Share

บทที่ 164

Author: ลิ่วเยว่
ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นเสียงทีหนึ่ง แล้วถึงกลับเอ่ยขึ้นมาอย่างหัวเสีย “จวนแม่ทัพข้าอบรมดี ในฐานะที่เป็นหลานสาว จะกตัญญูต่ออาสะใภ้ก็สมควรแล้วมิใช่หรือ?”

ใต้เท้าหลี่เอ่ย “สมัยก่อนเป็นอย่างไร ข้าไม่มีสิทธิ์ถาม แต่ตอนนี้เล่า? ที่ให้ไทเฮาทรงหิวก็เพราะกตัญญูหรือ?”

“เรื่องในคืนนี้เกิดขึ้นกะทันหัน จะลืมก็มีเหตุผลให้อภัยได้ อีกอย่าง ไทเฮาพาพ่อครัวมาจากวังด้วยมิใช่หรือ?” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยอย่างเดือดดาล

“เรื่องเกิดขึ้นกะทันหัน เช่นนั้นขอถามฮูหยินผู้เฒ่า ท่านรับมื้อเย็นแล้วหรือ? ไทเฮาเสด็จออกจากวัง เหตุใดต้องพาพ่อครัวมาด้วย? หรือเบื้องหลังจะมีจุดใดที่ควรแก่การพิจารณาเชิงลึก? แต่ไหนแต่ไรข้าไม่ก้าวก่ายเรื่องของผู้อื่น แต่... พฤติกรรมเช่นนี้ของฮูหยินผู้เฒ่า พฤติกรรมเช่นนี้ของจวนตระกูลหลง จะรังแกคนเกินไปหรือไม่?!”

ใต้เท้าหลี่รู้สึกสลดใจนัก ไทเฮาผู้ทรงเกียรติแห่งแคว้นต้าโจวเสด็จออกจากวัง แม้แต่ข้าวปลาอาหารก็ยังไม่ได้กิน ยังถูกคนบ้านมารดาลอบสังหารอีก นี่มันโลกธรรมอันใดกันแน่?

ฮูหยินผู้เฒ่าปากแข็งเสมอมา ยามนี้ก็ปราศจากถ้อยคำโต้แย้งเช่นกัน ได้แต่มองใต้เท้าหลี่ด้วยความเคียดแค้น

จ่านเหยียนใช้ดวงตาเศร้าสร้อยด
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 165

    แม้นจิตใจมีความเมตตาสักนิด ก็ไม่ควรมีลักษณะนิสัยที่ขัดกันเช่นนี้“ฮูหยินผู้เฒ่ามิได้มองข้าผิดไป แต่ดูเบาข้า ท่านนึกว่าสามารถควบคุมทุกอย่างได้ทั้งหมด กลับไม่รู้ว่าข้าไม่เห็นความคิดน้อยนิดนั้นของท่านอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ ท่านทุ่มเทวางแผนคิดจะกำจัดข้าให้ได้ ข้ากลับผลักพวกท่านสกุลหลงเข้าสู่หมื่นเคราะห์มิอาจหวนคืนได้ด้วยแรงเป่าละออง วันนี้ที่พวกท่านมิได้ถูกประหารฆ่าล้างโคตร มิใช่เพราะข้าใจอ่อน แต่เพราะข้ารู้สึกว่าผลลัพธ์เช่นนี้จึงจะดีกับท่านและหลงฉางเทียนที่สุด”วาจาของจ่านเหยียนเบาราวกับสายลมคืนวสันต์ อ่อนโยนและ...หนาวเหน็บปานเสียงที่พัดผ่านต้นอูถงฮูหยินผู้เฒ่าหัวใจหนักอึ้ง ไม่รู้ว่าจะทำความเข้าใจอย่างไร กลับขนลุกเกรียวกราวไปทั้งตัวนางนึกถึงสมัยสี่สิบกว่าปีก่อน นางติดตามสามีออกรบ ครั้งนั้นสถานการณ์อันตรายเป็นพิเศษ พ่ายศึกติดต่อกันห้าครั้ง ทัพใหญ่เรือนแสนเหลือเพียงสามหมื่น ส่วนฝ่ายศัตรูกลับไล่บี้ด้วยกำลังพลสองแสนในคืนก่อนสู้ศึก นางรู้สึกกลัวมาก เพราะนางรู้ว่าสามหมื่นปะทะกับสองแสนคือการเอาไข่ไปกระทบกับหินอย่างมิต้องสงสัย ต้องตายแน่และในคืนนั้นเอง นางทำร้ายสามีที่กำลังหลับสนิท ตามด้วยบ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 166

    เพราะคำพูดของฮูหยินผู้เฒ่า จ่านเหยียนนิ่งไปนานกว่าจะคืนสตินางเดินวนอยู่กับพื้น รู้สึกในหัวมีไฟโกรธพวยพุ่งขึ้นมาไม่หยุด รู้สึกเหมือนตัวเองจะถูกไฟเผาไหม้อยู่แล้ว“อาซาน อาซาน!” นางตะโกนออกไปข้างนอกอาซานเดินพรวดพราดเข้ามา กระบี่ยาวออกจากฝักดังชิ้ง กวาดสายตาดุจสายฟ้ามองทุกซอกทุกมุม“เกิดอันใดขึ้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?” ครั้นเห็นว่าไม่มีนักฆ่า อาซานจึงเก็บกระบี่เข้าฝักแล้วถามจ่านเหยียนจ่านเหยียนมองเขาด้วยสายตาที่ลุกเป็นไฟ “ถอดรองเท้า!”นางเดินไปหยิบกระดาษขาวบนโต๊ะ แล้วใช้กรรไกรตัดเป็นรูปคน ครั้นเห็นอาซานยังยืนอึ้งไม่ถอดรองเท้าก็สับขาเดินไปดึงเท้าของเขา “ถอดรองเท้าสิ!”อาซานเดินถอยหลังสองก้าว “จะทำอันใด๋หรือพ่ะย่ะค่ะ?”“ถอด!” จ่านเหยียนเอ่ยด้วยโทสะอาซานสงบจิตใจครู่หนึ่ง “เช่นนั้น... คุณหนูใหญ่อุดพระนาสิกไว้นะพ่ะย่ะค่ะ” กล่าวจบจึงถอดรองเท้ากลิ่นปลาเค็มขึ้นราปะทะใบหน้ามา ทำจนจ่านเหยียนอาเจียนแห้งพักหนึ่ง ก่อนจะเอามือขยี้ดวงตาที่ถูกกลิ่นรมจนแสบไปหมดแล้วนางเซถอยหลังเนือง ๆ อุดจมูกแล้วตะคอกไปอย่างไร้เรี่ยวแรง “เร็ว! ใส่รองเท้า! หายใจไม่ออกแล้ว!” นางเปิดหน้าต่างออกหมดแล้วชะโงกศีรษะออกไปหอ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 167

    “อื่ม!” ไทฮองไทเฮานั่งอยู่บนเก้าอี้ที่จี๋เสียงยกมาและมองจ่านเหยียนด้วยสายตาเย็นชาเล็กน้อยอย่างสงบสายตาของนางเย็นจัด แค่นั่งอยู่อย่างนี้ก็มีพลังแข็งแกร่งแล้ว นางอยากใช้พลังนี้กดดันจ่านเหยียน แล้วค่อยพูดกับนางจ่านเหยียนมองนางอย่างไม่กริ่งเกรงสักนิด เมื่ออยู่ต่อหน้านาง พลังแข็งแกร่งของไทฮองไทเฮาราวกับไม่เกิดประสิทธิผลแม้แต่น้อยไทฮองไทเฮาเอ่ยปากเรียบ “ข้าได้ยินเรื่องที่เจ้าอยู่ในจวน เรื่องที่เจ้าชี้และพิสูจน์เรื่องระหว่างแม่ของเจ้ากับรองแม่ทัพหลี่แล้ว”“อ้อ เรื่องนี้เองหรือเพคะ!” จ่านเหยียนยิ้ม ไทฮองไทเฮาไม่เคยได้ยินเรื่องที่นางถูกลอบฆ่าเลยหรือ? เห็นชัดว่าไม่ใช่ แต่นางมิได้สนใจประเด็นนี้“เจ้ารู้สึกว่าไม่สำคัญหรือ?” ไทฮองไทเฮากลีบปากบางคลี่ยิ้มเย็น มองนางด้วยสายตาถากถาง“เสด็จแม่ทรงรู้สึกว่าอย่างไรเพคะ?”“เจ้าควรรู้ ชื่อเสียงของสตรีสำคัญกว่าทุกสิ่ง”จ่านเหยียนแย้มยิ้ม “ในสายตาของหม่อมฉัน ไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่าชีวิตเพคะ”“นั่นคือสิ่งที่เจ้าคิด มิใช่สตรีใต้หล้าจะคิดเช่นนี้ทั้งหมด” ไทฮองไทเฮาจ้องนางและเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชืด“หม่อมฉันไม่สนว่าสตรีใต้หล้าจะคิดอย่างไร หม่อมฉันรู้เพี

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 168

    ฮุ่ยอวิ่นปรึกษาหารือการรับมือกับฉีชินอ๋องในจวน เวลานี้ไม่ว่าเรื่องใดก็ไม่สำคัญแล้ว ที่สำคัญคือต้องทำอย่างไรจึงจะรักษาชีวิตของมู่หรงฉิงเทียนได้“ไปเชิญพระอาจารย์เป่ากวงมา!” ฮุ่ยอวิ่นสั่งกับอาซิ่นอาซิ่นขานรับก็ออกจากเรือน พร้อมปิดล้อมเรือนหลิงอวิ๋นซึ่งเป็นที่พักของมู่หรงฉิงเทียนเอาไว้จะให้เรื่องที่ท่านอ๋องเกิดเรื่องแพร่งพรายออกไปไม่ได้เด็ดขาด“นี่จะทำอย่างไรดี?” ฉีชินอ๋องจนหนทางแล้วเหมือนกัน ครั้นเห็นคนนอนหมดสติอยู่บนเตียง หัวใจของเขาก็ราวกับมีมีดกรีด หลายปีก่อนเขาเคยสูญเสียเสด็จพี่ไปหนหนึ่งแล้ว ตอนนี้จะต้องเกิดเรื่องซ้ำสองอีกหรือ?ไม่ ลำบากนักกว่าเขาจะรอดต่อไปได้“ลองถามพระอาจารย์เป่ากวงก่อนเถอะพ่ะย่ะค่ะ” ฮุ่ยอวิ่นเอ่ยด้วยความกังวล“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ไปได้?” ฉีชินอ๋องถามฮุ่ยอวิ่นฮุ่ยอวิ่นเล่าเรื่องรอบหนึ่ง ก่อนจะกัดฟันเอ่ยว่า “หากรู้ว่าฟางจี้จื่อนั่นจะเชื่อถือไม่ได้เช่นนี้ พูดอย่างไรข้าก็ไม่เห็นด้วยให้ยืนวิญญาณมังกรไปเด็ดขาด!”“เขาไปกำจัดปีศาจที่ไหน?” ฉีชินอ๋องเอ่ย“ตอนที่เขาไป ข้าสั่งให้คนสะกดรอยตามเขา เขาเข้าจวนตระกูลหลง ภายหลังได้ยินว่าปีศาจจิ้งจอกเข้าสิงร่างไทเฮา กำจั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 169

    เขาไม่กล้าเปิดเผยตัวตนของจ่านเหยียน แต่เขารู้สึกว่าที่จ่านเหยียนปรากฏตัวในเมืองหลวงด้วยอีกตัวตนหนึ่ง จะต้องมีเหตุผลแน่ บางที... นางอาจยอมช่วยมู่หรงฉิงเทียนด้วยตัวตนหลงอู่ก็เป็นได้“แค่ ‘อาจจะ’? มิใช่ ‘แน่นอน’ หรือ? เช่นนั้นท่านนั้นที่ท่านบอกเมื่อครู่คือใคร?” ฮุ่ยอวิ่นถามต่อ“ไม่จำเป็นต้องพิจารณาท่านนั้นแล้ว” พระอาจารย์เป่ากวงเอ่ย“หัวใจคนทำจากเนื้อ เชื่อว่าไม่มีผู้ใดที่หนักแน่นดั่งหินผา” ฮุ่ยอวิ่นเอยพระอาจารย์เป่ากวงส่ายหน้า “คนผู้นี้หากอยู่บนโลกมนุษย์ก็มีอายุถึงสามร้อยปีแล้ว มีอายุมากกว่าอาตมา อาตมาได้ยินว่าบรรพบุรุษของคุณชายหลงอู่มีความเชื่อมโยงกับเขาอยู่บ้าง อีกทั้งคุณชายหลงอู่ยังเชี่ยวชาญศาสตร์นี้ ดังนั้นอาตมาขอเสนอให้คุณชายรีบตามหาเขาเถอะ”“อายุสามร้อยกว่าปี?” ฉีชินอ๋องสบตากับฮุ่ยอวิ่น ในดวงตามีความผิดหวังอยู่ลึก ๆ อายุสามร้อยกว่าปี นั่นยังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ที่ไหน? กลัวแต่ไปเกิดใหม่นานแล้ว“ข้าเคยได้ยินคุณชายหลงอู่มาก่อน แต่เขามิใช่พวกเสเพลหรอกหรือ? พระอาจารย์แน่ใจหรือว่าเขาเชื่อถือได้?” ฮุ่ยอวิ่นถาม“อย่าได้ดูถูกคนที่ภายนอกสนุกสนานร่าเริง บางทีพวกเขาอาจจะคมในฝัก ใช้อีกโฉ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 170

    ฮุ่ยอวิ่นมีกะจิตกะใจคิดเรื่องนี้ที่ไหนกัน แต่ในเมื่อฉีชินอ๋องหลงเอ่ยถึง เขาจึงคิดสักหน่อยแล้วตอบว่า “กล่าวตามตรง ไทเฮาต่างจากจ่านเหยียนที่พวกเรารู้มาเมื่อก่อนหน้านี้มาก บางทีนางอาจเป็นปีศาจจริง ๆ ก็ได้”“แต่... ปีศาจจิ้งจอกถูกกำจัดแล้ว” ฉีชินอ๋องต้องฮุ่ยอวิ่นตาเขม็ง“อื่ม!” ฮุ่ยอวิ่นพยักหน้า“แต่... แน่ใจหรือว่ามีปีศาจจิ้งจอก? เรื่องนี้จะเหลวไหลเกินไปแล้ว”ฮุ่ยอวิ่นนิ่งงันครู่หนึ่ง “โลกกว้างใหญ่ไพศาล มีเรื่องอัศจรรย์มากมาย สิ่งที่พวกเราไม่รู้ ไม่หมายถึงว่าไม่มีอยู่จริง”ฉีชินอ๋องหดหู่ใจ “หากยึดตามการพูดของเจ้า เช่นนั้นก็คือมีปีศาจจิ้งจอกอยู่จริง ๆ ยามนี้ปีศาจจิ้งจอกถูกกำจัดแล้ว เช่นนั้นหลงจ่านเหยียนจะกลับไปเป็นลูกอนุที่ขี้ขลาดเหมือนมุสิกเช่นเมื่อก่อนนี้หรือไม่?”“ก็เป็นไปได้!” ฮุ่ยอวิ่นตอบแบบใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว บางทีนี่อาจเป็นเรื่องดี อย่างน้อยก็ควบคุมง่ายไทเฮาที่เขารู้จักในเวลานี้ปราดเปรื่องเกินไป จิตใจล้ำลึกเกินไป แม้จะมีด้านดีอยู่ กลับไม่สามารถใช้ประโยชน์จากนางได้ง่ายแต่การพูดเรื่องพวกนี้ในเวลาเช่นนี้จะมีความหมายอันใด? หากพี่ชายเกิดเรื่อง แผนการทุกอย่างก็จบสิ้นลงแล้ว

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 171

    ฮุ่ยอวิ่นถามอย่างร้อนใจ “พระอาจารย์ เป็นอย่างไรบ้างขอรับ?”พระอาจารย์เป่ากวงตอบเสียงเบา “อย่าเสียงดัง ท่านอ๋องเพิ่งฟื้น รอให้เขารวบรวมพลังสักหน่อยแล้วค่อยเข้าไป”“ได้ เช่นนี้ตอนนี้เขาปลอดภัยแล้วใช่หรือไม่” ฉีชินอ๋องถามพระอาจารย์เป่ากวงส่ายหน้า เอามือเช็ดเม็ดเหงื่อบนหน้าผาก “หากยังไม่มีใครช่วยเขาในหนึ่งเดือน อาตมาก็จนหนทางแล้ว”ฮุ่ยอวิ่นชายตามองเขา “พระอาจารย์ ข้าขอร้องท่านเรื่องหนึ่ง”“อาตมารู้ คุณชายวางใจเถอะ อาตมาจะไม่แพร่งพรายออกไปอย่างแน่นอน” พระอาจารย์เป่ากวงรับประกัน“เช่นนั้นก็ดี!” ฮุ่ยอวิ่นพยักหน้า สีหน้าเจ็บปวดหนักใจเล็กน้อยแม้เวลานี้จะไม่ใช่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ แต่ยามนี้ขุนนางบุ๋นบู๊ทั้งราชสำนักมีหลาย ๆ คนที่เข้าร่วมกับท่านอ๋องแล้ว มีกำลังเพียงพอจะต้านทานสกุลถง ขาดอีกก้าวเดียว ต้องการแค่เงินทุนที่เพียงพอก็จะถอนรากถอนโคนราชครูถงได้แล้ว กลับมาเกิดข้อผิดพลาดในตอนนี้ หากภายนอกรู้ เกรงแต่คนที่ยังไม่มั่นคงกับจุดยืนจะหันไปเข้ากับอีกฝ่าย“แม้เวลานี้ท่านอ๋องจะปลอดภัย แต่ทุกคืนเมื่อถึงยามโฉ่ว ช่วงสองชั่วยามนี้ไอของจันทร์หยินจะรุนแรงที่สุด เขาจะทรมานมาก” พระอาจารย์เป่ากวงเอ่ย

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 172

    ฉีชินอ๋องเอ่ย “ได้ ประเดี๋ยวข้าจะเข้าวัง”“ฟางจี้จื่อเอาวิญญาณมังกรไปกำจัดปีศาจที่ไหนหรือ?” มู่หรงฉิงเทียนถามฮุ่ยอวิ่นฮุ่ยอวิ่นตอบ “จวนตระกูลหลง เขาบอกว่าปีศาจจิ้งจอกสิงร่างหลงจ่านเหยียน ปีศาจจิ้งจอกถูกกำจัดไปแล้ว แต่วิญญาณมังกรก็กลายเป็นผุยผงไปแล้วเหมือนกัน”ทันใดนั้นสายตาเย็นชาคมกริบของมู่หรงฉิงเทียนก็ตกอยู่บนใบหน้าของฮุ่ยอวิ่น “เช่นนั้น... หลงจ่านเหยียนตายแล้วหรือ?”ฉีชินอ๋องตอบแทน “ยัง แต่นิสัยคงกลับไปเป็นหลงจ่านเหยียนที่ขี้ขลาดคนก่อนแล้ว”มู่หรงฉิงเทียนเงียบงัน สายตากลับเย็นชามากขึ้น“เทียน พระอาจารย์เป่ากวงบอกว่าทุกคืนเจ้าจะถูกไอหยินแว้งกัด...”มู่หรงฉิงเทียนขัดคำพูดของเขา “ข้ารู้ ก็เหมือนกับตอนแรก ข้าทนได้” แต่นึกถึงความทรมานปอดฉีกหัวใจแหลกลาญแบบนั้นแล้ว เขายังสั่นขึ้นมาเล็กน้อย“พระอาจารย์เป่ากวงบอกว่าหลงอู่ช่วยท่านได้ ข้าต้องตามตัวหลงอู่มาได้แน่” ฮุ่ยอวิ่นพูดอย่างปวดใจเล็กน้อยมู่หรงฉิงเทียนหัวเราะเสียงเย็น “ช่างเถอะ อย่าฝืนเลย คุณชายอายุน้อยคนหนึ่ง ไม่เห็นจะมีความสามารถเช่นนี้”สมควรจบลงแล้ว แม้จะไม่ใช่เวลา แต่การอยู่ด้วยร่างที่ตายไปแล้วเช่นนี้ ช่างทำให้เขาผิดหวังจ

Pinakabagong kabanata

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 276

    ทั้งสองจะยอมหรือ? จึงบอกจะเข้าไปพูดกับจิ้นหรูกูกู หรูหัวกลับหน้าขรึม “พวกเจ้าเห็นตำหนักชิงหนิงคือสถานที่ใด? พวกเจ้าอยากเข้าก็เข้าได้ตามใจชอบหรือ?”อาถงข่มอารมณ์โกรธ กล่าวขอร้อง “กูกูอย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลย พวกเราก็ทำงานตามคำสั่ง หากเชิญจิ้นหรูกูกูกลับไปไม่ได้ หมู่โฮ่วฮองไทเฮาต้องพาลมาถึงเราแน่ กูกูคงไม่อยากเห็นพวกเราถูกลงโทษกระมัง?”“พวกเจ้าถูกลงโทษหรือไม่ เกี่ยวอันใดกับข้า? ข้าแค่ฟังคำสั่งของเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาเท่า...”อาถงกับอาเถี่ยรีบฉวยโอกาสตอนที่หรูหัวพูดบุกเข้าไปเพียงแต่ทั้งสองเพิ่งวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกองครักษ์สองสามคนขวางเอาไว้“บุกรุกตำหนักของไทเฮา พวกเจ้ามีกี่ชีวิต? เอาตัวไป!” หรูหัวเอ่ยเสียงกร้าวกระบี่หลายเล่มพาดอยู่ตรงลำคอของอาถงกับอาเถี่ย ทั้งสองไม่กล้าต่อต้าน จึงได้แต่หันไปมองหรูหัวและเอ่ย “กูกู พวกเรามิได้จงใจบุกรุก กูกูโปรดเมตตา อนุญาตให้เราไปพบจิ้นหรูกูกูหน่อยเถอะ”หรูหัวหัวเราะเสียงเย็น ส่งสายตากับองครักษ์ “เอาตัวไป ขังอยู่ในห้องมืดก่อน”ห้องมืดใช้กักขังคนในตำหนักที่กระทำความผิดโดยเฉพาะ บ้างเข้าห้องมืดไม่กี่วันก็ออกมา แต่ทั่วไปแล้วมักมอบให้หัวหน้าขันทีในวั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 275

    ทั้งสองคิดไปก็มิใช่วิธี จึงให้จี๋เสียงกับหรูอี้ไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์หมู่โฮ่วฮองไทเฮา ตามจิ้นหรูกลับมาปรนนิบัติที่ตำหนักครั้นจี๋เสียง หรูอี้ไปถึงตำหนักชิงหนิงกลับเข้าไปไม่ได้ ได้แต่ให้ขันทีในตำหนักไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์ของหมู่โฮ่วฮองไทเฮาผ่านไปพักหนึ่ง หรูหัวก็ยิ้มตาหยีเดินออกมา “เซิ่งหมู่ฮองไทเฮากำลังเดินหมากกับจิ้นหรูกูกู นี่กำลังสนุกเลย จะอย่างไรเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาก็ไม่ยอมให้กูกูไป พวกเจ้าสองคนกลับไปทูลรายงานหมู่โฮ่วฮองไทเฮาว่าจะส่งคนกลับไปดึกหน่อยแล้วกัน”“อ๊าาา”เสียงร้องดังมาจากข้างในอีก จี๋เสียง หรูอี้สบตากันทีหนึ่ง สีหน้าเริ่มกังวลเล็กน้อยหรูหัวเอ่ยเรียบ “มีนางกำนัลคนหนึ่งไม่ทันระวังทำน้ำชาหกใส่หลังมือของจิ้นหรูกูกู นี่อย่างไร กำลังถูกโบยอยู่เลย”“แต่... เหตุใดเสียงนี้ฟังดูแล้วจึงเหมือนเสียงของจิ้นหรูกูกูล่ะ?” จี๋เสียงเอ่ยอย่างขลาด ๆ“เหลวไหลอันใด?” หรูหัวเปลี่ยนสีหน้าฉับพลัน “เจ้าจะบอกว่าเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาทรมาทรกรรมจิ้นหรูกูกูหรือ? ยังมิได้กล่าวถึงจิ้นหรูกูกูเป็นคนข้างพระวรกายของหมู่โฮ่วฮองไทเฮา แค่อดีตนางคือนางกำนัลคนสนิทของอดีตฮ่องเต้ ทั้งยังมีไมตรีกับเซิ่งหมู่ฮองไทเฮามาต

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 274

    จิ้นหรูหัวใจรัดแน่น สุดท้ายดวงตาก็ฉายความแตกตื่นออกมา “พระองค์คิดจะทำอันใดกันแน่เพคะ?”“ถามได้ดี!” ถงไทเฮาลุกขึ้นยืนช้า ๆ แล้วเดินก้าวหนึ่ง เหยียบหลังมือของจิ้นหรู ออกแรงขยี้ มองดูความทรมานบนใบหน้าของจิ้นหรู ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “เจ็บหรือ?”จิ้นหรูกัดฟัน “ไทเฮาจะลงโทษบ่าวอย่างไรก็ได้เพคะ”อย่างมากก็แค่ตาย ตายแล้วก็คือหลุดพ้น แต่... นางรู้ ถงไทเฮาแค้นนางที่สุด จะไม่ให้นางตายง่าย ๆ เด็ดขาด“ข้าได้ยินว่าคุกทักษิณมีทัณฑ์ทรมานมากมาย เพียงแต่ไม่รู้ว่าหากเทียบกับข้าที่นี่แล้ว จะเหนือกว่าหรือไม่? มิสู้จิ้นหรูกูกูช่วยข้าเปรียบเทียบสักหน่อย” ถงไทเฮาโน้มตัวลงเชยคางของจิ้นหรู มุมปากแย้มยิ้มชั่วร้ายเหี้ยมเกรียมเดิมรูปลักษณ์ก็มิได้งามวิไล ยามนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความดุดัน ยิ่งทำให้ดุร้ายอัปลักษณ์มากกว่าเดิมจิ้นหรูขวัญผวา ไม่กล้ามองดวงตากระหายเลือดของนาง จึงก้มหน้ากัดริมฝีปาก อดทนต่อความเจ็บที่ส่งมาถึงแต่... นี่ยังห่างไกลกับจุดสิ้นสุดหรูหัวยกตะปูมากะละมังหนึ่ง พวกมันมิใช่ตะปูเหล็ก แต่เป็นตะปูไม้ท้อทุกเล่มทำจากไม้ท้อ ส่วนปลายแหลมคมเงาวับ“ถ้าเจ้าร้องสักแอะ ข้าจะเพิ่มตะปูอีกเล่ม” ถงไทเฮาเอ่ย

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 273

    ด้วยประการละฉะนี้ ทุกคนจึงนึกว่าฮ่องเต้โปรดปรานแต่ฮองเฮา ทอดทิ้งวังหลังแม้นางสนมจะตำหนิไม่พอใจ แต่เพราะฮองเฮาคือคนสกุลถง จึงไม่มีใครกล้าพูดฮองเฮารูปโฉมไม่โดดเด่น กลับได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เพียงนี้ เห็นได้ว่าฮ่องเต้รักนางจริง ๆชั่วขณะ ฮองเฮาบารมีไร้ที่สิ้นสุด รั้งตำแหน่งฮองเฮา ทั้งยังมีความโปรดปรานของฮ่องเต้มั่นคงดั่งขุนเขา ทำให้สกุลถงเหิมเกริมมากขึ้นทุกวันเขาใช้การกระทำบอกนาง ในใจของเขามีแต่นางเท่านั้นสามสิบกว่าปีแล้ว นางเข้าวังในวัยสิบสอง บัดนี้สี่สิบสาม อดีตฮ่องเต้คือแผ่นฟ้าของนาง คือสามีของนาง คือนายของนางเขาจากไปก่อนนาง แม้นางจะเสียใจ แต่ก็มิได้แสดงออกว่าเสียใจมาก เพราะนางรู้ว่าเขากำลังรอนางอยู่ตรงนั้น สุดท้ายนางจะได้ไปพบกับเขานางรู้ ยามนี้ได้เวลาแล้ว“พูด!” หรูหัวดุดันขึ้นมา ตบหน้านางฉาดหนึ่งจิ้นหรูหน้าเอียงไปข้างหนึ่ง แก้มบวมขึ้นรอยประทับนิ้วมือทันทีจิ้นหรูคุกเข่าตัวตรง “บ่าวไม่มีอะไรจะพูดเพคะ”“เจ้ามอบความบริสุทธิ์ของเจ้าให้ผู้ใด?” ถงไทเฮาไม่แสดงออกว่าโกรธมาก ในทางกลับกัน นางพรูลมยาว ข้อกังขาที่เก็บอยู่ในใจนางยี่สิบกว่าปี กระจ่างแจ้งในที่สุด“บ่าวไม่ทร

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 272

    หรูหัวลากนางเข้าตำหนักชั้นในไปอย่างไม่ให้ปฏิเสธจิ้นหรูมองเสื้อผ้าบนฉากบังลมด้วยความประหลาดใจ เหตุใดหรูหัวจึงมีเสื้อผ้าวางอยู่ในตำหนักบรรทมของไทเฮาได้แต่นางมิได้ถาม เพราะถามแล้วก็คงไม่บอก นางมองเสื้อผ้านางกำนัลชุดนี้ มิได้สงสัยเรื่องอื่นก็เข้าไปเปลี่ยนชุดด้านหลังฉากบังลมนางเพิ่งถอดเสื้อผ้า หรูหัวก็เข้ามา “อุ๊ย ข้าลืมบอกเจ้าไป ชุดนี้เคยใส่แล้ว เปลี่ยนอีกชุดเถอะ!”นางยื่นชุดสีเหลืองอ่อนในมือให้จิ้นหรู พร้อมกับกวาดสายตามองบริเวณแขนของจิ้นหรูอย่างรวดเร็ว เมื่อนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย ก่อนจะออกไปจิ้นหรูเพิ่งแต่งตัวเสร็จก็มีหญิงสูงวัยดุดันเข้ามาสองคน ลากแขนจิ้นหรูคนละข้างออกไปข้างนอกจิ้นหรูตกตะลึงพรึงเพริดถามขึ้นว่า “นี่พวกเจ้าจะทำอะไรน่ะ?”หญิงสูงวัยสองคนนั้นลากนางไปแล้วผลักจนนางสะดุดล้มลงพื้น ถงไทเฮามองนางจากมุมสูง ดวงหน้าอ่อนโยนเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมอำมหิต“เซิ่งหมู่ฮองไทเฮา บ่าวทำอะไรผิดไปเพคะ?” จิ้นหรูหัวใจหนักอึ้ง แต่ยังสงบสติอารมณ์แล้วถาม“ทำอะไรผิด?” เสียงของถงไทเฮาราวกับส่งมาจากขุมนรก พกพากลิ่นอายเย็นยะเยือกชุ่มชื้น “แต้มพรหมจรรย์ของเจ้าเล่า?”จิ้นหรูหัวใจ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 271

    “ข้าได้ยินมา ทุกคืนนางจะเรียกนักดนตรีไปบรรเลงเพลง ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่?”“ทูลไทเฮา เรื่องนี้เกินไปหน่อยเพคะ หมู่โฮ่วฮองไทเฮาทรงเรียกพวกเขามาในยามวิกาลน้อยนัก!”รอยยิ้มของถงไทเฮาบานสะพรั่งมากขึ้นเรื่อย ๆ “ข้าก็รู้ว่าวังหลังมีปากหอยปากปูมาก จริงสิ ปกติเวลาอดีตฮ่องเต้ทรงสะสางราชกิจ ทรงโปรดทำอันใดหรือ?”หัวข้าสนทนาวกกลับมาเรื่องอดีตฮ่องเต้ จิ้นหรูลอบโล่งอก เวลาตอบคำถามจึงเป็นมิตรมากขึ้นบางส่วน “อดีตฮ่องเต้มีเวลาวางน้อยนัก แต่พระองค์โปรดอู้งานยามยุ่ง ทรงโปรดการเดินหมาก เสวยพระสุธารสชาเพคะ”“เดินหมาก? เดินกับผู้ใด?” ถงไทเฮาถาม“กับบ่าวเพคะ” จิ้นหรูยิ้มบาง “เพียงแต่ฝีมือการเดินหมากของบ่าวไม่ดี แพ้อยู่เรื่อยเลยเพคะ”“อดีตฮ่องเต้ทรงยินดีเดินหมากกับเจ้า แสดงว่าฝีมือการเดินหมากของเจ้าต้องดี” ถงไทเฮายิ้มเอ่ย “เจ้าอย่าได้ถ่อมตัวนักเลย วันหลังข้าจะเดินหมากกับเจ้าบ้าง เจ้าก็คลายเหงาให้ข้าหน่อย”“ขอเพียงไทเฮาโปรด บ่าวก็เดินหมากเป็นเพื่อนไทเฮาได้ทุกเมื่อเพคะ” จิ้นหรูกล่าวจากใจ“เจ้าช่างเป็นคนเข้าใจผู้อื่นแท้ ๆ มิน่าอดีตฮ่องเต้จึง ‘โปรดปราน’ เจ้าเช่นนี้” ถงไทเฮายิ้มเอ่ยคำพูดนี้ไม่มีอะไรพิเศษ ใ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 270

    ตำหนักชิงหนิงจิ้นหรูคุกเข่าลงคำนับ “ถวายพระพรเซิ่งหมู่ฮองไทเฮา”“ลุกขึ้นเถอะ จิ้นหรู” ถงไทเฮาแย้มยิ้มจิ้นหรูลุกขึ้นยืนก้มหน้าแล้วไปยืนอยู่ด้านข้าง“ไม่ต้องเกร็งไป วันนี้ที่ข้าเรียกเจ้ามา เพราะอยู่ ๆ ก็นึกถึงอดีตฮ่องเต้ อดีตฮ่องเต้เคยรับสั่งว่าทักษะการชงชาของเจ้าเป็นหนึ่งในใต้หล้า เจ้าจะชงให้ข้าสักครั้งได้หรือไม่?” ถงไทเฮากล่าวขอด้วยใบหน้าราบเรียบ“เพคะ!” จิ้นหรูขานรับ“หรูหัว ไปเตรียมเครื่องชงชา” ถงไทเฮาสั่งหรูหัวขานรับแล้วจึงออกไปถงไทเฮาปรายตามองจิ้นหรู วันนี้นางสวมชุดสีครามปักลายใบไม้ไผ่สีแดงเข้ม มิได้ผัดแป้ง แม้อายุล่วงเลยสี่สิบ กลับยังสง่าเรียบง่ายจิ้นหรูไม่เคยคลอดลูก จึงดูอ่อนเยาว์กว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกันมิได้เลอโฉม กลับมีท่วงทำนองอย่างหนึ่งหรูหัวยกเครื่องชงชามา นางมองการต้มน้ำ ล้างชา ล้างถ้วย รินน้ำชาอย่างสง่างามของจิ้นหรูยังไม่พูดถึงฝีไม้ลายมือที่สง่างาม แต่ขณะนางชงชาจะมีสมาธิมาก ยามที่คนคนหนึ่งจดจ่ออยู่กับเรื่องหนึ่ง จะมีเสน่ห์ชวนหลงใหลเป็นพิเศษในฐานะที่ถงไทเฮาคือสตรีก็รู้สึกถึงมนตร์เสน่ห์น่าหลงใหลนี้เหมือนกัน“อดีตฮ่องเต้โปรดเสวยพระสุธารสชาอะไรหรือ?” นา

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 269

    ถงไทเฮาถอนตายตากลับช้า ๆ ก็จริง นับจากหรูหัวเข้าวังก็อยู่ข้างตัวนางมาตลอด รวมแล้วอดีตฮ่องเต้เคยมองนางเพียงไม่กี่ครั้ง แม้แต่ชื่อของนางก็ยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำที่สำคัญที่สุดคือ แม้หน้าตาของหรูหัวจะพอใช้ได้ แต่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับคำว่า ‘สวย’ เด็ดขาด“ในฐานะที่เป็นบุตรสาวสกุลถง ตั้งแต่ข้าเกิดมาก็ใช้ชีวิตเหมือนพญาหงส์ แล้วยังจะสูงศักดิ์ยิ่งกว่าองค์หญิงเสียด้วยซ้ำ หลังจากเข้าวังก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นฮองเฮา เกียรติยศไร้ขีดจำกัด แต่... นี่ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ให้คนอื่นดู สิ่งที่ข้าต้องการ ก็แค่สายตาอาวรณ์หนึ่งของอดีตฮ่องเต้ เมื่อไม่ได้มา ข้าก็ไม่อยากให้ผู้ใดได้มันไปทั้งนั้น ไม่ว่านางจะอยู่หรือตาย ข้าก็ต้องรู้ว่านางคือใคร”ถงไทเฮาพูดเนิบช้ามาก แต่... มีความโหดเหี้ยมทุกถ้อยคำหรูหัวพิจารณาอย่างละเอียดครู่หนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นพึ่บ “เสี่ยวหรู? คนที่ปรนนิบัติอดีตฮ่องเต้ในตำหนักในสมัยก่อน มีคนหนึ่งที่ชื่อจิ้นหรูเพคะ”“จิ้นหรู? ไม่ใช่นาง” ถงไทเฮาส่ายหน้า “นางโตมากับอดีตฮ่องเต้ ถูกส่งไปปรนนิบัติข้างพระวรกายอดีตฮ่องเต้นานแล้ว หากนางคือคนที่อดีตฮ่องเต้โปรดปราน ไยไม่แต่งตั้งนางเป็นสนมเล่า?”หรูหัวคิ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 268

    ฮองเฮาส่ายหน้า “ไม่ ซูอี้จะกล้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร เขาไม่กลัวว่า...” ความกลัวเริ่มปกคลุมใบหน้าของนาง และไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย“ถ้าเจ้ายังอยากรักษาชีวิตพ่อของเจ้าเอาไว้ ก็ไปหาฮ่องเต้” ถงไทเฮากล่าวอย่างแค้นที่เหล็กไม่เป็นเหล็กกล้าเทียบกับสมัยก่อน ถงไทเฮาเติบโตและรู้ความมากแล้ว เมื่อก่อนนางไม่เข้าใจ เหตุใดเสด็จแม่จึงไม่เข้าใจนาง เหตุใดมักให้นางทำเรื่องที่ลำบากใจ บัดนี้นางรู้แล้ว มีเพียงให้ตัวเองลำบาก สกุลถงจึงจะมั่นคงในใจของคนสกุลถง ชื่อเสียงและความมั่นคงของวงศ์ตระกูลสำคัญที่สุดเสมอ นางรู้ว่าตอนนี้ถงเหยียนยังไม่ตระหนักในจุดนี้ แต่นางจะเข้าใจในไม่ช้าก็เร็ว ความน้อยเนื้อต่ำใจในเวลานี้นับเป็นอันใด? ภายภาคหน้ายามสกุลถงกับสกุลมู่หรงแบ่งใต้ฟ้า นางจะรู้ว่าความอยุติธรรมทั้งหลายที่ได้รับในวันนี้คุ้มค่าดวงหน้าไฉไลของฮองเฮาประเดี๋ยวเขียวประเดี๋ยวขาว ที่เจืออยู่ในดวงตาคือน้ำตาแห่งความน้อยใจ “เหตุใดต้องให้ข้าไปช่วยด้วยเจ้าคะ? ท่านสั่งคำเดียวก็ได้แล้วนี่ กลับต้องให้ข้าวุ่นวายกับเรื่องพวกนี้”ถงไทเฮานวดศีรษะ รู้สึกว่าความอึดอัดสายหนึ่งพุ่งขึ้นสมอง นางอยากระเบิดอารมณ์ แต่สุดท้ายก็ส่ายหน้าและเอ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status