บทที่ 1 คุ้นเคย
เพียงเธอถอยออกห่างจากราวสะพานหนึ่งก้าวท่ามกลางสายลมที่พัดมากระทบใบหน้าแดงซ่าน พาให้หยาดน้ำตาไหลออกจากขอบตาแดงก่ำเหือดหายไป
เสียงที่คุ้นหูและกลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคย..ใช่เขาแน่ ๆ
ขุนเขาเดินเข้าไปใกล้ ๆ แล้วจับแขนเธอไว้ออกแรงดึงให้ออกห่างจากราวสะพานด้วยกลัวว่าเธอจะขัดขืนแล้วกระโดดลงไป
"เธอ..คิดจะทำอะไร" คำถามไร้ซึ่งคำตอบนั้นพาให้บรรยากาศโดยรอบดูน่าอึดอัดเข้าไปอีก เพียงเธอมองหน้าชายคนตรงหน้าไม่ละสายตา เธอไม่ได้คิดสั้นแต่อยากปรับอารมณ์และยืนรับลมให้หายฟุ้งซ่านก่อนเข้าบ้านก็เท่านั้น
"เปล่าค่ะ"
"…" ขุนเขาไม่ถามอะไรต่อ เขามองปราดเดียวก็พอรู้ว่าเธอเจอเรื่องแย่ ๆ มาจึงถอดเสื้อไปคลุมไหล่ให้ "บ้านอยู่ตรงไหน เดี๋ยวฉันไปส่ง"
"ลงสะพานไปแล้วเลี้ยวขวาค่ะ ห้องเช่าเจ๊พร"
"อืม ขึ้นรถสิ" คำชวนที่พาให้รู้สึกโล่งอก เพียงเธอกระชับเสื้อที่เขาคลุมไหล่ให้แน่นขึ้น เดินตามมาที่รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ ขุนเขาก้าวไปนั่งก่อนและสตาร์ทเครื่องรอขณะที่เพียงเธอเดินกระเผลก ๆ มาเรื่อย ๆ จนถึงรถ เธอไม่รู้ว่านี่คือโชคชะตาหรือเรื่องบังเอิญที่เขาขับรถผ่านมาเจอ "ยืนคิดให้เสร็จก่อนแล้วกัน เดี๋ยวเรียกแท็กซี่ให้" ขุนเขาพ่นลมหายใจออกเบา ๆ ที่เธอเอาแต่ยืนนิ่งคิดอะไรจนใจลอยไม่ยอมขึ้นรถกับเขาสักที
"ขอโทษค่ะ" อยากจะถามเหลือเกินว่าทำไมวันนี้เขาไม่ไปดื่ม หรือว่าเขา..มีครอบครัวอยู่แล้วนะ เด็กสาวก้าวขึ้นมานั่งซ้อนท้ายเขา เธอค่อนข้างกลัวแต่นี่ก็ไม่ใช่การซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ครั้งแรก เรียกว่าไม่ค่อยชินมากกว่า เพียงเธอกลั้นใจแล้วสอดมือไปโอบเอวสอบไว้หลวม ๆ เมื่อแน่ใจแล้วว่าเธอนั่งเรียบร้อยแล้วขุนเขาจึงขับรถไปส่งที่ห้อง
"ตรงไหน" ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงเรียบพลางมองกระจกหลังเมื่อเห็นว่าเธอหลับตาปี๋อยู่จึงถอนหายใจหนัก ๆ แล้วปล่อยมือจากแฮนด์รถมาจับมือเธอไว้เบา ๆ
"อ๊ะ..อ๋อข้างหน้านี้เลยค่ะ" เพียงเธอลืมตาขึ้นมาแล้วชี้ไปที่ห้องเช่าเก่า ๆ ห้องหนึ่ง ขุนเขาขับมาจอดเทียบทางเดินและดับเครื่องยนต์
"ขอบคุณนะคะ ขอบคุณจริง ๆ ที่มาส่ง หนูไม่รู้ว่าจะให้อะไรเป็นการตอบแทน" ขุนเขาไม่ได้มองหน้าเธอแต่เขาสตาร์ทรถแล้วขับออกไปด้วยความเร็ว ทำเอาหัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ มองตามไฟท้ายรถสีแดงจ้าจนลับตาไปเธอค่อยเดินเข้ามาในห้อง ร่างบอบบางสั่นสะท้อนเปล่งเสียงสะอื้นไห้อย่างหนัก แขนเรียวเล็กกอดตัวเองไว้แน่น
เพียงเธอนั่งร้องไห้อยู่ในห้องนานหลายนาทีจนตาบวม เธอนอนทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งคืนจนหลับไปในตอนตีสี่กว่า ๆ ในขณะที่ขุนเขานั่งดื่มอยู่ที่คลับที่ประจำจนเกือบเช้า
"โธ่ไอ้เพื่อนเวร จะเช้าอยู่แล้วเรียกกูมาแดกเหล้าด้วย" ปรินกระแทกตัวนั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้ามกับขุนเขา เขาสำรวจร่องรอยการดื่มของเพื่อนแล้วปรบมือให้อย่างเหลือเชื่อ "สุดมาก สุดยอดมากเลยว่ะ กูคิดว่าไอ้เหี้ยโชนคอแข็งแล้วนะมึงแม่งคอแข็งกว่าไอ้โชนอีก"
"กูก็ดื่มเรื่อย ๆ"
"ไหงมาคนเดียวเอ๊…น้องคนสวย ๆ นั่นไปไหนแล้ว" ปรินชะเง้อมองหน้ามองหลังเผื่อว่าเธอจะไปเข้าห้องน้ำหรือกำลังบริการแขกคนอื่นอยู่ "ไปไหนวะ"
"ไม่มา"
"อ้าว..แบบนี้พี่ขุนกูก็เหงาแย่เลยสิเนี่ย"
"พูดมากจริง แดก ๆ ไปเหอะน่า"
"กูถามจริง ๆ เถอะนะ มึงรู้จักน้องเขาเป็นการส่วนตัวเหรอ?"
"ไม่" ขุนเขาตอบเสียงเรียบพลางยกเหล้าขึ้นมาจิบเล็กน้อย ก่อนจะจุดบุหรี่สูบเพื่อผ่อนคลาย "กูแค่รู้สึกดีตอนที่มีคนคอยเอาใจเท่านั้น"
"อ่า เหมือนกันนั่นแหละ ใครก็ชอบเวลาสาว ๆ มาดูแลถึงที่แบบนี้" ปรินอมยิ้มกว้างเมื่อสาวชุดเดรสสีดำเดินเข้ามานั่งตัก ขุนเขาที่เห็นถึงกับส่ายหน้าไปมาเบา ๆ "น้องพอจะรู้จักคนที่สวย ๆ ที่ชอบมานั่งตักเพื่อนพี่ไหมครับ ทำไมวันนี้น้องเขาไม่มาล่ะ" ปรินหลุดปากถามจนได้
"อ๋อ..น้องเขามีเรื่องกับแขกนิดหน่อยค่ะ แต่เห็นบอกกลับไปทำงานส่งอาจารย์มั้ง น้องเขายังเรียนอยู่น่ะค่ะ"
"อ๋อ..เป็นแบบนี้นี่เอง"
ขุนเขาพ่นลมหายใจออกหนัก ๆ เขารู้สาเหตุแล้วว่าทำไมสภาพเธอถึงเยิ่นขนาดนั้น ที่แท้ก็มีเรื่องกับแขกที่คลับนี่เอง
"ไอ้ขุน คิดเหี้ยอะไรอยู่กูเรียกตั้งหลายรอบละ"
"เปล่า กูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ" ขุนเขาลุกออกมาพลางกดโทรศัพท์มือถือเล่นไปด้วย
ปึก!
จู่ ๆ มีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาชนไหล่จนขุนเขาเซไปด้านหลัง เขารีบเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋ากางเกงพลางมองหน้าผู้ชายที่เดินมาชน
"ทางก็กว้าง ทำไมเดินมาชนกันได้" ขุนเขาเอ่ยถามอย่างใจเย็น
"โทษทีว่ะน้อง พี่ไม่ทันมอง"
เขาตั้งใจจะไม่เอาเรื่องแล้วปลีกตัวออกมาจากตรงนั้นแต่ก็ต้องหยุดเมื่อได้ยินคำสนทนาผู้ชายคนนั้นกับเพื่อนเขา
"แม่งนายให้มารอเด็กคนนั้นเผื่อมันจะย้อนกลับมาอีก"
มันเพิ่งโดนไปไม่น่าจะกลับมาง่ายหรอก แต่ก็รอต่อไปอยู่ที่นี่ก็สนุกดีเหมือนกัน"
ปลายลิ้นดันกระพุ้งแก้มแล้วหันกลับไปมองผู้ชายสองคนนั้นด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์
หลายนาทีที่ขุนเขาปล่อยให้ปรินนั่งคุยกับเด็กอยู่ที่โต๊ะ เพราะเขาลงไปสืบข่าวของเด็กคนนั้นจนได้เรื่องมานิดหน่อย
"หายหัวไปนานเกิน นึกว่าตกส้วมตายไปแล้ว"
"กูไปสั่งเหล้า"
"ยังไม่พอเหรอวะ แม่งจะเช้าแล้วเนี่ย" ปรินชี้ไปที่ข้อมือเพื่อให้ขุนเขาดูเวลา แต่เขาไม่ได้สนใจและรินเหล้าดื่มต่อจนถึงตีห้าสี่สิบนาทีถึงกลับคอนโด แต่ก่อนจะถึงคอนโดเขากับปรินก็แวะใส่บาตรทำบุญให้ตัวเองบ้างเผื่อผลบุญจะให้เจ้ากรรมนายเวรตามพวกเขาไม่ทัน
"ใส่บาตรในรอบห้าเดือน รู้สึกเหมือนทำบุญมาตลอดหนึ่งปี สดชื่น…" ปรินกางแขนรับอากาศเย็นสดชื่นในยามเช้ามืดขณะที่รถกำลังแล่นสวนกันในเช้าวันทำงานของใครหลายคนแต่วันนี้กลับเป็นวันหยุดของขุนเขากับเพื่อน ๆ เพราะอาจารย์ยกคลาสไปเป็นพรุ่งนี้
"กูขอตัวก่อน"
"เออ ๆ กลับดี ๆ นะมึง" สองหนุ่มล่ำลากันเสร็จก็แยกย้ายกันกลับห้องใครห้องมัน พอมาถึงขุนเขาก็รีบอาบน้ำแล้วเข้านอนเอาแรงเพื่อจะได้เปิดร้านสักต่ออีกช่วงบ่าย
หลายวันต่อมา เพียงเธอไม่ได้ไปทำงานที่คลับหลายวันด้วยกลัวว่าพวกของเสี่ยจะตามไปเอาเรื่องที่นั่น แต่วันนี้เธอตั้งใจจะไปทำงานหยุดหลายวันก็ขาดรายได้ไปหลายบาท ตอนนี้ก็เป็นเวลาหนึ่งทุ่มกว่า ๆ ร่างบอบบางในชุดสบาย ๆ เดินออกมาจากห้องพร้อมกระเป๋าหนึ่งใบ มุ่งตรงไปยังคลับที่ตนเองทำงานอยู่
20:30
เพียงเธอแต่งหน้าทำผมเสร็จก็ออกมาเอนเตอร์เทนลูกค้าตามปกติของเธอ ในใจก็ขอให้ได้เจอกับผู้ชายคนนั้นอีก เธอจะขอบใจเขาเพราะก่อนจะเข้างานเธอแวะซื้อขนมตั้งใจจะเอามาให้โดยเฉพาะ
ปึก!
"น้องคนสวย..พี่รอหนูอยู่ตั้งหลายวันทำไมเพิ่งโผล่หัวมาล่ะจ๊ะ" ฝ่ามือหนากระชากแขนเพียงเธอจนเธอเจ็บ แรงมหาศาลทำให้ร่างเล็กถลาไปตามแรงดึงของชายร่างยักษ์อย่างง่ายดาย
พรึบ!
เธอถูกเหวี่ยงลงกับพื้นด้านหลังร้านก่อนที่เสี่ยคนเดิมจะเดินเข้ามา
"แสบนักนะยัยหนู" มือหนาบีบคางเพียงเธอแน่นจนเธอร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด แต่เสียงเอะอะโวยวายก็ทำให้คนที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ได้ยิน "ถอดเสื้อผ้ามันออก!" สิ้นเสียงคำสั่งผู้เป็นนายชายร่างยักษ์ก็เดินเข้ามากระชากชุดเพียงเธอทำให้มันขาดเล็กน้อย
"ใช่..น้องที่เรียกให้ไปเอนเตอร์เทนไหม" ขุนเขาเดินออกมาจากด้านหลังต้นไม้หลังจากสูบบุหรี่เสร็จ เขาย่อเข่านั่งลงและก้มหน้ามองหญิงสาวที่นั่งตัวสั่นเทาอยู่กับพื้น
"คะ..?" เพียงเธอตอบเสียงสั่นก่อนที่มือเธอจะถูกขุนเขาจับไว้ สัมผัสจากฝ่ามือหนาเรียกน้ำตาที่กำลังไหลให้หลั่งออกมาด้วยความโล่งอก อยู่กับเขาเธอไม่รู้สึกกลัวเหมือนเมื่อหลายนาทีก่อนเลย
"งั้นไปกัน" ขุนเขาพยุงเพียงเธอลุกขึ้นแล้วจูงมือเธอหมายจะพาเข้าไปในคลับแต่ถูกคนของเสี่ยกันทางไว้ก่อน "หาเรื่องเด็กในคลับไม่พอ ยังจะมาหาเรื่องแขกอีก..อ่า ไม่อยากเป็นคนใจเย็นเลยว่ะ"
"พะ..พี่คะ อย่าไปเสียเวลากับพวกเขาเลย" เพียงเธอรีบห้ามขุนเขาเพราะไม่อยากให้เขามาเสียเวลากับไอ้พวกไร้ประโยชน์นี้ ขุนเขากำมือเธอแน่นขึ้นแล้วหันไปมองหน้าเสี่ยที่กำลังยิ้มเย้ยหยัน
"อย่ามาเสือกดีกว่าไอ้หนุ่ม"
"ไม่ได้เสือก ผู้หญิงคนนี้ฉันจ่ายเงินให้เธอไปเอนเตอร์เทนแล้ว คนที่เสือกน่าจะเป็นพวกแกมากกว่านะ"
"ไอ้เด็กนี่ปากดีเหมือนกันนะเนี่ย" ขุนเขาเดินเข้าไปหาแต่ไม่ทันได้ทำอะไรบอดีการ์ดที่คุมเข้มในคลับก็เข้ามาก่อน เขาจึงพาเพียงเธอขึ้นมาชั้นสองที่โต๊ะประจำ
"ขอบคุณค่ะ" เพียงเธอปล่อยมือจากการจับกุมแล้วถอยออกห่างจากขุนเขาหนึ่งก้าว สภาพเธอตอนนี้ไม่เหมาะที่จะมาเอนเตอร์เทนเขาเลย แต่ทว่าขุนเขากลับตบฝ่ามือลงบนหน้าขาตัวเองเบา ๆ เป็นการบอกให้เธอนั่งลงเหมือนเดิม เพียงเธอกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอแล้วนั่งลงบนหน้าตักขุนเขา
เขายกมือขึ้นมาลูบแผ่นหลังสั่นสะท้านน้อย ๆ แล้วค่อย ๆ ลูบผมเธอจนกระทั่งเพียงเธอยอมซบหน้าลงกับอกแกร่งแล้วร้องไห้ออกมาอย่างหนัก สัมผัสที่คุ้นเคยจากเขาขับไล่ความกลัวในใจเธอ ที่ร้องไห้เพราะโล่งอกและรู้สึกปลอดภัยที่มีเขาอยู่ใกล้ ๆ แม้จะไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวมากนัก
บทที่ 2 ลำบากหลายนาทีต่อมา ขุนเขาสละพื้นที่ตรงหน้าอกแกร่งให้เพียงเธอได้ใช้คลอเคลียและซับน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ขาดสาย เสื้อเขาเปียกเป็นวงกว้างแถมยังเปียกไปถึงผิวเนื้อด้านในอีกต่างหาก เมื่อร้องไห้ให้กับชีวิตน่าสมเพชตัวเองพอแล้วจึงผละออกจากอกแกร่ง มองคราบน้ำตาที่ตนเองเป็นคนสร้างขึ้นด้วยความรู้สึกผิด"ขะ..ขอโทษนะคะ เดี๋ยวเพียงเอาไปซักให้นะ" ฝ่ามือน้อย ๆ ลูบคราบน้ำตาที่ยังเปียกปอนเบา ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับขุนเขาตรง ๆ "เพียงขอตัวกลับก่อนนะคะ เพียงคิดว่าเพียงทำงานให้คุณไม่เต็มที่""งั้นฉันไปส่ง จะได้เอาเสื้อให้เธอซักมาคืนด้วย" เด็กสาวทำหน้านิ่งอย่างใช้ความคิดหากแต่ริมฝีปากกลับขบเม้มเข้าหากัน ขุนเขาหลุดยิ้มเพราะเขาเดาใจเธอออกได้ไม่ยากเลย แววตาเอย สีหน้าเอยทุกอย่างล้วนแสดงออกมาจากความรู้สึกภายในใจเธอ"ก็ได้ค่ะ แต่เพียงกลัวว่าจะทำให้คุณเดือดร้อน""ฮึ..ฉันไม่เคยกลัวใครอยู่แล้ว" ว่าจบขุนเขาก็ขยับตัวเพื่อให้เพียงเธอลุกขึ้นแล้วตัวเองก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เขาปรายตามองเพียงเธอแล้วจับมือเธอไว้หลวม ๆ ตั้งใจจะพาลงไปด้านล่างแต่เธอกลับรั้งมือเขาไว้ก่อน "ทำไม?""คุณมาช่วยเพียงแบบนี้..ไม่กลัวพวกนั้นต
บทที่ 3 หาเรื่องใส่ตัว19:00ขุนเขานั่งทำความสะอาดโต๊ะวางอุปกรณ์การสักอยู่ในห้องทำงานคนเดียว มีเพียงเสียงเพลงคลาสสิคเบา ๆ เท่านั้นที่ทำให้ความเงียบไม่ก่อตัวขึ้นกริ่ง!เสียงกระดิ่งตรงประตูทางเข้าร้านดังขึ้นทำใหเขาต้องปลีกตัวออกมาจากห้องทำงานส่วนตัว "มีอะไรเหรอครับ" ขุนเขาถามอย่างสุภาพ"มาเจอคนชื่อขุน""ครับ ผมเอง" เขาถอดถุงมือยางสีดำออกแล้วหันมาสบตากับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่แต่ทว่ากลับมีผู้ชายสองคนเปิดประตูเข้ามาก่อน บดินทร์กับปกป้องเอียงคอมองขุนเขาอย่างมึนงงที่เห็นเขากำหมัดแน่นก่อนที่ทั้งสองจะซอยเท้าถี่ ๆ มายืนข้างเพื่อน"มีไรวะ" ปกป้องกระซิบถาม"ไม่รู้ คุณเขาน่าจะมาผิดที่มั้ง""งั้นพรุ่งนี้มาหาใหม่!" ว่าจบชายคนดังกล่าวก็เดินออกไปด้วยท่าทางหัวเสียอย่างหนักที่ถูกขัดจังหวะ"มันคงไม่ได้หลงมาหรอก คงตั้งใจมาหาเรื่องกู" ขุนเขานั่งลงบนเก้าอี้ที่ไว้รับลูกค้าแล้วมองหน้าเพื่อนทั้งสองซึ่งกำลังมองเขาอยู่ตอนนี้ "ก็นี่ไง กำลังจะพูดแล้วนี่ไง""ไปมีเรื่องกับใครมา" บดินทร์ถามหน้าเครียด ปกติขุนเขาไม่ชอบหาเรื่องใครก่อน แต่ก็ไม่แน่ว่าเขาอาจจะเมาแล้วไปก่อเรื่องไว้"ไปช่วยเด็กคนหนึ่งจากการถูกทำร้ายมา พวกนั้นไ
บทที่ 4 ข้อตกลง(พื้นที่ส่วนตัว)เพียงเธอกำมือแน่นเมื่อเขาโน้มตัวมาใกล้ ๆ อีก “ระหว่างที่เธอหลบอยู่ที่นี่ ข้อหนึ่ง ห้ามสร้างความวุ่นวายในห้องและนอกห้อง สอง ห้ามทำข้าวของในห้องพังหรือเสียหาย สามห้ามเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวฉันและห้ามหยิบจับอะไรโดยไม่ได้รับอนุญาต สี่..ห้ามส่งเสียงดัง ห้า..ห้าม” ‘ห้ามอะไรอีกวะ’ เขาพยายามนึกแต่ก็นึกไม่ออก“ห้ามอะไรเหรอคะ” เพียงเธอถามเสียงหวาน“เอาไว้จะบอกแล้วกัน” ขุนเขาพ่นลมหายใจออกหนัก ๆ แล้วเดินหายเข้าไปในห้องนอนส่วนตัว ไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมกับเสื้อเชิ้ตหนึ่งตัว“มีแค่นี้ ใส่ไปก่อนแล้วพรุ่งนี้จะพาไปเอาเสื้อผ้าที่ห้องแล้วกัน”“ขอบคุณค่ะ” เธอยกมือไหว้จนขุนเขารีบยกมือรับไหว้ไม่ทัน เขาไม่ชินกับการมีคนมาอยู่ด้วยแบบนี้ เพราะปกติชอบอยู่คนเดียวเงียบ ๆ มากกว่า“เธอเรียนอยู่ที่ไหน” ชายหนุ่มหันหลังเดินไปสูบบุหรี่เมื่อถามเธอแล้ว เพียงเธอเม้มริมฝีปากแน่นแล้วเอ่ยตอบ“เรียนอยู่ปีหนึ่งมหาวิทยาลัย..ค่ะ” เพียงเธอตอบไปตรง ๆ ขณะเดียวกันก็มองหาห้องน้ำเพื่อจะอาบน้ำแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย เธอเห็นปลายผมเขาพลิ้วไหวน้อย ๆ เลยคิดเอาเองว่าขุนเขารับรู้แล้ว แต่จู่ ๆ เขาก็เดินเข้ามาในห้
บทที่ 5 อบอุ่นหัวใจเพียงเธอปิดประตูห้องแน่นหนาแล้วเดินกลับไปนั่งลงบนโซฟาตัวเดิมที่ใช้เป็นที่นอนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ความนุ่มนิ่มของมันเล่นเอาเธอปวดหลังเลยล่ะ กำปั้นน้อย ๆ ทุบเอวตัวเองเบา ๆ แล้วขยับไปทุบหลังด้วย ก่อนจะเดินดูรอบห้องขุนเขาเมื่อมีโอกาสตอนที่เขาไม่อยู่"ว้าว..อันนี้ราคาท่าจะแพง" เธอมองชุดถ้วยน้ำชาที่ตั้งอยู่ในตู้โชว์ด้วยดวงตาแววตาเป็นประกาย เพียงเธอกำมือตัวเองแน่นเพื่อหักห้ามใจไม่ให้ยกขึ้นมาจับสิ่งของสวยงามตรงหน้าแล้วรีบหันหลังเดินกลับไปนั่งที่โซฟาตัวเดิม นี่ก็เพิ่งเจ็ดโมงเช้าเองจะให้เธอนั่งเหงา ๆ รอเขาจนถึงเที่ยงมันก็ยังไงอยู่"เปิดทีวีดูก็ยังดี" ว่าแล้วก็กวาดสายตามองหารีโมททีวีแต่หาเท่าไรก็หาไม่เจอจนรู้สึกท้อใจ จนกระทั่งเห็นรีโมทอันหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นรีโมททีวีแต่พอได้มาถือไว้ในมือแล้วกลับไม่กล้าเปิด เธอจึงเดินไปที่โต๊ะตั้งโทรศัพท์บ้าน "จะโทรไปถามพี่ขุนดีไหม.." เพียงเธอคิดไม่นานก็โทรไปหาพนักงานที่อยู่หน้าล็อบบี้ตามเบอร์ที่ติดไว้บนโต๊ะแล้วขอเบอร์โทรศัพท์ขุนเขามาก่อนจะโทรไปหาเขาณ ร้านสักลาย"ไอ้ขุน..โทรศัพท์มึงดังอะ ให้กูรับให้ไหม" ปรินที่กำลังนั่งเล่นเกมอยู่ด้านนอกตะโกน
บทนำ"เพียง เธอต้องออกไปรับแขกวีไอพีแล้วนะ" ร่างบางที่กำลังนั่งประทินโฉมอยู่หน้ากระจกแบบตั้งโต๊ะเล็ก ๆ รีบพยักหน้าให้รุ่นพี่ ปลายนิ้วเรียวยาวปาดลิปสติกออกจากมุมปากแล้วลุกขึ้นหมุนตัวเช็กความเรียบร้อย"พี่เขาจะมาไหมนะ" เพียงเธอพึมพำกับตัวเองแล้วเดินออกมาจากห้องแต่งตัว เสียงเพลงดังกระหึ่มเริ่มชัดขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเท้าทั้งสองข้างหยุดอยู่ด้านหลังประตูทางเข้าผับ เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ แล้วเปิดประตู กรีดกรายเดินเข้ามาในผับที่เต็มไปด้วยไฟแสงสีและเสียงเพลงที่ทางดีเจเป็นคนจัดการที่เธอทำงานในผับแบบนี้เรื่องหวงเนื้อหวงตัวแทบไม่ได้คิดเลย ถูกจับมือจับตัวเป็นเรื่องธรรมดาแต่ก็มีบ้างที่ถูกลวนลามแต่ก็เลี่ยงที่จะเข้าไปหากลุ่มคนประเภทนั้นโดยมีรุ่นพี่คอยช่วยเหลือเพียงเธอเดินขึ้นมาชั้นสองโซนวีไอพี สิ่งแรกที่เธอมองหาคือชายหนุ่มคนหนึ่งที่มักจะนั่งอยู่มุมด้านในของโซนวีไอพี เธอกับเขาไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวแต่ทุก ๆ ครั้งที่เขามาจะต้องเรียกใช้เธอตลอด แต่สิ่งที่เขาให้ทำกลับสวนทางกับลูกค้าคนอื่น คือเขาจะให้เธอนั่งบนหน้าตักแล้วซบหน้าลงกับอกโดยไม่ต้องทำอะไรมากกว่านั้น ชงเหล้าก็ไม่ให้ทำแถมยังให้ทิปเป็นการส