บทที่ 4 ข้อตกลง(พื้นที่ส่วนตัว)
เพียงเธอกำมือแน่นเมื่อเขาโน้มตัวมาใกล้ ๆ อีก “ระหว่างที่เธอหลบอยู่ที่นี่ ข้อหนึ่ง ห้ามสร้างความวุ่นวายในห้องและนอกห้อง สอง ห้ามทำข้าวของในห้องพังหรือเสียหาย สามห้ามเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวฉันและห้ามหยิบจับอะไรโดยไม่ได้รับอนุญาต สี่..ห้ามส่งเสียงดัง ห้า..ห้าม” ‘ห้ามอะไรอีกวะ’ เขาพยายามนึกแต่ก็นึกไม่ออก
“ห้ามอะไรเหรอคะ” เพียงเธอถามเสียงหวาน
“เอาไว้จะบอกแล้วกัน” ขุนเขาพ่นลมหายใจออกหนัก ๆ แล้วเดินหายเข้าไปในห้องนอนส่วนตัว ไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมกับเสื้อเชิ้ตหนึ่งตัว
“มีแค่นี้ ใส่ไปก่อนแล้วพรุ่งนี้จะพาไปเอาเสื้อผ้าที่ห้องแล้วกัน”
“ขอบคุณค่ะ” เธอยกมือไหว้จนขุนเขารีบยกมือรับไหว้ไม่ทัน เขาไม่ชินกับการมีคนมาอยู่ด้วยแบบนี้ เพราะปกติชอบอยู่คนเดียวเงียบ ๆ มากกว่า
“เธอเรียนอยู่ที่ไหน” ชายหนุ่มหันหลังเดินไปสูบบุหรี่เมื่อถามเธอแล้ว เพียงเธอเม้มริมฝีปากแน่นแล้วเอ่ยตอบ
“เรียนอยู่ปีหนึ่งมหาวิทยาลัย..ค่ะ” เพียงเธอตอบไปตรง ๆ ขณะเดียวกันก็มองหาห้องน้ำเพื่อจะอาบน้ำแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย เธอเห็นปลายผมเขาพลิ้วไหวน้อย ๆ เลยคิดเอาเองว่าขุนเขารับรู้แล้ว แต่จู่ ๆ เขาก็เดินเข้ามาในห้องแล้วล้วงกระเป๋าสตางค์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง หยิบเงินจำนวนหนึ่งยื่นให้เพียงเธอ “ให้ทำไมคะ”
“ค่าจ้างเมื่อวันก่อนแล้วก็ค่าจ้างวันนี้”
“แต่เพียงยังไม่ได้ทำงานให้คุณเลยนะคะ”
“ฉันชื่อขุน ขุนเขา” เพียงเธอพยักหน้าหงึก ๆ แต่ก็ไม่กล้ารับเงินที่ชายหนุ่มยื่นมาให้ “รับไป”
“เพียงไม่ได้ทำงาน เพียงรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ อีกอย่างเงินมันก็มากด้วย เพียงรู้สึกผิดที่หาเรื่องไปให้คุณขุนเขาตลอดเลย” ขุนเขาพ่นควันบุหรี่ออกจากปากด้วยความหงุดหงิด ทำให้เพียงเธอสะดุ้งตกใจเล็กน้อย เขาไม่เหมือนตอนที่อยู่ในคลับเลย แตกต่างมากกว่าเหมือนไม่ใช่คนคนเดียวกัน
“แต่นี่ก็เป็นเงินค่าจ้างที่ฉันจ้างเธอมาเอนเตอร์เทน รับไปเถอะ” ในเมื่อเพียงเธอไม่ยอมรับเงินเขาจึงวางเงินไว้ที่โต๊ะหน้าโซฟาแล้วหันหลังเดินออกไปสูบบุหรี่ข้างนอกต่อ เพียงเธอกัดปากแน่นก่อนจะเดินไปที่ห้องน้ำแล้วจัดการอาบน้ำชำระร่างกายเมื่อเสร็จธุระแล้วก็เปิดประตูก้าวออกมาจากห้องน้ำ หยดน้ำจากปลายผมหยดลงพื้นพรม ชายเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนเสมอกับหน้าขาขาวเนียนพอดี
“เดี๋ยว!” ขุนเขาที่กำลังนั่งออกแบบลายสักให้ลูกค้าอยู่รีบร้องห้ามทำให้คนตัวเล็กชะงักเท้าที่จะก้าวไปข้างหน้า ชายหนุ่มมองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าแล้วเดินไปเอาผ้าเช็ดตัวมาให้ เขาโยนมันไปโดยไม่ได้มองจนผ้าเช็ดตัวคลุมศีรษะเพียงเธอ “ห้ามทำพื้นพรมเปียกน้ำ มันจะขึ้นรา” ชายหนุ่มเอ่ยบอกแบบไม่หันมามองเพราะกำลังยุ่งอยู่กับงาน เพียงเธอเองก็พยักหน้ารับแล้วทำตามที่เขาบอก
สองชั่วโมงต่อมา
บรรยากาศภายในห้องถูกปกคลุมด้วยความเงียบ มีบ้างทีที่เสียงคลิกเม้าส์จะดังขึ้น ขุนเขานั่งทำงานหน้าเครียดดูแตกต่างจากคนที่เธอเคยเจอที่คลับมากแต่มองแล้วก็มีเสน่ห์อีกแบบ
“พี่ขุน..เพียงเรียกพี่แบบนี้ได้ไหมคะ” เธอเอ่ยถามเขาทำลายความเงียบและเรียกความสนจากขุนเขาได้เป็นอย่างดี
“แล้วแต่จะเรียก แค่ไม่เรียกฉันว่าลุงก็พอ” เธอก็อยากหัวเราะอยู่หรอก แต่ทำไมรู้สึกอึดอัดกว่าเดิมอีกล่ะ เพียงเธอก้มหน้างุดแล้วเงียบไป “เธอ..ชื่ออะไรนะ” ขุนเขาถามทั้งที่ไม่เงยหน้าขึ้นมาสบตา
“เพียงเธอค่ะ เรียกเพียงเฉย ๆ ก็ได้” อ่า..เขาจำไม่ได้ว่าเคยถามชื่อเธอกับใครไหมแต่ก็คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยถามไปแล้วจึงทำแค่พยักหน้าให้เธอเบา ๆ
“ปกติเธอนอนดึกเหรอ” ที่ถามเพราะตอนนี้มันดึกมากแล้วน่ะสิ ปกติเขานอนดึกแบบนี้ทุกวันอยู่แล้วและเกรงว่าเธอจะไม่กล้านอนเพราะว่าเขายังทำงานอยู่
“ถ้าทำงานกลับดึกก็นอนดึกค่ะ” เมื่อได้รับคำตอบขุนเขาจึงปิดโน้ตบุ๊กแล้วถือมันมันเดินไปที่ห้องนอนตัวเอง ไฟในห้องยังสว่างจ้าและจู่ ๆ ขุนเขาก็ถือหมอนกับผ้าห่มมาให้เพียงเธอ
“เธอควรจะนอน” ขุนเขาพูดสั้น ๆ พร้อมสบตากับคนที่นั่งเป็นระเบียบอยู่บนโซฟา เมื่อเธอรับผ้าห่มกับหมอนไปแล้วเขาจึงเดินไปปิดไฟ แต่ก่อนจะปิดก็เอ่ยถามเพียงเธอด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “กลัวไหม”
“ไม่ค่ะ”
พรึบ!
ทันทีที่ได้รับคำตอบเขาก็กดปิดไฟทันทีแทบจะได้ ภายในห้องที่คลุมโทนสีมืด ๆ อยู่แล้วเมื่อปิดไฟยิ่งมืดเข้าไปให้ ดีหน่อยที่แสงจันทร์สอดส่องผ่านม่านระเบียงเข้ามาในห้องบ้าง ไม่นานเสียงปิดประตูก็ดังขึ้น เพียงเธอนั่งกะพริบตาปริบ ๆ อยู่บนโซฟา บอกตรง ๆ ว่าเธอไม่คุ้นเคยกับห้องเขาเลยแต่มานึก ๆ ดูแล้วว่าตัวเองต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่สักระยะเธอจึงล้มตัวนอนลงแล้วหลับไปด้วยความเพลียเพราะยังมีไข้อ่อน ๆ
03:00
ขุนเขาลุกขึ้นมาดื่มน้ำกลางดึกของวันใหม่ เขากระดกน้ำเปล่าลงคออึกใหญ่ขณะที่เดินผ่านโซฟาตัวเดียวกับที่เพียงเธอนอนอยู่แต่ทว่าจู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงครางเบา ๆ เล็ดลอดออกมาจากใต้ผ้าห่มสีขาวสะอาดตาผืนหนา
“เธอ..” ขุนเขาเอ่ยเรียกเบา ๆ พร้อมก้าวเข้าไปใกล้มากขึ้น เพียงเธอขยับตัวเพราะได้ยินเสียงเรียกแล้วเปิดผ้าห่มออก “เป็นอะไร?”
“เพียงปวดหัวนิดหน่อยค่ะ พอจะมียาพาราไหมคะ เพียงขอหน่อย”
“ไม่สบาย?” ขุนเขาถามอีก
“ค่ะ”
เขาพยักหน้าเข้าใจแล้วเดินไปหยิบกล่องยามาให้เพียงเธอ ก่อนจะเดินเลี่ยงไปเอาน้ำดื่มมาให้ “ขอบคุณค่ะ รบกวนพี่ขุนอีกแล้ว”
“อืม” ขุนเขายืนมองหน้าเพียงเธออยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าเธอกินยาและเข้านอนแล้วจึงกลับเข้ามาในห้องตัวเอง
07:00
ชายหนุ่มที่อยู่ในชุดสบาย ๆ เสื้อยืดกางเกงยีนส์เดินออกมาจากห้องนอนส่วนตัว แต่ก็ต้องชะงักค้างที่เห็นเพียงเธอนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหาร เขาหันกลับไปมองโซฟาก็เห็นผ้าห่มถูกพับเก็บไว้เรียบร้อย
“เธอทำอาหารเช้า?”
“ค่ะ”
“ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าหยิบจับอะไรโดยไม่ได้รับอนุญาต” เมื่อถูกตำหนิเข้าเธอจึงยกมือไหว้ขอโทษขุนเขาแล้วอธิบายให้เขาฟัง
“เพียงผิดจริงที่ทำอะไรโดยไม่ได้ขออนุญาต คิดแค่ว่าทำอาหารเช้าให้พี่ขุนกินก่อนออกไปทำงานน่าจะดี” ขุนเขาพ่นลมหายใจออกหนัก ๆ แล้วไม่ถือสา
“รู้เหรอว่าฉันต้องออกไปทำงาน” เขาถามพลางหยิบช้อนส้อมขึ้นมาเขี่ยไข่ดาวที่สุกพอดีให้ไข่แดงมันแตกก่อนจะชะงักค้าง หัวใจแกร่งกระตุกวูบไปอยู่ปลายเท้า “เดี๋ยว! นะ..นี่เธอเอาจานใบนี้มาจากไหน”
“ในตู้ค่ะ เพียงเห็นลายมันสวยดี”
“บัดซบ!”
“คะ…?”
“…”! ขุนเขาพยายามระงับอารมณ์ตัวเองไม่ให้พูดคำหยาบออกไป ก็จานที่เธอเอามาใส่อาหารเช้ามันคือจานที่เขาซื้อมาจากญี่ปุ่นในราคาสองแสนบาท เขาตั้งใจไว้ว่าจะใช้มันในงานวันเกิดตัวเองเท่านั้นแต่…
“จานใบนี้ใช้ไม่ได้เหรอคะ”
“ฟังนะ เธอห้ามแตะต้องของในห้องฉันโดยที่ฉันยังไม่อนุญาต”
“แฮ่ ๆ ..ขอโทษนะคะ” เพียงเธอหัวเราะแห้ง ๆ ให้ขุนเขาในขณะที่อีกฝ่ายโกรธจนหน้าแดง แต่ทำอะไรไม่ได้ จำใจใช้ช้อนตักไข่ดาวใส่ปากอย่างระมัดระวังด้วยกลัวว่าจานจะเป็นรอยเอา เมื่อกินหมดก็เอาจานไปล้างเองด้วยความระมัดระวังเช่นกัน เพียงเธอที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ได้แต่เอียงคอมองด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่กล้าถาม
ตอนนี้ห้องเขาไม่ใช่พื้นที่ส่วนตัวแต่มันกลายเป็นพื้นที่ส่วนรวมไปแล้ว..
“ฉันจะออกไปข้างนอก จะกลับมาอีกตอนเที่ยงแล้วพาไปเอาเสื้อผ้าพร้อมพาแวะดูห้องใหม่ด้วย”
“ค่ะ”
“อืม..” ขุนเขาสะพายกระเป๋าคู่ใจแล้วหันมามองหน้าเพียงเธออีกครั้ง “อยู่เฉย ๆ โอเคไหม”
“ค่ะ..ตั้งใจทำงานนะคะ” เธอเดินมาส่งเขาที่หน้าห้องพร้อมกับโบกมือให้ ขุนเขาทำหน้านิ่งหากแต่ความรู้สึกจริง ๆ สับสนไปหมด
‘ภาพแบบนี้มันคุ้น ๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหนนะ..’
บทที่ 5 อบอุ่นหัวใจเพียงเธอปิดประตูห้องแน่นหนาแล้วเดินกลับไปนั่งลงบนโซฟาตัวเดิมที่ใช้เป็นที่นอนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ความนุ่มนิ่มของมันเล่นเอาเธอปวดหลังเลยล่ะ กำปั้นน้อย ๆ ทุบเอวตัวเองเบา ๆ แล้วขยับไปทุบหลังด้วย ก่อนจะเดินดูรอบห้องขุนเขาเมื่อมีโอกาสตอนที่เขาไม่อยู่"ว้าว..อันนี้ราคาท่าจะแพง" เธอมองชุดถ้วยน้ำชาที่ตั้งอยู่ในตู้โชว์ด้วยดวงตาแววตาเป็นประกาย เพียงเธอกำมือตัวเองแน่นเพื่อหักห้ามใจไม่ให้ยกขึ้นมาจับสิ่งของสวยงามตรงหน้าแล้วรีบหันหลังเดินกลับไปนั่งที่โซฟาตัวเดิม นี่ก็เพิ่งเจ็ดโมงเช้าเองจะให้เธอนั่งเหงา ๆ รอเขาจนถึงเที่ยงมันก็ยังไงอยู่"เปิดทีวีดูก็ยังดี" ว่าแล้วก็กวาดสายตามองหารีโมททีวีแต่หาเท่าไรก็หาไม่เจอจนรู้สึกท้อใจ จนกระทั่งเห็นรีโมทอันหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นรีโมททีวีแต่พอได้มาถือไว้ในมือแล้วกลับไม่กล้าเปิด เธอจึงเดินไปที่โต๊ะตั้งโทรศัพท์บ้าน "จะโทรไปถามพี่ขุนดีไหม.." เพียงเธอคิดไม่นานก็โทรไปหาพนักงานที่อยู่หน้าล็อบบี้ตามเบอร์ที่ติดไว้บนโต๊ะแล้วขอเบอร์โทรศัพท์ขุนเขามาก่อนจะโทรไปหาเขาณ ร้านสักลาย"ไอ้ขุน..โทรศัพท์มึงดังอะ ให้กูรับให้ไหม" ปรินที่กำลังนั่งเล่นเกมอยู่ด้านนอกตะโกน
บทนำ"เพียง เธอต้องออกไปรับแขกวีไอพีแล้วนะ" ร่างบางที่กำลังนั่งประทินโฉมอยู่หน้ากระจกแบบตั้งโต๊ะเล็ก ๆ รีบพยักหน้าให้รุ่นพี่ ปลายนิ้วเรียวยาวปาดลิปสติกออกจากมุมปากแล้วลุกขึ้นหมุนตัวเช็กความเรียบร้อย"พี่เขาจะมาไหมนะ" เพียงเธอพึมพำกับตัวเองแล้วเดินออกมาจากห้องแต่งตัว เสียงเพลงดังกระหึ่มเริ่มชัดขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเท้าทั้งสองข้างหยุดอยู่ด้านหลังประตูทางเข้าผับ เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ แล้วเปิดประตู กรีดกรายเดินเข้ามาในผับที่เต็มไปด้วยไฟแสงสีและเสียงเพลงที่ทางดีเจเป็นคนจัดการที่เธอทำงานในผับแบบนี้เรื่องหวงเนื้อหวงตัวแทบไม่ได้คิดเลย ถูกจับมือจับตัวเป็นเรื่องธรรมดาแต่ก็มีบ้างที่ถูกลวนลามแต่ก็เลี่ยงที่จะเข้าไปหากลุ่มคนประเภทนั้นโดยมีรุ่นพี่คอยช่วยเหลือเพียงเธอเดินขึ้นมาชั้นสองโซนวีไอพี สิ่งแรกที่เธอมองหาคือชายหนุ่มคนหนึ่งที่มักจะนั่งอยู่มุมด้านในของโซนวีไอพี เธอกับเขาไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวแต่ทุก ๆ ครั้งที่เขามาจะต้องเรียกใช้เธอตลอด แต่สิ่งที่เขาให้ทำกลับสวนทางกับลูกค้าคนอื่น คือเขาจะให้เธอนั่งบนหน้าตักแล้วซบหน้าลงกับอกโดยไม่ต้องทำอะไรมากกว่านั้น ชงเหล้าก็ไม่ให้ทำแถมยังให้ทิปเป็นการส
บทที่ 1 คุ้นเคยเพียงเธอถอยออกห่างจากราวสะพานหนึ่งก้าวท่ามกลางสายลมที่พัดมากระทบใบหน้าแดงซ่าน พาให้หยาดน้ำตาไหลออกจากขอบตาแดงก่ำเหือดหายไปเสียงที่คุ้นหูและกลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคย..ใช่เขาแน่ ๆขุนเขาเดินเข้าไปใกล้ ๆ แล้วจับแขนเธอไว้ออกแรงดึงให้ออกห่างจากราวสะพานด้วยกลัวว่าเธอจะขัดขืนแล้วกระโดดลงไป"เธอ..คิดจะทำอะไร" คำถามไร้ซึ่งคำตอบนั้นพาให้บรรยากาศโดยรอบดูน่าอึดอัดเข้าไปอีก เพียงเธอมองหน้าชายคนตรงหน้าไม่ละสายตา เธอไม่ได้คิดสั้นแต่อยากปรับอารมณ์และยืนรับลมให้หายฟุ้งซ่านก่อนเข้าบ้านก็เท่านั้น"เปล่าค่ะ""…" ขุนเขาไม่ถามอะไรต่อ เขามองปราดเดียวก็พอรู้ว่าเธอเจอเรื่องแย่ ๆ มาจึงถอดเสื้อไปคลุมไหล่ให้ "บ้านอยู่ตรงไหน เดี๋ยวฉันไปส่ง""ลงสะพานไปแล้วเลี้ยวขวาค่ะ ห้องเช่าเจ๊พร""อืม ขึ้นรถสิ" คำชวนที่พาให้รู้สึกโล่งอก เพียงเธอกระชับเสื้อที่เขาคลุมไหล่ให้แน่นขึ้น เดินตามมาที่รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ ขุนเขาก้าวไปนั่งก่อนและสตาร์ทเครื่องรอขณะที่เพียงเธอเดินกระเผลก ๆ มาเรื่อย ๆ จนถึงรถ เธอไม่รู้ว่านี่คือโชคชะตาหรือเรื่องบังเอิญที่เขาขับรถผ่านมาเจอ "ยืนคิดให้เสร็จก่อนแล้วกัน เดี๋ยวเรียกแท็กซี่ให้" ขุนเขาพ
บทที่ 2 ลำบากหลายนาทีต่อมา ขุนเขาสละพื้นที่ตรงหน้าอกแกร่งให้เพียงเธอได้ใช้คลอเคลียและซับน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ขาดสาย เสื้อเขาเปียกเป็นวงกว้างแถมยังเปียกไปถึงผิวเนื้อด้านในอีกต่างหาก เมื่อร้องไห้ให้กับชีวิตน่าสมเพชตัวเองพอแล้วจึงผละออกจากอกแกร่ง มองคราบน้ำตาที่ตนเองเป็นคนสร้างขึ้นด้วยความรู้สึกผิด"ขะ..ขอโทษนะคะ เดี๋ยวเพียงเอาไปซักให้นะ" ฝ่ามือน้อย ๆ ลูบคราบน้ำตาที่ยังเปียกปอนเบา ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับขุนเขาตรง ๆ "เพียงขอตัวกลับก่อนนะคะ เพียงคิดว่าเพียงทำงานให้คุณไม่เต็มที่""งั้นฉันไปส่ง จะได้เอาเสื้อให้เธอซักมาคืนด้วย" เด็กสาวทำหน้านิ่งอย่างใช้ความคิดหากแต่ริมฝีปากกลับขบเม้มเข้าหากัน ขุนเขาหลุดยิ้มเพราะเขาเดาใจเธอออกได้ไม่ยากเลย แววตาเอย สีหน้าเอยทุกอย่างล้วนแสดงออกมาจากความรู้สึกภายในใจเธอ"ก็ได้ค่ะ แต่เพียงกลัวว่าจะทำให้คุณเดือดร้อน""ฮึ..ฉันไม่เคยกลัวใครอยู่แล้ว" ว่าจบขุนเขาก็ขยับตัวเพื่อให้เพียงเธอลุกขึ้นแล้วตัวเองก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เขาปรายตามองเพียงเธอแล้วจับมือเธอไว้หลวม ๆ ตั้งใจจะพาลงไปด้านล่างแต่เธอกลับรั้งมือเขาไว้ก่อน "ทำไม?""คุณมาช่วยเพียงแบบนี้..ไม่กลัวพวกนั้นต
บทที่ 3 หาเรื่องใส่ตัว19:00ขุนเขานั่งทำความสะอาดโต๊ะวางอุปกรณ์การสักอยู่ในห้องทำงานคนเดียว มีเพียงเสียงเพลงคลาสสิคเบา ๆ เท่านั้นที่ทำให้ความเงียบไม่ก่อตัวขึ้นกริ่ง!เสียงกระดิ่งตรงประตูทางเข้าร้านดังขึ้นทำใหเขาต้องปลีกตัวออกมาจากห้องทำงานส่วนตัว "มีอะไรเหรอครับ" ขุนเขาถามอย่างสุภาพ"มาเจอคนชื่อขุน""ครับ ผมเอง" เขาถอดถุงมือยางสีดำออกแล้วหันมาสบตากับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่แต่ทว่ากลับมีผู้ชายสองคนเปิดประตูเข้ามาก่อน บดินทร์กับปกป้องเอียงคอมองขุนเขาอย่างมึนงงที่เห็นเขากำหมัดแน่นก่อนที่ทั้งสองจะซอยเท้าถี่ ๆ มายืนข้างเพื่อน"มีไรวะ" ปกป้องกระซิบถาม"ไม่รู้ คุณเขาน่าจะมาผิดที่มั้ง""งั้นพรุ่งนี้มาหาใหม่!" ว่าจบชายคนดังกล่าวก็เดินออกไปด้วยท่าทางหัวเสียอย่างหนักที่ถูกขัดจังหวะ"มันคงไม่ได้หลงมาหรอก คงตั้งใจมาหาเรื่องกู" ขุนเขานั่งลงบนเก้าอี้ที่ไว้รับลูกค้าแล้วมองหน้าเพื่อนทั้งสองซึ่งกำลังมองเขาอยู่ตอนนี้ "ก็นี่ไง กำลังจะพูดแล้วนี่ไง""ไปมีเรื่องกับใครมา" บดินทร์ถามหน้าเครียด ปกติขุนเขาไม่ชอบหาเรื่องใครก่อน แต่ก็ไม่แน่ว่าเขาอาจจะเมาแล้วไปก่อเรื่องไว้"ไปช่วยเด็กคนหนึ่งจากการถูกทำร้ายมา พวกนั้นไ