Share

ตอนที่13.  เพื่อให้หลุดพ้น

“อื้อ  อั้ยอ้า อ้าอั๊ว ออยอั้นเอี้ยนอี้”

เรียมส่งเสียงร้องอู้อี้ ด้านหัวห้อยลงราบไปกับแผ่นหลังกำยำของชายหนุ่ม  ส่วนด้านขาถูกท่อนแขนแกร่งของเขาคล้องรัดไว้ที่ด้านหน้า คนในผ้าห่มจะพยายามดิ้นรนขัดขืนเต็มกำลังเพื่อให้หลุดพ้นจากบ่า

เฟี๊ยะ

ดี้ดดิ้นดีนัก มือหนาและหนักของคนแบกจึงฟาดลงเต็มแรงที่สะโพกกลมกลึงบนบ่าเขา  พร้อมกับเสียงทุ้มที่ขู่ออกไปว่า

“ถ้าขืนไม่หยุดดิ้น ฉันจะทิ้งเธออยู่กับอีวาน !”

คำขู่ของเขาได้ผลชะงัก  ผ้าห่มดิ้นได้แน่นิ่งทันใจ  มาร์คยิ้มกริ่มในใบหน้าพอใจที่จัดการกับสาวน้อยแสนพยศได้  

อีวานเหยียดยิ้มยืนมองเพื่อนเก่าเดินออกไปพร้อมกับผู้หญิงบนบ่า  เพื่อนนิสัยไม่เคยเปลี่ยน ชอบเอาชนะ เขาจึงไม่แปลกใจนักทำไมมาร์คถึงติดใจในผู้หญิงคนนี้ และนิสัยอวดดีของเพื่อนเป็นช่องว่างให้คนอื่นโจมตีได้ง่าย

“นาย !  นายจะไปที่โกดังเก็บอาวุธเราเลยไหม ?”

โทนี่ เลขาประจำตัวมาร์ค ผู้ที่ส่งข่าวให้เขารู้ว่ามีคนลักลอบเข้ามาวางเพลิงในโกดังเก็บอาวุธ  เข้าประชิดตัวเจ้านายที่ก้าวยาว ๆ ไปที่รถลีมูซีนที่จอดรออยู่ด้านหน้าตึก

“ไม่ ! ฉันจะพาแม่นี่ไปส่งบ้านก่อน แล้วจึงจะเข้าโกดัง”

เขาตอบขณะที่ลูกน้องเปิดประตูรถคัดงามสีดำวาววับให้ มือแกร่งวางผ้าห่มสอดไส้คนไว้บนเบาะหนัง

ดวงตากลมโตของคนในผ้าห่มเหลียวซ้ายแลขวา หล่อนจำได้ว่าเมื่อคืนเขากระแทกกระหน่ำใส่ร่างน้อย ๆ จนเธอหมดแรงเผลอหลับไป   พอตื่นขึ้นมาอีกทีในตอนเช้าก็พบว่าตนเองถูกม้วนไว้ในผ้าห่ม แถมยังถูกปิดปากไม่ให้ส่งเสียง  แล้วตอนนี้เขาก็แบกหล่อนขึ้นรถมา นี่เขาจะพาฉันไปไหน ? 

และราวกับว่าเขารู้ว่าหล่อนกำลังคิดอะไร เพราะเสียงทุ้มก็กระซิบข้างหูให้คำตอบว่า

“ต่อไปนี้เธอคือผู้หญิงของฉัน !  ฉันจะพาเธอไปประดับบ้านแม่ตุ๊กตาเอเชีย !”

            เรียมยอมนั่งนิ่ง ๆ เป็นรถลีมูซีน  หล่อนยอมเขาเพื่อจะได้ออกมาจากซ่องนรก  แล้วค่อยหาทางหนีให้พ้นเงื้อมมือของคนบ้ากามนี่ !

            ใบหน้าหล่อเหลา จมูกโด่ง นัยน์ตาสีฟ้ากระจ่างรับกับเส้นผมสีทอง เมื่อผสานกับรูปร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อนั้น ราวกับว่าเขาเป็นรูปปั้นเทพเจ้าของกรีกที่ถูกชุบชีวิตขึ้นมา  หากเขามีความเป็นสุภาพบุรุษกับหล่อนสักนิด และไม่ข่มเหงน้ำใจหล่อน  เรียมก็คงจะนึกรักบุรุษผู้นี้ได้อย่างไม่อยาก 

            แต่ความจริงไม่ใช่ !  เขาคือซาตานในร่างเทพบุตร ! 

อะไรที่ทำให้หล่อนซอกซ้ำเขาถนัดนัก ! 

อะไรที่ทำให้หล่อนต้องวิงวอนเขา เขาช่างช่ำชองเสียยิ่งกระไร !

            ยิ่งมองบุรุษข้างกายที่นั่งด้วยทีท่าสบายอารมณ์ ยิ่งทำให้อารมณ์คุกรุ่น หญิงสาวจึงสะบัดหน้าออกไปมองนอกรถ  หล่อนจำเป็นต้องรู้ว่าเขาจะพาหล่อนไปที่ไหน  และจะสามารถติดต่อกับคนภายนอกได้อย่างไร ซึ่งมีสายตาคมกริบคู่หนึ่งมองหล่อนเป็นระยะ ๆ ราวกับจะประเมินว่าผู้หญิงข้างกายเขากำลังคิดอะไรอยู่

            รถลีมูซีนคันงามแล่นออกนอกเมืองมาเรื่อยๆ  จนมองไม่เห็นบ้านคน ผ่านทุ่งข้าวสาลีสีทอง สลับกับไร่ข้าวโพดสีเขียวเป็นระยะ ๆ   แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็แทนที่ด้วยทุ่งหญ้าเวิ้งว้าง  จนรถหรูจอดสนิทที่ลานคอนกรีตกว้างสุดลูกหูลูกตา 

            เมื่อประตูรถเปิดออกจังหวะที่ชายหนุ่มผู้ซื้อเธอมาคว้าผ้าห่มที่ห่อหุ้มตัวหล่อนพาดไว้บนบ่า  เรียมจึงได้เห็นชัดแก่สายตาว่า ลานคอนกรีตนี้แท้จริงแล้วคือ ลานจอดเครื่องบิน!

            มาร์คแบกผ้าห่มสอดไส้สาวน้อยก้าวอาจ ๆ ผ่านบอร์ดี้การ์ดผิวหมึกที่ตั้งแถวรอรับนายขึ้นเครื่องบินเจ็ทลำสีขาวสะอาดตา  ภายในห้องผู้โดยสารมีความจุ 501 ลูกบาศก์ฟุต เท่ากับคนนั่ง 6 คนได้อย่างสะดวกสบาย เครื่องบินเจ็ตลำนี้เขาเพิ่งถอยออกมาหมาด ๆ เมื่อได้เซ็นสัญญากับรัฐบาล

            เงินก้อนแรกเก้าล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณสามร้อยล้านบาทไทย เขาละลายไปกับเครื่องบินลำนี้  ซึ่งมีสมรรถนะสามารถบินได้สูง 45,000 ฟุต เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติลงจอดได้อย่างนุ่มนวลบนรันเวย์ทุกรูปแบบ !

            ชายหนุ่มวางโรลผ้าห่มไส้สาวน้อยไว้บนเบาะหนังสีนวลด้านในติดริมหน้าต่าง แล้วเจ้าตัวก็นั่งลงเบาะข้าง ๆ  ทันทีที่ประตูเครื่องปิดลง เครื่องบินลำหรูก็ทะยานสู่ท้องฟ้า กระชากใจดวงน้อยให้หล่นวูบ เรียมถึงกลับหลับตาแน่น  ได้ยินเพียงเสียงหัวเราะฮึ ฮึ ของชายหนุ่ม เสียงเยาะเย้ยนั้นทำให้เธอนึกอยากจะกระโดดเข้าขย้ำคอคนข้าง ๆ นัก ! 

            เครื่องบินพาสาวน้อยจากแดนอีสานบินข้ามภูเขาสูง  ข้ามน้ำ  ข้ามทะเล จนกระทั่งมาถึงคฤหาสน์สีขาวบนยอดเขาสูง  เครื่องบินจึงค่อยๆ ลดระดับลงแล้วจอดสนิทบนลานบินฝั่งทิศตะวันตกของตัวคฤหาสน์

            ทันทีที่ร่างสูงไตลงบันไดเครื่องบินลงมา  รถลีมูซีนสีดำเงาวับก็จอดเทียบท่า พร้อมกับขบวนบอร์ดี้การ์ดผิวหมึกรอรับ  ทุกคนที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของเขาล้วนรู้หน้าที่ของตนโดยไม่ต้องสั่ง  เมื่อผู้เป็นนายลงจากเครื่อง  ประตูรถก็เปิดรอรับ แล้วปิดลง แล่นออกถนนมุ่งหน้าสู่คฤหาสน์หลังใหญ่

            คฤหาสน์หินอ่อนสีขาวค่อย ๆ ปรากฏแก่สายตายิ่งรถเคลื่อนตัวเข้าใกล้มาเท่าใด ความใหญ่โตของมันก็ทำให้สาวน้อยรู้สึกตัวเล็กมากขึ้นเท่านั้น  หลังคาสีน้ำเงินเข้มทรงโดมลดหลั่นกันลงไป บนยอดโดมเรือนกลางที่ใหญ่ที่สุด มีรูปปั้นอินทรีกระพือปีกผงาด  จะงอยปากอ้าออกคล้าย ๆ จะกู่ร้องข่มขวัญไพรีในพงไพร 

            คฤหาสน์หลังใหญ่ซุกซ่อนอยู่บนยอดเขาสูง เปรียบดังรังพญาอินทรี ! ! 

            และเขาคือพญาอินทรีตนนั้น ! 

            ความคิดหนึ่งแล่นวาบเข้ามาในหัวของสาวน้อย  ให้รู้สึกเสียววาบขึ้นมาจับจิต หล่อนจะรอดพ้นกรงเล็บพญาอินทรีไปได้อย่างไร ? !

            เมื่อรถลีมูซีนจอดให้ประตูคนนั่งในตอนหลังตรงกับประตูคฤหาสน์  หญิงรับใช้ก็ตั้งแถวเรียงหนึ่งเป็นแนวยาวสองแถวยืนรอรับเจ้านาย หล่อนเหล่านั้นอยู่ในชุดกระโปรงสุ่มสีดำ แขนพอง สวมทับด้วยผ้ากันเปื้อนสีขาว ผมยาวถูกมัดเก็บไว้ใต้ผ้าคลุมผมสีขาว  มือสองข้างประสานกุมไว้ด้านหน้า เมื่อเจ้านายลงจากรถเดินผ่าน แถวที่ตั้งขบวนรอรับก็จะยอบลงพร้อมกับกล่าวคำต้อนรับ

            “ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะนายท่าน”

            เสียงเปล่งประสานออกมาจากบรรดาหญิงรับใช้  เธอเหล่านั้นยังคงยืนสงบจนกว่าเจ้าของคฤหาสน์จะเดินเข้าไปในตัวตึก  มีเพียงหัวหน้าแม่บ้านวัยห้าปีเท่านั้น ที่เดินตามหลังเข้ามาเพื่อรายงานความเป็นไปของคฤหาสน์หลังนี้ รวมถึงคอยรับคำสั่งจากผู้เป็นนาย

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status