แชร์

บทที่ 200

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
"มานี่" ฉินเย่หยุดเธอไว้แล้วพูดอย่างเย็นชา "ถึงตอนนั้นเราจะไปบอกคุณย่าด้วยกัน ขึ้นรถ"

ขึ้นรถ?

เสิ่นหยินอู้มองไปที่ที่นั่งคนขับ พูดตามตรง เธอไม่ได้อยากนั่งตรงที่นั่งนั้นเลยจริงๆ เธอขับรถเองคงจะดีกว่าไหม?

เมื่อเห็นเธอยืนนิ่งอยู่กับที่ ฉินเย่ก็ขมวดคิ้ว "ทำไมล่ะ? คุณไม่ได้อยากอยู่ร่วมกันกับผมอย่างสงบสุขเหรอ แค่รถของผมก็ยังไม่ขึ้นเลยเหรอ?"

หลังจากได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็กลับมามีสติสัมปชัญญะอีกครั้งและยิ้มเล็กน้อย

“เปล่า เมื่อกี้ฉันแค่คิดว่าเราจะไปบอกคุณย่าเมื่อไร?”

ขณะที่เธอพูด เธอก็เปิดประตูและเข้าไปในรถ ทันทีที่เธอนั่งลงและยังไม่ทันที่จะรัดเข็มขัดนิรภัย รถของฉินเย่ก็ขับออกไป

เสิ่นหยินถูกเขาอู้ทำให้เขาตกใจ เธอหันไปมองและเห็นเขากำลังขับรถด้วยสีหน้าบูดบึ้ง

ช่างมันเถอะเสิ่นหยินอุ้ ยังไงซะขอแค่คุณย่าผ่าตัดเสร็จ เธอก็จะออกไปจากที่นี่ได้แล้ว เขาอารมณ์เสียใส่เธอตอนนี้แล้วยังไงล่ะ ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ เธอต้องสงบนิ่งไว้และอย่าก่อปัญหา

หลังจากให้ตัดสินใจด้วยตัวเองอยู่ในใจ ในที่สุดเสิ่นหยินอู้ก็ระงับความโกรธนั้นไว้ และคาดเข็มขัดนิรภัยให้กับตัวเอง

ทันทีที่เสิ่นหยินอู้คาดเข็มขัดนิรภัย
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 201

    หลังจากที่พวกเขากลับมาถึงที่ทำงานของตัวเอง เสิ่นหยินอู้ก็ตั้งใจทำงานอย่างจริงจัง ก่อนขึ้นไปชั้นบน ทั้งสองตกลงที่จะพาคุณย่าไปโรงพยาบาลในวันพรุ่งนี้และจะกลับไปบอกเธอหลังจากเลิกงานในตอนเย็น แต่ ทั้งคู่ได้ตกลงกันโดยปริยายในการที่จะไม่พูดถึงเรื่องการหย่าร้าง ครั้งที่แล้วเพราะความโกรธเกรี้ยว ทั้งสองจึงไปที่สำนักงานกิจการพลเรือนแต่เช้า แต่เพราะการผ่าตัดของคุณย่าก็เลยไม่ได้ดำเนินการจนเสร็จสมบูรณ์ ครั้งนี้ เสิ่นหยินอู้จึงไม่รีบร้อน เธอรอให้คุณย่าผ่าตัดเสร็จและพักฟื้นให้หายดีก่อน แล้วจึงค่อยไปที่สำนักงานกิจการพลเรือนเพื่อรับใบรับรองการหย่าร้าง นอกจากนี้ มันก็เพื่อป้องกันสถานการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นอีกด้วย เธอคิดอย่างนั้นกับตัวเอง และฉินเย่ก็คงคิดแบบเดียวกับเธอ - เมื่อถึงตอนเที่ยง เสิ่นหยินอู้ก็ลงไปชั้นล่างเพื่อซื้อโจ๊กตามปกติ วันนี้เธออยากลองโจ๊กแบบอื่นดู แต่ทันทีที่เธอเดินลงไปถึงชั้นล่าง และยังไม่ทันที่จะได้พูดกับเถ้าแก่ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น เมื่อเห็นว่าเป็นสายจากโม่ไป๋ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย และหันไปมองตำแหน่งที่รถคนนั้นจอดเมื่อไม่กี่วันก่อนโดยไม่ร

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 202

    ทันทีที่พวกเขาจากไป โม่ไป๋ก็เปิดประตูรถให้เสิ่นหยินอู้ “ขึ้นรถเถอะ ยัยเด็กน้อย” เมื่อได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็มองไปที่โม่ไป๋ แต่ก็ไม่ได้ขึ้นรถในทันที “ไม่ได้ตกกลงกันแล้วหรอว่าจะไม่เรียกฉันด้วยชื่อนี้อีก?” เมื่อก่อนในฐานะเพื่อนในตอนที่ยังเด็ก โม่ไป๋มักจะเรียกเธอแบบนี้ ดังนั้นเธอจึงไม่คิดอะไรกับมันมาก แต่ตอนนี้เธอโตแล้ว เธอรู้สึกแปลกมากที่เขาเรียกเธอแบบนี้ “ก็ถูก งั้นนั่วนั่ว?” เสิ่นหยินอู้ขมวดคิ้ว "ชื่อนี้ก็ไม่ได้เหมือนกัน" “ทำไมล่ะ?” โม่ไป๋อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วขึ้นเมื่อได้ยินเธอพูดเช่นนั้น "เรียกเธอว่านั่วนั่ว จะทำให้เธอคิดถึงใครสักคนหรอ?" เสิ่นหยินอู้ "..." “ถ้าเป็นอย่างงั้น งั้นเธอก็ควรฟังมันให้มากขึ้น” ขณะที่เขาพูด โม่ไป๋เห็นว่าเธอยังยืนอยู่กับที่ เขาจึงยื่นมือออกมาเคาะหน้าผากของเธอ “ยังไม่ขึ้นรถอีก? รอให้ผมเชิญเธออขึ้นรถอยู่เหรอ?” เธอจึงขึ้นรถอย่างช่วยไม่ได้ หลังจากนั่งลงแล้ว เสิ่นหยินอู้ก็พูดอีกครั้ง "นายอย่าเรียกฉันแบบนั้นเลย ด้วยสถานะในปัจจุบันของฉัน มันไม่เหมาะสม" “สถานะในปัจจุบันของเธอคืออะไร?” โม่ไป๋ขับรถออกไปแล้วพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ "ทุกคนต่างก็พูดในงาน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 203

    ในรถเงียบลง โม่ไป๋มองไปรอบๆ โดยไม่ได้พูดถึงเรื่องก่อนหน้านี้ เขาแค่ถามเธอว่าอยากกินอะไรเสิ่นหยินอู้ไม่รู้สึกอยากกินเนื้อสัตว์เท่าไหร่ มื้อนี้เธออยากกินข้าวต้มแต่คืนนั้นเธอเคยให้โม่ไป๋กินข้าวต้มกับเธอแล้ว ถ้าจะเสนอให้กินข้าวต้มอีกวันนี้คงจะไม่ดีเท่าไรดังนั้นเธอจึงพูดไปว่า “นายเลือกเถอะ” โม่ไป๋ชะงักไปซักพัก เขาดูเหมือนจะแปลกใจกับการตัดสินใจของเธอ “เธอแน่ใจนะ? ผมไม่ได้ใช้ชีวิตในประเทศนี้มาหลายปีแล้วนะ”เสิ่นหยินอู้ตอบไปอย่างไม่ได้คิดอะไรมากว่า “ไม่เป็นไร” ยังไงเธอก็กินไม่เยอะอยู่แล้ว เมื่อคิดบางอย่างได้ เสิ่นหยินอู้ก็เสริมขึ้นว่า “นายกินอะไร ฉันเลี้ยงเอง” “จริงเหรอ?” โม่ไป๋ยิ้ม “งั้นคงต้องเลือกดีๆแล้ว” สุดท้ายโม่ไป๋เลือกภัตตาคารอาหารจีนร้านหนึ่ง หลังจากลงจากรถ เสิ่นหยินอู้ดูการตกแต่งของร้านอาหาร แล้วพบว่ามันหรูหรามาก ก่อนที่บ้านของเธอจะล้มละลาย เธอกับเพื่อนสาวมักจะมาทานอาหารที่ร้านแบบนี้ แต่หลังจากที่ที่บ้านล้มละลาย…… เพื่อนสาวของเธอต่างก็หายหน้าหายตาไป คนที่เหลืออยู่มีเพียงโจวชวงชวง ก่อนหน้านี้เสิ่นหยินอู้มักจะพาโจวชวงชวงไปทานอาหารที่ภัตตาคาร แต่หลังล

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 204

    “รบกวนเสิร์ฟน้ำผลไม้ให้คุณผู้หญิงท่านนี้ก่อนได้เลยครับ” “ได้ค่ะ คุณผู้ชาย~”เมื่อได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็ชะงักไป “นายรู้ได้ยังไง?” “ลืมแล้วเหรอ? คืนงานเลี้ยงนั้นเธอดื่มน้ำผลไม้ไปสองแก้ว แต่วันนี้ไม่ให้เธอดื่มเยอะนะ แก้วเดียวก็คงพอใช่มั้ยครับ?” ก่อนที่เสิ่นหยินอู้จะมา เธอไม่ได้ตั้งใจจะดื่มน้ำผลไม้หรือแม้แต่จะดูเมนูอย่างละเอียดด้วยซ้ำ แต่โม่ไป๋กลับสังเกตเห็น “ขอบคุณนะ” “ไม่ต้องขอบคุณ ยังไงก็ใช้เงินเธอจ่ายอยู่ดี”“……” เกือบลืมไป วันนี้เป็นวันที่เสิ่นหยินอู้ต้องเลี้ยงเขา ร้านอาหารแบบนี้กินหนึ่งมื้อต้องใช้เงินไม่น้อยเลยสำหรับเสิ่นหยินอู้เวอร์ชั่นก่อน เงินจำนวนนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่จริงๆ แล้วตอนนี้เงินเดือนของเธอก็สามารถจ่ายได้ แต่...... ถ้าเธอต้องมีลูก ต่อไปก็จะมีค่าใช้จ่ายเยอะมาก เสื้อผ้า อาหาร ที่พัก และค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่างๆ เธอควรต้องเก็บเงินล่วงหน้าแล้ว แค่คิดเสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกปวดหัว เพราะเธอไม่ได้ตั้งใจจะแต่งงานใหม่อีก เธอคงต้องเลี้ยงลูกคนเดียวถ้าอยากให้ลูกมีต้นทุนและสภาพแวดล้อมที่ดี เธอทำงานอย่างเดียวคงไม่พอ “เป็นอะไร? เริ่มรู้สึกคิดผิดที่ต้องเลี้ย

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 205

    หลังจากนั้น เสิ่นหยินอู้จึงไปเข้าห้องน้ำเพื่อบรรเทาความอึดอัดที่เกิดขึ้นตอนออกมา กลับพบคนที่คุ้นเคยตรงทางเดินนอกห้องน้ำอย่างไม่คาดคิด เสิ่นหยินอู้หยุดเดิน มองเด็กสาวที่หน้าตาเศร้าสลด ที่จริงแล้วก็ไม่ได้คุ้นเคยมาก เพียงแค่เคยเจอที่โรงพยาบาลครั้งหนึ่ง เธอคือลูกสาวของหลินเหม่ยหลาน จ้าวเป่าเอ๋อ ครั้งที่แล้วตอนที่เธอจะไปทำแท้งที่โรงพยาบาล ก็เจอหลินเหม่ยหลานเข้า ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องลูกสาวของเธอ คาดว่าหลินเหม่ยหลานคงได้ประกาศเรื่องของเธอให้คนอื่นรู้ไปแล้ว เมื่อเห็นเด็กคนนี้ เสิ่นหยินอู้ก็นึกถึงวันนั้นที่โรงพยาบาล ที่จ้าวเป่าเอ๋อพูดกับหลินเหม่ยหลานอย่างหนักแน่นว่า “หนูชอบเขา” เธอไม่ได้อยู่คนเดียว ด้านหน้ายังมีผู้ชายสูงผอม หน้าตาดีคนหนึ่ง ผู้ชายกำลังก้มลงจับไหล่เธอ ทำสีหน้าอ้อนวอนพูดอะไรบางอย่าง “เป่าเอ๋อ คิดซะว่าฉันขอร้องเถอะ ทำแท้งเถอะนะ ตอนนี้เธอยังเด็ก เธอคงไม่คิดจะคลอดลูกแล้วไม่ไปเรียนหรอกใช่มั้ย? อีกอย่างฉันยังไม่ได้เตรียมตัวจะเป็นพ่อ ฉันขอเวลาอีกหน่อย ไว้โตอีกหน่อยเราค่อยมีลูกกัน ดีไหม?” เมื่อเข้าไปใกล้ เสิ่นหยินอู้จึงได้ยินบทสนทนาของพวกเขา เธอมองผู้ชายคนนั้นอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 206

    เสิ่นหยุนอู้ “...... ใครอยากเพิ่มนายใน WeChatกัน ?”“งั้นแล้วทำไมล่ะ?”“ก็ตกลงกันแล้วว่าจะให้ฉันเลี้ยง” เสิ่นหยินอู้หันไปทางโทรศัพท์ของเขา “ไม่ต้องเพิ่ม WeChat หรอก แค่โชว์คิวอาร์โค้ดมาให้ฉันสแกนก็พอ”พูดจบ มือที่เสิ่นหยินอู้ยื่นออกไปก็ถูกโม่ไป๋ปัดออก “คราวก่อนนายก็แย่งจ่ายเงิน ถ้าคราวนี้ยังให้นายจ่ายอีก ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?”  เสิ่นหยินอู้ขมวดคิ้วเล็กน้อย  “ถ้ารู้สึกเกรงใจจริงๆ ก็ลาออกมาอยู่บริษัทโม่สิ”  “......นายนี่เปลี่ยนเรื่องเร็วเกินไปไหม?”  “เปลี่ยนเรื่องเร็วเหรอ?” โม่ไป๋ก้มหน้าครุ่นคิด “แต่ก็ตามที่เธอพูด ผมก็อยากแย่งตัวเธอมาจริงๆนะ”“คิดจะให้ฉันย้ายงานเพราะอาหารมื้อเดียว นายนี่โลกสวยจริงๆนะ”  พูดจบ เสิ่นหยินอู้ก็เก็บโทรศัพท์ ไม่ดึงดันที่จะโอนเงินให้เขาอีกเขาจะเลี้ยงก็ให้เขาเลี้ยงไป ทายาทบริษัทโม่กรุ๊ป เงินแค่นี้คงไม่สะท้านหรอก  ส่วนเงินของเธอ เก็บไว้เลี้ยงลูกดีกว่า“จริงสิ มื้อเดียวคงไม่พอซื้อใจเธอ ต่อไปคงต้อง ‘เจอโดยบังเอิญ’ หลายๆ ครั้งแล้ว”  เสิ่นหยินอู้สังเกตเห็นว่า เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน โม่ไป๋ดูมีอารมณ์ขันขึ้นมากเมื่อก่อนเขาเอาแต่พูดจายั่วโมโห เที

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 207

    ชายหนุ่มสูงผอมจ้องมองเสิ่นหยินอู้ด้วยความสงใส แววตาของเขาเผยให้เห็นถึงความตกตะลึง แม้ว่าผู้หญิงตรงหน้าจะสวยมาก แต่เขาไม่รู้จักเธอ ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆเขาก็เช่นกัน เมื่อเห็นเสิ่นหยินอู้ ดวงตาของเธอก็แข็งกร้าวขึ้นและจ้องมองอย่างไม่ลดละ “เธอเป็นใคร? เธอคบใครลับหลังฉันอีกแล้วเหรอ?” ชายหนุ่มสูงผอมรีบอธิบาย “ไม่ใช่นะครับพี่ ผมก็ไม่รู้จักเธอ ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ดีๆเธอมาพูดกับผม? เธอ เธอเป็นใคร?” ที่จริงแล้วชายหนุ่มร่างผอมสูงอารมณ์ไม่ดีนัก การที่เสิ่นหยินอู้เข้ามาพูดแบบนี้ทำให้เขาอยากจะโกรธ แต่ด้วยความที่เธอสวยเกินไป เขาจึงไม่กล้าว่าเธอ “รู้จักหรือไม่รู้จักมันสำคัญมากเหรอ?” เสิ่นหยินอู้จ้องเขาด้วยสายตาเย็นชา “สิ่งสำคัญคือคำพูดของแก แกบอกว่าชอบผู้หญิงคนนี้ แต่กลับมีลูกกับผู้หญิงอีกคน มันยุติธรรมกับใครบ้าง?” ชายหนุ่มสูงผอมโกรธจนหน้าแดง "มัน มันเกี่ยวอะไรกับเธอ?" ผู้หญิงที่อยู่ข้างเขาหน้าเคร่งเครียดขึ้น แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เสิ่นหยินอู้ยิ้มเยาะ “แค่ทนดูท่าทางเสแสร้งแกไม่ไหวแค่นั้นแหละ” "เธอ! อย่าคิดว่าตัวเองสวยแล้วฉันจะไม่กล้าทำอะไรเธอนะ!" คงเพราะถูกคำพูดของเธอจี้ใจ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 208

    "ยังคิดว่าผมเป็นโรคกลัวความสกปรกอยู่อีกหรือเปล่า?" เสิ่นหยินอู้ "......" เมื่อครู่เขาแค่ใช้วิธีนี้เพื่อพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้เป็นโรคกลัวความสกปรกอย่างนั้นหรอ? ไปต่างประเทศมาห้าปี นิสัยของเขาเปลี่ยนไปมากเกินไปแล้ว "แค่รู้สึกว่าการไปสัมผัสคนที่ไม่ชัดเจนกับผู้หญิงทั้งสองคนทำให้มือสกปรก" โม่ไป๋พูดต่อไปด้วยสีหน้าไม่แสดงอารมณ์เมื่อได้ยิน สายตาของเสิ่นหยินอู้ก็ตาเศร้าลงเล็กน้อย เธอคิดถึงฉินเย่ขึ้นมาอีกแล้ว โม่ไป๋ถอนหายใจเมื่อเห็นเธอเงียบ "แม้ว่าผมไม่ควรพูดมากไป แต่เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างฉินเย่กับฉูฉู่ คนในวงการต่างก็รู้กันดี ส่วนเรื่องที่เธอแต่งงานกับเขา..."มาถึงตรงนี้ โม่ไป๋หยุดพูดชั่วครู่ "ผมไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของเธอกับเขาเป็นยังไง แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ชอบความสัมพันธ์แบบนี้ใช่ไหม ถ้ามันทำให้เธอเจ็บปวด ก็ควรจบมันให้เร็วที่สุดนะ" แม้จะรู้จักโม่ไป๋มาตั้งแต่เด็ก แต่เสิ่นหยินอู้ก็ยังคงรักษาระยะห่างกับเขา เธอไม่อยากเล่าเรื่องของตัวเองให้เขาฟังมากนักดังนั้นหลังจากฟังคำแนะนำของเขา เธอจึงยิ้มและพยักหน้ารับเท่านั้น "อืม ฉันรู้แล้ว"โม่ไป๋หยุดพูดเรื่องนี้ทันที แล้วไม่พ

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status