“อื้อ อั้ยอ้า อ้าอั๊ว ออยอั้นเอี้ยนอี้”
เรียมส่งเสียงร้องอู้อี้ ด้านหัวห้อยลงราบไปกับแผ่นหลังกำยำของชายหนุ่ม ส่วนด้านขาถูกท่อนแขนแกร่งของเขาคล้องรัดไว้ที่ด้านหน้า คนในผ้าห่มจะพยายามดิ้นรนขัดขืนเต็มกำลังเพื่อให้หลุดพ้นจากบ่า
เฟี๊ยะ !
ดี้ดดิ้นดีนัก มือหนาและหนักของคนแบกจึงฟาดลงเต็มแรงที่สะโพกกลมกลึงบนบ่าเขา พร้อมกับเสียงทุ้มที่ขู่ออกไปว่า
“ถ้าขืนไม่หยุดดิ้น ฉันจะทิ้งเธออยู่กับอีวาน !”
คำขู่ของเขาได้ผลชะงัก ผ้าห่มดิ้นได้แน่นิ่งทันใจ มาร์คยิ้มกริ่มในใบหน้าพอใจที่จัดการกับสาวน้อยแสนพยศได้
อีวานเหยียดยิ้มยืนมองเพื่อนเก่าเดินออกไปพร้อมกับผู้หญิงบนบ่า เพื่อนนิสัยไม่เคยเปลี่ยน ชอบเอาชนะ เขาจึงไม่แปลกใจนักทำไมมาร์คถึงติดใจในผู้หญิงคนนี้ และนิสัยอวดดีของเพื่อนเป็นช่องว่างให้คนอื่นโจมตีได้ง่าย
“นาย ! นายจะไปที่โกดังเก็บอาวุธเราเลยไหม ?”
โทนี่ เลขาประจำตัวมาร์ค ผู้ที่ส่งข่าวให้เขารู้ว่ามีคนลักลอบเข้ามาวางเพลิงในโกดังเก็บอาวุธ เข้าประชิดตัวเจ้านายที่ก้าวยาว ๆ ไปที่รถลีมูซีนที่จอดรออยู่ด้านหน้าตึก
“ไม่ ! ฉันจะพาแม่นี่ไปส่งบ้านก่อน แล้วจึงจะเข้าโกดัง”
เขาตอบขณะที่ลูกน้องเปิดประตูรถคัดงามสีดำวาววับให้ มือแกร่งวางผ้าห่มสอดไส้คนไว้บนเบาะหนัง
ดวงตากลมโตของคนในผ้าห่มเหลียวซ้ายแลขวา หล่อนจำได้ว่าเมื่อคืนเขากระแทกกระหน่ำใส่ร่างน้อย ๆ จนเธอหมดแรงเผลอหลับไป พอตื่นขึ้นมาอีกทีในตอนเช้าก็พบว่าตนเองถูกม้วนไว้ในผ้าห่ม แถมยังถูกปิดปากไม่ให้ส่งเสียง แล้วตอนนี้เขาก็แบกหล่อนขึ้นรถมา นี่เขาจะพาฉันไปไหน ?
และราวกับว่าเขารู้ว่าหล่อนกำลังคิดอะไร เพราะเสียงทุ้มก็กระซิบข้างหูให้คำตอบว่า
“ต่อไปนี้เธอคือผู้หญิงของฉัน ! ฉันจะพาเธอไปประดับบ้านแม่ตุ๊กตาเอเชีย !”
เรียมยอมนั่งนิ่ง ๆ เป็นรถลีมูซีน หล่อนยอมเขาเพื่อจะได้ออกมาจากซ่องนรก แล้วค่อยหาทางหนีให้พ้นเงื้อมมือของคนบ้ากามนี่ !
ใบหน้าหล่อเหลา จมูกโด่ง นัยน์ตาสีฟ้ากระจ่างรับกับเส้นผมสีทอง เมื่อผสานกับรูปร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อนั้น ราวกับว่าเขาเป็นรูปปั้นเทพเจ้าของกรีกที่ถูกชุบชีวิตขึ้นมา หากเขามีความเป็นสุภาพบุรุษกับหล่อนสักนิด และไม่ข่มเหงน้ำใจหล่อน เรียมก็คงจะนึกรักบุรุษผู้นี้ได้อย่างไม่อยาก
แต่ความจริงไม่ใช่ ! เขาคือซาตานในร่างเทพบุตร !
อะไรที่ทำให้หล่อนซอกซ้ำเขาถนัดนัก !
อะไรที่ทำให้หล่อนต้องวิงวอนเขา เขาช่างช่ำชองเสียยิ่งกระไร !
ยิ่งมองบุรุษข้างกายที่นั่งด้วยทีท่าสบายอารมณ์ ยิ่งทำให้อารมณ์คุกรุ่น หญิงสาวจึงสะบัดหน้าออกไปมองนอกรถ หล่อนจำเป็นต้องรู้ว่าเขาจะพาหล่อนไปที่ไหน และจะสามารถติดต่อกับคนภายนอกได้อย่างไร ซึ่งมีสายตาคมกริบคู่หนึ่งมองหล่อนเป็นระยะ ๆ ราวกับจะประเมินว่าผู้หญิงข้างกายเขากำลังคิดอะไรอยู่
รถลีมูซีนคันงามแล่นออกนอกเมืองมาเรื่อยๆ จนมองไม่เห็นบ้านคน ผ่านทุ่งข้าวสาลีสีทอง สลับกับไร่ข้าวโพดสีเขียวเป็นระยะ ๆ แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็แทนที่ด้วยทุ่งหญ้าเวิ้งว้าง จนรถหรูจอดสนิทที่ลานคอนกรีตกว้างสุดลูกหูลูกตา
เมื่อประตูรถเปิดออกจังหวะที่ชายหนุ่มผู้ซื้อเธอมาคว้าผ้าห่มที่ห่อหุ้มตัวหล่อนพาดไว้บนบ่า เรียมจึงได้เห็นชัดแก่สายตาว่า ลานคอนกรีตนี้แท้จริงแล้วคือ ลานจอดเครื่องบิน!
มาร์คแบกผ้าห่มสอดไส้สาวน้อยก้าวอาจ ๆ ผ่านบอร์ดี้การ์ดผิวหมึกที่ตั้งแถวรอรับนายขึ้นเครื่องบินเจ็ทลำสีขาวสะอาดตา ภายในห้องผู้โดยสารมีความจุ 501 ลูกบาศก์ฟุต เท่ากับคนนั่ง 6 คนได้อย่างสะดวกสบาย เครื่องบินเจ็ตลำนี้เขาเพิ่งถอยออกมาหมาด ๆ เมื่อได้เซ็นสัญญากับรัฐบาล
เงินก้อนแรกเก้าล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณสามร้อยล้านบาทไทย เขาละลายไปกับเครื่องบินลำนี้ ซึ่งมีสมรรถนะสามารถบินได้สูง 45,000 ฟุต เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติลงจอดได้อย่างนุ่มนวลบนรันเวย์ทุกรูปแบบ !
ชายหนุ่มวางโรลผ้าห่มไส้สาวน้อยไว้บนเบาะหนังสีนวลด้านในติดริมหน้าต่าง แล้วเจ้าตัวก็นั่งลงเบาะข้าง ๆ ทันทีที่ประตูเครื่องปิดลง เครื่องบินลำหรูก็ทะยานสู่ท้องฟ้า กระชากใจดวงน้อยให้หล่นวูบ เรียมถึงกลับหลับตาแน่น ได้ยินเพียงเสียงหัวเราะฮึ ฮึ ของชายหนุ่ม เสียงเยาะเย้ยนั้นทำให้เธอนึกอยากจะกระโดดเข้าขย้ำคอคนข้าง ๆ นัก !
เครื่องบินพาสาวน้อยจากแดนอีสานบินข้ามภูเขาสูง ข้ามน้ำ ข้ามทะเล จนกระทั่งมาถึงคฤหาสน์สีขาวบนยอดเขาสูง เครื่องบินจึงค่อยๆ ลดระดับลงแล้วจอดสนิทบนลานบินฝั่งทิศตะวันตกของตัวคฤหาสน์
ทันทีที่ร่างสูงไตลงบันไดเครื่องบินลงมา รถลีมูซีนสีดำเงาวับก็จอดเทียบท่า พร้อมกับขบวนบอร์ดี้การ์ดผิวหมึกรอรับ ทุกคนที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของเขาล้วนรู้หน้าที่ของตนโดยไม่ต้องสั่ง เมื่อผู้เป็นนายลงจากเครื่อง ประตูรถก็เปิดรอรับ แล้วปิดลง แล่นออกถนนมุ่งหน้าสู่คฤหาสน์หลังใหญ่
คฤหาสน์หินอ่อนสีขาวค่อย ๆ ปรากฏแก่สายตายิ่งรถเคลื่อนตัวเข้าใกล้มาเท่าใด ความใหญ่โตของมันก็ทำให้สาวน้อยรู้สึกตัวเล็กมากขึ้นเท่านั้น หลังคาสีน้ำเงินเข้มทรงโดมลดหลั่นกันลงไป บนยอดโดมเรือนกลางที่ใหญ่ที่สุด มีรูปปั้นอินทรีกระพือปีกผงาด จะงอยปากอ้าออกคล้าย ๆ จะกู่ร้องข่มขวัญไพรีในพงไพร
คฤหาสน์หลังใหญ่ซุกซ่อนอยู่บนยอดเขาสูง เปรียบดังรังพญาอินทรี ! !
และเขาคือพญาอินทรีตนนั้น !
ความคิดหนึ่งแล่นวาบเข้ามาในหัวของสาวน้อย ให้รู้สึกเสียววาบขึ้นมาจับจิต หล่อนจะรอดพ้นกรงเล็บพญาอินทรีไปได้อย่างไร ? !
เมื่อรถลีมูซีนจอดให้ประตูคนนั่งในตอนหลังตรงกับประตูคฤหาสน์ หญิงรับใช้ก็ตั้งแถวเรียงหนึ่งเป็นแนวยาวสองแถวยืนรอรับเจ้านาย หล่อนเหล่านั้นอยู่ในชุดกระโปรงสุ่มสีดำ แขนพอง สวมทับด้วยผ้ากันเปื้อนสีขาว ผมยาวถูกมัดเก็บไว้ใต้ผ้าคลุมผมสีขาว มือสองข้างประสานกุมไว้ด้านหน้า เมื่อเจ้านายลงจากรถเดินผ่าน แถวที่ตั้งขบวนรอรับก็จะยอบลงพร้อมกับกล่าวคำต้อนรับ
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะนายท่าน”
เสียงเปล่งประสานออกมาจากบรรดาหญิงรับใช้ เธอเหล่านั้นยังคงยืนสงบจนกว่าเจ้าของคฤหาสน์จะเดินเข้าไปในตัวตึก มีเพียงหัวหน้าแม่บ้านวัยห้าปีเท่านั้น ที่เดินตามหลังเข้ามาเพื่อรายงานความเป็นไปของคฤหาสน์หลังนี้ รวมถึงคอยรับคำสั่งจากผู้เป็นนาย
ดวงตาเรียวเล็กหากแต่ว่าคมกริบของหัวหน้าแม่บ้านจับจ้องตามแผ่นของผู้เป็นนายที่มีม้วนผ้าห่มห่อสาวน้อยพาดไว้บนบ่า แม้จะมีความสงสัยอยู่ในอกหากแต่ไม่ได้เอ่ยถามออกไป! ระยะเวลาร่วมสิบกว่าปีที่เธอดูแลคฤหาสน์แห่งนี้ ทำให้รู้ว่า สิ่งใดที่นายไม่อยากให้รู้ เราไม่ควรถาม สิ่งใดที่นายอยากให้ทราบ นายจะบอกเอง ! มือเหี่ยวยับย่นยังคงกุมไว้ด้านหน้าขณะที่ก้าวเร็ว ๆ เท่าที่จะทำได้ในวัย 50 ปี เพื่อที่จะไล่ตามผู้เป็นนายให้ทัน ด้านหลังของเธอยังมีบอร์ดี้การ์ดผิวหมึก 3 - 4 คนคอยตามติดอยู่ห่าง ๆ มาร์คแบกร่างสาวน้อยในผ้าห่มขึ้นมาถึงห้องนอนของเขา แล้ววางม้วนผ้าห่มลงกับเตียง ดวงตาสาวน้อยเบิกกว้างเลิ่กลั่ก หัวใจเต้นระทึกอยู่ในอก ชายหนุ่มมองยิ้ม ๆ แล้วหันไปสั่งกับขบวนติดตาม“ผู้หญิงของฉัน ! -มาเรีย- จัดการให้เรียบร้อย !” “รับทราบค่ะ” หัวหน้าแม่บ้านรับคำพร้อมกับอาการยอบลง ไม่เอ่ยถามต่อเพราะผู้หญิงที่นายพามาให้เธอจัดการตกแต่งเป็นตุ๊กตาบำบัดความใคร่มีมาอยู่บ่อย ๆ แต่ผิดกับทุกครั้งตรงที่ตุ๊กตาสาวคนนี้ถูกพันธนาการอย่างแน่นด้วยผ้าห่ม ปา
ดวงตาดำขลับกวาดมองรอบห้องมีอะไรอีกที่พอจะเอามาสุ่มลงกองกำแพงประตูได้อีก ห้องนอนนี้กว้างมาก ห้องของเขาเพียงห้องเดียวก็เท่ากับพื้นที่บ้านหลังเล็กทั้งหลังที่เธอจากมา บ้านหลังเล็กที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและปลอดภัย หากแต่ว่ากินไม่อิ่มท้องนัก บ้านหลังนี้ใหญ่มากจนเรียกว่าคฤหาสน์ แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกเวิ้งว้างและหวาดระแวง แม้ว่าจะกินอิ่มแต่นอนไม่หลับ ! ! วันนี้เรียมได้กินอิ่ม เพราะหัวหน้าแม่บ้านดูแลเธอไม่ให้บกพร่อง แต่หล่อนนอนไม่หลับ เพราะรู้แน่ชัดว่าเจ้าของคฤหาสน์ซื้อตัวเธอมาเพื่อสิ่งใด ! ชุดที่หัวหน้าแม่บ้านกำชับให้เธอใส่รอนายท่านคือ ชุดนอนสีแดงสุดเซ็กซี่ที่ดาวยั่วมักจะใส่ให้เห็นในทีวีบ่อย ๆ ตอนที่หล่อนรับมาแทบอยากจะขว้างทิ้งเสียเดี๋ยวนั้น ! แต่หล่อนก็ต้องรับมันมาอย่างสงบ แล้วบอกกับหัวหน้าแม่บ้านว่า “ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะใส่มันรอเจ้านายของคุณอย่างใจจดใจจ่อ” เธอบอกเช่นนั้นเพื่อให้หัวหน้าแม่บ้านตายใจ ! เก็บแรง เก็บสมองเอาไว้ปกป้องตนจากไอ้คนหื่นกาม ! เมื่ออยู่ภายในห้องเพียงลำพังหล่อนก็แค่โยนชุดสุดเซ็กซี่นั้นให
เงียบไร้เสียงตอบอีกเช่นเคย มาร์คหัวเราะฮึ ฮึ ในลำคอขณะที่ถอดเสื้อออกแล้วโยนมันทับลงกับชุดสวย ๆ ที่เขาว่า ขายาว ๆ ก้าวเพียงสองสามก้าวก็ถึงตู้เสื้อผ้า“มาเรีย”เสียงเรียกทอดยาวขณะที่ไล่เปิดตู้เสื้อผ้าทุกบาน“เธอจะหลบฉันทั้งคืนไม่ได้หรอกนะ ออกมาเถอะมาเรีย แม่สาวน้อย” เรียมแนบหูกับประตูห้องน้ำฟังเสียงจากภายนอกด้วยใจระทึก ทันทีที่ประตูถูกถีบจนทุกอย่างกระเด็นกระดอนทั่วทุกทิศทาง หล่อนก็เผ่นแนบมาหลบในห้องน้ำ หล่อนได้ยินเสียงฝีเท้านับสิบกรูเข้ามาในห้อง แล้วทุกอย่างก็เงียบลง เหลือเพียงเสียงทุ้มจากไอ้คนบ้ากามที่พยายามเรียกหาหล่อนอย่างกวนประสาท !นี่ถ้าหล่อนตัวโตเท่าเขาสักหน่อย คงจะได้ดวลหมัดกันสักยก ยิ่งเสียงฝีเท้าของมาร์คเดินมาใกล้มากเท่าไหร่ หัวใจของสาวน้อยยิ่งเต้นแรงมากเท่านั้น และยิ่งส่งผลให้เธอคิดอะไรไม่ออก ประตูห้องน้ำลั่นกลอนภายใน แต่เขาก็คงมีลูกกุญแจไขเข้ามาได้ จะหาอะไรขวางประตูไว้เหมือนข้างนอกก็ดูเหมือนจะไม่มีสักอย่าง ห้องน้ำหรูหราเกินไป เป็นระเบียบมากไป แม้แต่แปรงขัดห้องน้ำที่หล่อนจะคว้ามาเป็นอาวุธก็ไม่มี !“มาเรียฉันรู้ว่าเธออ
“อื้อ ยะ อย่า อ่า”เสียงร้องห้ามกลายเป็นเสียงครางครวญผะแผ่ว หล่อนเกลียดตนเองนักที่เรือนร่างมันตอบสนองทุกสัมผัสจากมือแกร่ง“อย่าหยุดใช่ไหมสาวน้อย ฮึ ฮึ” เสียงร้องห้ามครางครวญผะแผ่วของหล่อน ยิ่งกระตุ้นเลือดในกายชายให้เดือดพล่านไปทั่วสรรพางค์ ตอเคราสาก ๆ ลากครูดไปกับเนินเนื้ออวบอั๋น ยิ่งทวีให้ร่างอรชรบิดแอ่นรับการรุกราน“อื้อ อ่า มาร์ค ไอ้หื่นกาม อะ อ่า อู้ยยยยย”เรียมแอ่นอกรับการปรนเปรอที่แสนเร่าร้อน หล่อนถึงกับห่อปากครางเมื่อลิ้นร้อนของชายหนุ่ม ตวัดหัวนมถี่ ๆ เต้าอีกข้างของถูกมือหนาเคล้าคลึงไม่เว้นวาย จ๊วบ ! จ๊วบ ! จ๊วบ ! จ๊วบ ! แจ๊บ ! แจ๊บบบบบบบบบบบบบบบบบบ“อื้อ อ่า อ่อยยยยยยยยย อะ อ่า”ร่างอรชรอ่อนระทวยราวกับขี้ผึ้งรนไฟ ไฟสวาทที่เขาเป็นผู้ก่อ! มือแกร่งที่จับตรึงข้อมือหล่อนไว้เหนือศีรษะคลายออกแล้วเลื่อนลงกดเปิดฝักบัว น้ำอุ่น ๆ ไหลซ่าลงมาเติมความเร่าร้อนให้ไฟสวาทรุกโชนยิ่งขึ้นซ่า ซ่า ซ่าจ๊วบ ! จ๊วบ ! จ๊วบ ! จ๊วบ ! แจ๊บบบบบบบบบบบบบบบบบบสายน้ำอุ่นพรมเรือนร่างเปลือยเปล่าของคนทั้งคู่ มือใหญ่อีกข้างลูบไล้สัดส่วนโค้งเว้า สะโพกเนื้อทองแน่
เรียมครางประท้วงเมื่อร่างกำยำโถมแรงเข้าทาบทับด้านหลังโดยแรง ลำแขนเรียวที่ค้ำขอบอ่างแทบทรุดลง“โอ้ววววว อ่า”เขาแยงดุ้นยักษ์เข้าหว่างขาเรียวงามใต้สายน้ำวน แก่นกายร้อนพองผงาดเสียดสีกลีบหอยทำให้เสียวจนต้องครางต่ำๆ มือข้างหนึ่งกอบกุมเต้านมบีบเคล้นเมามัน มืออีกข้างจับขาเรียวขางามแยกออกให้ดุ้นเขาเสียดสีได้ถนัด ๆ แล้วไล้มากดตุ่มไตเกสรสวาทใต้พื้นน้ำ“อื้อออออออ มาร์คคคคคคค ม่ายยยยย อ่า”คำกรนด่าชายที่ทรมานเธอเจียนตาย มันปลิวหายไปกับสติอันน้อยนิด เหลือเพียงสัญชาตญาณดิบของกายสาวที่ร่อนสะโพกเข้าหาแก่นร้อนฉ่าอย่างโหยหาจ๊วบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบจุ๊บ ! จ๊วบ !ปากร้ายพรมจูบหนักหน่วงไล่จากซอกคอ บ่า ไหล่ ลิ้นร้อนลากไล้ไปทั่วทุกอณูผิวพร้อมกับตอเคราสากๆ กดครูดแผ่นหลังเนื้อเนียนละเอียดเพิ่มความกระสันซ่านให้สาวน้อยในอุ้งมือมาเฟียอย่างเขาครางผะแผ่วยิ่งขึ้น“ม่าย อะไร สาวน้อย พูดให้เป็นภาษาสิเด็กดื้อ ฮึ ฮึ”เสียงทุ้มหัวเราะอย่างฮึกเหิมจุ๊บ ! จ๊วบ !จ๊วบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ“อะ ไอ้ อื้ออออออออออออ อ่า”ปากอิ่มอยากจะด่าเขาให้หายแค้นที่ทรมานหล่อนเช่นนี้ แต่กลับกลายเป็นเสียงครางซ่านกระสั
เสียงทุ้มต่ำดังสะท้านก้องทั่วห้องน้ำเมื่อกล้ามเนื้ออุ่น ๆ ของโพรงหอยบีบรัดแก่นกายแน่นเป็นจังหวะรุนแรงยิ่งขึ้น รีดน้ำกามจากแก่นกายใหญ่ให้พวยพุ่งทะลักออกมาจนอุ่นซ่าน เบาหวิวล่องลอยขึ้นจากพื้น“อร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยย มาร์คคคคคคคคคคคคคคคคค”พรวดดดดดดดดดดดดดดดดดดด น้ำหวานแตกกระจาย ร่างบางเกร็งกระตุก ปากเผยอค้างกรีดร้องอย่างสุขสม ความซาบซ่านหฤหรรษ์เสียวกระสันมันระเบิดออกหอบจิตวิญญาณของทั้งคู่พุ่งขึ้นสู่สรวงสวรรค์แล้วทั้งคู่ก็ค่อย ๆ ผ่อนคลาย มาเรียซบลงกับขอบอ่างอย่างสิ้นกำลัง ใบหน้าหล่อเหล่าแนบลงกับแผ่นหลังนวลเนียนชื้นไปด้วยเหงื่อ เขาได้ยินเสียงครางสุดท้ายเบา ๆ กับความสุขที่เร่าร้อนรุนแรงที่เขามอบให้ดังก้องในกายน้อยเขาแช่แก่นกายฝังแน่นในกายสาวให้หล่อนได้ซึมทราบความสุขสม เมื่อร่างน้อยผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อนเขาจึงถอนแก่นออกแล้วช้อนร่างน้อยขึ้นจากอ่างอุ้มไปที่เตียง แสงอาทิตย์สาดส่องทะลุผ้าม่านโปร่งแสง เห็นเป็นแสงรำไร ต่อให้ข้างนอกตะวันจะแผดแสงแรงเพียงใดแต่ภายในห้องนี้ยังคงรักษาความสบายตา และความสบายกายจากเครื่องปรับอุณหภูมิให้ใกล้เคียงกับร่างกายมนุษย์มากที่สุด เขาคือเจ
มาร์คโน้มลงกระซิบข้างแก้มเนียนอย่างยั่วเย้า จมูกโด่งคมสันแทบจะปักลงที่เนื้อแก้มนุ่มนิ่ม ลมหายใจอุ่น ๆ พ่นระบายลูบไล้จนขนอ่อนของเรียมลุกซู่ เธอจึงต้องใช้มือที่ยังเหลือเป็นอิสระอีกข้างผลักหน้าหล่อเหลาที่ช่างเย้าให้ห่างออก“อี๋..... คนหลงตัวเอง ! ไปไกล ๆ เลย เหอะ”“ฮ่า ฮ่า เปล่าหลงตนเอง หลักฐานมันฟ้อง”มาร์คตอบอย่างหน้าตาเฉย ยิ่งยัวะอารมณ์ให้มาเรียหมั่นไส้อย่างจะกระโดดทุบให้หายหลงตัวตนเองสักทีสองทีสิ่งที่หล่อนตั้งใจไว้ในคราแรกคือ หาเหตุผลออกมานอกคฤหาสน์ เพื่อที่จะได้หาโอกาสหนี แต่เขากลับไม่ยอมให้โอกาสนั้นกับหล่อน แม้เธอพยายามบอกเขาหลายต่อหลายหนก่อนมาแล้วว่า“ให้ฉันไปห้างกับแม่บ้านก็ได้”“ผมว่าง ผมจะพาไปเอง”ฝ่ายนั้นตอบโดยไม่ต้องคิด“นี่นาย ! การงานไม่รู้จักทำหรือไง ? ฉันไม่ใช่นักโทษ ที่นายจะต้องตามติดตลอดเวลา”แม้จะรู้ว่าการแว้ด ๆ ใส่ชายหนุ่มไม่เป็นผลดีกับเธอเลย แต่เธอก็อดทนที่จะพูดจากับเขาดี ๆ ไม่ได้สักที เพราะทีท่าของเขาที่ไม่ทุกข์ร้อนกับเรื่องใด ๆ เลย มันเป็นเชื้อยั๊วะอารมณ์โมโหชั้นดี“เธอไม่ใช่นักโทษ แต่เธอเป็นทาสฉัน แม่สาวน้อยมาเรีย”ชายหนุ่มจับที่ปลายคางเล็ก ๆ ให้ใบ
“Wow this is so good” สาวน้อยผิวสีน้ำผึ้ง นัยน์ตาสีดำขลับ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ร่างปราดเปรียวหันมองทุกสิ่งรอบตัวอย่างตื่นเต้น ขณะที่กางแขนออกหมุนไปรอบ ๆ ราวกับนักเต้นบัลเล่ต์“เรียม ! เรียมมมมม หยุดโซกูด ! ไหนคนที่บอกว่าจะมารับ ?” สาวอีกคนลากกระเป๋าเดินทางใบโตตามหลังด้วยทีท่ากระฟัดกระเฟียด ใบหน้าสีขาวขึ้นสีแดงจัด ! แม้จะรูปร่างสูงกว่าผู้หญิงอีกคนหากแต่ว่าไม่คล่องแคล่วว่องไวเท่ากับสาวน้อยผิวสีน้ำผึ้ง ด้วยความที่ตนเป็นลูกสาวเจ้าของตลาดรายได้หลักของครอบครัวมาจากการเก็บค่าเช่าแผงและเปิดร้านขายของชำ แต่เพื่อนสาวผู้ที่ตื่นเต้นกับทุกสิ่งรอบตัวเป็นเพียงลูกสาวแม่ค้าขายส้มตำในตลาดของตน ดังนั้น แม้จะเป็นเพื่อนที่วิ่งเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก รวมถึงเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันแต่หล่อนกลับรู้สึกเสมอว่า เธอเหนือกว่าเพื่อนสาวทุกด้าน“Oh Something slips my mind !”สาวสีน้ำผึ้งหุบแขนลงทันควัน หันซ้ายหันขวาเลิ่กลั่ก เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าตนและเพื่อนเพิ่งจะมาเหยียบอเมริกาเป็นครั้งแรก โดยได้รับคำสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะจากป้าเดือนว่าลูกสาวของเธอจะส่งคนมารับพวกหล่อน