คุณพ่อบ้านถอนหายใจในใจทะเลาะกันถึงขนาดนี้แล้ว นิสัยของฉินเย่ที่ทั้งเย่อหยิ่งและดื้อรั้น จะให้เขาออกไปตามหาคนน่ะเหรอ ฝันไปเถอะมีคนรับใช้คนหนึ่งพูดเบาๆ ว่า "ตั้งแต่เจียงฉูฉู่คนนั้นมาที่บ้านเรา ฉันก็รู้สึกว่าคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงมีอะไรผิดปกติ พอหลังจากนั้นก็ดูเหมือนจะดีขึ้น แต่ก็รู้สึกว่ายังไม่เหมือนเดิม คุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงของเรา...... ไม่ได้หย่ากันใช่ไหม?"เมื่อได้ยินคำว่าหย่า พ่อบ้านก็ตากระตุกขึ้นมาทันทีและพูดดุๆ ว่า "พูดอะไรไร้สาระ? ต่อไปห้ามพูดคำนี้ออกมามั่วๆ ปัญหาระหว่างสามีภรรยาเป็นเรื่องปกติ คุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงอาจจะทะเลาะกันวันนี้แต่พรุ่งนี้ก็อาจจะดีกันแล้วก็ได้ ถ้าพวกเธอว่างมากก็ไปเช็ดขอบหน้าต่างอีกรอบเลยไป"เมื่อคุณพ่อบ้านพูดอย่างนั้น ทุกคนก็เงียบและแยกย้ายกันไปพ่อบ้านก็ปวดหัวเพราะความโกรธเหมือนกัน พลางโบกมือแล้วบอกว่าไม่สนแล้ว จะกลับนอนไปพักผ่อนซักหน่อย หลังจากที่พ่อบ้านไปแล้ว คนรับใช้ไม่กี่คนที่เหลือก็อดไม่ได้ที่จะรวมกลุ่มกันกระซิบกระซาบ"จริงๆ แล้วฉันรู้สึกว่าคุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงของเราหย่ากันแล้ว ตอนนี้อาจจะยังไม่หย่า แต่สองสามวันต่อจากนี้ก็อาจจะหย่า พวกเธ
ไม่ทันได้คิดอะไรไปมากกว่านั้น โทรศัพท์ก็มีสายเรียกเข้าเสิ่นหยินอู้ยังถือโทรศัพท์อยู่ เมื่อเห็นว่าเป็นสายเรียกเข้าจากฉินเย่ หัวใจของเธอก็กระตุก ถึงตอนนี้แล้ว เขายังจะโทรมาหาเธอทำไม? เสิ่นหยินอู้ลังเลว่าจะรับสายนี้ดีไหมทั้งคู่หย่ากันไปแล้ว คงจะไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้ รับสายนี้คงไม่เป็นไร? ใช้เวลานานในการตัดสินใจ พอเธอคิดจะรับสาย โทรศัพท์ก็วางสายไปแล้ว เสิ่นหยินอู้จึงสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วโทรกลับไป เมื่ออีกฝ่ายรับสาย เธอจึงอธิบายว่า "ขอโทษนะ เมื่อกี้ยุ่งอยู่"เมื่อได้ยินแบบนั้น อีกฝ่ายก็นิ่งเงียบไปสองสามวินาที แล้วหัวเราะเบาๆ "อ๋อ คงจะยุ่งกับการอยู่กับโม่ไป๋? รบกวนพวกเธอเข้าแล้วสิ?"เสิ่นหยินอู้ "......"เพราะเธอไม่มีอะไรกับโม่ไป๋จริงๆ ตอนที่เขาพูดเรื่องเธอกับโม่ไป๋ เสิ่นหยินอู้ก็อยากจะโต้แย้งโดยสัญชาตญาณ แต่เมื่อนึกถึงที่เธอเคยยอมรับต่อหน้าเขาแล้ว คำพูดที่กำลังจะพูดออกมาก็ถูกกลืนลงไป ตอนนี้เขาคงคิดว่าเธออยู่กับโม่ไป๋ แม้กระทั่งเมื่อคืนก็ด้วย...... แต่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรที่ต้องอธิบาย สุดท้ายเสิ่นหยินอู้เลือกที่จะเงียบ แต่ความเงียบของเธอสำหรับฉินเย่ก็เหมือนการยอมรับ
ตู๊ด ตู๊ด—— เสียงสายไม่ว่างจากโทรศัพท์ดังเข้าหูเสิ่นหยินอู้ซ้ำๆ เหมือนหนามที่ทิ่มแทงหัวใจของเธอ มีอยู่ชั่วขณะหนึ่งที่เสิ่นหยินอู้คิดว่าไม่ต้องกลับไปแล้ว ไม่ต้องเอาอะไรกลับมาแต่เธอยังมีของใช้ส่วนตัวบางอย่างอยู่ที่นั่น คงต้องหาเวลาที่เขาไม่อยู่บ้านไปเอากลับมาหลังจากทานอาหารเช้าแล้ว เสิ่นหยินอู้ก็เล่าความคิดของเธอให้โจวชวงชวงฟัง"เมื่อคืนนี้เธอก็บอกฉันแล้วไม่ใช่หรอ ฉันเตรียมรถไว้พร้อมแล้ว แล้วก็เรียกเพื่อนมาช่วยด้วย พอถึงตอนนั้นทุกคนจะช่วยเธอขนของเองไม่ต้องกลัว แค่เก็บของของเธอให้เรียบร้อยก็พอ" ไม่คิดว่าเธอจะเตรียมตัวให้อย่างครบถ้วนขนาดนี้ "ชวงชวง ขอบใจนะ""โอ๊ย เธอกับฉันยังจะต้องมาขอบคุณอะไรกันอีก""แต่ไม่ต้องเรียกเพื่อนเธอมาก็ได้ ของฉันไม่เยอะหรอก ฉันไปคนเดียวได้"เมื่อได้ยินแบบนั้น โจวชวงชวงก็วางของในมือทันที "เธอไปคนเดียว? ไม่ได้ ฉันต้องไปกับเธอ ไม่งั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง?""จะเกิดอะไรขึ้นได้? ยังไงก็เป็นที่ที่ฉันอยู่มานาน และครอบครัวเราก็รู้จักกันมานาน ไม่มีอะไรหรอก?"เมื่อได้ยินดังนั้น โจวชวงชวงก็คิดได้ว่า ครอบครัวฉินเป็นคนมีชื่อเสียง เธออาจจะกังวลเกินไป"เธอไม
หลังจากยืนคิดอยู่ซักพักหนึ่ง ในที่สุดเสิ่นหยินอู้ก็เหมือนตัดสินใจได้แล้วหันหลังเตรียมจะออกไป แต่ตอนที่เธอหันไป ก็เห็นฉินเย่ยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องคนไข้ สายตาของทั้งสองคนประสานกันกลางอากาศ เวลาราวกับหยุดนิ่งไปชั่วขณะ หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เสิ่นหยินอู้ก็ฝืนยิ้มแล้วเดินเข้าไปหา"ฉันมาดูแลคุณย...... " เธอหยุดไป ก่อนจะเปลี่ยนคำพูด "ฉันมาเยี่ยมคุณนายฉิน" ฉินเย่มองเธอด้วยสายตาเย็นชา ไม่มีความอบอุ่นแม้แต่น้อย เขาทำเหมือนไม่เห็นเธอ เพิกเฉยแล้วเดินผ่านเธอไป บรรยากาศที่เขาทิ้งไว้เย็นเหมือนมีเกล็ดน้ำแข็งลอยอยู่ เสิ่นหยินอู้ยืนอยู่กับที่ประมาณสิบกว่าวินาที รู้ดีว่าที่นี่ไม่มีที่ให้เธออีกแล้ว แล้วก็จากไปเงียบๆ หลังจากเธอไปแล้ว ฉินเย่ก็หันกลับไปมองที่ที่เธอยืนอยู่เมื่อครู่ แล้วค่อยๆ ถอนสายตากลับมา- เสิ่นหยินอู้กลับบ้านไปเก็บของ ทันทีที่เธอเข้าบ้านตระกูลฉิน คนรับใช้และพ่อบ้านก็รีบเข้ามาต้อนรับ พอเห็นเธอก็เหมือนเห็นญาติยังไงอย่างงั้น"คุณผู้หญิง ในที่สุดคุณก็กลับมา""คุณผู้หญิง เมื่อคืนคุณไปไหนมา ทำไมไม่กลับบ้านทั้งคืน? พวกเราคิดถึงคุณผู้หญิงนะคะ""ใช่ค่ะคุณผู้หญิง ยินดีต้อนรับ
คำถามนี้ทำให้เสิ่นหยินอู้ชะงักขณะที่เธอกำลังคิดว่าจะตอบลุงพ่อบ้านว่ายังไง พ่อบ้านก็พูดขึ้นว่า "หลังจากที่คุณผู้ชายกลับมาเมื่อคืน จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย"เสิ่นหยินอู้: "......" บอกเธอตอนนี้ จะมีประโยชน์อะไร? "ถึงผมจะไม่รู้ว่าคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงมีปัญหาอะไรกัน แต่คุณสองคนอยู่ด้วยกันมานาน ถ้าแก้ปัญหาได้......"เสิ่นหยินอู้พูดเบา ๆ ว่า "แก้ไม่ได้หรอกค่ะ" เมื่อได้ยินแบบนั้น พ่อบ้านก็ไม่สามารถพูดอะไรต่อได้หลังจากนั้นซักพัก เขาก็พูดเบา ๆ ว่า "ถ้าคุณผู้หญิงตัดสินใจแล้ว ก็ขอให้เดินทางปลอดภัยนะครับ" ในตอนแรกสีหน้าของเสิ่นหยินอู้ยังมีความสับสนอยู่ แต่หลังจากนั้นครู่หนึ่งก็ยิ้มอย่างโล่งใจ"ขอบคุณลุงพ่อบ้าน ต่อไปนี้ลุงต้องดูแลตัวเองด้วยนะคะ ส่วนคุณย่าฉิน...... ช่วยดูแลท่านด้วยนะคะ" พ่อบ้านพยักหน้าอย่างจริงจังและจริงใจ "ผมเป็นพ่อบ้านของตระกูลฉิน ถึงคุณผู้หญิงไม่บอก ผมก็จะทำอยู่แล้วครับ""ใช่ค่ะ ลุงพ่อบ้านทำงานอย่างซื่อสัตย์เสมอเลย" อีกอย่างเขาเป็นคนฉลาด คนอื่นดูไม่ออก แต่เธอดูออก "คุณผู้หญิง ดูแลตัวเองด้วยนะครับ" เสิ่นหยินอู้ถือกระเป๋าใบเล็กออกจากบ้านตระกูลฉิน ก
เจียงฉูฉู่ไม่ยอมเจอเธอเลย ถ้าเธอบุกรุกเข้าไป ก็จะมีคนมาไล่เธอออกมา ซูเชี่ยวใช้ชีวิตไม่ต่างจากตกนรก แม่ของเธอเครียดมากถึงกับคิดฆ่าตัวตายด้วยการกินยานอนหลับ แต่โชคดีที่น้องชายของซูเชี่ยวมาเจอและหยุดไว้ทันสุดท้าย น้องชายของซูเชี่ยวก็คุกเข่าต่อหน้าเธอ "พี่ ถือว่าผมขอร้องได้ไหม พี่ไปทำให้ใครไม่พอใจ ไปขอให้เขาให้อภัยเถอะ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป พวกเราทั้งครอบครัวต้องได้ไปกระโดดน้ำตายแน่!" สุดท้ายแม้แต่แม่ของเธอก็คุกเข่าขอร้องเธอ"ซูเชี่ยวลูก เมื่อก่อนครอบครัวเราไม่เคยทำให้ลูกลำบากถึงแม้ว่าลูกเป็นผู้หญิง แต่ตอนนี้ครอบครัวเราลำบากมาก ลูกไปทำให้ใครไม่พอใจ ไปขอโทษเขาเถอะ ครอบครัวเราไม่สามารถอยู่แบบนี้ได้อีกต่อไปแล้วนะ" ทำให้ใครไม่พอใจ? ซูเชี่ยวรู้ดีว่าเธอไปทำให้ใครไม่พอใจเมื่อจนมุม เธอก็ไปที่หน้าบ้านตระกูลฉิน เธอยืนอยู่หน้าประตูบ้านตระกูลฉิน มองดูอาคารที่สวยงาม แล้วคิดถึงบ้านของตัวเองที่พังทลาย เธอกัดริมฝีปากของตัวเอง โทรศัพท์ดังขึ้น ซูเชี่ยวหยิบมันออกมาดู ปรากฏว่ามีคนในกลุ่มแชทพูดถึงเจียงฉูฉู่ ชวนเธอออกไปเดินเล่นในตอนบ่าย เจียงฉูฉู่ตอบกลับคนนั้นอย่างรวดเร็วในกลุ่มแชท ซูเชี่ยวม
คำพูดเพียงประโยคเดียวทำให้เจียงฉูฉู่เงียบไปทันที ความเงียบของเธอทำให้ซูเชี่ยวพอใจมาก"ทำไมไม่พูดต่อล่ะ ฉูฉู่? เธอคิดว่าถ้าฉันบอกเรื่องนี้กับฉินเย่ เขาจะทำยังไง?""ซูเชี่ยว!"เจียงฉูฉู่กระวนกระวายทันที จนได้ยินเสียงเธอลุกขึ้นเดินเร็วๆ เธอเกลี้ยกล่อมซูเชี่ยวว่า "มีอะไรเราคุยกันดีๆ ได้ไหม เธออย่าหุนหันพลันแล่น" ได้ยินดังนั้น ซูเชี่ยวก็ยิ้มอย่างพอใจ เธอเดาถูกแล้วเจียงฉูฉู่กลัวว่าเธอจะบอกเรื่องนี้กับฉินเย่จริงๆที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง~"ฉันไม่ได้หุนหันพลันแล่นนะ ฉูฉู่ ฉันก็แค่อยากให้ฉินเย่รู้ความจริงแค่นั้นเอง ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะรู้ความจริงนะ เธอว่าไหม?""ซูเชี่ยว......" เจียงฉูฉู่หยุดเดิน น้ำเสียงของเธอเจ็บปวด "เธอโกรธฉันเพราะเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้นใช่ไหม? ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจไม่สนใจเธอ แต่พ่อฉันสั่งไม่ให้ฉันยุ่งกับเธอ ไม่อย่างนั้นจะยึดเงินค่าขนมทั้งหมดของฉัน""งั้น เธอก็จะไม่ยุ่งกับฉันจริงๆ เหรอ? เธอจำได้ไหมว่าเธอเคยพูดอะไรกับฉัน? ตอนนั้นเธอพูดว่า ถ้าเธอได้เป็นภรรยาของฉินเย่เมื่อไหร่ เธอจะตอบแทนฉัน นี่คือวิธีที่เธอตอบแทนฉันเหรอ?""ขอโทษนะ ฉันอยากจะตอบแทนเธอ แต่ว่า......"
เจียงฉูฉู่รู้สึกว่าซูเชี่ยวสงบลงหลังจากได้รับเงินแล้ว จึงพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า "ซูเชี่ยว ตอนนี้เธออยู่ที่หน้าบ้านตระกูลฉินใช่มั้ย? งั้นฉันไปหาเธอ ดีมั้ย?""โอเค"ซูเชี่ยวตอบรับอย่างเต็มใจ "ฉันก็ไม่ได้เจอเธอนานแล้ว คิดถึงเธอจัง"เจียงฉูฉู่ "......งั้นเธอรออยู่ตรงนั้น ฉันจะไปเดี๋ยวนี้" ซูเชี่ยวหาที่ร่มๆแล้วนั่งรอ ไม่นาน รถของเจียงฉูฉู่ก็มาถึง พอประตูรถเปิด เจียงฉูฉู่ก็รีบวิ่งมาหาซูเชี่ยวแล้วยิ้มเล็กๆให้เธอจากนั้นเธอมองไปที่ประตูบ้านตระกูลฉินที่อยู่ไม่ไกลจากข้างหลังของซูเชี่ยว แล้วถามอย่างระมัดระวังว่า "เธอยังไม่ได้เข้าไปใช่ไหม?" ซูเชี่ยวมองเจียงฉูฉู่ที่อยู่ตรงหน้า เมื่อเทียบกับเจียงฉูฉู่ที่แต่งตัวอย่างประณีต ตัวเธอเองในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาดูเหมือนคนจรจัด เมื่อคิดว่าตัวเองเป็นแบบนี้ก็เพราะเธอ และเจียงฉูฉู่ก็ยังต้องรอให้เธอขู่ก่อนถึงจะยอมมาเจอ ซูเชี่ยวก็ยิ่งรู้สึกแค้นขึ้นอีก"ทำไม คุณหนูเจียงกลัวว่าฉันจะเข้าไปหรอ?" สีหน้าของเจียงฉูฉู่เปลี่ยนไป จากนั้นก็ฝืนยิ้มออกมา"ซูเชี่ยว เธออย่าโกรธฉันเลยนะ มันจำเป็นจริงๆ""อ๋อหรอ ก่อนหน้านี้จำเป็น แล้วทำไมตอนนี้ถึงออกมาได