หน้าหลัก / วาย / คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ / ตอนที่4.เข้าใจคุณชายผิดไป

แชร์

ตอนที่4.เข้าใจคุณชายผิดไป

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-02 22:12:12

“มนุษย์ ตาข่ายกลคงเกิดปัญหาขึ้น จึงทำให้เขาติดตาข่ายได้ พวกเจ้าเดินทางล่วงหน้าไปก่อนเถิด แล้วพบกันที่เจียงหนาน”

“ขอรับ” เจ้าหน้าละอ่อนทั้งสามประสานมือคารวะนอบน้อม ก่อนมู่เฉินจะหันมาคารวะผู้ที่เขาเข้าใจว่าเป็นปีศาจ

“ข้ากับสหายต้องขอโทษด้วย ที่เข้าใจคุณชายผิดไป”

“ข้าด้วย”

“ข้าด้วย” เห็นมู่เฉินแสดงกิริยานอบน้อม ทั้งซานไป๋และจิวยี่ก็ต่างแสดงการคารวะตาม 

เจ้ามู่เฉินก็ดูสุภาพ จริงใจดีอยู่หรอก แต่เจ้าซานไป๋กับจิวยี่นี่สิ เพียงทำไปเพราะอยู่ต่อหน้าอาจารย์หรอก 

มองปราดเดียว อู๋เหริ่นชวนก็เห็นไปถึงใจของศิษย์เซียนทั้งคู่แล้ว

“ไม่เป็นไร ข้าไม่ถือสาหรอก” อู๋เหริ่นชวนเอ่ยตามที่คิดจริงๆ ไม่แน่หรอก ที่เขาเดินมาติดตาข่ายดักปีศาจนี่ได้ อาจเพราะเขาเป็นบุตรประมุขพรรคมาร มีไอมรณะแผ่ออกมาจากตัวก็ได้ 

บอกตนเองแล้ว ประมุขน้อยหนุ่มก็นั่งลงตรงใต้ต้นไม้นั่นเอง รอกระทั่งบรรดาศิษย์ทั้งสามของบุรุษหนุ่มผู้นั้นจากไปแล้ว จึงเอ่ยถามเขาว่า

“ท่านรู้แล้วนี่ว่า ข้าเป็นมาร เหตุใดจึงไม่บอกศิษย์ของท่านไปล่ะ” 

“ที่เจ้าออกเดินทางมาตามลำพังเช่นนี้ เพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่า ตนเองเป็นใครไม่ใช่หรือ” 

“ก็จริง” อู๋เหริ่นชวนพยักหน้าเห็นด้วย แสงแดดยามสาย สะท้อนเข้าตา พาให้ดวงตาทั้งคู่พร่าพราย แลเห็นบุรุษหนุ่มงามสง่าตรงหน้า เป็นใครอีกคนที่หน้าตาละม้ายคล้ายบุรุษรูปงามผู้นี้ แต่ที่ต่างไปคือ ชายผู้นั้น สามารถเรียกกู่ฉินออกมาจากมือทั้งสองข้างได้ 

ไม่เพียงเท่านั้น เพียงแค่นิ้วมือเรียวกรีดลงบนเส้นสายทั้ง 7 กลับให้ท่วงทำนองเร่งเร้า เสียดลึกไปถึงขั้วหัวใจ จนประมุขน้อยหนุ่มสัมผัสได้ถึงความเจ็บร้าวในช่องอกข้างซ้าย จนต้องยกมือขึ้นกุมหน้าอกข้างนั้นเอาไว้ 

“เป็นอะไรไป” 

ยิ่งบุรุษหนุ่มผู้นั้น เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเจือความห่วงใย   อู๋เหริ่นชวนกลับแลเห็นประกายความชิงชัง ฉายอยู่ในดวงตาดำสนิทคู่นั้น 

ประมุขน้อยหนุ่มไม่รอช้า หยัดกายลุกขึ้นได้ ก็ออกวิ่งจากที่ตรงนั้นมาอย่างไม่คิดชีวิต ทั้งที่ห้วงคำนึงยังคงมีภาพบุรุษหนุ่มผู้นั้น ซัดพลังจากกู๋ฉินเข้ามา เกิดเป็นลำแสงสีฟ้าทั้ง 7 สาย พุ่งเข้ากลางหัวใจเขา 

“...มารร้ายเช่นเจ้า อย่าได้มีชีวิตอยู่เลย ตายซะเถอะ…” น้ำเสียงห้วนห้าวตวาดก้อง คล้ายดังอยู่ข้างหูนี่เอง ขณะสองเท้าก้าวเร่งรวดเร็ว ไม่สนใจเลยว่า เสื้อผ้าที่สวมใส่จะถูกกิ่งไม้หนามระหว่างทาง เกี่ยวจนขาดวิ่น

แต่แล้ว เท้าทั้งสองก็พลันหยุดนิ่ง ตรึงอยู่กับที่ มิอาจก้าวไปข้างหน้าได้ดังใจ เพียงแค่ถูกบุรุษหนุ่มผู้นั้นร่ายคาถาใส่ 

“ปล่อยข้า” ยามนี้ คงมีเพียงปากเท่านั้น ที่ยังขยับได้ 

“เหตุใดต้องวิ่งหนีข้า ข้าไม่ได้คิดจะทำร้ายเจ้าสักหน่อย” 

“แต่ข้าเห็นกับตาว่า เจ้ากำลังจะทำร้ายข้านี่” เถียงข้างๆ คูๆ ออกไปแล้ว อู๋เหริ่นชวนก็ไม่แน่ใจว่า สิ่งที่เห็นเกิดขึ้นจริง หรือแค่ภาพลวงตา

“เจ้ากับข้า ไม่มีความแค้นต่อกัน เหตุใดข้าต้องทำร้ายเจ้าด้วยเล่า อีกอย่าง ข้าเองก็ไม่รู้แม้แต่ชื่อเจ้า เจ้าเองก็ไม่รู้จักข้า ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องทำร้ายกัน”

“จริงด้วย” อู่เหริ่นชวนนึกคล้อยตาม จริงอย่างที่เขาพูดนั่นละ เขาคิดไปได้อย่างไรกันนะว่า ตนเองกำลังจะถูกเขาทำร้าย 

“เจ้าคงเป็น ประมุขน้อย อู๋เหริ่นชวนแห่งเคหาสน์พันดาวใช่หรือไม่”

อู่เหริ่นชวนพยักหน้ารับ ในเมื่อบุรุษหนุ่มผู้นี้ใช้พลังเวทย์อ่านความทรงจำของเขาไปแล้ว ก็คงรู้ทุกอย่างสิ้นแล้ว ไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไรอีก 

“แล้วท่านล่ะ เป็นใคร”

“หลัวเซียน แห่งตำหนักฉางชุน เขาเซียนกู่”

“ที่แท้ก็พวกเซียนนี่เอง มิน่าถึงได้เที่ยววางตาข่ายดักปีศาจซะทั่วป่า” 

“ข้าต้องขออภัยแทนศิษย์ของข้าอีกครั้งด้วย พวกเขากำลังตามล่าปีศาจจงอางอยู่” 

“งั้นหรือ” อู๋เหริ่นชวนเสมองไปทางอื่น ไม่รู้ทำไมจึงรู้สึกไม่ชอบขี้หน้าพวกเผ่าเซียนขึ้นมาครามครัน โดยเฉพาะคนวางท่างามสง่าเป็นหนักหนาตรงหน้า เห็นแล้ว ขวางหูขวางตาชะมัด 

“หากไม่มีธุระอะไรแล้ว ก็ปล่อยข้าได้แล้ว” 

หลัวเซียนพยักหน้ารับ วาดฝ่ามือในอากาศ ร่ายคาถาครู่เดียว ร่างกายอู๋เหริ่นชวนก็กลับมาเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง

“ข้าลาล่ะ หวังว่า เราจะไม่ต้องพบกันอีก” ประมุขน้อยหนุ่มยิ้มยียวน หากยังไม่ทันจะได้ก้าวเท้าออกไป ก็ต้องหยุดกึก เมื่อได้ยินเสียงเคลื่อนไหวแหวกอากาศใกล้เข้ามา ตามมาด้วยชายชุดดำกลุ่มหนึ่ง สวมหมวกไหมพรมรูปหน้าหัวกะโหลกสีขาว เหินกายด้วยวิชาตัวเบาใกล้เข้ามา 

เพียงได้ระยะพอสมควร ชายชุดดำกลุ่มนั้นก็ชักกระบี่ออกจากฝัก กระบี่คมวับยามต้องแสงตะวัน พาให้อู๋เหริ่นชวนหวาดกลัวจนก้าวขาไม่ออกเสียอย่างนั้น 

“หนีไป!” หลัวเซียนออกคำสั่งเฉียบขาด หยิบพัดจากกระเป๋าเสื้อออกมาสะบัด ซัดออกไป พัดนั้นก็พุ่งไปในอากาศดุจอาวุธคมกริบ เข้าทำร้ายชายชุดดำกลุ่มนั้นล้มลง พร้อมกับเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด 

แต่แทนที่พวกเขาจะล่าถอย กลับลุกขึ้นมา พร้อมกับละไอพิษสีเขียวเจิดจ้า พุ่งออกมาจากส่วนที่ถูกพัดเวทย์ทำร้าย ทั้งลำตัว แขนทั้งสองข้าง

แม้อู๋เหริ่นชวนจะไม่มีวรยุทธ ไร้ซึ่งเคล็ดวิชาใดป้องกันตนเอง แต่ก็อ่านตำราทั้งหอคัมภีร์มาหมดแล้ว เพียงแค่เห็นก็นึกรู้ในทันทีว่า สิ่งที่เห็นคืออะไร

“มนุษย์พิษ! หนีเร็ว!” 

หลัวเซียนเองก็คงรู้เช่นกัน จึงเข้ามาโอบเอวประมุขน้อยหนุ่มไว้ แล้วพาเหินกายหนีมาด้วยกัน 

สองบุรุษเหินกายลัดเลาะมาตามแนวป่ารกครึ้ม จนแทบมองไม่เห็นแสงตะวันส่องผ่านใบไม้ลงมา ขณะที่กลุ่มมนุษย์พิษเหินกายตามมาอย่างไม่ลดละ

“พวกมันตามมาแล้ว” ประมุขน้อยหนุ่มหันมองไปเบื้องหลังด้วยความหวาดหวั่น 

ฉับพลันหลัวเซียนก็พาเขาพลิ้วกายลงกลางป่า มีโพรงถ้ำเล็กๆ ตั้งอยู่ไม่ไกล 

“เข้าไปหลบในนั้นก่อน ทางนี้ข้าจัดการเอง” 

อู๋เหริ่นชวนจึงต้องรักษาตัวรอดไว้ก่อน วิ่งเข้าไปในถ้ำ 

น่าแปลกที่พวกมนุษย์พิษกลับไม่ได้สนใจว่าเขาจะหนีไปไหนอีก ดูเหมือนเป้าหมายของพวกมันจะมีเพียงหลัวเซียนคนเดียวเท่านั้น 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่5. หนีตายไปกับเขา

    “เฮ้อ… ข้าไม่น่าติดร่างแหมากับเขาเลย ซวยชะมัด” ประมุขน้อยหนุ่มบ่น มองผ่านปากถ้ำออกไป แลเห็นหลัวเซียนผู้นั้น เรียกกู่ฉินออกมา ดีดบรรเลงเพียงไม่กี่ช่องเสียง ก่อนจะซัดพลังเวทย์จากสายฉินทั้ง 7 เข้าใส่ เพียงลำแสงพลังเวทย์จากสายฉินพุ่งเข้าใส่ มนุษย์พิษกลุ่มนั้นก็สลายกลายเป็นเถ้าทุลีไปในพริบตา แต่แล้ว อู๋เหริ่นชวนก็ต้องละความสนใจจากภาพตรงหน้าอย่างรวดเร็ว เมื่อได้ยินเสียงขู่ฟ่อ ดังมาจากเบื้องหลัง หันไปมองตามเสียง จึงแลเห็นจงอางตัวใหญ่ ศีรษะกลมมน เกล็ดบริเวณส่วนหัวใหญ่ มีเขี้ยว 2 เขี้ยวที่ขากรรไกรด้านบน พร้อมจะฉกกัดปล่อยพิษเข้าใส่เหยื่อ หน้าตาดุดัน จมูกทู่ บริเวณขอบตาบนมีเกล็ดยื่นงองุ้มออกมา มองลึกเข้าไปแลเห็นม่านตากลม ลำคอมีขนาดสมส่วน ลำตัวขนาดใหญ่เรียวยาว ขนาดเท่าลำตาล กำลังเคลื่อนใกล้เข้ามา ก่อนชูคอแผ่แม่เบี้ย ลิ้นสองแฉกแลบแผลบ ชวนให้ขยะแขยง จนต้องถอยกรูดออกมาทางปากถ้ำ แต่ก็ยังช้ากว่างูจงอางยักษ์ตัวนั้นอยู่ดี มันอ้าปากกว้าง แลเห็นเขี้ยวทั้งสองตรงขากรรไกรบนขาววับ เสียงขู่คำรามนั้น ไม่ต่างอะไรจากปีศาจร้าย ประมุขน้อยหนุ่มสัมผัสได้ถึงก้อนเนื้อในช่องอกโลดแรง จมูกสัมผัสกลิ่นฉุนรุนแรงจากละไอพิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-02
  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่6. ไปไกลๆ

    เพียงไล้ผ้าเช็ดหน้าไปบนดวงหน้าคมคายหมดจด ความยินดีราวได้พบสิ่งของที่เคยทำหล่นหาย ก็แล่นปราดไปทั้งใจ เหตุใดเพียงพบพาลประมุขน้อยหนุ่มแห่งพรรคมารโลหิตผู้นี้ไม่กี่ชั่วยาม จึงทำให้หัวใจอันเหน็บหนาวมาเนิ่นนาน กลับอุ่นซ่านได้เช่นนี้นะ หลัวเซียนถามตนเอง ชักมือกลับรวดเร็ว เมื่ออู๋เหริ่นชวนไอเบาๆ แล้วปรือตาขึ้นช้าๆ แพขนตากระพือขึ้นนั้น คล้ายปีกผีเสื้อกำลังขยับบิน “เป็นไงบ้าง” แทนที่จะตอบคำถาม ประมุขน้อยหนุ่มกลับผุดลุกขึ้น กวาดสายตาไปรอบๆ “ท่านพาข้าออกมาจากป่านั่นหรือ”หลัวเซียนพยักหน้ารับ“ข้าเห็นเจ้าหมดสติ จึงพาออกมา” “ข้าคงไม่ขอบใจท่านหรอกนะ เพราะท่านทำให้ข้าเกือบเอาชีวิตไม่รอด”“เรื่องมนุษย์พิษกับเรื่องงูนั่น ข้าขออภัยด้วย ที่เป็นต้นเหตุให้เจ้าเกือบได้รับอันตราย” หลัวเซียนมองประมุขน้อยหนุ่มด้วยประกายตาอ่อนโยน ทว่าอู๋เหริ่นชวนกลับทำเป็นมองไม่เห็นแววตาคู่นั้น “หลัวเซียน ท่านช่างมีมารยาทงามซะจริงนะ พาผู้อื่นไปเสี่ยงตาย แต่กลับพูดได้เพียงคำว่าขอโทษ”“แล้วเจ้าจะให้ข้าทำอย่างไร” เห็นคนอายุน้อยกว่าพูดจาล่วงเกินไร้ซึ่งมารยาทเช่นนี้ หลัวเซียนก็นึกฉุนขึ้นมาบ้าง ดูเถอะ… เขาอุตส่าห์พาประมุขน้อย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-09
  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่7.พลังปราณมารน้อย

    “กินช้าๆ ก็ได้ ไม่มีผู้ใดแย่งเจ้ากินหรอก”“ก็มันอร่อยนี่นา” ประมุขน้อยหนุ่มว่า ทั้งยังเคี้ยวเนื้อกระต่ายป่าไว้เต็มปาก “ท่านไม่กินรึไง”“เจ้ากินก่อนเถอะ” หลัวเซียนพลิกกลับไม้เสียบกระต่ายย่าง ให้ด้านที่ยังไม่สุกโดนความร้อนจากกองไฟ“คนเผ่าเซียนนี่ วางท่าสง่างามเหมือนท่านทุกคนเลยหรือเปล่า”“ยังไง ที่ว่าวางท่า” หลัวเซียนย่นหัวคิ้ว มองปราดเดียวก็รู้ว่า ประมุขน้อยหนุ่มผู้นี้ คงมีอคติกับคนเผ่าเซียนอยู่ไม่น้อยเลยขณะที่อู๋เหริ่นชวนนิ่งคิดครู่หนึ่ง ก่อนตอบ“ก็เวลานั่ง ยืน เดิน ก็ต้องตัวตรง เชิดหน้าขึ้น แสดงกิริยานุ่มนิ่ม เหมือนอะไรดีล่ะ อ้อ เหมือนพญาหงส์ไง”“นั่น เป็นกิริยาส่วนตัวของข้าอยู่แล้ว ท่านแม่สอนให้ข้าวางกิริยาเช่นนี้มาตั้งแต่เล็ก เพื่อจะได้เป็นประมุขเผ่าเซียนที่สง่างาม แล้วเจ้าล่ะ ไม่อยากเป็นประมุขเผ่ามารที่งามสง่าบ้างหรือ” อู๋เหริ่นชวนส่ายหน้าแทนคำตอบ“ข้าน่ะหรือ จะได้เป็นประมุขเผ่ามาร ท่านก็เห็นนี่ว่า ข้าก็แค่คนอ่อนแอ ไร้ประโยชน์คนหนึ่ง แม้ใครๆ จะเรียกข้าว่าประมุขน้อย ก็คงเพราะข้าเป็นบุตรของท่านพ่อเท่านั้น ส่วนเรื่องที่ว่าใครจะก้าวขึ้นมาเป็นประมุขคนต่อไป ก็คงต้องรอการเลือกสรรขึ้นม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-09
  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่8.จะอยู่อย่างไร

    “ข้าคิดว่า คงเป็นอย่างที่ท่านเหยียนเจียทำนายไว้จริงๆ ลูกของเรามีพลังปราณมารของท่านจอมมารอู๋เซียงอี๋อยู่ในกายจริงๆ แม้ไม่ต้องฝึกวิชาใด ก็มีพลังปราณแก่กล้า แต่ยามนี้ ลูกของเรายังเล็กนัก ไม่สามารถควบคุมพลังปราณที่มีได้เลย ข้าได้ทุ่มเทพลังปราณทั้งหมดปิดผนึกพลังวิญญาณและพลังปราณของลูกไว้แล้ว”“แล้วเจ้าเล่าฮูหยิน เมื่อไม่มีพลังปราณแล้วเช่นนี้ เจ้ามิต้องตายหรือ แล้วข้าเล่า จะอยู่อย่างไร” ประมุขพรรคมารกอดกระชับร่างฮูหยินไว้ในอ้อมแขน สายน้ำตาเอ่อรินอาบสองแก้ม สะอื้นจนร่างทั้งร่างสั่นสะท้าน“แม้ข้าจะตายลงแล้ว แต่ข้าจะยังอยู่ในใจของท่านพี่ตลอดไป ข้าฝากลูกด้วยนะเจ้าคะ ดูแลลูกของเราให้ดี จนกว่าเขาจะเติบใหญ่ พลังวิญญาณและปราณมารถูกปลุกให้ตื่นขึ้นในเวลาอันสมควร” เหยว่เอ๋อร์ฮูหยินปิดเปลือกตาลงช้าๆ อึดใจต่อมา ลมหายใจสุดท้ายของนางก็ปลิดปลิวไป ราวแสงเทียนต้องลมแรงจนดับวูบ... “เยว่เอ๋อร์ เจ้าอย่าห่วงไปเลย บัดนี้บุตรของเราสองคนเติบโตขึ้นมากแล้ว อีกไม่นานหรอก พลังวิญญาณกับพลังปราณมารของเขาคงใกล้จะตื่นขึ้นมาแล้ว” ประมุขพรรคมารเอ่ยกับกระจกกลมบานใหญ่ตรงหน้า ก่อนร่ายคาถา เสกให้กระจกหมื่นลี้หายลับไป ดวงตาทั้งค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-09
  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่9.เซียนกระบี่เงาสังหาร

    อีกประการที่ทำให้อดประหลาดใจไม่ได้ก็คือ เหตุใดเจ้าหน้าละอ่อนถึงมีวิชากระบี่ร้ายกาจยิ่งนัก ทุกคราที่วาดคมกระบี่ออกไปต่อสู้กับมือสังหาร ท่าทางการเคลื่อนไหว คมกระบี่วาดออกไปนั้นรวดเร็วราวเงาปริศนาพุ่งเข้าสังหารคู่ต่อสู้อย่างไร้ปราณี“เจ้าไม่เป็นอะไรใช่มั้ย เจ้าหนุ่ม” เจ้าหน้าละอ่อนยังมีแก่ใจห่วงใยหลัวเซียนที่เพิ่งเก็บพัดเวทย์เข้าไว้ในมือขวา “ไม่เป็นไร ต้องขอบคุณท่านที่มาช่วยได้ทันการณ์” หลัวเซียนประสานมือคารวะนอบน้อม ค้อมศีรษะน้อยๆ“ข้าหลัวเซียน ไม่ทราบว่า ท่านมีนามว่าอะไรหรือขอรับ”“ข้าหูซื่อเยว่” “ท่านคือ เซียนกระบี่แห่งเขาเทียนคงหรือขอรับ” หลัวเซียนเอ่ยในสิ่งที่เขาเคยได้ยินมา นึกไม่ถึงเลยว่า เซียนกระบี่อายุน่าจะมากกว่าร้อยปีผู้นี้ จะยังคงมีหน้าตาอ่อนเยาว์ ราวเด็กหนุ่มอายุไม่ถึงยี่สิบ มิหนำซ้ำเพลงกระบี่เงาสังหารของเขายังร้ายกาจไร้เทียมทานอีกต่างหาก“ใช่แล้ว หากปรมาจารย์หรงอ้ายเสียนของเจ้ายังอยู่ อายุก็คงพอๆ กับข้านี่แหละ ว่าแต่เจ้าสองคนจะไปที่ใด”“ข้ากับเขา กำลังเดินทางไปเจียงหนานขอรับ”“ได้ข่าวว่าที่นั่น มีงานเลี้ยงปักบุปผาอย่างนั้นหรือ ดีๆ ข้ากำลังจะไปหาอาหารเลิศรสกินแกล้มสุราอยู่พ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-09
  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่10. คร้านจะอธิบาย

    “ข้าหูซื่อเยว่ เซียนกระบี่แห่งเขาเทียนคง” เห็นคนที่ภายนอกดูอ่อนอาวุโสกว่ามากส่งยิ้มน้อยๆ มาแล้ว เจียงเหวินก็เข้าใจว่า หนุ่มน้อยผู้นี้คงจะเป็นศิษย์ผู้หนึ่งของผู้อาวุโสแห่งเขาเทียนคงเป็นแน่ ขณะที่หูซื่อเยว่เอง คร้านจะอธิบาย จำเป็นด้วยหรือที่เขาจะเที่ยวป่าวประกาศบอกแก่คนในใต้หล้าว่า เขาคือเซียนกระบี่ผู้มีชีวิตยืนยาวมานับร้อยปี โดยคงความหนุ่มเอาไว้ดังเดิมมาเนิ่นนาน จนลืมอายุของตนเองไปแล้ว แทนที่จะเอ่ยอะไรต่อ จึงเพียงรับกุหลาบจากมือคนอ่อนอาวุโสแต่หน้าตาแก่วัยกว่ามาถือไว้ในมือ ขณะสองเท้าก้าวเนิบช้าไปตามขั้นบันได ทอดขึ้นสู่ตำหนักเจียงอู่นั่นเอง เซียนกระบี่หน้าละอ่อนก็แทบลืมหายใจ สองเท้าคล้ายถูกตรึงแน่นอยู่กับที่ เพียงสายตาไปปะทะเข้ากับดวงหน้างดงามของสตรีผู้ยืนเคียงข้างอู๋เหริ่นชวน และกำลังหันมาทางเขาพอดี ดวงหน้านาง ขาวนวลราวไข่ปอก ดวงตาคู่เรียวภายใต้เส้นคิ้วโค้งงามตามธรรมชาติ รับกันดีกับสันจมูกโด่ง เหนือริมฝีปากอิ่มงามสีชมพูระเรื่อ แม้แตะแต้มด้วยชาตเพียงเบาบาง แม้ไม่งดงามที่สุดในใต้หล้า แต่มีหรือหัวใจเขาจะลืมดวงหน้านี้ได้ลง หากไม่เห็นกับตาตนเอง หูซื่อเยว่ก็คงไม่เชื่อว่า ในใต้หล้านี้จะม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-09
  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่11.คารวะอาจารย์

    ครู่ต่อมา อู๋เหริ่นชวนพร้อมด้วยศิษย์พี่ของเขาก็มายืนอยู่หน้าห้องพักส่วนตัวของหลัวเซียน กลั้นใจรอเพียงเสี้ยวนาที เจ้าของห้องก็ออกมาเปิดประตูรับ “แม่นางอู๋” บุรุษหนุ่มรูปงามประสานมือคารวะนอบน้อม ปากเอ่ยชื่ออู๋หมินเยี่ยน ทว่าสายตากลับมองเลยมายังประมุขน้อยหนุ่มด้านหลัง เข้ามาในห้องพักส่วนตัวของเขาได้ อู๋เหริ่นชวนก็รีบส่งสาส์นลับในมือให้เขาทันที“ท่านพ่อฝากมาให้ท่าน”หลัวเซียนยิ้มน้อยๆ ยามรับสาส์นกระดาษสีทองนั้นมาเปิดอ่าน เพียงตัวอักษรเวทย์ผ่านสายตาไป ว่าที่ประมุขเผ่าเซียนก็เข้าใจความประสงค์ของประมุขพรรคมารจนสิ้น “ประมุขอู๋ ให้ข้ารับศิษย์ใหม่ ตามสัญญาสันติระหว่างสองเผ่า”“หมายความว่าอย่างไรเจ้าคะ” อู๋หมิ่นเยี่ยนเลิกคิ้ว จ้องหน้าว่าที่ประมุขเผ่าเซียนแน่วนิ่ง อดสงสัยไม่ได้เลยว่า อู๋ลี่หมิงจะให้ใครมาเป็นศิษย์ของหลัวเซียนกันแน่“ท่านประมุขอู๋ ให้ข้ารับประมุขน้อยอู๋เหริ่นชวนเป็นศิษย์” คำพูดช้าชัดหนักแน่น คล้ายแส้ฟาดลงกลางหลังอู๋เหริ่นชวนก็ไม่ปาน ใครเลยจะนึกฝันว่า จะต้องมาเป็นศิษย์ของคนที่เขาไม่ชอบขี้หน้าเช่นนี้“ไม่ เป็นไปไม่ได้!” ประมุขน้อยหนุ่มไม่โวยวายเปล่า ปราดเข้ามาแย่งสาส์นในมือบุร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-09
  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่12.คลี่ยิ้มน้อยๆ

    ขณะเดียวกัน อู๋หมิ่นเยี่ยนเดินไปเดินมาอยู่ภายในห้องพักของตนเอง ดวงตาทั้งคู่แข็งค้าง จนมิอาจเดินไปล้มตัวลงนอนบนเตียง ข่มตาหลับลงได้ ด้วยความเป็นห่วงศิษย์น้องแม้อู๋เหริ่นชวนจะกำชับหนักหนา ไม่ให้นางไปที่ห้องของหลัวเซียน ในระหว่างการดวลสุราที่กำลังดำเนินไป แต่นางก็มิอาจวางใจได้ จากที่เดินไปเดินมาจนเมื่อยไปทั้งขา จึงต้องออกจากห้อง ก้าวเร็วๆ มายังห้องพักของหลัวเซียนหากยังไม่ทันจะได้ยกมือขึ้นเคาะประตู ก็ได้ยินเสียงของใครคนหนึ่งดังมาจากทางด้านหลัง“แม่นางอู๋”นางหันขวับกลับไปมอง กลีบปากงามคลี่ยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นว่าหูซื่อเยว่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้า เสื้อผ้าตัวยาวสีขาวสะอาดที่เขาสวมใส่ ผนวกกับดวงหน้าอ่อนเยาว์ของคนตรงหน้า ทำให้เขาดูไม่ต่างอะไรจากเทพบุตรลอยลงมาจากจันทราเต็มดวงเบื้องบนเสียจริงๆ นางจะต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆ ที่อยากจะหยุดเวลามีค่าเช่นนี้เอาไว้ตราบนานเท่านาน เพียงแค่รู้ว่าเขามาจากเขาเทียนคง สำเร็จวิชากระบี่เงาสังหาร ก็ปลื้มในความเก่งกาจของเขา จนอยากทำความรู้จักให้มากขึ้น หากใครล่วงรู้ความคิดของนาง คงจะปรามาตว่าเป็นสตรีไร้ยางอายเป็นแน่“แม่นาง มีธุระอะไรกับคุณชายหลัวหรือ”“เปล่าเจ้าค่ะ”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-09

บทล่าสุด

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่64 คัมภีร์ที่ถูกคัดลอกใหม่

    เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ค่ายกลในเจดีย์ก็พลันหยุดทำงาน พร้อมๆ กับคนจากเผ่ามนุษย์คนสุดท้าย จบชีวิตลง ภายใต้คมกระบี่กรีดฟ้าเช่นกัน“เอาล่ะ ไม่มีผู้ใดรบกวนท่านแล้ว ซ้ำค่ายกลก็หยุดทำงานแล้ว เรามาคัดคัมภีร์กันเถอะ”หลัวจุ้นซินเสกกระดาษ พู่กัน และหมึกออกมาจากทั้งสองมือ ทั้งยังเสกโต๊ะเขียนหนังสือพร้อมเก้าอี้ขึ้นมาด้วยอู๋เหริ่นชวนยิ้มน้อยๆ หัวเราะเบาๆ ยามหย่อนกายลงบนเก้าอี้ ถือพู่กันไว้ในมือ จรดลงกับกระดาษนิ่งนึกอยู่ครู่ก็เขียนตัวอักษรลงไปเพียงอักษรตัวแรกปรากฏบนกระดาษ ปลายกระบี่กรีดฟ้าก็พุ่งมาพาดบนคอของประมุขน้อยหนุ่ม“ท่านจะทำอะไร”“ข้าต้องแน่ใจสิว่า เจ้าจะไม่แพร่งพรายเนื้อหาในคัมภีร์แก่ผู้อื่นอีก”“ท่านไม่ต้องห่วงหรอก หากข้าให้คัมภีร์แก่ท่านแล้ว ข้าจะฆ่าตัวตายเอง เก็บกระบี่ของท่านเสียก่อนเถิด หากข้าตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ เขียนข้อความผิดขึ้นมาจะทำอย่างไร”นั่นละ หลัวจุ้นซินจึงต้องสอดกระบี่เก็็บ็บเข้าฝักประมุขน้อยหนุ่มจึงจรดพู่กันเขียนข้อความต่อไป บทแล้วบทเล่า ยื้อเวลาให้ถึงยามห้าย การคัดคัมภีร์จึงเสร็จสิ้นลง“เอาล่ะ ข้าคัดเสร็จแล้ว เชิญท่านฝึกวิชาในคัมภีร์บทนี้ได้เลย”หลัวจุ้นซินรับกระดาษมากมายม

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่63 สิ้นคำประกาศก้องนั้น

    “ที่ทุกท่านมาถึงเขาเซียนกู่แห่งนี้ คงเพราะเห็นข้ากลายร่างเป็นวิหคโลหิตในวันรับตำแหน่งของท่านประมุขหลัว หลายท่านคงมาเพราะคัมภีร์มหาเวทย์ในหัวข้า ข้าคิดใคร่ครวญมาตลอดทั้งคืนแล้ว ว่าควรจะให้คัมภีร์แก่ใครดี แล้วข้าก็คิดขึ้นมาได้ว่า ในฐานะที่ประมุขหลัวจุ้นซิน เป็นประมุขเผ่าเซียน เขาสมควรได้รับคัมภีร์มหาเวทย์นี้”สิ้นคำประกาศก้องนั้น เซียนยุทธทั้งหลายดูจะไม่ประหลาดใจสักเท่าไหร่ตรงกันข้ามกับคนเผ่ามนุษย์ที่ต่างมองหน้ากัน สนทนากันเบาๆ สีหน้าและแววตาบ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างชัดแจ้ง“คัมภีร์มหาเวทย์เป็นของเผ่ามนุษย์ เจ้าจะให้คนเผ่าเซียนครอบครองได้อย่างไร” ชายวัยกลางคน หน้ากระดูกจากพรรคหวันซา ต่อว่าขึ้น“นั่นสิ เจ้าควรจะคืนคัมภีร์มหาเวทย์ให้เผ่ามนุษย์ แล้วฆ่าตัวตายไปซะ คัมภีร์จะได้ไม่ตกถึงมือผู้ใดอีก” ชายร่างกำยำ ดวงตาสามเหลี่ยมจากพรรคเหม่ยลี่ต่อว่าขึ้นบ้าง“ใช่ๆ” คนของแคว้นไป่ลี่เองก็เห็นด้วยกับคนเผ่าเดียวกันเช่นกัน“ข้าตัดสินใจแล้ว หากข้าไม่มอบคัมภีร์ให้ประมุขหลัว ท่านว่าจะเป็นเช่นไร ข้าเป็นคนเผ่ามาร ย่อมไม่อยากให้เกิดสงครามขึ้นระหว่างเผ่ามารกับเผ่าเซียนอีกเป็นครั้งที่สองอย่างแน่นอน แต่คัมภีร์

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่62 ที่เจ้าพูดมาก็มีเหตุผล

    “ยามนี้คงไม่มีเรื่องใดสำคัญไปกว่าคัมภีร์มหาเวทย์แล้ว ท่านเจียงเหวินขอรับ ก่อนนักพรตผู้นั้นจะให้ข้าท่องคัมภีร์มหาเวทย์ไว้ แล้วทำลายมันทิ้ง ท่านเคยบอกข้าว่า หากคัมภีร์นี้ตกอยู่ในมือของคนชั่วช้า ใจอัมหิต ยุทธภพ หรือแม้แต่เซียนภพย่อมลุกเป็นไฟ ข้าจึงกังวลว่า จะทำเช่นไรดี จึงจะไม่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้น หากข้าให้ท่านประมุขจุ้นซินได้คัมภีร์ไปก่อนผู้อื่น เจ้าสำนักอื่นๆ ย่อมไม่พอใจเป็นแน่ ท่านว่า ข้าควรทำเช่นไรดีขอรับ แม้ข้าจะอ่อนอาวุโส ทั้งยังไร้ฝีมือ แต่ข้าก็ไม่ปรารถนาจะให้สงครามดังเมื่อร้อยปีก่อนเกิดขึ้นอีก”“ที่เจ้าพูดมาก็มีเหตุผล”“ขอรับ ข้าไม่เพียงอาศัยคำพูดลอยๆ หลังจากแยกย้ายกันที่เจียงอู่ ข้ามาอยู่ที่เซียนกู่ ตามสัญญาสันติภาพระหว่างสองเผ่า ท่านเจ้าสำนักคงไม่รู้ว่า หลัวเซียนถูกทำร้ายในงานวันประลองยุทธของสำนักเซียนเอง ข้าจึงต้องพาเขาหลบหนีไปยังเผ่ามนุษย์ นึกไม่ถึงเลยว่า จะพบนักพรตท่านนั้น และได้คัมภีร์มหาเวทย์มา นับจากนั้น พรรคหวันซา พรรคเหมยลี่ คนของแคว้นไป่ลี่ก็ล้วนแล้วแต่ตามล่าข้ากับหลัวเซียนเพื่อสิ่งนี้ ที่พวกเขามายังเซียนกู่ ก็คงเพื่อแย่งชิงคัมภีร์มหาเวทย์ ยามนี้ ดูท่าแล้ว ปร

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่61 หาพันธมิตร

    ขณะเดียวกัน หลัวจุ้นซินเองก็กำลังจับจ้องเจดีย์ขังมารในอุ้งมือด้วยแววตาเหี้ยมเกรียม อยากรู้นักว่าป่านนี้ ศิษย์พี่ของเขาจะมีสภาพเป็นเช่นไรแล้ว บอกตนเองเช่นนั้นแล้ว ประมุขเผ่าเซียนก็ร่ายคาถาตามที่ได้รับสืบทอดมาจากท่านอาจารย์ “...เทียน ชื่อเต้า ตี้ชื่อเต้า หยิน ชื่อเต้า หยาง ชื่อเต้า เก๋ย หว่อ ซื่อ โหยว…” ไม่ว่าจะท่องอีกสักกี่หน ประตูเจดีย์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะเปิดออก หรือเขาจะจำผิด… ไม่สิ เขาเข้าไปในหอคัมภีร์ คัดลอกคาถาบทนั้นด้วยลายมือตนเอง จะผิดพลาดได้อย่างไร เช่นนี้แล้ว หากหลัวเซียนตายไปแล้ว เขาจะเข้าไปดูดซับเอาปราณเซียนได้อย่างไร เหตุใดสวรรค์จึงกลั่นแกล้งเขา ด้วยเรื่องบัดซบเช่นนี้ได้ ขณะเดียวกัน หลัวเซียนปรือตาขึ้นช้าๆ พบว่า รอบกายของเขายังคงว่างเปล่า แสงจากตะเกียงจุดสว่างจากทุกมุมภายในเจดีย์ บอกให้รู้ว่า บัดนี้กลไกต่างๆ ได้หยุดทำงานแล้ว เมื่อหยัดกายลุกขึ้น จึงไม่มีพลังเวทย์วารีพุ่งเข้ามาทำร้ายเขาอีก พลันบุรุษเซียนก็ต้องเบิกตากว้างขึ้น ริมฝีปากหยักได้รูปเผยอขึ้นน้อยๆ เมื่อพบเงาร่างของบุรุษผู้หนึ่งปรากฎขึ้นตรงหน้าจากเลือนราง ค่อยๆ ชัดเจนขึ้น ที่น่าประหลาดก็คือ หางเป

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่60 เจดีย์ขังมาร

    “มีสิ อันที่จริง ข้าก็มิได้ห่วงใยเขาเท่าไหร่หรอก เพียงเวทนาที่เขาดวงตาพิการเท่านั้น เรื่องคัมภีร์มหาเวทย์ ข้าให้ท่านได้อยู่แล้ว จะว่าไปข้าก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร สู้ให้คนที่คู่ควรยังดีซะกว่า ส่วนศิษย์พี่ของท่าน ท่านอยากทำอะไรก็ตามใจเถอะ ข้าจะไม่ยุ่ง” “ไม่คิดว่า ประมุขน้อยจะเฉลียวฉลาด รู้จักรักษาตัวรอดเช่นนี้”“แน่อยู่แล้ว ชีวิตน้อยๆ ของข้าเพิ่งจะลืมตาดูโลกได้เพียงสิบกว่าปีเท่านั้น ใครเล่าจะอยากตายก่อนวัยอันสมควร ขอเพียงท่านดูแลข้าเป็นอย่างดี ระหว่างที่ข้าอยู่บนเขาเซียนกู่ คัมภีร์มหาเวทย์ก็จะตกเป็นของท่านทันที”แม้จะระแวงอู๋เหริ่นชวนอยู่ แต่ความอยากได้คัมภีร์มหาเวทย์นั้นมีมากกว่า เมื่อเดินทางมาถึงเขาเซียนกู่ เขาจึงจัดให้ประมุขน้อยหนุ่มพักที่เรือนรับรอง มีการเฝ้ายามแน่นหนา ป้องกันมิให้เซียนยุทธ ชาวยุทธทั่วหล้าเข้ามาช่วงชิงคัมภีร์มหาเวทย์ได้ทว่าสำหรับหลัวเซียนกลับตรงกันข้าม เพียงเดินทางมาถึงก็ถูกจำขังในเจดีย์ขังมารเจดีย์ขังมารเป็นเจดีย์เจ็ดชั้น หลังคาทรงเก๋งจีน ลดหลั่นกันลงมา สามารถเพิ่มลดขนาดได้ตามใจผู้ใช้ ถือเป็นของวิเศษประจำเผ่าเซียนเลยก็ว่าได้ ทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้องกว้าง ชั้นล่า

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่59 ยอมถูกจับไปด้วยกัน

    พร้อมกับคำพูดนั้นของหลัวเซียน หูซื่อเยว่ อู๋หมิ่นเยี่ยนก็เดินเข้ามาสมทบ “ศิษย์พี่ สหายหู ท่านได้ยินหมดแล้วใช่หรือไม่”อู๋หมิ่นเยี่ยนพยักหน้าแทนคำตอบ “ท่านประมุขโปรดวางใจเถอะ ข้าจะไม่ปล่อยให้สหายอู๋กับจิ้งเทียนได้รับอันตรายอย่างแน่นอน” หูซื่อเยว่ให้คำมั่น เห็นเซียนกระบี่อาวุโสยื่นมือเข้าช่วยอีกแรงแล้ว อู๋ลี่หมิงก็ค่อยวางใจ เมื่อเตรียมการรับมือไว้แล้ว ประมุขอู๋ลี่หมิงจึงมิได้ประหลาดใจกับการมาของหลัวจุ้นซินเลยแม้แต่น้อย แม้จะต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้มาก่อนก็ตามขณะที่หลัวเซียนเอง ยังคงแสร้งตาบอดต่อไป เพื่อลอบดูท่าทีของศิษย์น้องเช่นกันดูเหมือนยามนี้ ท่าทีของหลัวจุ้นซินจะเต็มไปด้วยการเสแสร้งเสียมากกว่าจริงใจ “ข้านึกอยู่แล้วว่า ท่านประมุขจะต้องยึดถือคุณธรรมเป็นที่ตั้ง ยอมมอบตัวศิษย์พี่กับประมุขน้อยให้ชาวยุทธทั้งสามเผ่าแต่โดยดี ท่านโปรดวางใจเถอะ อย่างไร ข้าจะต้องสืบสวนเรื่องนี้ คืนความเป็นธรรมให้ประมุขน้อยอย่างแน่นอน” ดูเหมือนหลัวจุ้นซินผู้นี้ จะมิได้พูดถึงความเป็นธรรมของศิษย์พี่ตนเลยแม้แต่การเสแสร้งก็ไม่อาจละเว้นหลัวเซียนได้เลยจริงๆ สายตายามลอบมองมาทางหลัวเซียนรึก็เต็มไปด้วยความสาสมใจ

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่58 บดรักในห้องยา2

    ขณะที่การประชุมกำลังดำเนินไปนั่นเอง ชาวยุทธกลุ่มหนึ่งจากเผ่ามนุษย์ก็ถูกเชื้อเชิญเข้ามา“คารวะท่านประมุข” บุรุษวัยประมาณห้าสิบต้นๆ ผู้หนึ่ง แต่งกายคล้ายนักพรต เรือนผมแซมหงอก หนวดเครายาว ดวงตาสามเหลี่ยม ประสานมือคารวะนอบน้อม เบื้องหลังของเขา มีชาวยุทธแต่งกายแตกต่าง บ่งบอกว่ามาจากต่างสำนักยืนแถวตอนเรียงสี่เป็นระเบียบ ทำการคารวะ ค้อมกายเล็กน้อย ในลักษณะเดียวกันเมื่อมีผู้มาเยือนมากมายเช่นนี้ โถงรับรองของตำหนักหวงหลัน จึงดูแคบไปถนัดตา“ทุกท่านคงมาจากต่างสำนักกันใช่หรือไม่” หลัวจุ้นซินแย้มริมฝีปากน้อยๆ เลื่อนสายตาจ้องหน้าผู้มาเยือนด้วยไมตรี“ขอรับ ข้าได้รับประกาศจากท่านประมุขแล้ว จึงเห็นว่า ควรนำผู้ได้รับความเดือดร้อนจากหลัวเซียน และอู๋เหริ่นชวนมาที่นี่”“เดือดร้อนหรือ… ไม่ทราบว่าทุกท่านได้รับความเดือดร้อนเรื่องใดกัน”“หลายเดือนก่อน หลัวเซียนและประมุขน้อยพรรคมารได้หลบหนีเข้าไปในเผ่ามนุษย์ แย่งชิงคัมภีร์มหาเวทย์ คัมภีร์สำคัญของเผ่ามนุษย์ไป”“มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นด้วยหรือ” หลัวจุ้นซินถึงกับผุดลุกจากเก้าอี้ นึกไม่ถึงเลยว่าอะไรๆ จะมาบรรจบกันอย่างประจวบเหมาะเช่นนี้ อย่างน้อยก็มีศัตรูของหลัวเซ

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่57 บดรักในห้องยา1

    เพิ่งรู้ว่า บุรุษเซียนคนเดิมผู้มิใช่หนุ่มน้อยอ่อนแอในโอวาทของเขาคืนกลับมาแล้วก็ในยามนี้เอง ความตระหนกพาให้ประมุขน้อยหนุ่มเบิกตากว้าง ริมฝีปากอ้าค้าง เป็นโอกาสให้คนตรงหน้าสอดปลายสัมผัสเข้าไปลิ้มรสความหอมหวานจากโพรงปากเล็กกว่าเสียอีก คนถูกรุกแบบไม่ทันตั้งตัวจึงเผลอครางแผ่วอย่างพออกพอใจ รอให้อีกฝ่ายถอนริมฝีปากออกไปแล้ว จึงเอาคืนด้วยการยื่นหน้าเข้าไปขบเม้มตรงติ่งหูของอีกฝ่ายเบาๆ “พอเถอะ” หลัวเซียนร้องห้ามเสียงสั่น แทนที่จะห้ามอีกฝ่ายไม่ให้รุกคืบหนักข้อเข้า กลับเป็นการเชิญชวนเสียนี่ “เสี่ยวชวน”“อะไร” ประมุขน้อยหนุ่มงึมงำ ลากเลื่อนเรียวลิ้นลงมาวนเวียนตรงลำคอของเขาอย่างเอาใจ “เดี๋ยวผู้อื่นมาเห็นเข้า” แทนที่จะหยุด ประมุขน้อยหนุ่มเพียงกะพริบตา ประตูห้องยาก็ปิด ซ้ำยังลงกลอนเอง ไม่เพียงเท่านั้น เขายังพลิกฝ่ามือร่ายอาคมกำกับไว้อีกต่างหาก “เท่านี้ก็ไม่มีผู้ใดเห็นแล้ว ต่อให้เจ้าร้องดังแค่ไหน ก็ไม่มีใครได้ยินด้วย” อู๋เหริ่นชวนยิ้มยั่วเย้า คิดจะแกล้งอีกฝ่ายเล่นเท่านั้น นึกไม่ถึงเลยว่า เพียงหลัวเซียนพลิกวาดฝ่ามือในอากาศไม่กี่ครั้ง เสื้อผ้าของประมุขน้อยเช่นเขา จะรูดลงไปกองที่พื้น โดยเจ้าตัวไม่

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่56 กลับมามองเห็นอีกครั้ง

    เงียบ ไร้เสียงตอบกลับมา สังหรณ์ใจแล้วว่า ตนเองคงถูกประมุขน้อยหนุ่มแกล้งเข้าให้แล้ว จึงเดินออกมาจากห้องน้ำ ทั้งที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวพันกายท่อนล่าง นึกไม่ถึงเลยว่า คนที่เขาเรียกหาเมื่อครู่ จะเดินมาหยุดยืนอยู่ทางด้านหลัง พร้อมกับสวมเสื้อตัวใหม่ให้ ผูกสายรัดเอวให้เรียบร้อย แล้วจัดการดึงผ้าเช็ดตัวพันกายออกให้เสียด้วย “เจ้าเอาเสื้อผ้าข้าไปหรือ”“ใช่แล้วจะทำไม ข้าหายไปตั้งหลายวัน ลืมแล้วหรือว่า ใครต้องดูแลเจ้าน่ะ”“เจ้าไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้ เมื่อก่อนเจ้าก็สอนให้ข้าทำโน่นทำนี่เองไม่ใช่หรือ แม้แต่หาอาหาร เจ้าก็ยังให้ข้าเป็นคนไปหามาให้เจ้ากินเลย” นึกถึงการใช้ชีวิตระหกระเหิน ไม่รู้เหนือใต้กลางป่าเขาแล้ว หลัวเซียนก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ตนเองผ่านมันมาได้อย่างไร วันใดสมาธิไม่มั่นคง ดวงตาที่สามปรากฎภาพไม่ชัดเจน เมื่อต้องออกหาอาหารเพียงลำพัง บ่อยครั้งมีสะดุดรากไม้ล้มหน้าคะมำบ้าง ยามหาผลไม้ ถูกมดแดงรุมกัดตามเนื้อตัวบ้าง แต่เขาก็ผ่านมันมาได้ โดยไม่เคยปริปากบอกแก่อู๋เหริ่นชวนเลยแม้แต่คำเดียว เพราะรู้ว่ายามนั้น ประมุขน้อยหนุ่มเองก็ไม่ต่างจากเขา คนหนึ่งพลังวิญญาณน้อยนิดจนแทบสูญสิ้น ซ้ำยังตาบอดสนิทอี

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status