Share

บทที่ 151

Author: ลิ่วเยว่
หลงฉางเทียนออกคำสั่งฆ่าไม่เว้น หรืออาจกล่าวได้อีกอย่างหนึ่งว่า หากคนที่อยู่ข้างในไม่ตาย ค่ายศรเทพก็ห้ามถอนตัว

ค่ายศรเทพสามสิบหกคนแขวนบ่าธนูปีนขึ้นกำแพงอย่างว่องไว เมื่อนั้นก็ย่อตัวลง น้าวคันธนูทดสอบสาย

ภายใต้แสงจันทร์มืดสลัว เห็นเพียงแสงสีเขียวที่สะท้อนจากหัวลูกศรอาบยาพิษ ต้องเลือดคือสิ้นลม

“ปิดประตูหน้าต่างให้หมดเถอะ ดูท่าทางลมหมุนจะมาแล้ว!” จ่านเหยียนยืนมองอยู่ตรงหน้าต่าง จากนั้นจึงเอื้อมมือปิดหน้าต่าง

“ลมหมุนหรือเพคะ? จะมีลมหมุนในเมืองหลวงได้อย่างไร มิได้อยู่แถบที่ติดทะเลสักหน่อย!” จิ้นหรูเอ่ยกลั้วหัวเราะ

“ใครบอกว่าต้องเป็นแถบที่ติดทะเลจึงจะมีลมหมุนเล่า?” จ่านเหยียนแสดงออกว่าดูถูกทัศนคติของจิ้นหรูมาก หลาย ๆ แห่งในอเมริกาที่ลมพายุทำความเสียหาย ส่วนมากแล้วก็มิใช่ลมหมุนหรอกหรือ? อีกอย่าง ทะเลทรายก็มีลมหมุนเหมือนกันนี่?

“มิใช่หรือเพคะ อดีตฮ่องเต้เคยตรัส มีแต่พื้นที่แถบชายฝั่งเท่านั้นจึงจะเกิดลมหมุนได้” จิ้นหรูเอ่ย

“ใช่ว่าดำรัสของอดีตฮ่องเต้จะถูกต้องเสมอไป” จ่านเหยียนพยายามทำลายความงมงายในความรักของนาง จากนั้นจึงหันมาสั่งกับจี๋เสียง เรียกทุกคนเข้าห้องโถงด้านข้างให้หมด ชายชุดดำก
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 152

    “จิ้นหรู เจ้าฟังข้าพูดนะ เจ้าเข้าใจผิดแล้วแน่ ๆ” จ่านเหยียนอธิบายด้วยเหตุผลหนักแน่น “ข้าจะชอบน้องชายของสามีได้อย่างไร? อีกอย่าง ข้าคือหญิงม่ายนะ”“ได้ ไม่ชอบ พวกเราไม่ชอบเพคะ!” จิ้นหรูใช้สายตาโอนอ่อนมองนาง แต่รู้สึกว่าไม่เชื่อคำพูดนางสักเท่าไร โดยเฉพาะคำว่า ‘น้องชายของสามี’อีกอย่าง นางไม่เหมาะจะใช้คำว่า ‘หญิงม่าย’ เพราะนางไม่มีท่าทางของการครองตัวเป็นม่ายสักนิดนางไม่เคยเห็นอดีตฮ่องเต้เป็นสามีของนางเลยด้วยซ้ำจ่านเหยียนมองนางนิ่ง ๆ ความคิดสับสนอลหม่านครู่หนึ่งนางไม่เคยคิดปัญหานี้มาก่อน และไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นด้วยแต่เพราะคำพูดของจิ้นหรูทำให้นางเกิดความรู้สึกแปลกใจขึ้นมาอย่างหนึ่ง เป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกอย่างหนึ่ง หรือว่าเซ่อเจิ้งอ๋องรูปงานเกินไป จึงทำให้ยายแก่อย่างนางหวั่นไหวแต่ไม่รู้ตัว?เมื่อนั้นของแหลมคมก็แหวกอากาศมาดัง “ฟิ่ว” จิ้นหรูตกใจรีบบังอยู่หน้าจ่านเหยียนนี่มันอะไรกัน เกือบทำเสียงานใหญ่แล้ว!จ่านเหยียนผลักจิ้นหรูไปด้านหลัง ตามด้วยโบกแขนเสื้อปากกว้างที่ปักลายไผ่เขียวและมัจฉา นางท่องคาถาประโยคหนึ่ง ก่อนจะดึงจิ้นหรูถอยไปด้านหลังคนจากค่ายศรเทพเริ่มยิงธนู ดอกแรก

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 153

    ในตอนที่บ่าวรับใช้รายงาน หลงฉางเทียนส่ายหน้าพึมพำว่า “เป็นไปไม่ได้ ข้าลงดาลประตูหน้าแล้ว อาถง อาเถี่ยก็จับตัวเอาไว้แล้ว เป็นไปไม่ได้...”“แต่... ประตูหลังไม่ได้ลงดาลนี่ขอรับ” พ่อบ้านเตือน“แต่นางไม่รู้ว่าข้าจับตัวอาถงกับอาเถี่ยไว้ แล้วจะส่งคนไปอีกได้อย่างไร?” หลงฉางเทียนตื่นตระหนก หากสอบสวนนักฆ่าต่อหน้าใต้เท้าเหล่านี้จริง มันจะไม่เป็นผลดีต่อเขาอย่างยิ่ง“เจ้ากลัวอันใด? คนของหอเงาจันทร์ให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือ พวกเขายอมตายแต่ก็ไม่ยอมเปิดเผยผู้จ้างวาน” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ สุขุมมาก“แต่วิธีการของคุกทักษิณไม่ธรรมดานะขอรับ” หลงฉางเทียนเอ่ย“ข้าได้ยินมาว่า คนของหอเงาจันทร์จะเตรียมยาพิษเอาไว้ทุกคน อีกอย่าง หลายปีอย่างนี้แล้ว เจ้าเคยได้ยินหรือว่าคนของหอเงาจันทร์ทรยศนายที่อยู่เบื้องหลังเพราะทนกับการทรมาน บีบบังคับให้สารภาพอย่างหนักไม่ได้?” ฮูหยินผู้เฒ่ากวาดตามองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ทีหนึ่ง “เก็บความลนลานของเจ้าเอาไว้ เรื่องขี้ปะติ๋วก็ลนลานแล้ว ต่อไปยังจะหวังให้เจ้าทำงานใหญ่ได้อย่างไร?” หลงฉางเทียนพิจารณาแล้วก็เห็นว่าจริง หอเงาจันทร์ไม่เคยทรยศผู้จ้างวานที่เบื้องหลังม

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 154

    หลงฉางเทียนนำใต้เท้าทุกท่านไปยังเรือนที่พักของจ่านเหยียนองครักษ์คนหนึ่งต้อนรับอยู่หน้าประตู “ไทเฮาทรงรอพวกท่านอยู่ในเรือน ใต้เท้าทุกท่านโปรดตามข้าน้อยมาเถิด”องครักษ์คนนี้ก็เป็นคนที่เซ่อเจิ้งอ๋องส่งมาอยู่กับจ่านเหยียนเหมือนกัน วรยุทธ์ธรรมดา เขารับคำสั่งตรงจากอาซาน ขณะเดียวกันเขาก็ไม่ขัดขืนคำสั่งของจ่านเหยียนด้วย เพราะอาซานไม่เคยขัดพระเสาวนีย์ของจ่านเหยียนเช่นกันใต้เท้าทั้งหลายจัดระเบียบเครื่องแต่งกาย ก่อนจะตามองครักษ์เข้าไปจ่านเหยียนกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนตั่งด้วยท่าทางซีดเซียวไร้กำลัง ราวกับได้รับความสะเทือนใจอย่างรุนแรง แม้แต่ริมฝีปากก็ยังปราศจากสีเลือดอาเสอกับเสี่ยวฮวายืนขนาบข้างตัวจ่านเหยียนด้วยท่าทางปรนนิบัติอย่างขยันขันแข็ง“ถวายบังคมหมู่โฮ่วฮองไทเฮา!” ใต้เท้าทั้งสี่คุกเข่าคำนับหลงฉางเทียนยืนหัวโด่อยู่ตรงนั้น ครั้นเห็นใต้เท้าสี่ท่านคุกเข่าลงก็ลังเลเล็กน้อย กลับไม่ได้คุกเข่าลงไป เพียงค้อมตัวนิดหน่อยเท่านั้น“ใต้เท้าทุกท่านโปรดลุกขึ้นยืนเถอะ!” จ่านเหยียนน้ำเสียงสั่นเครือ “ท่านพ่อก็อย่าได้มากพิธี ลูกรับไม่ไหว”หลังจากใต้เท้าทั้งสี่ลุกขึ้นยืนแล้วก็สบตากันทีหนึ่ง แม้จะมีคว

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 155

    จ่านเหยียนยื่นมือนวดกระดูกคิ้ว ตอบอย่างอ่อนเพลียเล็กน้อย “ไม่ ข้าจะฟังอยู่ที่นี่ ดูสิว่าผู้ใดกันแน่ที่ต้องการทำร้ายข้า”อาเสอเอ่ย “ใต้เท้าทุกท่านก็สอบสวนอยู่ตรงนี้เถอะ แม้ไทเฮาจะตกพระทัย แต่ก็เสวยน้ำแกงสงบจิตแล้ว คาดว่าคงสามารถทนได้ระยะหนึ่ง”เสนาบดีกรมอาญาเฉินจึงเอ่ย “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ลำบากไทเฮาแล้ว”จ่านเหยียนพยักหน้าเล็กน้อย เอามือประคองหน้าอก ท่าทางอ่อนแอเหลือคณา ชวนให้คนที่พบเห็นรู้สึกอดใจนึกสงสารไม่ได้“ซูกงกงเชี่ยวชาญการสอบสวนมาโดยตลอด วันนี้มิสู้ให้ท่านเป็นผู้สอบสวนหลักเถอะ?” ใต้เท้าหลี่เอ่ย“ไม่ ใต้เท้าหลี่คือผู้ว่าการเมืองหลวง สมควรให้ท่านเป็นผู้สอบสวนหลัก!”“จะเป็นข้าไปได้อย่างไร? ที่นี่ยังมีใต้เท้าเสนาบดีเฉินอยู่อีกท่าน” ผู้ว่าการเมืองหลวงรีบประสานมือ“ทุกท่านมิต้องโยนกันไปโยนกันมา ใต้เท้าเฉินคือเสนาบดีกรมอาญา ท่านมาเป็นผู้สอบสวนหลักเถอะ” รองเสนาบดีกรมอาญาจางเจ๋อเถียนส่งเสียง“นั่นสิ ใต้เท้าเฉิน อย่างได้ถ่อมตนอีกเลย นี่คืองานในขอบข่ายความรับผิดชอบของท่าน” ซูกงกงเอ่ยปากอย่างเกียจคร้าน“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น งั้นข้าจะเป็นผู้สอบสวนหลัก ทุกท่านร่วมฟังการสอบสวนเถอะ” ใต้

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 156

    ซูกงกงถือน้ำชาอยู่ในมือ กลับกวาดสายตาสอดส่องใต้เท้าเฉินไม่หยุด มุมปากถูกยกขึ้นเป็นมุมโค้ง ยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง“พูด! ใครเป็นคนบงการให้พวกเจ้าลอบปลงพระชนม์ไทเฮากันแน่!” ใต้เท้าเฉินวางถ้วยน้ำชาบนโต๊ะเบา ๆ จากนั้นก็เพ่งเล็ง แล้วถามด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวทันใดหลงฉางเทียนจ้องนักฆ่าซึ่งเป็นผู้นำคนนั้นตาเขม็ง ในใจร้อนรน หลังจากนักฆ่าของหอเงาจันทร์ทำงานพลาดและถูกจับ ก็มิควรกัดยาพิษฆ่าตัวตายหรือ?แต่... ทั้งสิบสองคนสีหน้าหม่นหมอง ไม่ได้ทำอะไร แม้จะไม่พูด กลับทำให้คนวิตกกังวล“ไม่พูดใช่ไหม? ข้าก็อยากดูสิว่าคอของพวกเจ้าแข็งหรืออุปกรณ์ลงทัณฑ์ของข้าจะแข็งกว่า!” ใต้เท้าเฉินเอ่ยด้วยรอยยิ้มเสียดสีนอกประตูมีเสียงเดินและเสียงค้ำไม้เท้าดังมา ฮูหยินผู้เฒ่าหลงเดินมาด้วยการประคองของสาวใช้สองคน“นี่กำลังสอบสวนอยู่แน่ะ!” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยปาก“คารวะฮูหยินผู้เฒ่า!” ใต้เท้าทั้งหลายโค้งตัวเล็กน้อย“ใต้เท้าทุกท่านมิต้องมากพิธี!” ฮูหยินผู้เฒ่าเดินตรงมาถึงข้างตัวจ่านเหยียน จ่านเหยียนพลันขดตัวถอยไปข้างหลังตามจิตใต้สำนึก สีหน้าตื่นตระหนกหวาดกลัว“แม่หนูเหยียน ตกใจแล้วละสิ?” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยอย่างอ่อนโยน

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 157

    “มียอดฝีมือของคุกทักษิณอยู่ จะให้คนร้ายลงมือสำเร็จได้อย่างไร? นอกเสียจากซูกงกงจะไม่เชื่อมั่นลูกน้องของตัวเอง” ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวชืด ๆ“ฮูหยินผู้เฒ่าก็บอกว่าเรื่องนี้คือเรื่องใหญ่ ย่อมเสี่ยงไม่ได้ ข้ามั่นใจแปดเก้าส่วนว่าจะสามารถกุมตัวพวกเขาถึงคุกทักษิณได้จริง ๆ แต่มีหนึ่งถึงสองส่วนที่อาจผิดพลาด ดังนั้นข้าจะเสี่ยงไม่ได้”“หากซูกงกงเชื่อข้า ข้าจะกุมตัวไปด้วยตัวเอง” ฮูหยินผู้เฒ่าโอ้อวดตนซูกงกงหลุดหัวเราะ “จะกล้ารบกวนฮูหยินผู้เฒ่าได้อย่างไร? ข้าอยู่ที่นี่แล้ว เสนาบดีกรมอาญาอยู่ที่นี่ รองเสนาบดีกรมอาญาอยู่ที่นี่ ใต้เท้าผู้ว่าการเมืองหลวงก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน มิหนำซ้ำไทเฮาก็ทรงกำกับดูแลอยู่ ฉะนั้นที่นี่ ก็คือศาล!”ซูกงกงไม่ได้มองใบหน้าชราเขียวขาวยากจะแยกแยะนั้นของฮูหยินผู้เฒ่า แต่เรียกคนโดยตรง “เด็ก ๆ ลงทัณฑ์กับนายท่านพวกนี้หน่อย!” น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาและนุ่มนวล ใบหน้าก็อ่อนโยนมากเช่นกัน ราวกับกำลังพูดเรื่องผ่อนคลายอย่างยิ่งแต่ทุกคนต่างรู้ อุปกรณ์ลงทัณฑ์ของคุกทักษิณล้วนเป็นของที่โหดเหี้ยมที่สุด ชวนให้คนได้ยินก็ขวัญผวาแต่ที่ทำให้ประหลาดใจคือ ซูกงกงกลับสั่งให้คนขนอุปกรณ์ลงทัณฑ์มาด้ว

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 158

    ฮูหยินผู้เฒ่าสบตากับหลงฉางเทียนทีหนึ่ง คนแรกสีหน้านิ่ง ทว่าดวงตาเทามืดมีความกังวล ส่วนหลงฉางเทียนสีหน้าเคร่งเครียด ตื่นตระหนกถึงขีดสุดซูกงกงเดินมาอยู่ข้างตัวนักฆ่าคนหนึ่ง แล้วใช้มีดเฉือนเหนือศีรษะของเขาเบา ๆ เมื่อนั้นเส้นผมปอยหนึ่งก็ตกลงพื้นและติดกับรอยเลือด แม้เป่าก็ไม่ปลิว นักฆ่าผู้นั้นเพิ่งจะถูกลงแส้ไปคำรบหนึ่ง เสื้อผ้าบนตัวขาดวิ่นไม่มีชิ้นดี เลือดติดกับเสื้อผ้า บางจุดที่เป็นบาดแผลฉกรรจ์ยังมีเลือดหยดลงมาติ๋ง ๆเขารอซูกงกงอย่างเย็นชา สีหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธแค้น ก่อนจะถ่มน้ำลายทีหนึ่ง “เจ้าหมาตอน เจ้าลงมือเต็มที่ได้เลย ถ้าปู่ร้องสักแอะ ก็ไม่ใช่พ่อของเจ้า!”“พูดอย่างไร?!” ขันทีคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างประเคนฝ่ามือไปสองฉาดดังเพียะ ๆ พร้อมตะคอกเสียงแข็งซูกงกงจุ ๆ ๆ แล้วตำหนิขันที “ดูเจ้าสิ ทำไมถึงหยาบคายอย่างนี้นะ? อย่างไรก็เป็นหนุ่มน้อยหนังเนียนเนื้อนุ่ม ควรปฏิบัติอย่างดีจึงจะถูก”เขาจับผมสั้นของนักฆ่าผู้นั้นแล้วกระชากไปข้างหลัง จึงยิ้ม “อื่ม หนังเหนียวดี ข้าชอบแบบนี้นี่แหละ” เท้าของเขาเหยียบอยู่บนน่องของนักฆ่า ได้ยินเพียงเสียงกร๊อบ ความเจ็บปวดแสดงออกบนใบหน้าของนักฆ่าเล็กน้

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 159

    “ได้ ท่านระวังหน่อยนะ อย่ากรีดถูกเส้นเลือดใหญ่ที่คอเล่า ประเดี๋ยวเลือดออกมากแล้วจะหมดสนุก” จ่านเหยียนสั่ง“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะลงมือเดี๋ยวนี้ ไทเฮาทรงระวังอย่าทอดพระเนตรนะพ่ะย่ะค่ะ จะได้ไม่ตกพระทัย!” ซูกงกงกล่าวอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องเขาใช้มือหนึ่งจิกผมของนักฆ่า กดศีรษะไปด้านหลัง ใบมีดบางประกายหนาวกรีดคางของเขาเบา ๆ หยดเลือดซึมออกมาเล็กน้อย ซูกงกงหยิบผ้าขนหนูมาซับอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ดึงไปด้านข้างให้เห็นช่องทุกคนในนั้นเบือนหน้าหนีกันหมด นักฆ่าที่ถูกถลกหนังกลัวจนปากสั่นเหมือนกัน เขาอยากฆ่าตัวตาย แต่ยาพิษในปากถูกเอาออกมานานแล้ว หากจะกัดลิ้น ตอนนี้ก็กัดไม่ได้อีกเหมือนกัน เพราะปากถูกซูกงกงล็อกเอาไว้ ขยับไม่ได้เขาสั่นงันงก เปล่งเสียงประโยคหนึ่งออกมาจากร่องฟัน “ลงมือสิ ปู่เจ้าไม่กลัวหรอก”“ข้าก็ไม่อยากให้เจ้ากลัวเหมือนกัน ถ้าเจ้าสารภาพตอนนี้ ข้ายังจะอารมณ์เสียอีกแน่ะ หนังดี ๆ เช่นนี้ ทำเป็นป๋องแป๋งถวายให้ไทเฮาก็ถือเป็นน้ำใจอย่างสุดซึ้งของข้าแล้ว”ซูกงกงคาบมีดเอาไว้ สองมือคลำอยู่ที่คางของเขาอย่างคล่องแคล่ว ได้ยินเพียงเสียง “ฉึก ๆ” ในที่สุดเสียงร้องโหยหวนก็เล็ดลอดออกมาจากปากของนักฆ

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 276

    ทั้งสองจะยอมหรือ? จึงบอกจะเข้าไปพูดกับจิ้นหรูกูกู หรูหัวกลับหน้าขรึม “พวกเจ้าเห็นตำหนักชิงหนิงคือสถานที่ใด? พวกเจ้าอยากเข้าก็เข้าได้ตามใจชอบหรือ?”อาถงข่มอารมณ์โกรธ กล่าวขอร้อง “กูกูอย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลย พวกเราก็ทำงานตามคำสั่ง หากเชิญจิ้นหรูกูกูกลับไปไม่ได้ หมู่โฮ่วฮองไทเฮาต้องพาลมาถึงเราแน่ กูกูคงไม่อยากเห็นพวกเราถูกลงโทษกระมัง?”“พวกเจ้าถูกลงโทษหรือไม่ เกี่ยวอันใดกับข้า? ข้าแค่ฟังคำสั่งของเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาเท่า...”อาถงกับอาเถี่ยรีบฉวยโอกาสตอนที่หรูหัวพูดบุกเข้าไปเพียงแต่ทั้งสองเพิ่งวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกองครักษ์สองสามคนขวางเอาไว้“บุกรุกตำหนักของไทเฮา พวกเจ้ามีกี่ชีวิต? เอาตัวไป!” หรูหัวเอ่ยเสียงกร้าวกระบี่หลายเล่มพาดอยู่ตรงลำคอของอาถงกับอาเถี่ย ทั้งสองไม่กล้าต่อต้าน จึงได้แต่หันไปมองหรูหัวและเอ่ย “กูกู พวกเรามิได้จงใจบุกรุก กูกูโปรดเมตตา อนุญาตให้เราไปพบจิ้นหรูกูกูหน่อยเถอะ”หรูหัวหัวเราะเสียงเย็น ส่งสายตากับองครักษ์ “เอาตัวไป ขังอยู่ในห้องมืดก่อน”ห้องมืดใช้กักขังคนในตำหนักที่กระทำความผิดโดยเฉพาะ บ้างเข้าห้องมืดไม่กี่วันก็ออกมา แต่ทั่วไปแล้วมักมอบให้หัวหน้าขันทีในวั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 275

    ทั้งสองคิดไปก็มิใช่วิธี จึงให้จี๋เสียงกับหรูอี้ไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์หมู่โฮ่วฮองไทเฮา ตามจิ้นหรูกลับมาปรนนิบัติที่ตำหนักครั้นจี๋เสียง หรูอี้ไปถึงตำหนักชิงหนิงกลับเข้าไปไม่ได้ ได้แต่ให้ขันทีในตำหนักไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์ของหมู่โฮ่วฮองไทเฮาผ่านไปพักหนึ่ง หรูหัวก็ยิ้มตาหยีเดินออกมา “เซิ่งหมู่ฮองไทเฮากำลังเดินหมากกับจิ้นหรูกูกู นี่กำลังสนุกเลย จะอย่างไรเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาก็ไม่ยอมให้กูกูไป พวกเจ้าสองคนกลับไปทูลรายงานหมู่โฮ่วฮองไทเฮาว่าจะส่งคนกลับไปดึกหน่อยแล้วกัน”“อ๊าาา”เสียงร้องดังมาจากข้างในอีก จี๋เสียง หรูอี้สบตากันทีหนึ่ง สีหน้าเริ่มกังวลเล็กน้อยหรูหัวเอ่ยเรียบ “มีนางกำนัลคนหนึ่งไม่ทันระวังทำน้ำชาหกใส่หลังมือของจิ้นหรูกูกู นี่อย่างไร กำลังถูกโบยอยู่เลย”“แต่... เหตุใดเสียงนี้ฟังดูแล้วจึงเหมือนเสียงของจิ้นหรูกูกูล่ะ?” จี๋เสียงเอ่ยอย่างขลาด ๆ“เหลวไหลอันใด?” หรูหัวเปลี่ยนสีหน้าฉับพลัน “เจ้าจะบอกว่าเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาทรมาทรกรรมจิ้นหรูกูกูหรือ? ยังมิได้กล่าวถึงจิ้นหรูกูกูเป็นคนข้างพระวรกายของหมู่โฮ่วฮองไทเฮา แค่อดีตนางคือนางกำนัลคนสนิทของอดีตฮ่องเต้ ทั้งยังมีไมตรีกับเซิ่งหมู่ฮองไทเฮามาต

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 274

    จิ้นหรูหัวใจรัดแน่น สุดท้ายดวงตาก็ฉายความแตกตื่นออกมา “พระองค์คิดจะทำอันใดกันแน่เพคะ?”“ถามได้ดี!” ถงไทเฮาลุกขึ้นยืนช้า ๆ แล้วเดินก้าวหนึ่ง เหยียบหลังมือของจิ้นหรู ออกแรงขยี้ มองดูความทรมานบนใบหน้าของจิ้นหรู ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “เจ็บหรือ?”จิ้นหรูกัดฟัน “ไทเฮาจะลงโทษบ่าวอย่างไรก็ได้เพคะ”อย่างมากก็แค่ตาย ตายแล้วก็คือหลุดพ้น แต่... นางรู้ ถงไทเฮาแค้นนางที่สุด จะไม่ให้นางตายง่าย ๆ เด็ดขาด“ข้าได้ยินว่าคุกทักษิณมีทัณฑ์ทรมานมากมาย เพียงแต่ไม่รู้ว่าหากเทียบกับข้าที่นี่แล้ว จะเหนือกว่าหรือไม่? มิสู้จิ้นหรูกูกูช่วยข้าเปรียบเทียบสักหน่อย” ถงไทเฮาโน้มตัวลงเชยคางของจิ้นหรู มุมปากแย้มยิ้มชั่วร้ายเหี้ยมเกรียมเดิมรูปลักษณ์ก็มิได้งามวิไล ยามนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความดุดัน ยิ่งทำให้ดุร้ายอัปลักษณ์มากกว่าเดิมจิ้นหรูขวัญผวา ไม่กล้ามองดวงตากระหายเลือดของนาง จึงก้มหน้ากัดริมฝีปาก อดทนต่อความเจ็บที่ส่งมาถึงแต่... นี่ยังห่างไกลกับจุดสิ้นสุดหรูหัวยกตะปูมากะละมังหนึ่ง พวกมันมิใช่ตะปูเหล็ก แต่เป็นตะปูไม้ท้อทุกเล่มทำจากไม้ท้อ ส่วนปลายแหลมคมเงาวับ“ถ้าเจ้าร้องสักแอะ ข้าจะเพิ่มตะปูอีกเล่ม” ถงไทเฮาเอ่ย

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 273

    ด้วยประการละฉะนี้ ทุกคนจึงนึกว่าฮ่องเต้โปรดปรานแต่ฮองเฮา ทอดทิ้งวังหลังแม้นางสนมจะตำหนิไม่พอใจ แต่เพราะฮองเฮาคือคนสกุลถง จึงไม่มีใครกล้าพูดฮองเฮารูปโฉมไม่โดดเด่น กลับได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เพียงนี้ เห็นได้ว่าฮ่องเต้รักนางจริง ๆชั่วขณะ ฮองเฮาบารมีไร้ที่สิ้นสุด รั้งตำแหน่งฮองเฮา ทั้งยังมีความโปรดปรานของฮ่องเต้มั่นคงดั่งขุนเขา ทำให้สกุลถงเหิมเกริมมากขึ้นทุกวันเขาใช้การกระทำบอกนาง ในใจของเขามีแต่นางเท่านั้นสามสิบกว่าปีแล้ว นางเข้าวังในวัยสิบสอง บัดนี้สี่สิบสาม อดีตฮ่องเต้คือแผ่นฟ้าของนาง คือสามีของนาง คือนายของนางเขาจากไปก่อนนาง แม้นางจะเสียใจ แต่ก็มิได้แสดงออกว่าเสียใจมาก เพราะนางรู้ว่าเขากำลังรอนางอยู่ตรงนั้น สุดท้ายนางจะได้ไปพบกับเขานางรู้ ยามนี้ได้เวลาแล้ว“พูด!” หรูหัวดุดันขึ้นมา ตบหน้านางฉาดหนึ่งจิ้นหรูหน้าเอียงไปข้างหนึ่ง แก้มบวมขึ้นรอยประทับนิ้วมือทันทีจิ้นหรูคุกเข่าตัวตรง “บ่าวไม่มีอะไรจะพูดเพคะ”“เจ้ามอบความบริสุทธิ์ของเจ้าให้ผู้ใด?” ถงไทเฮาไม่แสดงออกว่าโกรธมาก ในทางกลับกัน นางพรูลมยาว ข้อกังขาที่เก็บอยู่ในใจนางยี่สิบกว่าปี กระจ่างแจ้งในที่สุด“บ่าวไม่ทร

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 272

    หรูหัวลากนางเข้าตำหนักชั้นในไปอย่างไม่ให้ปฏิเสธจิ้นหรูมองเสื้อผ้าบนฉากบังลมด้วยความประหลาดใจ เหตุใดหรูหัวจึงมีเสื้อผ้าวางอยู่ในตำหนักบรรทมของไทเฮาได้แต่นางมิได้ถาม เพราะถามแล้วก็คงไม่บอก นางมองเสื้อผ้านางกำนัลชุดนี้ มิได้สงสัยเรื่องอื่นก็เข้าไปเปลี่ยนชุดด้านหลังฉากบังลมนางเพิ่งถอดเสื้อผ้า หรูหัวก็เข้ามา “อุ๊ย ข้าลืมบอกเจ้าไป ชุดนี้เคยใส่แล้ว เปลี่ยนอีกชุดเถอะ!”นางยื่นชุดสีเหลืองอ่อนในมือให้จิ้นหรู พร้อมกับกวาดสายตามองบริเวณแขนของจิ้นหรูอย่างรวดเร็ว เมื่อนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย ก่อนจะออกไปจิ้นหรูเพิ่งแต่งตัวเสร็จก็มีหญิงสูงวัยดุดันเข้ามาสองคน ลากแขนจิ้นหรูคนละข้างออกไปข้างนอกจิ้นหรูตกตะลึงพรึงเพริดถามขึ้นว่า “นี่พวกเจ้าจะทำอะไรน่ะ?”หญิงสูงวัยสองคนนั้นลากนางไปแล้วผลักจนนางสะดุดล้มลงพื้น ถงไทเฮามองนางจากมุมสูง ดวงหน้าอ่อนโยนเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมอำมหิต“เซิ่งหมู่ฮองไทเฮา บ่าวทำอะไรผิดไปเพคะ?” จิ้นหรูหัวใจหนักอึ้ง แต่ยังสงบสติอารมณ์แล้วถาม“ทำอะไรผิด?” เสียงของถงไทเฮาราวกับส่งมาจากขุมนรก พกพากลิ่นอายเย็นยะเยือกชุ่มชื้น “แต้มพรหมจรรย์ของเจ้าเล่า?”จิ้นหรูหัวใจ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 271

    “ข้าได้ยินมา ทุกคืนนางจะเรียกนักดนตรีไปบรรเลงเพลง ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่?”“ทูลไทเฮา เรื่องนี้เกินไปหน่อยเพคะ หมู่โฮ่วฮองไทเฮาทรงเรียกพวกเขามาในยามวิกาลน้อยนัก!”รอยยิ้มของถงไทเฮาบานสะพรั่งมากขึ้นเรื่อย ๆ “ข้าก็รู้ว่าวังหลังมีปากหอยปากปูมาก จริงสิ ปกติเวลาอดีตฮ่องเต้ทรงสะสางราชกิจ ทรงโปรดทำอันใดหรือ?”หัวข้าสนทนาวกกลับมาเรื่องอดีตฮ่องเต้ จิ้นหรูลอบโล่งอก เวลาตอบคำถามจึงเป็นมิตรมากขึ้นบางส่วน “อดีตฮ่องเต้มีเวลาวางน้อยนัก แต่พระองค์โปรดอู้งานยามยุ่ง ทรงโปรดการเดินหมาก เสวยพระสุธารสชาเพคะ”“เดินหมาก? เดินกับผู้ใด?” ถงไทเฮาถาม“กับบ่าวเพคะ” จิ้นหรูยิ้มบาง “เพียงแต่ฝีมือการเดินหมากของบ่าวไม่ดี แพ้อยู่เรื่อยเลยเพคะ”“อดีตฮ่องเต้ทรงยินดีเดินหมากกับเจ้า แสดงว่าฝีมือการเดินหมากของเจ้าต้องดี” ถงไทเฮายิ้มเอ่ย “เจ้าอย่าได้ถ่อมตัวนักเลย วันหลังข้าจะเดินหมากกับเจ้าบ้าง เจ้าก็คลายเหงาให้ข้าหน่อย”“ขอเพียงไทเฮาโปรด บ่าวก็เดินหมากเป็นเพื่อนไทเฮาได้ทุกเมื่อเพคะ” จิ้นหรูกล่าวจากใจ“เจ้าช่างเป็นคนเข้าใจผู้อื่นแท้ ๆ มิน่าอดีตฮ่องเต้จึง ‘โปรดปราน’ เจ้าเช่นนี้” ถงไทเฮายิ้มเอ่ยคำพูดนี้ไม่มีอะไรพิเศษ ใ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 270

    ตำหนักชิงหนิงจิ้นหรูคุกเข่าลงคำนับ “ถวายพระพรเซิ่งหมู่ฮองไทเฮา”“ลุกขึ้นเถอะ จิ้นหรู” ถงไทเฮาแย้มยิ้มจิ้นหรูลุกขึ้นยืนก้มหน้าแล้วไปยืนอยู่ด้านข้าง“ไม่ต้องเกร็งไป วันนี้ที่ข้าเรียกเจ้ามา เพราะอยู่ ๆ ก็นึกถึงอดีตฮ่องเต้ อดีตฮ่องเต้เคยรับสั่งว่าทักษะการชงชาของเจ้าเป็นหนึ่งในใต้หล้า เจ้าจะชงให้ข้าสักครั้งได้หรือไม่?” ถงไทเฮากล่าวขอด้วยใบหน้าราบเรียบ“เพคะ!” จิ้นหรูขานรับ“หรูหัว ไปเตรียมเครื่องชงชา” ถงไทเฮาสั่งหรูหัวขานรับแล้วจึงออกไปถงไทเฮาปรายตามองจิ้นหรู วันนี้นางสวมชุดสีครามปักลายใบไม้ไผ่สีแดงเข้ม มิได้ผัดแป้ง แม้อายุล่วงเลยสี่สิบ กลับยังสง่าเรียบง่ายจิ้นหรูไม่เคยคลอดลูก จึงดูอ่อนเยาว์กว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกันมิได้เลอโฉม กลับมีท่วงทำนองอย่างหนึ่งหรูหัวยกเครื่องชงชามา นางมองการต้มน้ำ ล้างชา ล้างถ้วย รินน้ำชาอย่างสง่างามของจิ้นหรูยังไม่พูดถึงฝีไม้ลายมือที่สง่างาม แต่ขณะนางชงชาจะมีสมาธิมาก ยามที่คนคนหนึ่งจดจ่ออยู่กับเรื่องหนึ่ง จะมีเสน่ห์ชวนหลงใหลเป็นพิเศษในฐานะที่ถงไทเฮาคือสตรีก็รู้สึกถึงมนตร์เสน่ห์น่าหลงใหลนี้เหมือนกัน“อดีตฮ่องเต้โปรดเสวยพระสุธารสชาอะไรหรือ?” นา

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 269

    ถงไทเฮาถอนตายตากลับช้า ๆ ก็จริง นับจากหรูหัวเข้าวังก็อยู่ข้างตัวนางมาตลอด รวมแล้วอดีตฮ่องเต้เคยมองนางเพียงไม่กี่ครั้ง แม้แต่ชื่อของนางก็ยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำที่สำคัญที่สุดคือ แม้หน้าตาของหรูหัวจะพอใช้ได้ แต่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับคำว่า ‘สวย’ เด็ดขาด“ในฐานะที่เป็นบุตรสาวสกุลถง ตั้งแต่ข้าเกิดมาก็ใช้ชีวิตเหมือนพญาหงส์ แล้วยังจะสูงศักดิ์ยิ่งกว่าองค์หญิงเสียด้วยซ้ำ หลังจากเข้าวังก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นฮองเฮา เกียรติยศไร้ขีดจำกัด แต่... นี่ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ให้คนอื่นดู สิ่งที่ข้าต้องการ ก็แค่สายตาอาวรณ์หนึ่งของอดีตฮ่องเต้ เมื่อไม่ได้มา ข้าก็ไม่อยากให้ผู้ใดได้มันไปทั้งนั้น ไม่ว่านางจะอยู่หรือตาย ข้าก็ต้องรู้ว่านางคือใคร”ถงไทเฮาพูดเนิบช้ามาก แต่... มีความโหดเหี้ยมทุกถ้อยคำหรูหัวพิจารณาอย่างละเอียดครู่หนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นพึ่บ “เสี่ยวหรู? คนที่ปรนนิบัติอดีตฮ่องเต้ในตำหนักในสมัยก่อน มีคนหนึ่งที่ชื่อจิ้นหรูเพคะ”“จิ้นหรู? ไม่ใช่นาง” ถงไทเฮาส่ายหน้า “นางโตมากับอดีตฮ่องเต้ ถูกส่งไปปรนนิบัติข้างพระวรกายอดีตฮ่องเต้นานแล้ว หากนางคือคนที่อดีตฮ่องเต้โปรดปราน ไยไม่แต่งตั้งนางเป็นสนมเล่า?”หรูหัวคิ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 268

    ฮองเฮาส่ายหน้า “ไม่ ซูอี้จะกล้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร เขาไม่กลัวว่า...” ความกลัวเริ่มปกคลุมใบหน้าของนาง และไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย“ถ้าเจ้ายังอยากรักษาชีวิตพ่อของเจ้าเอาไว้ ก็ไปหาฮ่องเต้” ถงไทเฮากล่าวอย่างแค้นที่เหล็กไม่เป็นเหล็กกล้าเทียบกับสมัยก่อน ถงไทเฮาเติบโตและรู้ความมากแล้ว เมื่อก่อนนางไม่เข้าใจ เหตุใดเสด็จแม่จึงไม่เข้าใจนาง เหตุใดมักให้นางทำเรื่องที่ลำบากใจ บัดนี้นางรู้แล้ว มีเพียงให้ตัวเองลำบาก สกุลถงจึงจะมั่นคงในใจของคนสกุลถง ชื่อเสียงและความมั่นคงของวงศ์ตระกูลสำคัญที่สุดเสมอ นางรู้ว่าตอนนี้ถงเหยียนยังไม่ตระหนักในจุดนี้ แต่นางจะเข้าใจในไม่ช้าก็เร็ว ความน้อยเนื้อต่ำใจในเวลานี้นับเป็นอันใด? ภายภาคหน้ายามสกุลถงกับสกุลมู่หรงแบ่งใต้ฟ้า นางจะรู้ว่าความอยุติธรรมทั้งหลายที่ได้รับในวันนี้คุ้มค่าดวงหน้าไฉไลของฮองเฮาประเดี๋ยวเขียวประเดี๋ยวขาว ที่เจืออยู่ในดวงตาคือน้ำตาแห่งความน้อยใจ “เหตุใดต้องให้ข้าไปช่วยด้วยเจ้าคะ? ท่านสั่งคำเดียวก็ได้แล้วนี่ กลับต้องให้ข้าวุ่นวายกับเรื่องพวกนี้”ถงไทเฮานวดศีรษะ รู้สึกว่าความอึดอัดสายหนึ่งพุ่งขึ้นสมอง นางอยากระเบิดอารมณ์ แต่สุดท้ายก็ส่ายหน้าและเอ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status