ในยามค่ำคืนที่อบอวลไปด้วยแสงไฟนีออนและเสียงดนตรีที่ดังก้องไปทั่วคลับหรูย่านใจกลางเมือง ธีร์กำลังนั่งดื่มอยู่กับวินเพื่อนสนิทของเขา ธีร์เป็นลูกชายเศรษฐี เขาเป็นนักแข่งรถชื่อดัง ธีร์มีหน้าตาหล่อคม ใบหน้าฉายแววเจ้าเล่ห์เล็ก ๆ ดวงตาที่รียาวคมกริบ ทำเอาธีร์ต่างเป็นที่หมายปองของสาว ๆ มากมาย ส่วนวิน นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง วินมีหน้าตาออกแนวสำอาง ผิวขาว แต่กลับเป็นเพลย์บอยตัวยงที่ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าเลยทีเดียว
ธีร์นั่งอยู่ที่โต๊ะวีไอพีของคลับ เขากำลังรู้สึกเบื่อหน่ายกับการเห็นวินคุยโทรศัพท์กับสาว ๆ ไม่หยุด เสียงหยอกเย้าปนเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนาน ทำเอาเขาได้แต่รู้สึกหงุดหงิดใจเสียทุกครั้งไป เพราะในใจลึก ๆ ของธีร์ เขาแอบรักวินมาตลอดโดยไม่กล้าแสดงความรู้สึกอันใดออกมา ดังนั้นเขาจึงทำเพียงนั่งนิ่งและแกล้งทำเป็นไม่สนใจท่าทีที่น่าหมั่นไส้ของวินอย่างนั้น
“เฮ้ ธีร์” วินเรียกทำลายความเงียบ “นายเคยคิดบ้างไหมว่า...อยากเจอใครสักคนที่เราจะลงหลักปักฐานด้วยกัน บางทีฉันก็คิดอยากจะแต่งงานแล้วว่ะ”
คำถามนี้ทำเอาธีร์ถึงกับสะอึกใหญ่ เขารู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบเมื่อได้ยินวินพูดแบบนั้น แต่แล้วเขากลบความรู้สึกนั้นด้วยการยิ้มแล้วตอบออกไปอย่างไม่ใคร่สนใจนัก “ไม่เคยคิดหรอก นายคิดเรื่องเหลวไหลอะไรของนายอีกแล้ว”
“นี่นายอย่ามาทำเป็นเปลี่ยนเรื่อง ฉันเห็นสาว ๆ แอบมองนายอยู่ตั้งหลายคน นายไม่คิดจะสนใจเสียหน่อยเหรอ...เอ...หรือว่านายแอบซ่อนใครไว้อยู่” วินทำน้ำเสียงล้อเลียนเพื่อนรัก
ตั้งแต่คบกันมาวินไม่เคยเห็นธีร์คบใครสักคนเลย ทั้ง ๆ ที่รูปร่าง หน้าตา ฐานะอย่างธีร์ ผู้หญิงนับร้อยแทบอยากจะซบลงมาที่อกเขาให้ได้
“นายพูดบ้าอะไรเนี่ย เลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว” ธีร์บ่ายเบี่ยงพร้อมหลบสายตาวิน เขาจะมองหน้าวินได้อย่างไร หากวินรู้ความรู้สึกของเขา แม้แต่คำว่าเพื่อน วินคงไม่มีให้เขาอีกแล้ว
“โธ่ธีร์...ฉันก็แค่...รู้สึกเบื่อกับการควงสาวไปเรื่อย ๆ แบบนี้ ฉันเริ่มอยากมีใครสักคนที่ฉันจะรักเขาคนเดียวอย่างจริงจัง” วินพูดพร้อมถอนหายใจอย่างรู้สึกเบื่อหน่ายเข้าจริง ๆ
“วิน นายอย่าบอกนะ ว่านายคิดจะแต่งงาน” ธีร์เลิกคิ้วสูง มองหน้าวินด้วยสายตาจริงจัง
วินยักไหล่กับคำพูดของเพื่อน “ก็ไม่แน่” ก่อนจะหันไปมองรอบ ๆ คลับอีกครั้ง พลันสายตาของเขาก็ไปหยุดอยู่ที่หญิงสาวคนหนึ่ง เธอหน้าตาสวยหวาน แต่งกายแม้ไม่เย้ายวน แต่กลับดูน่าหลงใหลยิ่งนัก เธอนั่งอยู่ที่บาร์เหล้าเพียงลำพัง วินบังเกิดสายตาลุกวาวและยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ “นั่นไง ฉันว่าเธอนี่แหละ ที่จะเป็นแม่ของลูกฉัน”
ธีร์ได้แต่ปรายตามองวินด้วยดวงตาที่หม่นแสง วินไม่มีวันรู้หรอกว่าคำพูดเหล่านั้นทิ่มแทงใจเขามากแค่ไหน
พลันวินก็ตัดสินใจลุกขึ้น ก่อนจะยกแก้วเหล้าทำท่าจะเดินตรงไปหญิงสาวคนดังกล่าว ธีร์ได้แต่มองท่าทางกระตือรือร้นของวิน พลางสลับหันไปมองหญิงสาวที่วินแอบหมายตาอยู่ นั่นทำให้เขารู้สึกไม่พอใจขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
ธีร์ดึงแขนวินเอาไว้ “วันนี้นายเมามากแล้ว นายยังจะเดินไปหาเธออีกเหรอ” เขาพยายามเหนี่ยวรั้งวินไว้อย่างสุดกำลัง
“แน่นอน ต่อให้ต้องเมาจนตาย ก็ขอตายคาอกสาวก็แล้วกัน” วินตอบพลางยักคิ้วหลิ่วตาให้ธีร์อย่างทีเล่นทีจริง แต่นั่นทำเอาธีร์หัวใจเต้นแรง รู้สึกร้อนวูบไปทั่วใบหน้า
วินเดินตรงไปที่บาร์ที่ผู้หญิงคนดังกล่าวนั่งอยู่ ทิ้งให้ธีร์นั่งอยู่คนเดียวที่โต๊ะ เขามองตามหลังวินไปด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธขึ้งและหึงหวง
ธีร์ยังคงจ้องมองวินที่นั่งคุยอย่างสนิทสนมกับหญิงสาวคนนั้น เขารู้สึกเหมือนทุกนาทีเป็นชั่วโมง ความโกรธทำให้เขาแทบจะไม่สามารถทนอยู่ต่อได้อีก เขาตั้งท่าจะลุกจากโต๊ะเพื่อเตรียมตัวกลับ หากแต่วินที่กลับมานั่งที่โต๊ะ เขารีบฉุดรั้งแขนธีร์เข้ามาหา พร้อมกระซิบกระซาบใส่เขา
“เธอน่ารักใช่ไหมล่ะ” วินพูดด้วยรอยยิ้มกว้าง “ฉันว่าฉันเจอแล้วแหละ แม่ของลูกฉัน” วินพูดพร้อมประกายตาวาววับ ทำท่าทางอย่างกับหนุ่มช่างเพ้อฝัน
ธีร์ได้แต่เบือนหน้าหนีอย่างพยายามเก็บอารมณ์ “อืม...ก็น่ารักดี”
เวลาผ่านไปพวกเขาดื่มกันต่อจนกระทั่งวินเริ่มเมาไม่ได้สติ ธีร์มองวินที่เริ่มพูดจาไม่เป็นภาษาและบ้างก็พร่ำเพ้อ บ้างก็โอดครวญ ทำเอาเขาได้แต่ส่ายหน้าไปมาอย่างจนใจ ธีร์ตัดสินใจลุกขึ้นก่อนจะเข้าพยุงวินขึ้นมา “วิน นายต้องกลับห้องแล้ว เดี๋ยวฉันพานายไปส่ง”
ร่างกายวินที่แนบเข้ามากับตัวของธีร์ ทำเอาธีร์รู้สึกหายใจติดขัดขึ้นมา ยิ่งเมื่อวินที่เริ่มทรงตัวไม่อยู่ วินจึงใช้สองแขนโอบรอบคอธีร์ไว้แน่น ใบหน้าหวานแอบอิงเข้ากับบ่ากว้างของธีร์อย่างลืมตัว ทว่าลมหายใจร้อนของวินที่เป่ารดอยู่บนบริเวณลำคอของธีร์ ทำเอาเขาหัวใจเต้นแรง ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา ร่างกายส่วนล่างขยับขยายอย่างไม่อาจห้ามอยู่ ธีร์ต้องพยายามข่มใจอยู่พักใหญ่ เขาสูดลมหายใจแรงเข้าไปในร่างกายเพื่อพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเอง ก่อนจะรีบพาวินกลับออกมาด้านนอก
หลังจากที่ธีร์ลากร่างอันอ่อนปวกเปียกของวินมาถึงที่รถ เขาก็แทบจะหมดแรงลงไป “เจ้าบ้านี่ กินยังไงให้เมาไร้สติแบบนี้กัน” ธีร์บ่นอุบขึ้นมาพร้อมมองหน้าวินที่ตอนนี้กำลังหลับสนิท
ธีร์ถอนหายใจก่อนจะยิ้มน้อยออกมา ธีร์โน้มตัวดึงเข็มขัดนิรภัยขึ้นมาเพื่อคาดให้กับวิน แต่เมื่อใบหน้าหวานพร้อมลมหายใจร้อนที่เป่ารดอยู่บนใบหน้าของเขา ทำเอาเขาอดกลั้นไว้ไม่อยู่ ธีร์ตัดสินใจก้มลงพร้อมจูบเข้าที่ริมฝีปากวินอย่างรวดเร็ว วินที่กำลังเมาเคลิ้มเผลอตัวขึ้นครางออกมา ยิ่งเปิดโอกาสให้ธีร์ส่งลิ้นร้อนเข้าไปสำรวจภายในปากวินอย่างราบรื่น
ธีร์จูบวินอย่างดูดดื่มและโหยหา เขาบดเบียดริมฝีปากไปมา พร้อมลิ้นที่ตวัดเกี่ยวพันลิ้นของวินอย่างลึกซึ้ง ธีร์จูบวินเนิ่นนานกว่าเขาจะยอมปล่อยริมฝีปากหวานนั้นออกไป
“อืม...” เสียงวินครางออกมาอย่างลืมตัว ทำเอาธีร์ถึงกับยกยิ้มขึ้นด้วยความปลื้มปริ่ม เขายกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าของวินอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจเดินกลับมาขึ้นรถพร้อมขับตรงไปยังคอนโดของเขาในทันที
คืนที่ดวงจันทร์เต็มดวงส่องแสงสว่างจ้าทั่วท้องฟ้า ธีร์ลากวินที่เมาเต็มที่กลับมายังห้องนอนของตน ภายในห้องนั้นเงียบสงบ มีเพียงแสงจันทร์ที่ลอดผ่านหน้าต่างมาส่องสว่างทำให้มองเห็นทุกสิ่งอย่างชัดเจน วินที่อยู่ในสภาพเมามาย พูดจาไม่รู้เรื่อง เขาเอาแต่หัวเราะและยิ้มอย่างไม่รู้ตัว ธีร์พยุงวินนอนลงบนเตียงอย่างเบามือ ธีร์ค่อยๆ จัดการให้วินนอนในท่าที่สบายมากขึ้นห้องนอนของธีร์นั้นตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่มีรสนิยม สีของห้องเป็นโทนดำขาว ที่ให้ความรู้สึกลึกลับน่าค้นหา เฟอร์นิเจอร์ถูกจัดวางอย่างลงตัวและสะอาดตาธีร์นั่งลงข้างเตียงนอน มองดูใบหน้าของวินที่กำลังหลับลึกด้วยความเอ็นดู ภายในใจเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ยังคงต้องเก็บซ่อนเอาไว้ธีร์ตัดสินใจลุกขึ้นก่อนจะตรงไปยังห้องน้ำ เขาหยิบผ้าขนหนูผืนสะอาดชุบน้ำหมาด ๆ ออกมาพร้อมเดินกลับไปที่เตียงอีกครั้งธีร์ใช้ผ้าขนหนูค่อย ๆ เช็ดลงไปตามใบหน้าของวินอย่างอ่อนโยน ความเย็นของผ้าทำเอาวินนึกรำคาญ เขาปัดป่ายมือของธีร์ออกเป็นพัลวัน “ออกไป...อย่ามายุ่ง” วินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ้อแอ้ธีร์ได้แต่มองอย่างนึกขัน เขายังคงบรรจงเช็ดผ้าลงบนผิวนุ่มเนียนนั้นไม่หยุด มื
ในยามสายเมื่อแสงแดดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา วินปรือตาลืมขึ้นอย่างงัวเงีย เขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับความปวดร้าวที่ลามไปทั่วร่างกาย เขาพยายามขยับตัวลุกขึ้นแต่ก็ต้องชะงักและล้มตัวลงนอนอีกครั้งด้วยความเจ็บปวดที่มี วินได้แต่ตกตะลึงกับสิ่งที่เขารับรู้ในตอนนี้ เรื่องเมื่อคืนไม่ใช่ฝันร้าย แต่กลับเป็นเรื่องบัดซบที่เกิดขึ้นจริงกับเขาต่างหากเล่าวินรีบหันไปด้านข้างด้วยความตระหนกและเขาก็พบกับธีร์ที่ยังคงนอนหลับอยู่ข้างๆ อย่างสบายใจ ภาพเมื่อคืนปรากฏขึ้นอย่างแจ่มชัดในความคิดของเขา วินสะดุ้งตัวขึ้นอย่างแรง แต่ก็ต้องเจ็บแปลบอีกครั้งจนเขาต้องหยุดชะงักไปครู่หนึ่งวินถึงกับกำหมัดไว้แน่น ฟันของเขาขบกัดกันจนสันกรามขึ้นเป็นริ้ว ดวงตาแดงก่ำด้วยความโกรธแค้นที่มี เขาไม่คาดคิดว่าเพื่อนรักของเขาอย่างธีร์จะกล้าทำเรื่องเลวร้ายกับเขาได้ถึงขนาดนี้“ไอ้ธีร์...ไอ้เพื่อนเลว...มึงทำอย่างนี้กับกูได้ยังไง..ไอ้สารเลวเอ๊ย...” วินตะโกนออกมาอย่างสุดเสียงด้วยความโมโห เสียงร้องของเขาขาดหายเป็นช่วง ๆ ด้วยโทสะที่มี พร้อมกับที่วินก้มลงกระชากดึงธีร์ให้ลุกขึ้นมาเสียงวินที่ร้องอาละวาดโวยวาย ทำให้ธีร์ค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้น เขายกมือขึ้นลูบใบห
ตะวันเริ่มคล้อยเย็นความมืดสลัวเริ่มสาดส่องผ่านช่องหน้าต่างห้องของธีร์ที่มืดมิด วินค่อย ๆ ขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงด้วยความระมัดระวังอย่างเงียบๆ ในขณะที่ธีร์ยังคงหลับใหลด้วยใบหน้าอิ่มเอมจากความสุขที่เขาได้รับวินมองธีร์ด้วยสีหน้าแค้นเคือง หัวใจของเขารู้สึกหนักอึ้ง ความเจ็บปวดและการถูกหักหลังถาโถมโจมตีจนเขาได้แต่กัดฟันแน่น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เขาสูญเสียความไว้วางใจในตัวเพื่อนรักที่สุดลงไป เขาแทบอยากกระโดดเข้าไปขย้ำคอของธีร์ให้ตายไปต่อหน้าทีเดียว แต่พอนึกย้อนถึงเหตุการณ์ในช่วงเช้าที่ผ่านมาด้วยเรี่ยวแรงและกำลังที่เขามีในตอนนี้ ก็ทำให้เขาขนลุกชันอดนึกหวาดผวาขึ้นมาในทันทีวินได้แต่ข่มความโกรธและความเจ็บปวดเอาไว้ภายในใจ “ไอ้ธีร์...กูไม่คิดว่ามึงจะทำกับกูแบบนี้” วินได้แต่พึมพำด้วยเสียงที่ลอดตามไรฟันออกมา ดวงตาแดงก่ำฉายแววความแค้นเคืองจ้องมองเพื่อนรักของตนด้วยความแค้นใจวินรีบเก็บเสื้อผ้าของเขาที่กระจัดกระจายไปทั่วห้อง ก่อนจะรีบสวมใส่เข้าไปอย่างลวก ๆ วินรีบหนีออกจากห้องโดยแทบไม่ได้ใส่ใจสภาพที่ตนเองเป็นอยู่เฉกเช่นปกติวินย่างก้าวไปตามทางเดินที่ทอดยาวอย่างทุลักทุเล สภาพของเขาในตอนนี้เรียกได้ว่
แสงจันทร์ส่องสว่างผ่านช่องหน้าต่างเล็กๆ ภายในห้องนอน ธีร์ปรือตาตื่นขึ้นมากลางดึก หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกสดชื่นจากรสสัมผัสที่ได้รับจากวิน ความรู้สึกอบอุ่นจากร่างกายของวินยังคงติดค้างในความทรงจำ ทำเอาเขาเผลอยกยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ธีร์หมุนตัวไปควานหาความอบอุ่นนั้นอีกครั้ง แต่มือที่ปัดป่ายไปมากลับพบเพียงผืนผ้าที่ยับยู่ยี่จากสิ่งที่ธีร์เคี่ยวกรำจากร่างกายวินแทบไม่หยุด ความว่างเปล่าทำให้ธีร์แทบหัวใจหยุดเต้นไปชั่ววูบธีร์ขมวดคิ้วด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด ความรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าเปลี่ยนเป็นความตกใจและหวาดระแวงในชั่วพริบตา เขาผุดลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็วด้วยความร้อนรน ดวงตาของเขาปราดมองไปรอบห้องที่มืดมิด ความโหยหากระตุ้นให้เขาค้นหาวินไปทั่วห้อง ไม่ว่าจะเป็นในห้องน้ำหรือห้องรับแขก แต่ธีร์กลับไม่พบร่องรอยใดๆ ของวินเลย ธีร์เหลือบมองเห็นเสื้อผ้าของวินที่หายไปจากพื้น นั่นทำให้ธีร์คาดเดาได้ว่าวินได้ออกไปจากห้องของเขาเสียแล้วธีร์รู้สึกร้อนใจเป็นอย่างยิ่ง เขารีบหยิบมือถือขึ้นมาและกดเบอร์โทรหาวินอย่างรวดเร็ว ความหวังที่จะได้ยินเสียงของวินทำให้เขารู้สึกตัวสั่น “กรุณาฝากข้อความหลังเสี
บทที่ 6 ดักพบวันใหม่มาถึงพร้อมกับแสงแดดยามเที่ยงที่ส่องผ่านม่านหน้าต่างเข้ามา ธีร์ปรือตาขึ้นจากแสงแดดที่ส่องแยงตาของเขา ธีร์ถึงกับยกมือขึ้นกุมขมับด้วยความปวดหัวอย่างหนักจากอาการเมาแฮงค์ที่เกิดขึ้น เมื่อคืนเขาดื่มเหล้าจนเมาหลับไปคาโซฟาด้านนอกเลยทีเดียว ธีร์ลุกขึ้นสะบัดตัวก่อนจะเดินตรงเข้าไปอาบน้ำเพื่อจัดการตัวเองสายน้ำเย็นที่ไหลผ่านทำให้ธีร์รู้สึกสดชื่นมากขึ้น เขาตั้งใจแล้วว่าวันนี้จะต้องพบวินอีกครั้งให้ได้ธีร์ยืนอยู่หน้าคอนโดของวิน ใจเต้นแรงด้วยความหวังและความกังวล ก่อนจะตัดสินใจเดินตรงเข้าไปในคอนโดของวินรปภ.ทักทายธีร์อย่างคุ้นเคย “คุณธีร์มาหาคุณวินเหรอครับ” เสียงรปภ.ทักทายธีร์อย่างเป็นเรื่องปกติในเมื่อธีร์มักจะมาหาวินอยู่เป็นประจำเสมอ ธีร์ได้แต่ยิ้มให้เบา ๆ ก่อนจะเดินตรงเข้าไปทันที ธีร์เดินมาถึงหน้าประตูห้อง เขากดกริ่งประตูก่อนจะยืนรอด้วยหัวใจเต้นแรง แต่ไม่ว่าธีร์จะกดกริ่งสักกี่ครั้ง ก็ไม่มีการตอบรับจากด้านในเลยสักนิด คงมีเพียงความเงียบที่ตอบกลับมาทำให้เขาถึงกับสีหน้าเคร่งเครียด ในขณะเดียวกัน วินที่นั่งอยู่ภายในห้อง หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสับสน เสียงกริ่งที่ดังต่อ
บทที่ 7 มาลาชั่วคราวธีร์ยังคงมาคอยดักพบวินที่คอนโดอยู่เป็นประจำ เขามักจะยืนรออยู่ตรงบริเวณลานจอดรถเนื่องจากเขาถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าไปภายในคอนโด แต่ทุกครั้งที่เขามา เขากลับต้องพบแต่ความผิดหวังอยู่เสมอ ในเมื่อวินได้แต่คอยหลบหน้าธีร์ในทุกครั้งไป ธีร์รู้สึกร้อนรนจนเขาแทบจะเป็นบ้า แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงไม่ยอมแพ้และเขาไม่มีทางยอมปล่อยวินให้หายออกไปจากชีวิตเป็นแน่วินที่เอาแต่คอยหลบหนีธีร์ในทุกครั้งที่ออกจากห้อง ทำให้เขาแทบจะเป็นบ้าตาย ความเครียดและความกังวลที่สะสมทำให้วินตัดสินใจไปเที่ยวที่บาร์ตามลำพัง คืนนี้เขาอยากปลดปล่อยความทุกข์และความกังวลใจที่เผชิญอยู่บรรยากาศในยามค่ำที่บาร์แห่งหนึ่งใจกลางเมืองคึกคักไปด้วยเสียงเพลงและเสียงหัวเราะของผู้คนที่มาพักผ่อน วินนั่งอยู่ที่บาร์โดยมีแก้วเหล้าในมือ เสียงเพลงในบาร์ดังกลบความคิดทุกอย่างของวินโดยสิ้นเชิง เขาดื่มด่ำกับช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ด้วยความรู้สึกโล่งสบายสาวสวยที่นั่งเก้าอี้ข้าง ๆ หันหน้ามาชวนวินพูดคุย สาวสวยที่ใส่เสื้อรัดรูปสีดำด้านหน้าผ่าเว้าจนเห็นเนินอกอวบ สายตาเย้ายวนชวนลุ่มหลงทำเอาวินถึงกับยิ้มกว้างออกมา วินยกแก้วเหล้าขึ้นชนกับหญิงส
บทที่ 8 สงบสุขอีกครั้งหลังจากวันนั้น วินใช้ชีวิตอย่างสบายใจมากขึ้น ธีร์หายหน้าไปจากชีวิตของวินชั่วคราว นั่นทำให้วินรู้สึกโล่งใจอย่างมาก เขาตัดสินใจขายคอนโดที่ตนอยู่และซื้อคอนโดใหม่ที่ตกแต่งพร้อมอยู่ในทันที ความตั้งใจของวินคือการลบล้างทุกความทรงจำที่มีธีร์ออกจากชีวิตเขา เขาย้ายเข้าคอนโดใหม่ภายในเวลาไม่กี่วัน แม้จะไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่นัก แต่เพื่อให้พ้นหน้าธีร์เสีย เขาจึงตัดสินใจซื้อโดยไม่ต่อรองราคาใด ๆ ทั้งสิ้นคอนโดใหม่ของวินตั้งอยู่ในย่านที่ไม่คุ้นเคยนัก วิวภายนอกก็ไม่สวยงามเหมือนเช่นที่เดิม แต่เมื่อเขาคิดถึงความสงบสุขที่ต้องการ เขากลับรู้สึกสบายใจมากกว่าเดิมเป็นไหน ๆ บรรยากาศในห้องเรียบง่ายและเงียบสงบ แต่ภายในใจของวินยังคงมีความว้าวุ่นที่ไม่อาจลบหายไปได้เสียทีในยามค่ำคืน วินออกไปเที่ยวแทบทุกวัน เสียงเพลงและผู้คนในที่เที่ยวทำให้เขาลืมเรื่องธีร์ได้บ้าง เขาเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่คึกคัก สาวสวยในสถานที่เที่ยวช่างดูค้นตา ทำให้เขารู้สึกได้กลับมาใช้ชีวิตเช่นดังเดิมเสียทีสาวสวยคนหนึ่งดึงดูดความสนใจของวินไม่ใช่น้อย ชุดสีแดงเพลิงที่เธอสวมใส่ขับเน้นผิวขาวให้ดูผุดผ่องมากยิ่งขึ้น ดวงหน้าเรียวร
บทที่ 9 ลงโทษธีร์เดินทางกลับมาถึงด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทางที่ยาวนาน ชัยชนะในการแข่งรถที่เขาได้รับกลับไม่ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นแต่อย่างใด เพราะทันทีที่เขาเหยียบพื้นดิน ความคิดถึงวินที่เขาพยายามเก็บกดมาโดยตลอดก็พุ่งเข้ามาในใจของเขาทันที ธีร์รีบขับรถตรงไปยังคอนโดของวิน เมื่อมาถึงธีร์จอดรถอย่างรีบร้อนและเดินตรงไปที่หน้าประตูคอนโด“คุณธีร์ครับ คุณวินย้ายออกไปแล้ว” รปภ.บอกเขาด้วยน้ำเสียงสุภาพธีร์ได้ฟังเช่นนั้น เขากำหมัดแน่น ฟันขบกัดกันจนแทบจะแตก ธีร์รู้สึกโกรธและโมโหที่วินพยายามหนีเขาไป เขากลับคอนโดของตัวเองด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่นเมื่อธีร์ล้มลงบนเตียงนอนอย่างหมดแรง ภาพของเขาและวินในค่ำคืนที่เร่าร้อนก็ผุดขึ้นมาในหัวของธีร์ไม่หยุดหย่อน เขาซุกหน้าลงบนเตียงนุ่ม มือใหญ่ปาดป่ายควานหาสัมผัสที่เลือนรางของวินอย่างคนละเมอ“วิน ฉันคิดถึงนายจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว” ธีร์พร่ำเพ้อออกมาอย่างรู้สึกเหนื่อยหัวใจธีร์ใช้เวลาไม่นานเขาก็สืบรู้ว่าวินพักอยู่ที่ไหน ธีร์ได้แต่กัดฟันกรอดอย่างขุ่นเคือง “นายคงไม่คิดจะหนีฉันไปทั้งชีวิตหรอกนะ” เขาบ่นพึมพำออกมา ก่อนจะขับรถตามวินที่ขับออกไปด้านนอกธีร์เฝ้ามองวินที่ยังคงด
บทที่ 43 บทส่งท้ายหลังเวลาผ่านไปสักพัก ธีร์ขยับกายหันมองไปที่แทน เขาเห็นแทนที่กำลังหลับสนิทไปแล้ว เขายกยิ้มขึ้นมาอย่างเจ้าเล่ห์ธีร์จึงค่อย ๆ ลุกขึ้นอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้แทนตื่น จากนั้นเขาจึงเดินไปสะกิดวินที่นอนอยู่ข้าง ๆ วินปรือตาขึ้นมาอย่างงัวเงียและมองธีร์อย่างมีคำถาม ธีร์รีบชี้ไปที่ห้องน้ำเป็นสัญญาณ วินถึงกับเบิกตากว้าง"ธีร์ นายนี่มันจริง ๆ เลยนะ" วินพูดด้วยน้ำเสียงเอือมระอากับความหื่นที่มากเกินคนปกติทั่วไปของธีร์ธีร์ยิ้มแหย ๆ ก่อนจะกระซิบด้วยน้ำเสียงออดอ้อน "วิน...นายช่วยฉันหน่อย...เมื่อกี้ฉันยังไม่เสร็จเลย" สายตาของธีร์เต็มไปด้วยความอ้อนวอนวินมองค้อนธีร์ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้น เขายังไม่ลืมเหลือบมามองแทนที่ยังคงหลับอยู่อย่างนั้น วินค่อยรู้สึกโล่งใจ ก่อนจะยอมลุกขึ้นเดินตามธีร์เข้าไปในห้องน้ำแต่โดยดี แม้เขาจะไม่ค่อยเห็นด้วยนัก แต่เขาก็ไม่อาจปฏิเสธความต้องการที่มีของพวกเขาได้ ในใจลึก ๆ ของวินก็อดรู้สึกตื่นเต้นและวาบไหวไปด้วยเช่นกันภายในห้องน้ำแสงสลัวจากไฟที่หรี่ลงทำให้บรรยากาศดูโรแมนติกและน่าหลงใหล ธีร์ดึงวินเข้ามาในอ้อมแขนอย่างแนบชิด ริมฝีปากของเขาประกบลงบนริมฝีปากของวินอย่า
บทที่ 42 วันใหม่งานศพจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย บรรยากาศในงานศพเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความ คนที่มาร่วมงานต่างร่วมแสดงความเสียใจและให้กำลังใจธีร์และแทนธีร์ยืนอยู่ข้างๆ โลงศพของแม่ เขารู้สึกถึงความรับผิดชอบที่แม่ฝากฝังให้ดูแลแทน ธีร์จับมือแทนแน่น แทนกำลังเสียใจอย่างหนักเขาน้ำตาไหลอาบแก้มไม่หยุด"แม่ ผมสัญญาว่าจะดูแลแทนเพื่อแม่เป็นอย่างดี ผมจะไม่ทำให้แม่ผิดหวัง" ธีร์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือวินยืนอยู่ข้างๆ ธีร์ เขาวางมือบนไหล่ของธีร์ "ฉันจะอยู่ข้างนายเสมอ”ธีร์เบนหน้าเข้าซบอกของวิน พร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ความอ่อนแอภายในใจพรั่งพรูออกมาเมื่อได้สัมผัสความอบอุ่นของวิน วินเป็นเหมือนกันพื้นที่ปลอดภัยของเขา ที่เขาจะสามารถระบายและปลดปล่อยความรู้สึกต่าง ๆ ออกมาได้โดยไม่ต้องระแวดระวังสิ่งใดหลังจากงานศพ ธีร์ก็พาแทนย้ายมาอยู่ด้วยกัน โดยจัดให้แทนนอนแยกออกไปที่ห้องนอนห้องหนึ่ง ส่วนเขากับวินยังคงนอนห้องเดิม ธีร์ทำหน้าที่พี่ชายของแทนเป็นอย่างดี เขาจัดการทุกอย่างให้แทนอย่างเรียบร้อย แทนเองก็ค่อย ๆ หายจากความโศกเศร้าลง อีกทั้งเมื่อได้อยู่ร่วมกับธีร์และวินที่ต่างมอบความรักให้เขาอย่างเต็มที่
บทที่ 41 ข่าวร้ายวินนั่งมองหน้าธีร์อย่างจริงจัง สองมือกุมมือธีร์ไว้แน่น วินพยายามจะทำความเข้าใจกับธีร์ ทั้งความรู้สึกของเขาและเรื่องการทำงานของเขา“ธีร์ เรามีเรื่องต้องคุยกัน” น้ำเสียงจริงจังของวินทำเอาธีร์ถึงกับนิ่งเงียบ เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่อย่างคนกำลังรู้สึกผิด"ธีร์ ตอนนี้พวกเราคบกันแล้ว และฉันก็ต้องการจริงจังกับความสัมพันธ์นี้ แต่ว่าถ้าพวกเรายังคงต้องคอยมาทะเลาะกันทุกวัน ฉันไม่คิดว่าพวกเราจะไปกันรอด” วินพูดความคิดของเขาออกไป ธีร์ได้แต่มองหน้าวินนิ่ง“ถ้าเราจะใช้ชีวิตร่วมกัน ฉันอยากให้นายมั่นใจและเชื่อใจฉันมากกว่านี้" วินยังคงพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่เต็มไปด้วยความจริงจังวินเลื่อนมือมาลูบไล้ที่แก้มของธีร์ พลางมองเข้าไปในดวงตาของเขา "ฉันรู้ว่าบางครั้งฉันจริงจังกับงานมากเกินไปจนทำให้นายรู้สึกน้อยใจ แต่ว่าความรู้สึกของฉันไม่เคยเปลี่ยน และฉันยังคงเป็นของนายคนเดียวเท่านั้น"ธีร์ก้มหน้าอย่างกับเด็กที่กำลังถูกตำหนิ น้ำเสียงของวินทำให้เขารู้สึกละอายใจ "ฉันรู้ ฉันยอมรับว่าช่วงนี้ฉันเองก็ทำตัวงี่เง่ามากเกินไป" ธีร์ตอบเบา ๆ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสำนึกผิดวินลูบผมธีร์ไปมาอย่างเอ็นดู “ง
บทที่ 40 ง้อวินกลับมาถึงห้องตอนดึก ภายในห้องเงียบสงบ วินเดินหาธีร์จนพบว่าธีร์นอนอยู่ในห้องนอนเรียบร้อยแล้ว เขาเลยเดินตรงเข้าไปอาบน้ำ วินได้แต่คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างมากที่ธีร์มีท่าทีแบบนี้ เขาเลยตัดสินใจว่าจะต้องทำความเข้าใจกับธีร์เสียใหม่วินออกมาจากห้องน้ำ เห็นธีร์นอนหันหลังให้ก็อดขำไม่ได้ ทำไมผู้ชายตัวใหญ่แต่ใจกลับเล็กเป็นปลาซิวแบบนี้กัน วินทรุดตัวลงบนเตียงก่อนจะโน้มตัวยื่นหน้าไปมองธีร์ ที่ยังคงหลับตา วินรู้ว่าธีร์ยังไม่หลับแต่คงงอนเขาน่าดู วินก้มคางลงมาเกยหัวไหล่ของธีร์อย่างเอาใจ"ธีร์ ยังไม่หลับใช่ไหม" วินกระซิบเสียงนุ่มใกล้หู ธีร์ยังคงนิ่งเงียบอยู่อย่างนั้นวินจึงเอ่ยกระเซ้า "ถ้านายไม่ตอบ ฉันจะลักหลับนายแล้วนะ" วินพูดพร้อมใช้ลิ้นเลียติ่งหูธีร์ไปมา ธีร์ถึงกับขนลุก เขาหันหน้ามาเผชิญหน้ากับวินด้วยใบหน้าหงิกงอ"นายมีอะไร" ธีร์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจวินยิ้มตาหยีใส่ธีร์ "โกรธฉันเหรอ โกรธเรื่องอะไรไหนบอกสิ" วินกล่าวเนิบนาบ คางถูไถไปมาอย่างแมวน้อยอ้อนเจ้าของธีร์ทำเสียงฮึดฮัดอย่างไม่สบอารมณ์ วินทำท่าทางถอนหายใจก่อนจะบ่นออกมา "ถ้านายไม่คุยกับฉัน งั้นฉันนอ
บทที่ 39 แง่งอนหลังจากเรื่องต่าง ๆ คลี่คลายลง วินก็เอาแต่วุ่นอยู่กับโปรเจกต์ในมือ เขาตื่นแต่เช้าและกลับห้องดึกแทบทุกวัน ธีร์เริ่มรู้สึกหงุดหงิดที่วินไม่ค่อยสนใจเขา ธีร์เริ่มแสดงท่าทีน้อยใจใส่วินบ่อย ๆ วินเองที่เหนื่อยจากงานเมื่อเจอท่าทางของธีร์เช่นนี้เขาก็ยิ่งอ่อนใจธีร์เริ่มไปนั่งเฝ้าวินที่บริษัทมากขึ้น แต่เขาก็ได้แต่นั่งแกร่วอยู่คนเดียว ในเมื่อวินเอาแต่ประชุมหรือไม่ก็นั่งอ่านกองเอกสารที่แทบจะล้นโต๊ะเช้าวันหนึ่งวินต้องออกไปดูแลกองถ่าย ธีร์ก็ยังคงติดตามไปด้วย ท่าทางของวินที่ดูสนิทสนมกับทุกคน แถมยังทำตัวเอาอกเอาใจใครต่อใครไปทั่วกองถ่ายอีก ทำเอาธีร์ถึงกับควันออกหู ธีร์หึงวินจนเขาแอบดึงวินเข้ามาในห้องก่อนจะล็อกประตู"ธีร์ นี่นายทำอะไร" วินร้องออกมาด้วยความตกใจธีร์มีสีหน้าเคร่งขรึม เขาจับมือของวินไพล่หลังเอาไว้ ก่อนจะดันวินไปจนชิดกำแพง “นายทำฉันหงุดหงิด”ธีร์พูดจบก็ก้มลงซุกไซ้ตามลำคอของวิน พร้อมขบกัดด้วยความฉุนเฉียว มือข้างหนึ่งค่อย ๆ ดึงชายเสื้อขึ้นจากกางเกงก่อนจะสอดมือเข้าไปลูบไล้แผ่นอก มือหนาบีบเคล้นเอวอย่างหนัก“ธีร์ นายหยุดเดี๋ยวนี้นะ” วินร้องโวยวายออกมาเมื่อธีร์เริ่มทำเรื่องน่าอา
บทที่ 38 ข่าวใหญ่หลังจากวินตกลงคบกับธีร์ ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นมาก ทว่าธีร์กลับแสดงความเอาแต่ใจและแสดงความเป็นเจ้าของจนวินต้องคอยดุอยู่บ่อยครั้ง ช่วงหลังนี้ วินต้องวิ่งวุ่นออกไปทำงานแต่เช้า เนื่องจากมีโปรเจกต์สำคัญในมือหลายตัวเมื่อวินออกจากห้อง ธีร์ก็มักจะแต่งตัวออกจากห้องไปเช่นกัน แต่ธีร์ก็จะกลับมาถึงห้องก่อนวินเสมอ ทำให้วินไม่ค่อยสงสัยอะไร จนกระทั่งวันหนึ่ง เมื่อวินกลับมาและพบว่าภายในห้องว่างเปล่า วินถึงกับแปลกใจที่ธีร์ไม่อยู่ห้อง เพราะปกติธีร์จะไม่ค่อยออกไปข้างนอก แถมเป็นการออกไปโดยที่ไม่โทรบอกเขาอีกต่างหากวินหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาธีร์ แต่ธีร์กลับไม่รับสาย ความสงสัยเริ่มก่อตัวในใจของวิน วินลงไปด้านล่างเพื่อสอบถามรปภ. และได้รับข้อมูลว่าช่วงนี้ธีร์ออกจากห้องแทบทุกวัน นั่นยิ่งทำให้วินรู้สึกถึงความผิดปกติที่มีเมื่อวินกลับมาที่ห้อง สักพักธีร์ก็เปิดประตูเข้ามาด้วยท่าทางอิดโรย แต่พอเขาเห็นวิน ธีร์ก็ชะงักไปนิดหนึ่ง ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเดินเข้ามาออดอ้อนวินเช่นเคย"วิน นายกลับมาแล้วเหรอ" ธีร์กล่าวด้วยเสียงนุ่มนวล ขณะที่เดินเข้ามาหาวิน ธีร์พยายามทำตัวให้เป็นปกติ เขาโอ
บทที่ 37 อ้อนวอนฉันสิค่ำคืนนั้น แสงจันทร์ที่สาดส่องกระทบเข้ามาผ่านม่านหน้าต่าง ทำให้บรรยากาศรอบข้างยิ่งดูอบอุ่นและโรแมนติกยิ่งนักเงาร่างของคนทั้งสองที่เปลือยเปล่าทาบทับกันไปมา “วิน...คืนนี้ฉันตามใจนายทุกอย่าง” เสียงหอบถี่ของธีร์ดังขึ้นอย่างอ่อนโยน เขานอนแผ่หลาโดยยอมให้วินขึ้นคร่อมและเป็นฝ่ายควบคุมวินยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ดวงตาสบตาธีร์ที่มีแววหวานฉ่ำ "นายแน่ใจนะ ธีร์" วินถามด้วยน้ำเสียงทุ้มพลางลูบไล้ไปตามร่างกายของธีร์อย่างอ่อนโยน แต่แฝงได้ด้วยความยั่วเย้าอยู่ในที"แน่ใจสิ...คืนนี้ฉันให้นายเป็นฝ่ายควบคุม" ธีร์ตอบพร้อมกับหลับตาพริ้ม ปล่อยให้ความรู้สึกนำพาไปตามที่วินต้องการวินจับมือทั้งสองข้างของธีร์ยกขึ้นเหนือหัว “งั้นคืนนี้นายไม่มีสิทธิ์” วินกระซิบบอกธีร์อย่างเอาแต่ใจ ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ ก้มลงจูบที่ริมฝีปากของธีร์อย่างนุ่มนวล ก่อนจะค่อย ๆ แทรกลิ้นเข้าไปในปากของธีร์ สัมผัสที่ร้อนแรงทำให้ธีร์ครางออกมาอย่างอดไม่อยู่ วินกดจูบหนักขึ้น สลับกับการจูบเบา ๆ ที่ทำให้ธีร์สั่นสะท้านไปทั้งร่างมือของวินลูบไล้ไปตามแผงอกของธีร์ มือของวินหมุนวนเขี่ยไปที่ตุ่มไตที่แข็งชันก่อนจะตามด้วยลิ้นร้อนที่เลียไล้ห
บทที่ 36 ฉันไม่ให้นายเปลี่ยนใจหลังจากวันนั้น ความสัมพันธ์ของธีร์และครอบครัวก็ดีขึ้นอย่างมาก วินมักจะคะยั้นคะยอชวนธีร์ไปบ้านของแม่ธีร์อยู่เสมอ แม้ธีร์จะตั้งท่าหงุดหงิดและขัดใจไปเสียทุกครั้ง แต่วินก็รู้ดีว่าธีร์นั้นก็อยากไปเช่นกัน เขาจึงไม่สนท่าทีที่ปากไม่ตรงกับใจของธีร์ แล้วทำการบังคับแกมข่มขู่เขาไปเสียทุกครั้งสำหรับแทนนั้น เขาเป็นเด็กฉลาดมากคนหนึ่ง เขาช่างพูด ช่างเจรจา เรื่องยกยอคนอื่นนี่ยกให้เป็นที่หนึ่ง แทนค่อนข้างติดพี่ชายอย่างธีร์และวินมาก เรียกได้ว่าเห่อพี่ชายเสียยิ่งกว่าอะไร แทนจึงเป็นเหมือนกาวที่ช่วยประสานความสัมพันธ์ระหว่างธีร์และแม่ให้ดีมากขึ้น“แม่ ๆ ถ้าแทนโตขึ้น แทนอยากหล่อเท่เหมือนพี่ธีร์ แล้วก็อยากคุยสนุกเหมือนพี่วินด้วย” เสียงเจื้อยแจ้วของแทนดังขึ้นมา เขายกมือถือขึ้นพร้อมชูรูปที่แทนถ่ายกับธีร์และวินให้แม่ดู “ตอนแทนเอารูปพี่ธีร์กับพี่วินไปอวดเพื่อน ๆ มีแต่คนอิจฉาแทนกันใหญ่ บอกว่าพี่ธีร์หล่อเหมือนเทพบุตร แถมยังขับรถเก่งอีกต่างหาก” แทนพยักพเยิดบอกกับแม่ พร้อมเข้าไปกอดธีร์ไว้แน่นอย่างกับเด็กน้อยที่ต้องการประจบเอาใจ ทำเอาทั้งธีร์และวินถึงกับยิ้มตามไปด้วยอีกคน"ปากหวานแต่เด
บทที่ 35 เผชิญหน้าตอนบ่ายแก่ ๆ วินปรือตาตื่นขึ้นมาอย่างคนหมดแรง ร่างกายปวดระบมไปหมดทั้งตัว โดยเฉพาะส่วนล่างที่ยังปวดเกร็งไปหมด ตามเนื้อตัวมีแต่รอยจุด จ้ำแดง จ้ำเขียว ไปทั่วแผ่นอก วินลืมตามองเพดานอย่างเหนื่อยอ่อน รางวัลที่เขามอบให้ธีร์ไม่ต่างอะไรกับบทลงโทษอันแสนโหดร้ายของเขา เขาได้แต่นึกเจ็บใจที่ความหวังดีของเขากลายเป็นฝันร้าย แต่ที่น่าเจ็บใจยิ่งกว่าก็คือบทรักอันเร่าร้อนที่ธีร์มอบให้กลับทำให้เขารู้สึกสุขสมไปในคราวเดียวกันวินได้แต่สะบัดหน้าไล่ความคิดฟุ้งซ่านจากหัวสมอง เขาพยุงตัวลุกขึ้นไปจัดการตัวเองอย่างรวดเร็ว เสียงท้องร้องประท้วงออกมาว่าตอนนี้เขาหิวจนแทบจะกินช้างได้ทั้งตัวแล้ววินเดินออกมานอกห้อง เห็นธีร์นั่งอ่านหนังสือเงียบ ๆ ท่าทางอารมณ์ดีของเขาทำให้วินนึกหมั่นไส้อยากจะหยิบแจกันเขวี้ยงใส่หน้าสักทีสองที"ให้ตายเถอะ ยังมาทำหน้าระรื่นอยู่อีก" วินสบถเบา ๆ ออกมาอย่างหงุดหงิดธีร์ปรายตาขึ้นมามองวิน ก่อนจะลุกขึ้นยิ้มกว้างอย่างเจ้าเล่ห์ เขาเดินตรงเข้าหาวินทันที ก่อนจะโน้มตัวกระซิบวินออกไป "รางวัลที่ให้ ฉันชอบมาก"วินถึงกับหน้าเขียวปั๊ด เขาง้างหมัดขึ้นเตรียมจะชกหน้าธีร์แรง ๆ สักหมัด ธีร์ถึ