มาร์คโน้มลงกระซิบข้างแก้มเนียนอย่างยั่วเย้า จมูกโด่งคมสันแทบจะปักลงที่เนื้อแก้มนุ่มนิ่ม ลมหายใจอุ่น ๆ พ่นระบายลูบไล้จนขนอ่อนของเรียมลุกซู่ เธอจึงต้องใช้มือที่ยังเหลือเป็นอิสระอีกข้างผลักหน้าหล่อเหลาที่ช่างเย้าให้ห่างออก
“อี๋..... คนหลงตัวเอง ! ไปไกล ๆ เลย เหอะ”
“ฮ่า ฮ่า เปล่าหลงตนเอง หลักฐานมันฟ้อง”
มาร์คตอบอย่างหน้าตาเฉย ยิ่งยัวะอารมณ์ให้มาเรียหมั่นไส้อย่างจะกระโดดทุบให้หายหลงตัวตนเองสักทีสองที
สิ่งที่หล่อนตั้งใจไว้ในคราแรกคือ หาเหตุผลออกมานอกคฤหาสน์ เพื่อที่จะได้หาโอกาสหนี แต่เขากลับไม่ยอมให้โอกาสนั้นกับหล่อน แม้เธอพยายามบอกเขาหลายต่อหลายหนก่อนมาแล้วว่า
“ให้ฉันไปห้างกับแม่บ้านก็ได้”
“ผมว่าง ผมจะพาไปเอง”
ฝ่ายนั้นตอบโดยไม่ต้องคิด
“นี่นาย ! การงานไม่รู้จักทำหรือไง ? ฉันไม่ใช่นักโทษ ที่นายจะต้องตามติดตลอดเวลา”
แม้จะรู้ว่าการแว้ด ๆ ใส่ชายหนุ่มไม่เป็นผลดีกับเธอเลย แต่เธอก็อดทนที่จะพูดจากับเขาดี ๆ ไม่ได้สักที เพราะทีท่าของเขาที่ไม่ทุกข์ร้อนกับเรื่องใด ๆ เลย มันเป็นเชื้อยั๊วะอารมณ์โมโหชั้นดี
“เธอไม่ใช่นักโทษ แต่เธอเป็นทาสฉัน แม่สาวน้อยมาเรีย”
ชายหนุ่มจับที่ปลายคางเล็ก ๆ ให้ใบหน้าคมสวยแต่แสนรั้นนั้นเชิดขึ้น ใบหน้าหล่อดุจเทพบุตรโน้มลงใกล้ ลมหายใจจวนเจียนจะเป่ารดกัน มาเรียรู้สึกว่าหัวใจของเธอมันเต้นแรงราวกับจะระเบิดออกมาข้างนอกอก ยิ่งดวงตาสีฟ้าใสมีรอยประกายวาววับที่กินความหมายลึกซึ้ง เธอยิ่งรู้สึกร้อนผะผ่าวที่ใบหน้า
“และที่สำคัญคนรวยล้นฟ้าแบบฉันนี่นะ เขาใช้เงินทำงาน เขาไม่ใช้แรงแลกเงินกันหรอกนะ ฮึ ฮึ”
ประโยคสุดท้ายของชายหนุ่ม ทำให้มาเรียอยากจะกรี้ดใส่คนตรงหน้า แต่ก็ทำได้แค่สะบัดหน้าหนีอย่างขัดเคือง ! แม้ว่าที่เขาพูดมันเป็นเรื่องจริงก็ตาม
“นี่ ! ถ้าไม่ปล่อยฉันจะเลือกเสื้อได้ยังไงหล่ะ”
มาเรียต่อรองในเรื่องที่สมเหตุสมผล
แผนที่หล่อนวางเอาไว้ว่าจะลอบหนีความหวังชั้นแรกเป็นอันมลายไป และยิ่งทลายลงไปอีกเมื่อชายหนุ่มตามติดเธอไม่ห่าง แถมดีบอร์ดี้การ์ดผิวหมึกนับสิบคนยังกระจายกันรอบห้าง โดยทิ้งระยะห่างจากตัวเจ้านายไม่ไกลเกินกว่ารักษาความปลอดภัยไม่ได้ และไม่ใกล้เกินไปจนล้ำเส้นความไปส่วนตัว
“ได้ ฉันปล่อย”
เขาวางมือจากหล่อนเสียดื้อ ๆ จนคนที่ร้องขอให้ปล่อยแทบเสียหลักล้มลงเพราะแรงที่ตนขืนดึงมือออก
“ฉันบอกไว้ก่อนนะว่า อย่าคิดเล่นตุกติกกับฉัน เพราะหู ตา ของฉันมีอยู่ทุกที่”
เขาขู่หล่อนไว้
มาเรียมได้แต่กัดฟันฮึดฮัด ทำทีเป็นเลือกดูเสื้อผ้า แต่ในสมองกำลังคิดหาทางหนี
“นี่ ๆ ตัวนี้สวยนะ”
มาร์คถือเดรสสั้นสีแดงสด เว้าร่องอกจนลึกระดับสะดือ ทาบลงกับตัวมาเรีย ตุ๊กตาที่เขาหวงแหน
ตุ๊กตาที่เขาอยากจะจับแต่งตัวเหลือบตาขึ้นแล้วกลอกลง ราวกับเซ็งสุดชีวิต ก่อนที่จะสะบัดหน้าแล้วเดินหนี
“เอ้าท์ ไม่ชอบเหรอ เซ็กซี่ดีออก ฮ่า ฮ่า”
มาเรียไม่สนใจหนุ่มที่หัวเราะไล่หลัง หล่อนอยากจะอยู่เงียบ ๆ ใช้ความคิดสักพัก แต่ดูเหมือนว่ามาร์คจะไม่ยอมปล่อยให้เธอได้อยู่เพียงลำพัง เขาก้าวเพียงสองสามก้าว ขายาว ๆ ของเขาก็พาร่างกำยำแสนสง่างามเข้าถึงตัวแม่สาวตุ๊กตาได้อย่างทันใจ
“แต่ฉันว่า อย่างเธอไม่ต้องใส่เซ็กซี่กว่าเนอะ”
เขาแกล้งกระซิบยั่วเย้าข้างหู ทำเอาใบหน้าสาวน้อยร้อนผะผ่าวขึ้นทันควัน
“อึ๋ยยยยยย ไอ้บ้า ! วัน ๆ คิดเป็นอยู่เรื่องเดียวหรือไง !”
มาเรียกระแทกเสื้อลงกับราว แล้วเดินปัง ๆ หนีเข้าไปอีกร้าน
มาร์คหัวเราะฮึ ๆ ตามหลังมาอย่างไม่เร่งร้อน วันนี้เป็นวันที่เขาครึ้มอกครึ้มใจเสียงยิ่งกระไร ยิ่งแม่สาวตัวดีทำทีท่าฮึดฮัด เขายิ่งรู้สึกสนุกที่ยั่วหล่อนได้
“นี่ ๆ รีบ ๆ เลือก จะเอาตัวไหนก็เอาจะได้ไม่เสียเวลา”
ชายหนุ่มยืนมาหยุดเคียงข้างสาวสวย พนักงานยื่นเสื้อตัวที่เป็นตัวที่สวยที่สุดในร้านให้แล้วถอยออกมาอย่างรู้งาน
“ไหนบอกว่าว่างไง ถ้าไม่อยากเสียเวลาก็กลับไป ฉันเดินคนเดียวได้”
ดวงตาดำขลับเลื่อนขึ้นลงมองดูชุดเดรสในมือ แต่ปากเธอก็มิวายวิวาทกับชายหนุ่ม
“อืมมมมม”
ชายหนุ่มเลิกคิ้วสูง เหยียดยิ้มในหน้า แล้วค่อยๆ โน้มลงกระซิบข้างหูสาวน้อยว่า
“ที่บอกว่าเสียเวลา ผมหมายถึงเสียเวลา –ถอด- ต่างหากหล่ะ ฮึ ฮึ”
ชายหนุ่มแกล้งยานเสียงตรงคำว่า “ถอด” มาเรียตาวาวขึ้น กัดริมฝีปาก หันขวับไปที่คนยั่วน้ำโห
แล้วก็พบกับแววตาแสนเจ้าเล่ห์ของมาเฟียหนุ่ม
“อี๋.......”
หญิงสาวร้องอี๋อย่างขัดใจ ดวงตาดำขวับเต้นระริกวาวโรจน์ที่ทำอะไรคนยั่วโทสะไม่ได้
“ฮึ ฮึ อี๋อะไร ๆ เร็ว ๆ เข้าชุดไหนก็เหมือน ๆ กันแหล่ะ สุดท้ายก็ต้องถอด”
“ได้ ! ชุดไหนก็เหมือน ๆ กันหมด งั้นฉันเอาได้ทุกตัว ! จะได้ไม่เสียเวลาเลือก !”
มาเรียบอกเขาอย่างท้าทาย
“ได้สิ เรื่องแค่นี้ขนหน้าแข้งคนรวยล้นฟ้าแบบฉันนี่นะ ไม่ร่วงหรอก”
คำตอบของเขาทำเอาพนักงานขายถึงกับดีใจจนเนื้อเต้น ซึ่งต่างจากสาวอีกคนที่คิดจะแก้เผ็ดเขาให้แสบ ๆ คัน ๆ เสียบ้าง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ทุกร้อนอะไรเลย หนำซ้ำยังคุยทับเติมเชื้อโมโหให้หญิงสาวอีก
มาเรียเหยียดยิ้มแล้วเอ่ย
“อ๋อ ขอประทานโทษที ดิฉันลืมไปว่าท่านเป็นถึงเจ้าพ่อสงครามแห่งแดนตะวันตก ผู้กุมอำนาจและเงินตราเกือบครึ่งทวีป”
มาร์คหยุดหัวเราะทันที แปลกใจที่สาวน้อยที่คอยแต่จะแว้ด ๆ ใส่เขากลับเอ่ยวาจาอ่อนหวาน
“อะ อืม ก็ใช่”
มาร์คตอบรับยากเย็นเริ่มระแวงแม่สาวตัวดีมีแผนร้ายอะไรในใจ
“ใช่ไหมคะ งั้นถ้าดิฉันอยากจะขอความกรุณาท่านซื้อทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เหมาหมดทั้งห้าง ท่านจะโปรดเมตตาดิฉันได้หรือไม่คะ”
แม้วาจาที่หล่อนเอ่ยเว้าวอนเขานั้นจะฟังดูอ่อนหวาน แต่ในดวงตาคมสวยฉายแววแห่งชัยชนะ
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ”
มาร์คระเบิดเสียงหัวเราะออกมาโดยไม่อายสายตานับสิบคู่ของพนักงานขายและบอร์ดี้การ์ด ตั้งแต่เกิดมาเขาเพิ่งจะถูกย้อนศรจากผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ก็วันนี้ หล่อนแสบเข้าขั้นถึงแซ่บเลยทีเดียว
“ได้ ! โทนี่ !”
“Wow this is so good” สาวน้อยผิวสีน้ำผึ้ง นัยน์ตาสีดำขลับ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ร่างปราดเปรียวหันมองทุกสิ่งรอบตัวอย่างตื่นเต้น ขณะที่กางแขนออกหมุนไปรอบ ๆ ราวกับนักเต้นบัลเล่ต์“เรียม ! เรียมมมมม หยุดโซกูด ! ไหนคนที่บอกว่าจะมารับ ?” สาวอีกคนลากกระเป๋าเดินทางใบโตตามหลังด้วยทีท่ากระฟัดกระเฟียด ใบหน้าสีขาวขึ้นสีแดงจัด ! แม้จะรูปร่างสูงกว่าผู้หญิงอีกคนหากแต่ว่าไม่คล่องแคล่วว่องไวเท่ากับสาวน้อยผิวสีน้ำผึ้ง ด้วยความที่ตนเป็นลูกสาวเจ้าของตลาดรายได้หลักของครอบครัวมาจากการเก็บค่าเช่าแผงและเปิดร้านขายของชำ แต่เพื่อนสาวผู้ที่ตื่นเต้นกับทุกสิ่งรอบตัวเป็นเพียงลูกสาวแม่ค้าขายส้มตำในตลาดของตน ดังนั้น แม้จะเป็นเพื่อนที่วิ่งเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก รวมถึงเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันแต่หล่อนกลับรู้สึกเสมอว่า เธอเหนือกว่าเพื่อนสาวทุกด้าน“Oh Something slips my mind !”สาวสีน้ำผึ้งหุบแขนลงทันควัน หันซ้ายหันขวาเลิ่กลั่ก เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าตนและเพื่อนเพิ่งจะมาเหยียบอเมริกาเป็นครั้งแรก โดยได้รับคำสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะจากป้าเดือนว่าลูกสาวของเธอจะส่งคนมารับพวกหล่อน
“ฮ่า ๆ เอื้อยดาวกะซ่างล้อเล่นเนาะ ถึงเรียมสิเป็นสเปกฝรั่ง แต่เรียมกะบ่มักเด้อ พวกฝรั่งขี้นก มักแต่เงิน ! เรียมสิฟ้าวทำงานเก็บเงินให้ได้หลาย ๆ ส่งไปให้แม่”เรียมสื่อสำเนียงอีสานอย่างแสนซื่อบริสุทธิ์หญิงสาวที่ชักนำนำน้อง ๆ ให้มาทำงานยิ้มเย็นแล้วเอ่ยว่า“ขอเพียงทำตัวน่ารัก ๆ เชื่อฟังพี่ ๆ และตั้งใจทำงาน กี่หมื่นกี่แสนพวกเธอก็จะได้”“ฉันไม่ทำงานในร้านสปา !”เอ็มมี่ประกาศจุดยืนของตน“เอาเถอะ เธอจะทำหรือไม่ก็สุดแล้วแต่เธอ แต่ตอนนี้มันจะเย็นแล้ว พี่ว่าเราไปที่พักกันเลยดีกว่า”ดาวก้าวนำสองสาวออกมาจากสนามบิน โดยไม่ใส่ใจกับอาการเก้ ๆ กัง ๆ ลากกระเป๋าใบโตของลูกคุณหนูอย่างสาวเอ็มมี่เท่าใดนัก มีเพียงเพื่อนสาวที่คอยรอ รอช่วยลากกระเป๋าทั้งของตนและของเพื่อน และแล้วรถตู้ก็พาสองสาวจากแดนอีสาน มาถึงที่ร้านสปาแดนสรวง ตึกสูง 4 ชั้นเบียดตัวแทรกขึ้นกับตึกอื่นๆ บ่งบอกถึงการเป็นร้านสปาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองแห่งนี้ ร้านสปาในรูปแบบไทยแท้ มีพนักงานเป็นคนไทย แต่เจ้าของตัวจริงคือชาวอเมริกัน ทันทีที่ลงจากรถ ดาวก็นำสองสาวเดินเข้าร้านชั้นหนึ่งเปิดเป็นร้านสปาและบริการนวด ผ่า
เรียมตวาดกลับสำเนียงภาษาอังกฤษชัดถ้อยชัดคำ แม้หล่อนจะดูเป็นเด็กสาวใสซื่อ แต่เมื่อต้องเผชิญกับสิ่งที่ไม่เป็นธรรม หล่อนก็ไม่ยอมให้ใครรังแกได้“ไม่ได้ขู่ แค่เล่าความจริงให้ฟัง ฮึ ฮึ”อีวานหยิบซิการ์ขึ้นมาพ่นต่ออย่างสบายใจ“เอื้อยดาว ! เรียมบ่เฮ็ด หัวเด็ดตีนขาดหนูกะบ่เฮ็ด !”เรียมหันไปบอกกับพี่สาวบ้านเดียวกัน เสียใจอย่างสุดซึ้งที่ถูกคนบ้านเดียวกันหลอกให้มาขายตัว“ถ้าไม่ทำ ก็คืนเงินค่าทำวีซ่า และค่าตั๋วมาทั้งหมดก็แสนกว่าบาทเอง”สาวที่นั่งไขว่ห้างพูดด้วยทีท่าสบายๆ เรียมกัดฟันจนเจ็บ! เจ็บใจที่ทั้งแม่และตนหลงเชื่อป้าเดือนที่ถูกพี่ดาวหลอกต่ออีกทอดว่าทำงานที่ร้านสปาหรูรายได้งาม ที่แท้พี่ดาวก็เป็นแม่เล้าคอยหาเด็กสาวๆ ป้อมเข้าสู่วงการค้ามนุษย์!!!“เงินแสนเดียว ! ฉันมีปัญญาจ่าย !”พูดจบเอ็มมี่ก็กระทืบเท้าแล้วหมุนตัวจะออกไปจากห้อง เรียมได้แค่ยืนนิ่ง มือชื้นไปด้วยเหงื่อ ครอบครัวของหล่อนไม่ได้ร่ำรวยเหมือนกับเอ็มมี่ หัวใจของเรียมเริ่มเต้นแรงหล่อนไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะถูกคนใกล้ตัวหลอกมาขาย ถ้าหล่อนหนีไป แม่ก็ต้องมีหนี้เป็นแสน แต่ถ้าหล่อนขายตัวที่นี่หล่อนก็เท่ากับตายทั้งเป็น“เอื้อยดาว เห็นแก่คว
แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก เรียมออกแรงวิ่งหนีสุดชีวิต หัวใจของเธอมันแทบจะกระดอนออกมาด้านนอกหนีก็ตาย ไม่หนีก็ตายทั้งเป็น หล่อนจึงเลือกที่จะหนีอย่างน้อยก็ตายอย่างมีศักดิ์ศรี!“หยุด ! หยุดเดี๋ยวนี้ !”เจ้ายักษ์ผิวหมึกพร้อมอาวุธปืนวิ่งตึง ๆ วิ่งไล่หลังมาเรื่อย ๆ ร่างปราดเปรียว ในชุดสุดเซ็กซี่วิ่งหายลับไปที่มุมทางเดิน หล่อนหันซ้ายหันขวาสองฝั่งทางเดินไม่มีทางให้หล่อนวิ่งหนีได้อีกต่อไปแล้ว เรียมหอบหายใจจนเจ็บหน้าอก เสียงฝีเท้ายิ่งดังใกล้เข้ามา หล่อนยิ่งใจระทึก ชั่ววินาทีนั้นหล่อนตัดสินใจผลักประตูห้องที่อยู่ใกล้ตัวมากที่สุด เมื่อปิดประตูลง มือเรียวก็รีบลงกลอนด้านในประตูห้องทุกจุด แล้วหล่อนแนบหลังพิงประตูด้วยใจระทึก อย่างน้อยกว่าพวกมันจะพังประตูเข้ามาได้หล่อนอาจจะสามารถติดต่อกับคนภายนอกได้ ! เสียงฝีเท้าเจ้าหมึกยักษ์วิ่งไปมาอยู่หน้าห้อง พร้อมกับเสียงสบถของคนอีกสองสามคน แสดงว่าทุกคนรู้แล้วว่าหล่อนหนีออกจากห้อง“เฮ้ย ! ห้องนี้ไม่ได้ ! ห้องวีไอพีห้ามเข้า”เสียงหนึ่งดังแว่ว ๆ ภายนอกห้อง เรียมพยายามเงี่ยหูฟังได้ยินบ้าง ไม่ได้ยินบ้า
ปากหนาบดจูบหนักหน่วง มือใหญ่ของชายหนุ่มช้อนเข้าที่ลำคอด้านหลังของหล่อน กดหล่อนให้แนบชิดเพื่อที่เขาจะได้จูบอย่างล้ำลึกยิ่งขึ้นจ๊วบ ! จ๊วบ ! จ๊วบ ! “อืมมมมมมม อ่า”“อึก อ่า”หญิงสาวหลับตาพริ้มโดยอัตโนมัติ เธอเผยอปากรับลิ้นร้อนฉ่าของชายหนุ่มให้ซอกซอนรีดเอาความหวานในโพรงปากอุ่นอย่างฉ่ำใจ หล่อนเคลิบเคลิ้มไปกับความรัญจวนที่เขามอบให้ จนครางผะแผ่ว“อือ อ่อย”“จ๊วบ อืมมมมมมมมม อ่า”ชายหนุ่มคำรามในอกอย่างพึงพอใจ เมื่อลิ้มลองความหวานฉ่ำของกลีบปากบาง เลือดในกายบุรุษเดือนพล่านไปทั้งร่างเมื่ออกอวบๆ แนบชิดเสียดสีกับแผงอกกำยำ สองมือของเขาลูบไล้เล้าโลมร่างบางบนตักอย่างถ้วนทั่ว คอ ไหล่ หลัง เลื้อยลงต่ำแล้วช้อนแก้มก้นกลมกลึงของหล่อน มือหนาบีบเบา ๆ ก่อนจะลากกลับขึ้นข้างบน สัมผัสของเขาสร้างกระแสไฟสวาทให้ลามเลียร้อนผะผ่าวไปทั่วร่างอรชรจนหล่อนครางฮือในลำคอ“อือ อ่า”จ๊วบ ! จ๊วบ ! จ๊วบ !จูบของชายหนุ่มผู้ที่เธอเพิ่งจะเคยพบเป็นครั้งแรก มันช่างเร่าร้อนยิ่งนัก สติที่มีเหลืออยู่อันน้อยนิดสั่งให้เธอผลักเขาออก แต่หล่อนก็ไม่อาจกระทำได้ดังที่สมองสั่ง เมื่อเสียงหัวใจของเธอมันเต้นระทึกยิ่งกว่าการวิ
เขาเกิดมาทั้งชีวิตไม่มีใครกล้าด่าเขาสักคน ! ผู้หญิงทุกคนล้วนพะเน้าพะนอเอาใจเปรียบเขาเป็นดั่งเทพบุตร อยากขึ้นเตียงกับเขาจนแทบดิ้น ! แต่สาวตุ๊กตาเอเชียคนนี้ นอกจากหล่อนจะผลักไสไล่ส่งราวกับหมู่กับหมาแล้ว ยังด่าเขาไม่เหลือชิ้นดี ! และเขาก็เป็นพวกชอบความท้าทายเสียด้วยสิ ! ยิ่งเกลียด ยิ่งขับไล่ เขาก็ยิ่งอยากเอาชนะ !“ฮ่า ๆ ใช่ ! ฉันไม่ใช่คนดีเท่าไหร่หรอกแม่ตุ๊กตาเอเชีย และคนเลว ๆ อย่างฉันจะพาเธอขึ้นสวรรค์จนแทบลืมโลกมนุษย์เชียวหล่ะ”ชายหนุ่มไล้มือตามแก้มเนียนต่ำเรื่อยลงมาจนถึงเนินอกที่ทะลักออกมาจากเกาะอกจนเห็นเป็นร่องนูนเบียดกันสองเนินอวบ ๆ มือหนาถึงกับสั่นระริก แก่นกายของเขามันร้อนฉ่าขึ้นทันที“นะ นายจะทำอะไรฉัน !”สาวน้อยถามเสียงสั่น พยายามเบี่ยงหลบเพื่อให้อกสล้างขยับห่างจากมือหนา แต่ร่างกลับไม่ขยับเพราะถูกเขาจับตรึงไว้“ก็ทำ..อย่างที่เธออยากให้ฉันเป็นอย่างไรเล่า ไอ้หื่นกาม !”เสียงทุ้มตวาดแรง พร้อมกับมือหนาที่กระชากเกาะอกสีดำออกจากเรือนร่างอรชรกรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดด ! ! !ร่างอรชรดีดขึ้นตามแรงกระชากเสื้อ แล้วหล่นกลับลงพื้นโต๊ะเมื่อเสื้อหลุดออก อกอวบๆ เด้งไหว
“ฮึ ฮึ ไอ้คนทุเรศ ๆ มันจะทำให้เธอรู้ว่าสวรรค์ชั้นแรกเป็นอย่างไร !” สิ้นเสียง ชายหนุ่มก็ถอนมือออก แล้วแทนที่ด้วยปากร้อนฉ่า ปลายลิ้นชื้นสากชำแรกลงที่รูหอย ตวัดเลียน้ำหวานของหล่อนเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย ก่อนจะกดปลายลิ้นร้อนลากปาดขึ้นด้านบนจนถึงตุ่มไตหอยที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ เขาใช้ปลายลิ้นทั้งร้อนทั้งสากสะกิดรัว ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ แผล็บ ! แผล็บ ! แผล็บ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ จ๊วบ ! จ๊วบบบบบบบบบบบบบบบบบบ“อะ อ๊ะ อ๊ะๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ อร้ายยยยยยยย” ลิ้นร้อนปาดป่ายไปทั่วเนื้อหอยฉ่ำเยิ้มราวกับลิ้นของอสรพิษที่ว่องไวอย่างร้ายกาจ ความเสียวซ่านแปลบปลาบมันแล่นไปทั่วกายสาวจนร่างอรชรบิดเร่า ๆ “อือออออออ อะ มะ ไม่ไหววววววว อื้อ”เรียมครางราวกับคนจับไข้ ทั้งปาก ทั้งลิ้นแลฟันของเขา มันเร้าอารมณ์ของหล่อนให้กระเจิดกระเจิง ความเสียวซ่านมากจนแทบจะระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ แผล็บ ! แผล็บ ! แผล็บ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆจ๊วบ ! จ๊วบบบบบบบบบบบบบบบบบบสะโพกของหล่อนโยกส่ายขึ้นลงตามจังหวะลิ้นที่โรมรันเข้าดูดดื่มชำแรกหอยฉ่ำ ๆ น้ำหล่อนทะลักออกมาจนเลอะทั่
ชายหนุ่มค่อย ๆ ขยับสะโพก วนเบา ๆ คลึงสะโพกใส่ร่องหอยเพื่อให้กายสาวคุ้นเคยกับแก่นกายเขา จนร่องสวาทชื้นฉ่ำ เคลื่อนยับแก่นได้ง่ายขึ้น“อู้ยยยย ยะ หยุด อื้อ อ่า อ่อยยยย”เสียงครางครวญปนเสียงร้องห้ามผะแผ่วของเรียมดังขึ้นทันที ที่ชายหนุ่มละปากออกจากเธอ“ฮึ ฮึ สาวน้อยปากกับใจไม่ตรงกันเลยนะ เธอบอกให้ฉันหยุด แต่ดูหอยเธอสิกลืนกินแก่นของฉันจนหมดเลย โอ้วววววววว ซี้ดดดดดดดดดดดดดด อ่า”ชายหนุ่มถึงกับครางซู้ดปาก แก่นกายเขาแทรกเข้าในรูคับตรึงแน่นลึกล้ำยิ่งขึ้น เพราะแม่สาวน้อยหยัดสะโพกเสียดสีด้วยความเสียวซ่านที่เข้ามาแทนที่ความเจ็บปวด หล่อนถึงกับแปลกใจในความทรมานที่แสนจะสุขสมที่เกิดขึ้นนี้“ฟังฉัน แม่สาวน้อย อื้อ ชื่อฉัน มาร์ค”ชายหนุ่มหยัดตัวขึ้น บังคับตัวเองไม่ให้เร่งรุดกระหน่ำใส่หล่อนตามที่ใจต้องการ กรามเป็นสันขบแน่นขณะที่บัญชากับสาวน้อยใต้ร่าง มือใหญ่ประคองหน้าคมสวยไว้ในอุ้งมือ บังคับให้ดวงตาปรือฉ่ำสุดเซ็กซี่นั้นมองที่เขา เพื่อให้หล่อนจนจำใบหน้าผู้ชายที่จะได้ลิ้มรสความสาวสดของเธอเป็นคนแรก“คนที่จะพาเธอสู่สรวงสวรรค์เป็นคนแรก !”เขายกขาเรียวข้างหนึ่งให้พาดบ่าแกร่งของตน มือซ้ายจับขาเ