ดวงตาดำขลับกวาดมองรอบห้องมีอะไรอีกที่พอจะเอามาสุ่มลงกองกำแพงประตูได้อีก ห้องนอนนี้กว้างมาก ห้องของเขาเพียงห้องเดียวก็เท่ากับพื้นที่บ้านหลังเล็กทั้งหลังที่เธอจากมา
บ้านหลังเล็กที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและปลอดภัย หากแต่ว่ากินไม่อิ่มท้องนัก
บ้านหลังนี้ใหญ่มากจนเรียกว่าคฤหาสน์ แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกเวิ้งว้างและหวาดระแวง
แม้ว่าจะกินอิ่มแต่นอนไม่หลับ ! !
วันนี้เรียมได้กินอิ่ม เพราะหัวหน้าแม่บ้านดูแลเธอไม่ให้บกพร่อง แต่หล่อนนอนไม่หลับ เพราะรู้แน่ชัดว่าเจ้าของคฤหาสน์ซื้อตัวเธอมาเพื่อสิ่งใด ! ชุดที่หัวหน้าแม่บ้านกำชับให้เธอใส่รอนายท่านคือ ชุดนอนสีแดงสุดเซ็กซี่ที่ดาวยั่วมักจะใส่ให้เห็นในทีวีบ่อย ๆ ตอนที่หล่อนรับมาแทบอยากจะขว้างทิ้งเสียเดี๋ยวนั้น ! แต่หล่อนก็ต้องรับมันมาอย่างสงบ แล้วบอกกับหัวหน้าแม่บ้านว่า “ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะใส่มันรอเจ้านายของคุณอย่างใจจดใจจ่อ”
เธอบอกเช่นนั้นเพื่อให้หัวหน้าแม่บ้านตายใจ ! เก็บแรง เก็บสมองเอาไว้ปกป้องตนจากไอ้คนหื่นกาม !
เมื่ออยู่ภายในห้องเพียงลำพังหล่อนก็แค่โยนชุดสุดเซ็กซี่นั้นให้ไกลตา แล้วเร่งหาทางขัดขวางไม่ให้ไอ้หื่นกามเข้าถึงตัวเธอได้ !
เมื่อเรียมมองไปรอบ ๆ ห้อง ดวงตากลมโตก็สบเข้ากับบางสิ่งบางอย่าง และสิ่งนั้นก็ทำให้หล่อนวิ่งไปยังกรอบรูปขนาดใหญ่ที่ติดไว้บนหัวเตียง มือเรียวเล็กลองขยับมัน และเพิ่มความแรงจนกลายเป็นเขย่า เมื่อมันหลุดออกจากผนังได้ สาวน้อยจึงรีบยกมันออกมา
ทันทีที่กรอบรูปขนาดมหึมาหล่นลงในอุ้มมือและอ้อมแขน หลังบอบบางก็แอ่นจนแทบจะหงายหลัง เพราะน้ำหนักของกรอบรูปประดับที่ตกลงมาไม่เบานัก ขายาวเรียวสั่นน้อย ๆ ด้วยเพราะออกแรงขนอย่างอื่นมานานจนล้า
“ฮึบ ! อ้า”
ตุบ !
ปัง !
กรอบรูปขนาดใหญ่กระแทกลงวางทับบนเก้าอี้ตัวบนสุดในบรรดาข้าวของเครื่องใช้อื่น ๆ ที่สุ่มกองรวมกัน เสียงปังภายในห้อง ดังมากพอที่จะทำให้มือแกร่งของผู้เป็นเจ้าของห้องหยุดชะงักขณะที่จับลงบนลูกบิด บรรดาขบวนผู้รับใช้นับสิบคนหยุดนิ่งราวกับถูกแช่แข็ง
คิ้วเข้มบนใบหน้าหล่อเหลาขมวดเข้าหากัน อาการเพียงเล็กน้อยของผู้เป็นนายไม่สามารถปิดบังสายตาอันคมกริบของแม่บ้านได้ สิ่งที่เกิดขึ้นภายในห้องต้องตรงกันข้ามกับที่หล่อนรายงานผู้เป็นนาย “เรียบร้อยดี” แน่ ๆ พลอยทำให้หัวใจที่เคยเต้นมายาวนานกว่าค่อนชีวิตกระตุกเต้นไม่เป็นระส่ำ
มาร์คทั้งหมุนลูกบิดประตู ทั้งเขย่าเต็มแรงจึงรู้ว่าถูกล็อกจากข้างใน เสียงปังเมื่อครู่คล้ายของหนัก ๆ หล่นลงกระทบพื้น พลอยทำให้หัวใจของเขาวูบตามไปด้วย สมองที่เคยพานพบแต่เรื่องเลวร้ายในชีวิต มันจึงประมวลผลออกมาว่า “หรือหล่อนจะคิดฆ่าตัวตาย !” เขาแค่อยากเก็บหล่อนไว้เล่นสนุก ๆ เพียงชั่วคราวเท่านั้น ไม่ต้องการให้หล่อนตาย
“มาเรีย ! เปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้ !”
ผู้เป็นนายแผดเสียงดังลั่น บรรดาลูกน้องถึงกับกลั้นหายใจ นานแล้วหนอที่เจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้ไม่เคยตะโกนสุดเสียงจนแทบจะควบคุมตนเองไม่ได้เฉกเช่นนี้มาก่อน
ชั่วหนึ่งลมหายใจไม่มีเสียงตอบรับจากข้างใน หัวหน้าแม่บ้านจึงคว้าเอาลูกกุญแจห้องจากเด็กรับใช้มาไขประตูโดยที่นายไม่ต้องสั่ง
คลิก !
เสียงกลอนประตูลั่นออกแล้ว หากแต่ประตูยังไม่ขยับ ผู้เป็นเจ้าของห้องจึงแตะที่ไหล่ผอมแห้งเบา ๆ เป็นเชิงบอกให้หลีกทาง แล้วพยักหน้าให้กับบอร์ดี้การ์ดผิวหมึกร่างยักษ์ ที่เตรียมพร้อมสำหรับการทลายประตูเข้าแทนที่ เพียงแค่เขาพยักหน้าลงอีกครั้งหนุ่มผิวหมึกสามสี่คนก็พร้อมใจกันกระแทกประตูบานใหญ่อย่างไม่คิดชีวิต
ปัง ! ปัง ! ปัง !
ร่างยักษ์ใช้ไหล่พุ่งเข้ากระแทกบานประตูไม่ขยับ แต่มันก็ไม่ขยับแม้แต่น้อย จนต้องเปลี่ยนวิธีเป็นการใช้เท้าถีบ และต้องถีบถึงสามสี่ครั้งประตูขนาดเขื่องจึงยอมเผยอออก
แววตาคุกรุ่นภายในดวงตาสีฟ้าเข้มมองลอดช่องประตูที่เริ่มเปิดออก สิ่งที่เห็นทำให้เขาแทบอยากจะหัวเราะ นี่เขาซื้อตัวมดตะนอยมาไว้บ้านรึ ? ถึงได้ขนข้าวของทุกสิ่งอย่างมาสุ่มไว้ที่หน้าประตูห้อง !
ปัง !
โครม !
เพล้ง !
พลังถีบครั้งสุดท้ายส่งผลให้ประตูเปิดออกในที่สุด ! พร้อมกับเสียงตกแตกกระจัดกระจายภายในห้อง ผู้เป็นนายถลาเข้าห้องเป็นคนแรก
ไร้วี่แววของคนที่อยู่ในห้อง สิ่งที่อยู่หลังประตูเมื่อสักครู่ล้มเกลื่อนกลาด ภาพวาดราคาหลายล้านที่เขาสั่งวาดพิเศษหลุดออกจากกรอบงอพับจนแทบดูไม่ได้
มาร์คสูดลมหายใจเข้าลึกเต็มปอด ทั้งโกรธ ทั้งขำกับสิ่งที่สาวน้อยมาเรียกระทำ มีผู้หญิงตั้งมากมายเต็มใจที่จะนอนรอเขาอยู่เป็นเตียง ! มีแค่เธอเพียงคนเดียวเท่านั้นที่พยายามจะผลักไสให้เขาออกห่าง
“เด็ก ๆ ค้นหา”
“ไม่ต้อง !”
มาร์คสั่งห้ามทันทีที่แม่บ้านบอกให้เด็กรับใช้ค้นหาผู้หญิงของนาย หัวหน้าแม่บ้านถึงกับหยุดชะงัก แววตาสับสน แปลกใจกับท่าทีของผู้เป็นนาย
“ทุกคนออกไป แล้วห้ามใครมารบกวน ! เกมนี้ฉันจะเล่นคนเดียวเท่านั้น !”
สิ้นคำสั่งบรรดาลูกน้องก็หายลับออกไป เมื่อประตูปิดลงขายาว ๆ ก็ก้าวไปรอบ ๆ ห้อง ห้องนอนของเขาที่คุ้นเคย แต่วันนี้เขารู้สึกแปลกใหม่ และตื่นตัวเต็มที่
เสียงเรียกร้องของลูกผู้ชายมันร่ำร้องอยากออกล่าอยู่ในอก ยิ่งคิดว่าคืนนี้เขากับแม่มดตะนอยตัวแสบจะต้องไล่ล่ากันทั้งคืนเขาถึงกับสั่นสะท้านไปทั้งตัว
เจ้าอินทรีก้าวไปรอบ ๆ ห้อง มือแกร่งค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อออกราวกับจะคลายความร้อนที่ทวีความเดือดขึ้นทุกขณะ เลือดในกายหนุ่มมันเดือดพล่านเมื่อถึงเวลาออกล่า
“มาเรีย ! แม่ตุ๊กตาเอเชียของฉัน ออกมาเถอะน่า มาดูผลงานของเธอสิว่าทำให้ห้องนอนราคาหลายล้านของฉันเละแค่ไหน ?”
น้ำเสียงที่แฝงด้วยความสนุก เอ่ยเนิบนาบ จะล่อกระต่ายเนื้อนุ่มออกมาจากโพรงเขาต้องใจเย็น
เงียบไม่มีเสียงตอบใด ๆ ในห้องนอนที่เคยหรูหรา บัดนี้กลายสภาพไม่ต่างจากรังหนู เก้าอี้ โต๊ะ ตู้ล้มระเนระนาด กรอบรูปราคาหลักล้านแตกเป็นเสี่ยง ๆ เขาประเมินในใจว่าหล่อนคงใช้เวลาทั้งวันเพื่อทลายห้องเขาแน่ ๆ
แล้วสายตาก็ไปสะดุดที่ชุดนอนตาข่ายสีแดงถูกโยนทิ้งไว้ข้างเตียงอย่างไม่ไยดี รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏที่มุมปาก
“อ่า สาวน้อย ผมสรรหาชุดสวย ๆ ให้ใส่ ทำไม... ไม่เห็นมันอยู่ในสายตาเลย คนสวย รู้ไหมนั่นชุดราคาครึ่งหมื่นเชียวนะ ฮึ ฮึ”
เขาตั้งใจพูดยวนประสาท เปล่งเสียงให้ดังมากพอที่จะให้คนที่หลบอยู่ในห้องนี้ได้ยิน เพื่อให้หล่อนทนไม่ได้แล้วแล่นมาฉีกอกเขา
เงียบไร้เสียงตอบอีกเช่นเคย มาร์คหัวเราะฮึ ฮึ ในลำคอขณะที่ถอดเสื้อออกแล้วโยนมันทับลงกับชุดสวย ๆ ที่เขาว่า ขายาว ๆ ก้าวเพียงสองสามก้าวก็ถึงตู้เสื้อผ้า“มาเรีย”เสียงเรียกทอดยาวขณะที่ไล่เปิดตู้เสื้อผ้าทุกบาน“เธอจะหลบฉันทั้งคืนไม่ได้หรอกนะ ออกมาเถอะมาเรีย แม่สาวน้อย” เรียมแนบหูกับประตูห้องน้ำฟังเสียงจากภายนอกด้วยใจระทึก ทันทีที่ประตูถูกถีบจนทุกอย่างกระเด็นกระดอนทั่วทุกทิศทาง หล่อนก็เผ่นแนบมาหลบในห้องน้ำ หล่อนได้ยินเสียงฝีเท้านับสิบกรูเข้ามาในห้อง แล้วทุกอย่างก็เงียบลง เหลือเพียงเสียงทุ้มจากไอ้คนบ้ากามที่พยายามเรียกหาหล่อนอย่างกวนประสาท !นี่ถ้าหล่อนตัวโตเท่าเขาสักหน่อย คงจะได้ดวลหมัดกันสักยก ยิ่งเสียงฝีเท้าของมาร์คเดินมาใกล้มากเท่าไหร่ หัวใจของสาวน้อยยิ่งเต้นแรงมากเท่านั้น และยิ่งส่งผลให้เธอคิดอะไรไม่ออก ประตูห้องน้ำลั่นกลอนภายใน แต่เขาก็คงมีลูกกุญแจไขเข้ามาได้ จะหาอะไรขวางประตูไว้เหมือนข้างนอกก็ดูเหมือนจะไม่มีสักอย่าง ห้องน้ำหรูหราเกินไป เป็นระเบียบมากไป แม้แต่แปรงขัดห้องน้ำที่หล่อนจะคว้ามาเป็นอาวุธก็ไม่มี !“มาเรียฉันรู้ว่าเธออ
“อื้อ ยะ อย่า อ่า”เสียงร้องห้ามกลายเป็นเสียงครางครวญผะแผ่ว หล่อนเกลียดตนเองนักที่เรือนร่างมันตอบสนองทุกสัมผัสจากมือแกร่ง“อย่าหยุดใช่ไหมสาวน้อย ฮึ ฮึ” เสียงร้องห้ามครางครวญผะแผ่วของหล่อน ยิ่งกระตุ้นเลือดในกายชายให้เดือดพล่านไปทั่วสรรพางค์ ตอเคราสาก ๆ ลากครูดไปกับเนินเนื้ออวบอั๋น ยิ่งทวีให้ร่างอรชรบิดแอ่นรับการรุกราน“อื้อ อ่า มาร์ค ไอ้หื่นกาม อะ อ่า อู้ยยยยย”เรียมแอ่นอกรับการปรนเปรอที่แสนเร่าร้อน หล่อนถึงกับห่อปากครางเมื่อลิ้นร้อนของชายหนุ่ม ตวัดหัวนมถี่ ๆ เต้าอีกข้างของถูกมือหนาเคล้าคลึงไม่เว้นวาย จ๊วบ ! จ๊วบ ! จ๊วบ ! จ๊วบ ! แจ๊บ ! แจ๊บบบบบบบบบบบบบบบบบบ“อื้อ อ่า อ่อยยยยยยยยย อะ อ่า”ร่างอรชรอ่อนระทวยราวกับขี้ผึ้งรนไฟ ไฟสวาทที่เขาเป็นผู้ก่อ! มือแกร่งที่จับตรึงข้อมือหล่อนไว้เหนือศีรษะคลายออกแล้วเลื่อนลงกดเปิดฝักบัว น้ำอุ่น ๆ ไหลซ่าลงมาเติมความเร่าร้อนให้ไฟสวาทรุกโชนยิ่งขึ้นซ่า ซ่า ซ่าจ๊วบ ! จ๊วบ ! จ๊วบ ! จ๊วบ ! แจ๊บบบบบบบบบบบบบบบบบบสายน้ำอุ่นพรมเรือนร่างเปลือยเปล่าของคนทั้งคู่ มือใหญ่อีกข้างลูบไล้สัดส่วนโค้งเว้า สะโพกเนื้อทองแน่
เรียมครางประท้วงเมื่อร่างกำยำโถมแรงเข้าทาบทับด้านหลังโดยแรง ลำแขนเรียวที่ค้ำขอบอ่างแทบทรุดลง“โอ้ววววว อ่า”เขาแยงดุ้นยักษ์เข้าหว่างขาเรียวงามใต้สายน้ำวน แก่นกายร้อนพองผงาดเสียดสีกลีบหอยทำให้เสียวจนต้องครางต่ำๆ มือข้างหนึ่งกอบกุมเต้านมบีบเคล้นเมามัน มืออีกข้างจับขาเรียวขางามแยกออกให้ดุ้นเขาเสียดสีได้ถนัด ๆ แล้วไล้มากดตุ่มไตเกสรสวาทใต้พื้นน้ำ“อื้อออออออ มาร์คคคคคคค ม่ายยยยย อ่า”คำกรนด่าชายที่ทรมานเธอเจียนตาย มันปลิวหายไปกับสติอันน้อยนิด เหลือเพียงสัญชาตญาณดิบของกายสาวที่ร่อนสะโพกเข้าหาแก่นร้อนฉ่าอย่างโหยหาจ๊วบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบจุ๊บ ! จ๊วบ !ปากร้ายพรมจูบหนักหน่วงไล่จากซอกคอ บ่า ไหล่ ลิ้นร้อนลากไล้ไปทั่วทุกอณูผิวพร้อมกับตอเคราสากๆ กดครูดแผ่นหลังเนื้อเนียนละเอียดเพิ่มความกระสันซ่านให้สาวน้อยในอุ้งมือมาเฟียอย่างเขาครางผะแผ่วยิ่งขึ้น“ม่าย อะไร สาวน้อย พูดให้เป็นภาษาสิเด็กดื้อ ฮึ ฮึ”เสียงทุ้มหัวเราะอย่างฮึกเหิมจุ๊บ ! จ๊วบ !จ๊วบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ“อะ ไอ้ อื้ออออออออออออ อ่า”ปากอิ่มอยากจะด่าเขาให้หายแค้นที่ทรมานหล่อนเช่นนี้ แต่กลับกลายเป็นเสียงครางซ่านกระสั
เสียงทุ้มต่ำดังสะท้านก้องทั่วห้องน้ำเมื่อกล้ามเนื้ออุ่น ๆ ของโพรงหอยบีบรัดแก่นกายแน่นเป็นจังหวะรุนแรงยิ่งขึ้น รีดน้ำกามจากแก่นกายใหญ่ให้พวยพุ่งทะลักออกมาจนอุ่นซ่าน เบาหวิวล่องลอยขึ้นจากพื้น“อร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยย มาร์คคคคคคคคคคคคคคคคค”พรวดดดดดดดดดดดดดดดดดดด น้ำหวานแตกกระจาย ร่างบางเกร็งกระตุก ปากเผยอค้างกรีดร้องอย่างสุขสม ความซาบซ่านหฤหรรษ์เสียวกระสันมันระเบิดออกหอบจิตวิญญาณของทั้งคู่พุ่งขึ้นสู่สรวงสวรรค์แล้วทั้งคู่ก็ค่อย ๆ ผ่อนคลาย มาเรียซบลงกับขอบอ่างอย่างสิ้นกำลัง ใบหน้าหล่อเหล่าแนบลงกับแผ่นหลังนวลเนียนชื้นไปด้วยเหงื่อ เขาได้ยินเสียงครางสุดท้ายเบา ๆ กับความสุขที่เร่าร้อนรุนแรงที่เขามอบให้ดังก้องในกายน้อยเขาแช่แก่นกายฝังแน่นในกายสาวให้หล่อนได้ซึมทราบความสุขสม เมื่อร่างน้อยผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อนเขาจึงถอนแก่นออกแล้วช้อนร่างน้อยขึ้นจากอ่างอุ้มไปที่เตียง แสงอาทิตย์สาดส่องทะลุผ้าม่านโปร่งแสง เห็นเป็นแสงรำไร ต่อให้ข้างนอกตะวันจะแผดแสงแรงเพียงใดแต่ภายในห้องนี้ยังคงรักษาความสบายตา และความสบายกายจากเครื่องปรับอุณหภูมิให้ใกล้เคียงกับร่างกายมนุษย์มากที่สุด เขาคือเจ
มาร์คโน้มลงกระซิบข้างแก้มเนียนอย่างยั่วเย้า จมูกโด่งคมสันแทบจะปักลงที่เนื้อแก้มนุ่มนิ่ม ลมหายใจอุ่น ๆ พ่นระบายลูบไล้จนขนอ่อนของเรียมลุกซู่ เธอจึงต้องใช้มือที่ยังเหลือเป็นอิสระอีกข้างผลักหน้าหล่อเหลาที่ช่างเย้าให้ห่างออก“อี๋..... คนหลงตัวเอง ! ไปไกล ๆ เลย เหอะ”“ฮ่า ฮ่า เปล่าหลงตนเอง หลักฐานมันฟ้อง”มาร์คตอบอย่างหน้าตาเฉย ยิ่งยัวะอารมณ์ให้มาเรียหมั่นไส้อย่างจะกระโดดทุบให้หายหลงตัวตนเองสักทีสองทีสิ่งที่หล่อนตั้งใจไว้ในคราแรกคือ หาเหตุผลออกมานอกคฤหาสน์ เพื่อที่จะได้หาโอกาสหนี แต่เขากลับไม่ยอมให้โอกาสนั้นกับหล่อน แม้เธอพยายามบอกเขาหลายต่อหลายหนก่อนมาแล้วว่า“ให้ฉันไปห้างกับแม่บ้านก็ได้”“ผมว่าง ผมจะพาไปเอง”ฝ่ายนั้นตอบโดยไม่ต้องคิด“นี่นาย ! การงานไม่รู้จักทำหรือไง ? ฉันไม่ใช่นักโทษ ที่นายจะต้องตามติดตลอดเวลา”แม้จะรู้ว่าการแว้ด ๆ ใส่ชายหนุ่มไม่เป็นผลดีกับเธอเลย แต่เธอก็อดทนที่จะพูดจากับเขาดี ๆ ไม่ได้สักที เพราะทีท่าของเขาที่ไม่ทุกข์ร้อนกับเรื่องใด ๆ เลย มันเป็นเชื้อยั๊วะอารมณ์โมโหชั้นดี“เธอไม่ใช่นักโทษ แต่เธอเป็นทาสฉัน แม่สาวน้อยมาเรีย”ชายหนุ่มจับที่ปลายคางเล็ก ๆ ให้ใบ
“Wow this is so good” สาวน้อยผิวสีน้ำผึ้ง นัยน์ตาสีดำขลับ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ร่างปราดเปรียวหันมองทุกสิ่งรอบตัวอย่างตื่นเต้น ขณะที่กางแขนออกหมุนไปรอบ ๆ ราวกับนักเต้นบัลเล่ต์“เรียม ! เรียมมมมม หยุดโซกูด ! ไหนคนที่บอกว่าจะมารับ ?” สาวอีกคนลากกระเป๋าเดินทางใบโตตามหลังด้วยทีท่ากระฟัดกระเฟียด ใบหน้าสีขาวขึ้นสีแดงจัด ! แม้จะรูปร่างสูงกว่าผู้หญิงอีกคนหากแต่ว่าไม่คล่องแคล่วว่องไวเท่ากับสาวน้อยผิวสีน้ำผึ้ง ด้วยความที่ตนเป็นลูกสาวเจ้าของตลาดรายได้หลักของครอบครัวมาจากการเก็บค่าเช่าแผงและเปิดร้านขายของชำ แต่เพื่อนสาวผู้ที่ตื่นเต้นกับทุกสิ่งรอบตัวเป็นเพียงลูกสาวแม่ค้าขายส้มตำในตลาดของตน ดังนั้น แม้จะเป็นเพื่อนที่วิ่งเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก รวมถึงเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันแต่หล่อนกลับรู้สึกเสมอว่า เธอเหนือกว่าเพื่อนสาวทุกด้าน“Oh Something slips my mind !”สาวสีน้ำผึ้งหุบแขนลงทันควัน หันซ้ายหันขวาเลิ่กลั่ก เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าตนและเพื่อนเพิ่งจะมาเหยียบอเมริกาเป็นครั้งแรก โดยได้รับคำสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะจากป้าเดือนว่าลูกสาวของเธอจะส่งคนมารับพวกหล่อน
“ฮ่า ๆ เอื้อยดาวกะซ่างล้อเล่นเนาะ ถึงเรียมสิเป็นสเปกฝรั่ง แต่เรียมกะบ่มักเด้อ พวกฝรั่งขี้นก มักแต่เงิน ! เรียมสิฟ้าวทำงานเก็บเงินให้ได้หลาย ๆ ส่งไปให้แม่”เรียมสื่อสำเนียงอีสานอย่างแสนซื่อบริสุทธิ์หญิงสาวที่ชักนำนำน้อง ๆ ให้มาทำงานยิ้มเย็นแล้วเอ่ยว่า“ขอเพียงทำตัวน่ารัก ๆ เชื่อฟังพี่ ๆ และตั้งใจทำงาน กี่หมื่นกี่แสนพวกเธอก็จะได้”“ฉันไม่ทำงานในร้านสปา !”เอ็มมี่ประกาศจุดยืนของตน“เอาเถอะ เธอจะทำหรือไม่ก็สุดแล้วแต่เธอ แต่ตอนนี้มันจะเย็นแล้ว พี่ว่าเราไปที่พักกันเลยดีกว่า”ดาวก้าวนำสองสาวออกมาจากสนามบิน โดยไม่ใส่ใจกับอาการเก้ ๆ กัง ๆ ลากกระเป๋าใบโตของลูกคุณหนูอย่างสาวเอ็มมี่เท่าใดนัก มีเพียงเพื่อนสาวที่คอยรอ รอช่วยลากกระเป๋าทั้งของตนและของเพื่อน และแล้วรถตู้ก็พาสองสาวจากแดนอีสาน มาถึงที่ร้านสปาแดนสรวง ตึกสูง 4 ชั้นเบียดตัวแทรกขึ้นกับตึกอื่นๆ บ่งบอกถึงการเป็นร้านสปาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองแห่งนี้ ร้านสปาในรูปแบบไทยแท้ มีพนักงานเป็นคนไทย แต่เจ้าของตัวจริงคือชาวอเมริกัน ทันทีที่ลงจากรถ ดาวก็นำสองสาวเดินเข้าร้านชั้นหนึ่งเปิดเป็นร้านสปาและบริการนวด ผ่า
เรียมตวาดกลับสำเนียงภาษาอังกฤษชัดถ้อยชัดคำ แม้หล่อนจะดูเป็นเด็กสาวใสซื่อ แต่เมื่อต้องเผชิญกับสิ่งที่ไม่เป็นธรรม หล่อนก็ไม่ยอมให้ใครรังแกได้“ไม่ได้ขู่ แค่เล่าความจริงให้ฟัง ฮึ ฮึ”อีวานหยิบซิการ์ขึ้นมาพ่นต่ออย่างสบายใจ“เอื้อยดาว ! เรียมบ่เฮ็ด หัวเด็ดตีนขาดหนูกะบ่เฮ็ด !”เรียมหันไปบอกกับพี่สาวบ้านเดียวกัน เสียใจอย่างสุดซึ้งที่ถูกคนบ้านเดียวกันหลอกให้มาขายตัว“ถ้าไม่ทำ ก็คืนเงินค่าทำวีซ่า และค่าตั๋วมาทั้งหมดก็แสนกว่าบาทเอง”สาวที่นั่งไขว่ห้างพูดด้วยทีท่าสบายๆ เรียมกัดฟันจนเจ็บ! เจ็บใจที่ทั้งแม่และตนหลงเชื่อป้าเดือนที่ถูกพี่ดาวหลอกต่ออีกทอดว่าทำงานที่ร้านสปาหรูรายได้งาม ที่แท้พี่ดาวก็เป็นแม่เล้าคอยหาเด็กสาวๆ ป้อมเข้าสู่วงการค้ามนุษย์!!!“เงินแสนเดียว ! ฉันมีปัญญาจ่าย !”พูดจบเอ็มมี่ก็กระทืบเท้าแล้วหมุนตัวจะออกไปจากห้อง เรียมได้แค่ยืนนิ่ง มือชื้นไปด้วยเหงื่อ ครอบครัวของหล่อนไม่ได้ร่ำรวยเหมือนกับเอ็มมี่ หัวใจของเรียมเริ่มเต้นแรงหล่อนไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะถูกคนใกล้ตัวหลอกมาขาย ถ้าหล่อนหนีไป แม่ก็ต้องมีหนี้เป็นแสน แต่ถ้าหล่อนขายตัวที่นี่หล่อนก็เท่ากับตายทั้งเป็น“เอื้อยดาว เห็นแก่คว