ดวงตาเรียวเล็กหากแต่ว่าคมกริบของหัวหน้าแม่บ้านจับจ้องตามแผ่นของผู้เป็นนายที่มีม้วนผ้าห่มห่อสาวน้อยพาดไว้บนบ่า แม้จะมีความสงสัยอยู่ในอกหากแต่ไม่ได้เอ่ยถามออกไป! ระยะเวลาร่วมสิบกว่าปีที่เธอดูแลคฤหาสน์แห่งนี้ ทำให้รู้ว่า
สิ่งใดที่นายไม่อยากให้รู้ เราไม่ควรถาม
สิ่งใดที่นายอยากให้ทราบ นายจะบอกเอง !
มือเหี่ยวยับย่นยังคงกุมไว้ด้านหน้าขณะที่ก้าวเร็ว ๆ เท่าที่จะทำได้ในวัย 50 ปี เพื่อที่จะไล่ตามผู้เป็นนายให้ทัน ด้านหลังของเธอยังมีบอร์ดี้การ์ดผิวหมึก 3 - 4 คนคอยตามติดอยู่ห่าง ๆ
มาร์คแบกร่างสาวน้อยในผ้าห่มขึ้นมาถึงห้องนอนของเขา แล้ววางม้วนผ้าห่มลงกับเตียง ดวงตาสาวน้อยเบิกกว้างเลิ่กลั่ก หัวใจเต้นระทึกอยู่ในอก ชายหนุ่มมองยิ้ม ๆ แล้วหันไปสั่งกับขบวนติดตาม
“ผู้หญิงของฉัน ! -มาเรีย- จัดการให้เรียบร้อย !”
“รับทราบค่ะ”
หัวหน้าแม่บ้านรับคำพร้อมกับอาการยอบลง ไม่เอ่ยถามต่อเพราะผู้หญิงที่นายพามาให้เธอจัดการตกแต่งเป็นตุ๊กตาบำบัดความใคร่มีมาอยู่บ่อย ๆ แต่ผิดกับทุกครั้งตรงที่ตุ๊กตาสาวคนนี้ถูกพันธนาการอย่างแน่นด้วยผ้าห่ม ปากถูกผ้าปิดไว้จนสนิท
ร่างในผ้าห่มออกแรงดิ้นเร้า ๆ ใบหน้าแดงก่ำ นอกจากเขาจะซื้อหล่อนมาไว้ครอบครองเป็นสมบัติส่วนตัวแล้ว เขายังถืออภิสิทธิ์เปลี่ยนชื่อให้หล่อนโดยไม่ถามความสมัครใจจากเจ้าของชื่อแม้แต่น้อย ! !
ชายหนุ่มยืดตัวขึ้นสูงมองม้วนผ้าห่มดิ้นกระแด่ว ๆ บนเตียง แล้วอดขันไม่ได้ มือเรียวยกขึ้นเสยผมที่ยับยุ่ง เอ่ยกับหัวหน้าแม่บ้านที่กำลังมองสาวน้อยในผ้าห่มอย่างกังวลใจ
“ฤทธิ์มาก ! อย่าปล่อยให้เธอหนีไปได้ ฉันจะไปดูที่โกดังเก็บอาวุธ เย็น ๆ จะกลับมา เมื่อมาถึงหวังว่ามาเรียจะอยู่ในความเรียบร้อย”
“รับทราบค่ะ”
หัวหน้าแม่บ้านรับคำพร้อมยอบลงอีกครั้ง
แล้วคนสั่งก็เร่งรีบออกไปโดยไม่เปลี่ยนเสื้อผ้า หรือแม้แต่จะรับประทานอาหารเช้า แสดงว่าที่คลังอาวุธเกิดปัญหาอย่างร้ายแรง ! ! !
บัดนี้เหลือเพียงหล่อนกับผู้หญิงของนาย หัวหน้าแม่บ้านจึงล้วงเข้าไปในกระเป๋าหยิบกระดิ่งขึ้นมาสั่น สักพักบรรดาหญิงสาวรับใช้ 3 – 4 คนก็ซอยเท้าเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว
“จัดการให้เรียบร้อย นายจะกลับมากินตอนเย็น !”
ความมืดมิดโรยตัวเข้าปกคลุมคฤหาสน์สีขาวตระหง่านบนยอดเขา ท่ามกลางความเงียบสงัดของเสียงแห่งสรรพสัตว์ใด ๆ เกิดเสียงหวีดหวิวของชั้นบรรยากาศที่ถูกแหวกด้วยวัตถุที่มีความเร็วสูง
ยิ่งเสียงนั้นดังขึ้นในระยะใกล้มากเท่าใด ยิ่งได้ยินเสียงเครื่องกลดังกระหึ่มสอดแทรกผสาน ไม่นานนักท้องฟ้าก็สว่างวาบด้วยแสงสว่างจากใต้ท้องเครื่องนกยักษ์ สาดส่องลงกระทบคฤหาสน์ทั้งหลังบนยอดเขา
เมื่อสิ้นแสง สิ้นเสียง “เอมม่าร์” หัวหน้าแม่บ้าน หันกลับมาจากช่องหน้าต่าง แล้วมือเรียวเหี่ยวย่นก็ปิดม่านลง เธอรู้อีกไม่เกิน 10 นาที ผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้จักมาถึงในไม่ช้า และภาระหน้าที่ของเธอในวันนี้จึงจะสิ้นสุดลง
เอมม่าร์สั่นกระดิ่งเป็นสัญญาให้เด็ก ๆ รับใช้ตั้งแถวรอรับเจ้าอินทรีกลับสู่รวงรัง เมื่อแถวตั้งเรียบร้อยเธอจึงเดินขึ้นสู่หัวแถว และไม่เกินชั่วอึดใจ แสงสว่างจากรถลีมูซีนก็สาดเข้ามาจนสายตาพร่ามัวไปชั่วขณะ
“เรียบร้อยดีนะ”
คำแรกที่เจ้าอินทรีเอ่ย
เอมม่าร์ยอบตัวลงก่อนตอบว่า
“เรียบร้อยดีและกำลังรอท่านบนห้อง”
ตอบคำถามอย่างรับรู้กัน หล่อนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่ท่านถามเช่นนั้น
มีอะไรหรือที่เอมม่าร์ หัวหน้าแม่บ้านประจำคฤหาสน์แห่งนี้จะจัดการไม่เรียบร้อย ผู้หญิงที่ท่านพามาเป็นเพียงสาวน้อยตัวเล็ก ๆ ที่ขนาดรูปร่างเล็กกว่าชาวตะวันตกอย่างพวกเธอเสียด้วยซ้ำ สภาพของหญิงคนนั้นเมื่อแกะห่อผ้าห่มออกก็ไม่ต่างอะไรกับลูกนกที่พลัดตกจากรวงรัง อาการสั่นน้อย ๆ เสื้อผ้าที่ขาดวิ่น เมื่อจับอาบน้ำปรุงเครื่องหอมประทินโฉมฉาบลงผิวสีน้ำผึ้งก็ผ่องลออราวกับฉาบทอง บวกกับสัดส่วนโค้งเว้ากลมกลึงทำให้เธอดูราวกับตุ๊กตานางรำแห่งดินแดนตะวันออกที่คนฝั่งนี้มักจะหิ้วกลับมาฝากคนรู้จักเสมอ ๆ เมื่อจัดสำรับอาหารให้ตุ๊กตานางรำรับประทานเรียบร้อยก็ส่งหล่อนเข้าห้องพร้อมรับผู้เป็นนาย แล้วจะมีอะไรหรือที่ไม่เรียบร้อย?
“อืม”
เสียงท่านราบเรียบจนเดาไม่ออกว่ายินดีหรือยินร้าย ใบหน้าหล่อคมที่มักจะแฝงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่เนืองนิดวันนี้กลับหดหาย แสดงว่าสถานการณ์ลอบวางเพลิงที่โกดังอาวุธคงจะหนักหนามาก มือแกร่งถอดเสื้อนอกออกยื่นให้เธอรับ แล้วถูกส่งต่อให้เด็กรับใช้ที่เดินตามเป็นขบวน
“ท่านจะรับอะไรเพิ่มไหมคะ ?”
เอมม่าร์ถามเมื่อขายาวๆ ของผู้เป็นนายก้าวอาจ ๆ ขึ้นสู่ชั้นสองของคฤหาสน์ หล่อนทราบจากเลขาท่านแล้วว่ารับอาหารเย็นที่บริษัท เพราะติดพันกับการจัดการเรื่องกลบข่าวโกดังอาวุธของบริษัทถูกลอบวางเพลิง หากข่าวแพร่ออกไปหุ้นของบริษัทก็จะตกลง ดีไม่ดีรัฐบาลอาจจะยกเลิกสัญญาซื้อขายที่ได้กระทำแล้ว
“ไม่หล่ะ ฉันอยากพักผ่อน”
มาร์คตอบ ขณะที่ถกแขนเสื้อเซิ้ตขึ้นให้พ้นรำคาญ ขายาวๆ ก้าวมุ่งตรงไปยังที่ที่จิตใจเขาจดจ่อ
“ตุ๊กตาเอเชีย” ตุ๊กตามีชีวิตที่ทำให้ความเครียดที่สะสมมาทั้งวันของเขาสลายไปในพริบตา ! ! !
ครืน คู๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
แคร่กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ร่างอรชรภายใต้เสื้อคลุมอาบน้ำไซส์ใหญ่กว่ารูปร่างบอบบางของเธอมากดันเก้าอี้ตัวโตเข้าชิดตู้ใบเล็ก ด้วยเพราะเสื้อผ้าที่ถูกจัดเตรียมไว้เป็นไซส์ของคนตะวันตกซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าคนเอเชียถึงสองเท่า แม้เด็กรับใช้จะพยายามค้นหาไซส์ที่เล็กที่สุดตามคำสั่งหัวหน้าแม่บ้านมาให้เธอ แต่มันก็ใหญ่สำหรับ “เรียม” อยู่ดี แต่ขนาดของเสื้อตัวโคร่งก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับการเคลื่อนย้ายสิ่งของมาทับถมไว้ที่ประตูบานใหญ่ จนสิ่งของเหล่านั้นพอกพูนกลายเป็นภูเขาขนาดย่อม
ตึบ !
แฮ่ก แฮ่ก ๆ
เรียมยกมือขึ้นปาดเหงื่อบนหน้าผากนูน ที่ผุดพรายขึ้นจากการออกกำลังยกข้าวของเครื่องใช้มาดันประตูไว้ เพื่อไม่ให้คนภายนอกเข้ามาข้างในได้
หล่อนรู้ !
ต่อให้ลงกลอนประตูจากด้านใน มีหรือผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้จะไม่มีกุญแจ ! ดังนั้น หล่อนจำเป็นต้องหาทุกสิ่งทุกอย่างที่พอจะเคลื่อนย้ายได้ด้วยกำลังทั้งหมดที่มีมาสุ่มกองรวมกันที่หน้าประตู และหล่อนหวังว่ามันจะมากพอให้คนหื่นกามบุกเข้ามาไม่ได้ !
ดวงตาดำขลับกวาดมองรอบห้องมีอะไรอีกที่พอจะเอามาสุ่มลงกองกำแพงประตูได้อีก ห้องนอนนี้กว้างมาก ห้องของเขาเพียงห้องเดียวก็เท่ากับพื้นที่บ้านหลังเล็กทั้งหลังที่เธอจากมา บ้านหลังเล็กที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและปลอดภัย หากแต่ว่ากินไม่อิ่มท้องนัก บ้านหลังนี้ใหญ่มากจนเรียกว่าคฤหาสน์ แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกเวิ้งว้างและหวาดระแวง แม้ว่าจะกินอิ่มแต่นอนไม่หลับ ! ! วันนี้เรียมได้กินอิ่ม เพราะหัวหน้าแม่บ้านดูแลเธอไม่ให้บกพร่อง แต่หล่อนนอนไม่หลับ เพราะรู้แน่ชัดว่าเจ้าของคฤหาสน์ซื้อตัวเธอมาเพื่อสิ่งใด ! ชุดที่หัวหน้าแม่บ้านกำชับให้เธอใส่รอนายท่านคือ ชุดนอนสีแดงสุดเซ็กซี่ที่ดาวยั่วมักจะใส่ให้เห็นในทีวีบ่อย ๆ ตอนที่หล่อนรับมาแทบอยากจะขว้างทิ้งเสียเดี๋ยวนั้น ! แต่หล่อนก็ต้องรับมันมาอย่างสงบ แล้วบอกกับหัวหน้าแม่บ้านว่า “ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะใส่มันรอเจ้านายของคุณอย่างใจจดใจจ่อ” เธอบอกเช่นนั้นเพื่อให้หัวหน้าแม่บ้านตายใจ ! เก็บแรง เก็บสมองเอาไว้ปกป้องตนจากไอ้คนหื่นกาม ! เมื่ออยู่ภายในห้องเพียงลำพังหล่อนก็แค่โยนชุดสุดเซ็กซี่นั้นให
เงียบไร้เสียงตอบอีกเช่นเคย มาร์คหัวเราะฮึ ฮึ ในลำคอขณะที่ถอดเสื้อออกแล้วโยนมันทับลงกับชุดสวย ๆ ที่เขาว่า ขายาว ๆ ก้าวเพียงสองสามก้าวก็ถึงตู้เสื้อผ้า“มาเรีย”เสียงเรียกทอดยาวขณะที่ไล่เปิดตู้เสื้อผ้าทุกบาน“เธอจะหลบฉันทั้งคืนไม่ได้หรอกนะ ออกมาเถอะมาเรีย แม่สาวน้อย” เรียมแนบหูกับประตูห้องน้ำฟังเสียงจากภายนอกด้วยใจระทึก ทันทีที่ประตูถูกถีบจนทุกอย่างกระเด็นกระดอนทั่วทุกทิศทาง หล่อนก็เผ่นแนบมาหลบในห้องน้ำ หล่อนได้ยินเสียงฝีเท้านับสิบกรูเข้ามาในห้อง แล้วทุกอย่างก็เงียบลง เหลือเพียงเสียงทุ้มจากไอ้คนบ้ากามที่พยายามเรียกหาหล่อนอย่างกวนประสาท !นี่ถ้าหล่อนตัวโตเท่าเขาสักหน่อย คงจะได้ดวลหมัดกันสักยก ยิ่งเสียงฝีเท้าของมาร์คเดินมาใกล้มากเท่าไหร่ หัวใจของสาวน้อยยิ่งเต้นแรงมากเท่านั้น และยิ่งส่งผลให้เธอคิดอะไรไม่ออก ประตูห้องน้ำลั่นกลอนภายใน แต่เขาก็คงมีลูกกุญแจไขเข้ามาได้ จะหาอะไรขวางประตูไว้เหมือนข้างนอกก็ดูเหมือนจะไม่มีสักอย่าง ห้องน้ำหรูหราเกินไป เป็นระเบียบมากไป แม้แต่แปรงขัดห้องน้ำที่หล่อนจะคว้ามาเป็นอาวุธก็ไม่มี !“มาเรียฉันรู้ว่าเธออ
“อื้อ ยะ อย่า อ่า”เสียงร้องห้ามกลายเป็นเสียงครางครวญผะแผ่ว หล่อนเกลียดตนเองนักที่เรือนร่างมันตอบสนองทุกสัมผัสจากมือแกร่ง“อย่าหยุดใช่ไหมสาวน้อย ฮึ ฮึ” เสียงร้องห้ามครางครวญผะแผ่วของหล่อน ยิ่งกระตุ้นเลือดในกายชายให้เดือดพล่านไปทั่วสรรพางค์ ตอเคราสาก ๆ ลากครูดไปกับเนินเนื้ออวบอั๋น ยิ่งทวีให้ร่างอรชรบิดแอ่นรับการรุกราน“อื้อ อ่า มาร์ค ไอ้หื่นกาม อะ อ่า อู้ยยยยย”เรียมแอ่นอกรับการปรนเปรอที่แสนเร่าร้อน หล่อนถึงกับห่อปากครางเมื่อลิ้นร้อนของชายหนุ่ม ตวัดหัวนมถี่ ๆ เต้าอีกข้างของถูกมือหนาเคล้าคลึงไม่เว้นวาย จ๊วบ ! จ๊วบ ! จ๊วบ ! จ๊วบ ! แจ๊บ ! แจ๊บบบบบบบบบบบบบบบบบบ“อื้อ อ่า อ่อยยยยยยยยย อะ อ่า”ร่างอรชรอ่อนระทวยราวกับขี้ผึ้งรนไฟ ไฟสวาทที่เขาเป็นผู้ก่อ! มือแกร่งที่จับตรึงข้อมือหล่อนไว้เหนือศีรษะคลายออกแล้วเลื่อนลงกดเปิดฝักบัว น้ำอุ่น ๆ ไหลซ่าลงมาเติมความเร่าร้อนให้ไฟสวาทรุกโชนยิ่งขึ้นซ่า ซ่า ซ่าจ๊วบ ! จ๊วบ ! จ๊วบ ! จ๊วบ ! แจ๊บบบบบบบบบบบบบบบบบบสายน้ำอุ่นพรมเรือนร่างเปลือยเปล่าของคนทั้งคู่ มือใหญ่อีกข้างลูบไล้สัดส่วนโค้งเว้า สะโพกเนื้อทองแน่
เรียมครางประท้วงเมื่อร่างกำยำโถมแรงเข้าทาบทับด้านหลังโดยแรง ลำแขนเรียวที่ค้ำขอบอ่างแทบทรุดลง“โอ้ววววว อ่า”เขาแยงดุ้นยักษ์เข้าหว่างขาเรียวงามใต้สายน้ำวน แก่นกายร้อนพองผงาดเสียดสีกลีบหอยทำให้เสียวจนต้องครางต่ำๆ มือข้างหนึ่งกอบกุมเต้านมบีบเคล้นเมามัน มืออีกข้างจับขาเรียวขางามแยกออกให้ดุ้นเขาเสียดสีได้ถนัด ๆ แล้วไล้มากดตุ่มไตเกสรสวาทใต้พื้นน้ำ“อื้อออออออ มาร์คคคคคคค ม่ายยยยย อ่า”คำกรนด่าชายที่ทรมานเธอเจียนตาย มันปลิวหายไปกับสติอันน้อยนิด เหลือเพียงสัญชาตญาณดิบของกายสาวที่ร่อนสะโพกเข้าหาแก่นร้อนฉ่าอย่างโหยหาจ๊วบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบจุ๊บ ! จ๊วบ !ปากร้ายพรมจูบหนักหน่วงไล่จากซอกคอ บ่า ไหล่ ลิ้นร้อนลากไล้ไปทั่วทุกอณูผิวพร้อมกับตอเคราสากๆ กดครูดแผ่นหลังเนื้อเนียนละเอียดเพิ่มความกระสันซ่านให้สาวน้อยในอุ้งมือมาเฟียอย่างเขาครางผะแผ่วยิ่งขึ้น“ม่าย อะไร สาวน้อย พูดให้เป็นภาษาสิเด็กดื้อ ฮึ ฮึ”เสียงทุ้มหัวเราะอย่างฮึกเหิมจุ๊บ ! จ๊วบ !จ๊วบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ“อะ ไอ้ อื้ออออออออออออ อ่า”ปากอิ่มอยากจะด่าเขาให้หายแค้นที่ทรมานหล่อนเช่นนี้ แต่กลับกลายเป็นเสียงครางซ่านกระสั
เสียงทุ้มต่ำดังสะท้านก้องทั่วห้องน้ำเมื่อกล้ามเนื้ออุ่น ๆ ของโพรงหอยบีบรัดแก่นกายแน่นเป็นจังหวะรุนแรงยิ่งขึ้น รีดน้ำกามจากแก่นกายใหญ่ให้พวยพุ่งทะลักออกมาจนอุ่นซ่าน เบาหวิวล่องลอยขึ้นจากพื้น“อร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยย มาร์คคคคคคคคคคคคคคคคค”พรวดดดดดดดดดดดดดดดดดดด น้ำหวานแตกกระจาย ร่างบางเกร็งกระตุก ปากเผยอค้างกรีดร้องอย่างสุขสม ความซาบซ่านหฤหรรษ์เสียวกระสันมันระเบิดออกหอบจิตวิญญาณของทั้งคู่พุ่งขึ้นสู่สรวงสวรรค์แล้วทั้งคู่ก็ค่อย ๆ ผ่อนคลาย มาเรียซบลงกับขอบอ่างอย่างสิ้นกำลัง ใบหน้าหล่อเหล่าแนบลงกับแผ่นหลังนวลเนียนชื้นไปด้วยเหงื่อ เขาได้ยินเสียงครางสุดท้ายเบา ๆ กับความสุขที่เร่าร้อนรุนแรงที่เขามอบให้ดังก้องในกายน้อยเขาแช่แก่นกายฝังแน่นในกายสาวให้หล่อนได้ซึมทราบความสุขสม เมื่อร่างน้อยผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อนเขาจึงถอนแก่นออกแล้วช้อนร่างน้อยขึ้นจากอ่างอุ้มไปที่เตียง แสงอาทิตย์สาดส่องทะลุผ้าม่านโปร่งแสง เห็นเป็นแสงรำไร ต่อให้ข้างนอกตะวันจะแผดแสงแรงเพียงใดแต่ภายในห้องนี้ยังคงรักษาความสบายตา และความสบายกายจากเครื่องปรับอุณหภูมิให้ใกล้เคียงกับร่างกายมนุษย์มากที่สุด เขาคือเจ
มาร์คโน้มลงกระซิบข้างแก้มเนียนอย่างยั่วเย้า จมูกโด่งคมสันแทบจะปักลงที่เนื้อแก้มนุ่มนิ่ม ลมหายใจอุ่น ๆ พ่นระบายลูบไล้จนขนอ่อนของเรียมลุกซู่ เธอจึงต้องใช้มือที่ยังเหลือเป็นอิสระอีกข้างผลักหน้าหล่อเหลาที่ช่างเย้าให้ห่างออก“อี๋..... คนหลงตัวเอง ! ไปไกล ๆ เลย เหอะ”“ฮ่า ฮ่า เปล่าหลงตนเอง หลักฐานมันฟ้อง”มาร์คตอบอย่างหน้าตาเฉย ยิ่งยัวะอารมณ์ให้มาเรียหมั่นไส้อย่างจะกระโดดทุบให้หายหลงตัวตนเองสักทีสองทีสิ่งที่หล่อนตั้งใจไว้ในคราแรกคือ หาเหตุผลออกมานอกคฤหาสน์ เพื่อที่จะได้หาโอกาสหนี แต่เขากลับไม่ยอมให้โอกาสนั้นกับหล่อน แม้เธอพยายามบอกเขาหลายต่อหลายหนก่อนมาแล้วว่า“ให้ฉันไปห้างกับแม่บ้านก็ได้”“ผมว่าง ผมจะพาไปเอง”ฝ่ายนั้นตอบโดยไม่ต้องคิด“นี่นาย ! การงานไม่รู้จักทำหรือไง ? ฉันไม่ใช่นักโทษ ที่นายจะต้องตามติดตลอดเวลา”แม้จะรู้ว่าการแว้ด ๆ ใส่ชายหนุ่มไม่เป็นผลดีกับเธอเลย แต่เธอก็อดทนที่จะพูดจากับเขาดี ๆ ไม่ได้สักที เพราะทีท่าของเขาที่ไม่ทุกข์ร้อนกับเรื่องใด ๆ เลย มันเป็นเชื้อยั๊วะอารมณ์โมโหชั้นดี“เธอไม่ใช่นักโทษ แต่เธอเป็นทาสฉัน แม่สาวน้อยมาเรีย”ชายหนุ่มจับที่ปลายคางเล็ก ๆ ให้ใบ
“Wow this is so good” สาวน้อยผิวสีน้ำผึ้ง นัยน์ตาสีดำขลับ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ร่างปราดเปรียวหันมองทุกสิ่งรอบตัวอย่างตื่นเต้น ขณะที่กางแขนออกหมุนไปรอบ ๆ ราวกับนักเต้นบัลเล่ต์“เรียม ! เรียมมมมม หยุดโซกูด ! ไหนคนที่บอกว่าจะมารับ ?” สาวอีกคนลากกระเป๋าเดินทางใบโตตามหลังด้วยทีท่ากระฟัดกระเฟียด ใบหน้าสีขาวขึ้นสีแดงจัด ! แม้จะรูปร่างสูงกว่าผู้หญิงอีกคนหากแต่ว่าไม่คล่องแคล่วว่องไวเท่ากับสาวน้อยผิวสีน้ำผึ้ง ด้วยความที่ตนเป็นลูกสาวเจ้าของตลาดรายได้หลักของครอบครัวมาจากการเก็บค่าเช่าแผงและเปิดร้านขายของชำ แต่เพื่อนสาวผู้ที่ตื่นเต้นกับทุกสิ่งรอบตัวเป็นเพียงลูกสาวแม่ค้าขายส้มตำในตลาดของตน ดังนั้น แม้จะเป็นเพื่อนที่วิ่งเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก รวมถึงเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันแต่หล่อนกลับรู้สึกเสมอว่า เธอเหนือกว่าเพื่อนสาวทุกด้าน“Oh Something slips my mind !”สาวสีน้ำผึ้งหุบแขนลงทันควัน หันซ้ายหันขวาเลิ่กลั่ก เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าตนและเพื่อนเพิ่งจะมาเหยียบอเมริกาเป็นครั้งแรก โดยได้รับคำสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะจากป้าเดือนว่าลูกสาวของเธอจะส่งคนมารับพวกหล่อน
“ฮ่า ๆ เอื้อยดาวกะซ่างล้อเล่นเนาะ ถึงเรียมสิเป็นสเปกฝรั่ง แต่เรียมกะบ่มักเด้อ พวกฝรั่งขี้นก มักแต่เงิน ! เรียมสิฟ้าวทำงานเก็บเงินให้ได้หลาย ๆ ส่งไปให้แม่”เรียมสื่อสำเนียงอีสานอย่างแสนซื่อบริสุทธิ์หญิงสาวที่ชักนำนำน้อง ๆ ให้มาทำงานยิ้มเย็นแล้วเอ่ยว่า“ขอเพียงทำตัวน่ารัก ๆ เชื่อฟังพี่ ๆ และตั้งใจทำงาน กี่หมื่นกี่แสนพวกเธอก็จะได้”“ฉันไม่ทำงานในร้านสปา !”เอ็มมี่ประกาศจุดยืนของตน“เอาเถอะ เธอจะทำหรือไม่ก็สุดแล้วแต่เธอ แต่ตอนนี้มันจะเย็นแล้ว พี่ว่าเราไปที่พักกันเลยดีกว่า”ดาวก้าวนำสองสาวออกมาจากสนามบิน โดยไม่ใส่ใจกับอาการเก้ ๆ กัง ๆ ลากกระเป๋าใบโตของลูกคุณหนูอย่างสาวเอ็มมี่เท่าใดนัก มีเพียงเพื่อนสาวที่คอยรอ รอช่วยลากกระเป๋าทั้งของตนและของเพื่อน และแล้วรถตู้ก็พาสองสาวจากแดนอีสาน มาถึงที่ร้านสปาแดนสรวง ตึกสูง 4 ชั้นเบียดตัวแทรกขึ้นกับตึกอื่นๆ บ่งบอกถึงการเป็นร้านสปาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองแห่งนี้ ร้านสปาในรูปแบบไทยแท้ มีพนักงานเป็นคนไทย แต่เจ้าของตัวจริงคือชาวอเมริกัน ทันทีที่ลงจากรถ ดาวก็นำสองสาวเดินเข้าร้านชั้นหนึ่งเปิดเป็นร้านสปาและบริการนวด ผ่า