Share

บทที่ 158

Author: ลิ่วเยว่
ฮูหยินผู้เฒ่าสบตากับหลงฉางเทียนทีหนึ่ง คนแรกสีหน้านิ่ง ทว่าดวงตาเทามืดมีความกังวล ส่วนหลงฉางเทียนสีหน้าเคร่งเครียด ตื่นตระหนกถึงขีดสุด

ซูกงกงเดินมาอยู่ข้างตัวนักฆ่าคนหนึ่ง แล้วใช้มีดเฉือนเหนือศีรษะของเขาเบา ๆ เมื่อนั้นเส้นผมปอยหนึ่งก็ตกลงพื้นและติดกับรอยเลือด แม้เป่าก็ไม่ปลิว

นักฆ่าผู้นั้นเพิ่งจะถูกลงแส้ไปคำรบหนึ่ง เสื้อผ้าบนตัวขาดวิ่นไม่มีชิ้นดี เลือดติดกับเสื้อผ้า บางจุดที่เป็นบาดแผลฉกรรจ์ยังมีเลือดหยดลงมาติ๋ง ๆ

เขารอซูกงกงอย่างเย็นชา สีหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธแค้น ก่อนจะถ่มน้ำลายทีหนึ่ง “เจ้าหมาตอน เจ้าลงมือเต็มที่ได้เลย ถ้าปู่ร้องสักแอะ ก็ไม่ใช่พ่อของเจ้า!”

“พูดอย่างไร?!” ขันทีคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างประเคนฝ่ามือไปสองฉาดดังเพียะ ๆ พร้อมตะคอกเสียงแข็ง

ซูกงกงจุ ๆ ๆ แล้วตำหนิขันที “ดูเจ้าสิ ทำไมถึงหยาบคายอย่างนี้นะ? อย่างไรก็เป็นหนุ่มน้อยหนังเนียนเนื้อนุ่ม ควรปฏิบัติอย่างดีจึงจะถูก”

เขาจับผมสั้นของนักฆ่าผู้นั้นแล้วกระชากไปข้างหลัง จึงยิ้ม “อื่ม หนังเหนียวดี ข้าชอบแบบนี้นี่แหละ”

เท้าของเขาเหยียบอยู่บนน่องของนักฆ่า ได้ยินเพียงเสียงกร๊อบ ความเจ็บปวดแสดงออกบนใบหน้าของนักฆ่าเล็กน้
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 159

    “ได้ ท่านระวังหน่อยนะ อย่ากรีดถูกเส้นเลือดใหญ่ที่คอเล่า ประเดี๋ยวเลือดออกมากแล้วจะหมดสนุก” จ่านเหยียนสั่ง“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะลงมือเดี๋ยวนี้ ไทเฮาทรงระวังอย่าทอดพระเนตรนะพ่ะย่ะค่ะ จะได้ไม่ตกพระทัย!” ซูกงกงกล่าวอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องเขาใช้มือหนึ่งจิกผมของนักฆ่า กดศีรษะไปด้านหลัง ใบมีดบางประกายหนาวกรีดคางของเขาเบา ๆ หยดเลือดซึมออกมาเล็กน้อย ซูกงกงหยิบผ้าขนหนูมาซับอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ดึงไปด้านข้างให้เห็นช่องทุกคนในนั้นเบือนหน้าหนีกันหมด นักฆ่าที่ถูกถลกหนังกลัวจนปากสั่นเหมือนกัน เขาอยากฆ่าตัวตาย แต่ยาพิษในปากถูกเอาออกมานานแล้ว หากจะกัดลิ้น ตอนนี้ก็กัดไม่ได้อีกเหมือนกัน เพราะปากถูกซูกงกงล็อกเอาไว้ ขยับไม่ได้เขาสั่นงันงก เปล่งเสียงประโยคหนึ่งออกมาจากร่องฟัน “ลงมือสิ ปู่เจ้าไม่กลัวหรอก”“ข้าก็ไม่อยากให้เจ้ากลัวเหมือนกัน ถ้าเจ้าสารภาพตอนนี้ ข้ายังจะอารมณ์เสียอีกแน่ะ หนังดี ๆ เช่นนี้ ทำเป็นป๋องแป๋งถวายให้ไทเฮาก็ถือเป็นน้ำใจอย่างสุดซึ้งของข้าแล้ว”ซูกงกงคาบมีดเอาไว้ สองมือคลำอยู่ที่คางของเขาอย่างคล่องแคล่ว ได้ยินเพียงเสียง “ฉึก ๆ” ในที่สุดเสียงร้องโหยหวนก็เล็ดลอดออกมาจากปากของนักฆ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 160

    หลงฉางเทียนใบ้รับประทานทันทีอาเสอมุมปากยกมุมโค้งได้ใจ ที่นางต้องการก็คือผลแบบนี้นี่แหละอันที่จริง หากต้องการลงมือกับคนของหอเงาจันทร์มันยากมาก มีแต่สร้างความกดดันให้กับหลงฉางเทียนจึงจะทำให้เขาเผยพิรุธได้จ่านเหยียนดึงผ้าตาข่ายออก แล้วมองหลงฉางเทียนด้วยความตะลึงเล็กน้อย “ท่านพ่อ ท่านจะฆ่านางกำนัลของลูกหรือเจ้าคะ? นี่มันเพราะเหตุใดกัน?”ชั่วขณะ หลงฉางเทียนคิดคำแก้ตัวไม่ออก จึงได้แต่หันไปมองขอความช่วยเหลือจากฮูหยินผู้เฒ่าฮูหยินผู้เฒ่าหน้าตึง ตามด้วยตวาดใส่อาเสอ “เจ้ามีฐานะอะไร? ใต้เท้าทั้งหลายกำลังพิจารณาคดี เจ้าเป็นบ่าวคนหนึ่งก็กล้าสอดปาก? ไสหัวออกไปเสีย!”หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เห็นฮูหยินผู้เฒ่าบันดาลโทสะ ท่าทางน่าสะพรึงเช่นนี้ ต้องไม่กล้าพูดอะไรอีกแน่แต่อาเสอกลัวเสียที่ไหน? นางเชิดหน้าอย่างทระนงและตอบว่า “คำพูดนี้ของฮูหยินผู้เฒ่าช่างกล่าวได้ดีนัก ใต้เท้าทั้งหลายกำลังพิจารณาคดี แล้วฮูหยินผู้เฒ่ามาทำอันใดเจ้าคะ?”“เจ้า!” ฮูหยินผู้เฒ่าใบหน้าเขียวปัด เปลี่ยนการพูดจากหนักแน่นเป็นด่าทอ “ข้าคือฮูหยินเก้ามิ่งขั้นสองที่อดีตฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งด้วยพระองค์เอง ใต้เท้าทุกท่านในที่นี้เห็นข้าแ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 161

    “หากองหนุนมาเสริม?” ซูกงกงขมวดคิ้ว “พวกเจ้าออกไปตอนที่นักฆ่ามาหรือ?”“เรียนซูกงกง พวกเราสองคนออกไปหลังจากที่นักฆ่าถูกจับกุมแล้วขอรับ นักฆ่ามาถึงที่ จวนตระกูลหลงไม่มีผู้ใดมาช่วยสักคน ไม่เพียงเท่านี้นะขอรับ ยังสั่งให้คนล้อมเรือนเอาไว้อย่างแน่นหนา ไม่อนุญาตให้พวกเราออกไป เคราะห์ดีที่มีผู้สูงส่งช่วยเหลือ จับตัวนักฆ่าเอาไว้ได้ มิเช่นนั้นชีวิตของไทเฮาจะน่าเป็นห่วงมาก!”ดวงตาทั้งแปดหันขวับไปมองทางหลงฉางเทียนเป็นตาเดียว หลงฉางเทียนใบหน้าเขียว เอ่ยอย่างโกรธเกรี้ยว “เจ้าพูดจาเหลวไหล ข้าสั่งให้คนล้อมเรือนตั้งแต่เมื่อใดกัน? ตอนที่นักฆ่ามา ข้าก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกันนะ” “แม่ทัพหลง เมื่อครู่ท่านบอกว่าพวกท่านเป็นคนจับนักฆ่ามิใช่หรือ?” ใต้เท้าหลี่เอ่ยถามเสียงเย็น“เอ่อ...” หลงฉางเทียนอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ“อีกอย่าง หลังจากนักฆ่าลอบปลงพระชนม์ไทเฮาแล้ว พวกท่านกลับไม่รู้? หรือว่าในจวนมิได้ส่งคนไปอารักขาไทเฮาเลย? ในจวนไม่มีผู้ใดมาปรนนิบัติ? ไทเฮาเสด็จกลับบ้านมารดา พวกท่านปล่อยให้ไทเฮาอยู่ตามยถากรรมหรือ?!” ซูกงกงกล่าวอย่างกรุ่นโกรธฮูหยินผู้เฒ่าตอบเสียงชืด ๆ “ไทเฮาไม่อนุญาตให้คนในจวนปรากฏตรงหน้าพระองค์ต่างหาก

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 162

    ซูกงกงเอ่ยเสียงเย็นเยียบ “ท่านแม่ทัพหลง พวกเราแจกแจงเรื่องนี้อย่างละเอียดกันดีกว่า”“ข้าไม่เคยทำ!” หลงฉางเทียนเอ่ยด้วยโทสะฮูหยินผู้เฒ่าลุกขึ้นยืน ใช้ไม้เท้าหัวมังกรปัดมือของซูกงกง ตามด้วยพูดเสียงเย็นชืด “คำพูดของนักฆ่าก็เชื่อถือได้หรือ? อีกอย่าง แม่หนูเหยียนเป็นเด็กของบ้านเรา ออกเรือนเข้าวังบัดนี้เป็นถึงไทเฮาผู้สูงศักดิ์ เป็นเกียรติของสกุลหลงเรา เหตุใดลูกชายข้าต้องฆ่านางด้วย? ไม่มีสาเหตุในการฆ่า การกล่าวหานี้จะเป็นผลหรือ? เสียทีที่ซูกงกงดูแลคุกทักษิณ ที่แท้ก็เห็นชีวิตคนดังผักปลา!”ครั้นฮูหยินผู้เฒ่าใช้ไม้เท้ากระแทกมือของซูกงกง ซูกงกงก็อดประหลาดใจไม่ได้ ไม่นึกว่ายายแก่ผู้เป็นไม้ใกล้ฝั่งนี้ กลับยังมีกำลังมากเช่นนี้ ดูท่าที่ข้างนอกลือว่านางป่วยนอนติดเตียงมานานจะมิเป็นความจริงจิ้นหรูกล่าวแทรกขึ้นมาอย่างพอเหมาะพอเจาะ “บ่าวก็คิดว่าไม่น่าใช่ท่านแม่ทัพหลงเช่นกัน เพราะคืนนี้มิได้มีนักฆ่ามาแค่กลุ่มเดียว นับจากวันที่ไทเฮาเสด็จกลับจวน นักฆ่าก็มาอยู่เนือง ๆ ครั้งแรกเกือบทำให้ไทเฮาจมน้ำสิ้นแล้ว กัวกูกูยังบาดเจ็บเพราะเหตุนี้อีกด้วย และอย่างเช่นคืนนี้ เรือนถูกวางเพลิง ทั้งยังถูกมือธนูกลุ่มหนึ่งล

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 163

    หลงฉางเทียนแทบจะทำนายอนาคตได้ ผู้คนต้องเรียกเขาลับหลังว่า ‘หลงหมวกเขียว’“เจ้าพูดจาเหลวไหล!” รองแม่ทัพหลี่เห็นหลงฉางเทียนเปลี่ยนสีหน้าแล้ว เขามิอาจแก้ต่างจึงตะคอกใส่จ่านเหยียนจ่านเหยียนใช้ผ้าเช็ดหน้าซับหยดน้ำที่เล็ดออกมาเพราะกลั้นขำตรงหางตา ยังคงกล่าวด้วยน้ำเสียงแค้นเคือง “ในเมื่อท่านใจดำกับข้าเช่นนี้ แล้วข้ายังต้องเก็บความลับอันใดให้ท่านอีก? หนึ่งเดือนก่อนที่ข้าจะออกเรือน ท่านซื้อกำไลทองให้ท่านแม่ข้าคู่หนึ่ง ทั้งยังกอดกับท่านแม่ข้าตัวกลมอยู่ในห้องเก็บของ ข้ายกน้ำไปล้างเท้าให้อาสะใภ้รองผ่านห้องเก็บของพอดี ได้ยินเสียงอิ๊ ๆ อ๊ะ ๆ ดังมาจากข้างใน ข้ายังนึกว่ามีโจรจึงผลักประตูเข้าไปดู กลับคิดไม่ถึง...”จ่านเหยียนใบหน้าแดงซ่าน คนในห้องโถงได้ฟังแล้วอดเบือนหน้าไปไม่ได้ สีหน้าไม่เป็นธรรมชาติอย่างยิ่งการบรรยายเห็นภาพเช่นนี้ ราวกับนางเห็นกับตาตนเอง หลงฉางเทียนเชื่อสนิทใจจึงกระชากคอเสื้อของรองแม่ทัพหลี่ หลังจากเล็งใบหน้าของเขาอย่างแม่นยำแล้วก็เหวี่ยงฝ่ามือตบลงไปหลายฉาด ก่อนจะเอ่ยอย่างเกรี้ยวกราดด้วยสายตาซึ่งเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย “เจ้ามันกินบนเรือนขี้รดบนหลังคา เจ้าใจกล้าเพียงนี้เชียวหรือ? ด

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 164

    ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นเสียงทีหนึ่ง แล้วถึงกลับเอ่ยขึ้นมาอย่างหัวเสีย “จวนแม่ทัพข้าอบรมดี ในฐานะที่เป็นหลานสาว จะกตัญญูต่ออาสะใภ้ก็สมควรแล้วมิใช่หรือ?”ใต้เท้าหลี่เอ่ย “สมัยก่อนเป็นอย่างไร ข้าไม่มีสิทธิ์ถาม แต่ตอนนี้เล่า? ที่ให้ไทเฮาทรงหิวก็เพราะกตัญญูหรือ?”“เรื่องในคืนนี้เกิดขึ้นกะทันหัน จะลืมก็มีเหตุผลให้อภัยได้ อีกอย่าง ไทเฮาพาพ่อครัวมาจากวังด้วยมิใช่หรือ?” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยอย่างเดือดดาล“เรื่องเกิดขึ้นกะทันหัน เช่นนั้นขอถามฮูหยินผู้เฒ่า ท่านรับมื้อเย็นแล้วหรือ? ไทเฮาเสด็จออกจากวัง เหตุใดต้องพาพ่อครัวมาด้วย? หรือเบื้องหลังจะมีจุดใดที่ควรแก่การพิจารณาเชิงลึก? แต่ไหนแต่ไรข้าไม่ก้าวก่ายเรื่องของผู้อื่น แต่... พฤติกรรมเช่นนี้ของฮูหยินผู้เฒ่า พฤติกรรมเช่นนี้ของจวนตระกูลหลง จะรังแกคนเกินไปหรือไม่?!”ใต้เท้าหลี่รู้สึกสลดใจนัก ไทเฮาผู้ทรงเกียรติแห่งแคว้นต้าโจวเสด็จออกจากวัง แม้แต่ข้าวปลาอาหารก็ยังไม่ได้กิน ยังถูกคนบ้านมารดาลอบสังหารอีก นี่มันโลกธรรมอันใดกันแน่?ฮูหยินผู้เฒ่าปากแข็งเสมอมา ยามนี้ก็ปราศจากถ้อยคำโต้แย้งเช่นกัน ได้แต่มองใต้เท้าหลี่ด้วยความเคียดแค้นจ่านเหยียนใช้ดวงตาเศร้าสร้อยด

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 165

    แม้นจิตใจมีความเมตตาสักนิด ก็ไม่ควรมีลักษณะนิสัยที่ขัดกันเช่นนี้“ฮูหยินผู้เฒ่ามิได้มองข้าผิดไป แต่ดูเบาข้า ท่านนึกว่าสามารถควบคุมทุกอย่างได้ทั้งหมด กลับไม่รู้ว่าข้าไม่เห็นความคิดน้อยนิดนั้นของท่านอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ ท่านทุ่มเทวางแผนคิดจะกำจัดข้าให้ได้ ข้ากลับผลักพวกท่านสกุลหลงเข้าสู่หมื่นเคราะห์มิอาจหวนคืนได้ด้วยแรงเป่าละออง วันนี้ที่พวกท่านมิได้ถูกประหารฆ่าล้างโคตร มิใช่เพราะข้าใจอ่อน แต่เพราะข้ารู้สึกว่าผลลัพธ์เช่นนี้จึงจะดีกับท่านและหลงฉางเทียนที่สุด”วาจาของจ่านเหยียนเบาราวกับสายลมคืนวสันต์ อ่อนโยนและ...หนาวเหน็บปานเสียงที่พัดผ่านต้นอูถงฮูหยินผู้เฒ่าหัวใจหนักอึ้ง ไม่รู้ว่าจะทำความเข้าใจอย่างไร กลับขนลุกเกรียวกราวไปทั้งตัวนางนึกถึงสมัยสี่สิบกว่าปีก่อน นางติดตามสามีออกรบ ครั้งนั้นสถานการณ์อันตรายเป็นพิเศษ พ่ายศึกติดต่อกันห้าครั้ง ทัพใหญ่เรือนแสนเหลือเพียงสามหมื่น ส่วนฝ่ายศัตรูกลับไล่บี้ด้วยกำลังพลสองแสนในคืนก่อนสู้ศึก นางรู้สึกกลัวมาก เพราะนางรู้ว่าสามหมื่นปะทะกับสองแสนคือการเอาไข่ไปกระทบกับหินอย่างมิต้องสงสัย ต้องตายแน่และในคืนนั้นเอง นางทำร้ายสามีที่กำลังหลับสนิท ตามด้วยบ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 166

    เพราะคำพูดของฮูหยินผู้เฒ่า จ่านเหยียนนิ่งไปนานกว่าจะคืนสตินางเดินวนอยู่กับพื้น รู้สึกในหัวมีไฟโกรธพวยพุ่งขึ้นมาไม่หยุด รู้สึกเหมือนตัวเองจะถูกไฟเผาไหม้อยู่แล้ว“อาซาน อาซาน!” นางตะโกนออกไปข้างนอกอาซานเดินพรวดพราดเข้ามา กระบี่ยาวออกจากฝักดังชิ้ง กวาดสายตาดุจสายฟ้ามองทุกซอกทุกมุม“เกิดอันใดขึ้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?” ครั้นเห็นว่าไม่มีนักฆ่า อาซานจึงเก็บกระบี่เข้าฝักแล้วถามจ่านเหยียนจ่านเหยียนมองเขาด้วยสายตาที่ลุกเป็นไฟ “ถอดรองเท้า!”นางเดินไปหยิบกระดาษขาวบนโต๊ะ แล้วใช้กรรไกรตัดเป็นรูปคน ครั้นเห็นอาซานยังยืนอึ้งไม่ถอดรองเท้าก็สับขาเดินไปดึงเท้าของเขา “ถอดรองเท้าสิ!”อาซานเดินถอยหลังสองก้าว “จะทำอันใด๋หรือพ่ะย่ะค่ะ?”“ถอด!” จ่านเหยียนเอ่ยด้วยโทสะอาซานสงบจิตใจครู่หนึ่ง “เช่นนั้น... คุณหนูใหญ่อุดพระนาสิกไว้นะพ่ะย่ะค่ะ” กล่าวจบจึงถอดรองเท้ากลิ่นปลาเค็มขึ้นราปะทะใบหน้ามา ทำจนจ่านเหยียนอาเจียนแห้งพักหนึ่ง ก่อนจะเอามือขยี้ดวงตาที่ถูกกลิ่นรมจนแสบไปหมดแล้วนางเซถอยหลังเนือง ๆ อุดจมูกแล้วตะคอกไปอย่างไร้เรี่ยวแรง “เร็ว! ใส่รองเท้า! หายใจไม่ออกแล้ว!” นางเปิดหน้าต่างออกหมดแล้วชะโงกศีรษะออกไปหอ

Pinakabagong kabanata

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 276

    ทั้งสองจะยอมหรือ? จึงบอกจะเข้าไปพูดกับจิ้นหรูกูกู หรูหัวกลับหน้าขรึม “พวกเจ้าเห็นตำหนักชิงหนิงคือสถานที่ใด? พวกเจ้าอยากเข้าก็เข้าได้ตามใจชอบหรือ?”อาถงข่มอารมณ์โกรธ กล่าวขอร้อง “กูกูอย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลย พวกเราก็ทำงานตามคำสั่ง หากเชิญจิ้นหรูกูกูกลับไปไม่ได้ หมู่โฮ่วฮองไทเฮาต้องพาลมาถึงเราแน่ กูกูคงไม่อยากเห็นพวกเราถูกลงโทษกระมัง?”“พวกเจ้าถูกลงโทษหรือไม่ เกี่ยวอันใดกับข้า? ข้าแค่ฟังคำสั่งของเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาเท่า...”อาถงกับอาเถี่ยรีบฉวยโอกาสตอนที่หรูหัวพูดบุกเข้าไปเพียงแต่ทั้งสองเพิ่งวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกองครักษ์สองสามคนขวางเอาไว้“บุกรุกตำหนักของไทเฮา พวกเจ้ามีกี่ชีวิต? เอาตัวไป!” หรูหัวเอ่ยเสียงกร้าวกระบี่หลายเล่มพาดอยู่ตรงลำคอของอาถงกับอาเถี่ย ทั้งสองไม่กล้าต่อต้าน จึงได้แต่หันไปมองหรูหัวและเอ่ย “กูกู พวกเรามิได้จงใจบุกรุก กูกูโปรดเมตตา อนุญาตให้เราไปพบจิ้นหรูกูกูหน่อยเถอะ”หรูหัวหัวเราะเสียงเย็น ส่งสายตากับองครักษ์ “เอาตัวไป ขังอยู่ในห้องมืดก่อน”ห้องมืดใช้กักขังคนในตำหนักที่กระทำความผิดโดยเฉพาะ บ้างเข้าห้องมืดไม่กี่วันก็ออกมา แต่ทั่วไปแล้วมักมอบให้หัวหน้าขันทีในวั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 275

    ทั้งสองคิดไปก็มิใช่วิธี จึงให้จี๋เสียงกับหรูอี้ไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์หมู่โฮ่วฮองไทเฮา ตามจิ้นหรูกลับมาปรนนิบัติที่ตำหนักครั้นจี๋เสียง หรูอี้ไปถึงตำหนักชิงหนิงกลับเข้าไปไม่ได้ ได้แต่ให้ขันทีในตำหนักไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์ของหมู่โฮ่วฮองไทเฮาผ่านไปพักหนึ่ง หรูหัวก็ยิ้มตาหยีเดินออกมา “เซิ่งหมู่ฮองไทเฮากำลังเดินหมากกับจิ้นหรูกูกู นี่กำลังสนุกเลย จะอย่างไรเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาก็ไม่ยอมให้กูกูไป พวกเจ้าสองคนกลับไปทูลรายงานหมู่โฮ่วฮองไทเฮาว่าจะส่งคนกลับไปดึกหน่อยแล้วกัน”“อ๊าาา”เสียงร้องดังมาจากข้างในอีก จี๋เสียง หรูอี้สบตากันทีหนึ่ง สีหน้าเริ่มกังวลเล็กน้อยหรูหัวเอ่ยเรียบ “มีนางกำนัลคนหนึ่งไม่ทันระวังทำน้ำชาหกใส่หลังมือของจิ้นหรูกูกู นี่อย่างไร กำลังถูกโบยอยู่เลย”“แต่... เหตุใดเสียงนี้ฟังดูแล้วจึงเหมือนเสียงของจิ้นหรูกูกูล่ะ?” จี๋เสียงเอ่ยอย่างขลาด ๆ“เหลวไหลอันใด?” หรูหัวเปลี่ยนสีหน้าฉับพลัน “เจ้าจะบอกว่าเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาทรมาทรกรรมจิ้นหรูกูกูหรือ? ยังมิได้กล่าวถึงจิ้นหรูกูกูเป็นคนข้างพระวรกายของหมู่โฮ่วฮองไทเฮา แค่อดีตนางคือนางกำนัลคนสนิทของอดีตฮ่องเต้ ทั้งยังมีไมตรีกับเซิ่งหมู่ฮองไทเฮามาต

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 274

    จิ้นหรูหัวใจรัดแน่น สุดท้ายดวงตาก็ฉายความแตกตื่นออกมา “พระองค์คิดจะทำอันใดกันแน่เพคะ?”“ถามได้ดี!” ถงไทเฮาลุกขึ้นยืนช้า ๆ แล้วเดินก้าวหนึ่ง เหยียบหลังมือของจิ้นหรู ออกแรงขยี้ มองดูความทรมานบนใบหน้าของจิ้นหรู ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “เจ็บหรือ?”จิ้นหรูกัดฟัน “ไทเฮาจะลงโทษบ่าวอย่างไรก็ได้เพคะ”อย่างมากก็แค่ตาย ตายแล้วก็คือหลุดพ้น แต่... นางรู้ ถงไทเฮาแค้นนางที่สุด จะไม่ให้นางตายง่าย ๆ เด็ดขาด“ข้าได้ยินว่าคุกทักษิณมีทัณฑ์ทรมานมากมาย เพียงแต่ไม่รู้ว่าหากเทียบกับข้าที่นี่แล้ว จะเหนือกว่าหรือไม่? มิสู้จิ้นหรูกูกูช่วยข้าเปรียบเทียบสักหน่อย” ถงไทเฮาโน้มตัวลงเชยคางของจิ้นหรู มุมปากแย้มยิ้มชั่วร้ายเหี้ยมเกรียมเดิมรูปลักษณ์ก็มิได้งามวิไล ยามนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความดุดัน ยิ่งทำให้ดุร้ายอัปลักษณ์มากกว่าเดิมจิ้นหรูขวัญผวา ไม่กล้ามองดวงตากระหายเลือดของนาง จึงก้มหน้ากัดริมฝีปาก อดทนต่อความเจ็บที่ส่งมาถึงแต่... นี่ยังห่างไกลกับจุดสิ้นสุดหรูหัวยกตะปูมากะละมังหนึ่ง พวกมันมิใช่ตะปูเหล็ก แต่เป็นตะปูไม้ท้อทุกเล่มทำจากไม้ท้อ ส่วนปลายแหลมคมเงาวับ“ถ้าเจ้าร้องสักแอะ ข้าจะเพิ่มตะปูอีกเล่ม” ถงไทเฮาเอ่ย

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 273

    ด้วยประการละฉะนี้ ทุกคนจึงนึกว่าฮ่องเต้โปรดปรานแต่ฮองเฮา ทอดทิ้งวังหลังแม้นางสนมจะตำหนิไม่พอใจ แต่เพราะฮองเฮาคือคนสกุลถง จึงไม่มีใครกล้าพูดฮองเฮารูปโฉมไม่โดดเด่น กลับได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เพียงนี้ เห็นได้ว่าฮ่องเต้รักนางจริง ๆชั่วขณะ ฮองเฮาบารมีไร้ที่สิ้นสุด รั้งตำแหน่งฮองเฮา ทั้งยังมีความโปรดปรานของฮ่องเต้มั่นคงดั่งขุนเขา ทำให้สกุลถงเหิมเกริมมากขึ้นทุกวันเขาใช้การกระทำบอกนาง ในใจของเขามีแต่นางเท่านั้นสามสิบกว่าปีแล้ว นางเข้าวังในวัยสิบสอง บัดนี้สี่สิบสาม อดีตฮ่องเต้คือแผ่นฟ้าของนาง คือสามีของนาง คือนายของนางเขาจากไปก่อนนาง แม้นางจะเสียใจ แต่ก็มิได้แสดงออกว่าเสียใจมาก เพราะนางรู้ว่าเขากำลังรอนางอยู่ตรงนั้น สุดท้ายนางจะได้ไปพบกับเขานางรู้ ยามนี้ได้เวลาแล้ว“พูด!” หรูหัวดุดันขึ้นมา ตบหน้านางฉาดหนึ่งจิ้นหรูหน้าเอียงไปข้างหนึ่ง แก้มบวมขึ้นรอยประทับนิ้วมือทันทีจิ้นหรูคุกเข่าตัวตรง “บ่าวไม่มีอะไรจะพูดเพคะ”“เจ้ามอบความบริสุทธิ์ของเจ้าให้ผู้ใด?” ถงไทเฮาไม่แสดงออกว่าโกรธมาก ในทางกลับกัน นางพรูลมยาว ข้อกังขาที่เก็บอยู่ในใจนางยี่สิบกว่าปี กระจ่างแจ้งในที่สุด“บ่าวไม่ทร

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 272

    หรูหัวลากนางเข้าตำหนักชั้นในไปอย่างไม่ให้ปฏิเสธจิ้นหรูมองเสื้อผ้าบนฉากบังลมด้วยความประหลาดใจ เหตุใดหรูหัวจึงมีเสื้อผ้าวางอยู่ในตำหนักบรรทมของไทเฮาได้แต่นางมิได้ถาม เพราะถามแล้วก็คงไม่บอก นางมองเสื้อผ้านางกำนัลชุดนี้ มิได้สงสัยเรื่องอื่นก็เข้าไปเปลี่ยนชุดด้านหลังฉากบังลมนางเพิ่งถอดเสื้อผ้า หรูหัวก็เข้ามา “อุ๊ย ข้าลืมบอกเจ้าไป ชุดนี้เคยใส่แล้ว เปลี่ยนอีกชุดเถอะ!”นางยื่นชุดสีเหลืองอ่อนในมือให้จิ้นหรู พร้อมกับกวาดสายตามองบริเวณแขนของจิ้นหรูอย่างรวดเร็ว เมื่อนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย ก่อนจะออกไปจิ้นหรูเพิ่งแต่งตัวเสร็จก็มีหญิงสูงวัยดุดันเข้ามาสองคน ลากแขนจิ้นหรูคนละข้างออกไปข้างนอกจิ้นหรูตกตะลึงพรึงเพริดถามขึ้นว่า “นี่พวกเจ้าจะทำอะไรน่ะ?”หญิงสูงวัยสองคนนั้นลากนางไปแล้วผลักจนนางสะดุดล้มลงพื้น ถงไทเฮามองนางจากมุมสูง ดวงหน้าอ่อนโยนเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมอำมหิต“เซิ่งหมู่ฮองไทเฮา บ่าวทำอะไรผิดไปเพคะ?” จิ้นหรูหัวใจหนักอึ้ง แต่ยังสงบสติอารมณ์แล้วถาม“ทำอะไรผิด?” เสียงของถงไทเฮาราวกับส่งมาจากขุมนรก พกพากลิ่นอายเย็นยะเยือกชุ่มชื้น “แต้มพรหมจรรย์ของเจ้าเล่า?”จิ้นหรูหัวใจ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 271

    “ข้าได้ยินมา ทุกคืนนางจะเรียกนักดนตรีไปบรรเลงเพลง ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่?”“ทูลไทเฮา เรื่องนี้เกินไปหน่อยเพคะ หมู่โฮ่วฮองไทเฮาทรงเรียกพวกเขามาในยามวิกาลน้อยนัก!”รอยยิ้มของถงไทเฮาบานสะพรั่งมากขึ้นเรื่อย ๆ “ข้าก็รู้ว่าวังหลังมีปากหอยปากปูมาก จริงสิ ปกติเวลาอดีตฮ่องเต้ทรงสะสางราชกิจ ทรงโปรดทำอันใดหรือ?”หัวข้าสนทนาวกกลับมาเรื่องอดีตฮ่องเต้ จิ้นหรูลอบโล่งอก เวลาตอบคำถามจึงเป็นมิตรมากขึ้นบางส่วน “อดีตฮ่องเต้มีเวลาวางน้อยนัก แต่พระองค์โปรดอู้งานยามยุ่ง ทรงโปรดการเดินหมาก เสวยพระสุธารสชาเพคะ”“เดินหมาก? เดินกับผู้ใด?” ถงไทเฮาถาม“กับบ่าวเพคะ” จิ้นหรูยิ้มบาง “เพียงแต่ฝีมือการเดินหมากของบ่าวไม่ดี แพ้อยู่เรื่อยเลยเพคะ”“อดีตฮ่องเต้ทรงยินดีเดินหมากกับเจ้า แสดงว่าฝีมือการเดินหมากของเจ้าต้องดี” ถงไทเฮายิ้มเอ่ย “เจ้าอย่าได้ถ่อมตัวนักเลย วันหลังข้าจะเดินหมากกับเจ้าบ้าง เจ้าก็คลายเหงาให้ข้าหน่อย”“ขอเพียงไทเฮาโปรด บ่าวก็เดินหมากเป็นเพื่อนไทเฮาได้ทุกเมื่อเพคะ” จิ้นหรูกล่าวจากใจ“เจ้าช่างเป็นคนเข้าใจผู้อื่นแท้ ๆ มิน่าอดีตฮ่องเต้จึง ‘โปรดปราน’ เจ้าเช่นนี้” ถงไทเฮายิ้มเอ่ยคำพูดนี้ไม่มีอะไรพิเศษ ใ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 270

    ตำหนักชิงหนิงจิ้นหรูคุกเข่าลงคำนับ “ถวายพระพรเซิ่งหมู่ฮองไทเฮา”“ลุกขึ้นเถอะ จิ้นหรู” ถงไทเฮาแย้มยิ้มจิ้นหรูลุกขึ้นยืนก้มหน้าแล้วไปยืนอยู่ด้านข้าง“ไม่ต้องเกร็งไป วันนี้ที่ข้าเรียกเจ้ามา เพราะอยู่ ๆ ก็นึกถึงอดีตฮ่องเต้ อดีตฮ่องเต้เคยรับสั่งว่าทักษะการชงชาของเจ้าเป็นหนึ่งในใต้หล้า เจ้าจะชงให้ข้าสักครั้งได้หรือไม่?” ถงไทเฮากล่าวขอด้วยใบหน้าราบเรียบ“เพคะ!” จิ้นหรูขานรับ“หรูหัว ไปเตรียมเครื่องชงชา” ถงไทเฮาสั่งหรูหัวขานรับแล้วจึงออกไปถงไทเฮาปรายตามองจิ้นหรู วันนี้นางสวมชุดสีครามปักลายใบไม้ไผ่สีแดงเข้ม มิได้ผัดแป้ง แม้อายุล่วงเลยสี่สิบ กลับยังสง่าเรียบง่ายจิ้นหรูไม่เคยคลอดลูก จึงดูอ่อนเยาว์กว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกันมิได้เลอโฉม กลับมีท่วงทำนองอย่างหนึ่งหรูหัวยกเครื่องชงชามา นางมองการต้มน้ำ ล้างชา ล้างถ้วย รินน้ำชาอย่างสง่างามของจิ้นหรูยังไม่พูดถึงฝีไม้ลายมือที่สง่างาม แต่ขณะนางชงชาจะมีสมาธิมาก ยามที่คนคนหนึ่งจดจ่ออยู่กับเรื่องหนึ่ง จะมีเสน่ห์ชวนหลงใหลเป็นพิเศษในฐานะที่ถงไทเฮาคือสตรีก็รู้สึกถึงมนตร์เสน่ห์น่าหลงใหลนี้เหมือนกัน“อดีตฮ่องเต้โปรดเสวยพระสุธารสชาอะไรหรือ?” นา

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 269

    ถงไทเฮาถอนตายตากลับช้า ๆ ก็จริง นับจากหรูหัวเข้าวังก็อยู่ข้างตัวนางมาตลอด รวมแล้วอดีตฮ่องเต้เคยมองนางเพียงไม่กี่ครั้ง แม้แต่ชื่อของนางก็ยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำที่สำคัญที่สุดคือ แม้หน้าตาของหรูหัวจะพอใช้ได้ แต่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับคำว่า ‘สวย’ เด็ดขาด“ในฐานะที่เป็นบุตรสาวสกุลถง ตั้งแต่ข้าเกิดมาก็ใช้ชีวิตเหมือนพญาหงส์ แล้วยังจะสูงศักดิ์ยิ่งกว่าองค์หญิงเสียด้วยซ้ำ หลังจากเข้าวังก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นฮองเฮา เกียรติยศไร้ขีดจำกัด แต่... นี่ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ให้คนอื่นดู สิ่งที่ข้าต้องการ ก็แค่สายตาอาวรณ์หนึ่งของอดีตฮ่องเต้ เมื่อไม่ได้มา ข้าก็ไม่อยากให้ผู้ใดได้มันไปทั้งนั้น ไม่ว่านางจะอยู่หรือตาย ข้าก็ต้องรู้ว่านางคือใคร”ถงไทเฮาพูดเนิบช้ามาก แต่... มีความโหดเหี้ยมทุกถ้อยคำหรูหัวพิจารณาอย่างละเอียดครู่หนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นพึ่บ “เสี่ยวหรู? คนที่ปรนนิบัติอดีตฮ่องเต้ในตำหนักในสมัยก่อน มีคนหนึ่งที่ชื่อจิ้นหรูเพคะ”“จิ้นหรู? ไม่ใช่นาง” ถงไทเฮาส่ายหน้า “นางโตมากับอดีตฮ่องเต้ ถูกส่งไปปรนนิบัติข้างพระวรกายอดีตฮ่องเต้นานแล้ว หากนางคือคนที่อดีตฮ่องเต้โปรดปราน ไยไม่แต่งตั้งนางเป็นสนมเล่า?”หรูหัวคิ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 268

    ฮองเฮาส่ายหน้า “ไม่ ซูอี้จะกล้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร เขาไม่กลัวว่า...” ความกลัวเริ่มปกคลุมใบหน้าของนาง และไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย“ถ้าเจ้ายังอยากรักษาชีวิตพ่อของเจ้าเอาไว้ ก็ไปหาฮ่องเต้” ถงไทเฮากล่าวอย่างแค้นที่เหล็กไม่เป็นเหล็กกล้าเทียบกับสมัยก่อน ถงไทเฮาเติบโตและรู้ความมากแล้ว เมื่อก่อนนางไม่เข้าใจ เหตุใดเสด็จแม่จึงไม่เข้าใจนาง เหตุใดมักให้นางทำเรื่องที่ลำบากใจ บัดนี้นางรู้แล้ว มีเพียงให้ตัวเองลำบาก สกุลถงจึงจะมั่นคงในใจของคนสกุลถง ชื่อเสียงและความมั่นคงของวงศ์ตระกูลสำคัญที่สุดเสมอ นางรู้ว่าตอนนี้ถงเหยียนยังไม่ตระหนักในจุดนี้ แต่นางจะเข้าใจในไม่ช้าก็เร็ว ความน้อยเนื้อต่ำใจในเวลานี้นับเป็นอันใด? ภายภาคหน้ายามสกุลถงกับสกุลมู่หรงแบ่งใต้ฟ้า นางจะรู้ว่าความอยุติธรรมทั้งหลายที่ได้รับในวันนี้คุ้มค่าดวงหน้าไฉไลของฮองเฮาประเดี๋ยวเขียวประเดี๋ยวขาว ที่เจืออยู่ในดวงตาคือน้ำตาแห่งความน้อยใจ “เหตุใดต้องให้ข้าไปช่วยด้วยเจ้าคะ? ท่านสั่งคำเดียวก็ได้แล้วนี่ กลับต้องให้ข้าวุ่นวายกับเรื่องพวกนี้”ถงไทเฮานวดศีรษะ รู้สึกว่าความอึดอัดสายหนึ่งพุ่งขึ้นสมอง นางอยากระเบิดอารมณ์ แต่สุดท้ายก็ส่ายหน้าและเอ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status