้มันเหมือนยาวนานไปมากๆ แต่คงเป็นเพราะเธอนั้นรอคอยจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้นมากกว่า เวลามันถึงผ่านไปช้าแบบนี้“คุณนิค...” “ว่าไง”“นานจังเลยคะ เกิดอะไรขึ้นเหรอ”“ไม่มีอะไรหรอก มันไม่นานเลยนะ คุณหมอกำลังทำคลอดอยู่”โอนิกซ์พยายามพูดให้เพียงขวัญนั้นสบายใจ เ
..เวลาผ่านไป ที่บ้านหลังใหญ่ของโอนิกซ์ เพราะเพียงขวัญยังไม่แข็งแรง เธอจึงไม่สามารถดูแลลูกแฝดได้อย่างเต็มที่ นั่นจึงทำให้โอนิกซ์นั้นต้องจ้างพี่เลี้ยงมาคอยช่วยดูแล และคนคนนั้นก็ต้องไว้ใจได้ ถึงเขาจะช่วยเธอเลี้ยงได้ แต่ยังไงก็เป็นผู้ชาย ความละเอียดอ่อนก็ไม่เท่ากับผู้หญิงอยู่ดี การเลี้ยงเด็กอ่อนมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ถึงโอนิกซ์จะเตรียมตัวตั้งรับกับเรื่องนี้เอาไว้แล้ว แต่ยังไงก็ต้องมีพี่เลี้ยงอยู่ดี“เพียงขวัญ...”“คะคุณนิค?”“แผลของเธอเป็นยังไงบ้าง”“ดีขึ้นแล้วค่ะ” “อืมก็...ดีแล้วล่ะ”“......” เพียงขวัญมองแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ตั้งแต่อยู่โรงพยาบาลแล้วเขาจะถามเธอแบบนี้ทุกวัน จนกระทั่งกลับบ้านก็ยังถามอยู่ ไม่ถามเนี่ยสิดูแปลกไปเลย“งั้นก็พักเถอะ ไม่ต้องห่วง ฉันจะดูลูกให้เอง”“คุณไม่ออกไปทำงานเหรอคะ?”“วันนี้ไม่ล่ะ อยากอยู่กับลูก”มีพี่เลี้ยงก็จริงแต่ในฐานะคุณพ่อที่เห่อลูกแฝดอย่างเขาก็ไม่ยอมห่างลูกๆ เลยเช่นกัน ที่ต้องจ้างเพราะกลัวดูแลได้ไม่ดีทั้งสองคนต่างหากเพียงขวัญมองดูโอนิกซ์อุ้มลูกขึ้นมาอยู่บนอก เขาประคับประคองเป็นอย่างดี น้ำเสียงที่เปล่งเจรจากับลูกน้อยในอ้อมอกนั้นมันช่างหวานละมุนจริงๆ
สองเดือนถัดมา...ภายในห้องผ่าตัดโรงพยาบาลเอกชนHHบรรยากาศภายในห้องผ่าตัดนั้นมันเย็นเฉียบและเงียบกริบ ด้านหน้าของเพียงขวัญถูกกั้นด้วยผ้าสีเขียวสูงชนิดที่เธอมองไม่เห็นการกระทำของหมอและพยาบาลอีกฝั่ง เธอกลัวตื่นเต้นจนหัวใจนั้นเต้นรัวไปหมด แต่เป็นเพราะฤทธิ์กล่อมของยา มันเลยทำให้เธอนั้นไม่ได้ตื่นตระหนกอะไร บวกกับมีโอนิกซ์นั้นคอยอยู่ข้างๆ ไม่ห่าง เธอเลยอุ่นใจไปได้มากเลยทีเดียว“อือ...” เพียงขวัญครางเสียงสั่นกลัว ดวงตาของเธอพยายามจดจ้องไปที่การกระทำของหมอและพยาบาลที่กำลังทำคลอดอยู่ ใบหน้าของเธอซีดเผือก ตัวสั่น ที่ไม่รู้ว่าสั่นเพราะอุณหภูมิภายในห้องผ่าตัดหรือเป็นเพราะฤทธิ์จากยา“ไม่ต้องกลัวนะ” เสียงกระซิบแผ่วเบาข้างหู มันทำเอาเธอใจชื้นขึ้นมาแบบทันควันเขาไม่เคยปล่อยมือเธอเลย ตั้งแต่พามาโรงพยาบาล เตรียมตัวเข้าห้องคลอด ฉีดยา จนกระทั่งตอนนี้เวลาในตอนนี้มันเหมือนยาวนานไปมากๆ แต่คงเป็นเพราะเธอนั้นรอคอยจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้นมากกว่า เวลามันถึงผ่านไปช้าแบบนี้“คุณนิค...” “ว่าไง”“นานจังเลยคะ เกิดอะไรขึ้นเหรอ”“ไม่มีอะไรหรอก มันไม่นานเลยนะ คุณหมอกำลังทำคลอดอยู่”โอนิกซ์พยายามพูดให้เพียงขวัญนั้นสบายใจ เ
ก๊อกๆๆ“คุณนิค!!” เพียงขวัญรีบเดินไปที่หน้าประตูด้วยความตกใจ เพราะเธอนั้นกำลังนั่งปรับทุกข์เรื่องของเขากับป้าคนสนิทอยู่เลย แต่เขากลับโผล่มาซะแล้ว มาตอนไหนก็ไม่รู้เลย“คิดถึงฉันอยู่เหรอ?” เขาเอ่ยถามพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย“ทะ ทำไมหน้าซีดแบบนี้ล่ะคะ ไม่สบายหรือเปล่าคะ?” เพียงขวัญถามด้วยความตกใจ เพราะสีหน้าของเขามันบ่งบอกอย่างนั้น เขาต้องไม่สบายหรือไม่ก็เป็นอะไรสักอย่างล่ะ เพราะคนปกติเขาคงไม่หน้าซีดเหมือนคนไม่มีเม็ดเลือดแดงฝาดขนาดนี้“ป้าลงไปช่วยแม่บ้านเตรียมอาหารก่อนนะคะ” ป้าเหยียนเดินออกมา สถานการณ์ตอนนี้มีบุคคลที่สามอยู่ด้วยมันคงไม่เหมาะสักเท่าไหร่“เข้ามาข้างในก่อนสิคะ”“ได้ข่าวว่าเธอไม่ยอมกินข้าว”“ข่าวจากไหนคะ มั่วแล้วนะ”“......” โอนิกซ์เงียบ“คุณนั่นแหละหายไปไหนมา จะไปไหนก็บอกกันสักหน่อยสิ คนอื่นชินแต่ฉันไม่ชินด้วยหรอกนะ ถ้าจะไม่กลับเพราะติดธุระ ตอบข้อความรับสายโทรศัพท์สักนิดก็ยังดี”“มัน...พังน่ะ” โอนิกซ์หยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมาให้เธอดู ให้เพียงขวัญนั้นเห็นว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะไม่รับสายหรือไม่อ่านข้อความของเธอเลยโทรศัพท์มือถือของเขามันพังจนเปิดไม่ติดแล้ว หน้าจอแตกละเอียดหม
ผ่านไปหนึ่งเดือน...“พี่คะ พี่ชาย..”“ครับๆ คุณเพียงขวัญต้องการอะไรครับ” ชายหนุ่มร่างกำยำรีบวิ่งหยวบหยาบเข้ามาเมื่อได้ยินเสียงเรียก“ฉันถามอะไรหน่อยสิ”“ครับ”“คุณนิคเขาหายไปไหนเหรอ?”“......”ปกติเธอก็ไม่เคยต้องร้อนใจอะไรแบบนี้หรอก แต่มีบางอย่างที่มันเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม จนเธอร้อนใจขึ้นมานั่นก็คือโอนิกซ์หายตัวไป ที่ผ่านมาปกติเขาไปทำงานก็จะกลับมาในช่วงเวลาเดิมตลอด แต่ตอนนี้มันแปลกไป เพราะจู่ ๆ เขาก็ไม่กลับมาเหมือนอย่างเคย“รู้หรือเปล่า เขาหายไปไหน”“ผมไม่ทราบครับ”“แล้วพอจะมีใครที่ฉันจะติดต่อหาได้มั้ย คนใกล้ตัวของเขาน่ะ ฉันเป็นห่วง”แหงสิอยู่ ๆ เขาก็มาหายตัวไป เธอเลยเป็นห่วงจนร้อนรนแบบนี้ ต่างจากคนอื่นที่ดูไม่ได้ร้อนรนอะไรเลย มีแต่เธอที่ร้อนใจอยู่คนเดียวไม่มีใครคิดเลยเหรอว่ามันแปลก หรือปกติเขาเป็นแบบนี้อยู่แล้วแต่สำหรับเธอมันผิดปกตินะ ตลอดระยะเวลาที่เธอมาอยู่ที่นี่เขาไม่เคยหายไปเลย เป็นคนที่รักษาคำพูดตลอด จะกลับดึก กลับช้า กลับเร็ว ทุกๆ อย่างที่บอกกับเธอไว้ เขาทำตามมันได้ดีเลย ราวกับว่าเธอคือภรรยาของเขาจริงๆ“ไม่มีครับ”“นี่พวกพี่ไม่ห่วงเขาเลยเหรอคะ เจ้านายหายไปทั้งคนนะ”พวกเขาม
โอนิกซ์พาเพียงขวัญเดินมาที่ห้องครัว ก่อนที่จะให้เธอนั่งลงบนเก้าอี้ ส่วนเขาก็ทำอะไรไม่รู้ เหมือนกำลังจัดเตรียมของกินให้กับเธอ ดูเขาตั้งใจเอามากๆ และมันก็ทำเอาเธออยากรู้ไม่น้อยเลยเหมือนกันว่ามันเพราะอะไร ไม่นานนักเขาก็เดินมาพร้อมกับจานใบเล็กๆ ที่ใส่ขนมเค้กหน้าตาน่าอร่อยอยู่ “ขนมเค้ก”“คะ?”“ก็เห็นบ่นว่าอยากกิน ฉันก็เลยแวะซื้อมาให้ ฉันสั่งร้านทำแบบไม่หวานมากนะ คนท้องกินหวานมากไม่ดี”“ขะ ขอบคุณมากนะคะ”“กินซะสิ”“คุณนิครู้ได้ยังไงคะ วันฉันอยากกินเค้ก”“เรื่องของเธอ มีอะไรบ้างที่ฉันไม่รู้”นั่นสินะ ไม่น่าถามเลย เรื่องของเธอเขาก็รู้ทุกอย่างอยู่แล้ว ต่อให้ไม่ได้ถามยังไงเขาก็สืบจนรู้เองอยู่ดี“เป็นอะไรของเธอ เค้กไม่ถูกใจเหรอ?”“เปล่าค่ะ”“......” เขามองเธอนิ่งๆ สายตานั้นเหมือนกำลังกดดันให้เธอตักเค้กที่เขายกมาให้นั้นใส่ปาก แล้วเอ่ยชมว่าอร่อยตามมารยาทใช่! มันก็ควรจะเป็นแบบนั้นนั่นแหละ“ฉันซื้อมาให้เยอะเลยนะอยู่ในตู้ อยากเลือกมั้ยล่ะ ฉันไม่รู้ว่าเธอชอบกินแบบไหน เลยซื้อมาทุกรสชาติเลย แต่เอาใส่จานมาแค่วนิลาชิ้นเดียว”“มะ ไม่ค่ะ ฉันชอบค่ะ ปกติเค้กฉันกินได้หมดเลย”“แล้วทำไมไม่กินล่ะ?”“ความจริงถ
เวลาผ่านไป“ฉันต้องออกไปงานเลี้ยงผู้บริหาร ดึกๆ คงกลับ ง่วงก็นอนนะ ไม่ต้องรอฉัน” เขาพูดกับเธอ ขณะที่ตัวเองนั้นกำลังแต่งตัวอยู่เขาหล่อมากนะ พอใส่ชุดสูท มีเครื่องประดับแบบนี้แล้วมันดูดีสมกับเป็นเขาเลย อย่างที่คนเขาว่า คนหน้าตาดี จะใส่ชุดอะไรมันก็ดูดีไปหมดอยู่แล้ว “ค่ะ” เธอตอบ ความจริงเขาไม่จำเป็นจะต้องบอกเธอเรื่องนี้ก็ได้ เพราะเธอเองก็ไม่ได้มีสิทธิ์จะวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวของเขาอยู่แล้ว“ดึกๆ ถ้าหิวก็หาของในตู้เย็นกิน ฉันให้แม่บ้านแบ่งอาหารแช่ตู้ไว้ให้เผื่อหิว”“ขอบคุณค่ะ”“เป็นอะไร ทำไมทำหน้างั้น ไม่อยากให้ฉันไปหรือยังไง?” เขาหันมองเธอเล็กน้อยพร้อมกับรอยยิ้มที่ทำเอาเธอเขินจนต้องหลบหน้า ก่อนที่เขานั้นจะหันไปแต่งตัวหน้ากระจกต่อ“เปล่าค่ะ ฉันก็ปกติของฉัน”“งั้นเหรอ หึหึ”เขาชอบทำตัวแปลกๆ กับเธอ ชอบทำเหมือนกับว่าตลกทั้ง ๆ ที่เรื่องนั้นมันไม่ได้น่าขันอะไรเลยสักนิดเดียว เสียงหัวเราะในลำคอของเขา รอยยิ้มของเขา มันไม่เหมือนกับตอนแรกที่เธอกับเขาเพิ่งเจอกันเลยฟึ่บ~“อ๊ะ?” อยู่ๆ เขาก็เอามือมาวางบนหัวของเธอ ก่อนจะลูบเบาๆ เหมือนกำลังจะสื่อถึงอะไรบางอย่าง “เดี๋ยวฉันกลับมา”“อะ อื้อ” เพีย
หลายวันต่อมาโรงพยาบาลเอกชนHHวันนี้ครบกำหนดที่เพียงขวัญจะต้องมาตรวจร่างกายตามปกติในทุกเดือน เขาพาเธอมาตรวจเองกับมือเลย และมีหมอคนใหม่มาดูแลเธอต่อด้วย “เกร็งอะไรขนาดนั้น?” โอนิกซ์ถามคนข้างๆ เพราะเธอนั้นนั่งนิ่งแถมเอามือจิกกันไปมาไม่หยุดอีกต่างหาก แค่มาหาหมอตามปกติเอง ทำไมต้องดูเกร็งดูกลัวอะไรขนาดนั้นเขาดูคนออกนะ“ฉันแค่ตื่นเต้น” เธอตอบกลับ“ไม่ได้มาตรวจเป็นครั้งแรกสักหน่อยไม่ใช่หรือไง”“ก็ใช่ แต่มันเป็นครั้งแรกที่เปลี่ยนหมอ เปลี่ยนโรงพยาบาล แถมคุณก็มาด้วยอีก”“ฉันมาด้วยแล้วมันยังไง อึดอัดเหรอ?”“รู้สึกแปลกเฉยๆ ค่ะ คุณก็อย่าเอาแต่จ้องสิ”นั่งอยู่ข้างๆ กันเขามักจะหันมองเธอยู่ตลอด แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร มันบ่อยมากขึ้นเธอก็รู้สึกไม่เป็นตัวเอง มันเลยเกร็งไปหมด“ตอนรู้ว่าท้อง แพ้ท้องหรือเปล่า?”“แพ้ค่ะ ก็ปกติของคนท้อง”“แล้ว...”“คุณจะถามอะไรมากมายคะ ฉันไม่อยากตอบแล้วนะ เริ่มเวียนหัวแล้วด้วย” เธอพูดแทรกเขา ทำเอาโอนิกซ์ถึงกับถอนหายใจแรง ก่อนจะเบือนหน้าหนีไม่ได้ถามหรือพูดอะไรกับเธออีกจนกระทั่งถึงเวลาที่จะต้องเข้าห้องตรวจ...เพียงขวัญรีบลุกขึ้นเพราะถูกเรียกชื่อ โอนิกซ์รีบเดินเข้ามาประคองเพร
บ้านโอนิกซ์ “เชิญค่ะคุณผู้หญิง”“เอ่อ ไม่ต้องเรียกฉันแบบนั้นหรอกค่ะ ฉันชื่อเพียงขวัญ เรียกขวัญเฉยๆ ก็ได้ค่ะ”“เข้าไปสิ นี่บ้านของฉันเอง”“ใหญ่จัง” เธอพึมพำเบาๆ กับตัวเอง พร้อมกับมองบ้านหลังใหญ่ที่เธอนั้นกำลังเดินเข้ามา บ้านหลังใหญ่ตระการตา สวยหรูมีแต่ของแพงๆ ไปหมดเลย“ของของเธอ เดี๋ยวให้คนยกขึ้นไปไว้บนห้องนอนของฉัน”“ดะ เดี๋ยว เราต้องนอนห้องเดียวกันเหรอคะ?”“ใช่ไง บอกแล้วว่าเธอต้องอยู่ในสายตาของฉันตลอด”“แต่ว่าเรา..”“เธอไม่มีสิทธิ์เลือก อย่าลืมว่าในท้องของเธอ คือลูกของฉัน”“.....” ใช้คำพูดนี้มาเป็นข้ออ้างแล้วเธอจะไปขัดอะไรได้ล่ะ ในท้องของเธอมีลูกของเขาอยู่มันก็เรื่องจริง แต่เธอแค่อยากได้ความเป็นส่วนตัวเหมือนกับตอนที่อยู่ที่บ้านหลังเดิมมันก็เท่านั้น“เอาของไปเก็บให้เรียบร้อยตามที่ฉันสั่ง”“ค่ะคุณโอนิกซ์”“คุณชื่อโอนิกซ์เหรอ?” เธอถามเสียงแผ่ว เพราะเพิ่งรู้ว่าเขาชื่อนี้ มันก็คงไม่แปลกหรอกเนอะ เพราะเธอไม่ได้รู้จักกับเขามาก่อนนี่นา อีกอย่างก็ไม่ได้ถามชื่อของเขามาก่อนด้วย “อืม เรียกว่านิคก็พอ ชื่อเล่นของฉัน”“ค่ะ”ดูท่าแล้วชื่อเล่นของเขาน้อยคนที่จะเรียกสินะ และก็ดูเหมือนว่าคนจะเกรงกลัวเ
น้ำเสียงนี้มันทำเอาเธอตกใจจนนั่งตัวแข็ง เธอจำได้ดีเลย เธอไม่เคยลืม เป็นเขาหรอกเหรอที่อยากเจอเธอ ไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้ มือเล็กกุมท้องของตัวเองไว้แน่น ท้องใหญ่แบบนี้จะปกปิดก็คงไม่ได้แล้วสินะ “หายไปหลายเดือน ฉันคิดว่าเธอจะติดต่อกลับมา” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย ก่อนจะหันมองเธอที่นั่งอยู่ข้างๆ กัน สายตาที่แข็งกร้าวนั้นมันทำให้เธอรีบหลบสายตาของเขาด้วยความกลัว“คือว่า...”“จะพูดอะไรอีก?”“คุณเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ เด็กในท้องของฉันไม่ใช่ลูกของคุณหรอก ฉันแต่งงานมีสามีแล้วค่ะ”“หน้าตาของฉันเหมือนคนโง่ขนาดนั้นเลยหรือไง?!”น้ำเสียงที่เกรี้ยวกราดของเขาทำเอาเธอตกใจจนสะดุ้ง คอหดเหมือนกับสัตว์ที่กำลังหวาดกลัว แหงล่ะ น้ำเสียงของเขามันทุ้มน่ากลัวมากเลยด้วย“ปะ เปล่านะคะ ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นเลย”“แต่งงานแล้วไหนล่ะสามีของเธอ ทำไมไม่เห็นมาช่วยเธอทำงาน ฉันเห็นเธอทำงานอยู่คนเดียว”“เอ่อ...ระ เราแยกกันอยู่ค่ะ เขาทำงานอยู่อีกที่นึง”“ขนาดนี้แล้ว เธอยังจะโกหกอีกเหรอ หน้าตาฉันเหมือนเด็กอมมือหรือยังไง?”“คะ คุณพูดอะไรคะ ฉันไม่เข้าใจ”พรึ่บ!เอกสารซองสีน้ำตาลถูกยื่นให้แก่เธอ ถึงจะยังตกใจอยู่แต่ก็จำใจต้อ