แชร์

บทที่ 335

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-08-05 17:00:01
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายบอกว่าตนเป็นแม่ของเด็กน้อย แววตาของฉินเย่ก็นิ่งขรึมแล้วไม่ได้ตอบกลับอะไร

เขาเพียงแค่นั่งก้มหน้าก้มตามองโทรศัพท์ด้วยสีหน้านิ่งๆ ไม่มีทีท่าอื่นๆ

แต่คนในห้องประชุมกลับแปลกเพราะท่าทีของเขาขยับเล็กน้อย แม้แต่คนที่กำลังพูดนำเสนองานอยู่ก็เริ่มพูดติดอ่างขึ้นมา

เด็กฝึกงานไม่เคยเห็นสถานการณ์แบบนี้มาก่อน จึงตกใจสะดุ้งทำปากกาหล่นพื้นไป อยากจะมุดหัวเข้าสมุดเลยจริงๆ

หลี่มู่ถิงสะท้านในตอนแรกๆ แต่ต่อมาก็ใจเย็นลง

เรื่องแบบนี้ เขาชินไปตั้งนานแล้ว

แต่ก่อนก็มี ตอนที่กำลังประชุมอยู่ แต่ตรงกับช่วงที่เด็กสองคนกำลังไลฟ์พอดี เขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อหน้าทุกคนทันที

ถึงแม้จะไม่มีกฎอะไร แต่ทุกคนไม่มีทางที่จะเล่นโทรศัพท์ตอนประชุมอยู่แล้ว

แต่บอสฉินเป็นใคร?

เขาจะทำแบบนี้ มีใครกล้าพูดอะไรเขาบ้าง?

ทุกคนเพียงแค่หลับหูหลับตา ใครให้เขาเป็นเจ้าของบริษัทนี้ล่ะ?

เหมือนตอนนี้ หลี่มู่ถิงกระแอมเบาๆ แล้วปริปากแสร้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ต่อเถอะๆ”

วินาทีต่อมา ฉินเย่ก็เก็บโทรศัพท์ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น มือทั้งสองข้างวางอยู่บนโต๊ะ สีหน้าเย็นเยือกถึงขีดสุด

ฝูงชน “…”

ถูกเขาจ้องด้วยสายตาเย็นชาเ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 336

    กล่าวจบ เสิ่นหยินอู้ก็ยื่นมือออกไปดีดปลายจมูกของเสิ่นเหมิงเหมิงเบาๆได้ยินดังนั้น เสิ่นเหมิงเหมิงลืมตากลมโต เธอสวมชุดนอนสีขาวนมดูนุ่มนิ่มราวกับเค้กที่เพิ่งออกจากเตาอย่างไรอย่างนั้นเธอถึงขนาดตั้งใจคิดพิจารณากับคำพูดของเสิ่นหยินอู้ หลังจากคิดเสร็จแล้วถึงจะพยักหน้าหงึกๆ“ก็ได้ ถ้างั้นหนูโตแล้วหนูจะช่วยหม่ามี๊เยอะๆ เลย”“ได้สิจ๊ะ ถ้างั้นเหมิงเหมิงสัญญากับหม่ามี๊แล้วนะ ไปเล่นเถอะ”“อุ๊บ ถ้างั้นหม่ามี๊ต้องจุ๊บตรงนี้” เสิ่นเหมิงเหมิงชี้ไปที่หน้าผากของตนเองเสิ่นหยินอู้อดไม่ได้ที่จะขำออกมา เธอก้มหน้าแล้วจูบลงบนหน้าผากของเด็กน้อย เสิ่นเหมิงเหมิงถึงจะพอใจแล้วเดินจากไปเสิ่นซือเหนียนออกมาเห็นฉากนี้เข้า ในใจพลันรู้สึกอิจฉาเขาเดินเข้าไปหาเสิ่นหยินอู้ช้าๆ แต่กลับไม่ให้ซุ่มให้เสียงเสิ่นหยินอู้ก้มหน้าเช็ดโต๊ะ พบว่าเสิ่นซือเหนียนยืนอยู่ที่ปลายเท้าของตนเอง มองเธออยู่อย่างนั้น แต่ริมฝีปากกลับเม้มแน่นไม่ยอมปริปากเหมือนผู้ใหญ่น้อยคนหนึ่งเสิ่นหยินอู้ชะงักไปรอบหนึ่ง แล้วก้มหัวจูบที่หน้าของเขาด้วย“รีบเข้าไปเล่นกับน้องเถอะ”เสิ่นซือเหนียนที่อารมณ์ไม่ดีเล็กน้อย ได้รับจูบจากเสิ่นหยินอู้แล้ว ก็ดี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-05
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 337

    ได้ยินดังนั้น เสิ่นหยินอู้ก็หุบยิ้ม แล้วปิดก๊อกน้ำ จากนั้นสวมถุงมือล้างจาน“ดูเธอซิ พอฉันพูดถึงเรื่องกลับประเทศเมื่อไหร่ เธอก็จะเงียบตลอด”โจวชวงชวงโมโหมากอย่างเห็นได้ชัด“ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าเธอคิดอะไรอยู่กันแน่ ผ่านไปนานขนาดนี้ ถึงแม้ว่าจะสัญญากับหล่อนไว้ ตอนนี้ก็คงผ่านไปได้แล้วมั้ง?”เสิ่นหยินอู้ยังคงเงียบแต่โจวชวงชวงยังคงพูดต่อไป “ธุรกิจด้านนี้ไปได้ไม่ค่อยดีในต่างประเทศ แต่ถ้าทำในประเทศ อีกอย่างคนที่เชิญเธอก็เป็นนักธุรกิจอันดับต้นๆ ของประเทศด้วย ตำแหน่งงานดีขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นว่าเธอเก่งมากล่ะก็ เธอถูกคนอื่นแย่งตำแหน่งงานนี้ไปนานแล้ว เธอรู้ไหมว่าเขาถึงขนาดโทรมาหาฉันด้วยนะ บอกว่าให้ฉันเกลี้ยกล่อมเธอให้หน่อย บริษัทของพวกเขาไม่อยากพลาดคนเก่งๆ ไป”เมื่อได้ยินแบบนั้น เสิ่นหยินอู้ก็กลั้นไว้ไม่อยู่อีกต่อไป“แล้ว? บริษัทของพวกเขาให้ผลประโยชน์อะไรกับเธอเหรอ? ถึงได้ให้เธอมาเกลี้ยกล่อมฉันน่ะ?”“กรี๊ด ห้ามอ่านฉันออกนะ!” โจวชวงชวงแค่นเสียงฮึ “ฉันเป็นคนแบบนั้นหรือไง? ฉันเห็นว่างานนี้เงินเดือนสูง มีโอกาสพัฒนาด้วยถึงได้มาเกลี้ยกล่อมเธอต่างหาก ไม่ใช่เพราะเห็นแก่ผลประโยชน์อะไรนั่น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-06
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 338

    “ตอนแรกว่าจะบอกเธอตอนที่ทำสำเร็จแล้ว เพราะตอนนี้ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ ไม่รู้ว่าจะสำเร็จไหม”“กรี๊ด” โจวชวงชวงกลับกรีดร้องใส่โทรศัพท์เมื่อเสียงกรีดร้องของเธอดังลั่นไปทั่วห้องครัวแล้ว เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกดีใจที่ตนเปิดลำโพงไว้ก่อน ไม่อย่างนั้นหูของตนต้องระเบิดแน่“เธอจะเปิดบริษัท ทำไมไม่บอกฉัน ถ้าเธอบอกก่อน ฉันจะให้เธอไปทำงานที่บริษัทฟู่อะไรนั่นไหม? เงินเดือนสูง เก็บไว้ให้เธอโดยเฉพาะอะไรนั่นจะสู้เปิดบริษัทเองได้ยังไง?”“ยังไม่สำเร็จสักหน่อย ถ้าพูดออกไปแล้วไม่สำเร็จ จะทำให้คนผิดหวังนะ”“ผิดหวังอะไร? ฉันไม่ผิดหวังแน่นอน ตั้งแต่เด็กจนโต เธอเคยทำอะไรที่ล้มเหลวบ้าง หยินอู้ เธอทำได้!”โจวชวงชวงให้กำลังใจเธอตลอด ฟังจนเสิ่นหยินอู้แทบจะบินแล้ว“ขอบใจนะ แต่ว่าฉินก็ล้มเหลวมาหลายครั้งเหมือนกันเถอะ แต่ขอแค่พยายามแล้วก็พอ”“ถ้างั้นเธอรีบพยายามเร็ว รอให้บริษัทเธอตั้งขึ้นได้สำเร็จ ถึงตอนนั้นฉันจะไปทำงานตำแหน่งสูง”“โอเค ฉันจะเหลือตำแหน่งไว้ให้นะ”“ดี ห้ามให้คนอื่นล่ะ”หลังจากนั้น ทั้งสองก็พูดคุยกัน รอให้เสิ่นหยินอู้ล้างจานเสร็จ โจวชวงชวงถึงจะวางสายไปหลังจากเก็บกวาดห้องครัวเสร็จแล้ว เสิ่นห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-06
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 339

    อีกอย่างทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงติดต่อเขาเวลานี้ เขาพอจะรู้สาเหตุคงเป็นเพราะจะคืนเงินที่เขาส่งของขวัญให้เท่านั้นหากเป็นเหตุผลไร้สาระแบบนี้ เขาจะสนใจไปทำไม?เงินที่ให้ไปแล้ว เขาไม่มีทางรับกลับคืนแน่สิ่งเดียวที่รับกลับคืนมา ก็คงจะมีแต่เมื่อห้าปีก่อน…เมื่อนึกถึงเมื่อห้าปีก่อน ตอนที่เขากลับมาถึงห้อง บัตรที่เขาให้เธอและบัตรที่แม่ของเขาเอาไว้ให้เธอล้วนถูกวางไว้ด้วยกันวางอยู่ตรงหน้าเขาไม่ว่าจะเป็นเงินที่เขาให้ หรือว่าเธอเป็นคนขอก็ไม่ถูกใช้เลยแม้แต่นิด เพียงแค่คืนเขาอย่างนั้นเหมือนกำลังประกาศว่า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเธอไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาอีก เธอไม่ติดค้างอะไรเขาแล้วด้วยถึงแม้จะผ่านไปห้าปีแล้ว แต่ทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องนี้ ความโมโหในตัวของฉินเย่ก็รุนแรงมากผู้หญิงใจร้ายเพราะอาหารกลางวันถูกวางไว้นาน ทำให้รสชาติไม่อร่อยหลี่มู่ถิงเห็นว่าฉินเย่กินไปได้ไม่กี่คำก็วางตะเกียบลงแล้ว“ประธานฉิน เย็นนี้ยังมีประชุมอีก คุณต้องกินอีกหน่อยนะ”จากนั้นสิ่งที่ตอบเขามีเพียงเสียงปิดประตูจากฉินเย่หลี่มู่ถิงยืนอยู่กับที่ มองไปที่อาหารเหลือบนโต๊ะ เขาถอนหายใจเบาๆ แล้วโทรเรียกพนักงานมาเก็บไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-06
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 340

    แต่พวกเขาไม่รู้ ว่าประธานฉินเจรจาธุรกิจ ก็คือเจรจาธุรกิจ จะทำธุรกิจด้วยกันได้ไหมขึ้นอยู่กับความสามารถของบริษัท ไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายมอบอะไรให้ ดังนั้นของที่ส่งมาเหล่านั้นล้วนถูกส่งกลับคืนไปในสภาพเดิมสัญญาครั้งนี้ใกล้จะสำเร็จแล้ว เหลือแค่เซ็นสัญญา อีกฝ่ายทำเซอร์ไพรส์เช่นนี้ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่จริงๆระหว่างที่ครุ่นคิด หลี่มู่ถิงก็มาถึงหน้าห้องโรงแรมพร้อมกับฉินเย่หลี่มู่ถิงรีบหยิบบัตรห้องออกมา“ประธานฉิน เชิญครับ”ฉินเย่เม้มปากเดินเข้าไป ทว่าทันทีที่เดินเข้าไป ฝีเท้าของเขาก็หยุดชะงักลงหลี่มู่ถิงเห็นเขายืนนิ่งกับที่ไม่ขยับ จึงถามอย่างสงสัย“ประธานฉิน เป็นอะไรรึเปล่าครับ?”สิ้นเสียง ร่างสูงบางตรงหน้าก็ถอยหลังไปหลายก้าว จนออกจากประตูห้องไปหลี่มู่ถิง “?”“กลิ่นแปลกๆ” ฉินเย่กล่าวด้วยลมหายใจไม่เป็นจังหวะ“หืม? กลิ่นอะไรครับท” ผู้ช่วยรีบยื่นคอออกมาดม แต่ก็ไม่ได้กลิ่นอะไรหน้าผากของฉินเย่เหงื่อแตก ทำได้เพียงทำหน้าบึ้งกล่าวว่า “เข้าไปอีก”หลี่มู่ถิงไม่รู้ถึงปัญหาจึงสูดดมต่อไปพลางกล่าวว่า “ประธานฉิน เหมือนจะไม่มีอะไรผิดปกตินะครับ”ฉินเย่มองด้วยสายตาดูหมู “…นายเดินเข้าไปอีกสิ เข้าไป”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-06
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 341

    อาการของฉินเย่แย่มาก ดูเหมือนว่าเขากำลังจะทรุดลงไปกับพื้นในวินาทีถัดไป สาวผมสีทองที่เดิมทียังคงติดต่อกับหลี่มู่ถิงมองตามสายตาของเขาไป เห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับฉินเย่ จากนั้นเธอจึงหยุดการกระทำที่น่าพิศวาสของเธอและตามหลี่มู่ถิงไปข้างหน้า ในตอนนี้ เธอยังคงพยายามสื่อสารกับหลี่มู่ถิงด้วยภาษาจีนที่ไม่ได้เรื่องของเธอ “เขาไม่เป็นไรใช่ไหม? ให้ฉันเรียกรถพยาบาลไหม?” หลังจากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่หุ้นส่วนส่งมา หลี่มู่ถิงก็อยากจะบอกให้เธอออกไป แต่เมื่อเห็นท่าทางของฉินเย่... "อย่ามาแตะต้องผม" อย่างไรก็ตาม หลังจากเข้าไปใกล้ๆ ในขณะที่ผู้หญิงคนนั้นต้องการช่วยหลี่มู่ถิงพยุงฉินเย่ขึ้นมา เธอก็ได้ยินฉินเย่ตวาดเธออย่างเย็นชา เมื่อเห็นเช่นนั้น หลี่มู่ถิงก็รีบตีมือของสาวผมทอง และรีบบอกเธอด้วยภาษาอังกฤษที่คล่องแคล่ว “เราไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ คุณรีบออกไปจัดการธุระเถอะ” สาวผมทองมองชายตรงหน้าเธออย่างไม่เต็มใจ แม้ว่าเขาจะดูอ่อนแอ แต่เขาก็ยังมีความหล่อที่ไม่สามารถปกปิดไว้ได้ ผู้ชายแบบนี้ เป็นผู้ชายที่ยอดเยี่ยม แต่…… เมื่อมองดูท่าทางที่เปราะบางของเขา เกรงว่าต่อให้เธอจะยั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-07
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 342

    “แล้วถ้าเป็นครอบครัวของคุณชายฉินพูดล่ะคะ เขาก็ไม่ฟังหรอ?”เมื่อได้ยินแบบนั้น หลี่มู่ถิงก็มีสีหน้าหม่นหมอง“ไม่มีประโยชน์ ถ้าได้ผล ป่านนี้คงไม่เป็นแบบนี้แล้ว”
“ก็จริงค่ะ”
ทั้งสองพูดคุยกันเรื่องนี้ บรรยากาศก็เริ่มจริงจังขึ้น
ทันใดนั้น นักศึกษาฝึกงานก็เหมือนจะนึกอะไรออก ดวงตาเป็นประกายขึ้นมา“แล้วคุณหนูเจียงล่ะคะ? ได้ยินว่าตลอดหลายปีมานี้นอกจากเธอแล้วก็ไม่มีใครอยู่ข้างๆ ประธานฉินเลย หรือว่าคุณหนูเจียงพูดเขาก็ไม่ฟังเหมือนกัน?”“เธอหมายถึงเจียงฉูฉู่เหรอ?”หลี่มู่ถิงถอนหายใจ "อย่าไปพูดถึงเลย ตอนแรกผมก็คิดว่าจะได้ผล ถึงกับไปขอร้องคุณหนูเจียงให้ช่วย แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร"นักศึกษาฝึกงาน“คุณหนูเจียงยังช่วยไม่ได้...... ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่มีทางจริงๆแล้วแหละค่ะ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ประธานฉินของเราจะไม่เสียชีวิตก่อนเวลาอันควรหรอคะ?”"ถุ้ยๆๆๆ พูดบ้าอะไรของเธอ! เธอเป็นแค่เด็กฝึกงานอย่าไปสาปแช่งคนอื่นนะ!"
นักศึกษาฝึกงานทำหน้าบึ้งเพราะถูกเขาบ่น“ผู้ช่วยหลี่ คุยกันแบบมีสติหน่อย นี่ฉันสาปแช่งเขาหรอคะ? ฉันเป็นห่วงประธานฉินต่างหาก คุณว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป แม้แต่คนที่แข็งแรงก็คงทนไม่ไหวใช่ไหม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-07
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 343

    ผ่านมาแล้วหนึ่งวันที่เขาไม่ได้ตอบข้อความของผู้หญิงคนนั้นตอนนี้ใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว
แอคเคาท์ของเด็กสองคนนั้นได้รับการดูแลเป็นอย่างดี หน้าโปรไฟล์ไม่มีอะไรเลอะเทอะ คำแนะนำก็เรียบง่าย แม้แต่โพสต์ก็มีน้อยนิด
มีแค่บางครั้งที่มีวิดีโอตัดต่อแล้วโพสต์พร้อมกับเพลงและข้อความ
ดูออกว่าคนที่ดูแลบัญชีนี้ไม่ได้มีเวลาว่างเท่าไหร่
ฉินเย่คลิกเข้าไปในวิดีโอหนึ่งทันที รอยยิ้มของเด็กสองคนก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์
เมื่อเห็นรอยยิ้มของเด็กสองคน ฉินเย่ก็รู้สึกว่าความกังวลและความหงุดหงิดในใจคลายลงทันที
เขานั่งพิงขอบเตียง เลื่อนนิ้วไปมาและดูเงียบๆ อยู่พักหนึ่ง
อารมณ์ของเขาค่อยๆ สงบลง
ตอนที่หลี่มู่ถิงเปิดประตูเข้ามาหาเขา ความกังวลในใจของฉินเย่ก็หายไปแล้ว และอาการของโรคกระเพาะหลังจากที่กินยาไปก็ดีขึ้นแล้ว"ประธานฉิน ทำไมถึงตื่นมาตอนนี้ครับ?"หลี่มู่ถิงรีบเดินไปหาเขา "นึกว่าคุณกำลังพักผ่อนอยู่ซะอีก"
แม้สีหน้าของฉินเย่ยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ แต่สายตาของเขาชัดเจนขึ้นมากเขามองดูคนที่มาแล้วเม้มริมฝีปาก "มีเรื่องอะไร?"
หลี่มู่ถิงเพิ่งจะนึกถึงจุดประสงค์ของตัวเองขึ้นมาได้ รีบพูดว่า "คืออย่างนี้ครับ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-07

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 872

    แต่ในไม่ช้า สายตาของฉินเย่ก็เปลี่ยนไปเพราะเขาเห็นฉากหลังด้านหลังของเธอ “คุณอยู่บ้านเหรอ?” เสิ่นหยินอู้เห็นเขามองฉากหลังที่อยู่ด้านหลัง ไม่รู้ด้วยเหตุใด เธอก็รู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อย อาจเป็นเพราะเธอไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอให้อภัยเขาเร็วขนาดนี้ และเธอก็รู้สึกไม่เต็มใจอยู่เสมอ แม้ว่าทั้งสองจะเข้าใจผิดกันในตอนแรก แต่เขาก็ทำร้ายเธอจริงๆ แม้ว่าเธออยากอยู่กับเขา แต่เธอไม่ได้ต้องการให้อภัยเขาเร็วขนาดนี้ เมื่อเห็นว่าเธอไม่ตอบอะไร อีกทั้งยังลดสายตาลงต่ำ สายตาของฉินเย่มืดลงเล็กน้อย แต่ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักถึงสิ่งที่เธอกำลังคิดได้ จึงเปลี่ยนหัวข้อ “เหมิงเหมิงกับเหนียนเหนียนนอนแล้วหรอ?” เมื่อได้ยินหัวข้ออื่น เสิ่นหยินอู้ก็เงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดว่า "น่าจะหลับไปแล้วนะ คืนนี้พวกเขานอนกับ... " เมื่อเธอพูดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็ชะงักไปอีกครั้ง ฉินเย่อึ้งไปครู่หนึ่งแล้วจึงพูดต่อจากคำพูดของเธอ “ตอนนี้เหมิงเหมิงกับเหนียนเหนียนอยู่กับพ่อแม่งั้นเหรอ?”เสิ่นหยินอู้พยักหน้า “อืม พวกผู้ใหญ่ชอบพวกเขามาก” อาจเป็นเพราะเมื่อครู่นี้ที่เสิ่นหยินอู้เงียบไปถึงสองครั้งและลังเลที่จะพูด บรรยากาศ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 871

    เสิ่นหยินอู้ตกใจกับเรื่องที่ตระกูลฉินจะย้ายจากหนานเฉิงไปยังเจียงเฉิง ขณะเดียวกัน เธอก็รู้สึกถึงการได้รับความเคารพอย่างมาก แต่เธอก็ถามคุณแม่ฉินในขณะที่เธอจะตัดสินใจ “ต้นตระกูลฉินอยู่ที่หนานเฉิงไม่ใช่หรอคะ? ถ้าย้ายไปที่เจียงเฉิงมันจะ…” “กำลังพูดเรื่องอะไรจ๊ะเนี่ย พ่อกับแม่แก่มากแล้ว คนที่เราห่วงก็มีแค่ลูกๆนี่แหละจ๊ะ ตอนนี้เรามีหลานเพิ่มมาอีกสองคน แน่นอนว่าหนูคือคนที่สำคัญที่สุด ไม่ต้องพูดถึงเราสองคนสามีภรรยาเลย เราอยู่ที่ไหนมันก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอจ๊ะ? สภาพแวดล้อมในเจียงเฉิงเหมาะสมกว่าที่นี่อีก หนูเปิดบริษัทอยู่ที่นั่นไม่ใช่เหรอ? ถึงตอนนั้นถ้ามีอะไรไม่เข้าใจก็แค่ถามพ่อ ตั้งใจทำงานให้ดี ส่วนเรื่องเด็กๆน่ะไม่ต้องห่วงเลย มีพ่อกับแม่อยู่ เดี๋ยวเราจะช่วยหนูเลี้ยงพวกเขาให้อ้วนท้วนสมบูรณ์ไปเลย” หลังจากนั้น คุณแม่ฉินก็ไม่ได้คุยอะไรกับเธอเพิ่ม เธอยุ่งอยู่กับการพาเด็กๆไปที่ห้องและปรึกษาหารือกับคุณพ่อฉินเรื่องการย้ายที่อยู่ของครอบครัว ระหว่างทางกลับห้อง เสิ่นหยินอู้ยังคงคิดถึงเรื่องนี้อยู่ตลอด ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่บริษัทในตอนนี้ของเธอเพิ่งเปิดเลย แม้ว่าบริษัทของเธอจะเริ่มพัฒนาขึ้นมาแล

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 870

    เมื่อนึกถึงเรื่องที่เขายังอยู่ที่ต่างประเทศและร่างกายยังได้รับบาดเจ็บ รอยยิ้มบนริมฝีปากของเสิ่นหยินอู้ก็จางหายไปเล็กน้อย “เอาล่ะ อย่าเพิ่งไปคิดมากเรื่องอื่นเลย นั่งเครื่องบินมาทั้งวัน หิวแย่แล้วใช่ไหม? อาหารในครัวน่าจะใกล้ทำเสร็จแล้ว อีกเดี๋ยวก็ไม่ต้องคิดอะไรสักพักแล้วก็กินข้าวให้อร่อยนะ มีอะไรไว้ค่อยคุยต่อพรุ่งนี้แล้วกันนะ" อาหารเย็นหลากหลายมากและมีแต่สิ่งที่เธอคุ้นเคย ซึ่งแตกต่างจากที่กินที่ต่างประเทศโดยสิ้นเชิง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ... รสชาติของอาหารต่างก็เป็นรสชาติที่คุ้นเคยทั้งนั้น... เสิ่นหยินอู้อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นไปมองคุณแม่และคุณพ่อฉิน แม้ว่าเธอจะแก้ปมในใจได้แล้ว แต่เธอก็ยังไม่มีความมั่นใจเพราะเธอหายไปเป็นเวลานานมาก เธอพูดขึ้นมาอย่างขวยเขินและยากลำบากว่า: "พ่อคะ แม่คะ หลายปีมานี้พ่อครัวของบ้านนี้ไม่ได้เปลี่ยนเลยเหรอคะ?" คุณแม่ฉินมองดูเธออย่างอ่อนโยน “ไม่ได้เปลี่ยนเลยจ๊ะ เขาอยู่กับตระกูลฉินมาหลายปีแล้ว และเราก็ชินกับรสชาติอาหารที่เขาทำมานานแล้ว ทำไมเหรอ กินไปนิดเดียวก็รู้แล้วเหรอจ๊ะ?” “ใช่ค่ะ มันเป็นรสชาติที่น่าคิดถึงมาก” มันเป็นอาหารเธอคุ้นเคย และแม้กระทั

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 869

    ระหว่างทางกลับบ้าน เธอไม่ได้พูดอะไร คุณแม่ฉินกลับเอาใจใส่เธอเป็นพิเศษ เธอจับมือหยินอู้และลังเลเหมือนจะพูดอะไรอยู่หลายครั้ง นอกจากคุณแม่ฉิน เสิ่นหยินอู้ก็ลังเลที่จะพูดเช่นกันเพราะเธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไร หรือเรียกคุณแม่ฉินอย่างไร แม้ว่าเด็กทั้งสองจะเรียกพวกเขาว่าปู่กับย่า แต่เธอกลับไม่สามารถเรียกคุณแม่ฉินว่าแม่ได้ ท้ายที่สุด...มันก็ผ่านมาห้าปีแล้ว ห้าปี ช่างเป็นตัวเลขที่เนิ่นนานเสียจริง อาจเป็นเพราะสายตาที่สื่อออกมาหรือไม่ก็การแสดงออกของเธอ แม่ฉินจึงรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอยื่นมือออกไปจับปรอยผมของเธอเบาๆและนำมันไปทัดที่หลังหู จากนั้นก็พูดด้วยเสียงที่อ่อนโยน “เด็กดี หลายปีมานี้คงลำบากมามากเลยสินะ” ประโยคเดียวนี้ทำให้เสิ่นหยินอู้อดไม่ได้ที่จะตาแดงขึ้นมา เธอคิดไว้ก่อนแล้วว่าคุณแม่ฉินจะพูดอะไร แต่เธอไม่ได้คิดเลยว่าสิ่งที่คุณแม่ฉินจะพูดนั้นจะเป็นประโยคนี้ ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกลำบากใจที่ได้ยิน มีความน้อยใจมากมายอยู่ในที่เธอไม่อาจพูดออกมาได้ ความรู้สึกใกล้ชิดกับคนที่เป็นญาติผู้ใหญ่เป็นสิ่งที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน ตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก เธอมีความฝันที่จะมีแม่ หรือผู้ปกค

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 868

    แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเธอก็ยังไม่เร่งรีบ เสิ่นหยินอู้กับฉินเย่ซึ่งแต่งงานกันแล้วในเวลานั้นคงจะมีความคิดของตัวเองในแบบของคนหนุ่มสาว พวกเขาในฐานะผู้ใหญ่ก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งมากเกินไป เช่นเดียวกับตอนที่เธอยังเด็ก การตั้งท้องฉินเย่ขึ้นมาก็เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดเช่นกัน เดิมทีเธอต้องการใช้เวลากับสามีของเธอในโลกของพวกเขาสองคนให้นานกว่านี้ และคุณนายฉินก็ไม่ได้กดดันเธอ ดังนั้นเธอจึงอยู่ในโลกที่หวานชื่นของพวกเธอสองคนกับสามี และแล้ว...เธอก็ท้องโดยไม่ได้ตั้งใจเธอเองก็เป็นเช่นนี้ ดังนั้นแล้วเธอจึงไม่ต้องการเร่งหยินอู้กับฉินเย่ ใครจะรู้ว่าต่อมาพวกเขาจะหย่าร้างกัน และหยินอู้ก็จากไปในที่ไกลแสนไกล ต่อมาก็มีคนมาล้อเธอเรื่องหลานมากขึ้น ในเวลานั้นคุณแม่ฉินยิ้มเล็กน้อยและขี้เกียจเกินกว่าจะตอบโต้อะไร เธอเพียงแค่ยุติสัญญาระหว่างบริษัททั้งสองหลังจากที่กลับไป เธอทำให้อีกฝ่ายตกใจจนแทบจะหัวใจวาย ในคืนนั้นอีกฝ่ายมาหาเธอและร้องไห้โดยบอกว่าเขาผิดไปแล้ว ขอให้ตระกูลฉินปล่อยเขาไป หลังจากไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาหลายปี คุณแม่ฉินก็ไม่ได้หวังอะไรมากนัก แต่ตอนนี้... เมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ คุณแม่ฉินก็อดไม่ได้ที่จะย่อต

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 867

    จากระยะไกล คุณแม่ฉินสามารถมองเห็นเสิ่นหยินอู้และลูกๆทั้งสองได้ เด็กๆที่อยู่ข้างๆเธอเป็นเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง และพวกเขาก็ดูมีหน้าตาที่คล้ายกันมากเพราะเป็นฝาแฝดกัน เธอตกใจมากเมื่อหลี่มู่ถิงโทรหาเธอก่อนหน้านี้ “ลูกเหรอ? เป็นลูกของฉินเย่กับหยินอู้หรอ?” "ครับคุณผู้หญิง" “นี่...หยินอู้มีลูกกับฉินเย่จริงๆเหรอ? อายุเท่าไรแล้ว?” เมื่อหลี่มู่ถิงบอกเธอว่าเด็กสองคนอายุห้าขวบและเป็นฝาแฝดหญิงชาย คุณแม่ฉินก็แทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ เนื่องจากท่าทางที่ไม่สนใจใครของฉินเย่ก่อนหน้านี้ บวกกับการที่หยินอู้ไม่ต้องการที่จะมาเจอพวกเขาอีก คุณแม่ฉินจึงคิดว่าฉินเย่คงจะไม่มีคู่ครองอีกแล้วในชีวิตนี้ และเธอคงไม่มีโอกาสที่ได้อุ้มหลานๆแล้ว เรื่องนี้ทำให้เธอต้องเตรียมใจอยู่เป็นเวลานาน คุณแม่ฉินโน้มน้าวตัวเองอย่างยากลำบากว่าหากเธอไม่มีหลานก็ช่างมันไปเถอะ สำหรับลูกชายของเธอ ไม่ว่าเขาจะมีลูกหรือไม่ นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอควรกังวล ฉินเย่ไม่ได้กังวล แล้วเธอจะกังวลอะไรล่ะ? เธอไม่คิดว่าเรื่องเหนือความคาดหมายจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ ก่อนหน้านี้เธอยังกังวลว่าเธอจะไม่มีหลานอยู่เลย แต่ผ่านไปไม่เท่าไรก

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 866

    “ตอนคุณคิดบัญชีกับเขา ผมไปขวางคุณเมื่อไร? นับตั้งแต่ที่คุณแต่งงานเข้ามาในตระกูลฉิน คุณไม่ได้เป็นคนที่มีอำนาจตัดสินใจทุกอย่างมาโดยตลอดหรอกเหรอ?” หลังจากคิดอยู่สักพัก ฉินซวีโก้วก็รู้สึกว่าที่เขาพูดนั้นสมเหตุสมผล เธอเม้มริมฝีปากและไม่พูดอะไรอีก นับตั้งแต่หยินอู้หย่ากับฉินเย่และจากไป นิสัยของคุณแม่ฉินก็เปลี่ยนไปมาก บวกกับการจากไปของคุณนายฉินก็ทำให้อารมณ์ของเธอไม่ได้อ่อนโยนเหมือนเมื่อก่อน เธอไม่อดทนกับลูกชายเหมือนเมื่อก่อน เพราะเธอรู้สึกว่าการจากไปของหยินอู้จะต้องหนีไม่พ้นเรื่องลูกชายของเธออย่างแน่นอน ท้ายที่สุดแล้ว พวกเธอทั้งคู่ก็เป็นผู้หญิงที่แต่งงานกันแล้วเหมือนกัน หากผู้หญิงยังต้องการจะจากไป แสดงว่าปัญหาจะต้องอยู่ที่ผู้ชาย ไม่เช่นนั้นก็คงจะเป็นผู้หญิงที่เปลี่ยนใจ แต่เธอเห็นหยินอู้เติบโตมาตั้งแต่เธอยังเด็ก และเธอก็เข้าใจอารมณ์ของหยินอู้ได้อย่างลึกซึ้ง ในความคิดของคุณแม่ฉิน เด็กคนนั้นไม่มีทางจะทำอะไรที่เป็นผลร้ายแรงต่อเรื่องการแต่งงานอย่างแน่นอน ดังนั้นความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวก็คือการที่ลูกชายของเธอทำอะไรสักอย่างผิด เมื่อลูกชายทำผิด แม่ก็ต้องรับผิดชอบด้วยเพราะเธอสอนลูกไม

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 865

    หลังจากลงจากเครื่องบินแล้ว หลี่มู่ถิงยังคงยุ่งอยู่กับการเข็นกระเป๋าเดินทางให้เธอ เสิ่นหยินอู้เพียงแค่พาลูกๆสองคนเดินไปข้างหน้าเท่านั้น อาจเพราะกังวลว่าเรื่องลักพาตัวเธอครั้งก่อนจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ดังนั้นจึงมีบอดี้การ์ดร่างสูงกำยำหลายคนเดินขนาบข้างเธอ บอดี้การ์ดแทบจะล้อมอยู่รอบๆข้างกายเธอ ด้านหน้าหนึ่งคน หลังหนึ่งคน ซ้ายหนึ่งคน หนึ่งขวาคน จากมุมมองของคนนอก เธอกับลูกๆสองคนของเธอจะต้องปลอดภัยเต็มร้อย ถ้าใครคิดที่จะทำอะไรกับเธอ คงไม่ได้แม้แต่จะคิด หลี่มู่ถิงเข็นกระเป๋าเดินทางเดินตามหลังเธอไป เมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงทางออกแล้ว เขาจึงพูดเตือนออกมา: "คุณหนูเสิ่น คุณผู้หญิงฉินกับคนอื่นๆกำลังรออยู่ที่ทางออก เดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้วครับ" เมื่อเขาเตือนเธอ เสิ่นหยินอู้ก็พยักหน้า "อืม" จากนั้นเธอก็ก้มลงและกระซิบบอกเด็กน้อยทั้งสอง: "เหมิงเหมิง เหนียนเหนียน ได้ยินแล้วใช่ไหม? อีกเดี๋ยวก็จะได้เจอคุณปู่กับคุณย่าแล้วนะ จำได้ไหมว่าหม่ามี๊บอกพวกหนูตอนที่อยู่บนเครื่องบินว่าอะไร?" "จำได้ค่า" “ไม่ต้องห่วงค่ะหม่ามี๊ เหมิงเหมิงกับพี่ชายมีมารยาทให้มากที่สุดค่ะ” เด็กน้อยสองคนทำให้เธอมั่นใจได้อย่

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 864

    "ดีใจค่ะ" เสิ่นเหมิงเหมิงเอื้อมมือออกไปด้วยความดีใจและคิดจะเข้าไปกอดเธอ แต่นี่เป็นบนเครื่องบิน และทั้งคู่ก็คาดเข็มขัดนิรภัยอยู่ ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถกอดหยินอู้ได้เสิ่นหยินอู้ทำได้เพียงยื่นมือออกมาให้เหมิงเหมิงจับมือเธอเพื่อแสดงความดีใจออกมา “หม่ามี๊คะ แล้วลุงเย่มู่รู้หรือเปล่า?”เขารู้หรือเปล่าเหรอ? มุมปากของเสิ่นหยินอู้โค้งขึ้น สีหน้าของเธออ่อนโยนขึ้น เดี๋ยวพอกลับถึงจีนเขาก็คงจะรู้เองแหละ "เดี๋ยวก็รู้แล้วจ๊ะ" “หม่ามี๊คะ แล้วคุณปู่กับย่าเข้ากับคนง่ายไหมคะ? พวกเขาเป็นพ่อกับแม่ของลุงเย่มู่หรอคะ?” “ใช่แล้ว พวกเขาเป็นพ่อกับแม่ของลุงเย่มู่ พวกเขาอ่อนโยนมาก แล้วก็เข้ากับคนง่าย ไม่ต้องห่วง พวกเขาคือ…” หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เสิ่นหยินอู้ก็พูดว่า "พวกเขาคือปู่กับย่าแท้ๆของลูก" หลังจากได้ยิน ดวงตาของเหมิงเหมิงก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ “ปู่กับย่าเหรอคะ?” "อืม" เสิ่นหยินอู้ลูบหัวของเหมิงเหมิงและมองไปที่เสิ่นซือเหนียน: "เหนียนเหนียนกับเหมิงเหมิง ลูกเข้าใจสิ่งที่หม่ามี๊พูดไหม? ลุงเย่มู่เป็นพ่อแท้ๆของลูก" เสิ่นซือเหนียนพยักหน้าอย่างรวดเร็ว เป็นการบอกว่าเขาเข้าใจ อย่าง

DMCA.com Protection Status