แชร์

บทที่ 327

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
เปลี่ยนใจไม่ได้แล้ว?

รอยยิ้มบนใบหน้าของเสิ่นหยินอู้เรียบนิ่งมาก แสงสลัวภายในห้องทำให้ใบหน้าของเธอดูอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย ปอยผมข้างแก้มบังดวงตาคู่งามของเธอ ทำให้ไม่สามารถมองเห็นแววตาของเธอได้ชัดเจน

เหลือเพียงเสียงอ่อนโยนของเธอ

“ฉันไม่มีทางให้ย้อนกลับตั้งนานแล้ว และไม่เคยคิดจะเปลี่ยนใจด้วย”

บรรยากาศอึดอัดขึ้นมากะทันหัน

โม่ไป๋มองเธอเงียบๆ อยู่นาน สุดท้ายถอนหายใจแล้วอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปลูบศีรษะของเธอ

“เอาเถอะ เรื่องเสียใจไม่ต้องไปคิดถึงมันแล้ว ยังไงมันก็ผ่านมาแล้ว”

เสิ่นหยินอู้ถอนหายใจถาม “นั่นน่ะสิ ยังไงก็ผ่านมาแล้ว ไม่มีอะไรต้องไปคิดถึงอีก”

คิดมากไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอก

_

ขณะที่โจวชวงชวงกลับมา ได้ยินว่าเสิ่นหยินอู้จะไปพร้อมกับโม่ไป๋คืนนี้ ก็อ้ำอึ้งอยู่กับที่ จากนั้นดวงตาก็ค่อยๆ แดง

เธอกลั้นน้ำตาเอาไว้แสร้งทำเหมือนเข้มแข็ง แล้วพูดยิ้มๆ “ไฟล์ทคืนนี้เหรอ? เร็วจัง แล้วเธอเก็บของเสร็จหรือยังล่ะ?”

“อืม เสร็จแล้ว”

“ลืมอะไรไว้อีกไหม เดี๋ยวฉันไปดูให้”

โจวชวงชวงหันตัวเดินเข้าห้องไป

เสิ่นหยินอู้เดินตามข้างหลัง ดูหล่อนค้นตรงนั้นทีตรงนี้ที สุดท้ายก็ไม่ได้อะไร

“ไม่ลืมอะไรแล้ว เ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
อักษรวดี ทราเลา
เมื่อจะถึงตอนอวสานค่ะอยากรู้
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 328

    “ไม่ใช่ว่าเกรงใจนาย แต่ว่ามีน้อยจริงๆ…”ตอนแรกโม่ไป๋ยังไม่เชื่อ แต่จนเสิ่นหยินอู้หยิบกระเป๋าเดินทางออกมา เขาถึงจะเข้าใจว่าเสิ่นหยินู้ไม่ได้เกรงใจเขาจริงๆเพราะว่าเธอมีกระเป๋าเดินทางใบเล็กๆ แค่ใบเดียวทั้นโม่ไป๋มองเธออยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ยื่นมือออกไปหาเธอ “ฉันถือให้”เสิ่นหยินอู้ “?”“ไม่ต้องหรอกมั้ง แค่นี้เอง.จากนั้น โม่ไป๋ก็แย่งกระเป๋ามาจากมือเธอ เสิ่นหยินอู้หมดคำพูด แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ว่าอะไรโจวชวงชวงขึ้นรถไปสนามบินพร้อมกันกับพวกเขาหลังจากถึงสนามบินแล้วโจวชวงชวงที่กลั้นน้ำตาเอาไว้ทั้งวัน ก็กอดเสิ่นหยินอู้ไว้แล้วปล่อยโฮออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่อีกต่อไป“ฮือๆๆ เสิ่นหยินอู้ ฉันขอเตือนเธอไว้เลยนะ เธอห้ามลืมฉันล่ะ ถ้าเธอกล้าลืมฉันล่ะก็ ฉันจะซื้อตั๋วบินไปรังควานเธอแน่”เสิ่นหยินอู้เองก็ตาแดงไปด้วย แล้วกอดหล่อน“ไม่ลืมหรอก”“ถ้างั้นเธอสัญญากับฉันว่าฉันเป็นเพื่อนสนิทของเธอ ถึงเธอจะไปที่นั่น ก็ห้ามมีเพื่อนสนิทที่สนิทมากกว่าฉันเด็ดขาด”“โอเค ฉันสัญญา”“ถ้ามีเพื่อนผู้ชาย ก็ห้ามเก็บไว้คนเดียว ต้องแนะนำให้ฉันด้วย”“โอเคๆ ฉันรู้แล้ว”“ถ้าว่าง​ฉันจะไปหาเธอนะ”“อืม ฉันจะรอเธอไปหา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 329

    5 ปีผ่านไปช่องไลฟ์ของเสี่ยวไท่หยางในติ๊กต๊อก“ยินดีต้อนรับเข้าสู่ไลฟ์ม็อกบังของเสี่ยวไท่หยางนะคะ/ครับ เมนูที่เราจะทำกันในวันนี้คือเมนูซีฟู๊ดสองอย่างค่ะ”เด็กน้อยสองพี่น้องน่ารักน่าชังรายงานอยู่ในไลฟ์ กำลังแกะกระเพาะกุ้งอยู่หน้ากล้องเสิ่นเหมิงเหมิงถือไม้จิ้มฟันกำลังแกะกระเพาะกุ้งอย่างจริงจัง แต่มือลื่นทำให้กุ้งตกลงพื้น“เสิ่นเหมิงเหมิง!”เสิ่นเหมิงเหมิงตกใจรีบก้มลงไปเก็บกุ้งหลังจากเก็บได้แล้วก็มองเสิ่นซือเหนียนที่สูงกว่าเธอเล็กน้อยด้วยสีหน้าน่าสงสาร ดวงตาสีดำกลมโตของเธอยิ่งดูไร้เดียงสา “พี่ หนูขอโทษค่ะ”เด็กน้อยอายุห้าขวบเท่ากัน เสิ่นเหมิงเหมิงใสซื่อและสดใส แต่เสิ่นซือเหนียนกลับดูสุขุมเหมือนผู้ใหญ่ แม้จะยังเด็ก แต่ดูจากหว่างคิ้วก็รู้ว่าในอนาคตต้องเป็นนายแบบที่จะทำให้ผู้หญิงนับพันนับหมื่นหลงหัวปักหัวปำแน่นอน“พี่ขา~” เสิ่นเหมิงเหมิงเห็นว่าเสิ่นซือเหนียนไม่สนใจต มือขาวนวลน้อยๆ ยื่นนิ้วออกมาดึงเสื้อของเขา แล้วออดอ้อนว่า “ขอโทษหน่านะ พี่ยกโทษให้เหมิงเหมิงเถอะน๊า ดะ…เดี๋ยวคืนนี้เหมิงเหมิงจะกินกุ้งแค่สองตัว! ที่…ที่เหลือให้พี่หมดเลย!”“ยังมีหน้ามาพูดอีก? วันก่อนๆ ใครกันที่กินกุ้ง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 330

    แต่เด็กผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ เด็กผู้ชายกลับกะพริบตาส่งจูบให้กับกล้องอย่างมีชีวิตชีวา ถึงขนาดส่งมินิฮาร์ทให้เขาด้วย“ขอบคุณคุณลุงเยี่ยมู่มากนะคะ คุณลุงเยี่ยมู่ใจป้ำมาก!”เสียงของเด็กผู้หญิงนิ่มนวลน่าฟัง เสียงเล็กเสียงน้อย การกระทำที่ทำออกมาดูป้ำๆ เป๋อๆ บ้าง แต่ไม่รู้เพราะอะไร เพียงแค่การกระทำเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ก็ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นหัวใจริมฝีปากบางของชายหนุ่มที่วินาทีก่อนหน้ายังดูเย็นชา แต่ตอนนี้ดูเหมือนน้ำแข็งจะละลาย และโค้งมุมปากขึ้นเล็กน้อยเทียบกันแล้ว เขาชอบเด็กผู้หญิงมากกว่าไม่เหมือนเด็กผู้ชายที่ยืนยันจะให้เขาหยุดส่งของขวัญ แต่เธอจะส่งจูบ และมินิฮาร์ทให้กับเขาตลอดถ้าเขาเองก็มีลูกสาวล่ะก็…ระหว่างที่กำลังครุ่นคิด ประตูห้องทำงานก็ดังขึ้นผู้ช่วยเปิดประตูเข้ามา แล้วกล่าวว่า “ประธานฉิน ประชุมใกล้จะเริ่มแล้ว เราต้องออกเดินทางแล้ว”หลี่มู่ถิงชะงักกับรอยยิ้มบริเวณมุมปากของฉินเย่ที่ยังไม่ทันจางหายไป หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงเด็กน้อยดังมาจากโทรศัพท์ของเขาพลันอึ้งในบัดดลประธานฉินของพวกเขาดูไลฟ์ของเด็กน้อยสองคนนั้นอีกแล้วเรื่องนี้พูดแล้วก็ยาวเมื่อหนึ่งปีก่อน เขามาประชุมกับประธา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 331

    บริเวณมุมหน้าจอถ่ายติดเพียงเงาร่างที่ไม่ชัดเจนของหญิงสาว น่าจะประมาณไม่กี่วินาทีเท่านั้น เงาร่างผอมเพรียวของหญิงสาวก็หายไปสิ่งที่ดังขึ้นพร้อมกันคือเสียงวิ่งของเด็กทั้งสองคนที่พุ่งไปหาหญิงสาว“หม่ามี๊”“หม่ามี๊กลับมาแล้วเหรอคะ/ครับ เหนื่อยแย่เลย”เด็กน้อยทั้งสองเอาใจใส่ดีมาก ถามไถ่หญิงสาวอย่างเอาใจใส่ไม่หยุดหย่อนเพราะห่างกันไกลมาก ดังนั้นจึงได้ยินเสียงของหญิงสาวไม่ชัดเจนนักไม่นาน เด็กน้อยทั้งสองก็กลับมาเข้ากล้อง“คุณลุงคุณน้า พี่ๆ ครับ หม่ามี๊ของพวกผมกลับมาแล้ว วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ”เสิ่นซือเหนียนกลับมาก็พูดอธิบายไปประโยคหนึ่งน้องสาวฝาแฝดของเขาเริ่มส่งมินิฮาร์ทใส่กล้องอยู่ข้างๆ อีกครั้ง“คุณลุงคุณน้า พี่ๆ ทุกคนลาก่อนนะคะ~”แม้ว่าผู้ชมในไลฟ์จะรู้สึกเสียดาย เพราะอย่างไรเด็กทั้งสองไลฟ์แค่ครั้งสองครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น แต่วันนี้ไลฟ์ไปได้ไม่เท่าไหร่ก็จะปิดไลฟ์แล้วถึงแม้จะไม่อยากลาจากไป แต่สุดท้ายก็ได้แต่อำลากับเด็กน้อยทั้งสองหน้าจอดับพรึบ เผยคำว่าผู้ไลฟ์จบการถ่ายทอดสดแล้ว ฉินเย่ยังคงจ้องที่โทรศัพท์อยู่พักหนึ่งเสียงของหลี่มู่ถิงดังขึ้นอีกครั้ง“ประธานฉิน ถ้าไม่ไปอีก

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 332

    เด็กฝึกงานอึดอัดเล็กน้อยเธออยากบอกว่าเด็กในไลฟ์ไม่เหมือนไปศัลยกรรมมาเลยนี่ คนที่ทำศัลยกรรมมาถึงจะดูดีแค่ไหน แต่ก็จะขาดกลิ่นอาย แต่กลิ่นอายของเด็กสองคนนั้น…แต่ทว่าแม้จะเหมือนแค่ไหน ประธานฉินของพวกเขาก็ไม่มีทางมีลูกที่โตขนาดนี้หรอกเพราะอย่างไรบนโลกนี้จะมีผู้หญิงที่มีลูกประธานฉินแล้วแต่ไม่พามายอมรับได้ยังไง?แค่คิดก็รู้สึกไม่สมเหตุสมผลแล้วดังนั้นเธอก็เลยถามเรื่องอื่นแทน“แต่ว่าเด็กที่หน้าตาคล้ายพวกนั้น ประธานฉินไม่เคยคิดสงสัยสักครั้งเลยเหรอว่าอาจไม่ใช่ทำศัลยกรรมมา แต่เป็นลูกแท้ๆ น่ะ?”ได้ยินดังนั้น หลี่มู่ถิงก็หัวเราะแห้งออกมาอย่างเย็นชา“เธอคิดว่าประธานฉินของเราเป็นใครกัน? ประธานฉินของเราแม้จะดื่มจนเมาแอ๋ แต่ก็ไม่มีทางแตะต้องผู้หญิงแปลกหน้าแน่นอน ความแน่วแน่นั้นไม่ใช่ใครๆ ก็สามารถทำได้”นึกบางอย่างขึ้นได้ หลี่มู่ถิงก็เสริมไปอีกประโยคหนึ่ง“อย่าว่าแต่ผู้หญิงแปลกหน้าเลย ถึงแม้จะเป็นคุณหนูเจียงที่อยู่เคียงข้างประธานฉินมาหลายปี ถูกเรียกว่าเป็นคนสนิทและเป็นผู้ช่วยชีวิตประธานฉินของเราไว้ ประธานฉินของเราก็ไม่แตะต้องเลย แม้จะเมาก็ตาม”หลายปีที่เขาเป็นผู้ช่วยประธานฉินมา เขาเห็นความ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 333

    บริเวณชานเมืองในบ้านสไตล์จีนขนาดกลางไม่เล็กไม่ใหญ่หลังหนึ่ง“หม่ามี๊! หม่ามี๊!”หลังจากปิดไลฟ์แล้ว เด็กน้อยทั้งสองก็วิ่งเข้าไปในอ้อมกอดของเสิ่นหยินอู้ซ้ายขวาคนละฝั่ง แล้วใช้มือน้อยๆ กอดเอาไว้ จากนั้นสูดดมกลิ่นครีมอาบน้ำหอมๆ บนตัวของเสิ่นหยินอู้หญิงสาวที่ก้มตัวลงไปกอดเหมิงเหมิงไว้ดวงตาสดใสราวกับกระจกไข่มุก ขนตายาวเรียงกันเป็นแพ ดูสดใสสุดๆ“ปิดไลฟ์แล้วเหรอจ๊ะ?” เสิ่นหยินอู้ถามด้วยน้ำเสียงชัดเจนและสดใส“อื้ม” เสิ่นเหมิงเหมิงใช้แก้มไปสัมผัสบริเวณต้นคอและคางของเสิ่นหยินอู้ แล้วพูดออดอ้อนเสิ่นซือเหนียนเหลือบมองน้องสาวของตัวเองแวบหนึ่ง แล้วพูดด้วยความจริงจังว่า “หม่ามี๊ครับ คนคนนั้นส่งของขวัญมาอีกแล้วครับ”คนคนนั้น?เสิ่นหยินอู้มึนงง“คุณลุงเยี่ยมู่เหรอ?”เสิ่นซือเหนียนพยักหน้า แล้วเม้มริมฝีปาก ตอบว่า “ผมบอกคุณลุงเยี่ยมู่แล้ว แต่คุณลุงเยี่ยมู่ไม่ฟัง”ได้ยินดังนั้น เสิ่นหยินอู้ก็ยื่นมือไปลูบศีรษะของเสิ่นซือเหนียน แล้วยิ้มเบาๆ“ช่างเถอะ ส่งก็ส่ง”เพราะไม่อยากทำให้ปัญหานี้ติดตัวเด็กสองคนนานเกินไป เสิ่นหยินอู้จึงรีบเปลี่ยนเรื่อง “หิวไหม? วันนี้อยากกินอะไรจ๊ะ?”เสิ่นเหมิงเหมิงที่

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 334

    การหมักต้องใช้เวลา ดังนั้นเสิ่นหยินอู้จึงไปจัดการกับเรื่องอื่นก่อน ระหว่างนั้น เธอก็นึกถึงอะไรบางอย่างได้จึงหันไปที่ห้องนั่งเล่นแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือที่ใช้ไลฟ์ขึ้นมา ไลฟ์วันนี้ ลูกน้อยทั้งสองของเธอได้รับแฟนคลับมากมาย และวิดีโอใหม่ที่เพิ่งโพสต์ไป ก็มีแต่คนคอมเมนต์ว่าน่ารักเกินปุยมุ้ย คอมเมนต์ที่มีคนกดไลก์มากที่สุดคือ: “เลี้ยงเด็กนิสัยดีแบบนี้ออกมาได้ยังไง?” เธอยิ้มและตอบอย่างซุกซน: “ฉันเลี้ยงลูกครั้งแรกอาจจะไม่มีข้อแนะนำดีๆ อะไรให้กับคุณ” หลังจากตอบกลับ เธอก็ดูรายได้ของวันนี้ไม่ดูไม่เป็นไร แต่พอดูแล้วก็พบว่าเยี่ยมู่เฉินจี้ได้ส่งของขวัญให้กับเด็กทั้งสองคนอีกแล้วของขวัญก่อนหน้านี้ บวกกับของวันนี้แล้ว เธอลองคิดลวกๆ ดูแล้วพบว่าเงินที่เข้ากระเป๋านั้นมากเกินไปแล้วเสิ่นหยินอู้ไม่ขาดแคลนเงินเลี้ยงดูลูกที่ลูกทั้งสองคนไลฟ์ก็เพราะว่าชอบ ขอแค่ลูกทั้งสองคนมีความสุขก็พอแล้วแต่คาดไม่ถึงว่าหลังจากไลฟ์แล้วจะมีรายรับมากขนาดนี้ แต่ว่าผู้ชมเหล่านั้นก็น่ารักมาก เธอบอกว่าไม่ต้องให้ของขวัญ หากมีคนอยากให้ของขวัญจริงๆ แค่ส่งของขวัญฟรีให้ก็พอแต่มีเพียงคนที่ชื่อเยี่ยมู่เฉินจี้เท่านั้นที่จะส

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 335

    เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายบอกว่าตนเป็นแม่ของเด็กน้อย แววตาของฉินเย่ก็นิ่งขรึมแล้วไม่ได้ตอบกลับอะไรเขาเพียงแค่นั่งก้มหน้าก้มตามองโทรศัพท์ด้วยสีหน้านิ่งๆ ไม่มีทีท่าอื่นๆแต่คนในห้องประชุมกลับแปลกเพราะท่าทีของเขาขยับเล็กน้อย แม้แต่คนที่กำลังพูดนำเสนองานอยู่ก็เริ่มพูดติดอ่างขึ้นมาเด็กฝึกงานไม่เคยเห็นสถานการณ์แบบนี้มาก่อน จึงตกใจสะดุ้งทำปากกาหล่นพื้นไป อยากจะมุดหัวเข้าสมุดเลยจริงๆหลี่มู่ถิงสะท้านในตอนแรกๆ แต่ต่อมาก็ใจเย็นลงเรื่องแบบนี้ เขาชินไปตั้งนานแล้วแต่ก่อนก็มี ตอนที่กำลังประชุมอยู่ แต่ตรงกับช่วงที่เด็กสองคนกำลังไลฟ์พอดี เขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อหน้าทุกคนทันทีถึงแม้จะไม่มีกฎอะไร แต่ทุกคนไม่มีทางที่จะเล่นโทรศัพท์ตอนประชุมอยู่แล้วแต่บอสฉินเป็นใคร?เขาจะทำแบบนี้ มีใครกล้าพูดอะไรเขาบ้าง?ทุกคนเพียงแค่หลับหูหลับตา ใครให้เขาเป็นเจ้าของบริษัทนี้ล่ะ?เหมือนตอนนี้ หลี่มู่ถิงกระแอมเบาๆ แล้วปริปากแสร้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ต่อเถอะๆ”วินาทีต่อมา ฉินเย่ก็เก็บโทรศัพท์ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น มือทั้งสองข้างวางอยู่บนโต๊ะ สีหน้าเย็นเยือกถึงขีดสุดฝูงชน “…”ถูกเขาจ้องด้วยสายตาเย็นชาเ

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status