แชร์

บทที่ 324

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-08-02 17:00:01
ต่อมาที่บ้านถึงกับต้องทำห้องที่เป็นของเสิ่นหยินอู้โดยเฉพาะ เพื่อเก็บของที่ฉินเย่ให้เธอ

เก็บไปนานๆ ก็เริ่มจะเต็ม

ครั้งนี้ที่เธอจากมา เธอไม่ได้เอาอะไรติดตัวมาเลย แม้กระทั่งแหวนแต่งงานก็ยังทิ้งไว้ในห้องนอน

ตอนที่ตระกูลเสิ่นล้มละลาย เธอไม่มีเงินติดตัว ของทุกอย่างที่เธอมีก็เป็นของที่ฉินเย่ให้มาทั้งหมด

เมื่อจากมา ก็ไม่ควรเอาอะไรไปด้วย

"อย่าพูดอย่างนั้นสิ ถึงจะเป็นของนอกกาย แต่ก็ใช้เงินซื้อมานะ"

โจวชวงชวงพูดด้วยความเห็นใจ

เมื่อได้ยินแบบนั้น เสิ่นหยินอู้ก็หัวเราะอย่างสบายๆ "จริงหรอ? ถ้ารู้อย่างนั้น ฉันน่าจะเอาของมีค่าไปเยอะๆนะเนี่ย อย่างน้อยก็แลกเป็นเงินได้"

โจวชวงชวงได้ยินแบบนั้นก็เปลี่ยนใจทันที

"ช่างมันๆ ยังไงก็ต้องไปแล้ว ทิ้งของเก่าเพื่อเริ่มชีวิตใหม่ก็เป็นปกติ เธอนี่นะ ฉันแค่เสียดายนิดหน่อย เธอยังมีอารมณ์มาล้อเล่นอีก"

เสิ่นหยินอู้ยักไหล่ "เธอพูดเองว่าเริ่มต้นชีวิตใหม่ แล้วทำไมถึงจะมีอารมณ์เล่นตลกไม่ได้ล่ะ?"

"พูดก็พูดไปอย่างนั้น แต่ถึงยังไง......" โจวชวงชวงยังจำได้ว่าเมื่อวานเธอร้องไห้หนักมาก เธอจึงพูดอย่างอ่อนโยน "เราเป็นเหมือนพี่น้องกัน เธอไม่ต้องแกล้งทำเป็นเข้มแข็งต่อห
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 325

    แม้ว่าเธอจะไม่ได้เซ็นต์ชื่อในสัญญาในตอนแรกก็ตาม แต่เธอก็กังวลเช่นกันว่าหลังจากเซ็นต์สัญญาจะมีปัญหาเกิดขึ้นในภายหลัง สำหรับเงื่อนไขที่เธอสัญญารับปากไป ในเมื่อเธอรับปากไปแล้ว เธอจะทำมันให้ได้อย่างเต็มที่ เห็นได้ชัดว่าโจวชวงชวงซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเธอไม่ได้คิดแบบเดียวกันกับเธอเลย “เอ่อ พอเธอพูดถึงเรื่องนี้ฉันก็คิดว่ายัยนั่นหน้าด้านนะ มาใช้ประโยชน์จากเรื่องที่เคยช่วยเธอเอาไว้แล้วให้เธอออกจากจีนไป ถ้าทุกคนที่ช่วยเหลือคนอื่นให้คนๆนั้นตอบแทนบุญคุณด้วยวิธีไร้ยางอายแบบนี้แล้วล่ะก็ งั้นก็ไม่ต้องช่วยตั้งแต่แรกดีกว่า” เมื่อเทียบกับความโกรธของเธอแล้ว เสิ่นหยินอู้ก็สงบกว่ามาก เธอเพียงแค่ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า "ช่วยไม่ได้นี่นา ใครให้ฉันเป็นหนี้บุญคุณเธอล่ะ?" โจวชวงชวงต้องการจะว่าเธอ แต่เสิ่นหยินอู้หยุดเธอไว้ “โอเค ฉันรู้ว่าเธอรู้สึกโกรธแทนฉัน แต่เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แล้ว เราต้องใจเย็นไว้ โอเคไหม?” “อืม” โจวชวงชวงทำได้เพียงพยักหน้าอย่างหดหู่ แต่เมื่อนึกถึงการที่เสิ่นหยินอู้ต้องจากไป เธอก็ยังรู้สึกเศร้า "งั้นถ้าหลังจากนี้เธอไปต่างประเทศ เราคงจะไม่ได้เจอกันบ่อยๆแล้วใช่ไหม?" เสิ่นหยิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-03
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 326

    “ยังไม่มีวิธีอะไร หรือว่ายังคิดไม่ออกกันแน่?” โม่ไป๋ใช้ปลายเล็บแคะโต๊ะเบาๆ น้ำเสียงแฝงรอยยิ้ม “ไม่ใช่ว่าต้องเลี้ยงลูกคนเดียวด้วยเหรอ ยังไม่มีวิธีไม่ได้นะ”ได้ยินดังนั้น เสิ่นหยินอู้ก็เงยหน้าขึ้นสบตามองดวงตาอบอุ่นแฝงรอยยิ้มคู่หนึ่งผ่านแว่นตา“มาช่วยฉันไหมล่ะ?” โม่ไป๋เสนอเสิ่นหยินอู้ส่ายหน้าโดยสัญชาตญาณ“ไม่ล่ะ”“ปฏิเสธไวขนาดนั้นเลย? กลัวว่าข้อเสนอของฉันจะไม่ดีงั้นเหรอ?”“เปล่า” เสิ่นหยินอู้ส่ายหน้า “นายจะทำธุรกิจในประเทศระยะยาวไม่ใช่เหรอ? สองวันนี้ฉันก็น่าจะไปแล้ว”ได้ยินดังนั้น โม่ไป๋ก็หรี่ตาลง“ไปไหน?”“ต่างประเทศ” เสิ่นหยินอู้ตอบนิ่งๆนิ้วมือของโม่ไป๋เกร็งแน่นหลายส่วน หลังจากนั้นไม่นานก็คลายออก“เหมือนที่ฉันคิดไว้จริงๆ ด้วย ฉันคิดว่าเธอจะอยู่ต่อซะอีก”“นายรู้ว่าฉันจะไปต่างประเทศ?”“พ่อเธออยู่ต่างประเทศ เธอคิดว่าฉันจะไม่รู้เหรอ?”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ โม่ไป๋ก็หัวเราะกล่าวว่า “บังเอิญมาก เพราะก่อนที่ฉันจะกลับมา ฉันได้เจอกับคุณลุงด้วย”ข่าวสารนี้สำหรับเสิ่นหยินอู้ถือว่าเซอร์ไพรส์มาก“นายเคยเจอพ่อฉันแล้วเหรอ? ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก? ตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้าง?”ปลายนิ้วมือของโ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-03
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 327

    เปลี่ยนใจไม่ได้แล้ว?รอยยิ้มบนใบหน้าของเสิ่นหยินอู้เรียบนิ่งมาก แสงสลัวภายในห้องทำให้ใบหน้าของเธอดูอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย ปอยผมข้างแก้มบังดวงตาคู่งามของเธอ ทำให้ไม่สามารถมองเห็นแววตาของเธอได้ชัดเจนเหลือเพียงเสียงอ่อนโยนของเธอ“ฉันไม่มีทางให้ย้อนกลับตั้งนานแล้ว และไม่เคยคิดจะเปลี่ยนใจด้วย”บรรยากาศอึดอัดขึ้นมากะทันหันโม่ไป๋มองเธอเงียบๆ อยู่นาน สุดท้ายถอนหายใจแล้วอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปลูบศีรษะของเธอ“เอาเถอะ เรื่องเสียใจไม่ต้องไปคิดถึงมันแล้ว ยังไงมันก็ผ่านมาแล้ว”เสิ่นหยินอู้ถอนหายใจถาม “นั่นน่ะสิ ยังไงก็ผ่านมาแล้ว ไม่มีอะไรต้องไปคิดถึงอีก”คิดมากไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอก_ขณะที่โจวชวงชวงกลับมา ได้ยินว่าเสิ่นหยินอู้จะไปพร้อมกับโม่ไป๋คืนนี้ ก็อ้ำอึ้งอยู่กับที่ จากนั้นดวงตาก็ค่อยๆ แดงเธอกลั้นน้ำตาเอาไว้แสร้งทำเหมือนเข้มแข็ง แล้วพูดยิ้มๆ “ไฟล์ทคืนนี้เหรอ? เร็วจัง แล้วเธอเก็บของเสร็จหรือยังล่ะ?”“อืม เสร็จแล้ว”“ลืมอะไรไว้อีกไหม เดี๋ยวฉันไปดูให้”โจวชวงชวงหันตัวเดินเข้าห้องไปเสิ่นหยินอู้เดินตามข้างหลัง ดูหล่อนค้นตรงนั้นทีตรงนี้ที สุดท้ายก็ไม่ได้อะไร“ไม่ลืมอะไรแล้ว เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-03
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 328

    “ไม่ใช่ว่าเกรงใจนาย แต่ว่ามีน้อยจริงๆ…”ตอนแรกโม่ไป๋ยังไม่เชื่อ แต่จนเสิ่นหยินอู้หยิบกระเป๋าเดินทางออกมา เขาถึงจะเข้าใจว่าเสิ่นหยินู้ไม่ได้เกรงใจเขาจริงๆเพราะว่าเธอมีกระเป๋าเดินทางใบเล็กๆ แค่ใบเดียวทั้นโม่ไป๋มองเธออยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ยื่นมือออกไปหาเธอ “ฉันถือให้”เสิ่นหยินอู้ “?”“ไม่ต้องหรอกมั้ง แค่นี้เอง.จากนั้น โม่ไป๋ก็แย่งกระเป๋ามาจากมือเธอ เสิ่นหยินอู้หมดคำพูด แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ว่าอะไรโจวชวงชวงขึ้นรถไปสนามบินพร้อมกันกับพวกเขาหลังจากถึงสนามบินแล้วโจวชวงชวงที่กลั้นน้ำตาเอาไว้ทั้งวัน ก็กอดเสิ่นหยินอู้ไว้แล้วปล่อยโฮออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่อีกต่อไป“ฮือๆๆ เสิ่นหยินอู้ ฉันขอเตือนเธอไว้เลยนะ เธอห้ามลืมฉันล่ะ ถ้าเธอกล้าลืมฉันล่ะก็ ฉันจะซื้อตั๋วบินไปรังควานเธอแน่”เสิ่นหยินอู้เองก็ตาแดงไปด้วย แล้วกอดหล่อน“ไม่ลืมหรอก”“ถ้างั้นเธอสัญญากับฉันว่าฉันเป็นเพื่อนสนิทของเธอ ถึงเธอจะไปที่นั่น ก็ห้ามมีเพื่อนสนิทที่สนิทมากกว่าฉันเด็ดขาด”“โอเค ฉันสัญญา”“ถ้ามีเพื่อนผู้ชาย ก็ห้ามเก็บไว้คนเดียว ต้องแนะนำให้ฉันด้วย”“โอเคๆ ฉันรู้แล้ว”“ถ้าว่าง​ฉันจะไปหาเธอนะ”“อืม ฉันจะรอเธอไปหา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-03
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 329

    5 ปีผ่านไปช่องไลฟ์ของเสี่ยวไท่หยางในติ๊กต๊อก“ยินดีต้อนรับเข้าสู่ไลฟ์ม็อกบังของเสี่ยวไท่หยางนะคะ/ครับ เมนูที่เราจะทำกันในวันนี้คือเมนูซีฟู๊ดสองอย่างค่ะ”เด็กน้อยสองพี่น้องน่ารักน่าชังรายงานอยู่ในไลฟ์ กำลังแกะกระเพาะกุ้งอยู่หน้ากล้องเสิ่นเหมิงเหมิงถือไม้จิ้มฟันกำลังแกะกระเพาะกุ้งอย่างจริงจัง แต่มือลื่นทำให้กุ้งตกลงพื้น“เสิ่นเหมิงเหมิง!”เสิ่นเหมิงเหมิงตกใจรีบก้มลงไปเก็บกุ้งหลังจากเก็บได้แล้วก็มองเสิ่นซือเหนียนที่สูงกว่าเธอเล็กน้อยด้วยสีหน้าน่าสงสาร ดวงตาสีดำกลมโตของเธอยิ่งดูไร้เดียงสา “พี่ หนูขอโทษค่ะ”เด็กน้อยอายุห้าขวบเท่ากัน เสิ่นเหมิงเหมิงใสซื่อและสดใส แต่เสิ่นซือเหนียนกลับดูสุขุมเหมือนผู้ใหญ่ แม้จะยังเด็ก แต่ดูจากหว่างคิ้วก็รู้ว่าในอนาคตต้องเป็นนายแบบที่จะทำให้ผู้หญิงนับพันนับหมื่นหลงหัวปักหัวปำแน่นอน“พี่ขา~” เสิ่นเหมิงเหมิงเห็นว่าเสิ่นซือเหนียนไม่สนใจต มือขาวนวลน้อยๆ ยื่นนิ้วออกมาดึงเสื้อของเขา แล้วออดอ้อนว่า “ขอโทษหน่านะ พี่ยกโทษให้เหมิงเหมิงเถอะน๊า ดะ…เดี๋ยวคืนนี้เหมิงเหมิงจะกินกุ้งแค่สองตัว! ที่…ที่เหลือให้พี่หมดเลย!”“ยังมีหน้ามาพูดอีก? วันก่อนๆ ใครกันที่กินกุ้ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-04
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 330

    แต่เด็กผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ เด็กผู้ชายกลับกะพริบตาส่งจูบให้กับกล้องอย่างมีชีวิตชีวา ถึงขนาดส่งมินิฮาร์ทให้เขาด้วย“ขอบคุณคุณลุงเยี่ยมู่มากนะคะ คุณลุงเยี่ยมู่ใจป้ำมาก!”เสียงของเด็กผู้หญิงนิ่มนวลน่าฟัง เสียงเล็กเสียงน้อย การกระทำที่ทำออกมาดูป้ำๆ เป๋อๆ บ้าง แต่ไม่รู้เพราะอะไร เพียงแค่การกระทำเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ก็ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นหัวใจริมฝีปากบางของชายหนุ่มที่วินาทีก่อนหน้ายังดูเย็นชา แต่ตอนนี้ดูเหมือนน้ำแข็งจะละลาย และโค้งมุมปากขึ้นเล็กน้อยเทียบกันแล้ว เขาชอบเด็กผู้หญิงมากกว่าไม่เหมือนเด็กผู้ชายที่ยืนยันจะให้เขาหยุดส่งของขวัญ แต่เธอจะส่งจูบ และมินิฮาร์ทให้กับเขาตลอดถ้าเขาเองก็มีลูกสาวล่ะก็…ระหว่างที่กำลังครุ่นคิด ประตูห้องทำงานก็ดังขึ้นผู้ช่วยเปิดประตูเข้ามา แล้วกล่าวว่า “ประธานฉิน ประชุมใกล้จะเริ่มแล้ว เราต้องออกเดินทางแล้ว”หลี่มู่ถิงชะงักกับรอยยิ้มบริเวณมุมปากของฉินเย่ที่ยังไม่ทันจางหายไป หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงเด็กน้อยดังมาจากโทรศัพท์ของเขาพลันอึ้งในบัดดลประธานฉินของพวกเขาดูไลฟ์ของเด็กน้อยสองคนนั้นอีกแล้วเรื่องนี้พูดแล้วก็ยาวเมื่อหนึ่งปีก่อน เขามาประชุมกับประธา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-04
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 331

    บริเวณมุมหน้าจอถ่ายติดเพียงเงาร่างที่ไม่ชัดเจนของหญิงสาว น่าจะประมาณไม่กี่วินาทีเท่านั้น เงาร่างผอมเพรียวของหญิงสาวก็หายไปสิ่งที่ดังขึ้นพร้อมกันคือเสียงวิ่งของเด็กทั้งสองคนที่พุ่งไปหาหญิงสาว“หม่ามี๊”“หม่ามี๊กลับมาแล้วเหรอคะ/ครับ เหนื่อยแย่เลย”เด็กน้อยทั้งสองเอาใจใส่ดีมาก ถามไถ่หญิงสาวอย่างเอาใจใส่ไม่หยุดหย่อนเพราะห่างกันไกลมาก ดังนั้นจึงได้ยินเสียงของหญิงสาวไม่ชัดเจนนักไม่นาน เด็กน้อยทั้งสองก็กลับมาเข้ากล้อง“คุณลุงคุณน้า พี่ๆ ครับ หม่ามี๊ของพวกผมกลับมาแล้ว วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ”เสิ่นซือเหนียนกลับมาก็พูดอธิบายไปประโยคหนึ่งน้องสาวฝาแฝดของเขาเริ่มส่งมินิฮาร์ทใส่กล้องอยู่ข้างๆ อีกครั้ง“คุณลุงคุณน้า พี่ๆ ทุกคนลาก่อนนะคะ~”แม้ว่าผู้ชมในไลฟ์จะรู้สึกเสียดาย เพราะอย่างไรเด็กทั้งสองไลฟ์แค่ครั้งสองครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น แต่วันนี้ไลฟ์ไปได้ไม่เท่าไหร่ก็จะปิดไลฟ์แล้วถึงแม้จะไม่อยากลาจากไป แต่สุดท้ายก็ได้แต่อำลากับเด็กน้อยทั้งสองหน้าจอดับพรึบ เผยคำว่าผู้ไลฟ์จบการถ่ายทอดสดแล้ว ฉินเย่ยังคงจ้องที่โทรศัพท์อยู่พักหนึ่งเสียงของหลี่มู่ถิงดังขึ้นอีกครั้ง“ประธานฉิน ถ้าไม่ไปอีก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-04
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 332

    เด็กฝึกงานอึดอัดเล็กน้อยเธออยากบอกว่าเด็กในไลฟ์ไม่เหมือนไปศัลยกรรมมาเลยนี่ คนที่ทำศัลยกรรมมาถึงจะดูดีแค่ไหน แต่ก็จะขาดกลิ่นอาย แต่กลิ่นอายของเด็กสองคนนั้น…แต่ทว่าแม้จะเหมือนแค่ไหน ประธานฉินของพวกเขาก็ไม่มีทางมีลูกที่โตขนาดนี้หรอกเพราะอย่างไรบนโลกนี้จะมีผู้หญิงที่มีลูกประธานฉินแล้วแต่ไม่พามายอมรับได้ยังไง?แค่คิดก็รู้สึกไม่สมเหตุสมผลแล้วดังนั้นเธอก็เลยถามเรื่องอื่นแทน“แต่ว่าเด็กที่หน้าตาคล้ายพวกนั้น ประธานฉินไม่เคยคิดสงสัยสักครั้งเลยเหรอว่าอาจไม่ใช่ทำศัลยกรรมมา แต่เป็นลูกแท้ๆ น่ะ?”ได้ยินดังนั้น หลี่มู่ถิงก็หัวเราะแห้งออกมาอย่างเย็นชา“เธอคิดว่าประธานฉินของเราเป็นใครกัน? ประธานฉินของเราแม้จะดื่มจนเมาแอ๋ แต่ก็ไม่มีทางแตะต้องผู้หญิงแปลกหน้าแน่นอน ความแน่วแน่นั้นไม่ใช่ใครๆ ก็สามารถทำได้”นึกบางอย่างขึ้นได้ หลี่มู่ถิงก็เสริมไปอีกประโยคหนึ่ง“อย่าว่าแต่ผู้หญิงแปลกหน้าเลย ถึงแม้จะเป็นคุณหนูเจียงที่อยู่เคียงข้างประธานฉินมาหลายปี ถูกเรียกว่าเป็นคนสนิทและเป็นผู้ช่วยชีวิตประธานฉินของเราไว้ ประธานฉินของเราก็ไม่แตะต้องเลย แม้จะเมาก็ตาม”หลายปีที่เขาเป็นผู้ช่วยประธานฉินมา เขาเห็นความ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-04

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 872

    แต่ในไม่ช้า สายตาของฉินเย่ก็เปลี่ยนไปเพราะเขาเห็นฉากหลังด้านหลังของเธอ “คุณอยู่บ้านเหรอ?” เสิ่นหยินอู้เห็นเขามองฉากหลังที่อยู่ด้านหลัง ไม่รู้ด้วยเหตุใด เธอก็รู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อย อาจเป็นเพราะเธอไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอให้อภัยเขาเร็วขนาดนี้ และเธอก็รู้สึกไม่เต็มใจอยู่เสมอ แม้ว่าทั้งสองจะเข้าใจผิดกันในตอนแรก แต่เขาก็ทำร้ายเธอจริงๆ แม้ว่าเธออยากอยู่กับเขา แต่เธอไม่ได้ต้องการให้อภัยเขาเร็วขนาดนี้ เมื่อเห็นว่าเธอไม่ตอบอะไร อีกทั้งยังลดสายตาลงต่ำ สายตาของฉินเย่มืดลงเล็กน้อย แต่ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักถึงสิ่งที่เธอกำลังคิดได้ จึงเปลี่ยนหัวข้อ “เหมิงเหมิงกับเหนียนเหนียนนอนแล้วหรอ?” เมื่อได้ยินหัวข้ออื่น เสิ่นหยินอู้ก็เงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดว่า "น่าจะหลับไปแล้วนะ คืนนี้พวกเขานอนกับ... " เมื่อเธอพูดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็ชะงักไปอีกครั้ง ฉินเย่อึ้งไปครู่หนึ่งแล้วจึงพูดต่อจากคำพูดของเธอ “ตอนนี้เหมิงเหมิงกับเหนียนเหนียนอยู่กับพ่อแม่งั้นเหรอ?”เสิ่นหยินอู้พยักหน้า “อืม พวกผู้ใหญ่ชอบพวกเขามาก” อาจเป็นเพราะเมื่อครู่นี้ที่เสิ่นหยินอู้เงียบไปถึงสองครั้งและลังเลที่จะพูด บรรยากาศ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 871

    เสิ่นหยินอู้ตกใจกับเรื่องที่ตระกูลฉินจะย้ายจากหนานเฉิงไปยังเจียงเฉิง ขณะเดียวกัน เธอก็รู้สึกถึงการได้รับความเคารพอย่างมาก แต่เธอก็ถามคุณแม่ฉินในขณะที่เธอจะตัดสินใจ “ต้นตระกูลฉินอยู่ที่หนานเฉิงไม่ใช่หรอคะ? ถ้าย้ายไปที่เจียงเฉิงมันจะ…” “กำลังพูดเรื่องอะไรจ๊ะเนี่ย พ่อกับแม่แก่มากแล้ว คนที่เราห่วงก็มีแค่ลูกๆนี่แหละจ๊ะ ตอนนี้เรามีหลานเพิ่มมาอีกสองคน แน่นอนว่าหนูคือคนที่สำคัญที่สุด ไม่ต้องพูดถึงเราสองคนสามีภรรยาเลย เราอยู่ที่ไหนมันก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอจ๊ะ? สภาพแวดล้อมในเจียงเฉิงเหมาะสมกว่าที่นี่อีก หนูเปิดบริษัทอยู่ที่นั่นไม่ใช่เหรอ? ถึงตอนนั้นถ้ามีอะไรไม่เข้าใจก็แค่ถามพ่อ ตั้งใจทำงานให้ดี ส่วนเรื่องเด็กๆน่ะไม่ต้องห่วงเลย มีพ่อกับแม่อยู่ เดี๋ยวเราจะช่วยหนูเลี้ยงพวกเขาให้อ้วนท้วนสมบูรณ์ไปเลย” หลังจากนั้น คุณแม่ฉินก็ไม่ได้คุยอะไรกับเธอเพิ่ม เธอยุ่งอยู่กับการพาเด็กๆไปที่ห้องและปรึกษาหารือกับคุณพ่อฉินเรื่องการย้ายที่อยู่ของครอบครัว ระหว่างทางกลับห้อง เสิ่นหยินอู้ยังคงคิดถึงเรื่องนี้อยู่ตลอด ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่บริษัทในตอนนี้ของเธอเพิ่งเปิดเลย แม้ว่าบริษัทของเธอจะเริ่มพัฒนาขึ้นมาแล

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 870

    เมื่อนึกถึงเรื่องที่เขายังอยู่ที่ต่างประเทศและร่างกายยังได้รับบาดเจ็บ รอยยิ้มบนริมฝีปากของเสิ่นหยินอู้ก็จางหายไปเล็กน้อย “เอาล่ะ อย่าเพิ่งไปคิดมากเรื่องอื่นเลย นั่งเครื่องบินมาทั้งวัน หิวแย่แล้วใช่ไหม? อาหารในครัวน่าจะใกล้ทำเสร็จแล้ว อีกเดี๋ยวก็ไม่ต้องคิดอะไรสักพักแล้วก็กินข้าวให้อร่อยนะ มีอะไรไว้ค่อยคุยต่อพรุ่งนี้แล้วกันนะ" อาหารเย็นหลากหลายมากและมีแต่สิ่งที่เธอคุ้นเคย ซึ่งแตกต่างจากที่กินที่ต่างประเทศโดยสิ้นเชิง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ... รสชาติของอาหารต่างก็เป็นรสชาติที่คุ้นเคยทั้งนั้น... เสิ่นหยินอู้อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นไปมองคุณแม่และคุณพ่อฉิน แม้ว่าเธอจะแก้ปมในใจได้แล้ว แต่เธอก็ยังไม่มีความมั่นใจเพราะเธอหายไปเป็นเวลานานมาก เธอพูดขึ้นมาอย่างขวยเขินและยากลำบากว่า: "พ่อคะ แม่คะ หลายปีมานี้พ่อครัวของบ้านนี้ไม่ได้เปลี่ยนเลยเหรอคะ?" คุณแม่ฉินมองดูเธออย่างอ่อนโยน “ไม่ได้เปลี่ยนเลยจ๊ะ เขาอยู่กับตระกูลฉินมาหลายปีแล้ว และเราก็ชินกับรสชาติอาหารที่เขาทำมานานแล้ว ทำไมเหรอ กินไปนิดเดียวก็รู้แล้วเหรอจ๊ะ?” “ใช่ค่ะ มันเป็นรสชาติที่น่าคิดถึงมาก” มันเป็นอาหารเธอคุ้นเคย และแม้กระทั

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 869

    ระหว่างทางกลับบ้าน เธอไม่ได้พูดอะไร คุณแม่ฉินกลับเอาใจใส่เธอเป็นพิเศษ เธอจับมือหยินอู้และลังเลเหมือนจะพูดอะไรอยู่หลายครั้ง นอกจากคุณแม่ฉิน เสิ่นหยินอู้ก็ลังเลที่จะพูดเช่นกันเพราะเธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไร หรือเรียกคุณแม่ฉินอย่างไร แม้ว่าเด็กทั้งสองจะเรียกพวกเขาว่าปู่กับย่า แต่เธอกลับไม่สามารถเรียกคุณแม่ฉินว่าแม่ได้ ท้ายที่สุด...มันก็ผ่านมาห้าปีแล้ว ห้าปี ช่างเป็นตัวเลขที่เนิ่นนานเสียจริง อาจเป็นเพราะสายตาที่สื่อออกมาหรือไม่ก็การแสดงออกของเธอ แม่ฉินจึงรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอยื่นมือออกไปจับปรอยผมของเธอเบาๆและนำมันไปทัดที่หลังหู จากนั้นก็พูดด้วยเสียงที่อ่อนโยน “เด็กดี หลายปีมานี้คงลำบากมามากเลยสินะ” ประโยคเดียวนี้ทำให้เสิ่นหยินอู้อดไม่ได้ที่จะตาแดงขึ้นมา เธอคิดไว้ก่อนแล้วว่าคุณแม่ฉินจะพูดอะไร แต่เธอไม่ได้คิดเลยว่าสิ่งที่คุณแม่ฉินจะพูดนั้นจะเป็นประโยคนี้ ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกลำบากใจที่ได้ยิน มีความน้อยใจมากมายอยู่ในที่เธอไม่อาจพูดออกมาได้ ความรู้สึกใกล้ชิดกับคนที่เป็นญาติผู้ใหญ่เป็นสิ่งที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน ตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก เธอมีความฝันที่จะมีแม่ หรือผู้ปกค

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 868

    แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเธอก็ยังไม่เร่งรีบ เสิ่นหยินอู้กับฉินเย่ซึ่งแต่งงานกันแล้วในเวลานั้นคงจะมีความคิดของตัวเองในแบบของคนหนุ่มสาว พวกเขาในฐานะผู้ใหญ่ก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งมากเกินไป เช่นเดียวกับตอนที่เธอยังเด็ก การตั้งท้องฉินเย่ขึ้นมาก็เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดเช่นกัน เดิมทีเธอต้องการใช้เวลากับสามีของเธอในโลกของพวกเขาสองคนให้นานกว่านี้ และคุณนายฉินก็ไม่ได้กดดันเธอ ดังนั้นเธอจึงอยู่ในโลกที่หวานชื่นของพวกเธอสองคนกับสามี และแล้ว...เธอก็ท้องโดยไม่ได้ตั้งใจเธอเองก็เป็นเช่นนี้ ดังนั้นแล้วเธอจึงไม่ต้องการเร่งหยินอู้กับฉินเย่ ใครจะรู้ว่าต่อมาพวกเขาจะหย่าร้างกัน และหยินอู้ก็จากไปในที่ไกลแสนไกล ต่อมาก็มีคนมาล้อเธอเรื่องหลานมากขึ้น ในเวลานั้นคุณแม่ฉินยิ้มเล็กน้อยและขี้เกียจเกินกว่าจะตอบโต้อะไร เธอเพียงแค่ยุติสัญญาระหว่างบริษัททั้งสองหลังจากที่กลับไป เธอทำให้อีกฝ่ายตกใจจนแทบจะหัวใจวาย ในคืนนั้นอีกฝ่ายมาหาเธอและร้องไห้โดยบอกว่าเขาผิดไปแล้ว ขอให้ตระกูลฉินปล่อยเขาไป หลังจากไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาหลายปี คุณแม่ฉินก็ไม่ได้หวังอะไรมากนัก แต่ตอนนี้... เมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ คุณแม่ฉินก็อดไม่ได้ที่จะย่อต

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 867

    จากระยะไกล คุณแม่ฉินสามารถมองเห็นเสิ่นหยินอู้และลูกๆทั้งสองได้ เด็กๆที่อยู่ข้างๆเธอเป็นเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง และพวกเขาก็ดูมีหน้าตาที่คล้ายกันมากเพราะเป็นฝาแฝดกัน เธอตกใจมากเมื่อหลี่มู่ถิงโทรหาเธอก่อนหน้านี้ “ลูกเหรอ? เป็นลูกของฉินเย่กับหยินอู้หรอ?” "ครับคุณผู้หญิง" “นี่...หยินอู้มีลูกกับฉินเย่จริงๆเหรอ? อายุเท่าไรแล้ว?” เมื่อหลี่มู่ถิงบอกเธอว่าเด็กสองคนอายุห้าขวบและเป็นฝาแฝดหญิงชาย คุณแม่ฉินก็แทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ เนื่องจากท่าทางที่ไม่สนใจใครของฉินเย่ก่อนหน้านี้ บวกกับการที่หยินอู้ไม่ต้องการที่จะมาเจอพวกเขาอีก คุณแม่ฉินจึงคิดว่าฉินเย่คงจะไม่มีคู่ครองอีกแล้วในชีวิตนี้ และเธอคงไม่มีโอกาสที่ได้อุ้มหลานๆแล้ว เรื่องนี้ทำให้เธอต้องเตรียมใจอยู่เป็นเวลานาน คุณแม่ฉินโน้มน้าวตัวเองอย่างยากลำบากว่าหากเธอไม่มีหลานก็ช่างมันไปเถอะ สำหรับลูกชายของเธอ ไม่ว่าเขาจะมีลูกหรือไม่ นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอควรกังวล ฉินเย่ไม่ได้กังวล แล้วเธอจะกังวลอะไรล่ะ? เธอไม่คิดว่าเรื่องเหนือความคาดหมายจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ ก่อนหน้านี้เธอยังกังวลว่าเธอจะไม่มีหลานอยู่เลย แต่ผ่านไปไม่เท่าไรก

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 866

    “ตอนคุณคิดบัญชีกับเขา ผมไปขวางคุณเมื่อไร? นับตั้งแต่ที่คุณแต่งงานเข้ามาในตระกูลฉิน คุณไม่ได้เป็นคนที่มีอำนาจตัดสินใจทุกอย่างมาโดยตลอดหรอกเหรอ?” หลังจากคิดอยู่สักพัก ฉินซวีโก้วก็รู้สึกว่าที่เขาพูดนั้นสมเหตุสมผล เธอเม้มริมฝีปากและไม่พูดอะไรอีก นับตั้งแต่หยินอู้หย่ากับฉินเย่และจากไป นิสัยของคุณแม่ฉินก็เปลี่ยนไปมาก บวกกับการจากไปของคุณนายฉินก็ทำให้อารมณ์ของเธอไม่ได้อ่อนโยนเหมือนเมื่อก่อน เธอไม่อดทนกับลูกชายเหมือนเมื่อก่อน เพราะเธอรู้สึกว่าการจากไปของหยินอู้จะต้องหนีไม่พ้นเรื่องลูกชายของเธออย่างแน่นอน ท้ายที่สุดแล้ว พวกเธอทั้งคู่ก็เป็นผู้หญิงที่แต่งงานกันแล้วเหมือนกัน หากผู้หญิงยังต้องการจะจากไป แสดงว่าปัญหาจะต้องอยู่ที่ผู้ชาย ไม่เช่นนั้นก็คงจะเป็นผู้หญิงที่เปลี่ยนใจ แต่เธอเห็นหยินอู้เติบโตมาตั้งแต่เธอยังเด็ก และเธอก็เข้าใจอารมณ์ของหยินอู้ได้อย่างลึกซึ้ง ในความคิดของคุณแม่ฉิน เด็กคนนั้นไม่มีทางจะทำอะไรที่เป็นผลร้ายแรงต่อเรื่องการแต่งงานอย่างแน่นอน ดังนั้นความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวก็คือการที่ลูกชายของเธอทำอะไรสักอย่างผิด เมื่อลูกชายทำผิด แม่ก็ต้องรับผิดชอบด้วยเพราะเธอสอนลูกไม

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 865

    หลังจากลงจากเครื่องบินแล้ว หลี่มู่ถิงยังคงยุ่งอยู่กับการเข็นกระเป๋าเดินทางให้เธอ เสิ่นหยินอู้เพียงแค่พาลูกๆสองคนเดินไปข้างหน้าเท่านั้น อาจเพราะกังวลว่าเรื่องลักพาตัวเธอครั้งก่อนจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ดังนั้นจึงมีบอดี้การ์ดร่างสูงกำยำหลายคนเดินขนาบข้างเธอ บอดี้การ์ดแทบจะล้อมอยู่รอบๆข้างกายเธอ ด้านหน้าหนึ่งคน หลังหนึ่งคน ซ้ายหนึ่งคน หนึ่งขวาคน จากมุมมองของคนนอก เธอกับลูกๆสองคนของเธอจะต้องปลอดภัยเต็มร้อย ถ้าใครคิดที่จะทำอะไรกับเธอ คงไม่ได้แม้แต่จะคิด หลี่มู่ถิงเข็นกระเป๋าเดินทางเดินตามหลังเธอไป เมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงทางออกแล้ว เขาจึงพูดเตือนออกมา: "คุณหนูเสิ่น คุณผู้หญิงฉินกับคนอื่นๆกำลังรออยู่ที่ทางออก เดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้วครับ" เมื่อเขาเตือนเธอ เสิ่นหยินอู้ก็พยักหน้า "อืม" จากนั้นเธอก็ก้มลงและกระซิบบอกเด็กน้อยทั้งสอง: "เหมิงเหมิง เหนียนเหนียน ได้ยินแล้วใช่ไหม? อีกเดี๋ยวก็จะได้เจอคุณปู่กับคุณย่าแล้วนะ จำได้ไหมว่าหม่ามี๊บอกพวกหนูตอนที่อยู่บนเครื่องบินว่าอะไร?" "จำได้ค่า" “ไม่ต้องห่วงค่ะหม่ามี๊ เหมิงเหมิงกับพี่ชายมีมารยาทให้มากที่สุดค่ะ” เด็กน้อยสองคนทำให้เธอมั่นใจได้อย่

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 864

    "ดีใจค่ะ" เสิ่นเหมิงเหมิงเอื้อมมือออกไปด้วยความดีใจและคิดจะเข้าไปกอดเธอ แต่นี่เป็นบนเครื่องบิน และทั้งคู่ก็คาดเข็มขัดนิรภัยอยู่ ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถกอดหยินอู้ได้เสิ่นหยินอู้ทำได้เพียงยื่นมือออกมาให้เหมิงเหมิงจับมือเธอเพื่อแสดงความดีใจออกมา “หม่ามี๊คะ แล้วลุงเย่มู่รู้หรือเปล่า?”เขารู้หรือเปล่าเหรอ? มุมปากของเสิ่นหยินอู้โค้งขึ้น สีหน้าของเธออ่อนโยนขึ้น เดี๋ยวพอกลับถึงจีนเขาก็คงจะรู้เองแหละ "เดี๋ยวก็รู้แล้วจ๊ะ" “หม่ามี๊คะ แล้วคุณปู่กับย่าเข้ากับคนง่ายไหมคะ? พวกเขาเป็นพ่อกับแม่ของลุงเย่มู่หรอคะ?” “ใช่แล้ว พวกเขาเป็นพ่อกับแม่ของลุงเย่มู่ พวกเขาอ่อนโยนมาก แล้วก็เข้ากับคนง่าย ไม่ต้องห่วง พวกเขาคือ…” หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เสิ่นหยินอู้ก็พูดว่า "พวกเขาคือปู่กับย่าแท้ๆของลูก" หลังจากได้ยิน ดวงตาของเหมิงเหมิงก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ “ปู่กับย่าเหรอคะ?” "อืม" เสิ่นหยินอู้ลูบหัวของเหมิงเหมิงและมองไปที่เสิ่นซือเหนียน: "เหนียนเหนียนกับเหมิงเหมิง ลูกเข้าใจสิ่งที่หม่ามี๊พูดไหม? ลุงเย่มู่เป็นพ่อแท้ๆของลูก" เสิ่นซือเหนียนพยักหน้าอย่างรวดเร็ว เป็นการบอกว่าเขาเข้าใจ อย่าง

DMCA.com Protection Status