ตู๊ด ตู๊ด—— เสียงสายไม่ว่างจากโทรศัพท์ดังเข้าหูเสิ่นหยินอู้ซ้ำๆ เหมือนหนามที่ทิ่มแทงหัวใจของเธอ มีอยู่ชั่วขณะหนึ่งที่เสิ่นหยินอู้คิดว่าไม่ต้องกลับไปแล้ว ไม่ต้องเอาอะไรกลับมาแต่เธอยังมีของใช้ส่วนตัวบางอย่างอยู่ที่นั่น คงต้องหาเวลาที่เขาไม่อยู่บ้านไปเอากลับมาหลังจากทานอาหารเช้าแล้ว เสิ่นหยินอู้ก็เล่าความคิดของเธอให้โจวชวงชวงฟัง"เมื่อคืนนี้เธอก็บอกฉันแล้วไม่ใช่หรอ ฉันเตรียมรถไว้พร้อมแล้ว แล้วก็เรียกเพื่อนมาช่วยด้วย พอถึงตอนนั้นทุกคนจะช่วยเธอขนของเองไม่ต้องกลัว แค่เก็บของของเธอให้เรียบร้อยก็พอ" ไม่คิดว่าเธอจะเตรียมตัวให้อย่างครบถ้วนขนาดนี้ "ชวงชวง ขอบใจนะ""โอ๊ย เธอกับฉันยังจะต้องมาขอบคุณอะไรกันอีก""แต่ไม่ต้องเรียกเพื่อนเธอมาก็ได้ ของฉันไม่เยอะหรอก ฉันไปคนเดียวได้"เมื่อได้ยินแบบนั้น โจวชวงชวงก็วางของในมือทันที "เธอไปคนเดียว? ไม่ได้ ฉันต้องไปกับเธอ ไม่งั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง?""จะเกิดอะไรขึ้นได้? ยังไงก็เป็นที่ที่ฉันอยู่มานาน และครอบครัวเราก็รู้จักกันมานาน ไม่มีอะไรหรอก?"เมื่อได้ยินดังนั้น โจวชวงชวงก็คิดได้ว่า ครอบครัวฉินเป็นคนมีชื่อเสียง เธออาจจะกังวลเกินไป"เธอไม
หลังจากยืนคิดอยู่ซักพักหนึ่ง ในที่สุดเสิ่นหยินอู้ก็เหมือนตัดสินใจได้แล้วหันหลังเตรียมจะออกไป แต่ตอนที่เธอหันไป ก็เห็นฉินเย่ยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องคนไข้ สายตาของทั้งสองคนประสานกันกลางอากาศ เวลาราวกับหยุดนิ่งไปชั่วขณะ หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เสิ่นหยินอู้ก็ฝืนยิ้มแล้วเดินเข้าไปหา"ฉันมาดูแลคุณย...... " เธอหยุดไป ก่อนจะเปลี่ยนคำพูด "ฉันมาเยี่ยมคุณนายฉิน" ฉินเย่มองเธอด้วยสายตาเย็นชา ไม่มีความอบอุ่นแม้แต่น้อย เขาทำเหมือนไม่เห็นเธอ เพิกเฉยแล้วเดินผ่านเธอไป บรรยากาศที่เขาทิ้งไว้เย็นเหมือนมีเกล็ดน้ำแข็งลอยอยู่ เสิ่นหยินอู้ยืนอยู่กับที่ประมาณสิบกว่าวินาที รู้ดีว่าที่นี่ไม่มีที่ให้เธออีกแล้ว แล้วก็จากไปเงียบๆ หลังจากเธอไปแล้ว ฉินเย่ก็หันกลับไปมองที่ที่เธอยืนอยู่เมื่อครู่ แล้วค่อยๆ ถอนสายตากลับมา- เสิ่นหยินอู้กลับบ้านไปเก็บของ ทันทีที่เธอเข้าบ้านตระกูลฉิน คนรับใช้และพ่อบ้านก็รีบเข้ามาต้อนรับ พอเห็นเธอก็เหมือนเห็นญาติยังไงอย่างงั้น"คุณผู้หญิง ในที่สุดคุณก็กลับมา""คุณผู้หญิง เมื่อคืนคุณไปไหนมา ทำไมไม่กลับบ้านทั้งคืน? พวกเราคิดถึงคุณผู้หญิงนะคะ""ใช่ค่ะคุณผู้หญิง ยินดีต้อนรับ
คำถามนี้ทำให้เสิ่นหยินอู้ชะงักขณะที่เธอกำลังคิดว่าจะตอบลุงพ่อบ้านว่ายังไง พ่อบ้านก็พูดขึ้นว่า "หลังจากที่คุณผู้ชายกลับมาเมื่อคืน จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย"เสิ่นหยินอู้: "......" บอกเธอตอนนี้ จะมีประโยชน์อะไร? "ถึงผมจะไม่รู้ว่าคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงมีปัญหาอะไรกัน แต่คุณสองคนอยู่ด้วยกันมานาน ถ้าแก้ปัญหาได้......"เสิ่นหยินอู้พูดเบา ๆ ว่า "แก้ไม่ได้หรอกค่ะ" เมื่อได้ยินแบบนั้น พ่อบ้านก็ไม่สามารถพูดอะไรต่อได้หลังจากนั้นซักพัก เขาก็พูดเบา ๆ ว่า "ถ้าคุณผู้หญิงตัดสินใจแล้ว ก็ขอให้เดินทางปลอดภัยนะครับ" ในตอนแรกสีหน้าของเสิ่นหยินอู้ยังมีความสับสนอยู่ แต่หลังจากนั้นครู่หนึ่งก็ยิ้มอย่างโล่งใจ"ขอบคุณลุงพ่อบ้าน ต่อไปนี้ลุงต้องดูแลตัวเองด้วยนะคะ ส่วนคุณย่าฉิน...... ช่วยดูแลท่านด้วยนะคะ" พ่อบ้านพยักหน้าอย่างจริงจังและจริงใจ "ผมเป็นพ่อบ้านของตระกูลฉิน ถึงคุณผู้หญิงไม่บอก ผมก็จะทำอยู่แล้วครับ""ใช่ค่ะ ลุงพ่อบ้านทำงานอย่างซื่อสัตย์เสมอเลย" อีกอย่างเขาเป็นคนฉลาด คนอื่นดูไม่ออก แต่เธอดูออก "คุณผู้หญิง ดูแลตัวเองด้วยนะครับ" เสิ่นหยินอู้ถือกระเป๋าใบเล็กออกจากบ้านตระกูลฉิน ก
เจียงฉูฉู่ไม่ยอมเจอเธอเลย ถ้าเธอบุกรุกเข้าไป ก็จะมีคนมาไล่เธอออกมา ซูเชี่ยวใช้ชีวิตไม่ต่างจากตกนรก แม่ของเธอเครียดมากถึงกับคิดฆ่าตัวตายด้วยการกินยานอนหลับ แต่โชคดีที่น้องชายของซูเชี่ยวมาเจอและหยุดไว้ทันสุดท้าย น้องชายของซูเชี่ยวก็คุกเข่าต่อหน้าเธอ "พี่ ถือว่าผมขอร้องได้ไหม พี่ไปทำให้ใครไม่พอใจ ไปขอให้เขาให้อภัยเถอะ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป พวกเราทั้งครอบครัวต้องได้ไปกระโดดน้ำตายแน่!" สุดท้ายแม้แต่แม่ของเธอก็คุกเข่าขอร้องเธอ"ซูเชี่ยวลูก เมื่อก่อนครอบครัวเราไม่เคยทำให้ลูกลำบากถึงแม้ว่าลูกเป็นผู้หญิง แต่ตอนนี้ครอบครัวเราลำบากมาก ลูกไปทำให้ใครไม่พอใจ ไปขอโทษเขาเถอะ ครอบครัวเราไม่สามารถอยู่แบบนี้ได้อีกต่อไปแล้วนะ" ทำให้ใครไม่พอใจ? ซูเชี่ยวรู้ดีว่าเธอไปทำให้ใครไม่พอใจเมื่อจนมุม เธอก็ไปที่หน้าบ้านตระกูลฉิน เธอยืนอยู่หน้าประตูบ้านตระกูลฉิน มองดูอาคารที่สวยงาม แล้วคิดถึงบ้านของตัวเองที่พังทลาย เธอกัดริมฝีปากของตัวเอง โทรศัพท์ดังขึ้น ซูเชี่ยวหยิบมันออกมาดู ปรากฏว่ามีคนในกลุ่มแชทพูดถึงเจียงฉูฉู่ ชวนเธอออกไปเดินเล่นในตอนบ่าย เจียงฉูฉู่ตอบกลับคนนั้นอย่างรวดเร็วในกลุ่มแชท ซูเชี่ยวม
คำพูดเพียงประโยคเดียวทำให้เจียงฉูฉู่เงียบไปทันที ความเงียบของเธอทำให้ซูเชี่ยวพอใจมาก"ทำไมไม่พูดต่อล่ะ ฉูฉู่? เธอคิดว่าถ้าฉันบอกเรื่องนี้กับฉินเย่ เขาจะทำยังไง?""ซูเชี่ยว!"เจียงฉูฉู่กระวนกระวายทันที จนได้ยินเสียงเธอลุกขึ้นเดินเร็วๆ เธอเกลี้ยกล่อมซูเชี่ยวว่า "มีอะไรเราคุยกันดีๆ ได้ไหม เธออย่าหุนหันพลันแล่น" ได้ยินดังนั้น ซูเชี่ยวก็ยิ้มอย่างพอใจ เธอเดาถูกแล้วเจียงฉูฉู่กลัวว่าเธอจะบอกเรื่องนี้กับฉินเย่จริงๆที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง~"ฉันไม่ได้หุนหันพลันแล่นนะ ฉูฉู่ ฉันก็แค่อยากให้ฉินเย่รู้ความจริงแค่นั้นเอง ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะรู้ความจริงนะ เธอว่าไหม?""ซูเชี่ยว......" เจียงฉูฉู่หยุดเดิน น้ำเสียงของเธอเจ็บปวด "เธอโกรธฉันเพราะเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้นใช่ไหม? ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจไม่สนใจเธอ แต่พ่อฉันสั่งไม่ให้ฉันยุ่งกับเธอ ไม่อย่างนั้นจะยึดเงินค่าขนมทั้งหมดของฉัน""งั้น เธอก็จะไม่ยุ่งกับฉันจริงๆ เหรอ? เธอจำได้ไหมว่าเธอเคยพูดอะไรกับฉัน? ตอนนั้นเธอพูดว่า ถ้าเธอได้เป็นภรรยาของฉินเย่เมื่อไหร่ เธอจะตอบแทนฉัน นี่คือวิธีที่เธอตอบแทนฉันเหรอ?""ขอโทษนะ ฉันอยากจะตอบแทนเธอ แต่ว่า......"
เจียงฉูฉู่รู้สึกว่าซูเชี่ยวสงบลงหลังจากได้รับเงินแล้ว จึงพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า "ซูเชี่ยว ตอนนี้เธออยู่ที่หน้าบ้านตระกูลฉินใช่มั้ย? งั้นฉันไปหาเธอ ดีมั้ย?""โอเค"ซูเชี่ยวตอบรับอย่างเต็มใจ "ฉันก็ไม่ได้เจอเธอนานแล้ว คิดถึงเธอจัง"เจียงฉูฉู่ "......งั้นเธอรออยู่ตรงนั้น ฉันจะไปเดี๋ยวนี้" ซูเชี่ยวหาที่ร่มๆแล้วนั่งรอ ไม่นาน รถของเจียงฉูฉู่ก็มาถึง พอประตูรถเปิด เจียงฉูฉู่ก็รีบวิ่งมาหาซูเชี่ยวแล้วยิ้มเล็กๆให้เธอจากนั้นเธอมองไปที่ประตูบ้านตระกูลฉินที่อยู่ไม่ไกลจากข้างหลังของซูเชี่ยว แล้วถามอย่างระมัดระวังว่า "เธอยังไม่ได้เข้าไปใช่ไหม?" ซูเชี่ยวมองเจียงฉูฉู่ที่อยู่ตรงหน้า เมื่อเทียบกับเจียงฉูฉู่ที่แต่งตัวอย่างประณีต ตัวเธอเองในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาดูเหมือนคนจรจัด เมื่อคิดว่าตัวเองเป็นแบบนี้ก็เพราะเธอ และเจียงฉูฉู่ก็ยังต้องรอให้เธอขู่ก่อนถึงจะยอมมาเจอ ซูเชี่ยวก็ยิ่งรู้สึกแค้นขึ้นอีก"ทำไม คุณหนูเจียงกลัวว่าฉันจะเข้าไปหรอ?" สีหน้าของเจียงฉูฉู่เปลี่ยนไป จากนั้นก็ฝืนยิ้มออกมา"ซูเชี่ยว เธออย่าโกรธฉันเลยนะ มันจำเป็นจริงๆ""อ๋อหรอ ก่อนหน้านี้จำเป็น แล้วทำไมตอนนี้ถึงออกมาได
"เธอเข้าใจผิดแล้ว" เจียงฉูฉู่จับมือเธอ ทำท่าทางเหมือนเป็นเพื่อนรักกัน "ฉันจะวางแผนทำร้ายเธอได้ยังไง? ที่จริงตอนที่เธอมีปัญหา ฉันอยากจะไปช่วยเธอ แต่ฉินเย่ไม่สนใจฉันเลย ฉันเลยกังวลใจจนไม่มีสมาธิคิดเรื่องอื่นเลย" เมื่อได้ยินแบบนั้น ซูเชี่ยวก็จับประเด็นได้"ฉินเย่ไม่สนใจเธอ?" ไม่ใช่แน่ๆ? ฉินเย่จะไม่สนใจเธอได้ยังไง? เธอไม่ใช่ผู้มีพระคุณที่เคยช่วยชีวิตฉินเย่ไว้หรอ? ถึงฉินเย่จะไม่สนใจใคร แต่ก็ไม่น่าจะไม่สนใจเจียงฉูฉู่สิ? "อืม ตอนนี้เขาแทบไม่สนใจฉันเลย ฉันเริ่มกังวลว่าเขาจะไม่ต้องการฉันแล้ว" ซูเชี่ยวที่กำลังรู้สึกดีใจ คิดว่าสามารถใช้เรื่องการตั้งท้องของเสิ่นหยินอู้มาควบคุมเจียงฉูฉู่ได้ พอได้ยินเรื่องนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ถ้าฉินเย่ไม่สนใจเจียงฉูฉู่จริงๆ หรือระหว่างเขากับเจียงฉูฉู่ไม่มีอะไรกันแล้ว จุดอ่อนที่เธอคิดว่าได้เปรียบดูจะไม่มีประโยชน์อะไรเท่าไหร่ เธอใช้ความพยายามอย่างมากในการใช้เรื่องนี้กดดันเจียงฉูฉู่เพื่อเอาเงินหนึ่งล้านหยวนมาได้ เป็นไปได้ยังไง?"ตอนนี้พวกเขายังไม่หย่ากันหรอ?" เจียงฉูฉู่ส่ายหน้า "ฉันก็ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นยังไง ฉันติดต่อเขาไม่ได้" "
ต่อมาที่บ้านถึงกับต้องทำห้องที่เป็นของเสิ่นหยินอู้โดยเฉพาะ เพื่อเก็บของที่ฉินเย่ให้เธอ เก็บไปนานๆ ก็เริ่มจะเต็ม ครั้งนี้ที่เธอจากมา เธอไม่ได้เอาอะไรติดตัวมาเลย แม้กระทั่งแหวนแต่งงานก็ยังทิ้งไว้ในห้องนอน ตอนที่ตระกูลเสิ่นล้มละลาย เธอไม่มีเงินติดตัว ของทุกอย่างที่เธอมีก็เป็นของที่ฉินเย่ให้มาทั้งหมด เมื่อจากมา ก็ไม่ควรเอาอะไรไปด้วย "อย่าพูดอย่างนั้นสิ ถึงจะเป็นของนอกกาย แต่ก็ใช้เงินซื้อมานะ" โจวชวงชวงพูดด้วยความเห็นใจเมื่อได้ยินแบบนั้น เสิ่นหยินอู้ก็หัวเราะอย่างสบายๆ "จริงหรอ? ถ้ารู้อย่างนั้น ฉันน่าจะเอาของมีค่าไปเยอะๆนะเนี่ย อย่างน้อยก็แลกเป็นเงินได้" โจวชวงชวงได้ยินแบบนั้นก็เปลี่ยนใจทันที"ช่างมันๆ ยังไงก็ต้องไปแล้ว ทิ้งของเก่าเพื่อเริ่มชีวิตใหม่ก็เป็นปกติ เธอนี่นะ ฉันแค่เสียดายนิดหน่อย เธอยังมีอารมณ์มาล้อเล่นอีก" เสิ่นหยินอู้ยักไหล่ "เธอพูดเองว่าเริ่มต้นชีวิตใหม่ แล้วทำไมถึงจะมีอารมณ์เล่นตลกไม่ได้ล่ะ?""พูดก็พูดไปอย่างนั้น แต่ถึงยังไง......" โจวชวงชวงยังจำได้ว่าเมื่อวานเธอร้องไห้หนักมาก เธอจึงพูดอย่างอ่อนโยน "เราเป็นเหมือนพี่น้องกัน เธอไม่ต้องแกล้งทำเป็นเข้มแข็งต่อห