บทที่ 2 ลำบาก
หลายนาทีต่อมา
ขุนเขาสละพื้นที่ตรงหน้าอกแกร่งให้เพียงเธอได้ใช้คลอเคลียและซับน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ขาดสาย เสื้อเขาเปียกเป็นวงกว้างแถมยังเปียกไปถึงผิวเนื้อด้านในอีกต่างหาก เมื่อร้องไห้ให้กับชีวิตน่าสมเพชตัวเองพอแล้วจึงผละออกจากอกแกร่ง มองคราบน้ำตาที่ตนเองเป็นคนสร้างขึ้นด้วยความรู้สึกผิด
"ขะ..ขอโทษนะคะ เดี๋ยวเพียงเอาไปซักให้นะ" ฝ่ามือน้อย ๆ ลูบคราบน้ำตาที่ยังเปียกปอนเบา ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับขุนเขาตรง ๆ "เพียงขอตัวกลับก่อนนะคะ เพียงคิดว่าเพียงทำงานให้คุณไม่เต็มที่"
"งั้นฉันไปส่ง จะได้เอาเสื้อให้เธอซักมาคืนด้วย" เด็กสาวทำหน้านิ่งอย่างใช้ความคิดหากแต่ริมฝีปากกลับขบเม้มเข้าหากัน ขุนเขาหลุดยิ้มเพราะเขาเดาใจเธอออกได้ไม่ยากเลย แววตาเอย สีหน้าเอยทุกอย่างล้วนแสดงออกมาจากความรู้สึกภายในใจเธอ
"ก็ได้ค่ะ แต่เพียงกลัวว่าจะทำให้คุณเดือดร้อน"
"ฮึ..ฉันไม่เคยกลัวใครอยู่แล้ว" ว่าจบขุนเขาก็ขยับตัวเพื่อให้เพียงเธอลุกขึ้นแล้วตัวเองก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เขาปรายตามองเพียงเธอแล้วจับมือเธอไว้หลวม ๆ ตั้งใจจะพาลงไปด้านล่างแต่เธอกลับรั้งมือเขาไว้ก่อน "ทำไม?"
"คุณมาช่วยเพียงแบบนี้..ไม่กลัวพวกนั้นตามไปรังควานเหรอคะ พวกมันคงไม่ยอมง่าย ๆ แน่"
"ฮึ ไม่กลัว ทำไมต้องกลัวด้วย?"
"ไม่รู้ค่ะ"
"ฉันก็คนมีมือมีตีนเหมือนกัน" เป็นครั้งแรกที่เขาได้พูดคุยกับเธอมากกว่าการนั่งนิ่ง ๆ ให้เธอนั่งบนหน้าตัก เพียงเธอเองก็รู้สึกแปลก ๆ เพราะไม่เคยคุยกับเขามากขนาดนี้ ทุกครั้งที่มาทำงานเขาก็แค่ให้เธอนั่งบนหน้าตักและดูเขาดื่มแค่นั้น ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันเลย มากสุดก็แค่ขอไปเข้าห้องน้ำ ไม่ก็ไปเอาเหล้ามาเสิร์ฟอีก
"ค่ะ" เพียงเธอตอบกลับเสียงเบาก่อนจะถูกขุนเขาดึงแขนเบา ๆ ให้เดินตามลงไปชั้นล่าง เธอถกชายกระโปรงเดินตามเขามาจนถึงรถยนต์หรูคันหนึ่งที่จอดอยู่ในที่ของลูกค้าวีไอพี ขุนเขาเปิดประตูรถฝั่งที่นั่งข้างคนขับแล้วพยักหน้าให้เธอเป็นการบอกให้เข้าไปนั่งด้านใน
ภายในรถถูกปกคลุมด้วยไอความเย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศในรถเพียงเธอที่ใส่ชุดเดรสเปิดไหล่เปิดอกรู้สึกหนาวจนตัวสั่นแต่ขุนเขาก็ไม่ได้หันมามองเธอจนกระทั่งรถขับเข้ามาในซอยห้องเช่า
"นั่นห้องเธอใช่ไหม" เขาถามหลังจากดับเครื่องยนต์แล้ว เพียงเธอปลดเข็มขัดแล้วตอบกลับเสียงเบา ขุนเขานั่งนิ่งไม่พูดอะไรต่อจนกระทั่งเด็กสาวเปิดประตูก้าวลงจากรถไป แต่เธอกลับเดินอ้อมมาฝั่งคนขับแล้วกวักมือทำสัญญาณให้เขาลดกระจกลง
"เข้าไปกินน้ำก่อนดีไหมคะ"
"…" ชายหนุ่มมองหน้าเจ้าของร่างบางเพียงนิด สมองกำลังประมวลผลตามคำพูดเธออยู่ ลงไปกินน้ำสักหน่อยคงไม่เป็นไรเดี๋ยวจะเสียน้ำใจคนชวน "อืม" หลังจากไตร่ตรองดีแล้วจึงตอบรับสั้น ๆ ในคอ
ขุนเขาเปิดประตูก้าวลงจากรถพลางหยิบบุหรี่ขึ้นมาคาบไว้ขณะเดียวกันสายตาก็กวาดมองไปรอบ ๆ ราวกับเครื่องสแกนก็ไม่ปาน ที่แบบนี้เธออยู่ไปได้ยังไงไหนล่ะความปลอดภัย? สำหรับเขามันแทบไม่มีสิ่งน่าพึงประสงค์เลย รู้ตัวอีกทีเขายืนอยู่กลางห้องเช่าแคบ ๆ แล้ว ขุนเขายกมือขึ้นมาคีบบุหรี่ออกจากปากแล้วมองไปรอบ ๆ ห้องเล็กแคบที่มีเพียงที่นอนกับโต๊ะเครื่องแป้งหนึ่งตัว อ่อ! ถัดไปก็เป็นตู้เสื้อผ้าเล็ก ๆ อีกหนึ่ง ไหนล่ะห้องครัว(?)
"เธออยู่คนเดียว?" เขาถามเสียงเรียบ
"ค่ะ" แม้ภายนอกจะดูไม่น่าเข้ามาเท่าไรแต่ภายในสะอาดสะอ้านมาก ข้าวของเก็บเป็นระเบียบเรียบร้อยแม้กระทั่งผ้าห่มยังถูกพับเป็นระเบียบราวกับไม่เคยคลี่ใช้มาก่อน "น้ำค่ะ" เพียงเธอยื่นขวดน้ำดื่มให้ขุนเขาแล้วก้มหน้าลงเมื่อเขาหันมาสบตา
"ห้องเช่านี้จ่ายเงินเดือนเท่าไหร่?"
"เดือนล่ะสองพันห้าร้อยค่ะ"
"แพงสัตว์!" เขาหลุดพูดคำหยาบคายออกมา เมื่อรู้ตัวว่าเผลอพูดออกไปจึงรีบกระดกน้ำลงคออึกใหญ่ "งั้นฉันกลับก่อน"
"เดี๋ยวค่ะ" เธอคว้าได้ชายเสื้อเขาจนขุนเขาต้องหยุดฝีเท้ากะทันหันแล้วเอี้ยวหน้ากลับมามองมือเรียวบางที่จับชายเสื้อตัวเองไว้ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของมืออย่างเป็นคำถาม "ขอบคุณนะคะที่ช่วย เพียงไม่รู้ว่าต้องขอบคุณคุณยังไงดี"
"ไม่ต้องขอบคุณ" เขาพูดมาแบบนั้นเพียงเธอจึงปล่อยมือ ขุนเขาเดินออกมาพร้อมกับจุดบุหรี่สูบพ่นควันสีขาวคละคลุ้งก่อนขึ้นรถแล้วขับออกไป
เพียงเธอเปิดประตูออกมาดูรถยนต์หรูที่เคลื่อนตัวออกไปจากหน้าห้องจนลับตาค่อยปิดประตูลงกลอนแน่นหนา หัวใจดวงน้องเต้นแรงอย่างหาสาเหตุไม่ได้ เธอทรุดนั่งลงบนที่นอนพลางยกมือขึ้นมากุมหน้าอกข้างซ้าย
"เฮ้อ..แล้วจะไปทำงานยังไง" แน่นอนว่าไอ้เสี่ยพุงพลุ้ยนั่นไม่ยอมจบง่าย ๆ แน่แล้วแบบนี้เธอจะทำงานยังไง เงินก็ต้องใช้ข้าวก็ต้องกิน เฮ้อ..ทำไมไม่มีเศรษฐีมาตกหลุมรักเธอเหมือนในนิยายบ้างนะ เพียงเธอยกมือปาดเหงื่อจากกรอบหน้าแล้วไปอาบน้ำชำระร่างกาย
วันต่อมา
เพียงเธอนอนซมเพราะพิษไข้อยู่ภายในห้องแม้สมองจะสั่งการให้เธอลุกขึ้นไปกินข้าวกินยาแต่เรี่ยวแรงอันน้อยนิดก็ไม่สามารถพาร่างกายหนักอึ้งลุกขึ้นไปได้
"ชีวิตเราจะจบลงแบบนี้เหรอ.." เธอตัดพ้อทั้งน้ำตาที่เอ่อคลอเบ้าด้วยความน้อยใจในโชคชะตาตัวเอง จากนั้นเพียงเธอจึงฮึดสู้ลุกขึ้นมาหาอะไรกินรองท้องก่อนกินยาลดไข้แล้วกลับไปนอนเหมือนเดิม หากหอบสังขารไปทำงานคงไม่พ้นได้หามส่งโรงพยาบาลแน่
ปึง ๆ
เพียงเธอสะดุ้งโหยงขณะที่กำลังเคลิ้มหลับ เสียงเคาะประตู ไม่สิทุบประตูเมื่อครู่ทำขวัญเธอกระเจิดกระเจิงไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้
"เปิดประตู!" เพียงเธอพ่นลมหายใจออกหนัก ๆ นี่มันเสียงเจ๊เจ้าของห้องเช่านี่หน่า ร่างบอบบางเดินโซเซมาเปิดประตู "ค่าห้อง เลยมาสองวันแล้วนะ"
"หนูยังไม่มีเงินเลยค่ะ หนูถูกพักงานอยู่ เอาไว้หนูได้ทำงานมีเงินแล้วจะรีบเอาไปจ่ายนะคะ"
"ถ้าไม่เห็นแก่ยายสานะฉันไล่เธอออกไปนานแล้วเพียง ทำงานเป็นผู้หญิงบริการแบบนั้นก็น่าจะได้เงินเยอะ ๆ บ้างสิ" เจ๊ร่างท้วมปากแซ่บไม่ต่างจากไอ้เสี่ยพุงพลุ้ยนั่นพ่นคำดูถูกเพียงเธอสารพัดแต่เธอเลือกที่จะมองผ่านและไม่เก็บมาใส่ใจ อย่างน้อย ๆ เจ๊แกก็ไม่เคยขึ้นค่าเช่าทั้งที่ที่พักรอบนอกขึ้นกันแทบทุกเจ้า
"ขอบคุณค่ะ เพียงมีเงินพอแล้วจะรีบเอาไปให้เลยนะคะ"
"ยะ! ไปโดนผู้ชายฟันฟรีมาสินะถึงได้อยู่สภาพแบบนี้" คำพูดนั้นแม้คนพูดจะเดินห่างออกไปไกลเรื่อย ๆ แต่ก็ได้ยินชัดเจนสำหรับเพียงเธอ
"เฮ้อ..ขืนเป็นแบบนี้อีกมีหวังถูกไล่ออกจากห้องแน่นอน" ระหว่างอดตายกับไม่มีที่ซุกหัวนอนเธอคิดไม่ตกจริง ๆ เพียงเธอทิ้งตัวนอนลงอีกครั้งหวังเอาแรงเพื่อไปทำงานอีก นอนพักสักสองสามชั่วโมงน่าจะดีขึ้นไม่มากก็น้อย
บทที่ 3 หาเรื่องใส่ตัว19:00ขุนเขานั่งทำความสะอาดโต๊ะวางอุปกรณ์การสักอยู่ในห้องทำงานคนเดียว มีเพียงเสียงเพลงคลาสสิคเบา ๆ เท่านั้นที่ทำให้ความเงียบไม่ก่อตัวขึ้นกริ่ง!เสียงกระดิ่งตรงประตูทางเข้าร้านดังขึ้นทำใหเขาต้องปลีกตัวออกมาจากห้องทำงานส่วนตัว "มีอะไรเหรอครับ" ขุนเขาถามอย่างสุภาพ"มาเจอคนชื่อขุน""ครับ ผมเอง" เขาถอดถุงมือยางสีดำออกแล้วหันมาสบตากับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่แต่ทว่ากลับมีผู้ชายสองคนเปิดประตูเข้ามาก่อน บดินทร์กับปกป้องเอียงคอมองขุนเขาอย่างมึนงงที่เห็นเขากำหมัดแน่นก่อนที่ทั้งสองจะซอยเท้าถี่ ๆ มายืนข้างเพื่อน"มีไรวะ" ปกป้องกระซิบถาม"ไม่รู้ คุณเขาน่าจะมาผิดที่มั้ง""งั้นพรุ่งนี้มาหาใหม่!" ว่าจบชายคนดังกล่าวก็เดินออกไปด้วยท่าทางหัวเสียอย่างหนักที่ถูกขัดจังหวะ"มันคงไม่ได้หลงมาหรอก คงตั้งใจมาหาเรื่องกู" ขุนเขานั่งลงบนเก้าอี้ที่ไว้รับลูกค้าแล้วมองหน้าเพื่อนทั้งสองซึ่งกำลังมองเขาอยู่ตอนนี้ "ก็นี่ไง กำลังจะพูดแล้วนี่ไง""ไปมีเรื่องกับใครมา" บดินทร์ถามหน้าเครียด ปกติขุนเขาไม่ชอบหาเรื่องใครก่อน แต่ก็ไม่แน่ว่าเขาอาจจะเมาแล้วไปก่อเรื่องไว้"ไปช่วยเด็กคนหนึ่งจากการถูกทำร้ายมา พวกนั้นไ
บทที่ 4 ข้อตกลง(พื้นที่ส่วนตัว)เพียงเธอกำมือแน่นเมื่อเขาโน้มตัวมาใกล้ ๆ อีก “ระหว่างที่เธอหลบอยู่ที่นี่ ข้อหนึ่ง ห้ามสร้างความวุ่นวายในห้องและนอกห้อง สอง ห้ามทำข้าวของในห้องพังหรือเสียหาย สามห้ามเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวฉันและห้ามหยิบจับอะไรโดยไม่ได้รับอนุญาต สี่..ห้ามส่งเสียงดัง ห้า..ห้าม” ‘ห้ามอะไรอีกวะ’ เขาพยายามนึกแต่ก็นึกไม่ออก“ห้ามอะไรเหรอคะ” เพียงเธอถามเสียงหวาน“เอาไว้จะบอกแล้วกัน” ขุนเขาพ่นลมหายใจออกหนัก ๆ แล้วเดินหายเข้าไปในห้องนอนส่วนตัว ไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมกับเสื้อเชิ้ตหนึ่งตัว“มีแค่นี้ ใส่ไปก่อนแล้วพรุ่งนี้จะพาไปเอาเสื้อผ้าที่ห้องแล้วกัน”“ขอบคุณค่ะ” เธอยกมือไหว้จนขุนเขารีบยกมือรับไหว้ไม่ทัน เขาไม่ชินกับการมีคนมาอยู่ด้วยแบบนี้ เพราะปกติชอบอยู่คนเดียวเงียบ ๆ มากกว่า“เธอเรียนอยู่ที่ไหน” ชายหนุ่มหันหลังเดินไปสูบบุหรี่เมื่อถามเธอแล้ว เพียงเธอเม้มริมฝีปากแน่นแล้วเอ่ยตอบ“เรียนอยู่ปีหนึ่งมหาวิทยาลัย..ค่ะ” เพียงเธอตอบไปตรง ๆ ขณะเดียวกันก็มองหาห้องน้ำเพื่อจะอาบน้ำแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย เธอเห็นปลายผมเขาพลิ้วไหวน้อย ๆ เลยคิดเอาเองว่าขุนเขารับรู้แล้ว แต่จู่ ๆ เขาก็เดินเข้ามาในห้
บทที่ 5 อบอุ่นหัวใจเพียงเธอปิดประตูห้องแน่นหนาแล้วเดินกลับไปนั่งลงบนโซฟาตัวเดิมที่ใช้เป็นที่นอนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ความนุ่มนิ่มของมันเล่นเอาเธอปวดหลังเลยล่ะ กำปั้นน้อย ๆ ทุบเอวตัวเองเบา ๆ แล้วขยับไปทุบหลังด้วย ก่อนจะเดินดูรอบห้องขุนเขาเมื่อมีโอกาสตอนที่เขาไม่อยู่"ว้าว..อันนี้ราคาท่าจะแพง" เธอมองชุดถ้วยน้ำชาที่ตั้งอยู่ในตู้โชว์ด้วยดวงตาแววตาเป็นประกาย เพียงเธอกำมือตัวเองแน่นเพื่อหักห้ามใจไม่ให้ยกขึ้นมาจับสิ่งของสวยงามตรงหน้าแล้วรีบหันหลังเดินกลับไปนั่งที่โซฟาตัวเดิม นี่ก็เพิ่งเจ็ดโมงเช้าเองจะให้เธอนั่งเหงา ๆ รอเขาจนถึงเที่ยงมันก็ยังไงอยู่"เปิดทีวีดูก็ยังดี" ว่าแล้วก็กวาดสายตามองหารีโมททีวีแต่หาเท่าไรก็หาไม่เจอจนรู้สึกท้อใจ จนกระทั่งเห็นรีโมทอันหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นรีโมททีวีแต่พอได้มาถือไว้ในมือแล้วกลับไม่กล้าเปิด เธอจึงเดินไปที่โต๊ะตั้งโทรศัพท์บ้าน "จะโทรไปถามพี่ขุนดีไหม.." เพียงเธอคิดไม่นานก็โทรไปหาพนักงานที่อยู่หน้าล็อบบี้ตามเบอร์ที่ติดไว้บนโต๊ะแล้วขอเบอร์โทรศัพท์ขุนเขามาก่อนจะโทรไปหาเขาณ ร้านสักลาย"ไอ้ขุน..โทรศัพท์มึงดังอะ ให้กูรับให้ไหม" ปรินที่กำลังนั่งเล่นเกมอยู่ด้านนอกตะโกน
บทนำ"เพียง เธอต้องออกไปรับแขกวีไอพีแล้วนะ" ร่างบางที่กำลังนั่งประทินโฉมอยู่หน้ากระจกแบบตั้งโต๊ะเล็ก ๆ รีบพยักหน้าให้รุ่นพี่ ปลายนิ้วเรียวยาวปาดลิปสติกออกจากมุมปากแล้วลุกขึ้นหมุนตัวเช็กความเรียบร้อย"พี่เขาจะมาไหมนะ" เพียงเธอพึมพำกับตัวเองแล้วเดินออกมาจากห้องแต่งตัว เสียงเพลงดังกระหึ่มเริ่มชัดขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเท้าทั้งสองข้างหยุดอยู่ด้านหลังประตูทางเข้าผับ เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ แล้วเปิดประตู กรีดกรายเดินเข้ามาในผับที่เต็มไปด้วยไฟแสงสีและเสียงเพลงที่ทางดีเจเป็นคนจัดการที่เธอทำงานในผับแบบนี้เรื่องหวงเนื้อหวงตัวแทบไม่ได้คิดเลย ถูกจับมือจับตัวเป็นเรื่องธรรมดาแต่ก็มีบ้างที่ถูกลวนลามแต่ก็เลี่ยงที่จะเข้าไปหากลุ่มคนประเภทนั้นโดยมีรุ่นพี่คอยช่วยเหลือเพียงเธอเดินขึ้นมาชั้นสองโซนวีไอพี สิ่งแรกที่เธอมองหาคือชายหนุ่มคนหนึ่งที่มักจะนั่งอยู่มุมด้านในของโซนวีไอพี เธอกับเขาไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวแต่ทุก ๆ ครั้งที่เขามาจะต้องเรียกใช้เธอตลอด แต่สิ่งที่เขาให้ทำกลับสวนทางกับลูกค้าคนอื่น คือเขาจะให้เธอนั่งบนหน้าตักแล้วซบหน้าลงกับอกโดยไม่ต้องทำอะไรมากกว่านั้น ชงเหล้าก็ไม่ให้ทำแถมยังให้ทิปเป็นการส
บทที่ 1 คุ้นเคยเพียงเธอถอยออกห่างจากราวสะพานหนึ่งก้าวท่ามกลางสายลมที่พัดมากระทบใบหน้าแดงซ่าน พาให้หยาดน้ำตาไหลออกจากขอบตาแดงก่ำเหือดหายไปเสียงที่คุ้นหูและกลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคย..ใช่เขาแน่ ๆขุนเขาเดินเข้าไปใกล้ ๆ แล้วจับแขนเธอไว้ออกแรงดึงให้ออกห่างจากราวสะพานด้วยกลัวว่าเธอจะขัดขืนแล้วกระโดดลงไป"เธอ..คิดจะทำอะไร" คำถามไร้ซึ่งคำตอบนั้นพาให้บรรยากาศโดยรอบดูน่าอึดอัดเข้าไปอีก เพียงเธอมองหน้าชายคนตรงหน้าไม่ละสายตา เธอไม่ได้คิดสั้นแต่อยากปรับอารมณ์และยืนรับลมให้หายฟุ้งซ่านก่อนเข้าบ้านก็เท่านั้น"เปล่าค่ะ""…" ขุนเขาไม่ถามอะไรต่อ เขามองปราดเดียวก็พอรู้ว่าเธอเจอเรื่องแย่ ๆ มาจึงถอดเสื้อไปคลุมไหล่ให้ "บ้านอยู่ตรงไหน เดี๋ยวฉันไปส่ง""ลงสะพานไปแล้วเลี้ยวขวาค่ะ ห้องเช่าเจ๊พร""อืม ขึ้นรถสิ" คำชวนที่พาให้รู้สึกโล่งอก เพียงเธอกระชับเสื้อที่เขาคลุมไหล่ให้แน่นขึ้น เดินตามมาที่รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ ขุนเขาก้าวไปนั่งก่อนและสตาร์ทเครื่องรอขณะที่เพียงเธอเดินกระเผลก ๆ มาเรื่อย ๆ จนถึงรถ เธอไม่รู้ว่านี่คือโชคชะตาหรือเรื่องบังเอิญที่เขาขับรถผ่านมาเจอ "ยืนคิดให้เสร็จก่อนแล้วกัน เดี๋ยวเรียกแท็กซี่ให้" ขุนเขาพ