“ถูกใจ ?”
คำถามกลับสั้นพอกัน แต่กินใจความลึก เพราะเป็นเล่ห์ในการต่อรองราคาทางการค้า แม้อีวานจะเป็นเกลอเก่าของชายหนุ่มตาสีฟ้า ผิวขาว ผมสีทองที่บ่งบอกถึงการเป็นเชื้อชาติอเมริกันโดยแท้ตาม การค้าคือการค้า ไม่มีพี่น้องหรือเพื่อนฝูง
“ยังไม่อิ่ม”
มาร์คแกว่งเท้าข้างที่อยู่ด้านบนไปมาอย่างสบายอารมณ์ ทำให้คู่สนทนาจับความรู้สึกไม่ได้ว่า –ยังไม่อิ่ม คือ หิวมากน้อยแค่ไหน เขาจะขึ้นราคาได้อีกเท่าไหร่-
“ฮึ ฮึ ฉันดีใจที่แกชอบ แม่นี่เพิ่งได้มาสด ๆ”
อีวานพยักพเยิดไปที่สวยน้อยในผ้าห่ม หล่อนยังไม่หยุดผรุสวาท แม้ว่าเสียงที่เล็ดลอดออกมาจะเป็นเสียงอู้อี้ก็ตาม
“แสนเหรียญ”
มาร์คเสนอให้ผู้ค้า สาวน้อยผู้ถูกเสนอราคาดิ้นเร้า ๆ แรงขึ้น เจ้าของสินค้ายิ้มในหน้าเอ่ยเนิบๆ ว่า
“สวย สด แสนเหรียญไม่น้อยไปรึ ?”
พ่อค้าทักท้วงเมื่อเห็นว่าสินค้าตนที่ขายให้กับมาเฟียรายใหญ่ต้องได้ราคางามกว่านี้
“นั่นสินะ ลองถามสินค้าดูแล้วกันว่าราคานี้เหมาะสมกับตัวเธอหรือไม่”
สิ้นคำ คนเสนอซื้อสินค้าก็หันไปพยักหน้ากับลูกน้องผิวหมึกเปิดปากสินค้า
“ไอ้ชั่ว ! ไอ้สารเลว ! พวกแกต้องตกนรกหมกไหม้ บาปกรรมจะต้องตามสนองแก ! ไอ้อีวาน ! ไอ้ห่าแกหลอกฉันมา ! แล้วแกยังจะเอาฉันมาเร่ขาย ไอ้ชาติหมา ! สักแดงเดียวแกก็ไม่ควรได้ ! ไปตายซะ ! @#%^%*^%$$%R#$#$%&^*&Y^%%RTY+++ ! ! !”
ทันทีที่ปากถูกเปิดเรียมรัวคำด่าใส่อีวานเป็นชุด คนถูกด่าใบหน้าแดงก่ำ ลุกออกจากโต๊ะก้าวพรวดถึงเธอในคราเดียว ก่อนที่มือหนาของอีวานจะฟาดลงใบหน้าคนสวย มือแกร่งของอีกคนก็จับไว้ได้ทัน
“อะ อะ อย่าทำให้ของเล่นของฉันบุบสลาย”
มาร์คกล่าวเสียงเย็น อะไรที่เป็นของเขาใครก็อย่าแตะต้อง !
คนที่ถูกจับมือไว้สะบัดออกกัดฟันกรอดอย่างขัดใจ สาว ๆ ที่เขาต้อนเข้าซ่องคนใดดื้อด้านเขาก็จะลงไม้ลงมือให้หล่อนเหล่านั้นยอมเชื่อฟังแต่โดยดี และไม่มีใครหน้าไหนยืนด่าเขาฉอด ๆ แบบนี้ได้เกิน 1 นาทีแน่นอน
“ฮึ ! เก่งแต่จะรังแกผู้หญิง ! ไอ้@$&*&%%$$ อ้ายยยย อืดดดด อกอด”
เรียมตะโกนด่าซ้ำความเคียดแค้นที่หล่อนต้องเสียตัวให้กับไอ้ผู้ชายแปลกหน้ามันยังสุ่มอยู่ในอก ประโยคด่าในตอนท้ายกลายเป็นเสียงอู้อี้เพราะบอร์ดี้การ์ดผิวหมึกปิดปากหล่อนไว้ตามเดิม ก่อนที่อีวานจะเข้ามาลงมือกับเธออีกครั้ง !
“เดี๋ยวเถอะ !”
อีวานหันขวับ สบถลั่น หมายจะเข้าทำร้ายแม่สาวปากดีอีกครั้ง
แต่เขาถูกมาร์คยืนขวางไว้ แล้วตบที่อกอีวานเบา ๆ
“ฉันว่าหนึ่งแสนเหรียญอาจจะสูงไปด้วยซ้ำ สำหรับการช่วยแกกำจัดแม่ตัวแสบนี่ ฮ่า ฮ่า”
อีวานสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดพยายามระงับอารมณ์เอาไว้ ตาชั้นเดียวมองคนต่อรองราคา หากแต่ยังไม่เอ่ยคำใด เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมมาร์คถึงต้องจับแม่นี่มัดในผ้าห่ม แถมปิดปากไม่ส่งเสียงได้เลยแม้แต่น้อย ผู้หญิงคนนี้ฤทธิ์มากจริง ๆ
เมื่อเห็นว่าคนขายยังนิ่ง คนต่อรองราคาจึงพูดต่อว่า
“เมื่อคืนคนของนายก็แทบจะพลิกตึกหลังนี้หาแม่นี่อยู่มิใช่เหรอ ฮึ ฮึ”
มาร์คเพิ่งทราบว่าแท้จริงแล้ว สาวน้อยคนนี้พยายามหลบหนีออกจากแดนนรกแห่งนี้ และบังเอิญเข้ามาหลบในห้องเขา หากอีวานจะเก็บเด็กสาวคนนี้ไว้ก็รังแต่สร้างปัญหา อย่าว่าแต่กำไรงาม ๆ เลย ดีไม่ดีฤทธิ์เดชของแม่สาวน้อยคนนี้อาจจะทำให้อีวานสูญเสียธุรกิจค้ากามไปเลยก็ได้ ดังนั้น ไม่ว่าเขาจะเสนอราคาให้เท่าไหร่ ก็คุ้มแล้วกับการกำจัดแม่สาวน้อยตัวร้ายออกไปจากเส้นทางทำมาหากิน
“ฮ่า ๆ แกนี่มันเขี้ยวลากดินไม่เปลี่ยนเลยนะ”
อีวานระเบิดเสียงหัวเราะให้กับความรู้ทันของเกลอเก่า เขากับมาร์คเป็นเด็กที่เติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วยกันทั้งคู่ และหลบหนีออกจากสถานที่แห่งนั้นด้วยกัน แม้กระทั่งการเริ่มต้นธุรกิจก็เริ่มพร้อมกัน แต่ดูเหมือนว่าในทุก ๆ เรื่อง มาร์คจะนำหน้าเขาหนึ่งแต้มเสมอ แต่ต้องมีสักวันที่เขาจะเอาชนะเจ้าหมอนี่ให้ได้ ! !
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน คนนี้ฉันยกให้แก ถือว่าเป็นของกำนัลที่แกอุตส่าห์มาฉลองเปิดสาขาใหม่แล้วกัน”
อีวานยิ้มเย็นซ่อนความโกรธไว้ได้มิดชิด อย่างไรเสียธุรกิจต้องมาก่อนอารมณ์ส่วนตัว
“ฮ่า ฮ่า ขอบใจมาก ฉันไม่ปฏิเสธนะ เพราะได้ข่าวว่าธุรกิจขายเนื้อสด ๆ ของแกเจริญรุ่งเรืองไม่น้อย ยินดีด้วย ยินดีด้วย”
มาร์คยิ้มในหน้ายื่นมือออกไปจับมืออีกฝ่ายเขย่าเบา ๆ แสดงความยินดีอย่างจริงใจ แม้ว่าธุรกิจที่เพื่อนทำจะเรียกได้ว่าเป็นธุรกิจบาป แต่เขาก็ถือว่ามันคือการทำมาหากินประเภทหนึ่ง ที่สำคัญเขายึดหลักที่ว่าทางทำมาหากินของใครก็ของมัน เขาจะไม่เดินเข้าไปทับเส้นของใคร และจะไม่ยอมให้ใครมารุกรานในพื้นที่ของเขาเช่นกัน !
“ขอบใจ ขอบใจ ฉันก็ยินดีกับแกด้วยที่กาสิโน กับค้าอาวุธของแกไปได้สวย ได้ข่าวว่ารัฐบาลอนุมัติจัดซื้ออาวุธจากบริษัทของแกทั้งหมดนี่นะ รายรับปีนี้คงจะมหาศาลสินะ ฮ่า ฮ่า”
อีวานยิ้มออกปากแสดงความยินดี ข่าวที่เขารู้มาไม่ต้องเสียเวลาเสาะหา เพราะบริษัทค้าอาวุธที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาเซ็นต์สัญญาซื้อขายกับรัฐบาลที่ชอบทำสงครามเป็นข่าวใหญ่ที่สุดในรอบปี ประธานบริษัทอย่าง มาร์ค เลสติโน จึงได้รับฉายาว่า “เจ้าพ่อสงคราม” มาเฟียที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดและรวยที่สุด !
“ฮ่า ๆ ฉันก็แค่เสนอในสิ่งที่รัฐบาลต้องการก็เท่านั้นเอง ฮ่า ฮ่า”
ในขณะที่มาร์คหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
สักพักลูกน้องหนุ่มผิวขาวกร้านแดดร่างสูง กายแกร่งดูท่าทางคล่องแคล่ว เข้ามากระซิบบางอย่างแก่มาร์ค เจ้านายของเขา สิ่งที่เขากระซิบสำคัญมากพอที่จะทำให้คนอารมณ์ดีถึงกับหยุดหัวเราะชะงัก คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน เมื่อคนมาส่งข่าวล่าถอยออกไป เสียงทุ้มจึงเอ่ยขึ้นว่า
“สายมากแล้วฉันขอตัวก่อน”
“มีอะไรหรือเปล่า ?”
อีวานถามด้วยน้ำเสียงห่วงใยเพื่อนเก่าที่รู้จักกันมานาน
“เรื่องขี้หมาที่ฉันต้องกลับไปสะสางเสียหน่อย”
มาร์คลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีสบาย ๆ
เมื่อเจ้านายลุกขึ้นบอร์ดี้การ์ดผิวหมึกต่างช่วยกันจับโรลผ้าห่มดิ้นได้หมายจะช่วยกันหามออกไป แต่แล้วเจ้านายก็ตวาดเสียงเข้มว่า
“เฮ้ย ! หยุด ! ผู้หญิงของฉัน ! ฉันจัดการเอง”
แล้วมือแกร่งก็จับโรลผ้าห่มไส้คนตวัดขึ้นพาดบ่ากำยำได้ในคราเดียวราวกับว่ามันคือหมอนข้างนุ่ม ๆ เท่านั้น
“อื้อ อั้ยอ้า อ้าอั๊ว ออยอั้นเอี้ยนอี้”เรียมส่งเสียงร้องอู้อี้ ด้านหัวห้อยลงราบไปกับแผ่นหลังกำยำของชายหนุ่ม ส่วนด้านขาถูกท่อนแขนแกร่งของเขาคล้องรัดไว้ที่ด้านหน้า คนในผ้าห่มจะพยายามดิ้นรนขัดขืนเต็มกำลังเพื่อให้หลุดพ้นจากบ่าเฟี๊ยะ ! ดี้ดดิ้นดีนัก มือหนาและหนักของคนแบกจึงฟาดลงเต็มแรงที่สะโพกกลมกลึงบนบ่าเขา พร้อมกับเสียงทุ้มที่ขู่ออกไปว่า“ถ้าขืนไม่หยุดดิ้น ฉันจะทิ้งเธออยู่กับอีวาน !”คำขู่ของเขาได้ผลชะงัก ผ้าห่มดิ้นได้แน่นิ่งทันใจ มาร์คยิ้มกริ่มในใบหน้าพอใจที่จัดการกับสาวน้อยแสนพยศได้ อีวานเหยียดยิ้มยืนมองเพื่อนเก่าเดินออกไปพร้อมกับผู้หญิงบนบ่า เพื่อนนิสัยไม่เคยเปลี่ยน ชอบเอาชนะ เขาจึงไม่แปลกใจนักทำไมมาร์คถึงติดใจในผู้หญิงคนนี้ และนิสัยอวดดีของเพื่อนเป็นช่องว่างให้คนอื่นโจมตีได้ง่าย“นาย ! นายจะไปที่โกดังเก็บอาวุธเราเลยไหม ?”โทนี่ เลขาประจำตัวมาร์ค ผู้ที่ส่งข่าวให้เขารู้ว่ามีคนลักลอบเข้ามาวางเพลิงในโกดังเก็บอาวุธ เข้าประชิดตัวเจ้านายที่ก้าวยาว ๆ ไปที่รถลีมูซีนที่จอดรออยู่ด้านหน้าตึก“ไม่ ! ฉันจะพาแม่นี่ไปส่งบ้านก่อน แล้วจึงจะเข้าโกดัง”เขาตอบขณะที่ลูกน้องเปิดประตูรถคัดงามส
ดวงตาเรียวเล็กหากแต่ว่าคมกริบของหัวหน้าแม่บ้านจับจ้องตามแผ่นของผู้เป็นนายที่มีม้วนผ้าห่มห่อสาวน้อยพาดไว้บนบ่า แม้จะมีความสงสัยอยู่ในอกหากแต่ไม่ได้เอ่ยถามออกไป! ระยะเวลาร่วมสิบกว่าปีที่เธอดูแลคฤหาสน์แห่งนี้ ทำให้รู้ว่า สิ่งใดที่นายไม่อยากให้รู้ เราไม่ควรถาม สิ่งใดที่นายอยากให้ทราบ นายจะบอกเอง ! มือเหี่ยวยับย่นยังคงกุมไว้ด้านหน้าขณะที่ก้าวเร็ว ๆ เท่าที่จะทำได้ในวัย 50 ปี เพื่อที่จะไล่ตามผู้เป็นนายให้ทัน ด้านหลังของเธอยังมีบอร์ดี้การ์ดผิวหมึก 3 - 4 คนคอยตามติดอยู่ห่าง ๆ มาร์คแบกร่างสาวน้อยในผ้าห่มขึ้นมาถึงห้องนอนของเขา แล้ววางม้วนผ้าห่มลงกับเตียง ดวงตาสาวน้อยเบิกกว้างเลิ่กลั่ก หัวใจเต้นระทึกอยู่ในอก ชายหนุ่มมองยิ้ม ๆ แล้วหันไปสั่งกับขบวนติดตาม“ผู้หญิงของฉัน ! -มาเรีย- จัดการให้เรียบร้อย !” “รับทราบค่ะ” หัวหน้าแม่บ้านรับคำพร้อมกับอาการยอบลง ไม่เอ่ยถามต่อเพราะผู้หญิงที่นายพามาให้เธอจัดการตกแต่งเป็นตุ๊กตาบำบัดความใคร่มีมาอยู่บ่อย ๆ แต่ผิดกับทุกครั้งตรงที่ตุ๊กตาสาวคนนี้ถูกพันธนาการอย่างแน่นด้วยผ้าห่ม ปา
ดวงตาดำขลับกวาดมองรอบห้องมีอะไรอีกที่พอจะเอามาสุ่มลงกองกำแพงประตูได้อีก ห้องนอนนี้กว้างมาก ห้องของเขาเพียงห้องเดียวก็เท่ากับพื้นที่บ้านหลังเล็กทั้งหลังที่เธอจากมา บ้านหลังเล็กที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและปลอดภัย หากแต่ว่ากินไม่อิ่มท้องนัก บ้านหลังนี้ใหญ่มากจนเรียกว่าคฤหาสน์ แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกเวิ้งว้างและหวาดระแวง แม้ว่าจะกินอิ่มแต่นอนไม่หลับ ! ! วันนี้เรียมได้กินอิ่ม เพราะหัวหน้าแม่บ้านดูแลเธอไม่ให้บกพร่อง แต่หล่อนนอนไม่หลับ เพราะรู้แน่ชัดว่าเจ้าของคฤหาสน์ซื้อตัวเธอมาเพื่อสิ่งใด ! ชุดที่หัวหน้าแม่บ้านกำชับให้เธอใส่รอนายท่านคือ ชุดนอนสีแดงสุดเซ็กซี่ที่ดาวยั่วมักจะใส่ให้เห็นในทีวีบ่อย ๆ ตอนที่หล่อนรับมาแทบอยากจะขว้างทิ้งเสียเดี๋ยวนั้น ! แต่หล่อนก็ต้องรับมันมาอย่างสงบ แล้วบอกกับหัวหน้าแม่บ้านว่า “ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะใส่มันรอเจ้านายของคุณอย่างใจจดใจจ่อ” เธอบอกเช่นนั้นเพื่อให้หัวหน้าแม่บ้านตายใจ ! เก็บแรง เก็บสมองเอาไว้ปกป้องตนจากไอ้คนหื่นกาม ! เมื่ออยู่ภายในห้องเพียงลำพังหล่อนก็แค่โยนชุดสุดเซ็กซี่นั้นให
เงียบไร้เสียงตอบอีกเช่นเคย มาร์คหัวเราะฮึ ฮึ ในลำคอขณะที่ถอดเสื้อออกแล้วโยนมันทับลงกับชุดสวย ๆ ที่เขาว่า ขายาว ๆ ก้าวเพียงสองสามก้าวก็ถึงตู้เสื้อผ้า“มาเรีย”เสียงเรียกทอดยาวขณะที่ไล่เปิดตู้เสื้อผ้าทุกบาน“เธอจะหลบฉันทั้งคืนไม่ได้หรอกนะ ออกมาเถอะมาเรีย แม่สาวน้อย” เรียมแนบหูกับประตูห้องน้ำฟังเสียงจากภายนอกด้วยใจระทึก ทันทีที่ประตูถูกถีบจนทุกอย่างกระเด็นกระดอนทั่วทุกทิศทาง หล่อนก็เผ่นแนบมาหลบในห้องน้ำ หล่อนได้ยินเสียงฝีเท้านับสิบกรูเข้ามาในห้อง แล้วทุกอย่างก็เงียบลง เหลือเพียงเสียงทุ้มจากไอ้คนบ้ากามที่พยายามเรียกหาหล่อนอย่างกวนประสาท !นี่ถ้าหล่อนตัวโตเท่าเขาสักหน่อย คงจะได้ดวลหมัดกันสักยก ยิ่งเสียงฝีเท้าของมาร์คเดินมาใกล้มากเท่าไหร่ หัวใจของสาวน้อยยิ่งเต้นแรงมากเท่านั้น และยิ่งส่งผลให้เธอคิดอะไรไม่ออก ประตูห้องน้ำลั่นกลอนภายใน แต่เขาก็คงมีลูกกุญแจไขเข้ามาได้ จะหาอะไรขวางประตูไว้เหมือนข้างนอกก็ดูเหมือนจะไม่มีสักอย่าง ห้องน้ำหรูหราเกินไป เป็นระเบียบมากไป แม้แต่แปรงขัดห้องน้ำที่หล่อนจะคว้ามาเป็นอาวุธก็ไม่มี !“มาเรียฉันรู้ว่าเธออ
“อื้อ ยะ อย่า อ่า”เสียงร้องห้ามกลายเป็นเสียงครางครวญผะแผ่ว หล่อนเกลียดตนเองนักที่เรือนร่างมันตอบสนองทุกสัมผัสจากมือแกร่ง“อย่าหยุดใช่ไหมสาวน้อย ฮึ ฮึ” เสียงร้องห้ามครางครวญผะแผ่วของหล่อน ยิ่งกระตุ้นเลือดในกายชายให้เดือดพล่านไปทั่วสรรพางค์ ตอเคราสาก ๆ ลากครูดไปกับเนินเนื้ออวบอั๋น ยิ่งทวีให้ร่างอรชรบิดแอ่นรับการรุกราน“อื้อ อ่า มาร์ค ไอ้หื่นกาม อะ อ่า อู้ยยยยย”เรียมแอ่นอกรับการปรนเปรอที่แสนเร่าร้อน หล่อนถึงกับห่อปากครางเมื่อลิ้นร้อนของชายหนุ่ม ตวัดหัวนมถี่ ๆ เต้าอีกข้างของถูกมือหนาเคล้าคลึงไม่เว้นวาย จ๊วบ ! จ๊วบ ! จ๊วบ ! จ๊วบ ! แจ๊บ ! แจ๊บบบบบบบบบบบบบบบบบบ“อื้อ อ่า อ่อยยยยยยยยย อะ อ่า”ร่างอรชรอ่อนระทวยราวกับขี้ผึ้งรนไฟ ไฟสวาทที่เขาเป็นผู้ก่อ! มือแกร่งที่จับตรึงข้อมือหล่อนไว้เหนือศีรษะคลายออกแล้วเลื่อนลงกดเปิดฝักบัว น้ำอุ่น ๆ ไหลซ่าลงมาเติมความเร่าร้อนให้ไฟสวาทรุกโชนยิ่งขึ้นซ่า ซ่า ซ่าจ๊วบ ! จ๊วบ ! จ๊วบ ! จ๊วบ ! แจ๊บบบบบบบบบบบบบบบบบบสายน้ำอุ่นพรมเรือนร่างเปลือยเปล่าของคนทั้งคู่ มือใหญ่อีกข้างลูบไล้สัดส่วนโค้งเว้า สะโพกเนื้อทองแน่
เรียมครางประท้วงเมื่อร่างกำยำโถมแรงเข้าทาบทับด้านหลังโดยแรง ลำแขนเรียวที่ค้ำขอบอ่างแทบทรุดลง“โอ้ววววว อ่า”เขาแยงดุ้นยักษ์เข้าหว่างขาเรียวงามใต้สายน้ำวน แก่นกายร้อนพองผงาดเสียดสีกลีบหอยทำให้เสียวจนต้องครางต่ำๆ มือข้างหนึ่งกอบกุมเต้านมบีบเคล้นเมามัน มืออีกข้างจับขาเรียวขางามแยกออกให้ดุ้นเขาเสียดสีได้ถนัด ๆ แล้วไล้มากดตุ่มไตเกสรสวาทใต้พื้นน้ำ“อื้อออออออ มาร์คคคคคคค ม่ายยยยย อ่า”คำกรนด่าชายที่ทรมานเธอเจียนตาย มันปลิวหายไปกับสติอันน้อยนิด เหลือเพียงสัญชาตญาณดิบของกายสาวที่ร่อนสะโพกเข้าหาแก่นร้อนฉ่าอย่างโหยหาจ๊วบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบจุ๊บ ! จ๊วบ !ปากร้ายพรมจูบหนักหน่วงไล่จากซอกคอ บ่า ไหล่ ลิ้นร้อนลากไล้ไปทั่วทุกอณูผิวพร้อมกับตอเคราสากๆ กดครูดแผ่นหลังเนื้อเนียนละเอียดเพิ่มความกระสันซ่านให้สาวน้อยในอุ้งมือมาเฟียอย่างเขาครางผะแผ่วยิ่งขึ้น“ม่าย อะไร สาวน้อย พูดให้เป็นภาษาสิเด็กดื้อ ฮึ ฮึ”เสียงทุ้มหัวเราะอย่างฮึกเหิมจุ๊บ ! จ๊วบ !จ๊วบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ“อะ ไอ้ อื้ออออออออออออ อ่า”ปากอิ่มอยากจะด่าเขาให้หายแค้นที่ทรมานหล่อนเช่นนี้ แต่กลับกลายเป็นเสียงครางซ่านกระสั
เสียงทุ้มต่ำดังสะท้านก้องทั่วห้องน้ำเมื่อกล้ามเนื้ออุ่น ๆ ของโพรงหอยบีบรัดแก่นกายแน่นเป็นจังหวะรุนแรงยิ่งขึ้น รีดน้ำกามจากแก่นกายใหญ่ให้พวยพุ่งทะลักออกมาจนอุ่นซ่าน เบาหวิวล่องลอยขึ้นจากพื้น“อร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยย มาร์คคคคคคคคคคคคคคคคค”พรวดดดดดดดดดดดดดดดดดดด น้ำหวานแตกกระจาย ร่างบางเกร็งกระตุก ปากเผยอค้างกรีดร้องอย่างสุขสม ความซาบซ่านหฤหรรษ์เสียวกระสันมันระเบิดออกหอบจิตวิญญาณของทั้งคู่พุ่งขึ้นสู่สรวงสวรรค์แล้วทั้งคู่ก็ค่อย ๆ ผ่อนคลาย มาเรียซบลงกับขอบอ่างอย่างสิ้นกำลัง ใบหน้าหล่อเหล่าแนบลงกับแผ่นหลังนวลเนียนชื้นไปด้วยเหงื่อ เขาได้ยินเสียงครางสุดท้ายเบา ๆ กับความสุขที่เร่าร้อนรุนแรงที่เขามอบให้ดังก้องในกายน้อยเขาแช่แก่นกายฝังแน่นในกายสาวให้หล่อนได้ซึมทราบความสุขสม เมื่อร่างน้อยผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อนเขาจึงถอนแก่นออกแล้วช้อนร่างน้อยขึ้นจากอ่างอุ้มไปที่เตียง แสงอาทิตย์สาดส่องทะลุผ้าม่านโปร่งแสง เห็นเป็นแสงรำไร ต่อให้ข้างนอกตะวันจะแผดแสงแรงเพียงใดแต่ภายในห้องนี้ยังคงรักษาความสบายตา และความสบายกายจากเครื่องปรับอุณหภูมิให้ใกล้เคียงกับร่างกายมนุษย์มากที่สุด เขาคือเจ
มาร์คโน้มลงกระซิบข้างแก้มเนียนอย่างยั่วเย้า จมูกโด่งคมสันแทบจะปักลงที่เนื้อแก้มนุ่มนิ่ม ลมหายใจอุ่น ๆ พ่นระบายลูบไล้จนขนอ่อนของเรียมลุกซู่ เธอจึงต้องใช้มือที่ยังเหลือเป็นอิสระอีกข้างผลักหน้าหล่อเหลาที่ช่างเย้าให้ห่างออก“อี๋..... คนหลงตัวเอง ! ไปไกล ๆ เลย เหอะ”“ฮ่า ฮ่า เปล่าหลงตนเอง หลักฐานมันฟ้อง”มาร์คตอบอย่างหน้าตาเฉย ยิ่งยัวะอารมณ์ให้มาเรียหมั่นไส้อย่างจะกระโดดทุบให้หายหลงตัวตนเองสักทีสองทีสิ่งที่หล่อนตั้งใจไว้ในคราแรกคือ หาเหตุผลออกมานอกคฤหาสน์ เพื่อที่จะได้หาโอกาสหนี แต่เขากลับไม่ยอมให้โอกาสนั้นกับหล่อน แม้เธอพยายามบอกเขาหลายต่อหลายหนก่อนมาแล้วว่า“ให้ฉันไปห้างกับแม่บ้านก็ได้”“ผมว่าง ผมจะพาไปเอง”ฝ่ายนั้นตอบโดยไม่ต้องคิด“นี่นาย ! การงานไม่รู้จักทำหรือไง ? ฉันไม่ใช่นักโทษ ที่นายจะต้องตามติดตลอดเวลา”แม้จะรู้ว่าการแว้ด ๆ ใส่ชายหนุ่มไม่เป็นผลดีกับเธอเลย แต่เธอก็อดทนที่จะพูดจากับเขาดี ๆ ไม่ได้สักที เพราะทีท่าของเขาที่ไม่ทุกข์ร้อนกับเรื่องใด ๆ เลย มันเป็นเชื้อยั๊วะอารมณ์โมโหชั้นดี“เธอไม่ใช่นักโทษ แต่เธอเป็นทาสฉัน แม่สาวน้อยมาเรีย”ชายหนุ่มจับที่ปลายคางเล็ก ๆ ให้ใบ