Share

บทที่ 155

Author: ลิ่วเยว่
จ่านเหยียนยื่นมือนวดกระดูกคิ้ว ตอบอย่างอ่อนเพลียเล็กน้อย “ไม่ ข้าจะฟังอยู่ที่นี่ ดูสิว่าผู้ใดกันแน่ที่ต้องการทำร้ายข้า”

อาเสอเอ่ย “ใต้เท้าทุกท่านก็สอบสวนอยู่ตรงนี้เถอะ แม้ไทเฮาจะตกพระทัย แต่ก็เสวยน้ำแกงสงบจิตแล้ว คาดว่าคงสามารถทนได้ระยะหนึ่ง”

เสนาบดีกรมอาญาเฉินจึงเอ่ย “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ลำบากไทเฮาแล้ว”

จ่านเหยียนพยักหน้าเล็กน้อย เอามือประคองหน้าอก ท่าทางอ่อนแอเหลือคณา ชวนให้คนที่พบเห็นรู้สึกอดใจนึกสงสารไม่ได้

“ซูกงกงเชี่ยวชาญการสอบสวนมาโดยตลอด วันนี้มิสู้ให้ท่านเป็นผู้สอบสวนหลักเถอะ?” ใต้เท้าหลี่เอ่ย

“ไม่ ใต้เท้าหลี่คือผู้ว่าการเมืองหลวง สมควรให้ท่านเป็นผู้สอบสวนหลัก!”

“จะเป็นข้าไปได้อย่างไร? ที่นี่ยังมีใต้เท้าเสนาบดีเฉินอยู่อีกท่าน” ผู้ว่าการเมืองหลวงรีบประสานมือ

“ทุกท่านมิต้องโยนกันไปโยนกันมา ใต้เท้าเฉินคือเสนาบดีกรมอาญา ท่านมาเป็นผู้สอบสวนหลักเถอะ” รองเสนาบดีกรมอาญาจางเจ๋อเถียนส่งเสียง

“นั่นสิ ใต้เท้าเฉิน อย่างได้ถ่อมตนอีกเลย นี่คืองานในขอบข่ายความรับผิดชอบของท่าน” ซูกงกงเอ่ยปากอย่างเกียจคร้าน

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น งั้นข้าจะเป็นผู้สอบสวนหลัก ทุกท่านร่วมฟังการสอบสวนเถอะ” ใต้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 156

    ซูกงกงถือน้ำชาอยู่ในมือ กลับกวาดสายตาสอดส่องใต้เท้าเฉินไม่หยุด มุมปากถูกยกขึ้นเป็นมุมโค้ง ยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง“พูด! ใครเป็นคนบงการให้พวกเจ้าลอบปลงพระชนม์ไทเฮากันแน่!” ใต้เท้าเฉินวางถ้วยน้ำชาบนโต๊ะเบา ๆ จากนั้นก็เพ่งเล็ง แล้วถามด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวทันใดหลงฉางเทียนจ้องนักฆ่าซึ่งเป็นผู้นำคนนั้นตาเขม็ง ในใจร้อนรน หลังจากนักฆ่าของหอเงาจันทร์ทำงานพลาดและถูกจับ ก็มิควรกัดยาพิษฆ่าตัวตายหรือ?แต่... ทั้งสิบสองคนสีหน้าหม่นหมอง ไม่ได้ทำอะไร แม้จะไม่พูด กลับทำให้คนวิตกกังวล“ไม่พูดใช่ไหม? ข้าก็อยากดูสิว่าคอของพวกเจ้าแข็งหรืออุปกรณ์ลงทัณฑ์ของข้าจะแข็งกว่า!” ใต้เท้าเฉินเอ่ยด้วยรอยยิ้มเสียดสีนอกประตูมีเสียงเดินและเสียงค้ำไม้เท้าดังมา ฮูหยินผู้เฒ่าหลงเดินมาด้วยการประคองของสาวใช้สองคน“นี่กำลังสอบสวนอยู่แน่ะ!” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยปาก“คารวะฮูหยินผู้เฒ่า!” ใต้เท้าทั้งหลายโค้งตัวเล็กน้อย“ใต้เท้าทุกท่านมิต้องมากพิธี!” ฮูหยินผู้เฒ่าเดินตรงมาถึงข้างตัวจ่านเหยียน จ่านเหยียนพลันขดตัวถอยไปข้างหลังตามจิตใต้สำนึก สีหน้าตื่นตระหนกหวาดกลัว“แม่หนูเหยียน ตกใจแล้วละสิ?” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยอย่างอ่อนโยน

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 157

    “มียอดฝีมือของคุกทักษิณอยู่ จะให้คนร้ายลงมือสำเร็จได้อย่างไร? นอกเสียจากซูกงกงจะไม่เชื่อมั่นลูกน้องของตัวเอง” ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวชืด ๆ“ฮูหยินผู้เฒ่าก็บอกว่าเรื่องนี้คือเรื่องใหญ่ ย่อมเสี่ยงไม่ได้ ข้ามั่นใจแปดเก้าส่วนว่าจะสามารถกุมตัวพวกเขาถึงคุกทักษิณได้จริง ๆ แต่มีหนึ่งถึงสองส่วนที่อาจผิดพลาด ดังนั้นข้าจะเสี่ยงไม่ได้”“หากซูกงกงเชื่อข้า ข้าจะกุมตัวไปด้วยตัวเอง” ฮูหยินผู้เฒ่าโอ้อวดตนซูกงกงหลุดหัวเราะ “จะกล้ารบกวนฮูหยินผู้เฒ่าได้อย่างไร? ข้าอยู่ที่นี่แล้ว เสนาบดีกรมอาญาอยู่ที่นี่ รองเสนาบดีกรมอาญาอยู่ที่นี่ ใต้เท้าผู้ว่าการเมืองหลวงก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน มิหนำซ้ำไทเฮาก็ทรงกำกับดูแลอยู่ ฉะนั้นที่นี่ ก็คือศาล!”ซูกงกงไม่ได้มองใบหน้าชราเขียวขาวยากจะแยกแยะนั้นของฮูหยินผู้เฒ่า แต่เรียกคนโดยตรง “เด็ก ๆ ลงทัณฑ์กับนายท่านพวกนี้หน่อย!” น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาและนุ่มนวล ใบหน้าก็อ่อนโยนมากเช่นกัน ราวกับกำลังพูดเรื่องผ่อนคลายอย่างยิ่งแต่ทุกคนต่างรู้ อุปกรณ์ลงทัณฑ์ของคุกทักษิณล้วนเป็นของที่โหดเหี้ยมที่สุด ชวนให้คนได้ยินก็ขวัญผวาแต่ที่ทำให้ประหลาดใจคือ ซูกงกงกลับสั่งให้คนขนอุปกรณ์ลงทัณฑ์มาด้ว

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 158

    ฮูหยินผู้เฒ่าสบตากับหลงฉางเทียนทีหนึ่ง คนแรกสีหน้านิ่ง ทว่าดวงตาเทามืดมีความกังวล ส่วนหลงฉางเทียนสีหน้าเคร่งเครียด ตื่นตระหนกถึงขีดสุดซูกงกงเดินมาอยู่ข้างตัวนักฆ่าคนหนึ่ง แล้วใช้มีดเฉือนเหนือศีรษะของเขาเบา ๆ เมื่อนั้นเส้นผมปอยหนึ่งก็ตกลงพื้นและติดกับรอยเลือด แม้เป่าก็ไม่ปลิว นักฆ่าผู้นั้นเพิ่งจะถูกลงแส้ไปคำรบหนึ่ง เสื้อผ้าบนตัวขาดวิ่นไม่มีชิ้นดี เลือดติดกับเสื้อผ้า บางจุดที่เป็นบาดแผลฉกรรจ์ยังมีเลือดหยดลงมาติ๋ง ๆเขารอซูกงกงอย่างเย็นชา สีหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธแค้น ก่อนจะถ่มน้ำลายทีหนึ่ง “เจ้าหมาตอน เจ้าลงมือเต็มที่ได้เลย ถ้าปู่ร้องสักแอะ ก็ไม่ใช่พ่อของเจ้า!”“พูดอย่างไร?!” ขันทีคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างประเคนฝ่ามือไปสองฉาดดังเพียะ ๆ พร้อมตะคอกเสียงแข็งซูกงกงจุ ๆ ๆ แล้วตำหนิขันที “ดูเจ้าสิ ทำไมถึงหยาบคายอย่างนี้นะ? อย่างไรก็เป็นหนุ่มน้อยหนังเนียนเนื้อนุ่ม ควรปฏิบัติอย่างดีจึงจะถูก”เขาจับผมสั้นของนักฆ่าผู้นั้นแล้วกระชากไปข้างหลัง จึงยิ้ม “อื่ม หนังเหนียวดี ข้าชอบแบบนี้นี่แหละ” เท้าของเขาเหยียบอยู่บนน่องของนักฆ่า ได้ยินเพียงเสียงกร๊อบ ความเจ็บปวดแสดงออกบนใบหน้าของนักฆ่าเล็กน้

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 159

    “ได้ ท่านระวังหน่อยนะ อย่ากรีดถูกเส้นเลือดใหญ่ที่คอเล่า ประเดี๋ยวเลือดออกมากแล้วจะหมดสนุก” จ่านเหยียนสั่ง“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะลงมือเดี๋ยวนี้ ไทเฮาทรงระวังอย่าทอดพระเนตรนะพ่ะย่ะค่ะ จะได้ไม่ตกพระทัย!” ซูกงกงกล่าวอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องเขาใช้มือหนึ่งจิกผมของนักฆ่า กดศีรษะไปด้านหลัง ใบมีดบางประกายหนาวกรีดคางของเขาเบา ๆ หยดเลือดซึมออกมาเล็กน้อย ซูกงกงหยิบผ้าขนหนูมาซับอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ดึงไปด้านข้างให้เห็นช่องทุกคนในนั้นเบือนหน้าหนีกันหมด นักฆ่าที่ถูกถลกหนังกลัวจนปากสั่นเหมือนกัน เขาอยากฆ่าตัวตาย แต่ยาพิษในปากถูกเอาออกมานานแล้ว หากจะกัดลิ้น ตอนนี้ก็กัดไม่ได้อีกเหมือนกัน เพราะปากถูกซูกงกงล็อกเอาไว้ ขยับไม่ได้เขาสั่นงันงก เปล่งเสียงประโยคหนึ่งออกมาจากร่องฟัน “ลงมือสิ ปู่เจ้าไม่กลัวหรอก”“ข้าก็ไม่อยากให้เจ้ากลัวเหมือนกัน ถ้าเจ้าสารภาพตอนนี้ ข้ายังจะอารมณ์เสียอีกแน่ะ หนังดี ๆ เช่นนี้ ทำเป็นป๋องแป๋งถวายให้ไทเฮาก็ถือเป็นน้ำใจอย่างสุดซึ้งของข้าแล้ว”ซูกงกงคาบมีดเอาไว้ สองมือคลำอยู่ที่คางของเขาอย่างคล่องแคล่ว ได้ยินเพียงเสียง “ฉึก ๆ” ในที่สุดเสียงร้องโหยหวนก็เล็ดลอดออกมาจากปากของนักฆ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 160

    หลงฉางเทียนใบ้รับประทานทันทีอาเสอมุมปากยกมุมโค้งได้ใจ ที่นางต้องการก็คือผลแบบนี้นี่แหละอันที่จริง หากต้องการลงมือกับคนของหอเงาจันทร์มันยากมาก มีแต่สร้างความกดดันให้กับหลงฉางเทียนจึงจะทำให้เขาเผยพิรุธได้จ่านเหยียนดึงผ้าตาข่ายออก แล้วมองหลงฉางเทียนด้วยความตะลึงเล็กน้อย “ท่านพ่อ ท่านจะฆ่านางกำนัลของลูกหรือเจ้าคะ? นี่มันเพราะเหตุใดกัน?”ชั่วขณะ หลงฉางเทียนคิดคำแก้ตัวไม่ออก จึงได้แต่หันไปมองขอความช่วยเหลือจากฮูหยินผู้เฒ่าฮูหยินผู้เฒ่าหน้าตึง ตามด้วยตวาดใส่อาเสอ “เจ้ามีฐานะอะไร? ใต้เท้าทั้งหลายกำลังพิจารณาคดี เจ้าเป็นบ่าวคนหนึ่งก็กล้าสอดปาก? ไสหัวออกไปเสีย!”หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เห็นฮูหยินผู้เฒ่าบันดาลโทสะ ท่าทางน่าสะพรึงเช่นนี้ ต้องไม่กล้าพูดอะไรอีกแน่แต่อาเสอกลัวเสียที่ไหน? นางเชิดหน้าอย่างทระนงและตอบว่า “คำพูดนี้ของฮูหยินผู้เฒ่าช่างกล่าวได้ดีนัก ใต้เท้าทั้งหลายกำลังพิจารณาคดี แล้วฮูหยินผู้เฒ่ามาทำอันใดเจ้าคะ?”“เจ้า!” ฮูหยินผู้เฒ่าใบหน้าเขียวปัด เปลี่ยนการพูดจากหนักแน่นเป็นด่าทอ “ข้าคือฮูหยินเก้ามิ่งขั้นสองที่อดีตฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งด้วยพระองค์เอง ใต้เท้าทุกท่านในที่นี้เห็นข้าแ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 161

    “หากองหนุนมาเสริม?” ซูกงกงขมวดคิ้ว “พวกเจ้าออกไปตอนที่นักฆ่ามาหรือ?”“เรียนซูกงกง พวกเราสองคนออกไปหลังจากที่นักฆ่าถูกจับกุมแล้วขอรับ นักฆ่ามาถึงที่ จวนตระกูลหลงไม่มีผู้ใดมาช่วยสักคน ไม่เพียงเท่านี้นะขอรับ ยังสั่งให้คนล้อมเรือนเอาไว้อย่างแน่นหนา ไม่อนุญาตให้พวกเราออกไป เคราะห์ดีที่มีผู้สูงส่งช่วยเหลือ จับตัวนักฆ่าเอาไว้ได้ มิเช่นนั้นชีวิตของไทเฮาจะน่าเป็นห่วงมาก!”ดวงตาทั้งแปดหันขวับไปมองทางหลงฉางเทียนเป็นตาเดียว หลงฉางเทียนใบหน้าเขียว เอ่ยอย่างโกรธเกรี้ยว “เจ้าพูดจาเหลวไหล ข้าสั่งให้คนล้อมเรือนตั้งแต่เมื่อใดกัน? ตอนที่นักฆ่ามา ข้าก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกันนะ” “แม่ทัพหลง เมื่อครู่ท่านบอกว่าพวกท่านเป็นคนจับนักฆ่ามิใช่หรือ?” ใต้เท้าหลี่เอ่ยถามเสียงเย็น“เอ่อ...” หลงฉางเทียนอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ“อีกอย่าง หลังจากนักฆ่าลอบปลงพระชนม์ไทเฮาแล้ว พวกท่านกลับไม่รู้? หรือว่าในจวนมิได้ส่งคนไปอารักขาไทเฮาเลย? ในจวนไม่มีผู้ใดมาปรนนิบัติ? ไทเฮาเสด็จกลับบ้านมารดา พวกท่านปล่อยให้ไทเฮาอยู่ตามยถากรรมหรือ?!” ซูกงกงกล่าวอย่างกรุ่นโกรธฮูหยินผู้เฒ่าตอบเสียงชืด ๆ “ไทเฮาไม่อนุญาตให้คนในจวนปรากฏตรงหน้าพระองค์ต่างหาก

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 162

    ซูกงกงเอ่ยเสียงเย็นเยียบ “ท่านแม่ทัพหลง พวกเราแจกแจงเรื่องนี้อย่างละเอียดกันดีกว่า”“ข้าไม่เคยทำ!” หลงฉางเทียนเอ่ยด้วยโทสะฮูหยินผู้เฒ่าลุกขึ้นยืน ใช้ไม้เท้าหัวมังกรปัดมือของซูกงกง ตามด้วยพูดเสียงเย็นชืด “คำพูดของนักฆ่าก็เชื่อถือได้หรือ? อีกอย่าง แม่หนูเหยียนเป็นเด็กของบ้านเรา ออกเรือนเข้าวังบัดนี้เป็นถึงไทเฮาผู้สูงศักดิ์ เป็นเกียรติของสกุลหลงเรา เหตุใดลูกชายข้าต้องฆ่านางด้วย? ไม่มีสาเหตุในการฆ่า การกล่าวหานี้จะเป็นผลหรือ? เสียทีที่ซูกงกงดูแลคุกทักษิณ ที่แท้ก็เห็นชีวิตคนดังผักปลา!”ครั้นฮูหยินผู้เฒ่าใช้ไม้เท้ากระแทกมือของซูกงกง ซูกงกงก็อดประหลาดใจไม่ได้ ไม่นึกว่ายายแก่ผู้เป็นไม้ใกล้ฝั่งนี้ กลับยังมีกำลังมากเช่นนี้ ดูท่าที่ข้างนอกลือว่านางป่วยนอนติดเตียงมานานจะมิเป็นความจริงจิ้นหรูกล่าวแทรกขึ้นมาอย่างพอเหมาะพอเจาะ “บ่าวก็คิดว่าไม่น่าใช่ท่านแม่ทัพหลงเช่นกัน เพราะคืนนี้มิได้มีนักฆ่ามาแค่กลุ่มเดียว นับจากวันที่ไทเฮาเสด็จกลับจวน นักฆ่าก็มาอยู่เนือง ๆ ครั้งแรกเกือบทำให้ไทเฮาจมน้ำสิ้นแล้ว กัวกูกูยังบาดเจ็บเพราะเหตุนี้อีกด้วย และอย่างเช่นคืนนี้ เรือนถูกวางเพลิง ทั้งยังถูกมือธนูกลุ่มหนึ่งล

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 163

    หลงฉางเทียนแทบจะทำนายอนาคตได้ ผู้คนต้องเรียกเขาลับหลังว่า ‘หลงหมวกเขียว’“เจ้าพูดจาเหลวไหล!” รองแม่ทัพหลี่เห็นหลงฉางเทียนเปลี่ยนสีหน้าแล้ว เขามิอาจแก้ต่างจึงตะคอกใส่จ่านเหยียนจ่านเหยียนใช้ผ้าเช็ดหน้าซับหยดน้ำที่เล็ดออกมาเพราะกลั้นขำตรงหางตา ยังคงกล่าวด้วยน้ำเสียงแค้นเคือง “ในเมื่อท่านใจดำกับข้าเช่นนี้ แล้วข้ายังต้องเก็บความลับอันใดให้ท่านอีก? หนึ่งเดือนก่อนที่ข้าจะออกเรือน ท่านซื้อกำไลทองให้ท่านแม่ข้าคู่หนึ่ง ทั้งยังกอดกับท่านแม่ข้าตัวกลมอยู่ในห้องเก็บของ ข้ายกน้ำไปล้างเท้าให้อาสะใภ้รองผ่านห้องเก็บของพอดี ได้ยินเสียงอิ๊ ๆ อ๊ะ ๆ ดังมาจากข้างใน ข้ายังนึกว่ามีโจรจึงผลักประตูเข้าไปดู กลับคิดไม่ถึง...”จ่านเหยียนใบหน้าแดงซ่าน คนในห้องโถงได้ฟังแล้วอดเบือนหน้าไปไม่ได้ สีหน้าไม่เป็นธรรมชาติอย่างยิ่งการบรรยายเห็นภาพเช่นนี้ ราวกับนางเห็นกับตาตนเอง หลงฉางเทียนเชื่อสนิทใจจึงกระชากคอเสื้อของรองแม่ทัพหลี่ หลังจากเล็งใบหน้าของเขาอย่างแม่นยำแล้วก็เหวี่ยงฝ่ามือตบลงไปหลายฉาด ก่อนจะเอ่ยอย่างเกรี้ยวกราดด้วยสายตาซึ่งเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย “เจ้ามันกินบนเรือนขี้รดบนหลังคา เจ้าใจกล้าเพียงนี้เชียวหรือ? ด

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 176

    กาสุราสำริดตกลงพื้นดัง ‘เคล้ง’ แล้วหมุนเป็นวงบนพื้นเย็นเฉียบสองรอบ ก่อนจะหยุดอยู่ข้างเท้าของฮองเฮาเหลียงกุ้ยเหรินมองนางอย่างสงบ ทันใดนั้นหว่างคิ้วกระตุกขึ้นมาอย่างรุนแรง องคาพยพย่นยู่เข้าด้วยกันด้วยความทรมาน นางเอามือไปกดท้องตามจิตใต้สำนึก จากนั้นก็ค่อย ๆ ย่อตัวต่ำลง ก่อนจะล้มลงกับพื้นดวงตาของนางเบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ บนใบหน้ามีความทรมานและความตื่นตระหนกหวาดกลัว น้อยคนนักที่จะเผชิญหน้ากับความตายที่กำลังจะมาถึงซึ่งหน้านางใช้มือหนึ่งดึงข้อเท้าของฮองเฮา และเอ่ยอย่างเจ็บปวด “ฮองเฮา ทรงตรัสแล้วว่า จะไม่ทำให้ครอบครัวหม่อมฉันลำบากใจ...”เลือกสดทะลักออกมาจากปากของนางที่ยังกล่าวไม่จบทีละคำ ๆ นางตัวกระตุก ยังไม่ทันกล่าวจบก็กรีดร้องด้วยความทุกข์ทนแสนสาหัสฮองเฮามองนางด้วยสีหน้าเย็นชา นางขยับเท้าออกเบา ๆ ไม่ได้พูด ทว่ามีความสาแก่ใจปราดผ่านเข้ามาในดวงตาไม่ว่าผู้ใดนางก็เสียสละได้ เป้าหมายคือเพื่อปกป้องตำแหน่งฮองเฮาของนางสกุลถงเป็นฮองเฮาสามชั่วอายุคน นางจะให้ตำแหน่งของตัวเองสั่นคลอนไม่ได้แม้แต่น้อยนางจ้องมองเหลียงกุ้ยเหรินอยู่อย่างนี้ กระทั่งอีกฝ่ายเปลี่ยนจากตัวกระตุกเป็นเกร็งทื่อทีละน้อ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 175

    “ถูกต้องแล้วเพคะ ใต้เท้าเหลียงทำงานเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของถงจื่อหยา” จิ้นหรูเอ่ยจ่านเหยียนหัวเราะ “อื่ม ดีมาก!”“ได้ยินว่าพอครอบครัวใต้เท้าเหลียงทราบว่าเหลียงกุ้ยเหรินจะถูกประหารชีวิตก็เสียใจมาก เคยถวายหนังสือขอร้องต่อไทฮองไทเฮา แต่ทางไทฮองไทเฮาไม่ตอบกลับสักคำ” จิ้นหรูเพิ่งกลับถึงวันก็รู้ข่าวพวกนี้แล้ว เห็นได้ว่านางมีเส้นสายในวังมากเพียงใด“รู้แล้ว!” จ่านเหยียนยิ้ม หากคนสกุลเหลียงได้เจอกับเหลียงกุ้ยเหรินอีกครั้งจะเป็นเรื่องดีมากเพิ่งเลยยามเที่ยง ฮองเฮาก็พาคนสนิทเข้าตำหนักเย็นเหลียงกุ้ยเหรินถูกขังอยู่ในตำหนักเย็นหลายวัน ป้ำ ๆ เป๋อ ๆ ไปแล้ว ครั้นเห็นฮองเฮามาถึงก็ไม่ทำความเคารพ เพียงฉีกยิ้มหัวเราะเหอะ ๆ ๆ กับฮองเฮาฮองเฮาปรายตามองนางด้วยความรังเกียจทีหนึ่ง หากมิใช่เพราะไม่วางใจ นางจะไม่มาด้วยตัวเองหรอก“นางเหลียง เจ้ารู้ความผิดหรือไม่?” ฮองเฮาเอ่ยถามด้วยโทสะเสียงกร้าวเหลียงกุ้ยเหรินกระชากเส้นผมอยู่ในมือ ฝ่ามือของนางมีเส้นผมเพิ่มขึ้นมาหลายเส้น จากนั้นจึงหัวเราะฮี่ ๆ เอ่ย “ฮองเฮา ทรงทราบหรือไม่เพคะ? ฝ่าบาทตรัสแล้ว พระองค์โปรดผมสลวยของหม่อมฉันที่สุด”ฮองเฮาหน้าบึ้ง “เจ้าบ้าไปแล

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 174

    จ่านเหยียนประกาศกับภายนอก เนื่องจากได้รับความตกใจจากจวนจึงป่วยหนัก ช่วงพักฟื้นนี้จะไม่พบผู้ใดทั้งสิ้นนางปิดประตูตำหนักแล้วกล่าวกับจิ้นหรู “ข้าจะออกนอกวัง เจ้ารับผิดชอบเฝ้าอยู่ในตำหนัก แต่อย่าพูดเรื่องนี้กับใครเป็นอันขาด เจ้าทำเหมือนเมื่อก่อนนะ ส่งข้าวเข้ามาทุกวัน นอกจากเจ้า จี๋เสียงกับหรูอี้ ก็ห้ามไม่ให้ใครเข้ามาปรนนิบัติในตำหนัก”จิ้นหรูรีบพูด “พระองค์จะเสด็จออกไปอีกแล้วหรือ? ครั้งนี้จะไปนานเท่าใดเพคะ?”จ่านเหยียนคิดครู่หนึ่ง “นับจากวันนี้ ถ้าไม่มีเรื่องพิเศษอะไร ข้าจะไม่กลับวัง”“อะไรนะ?!” จิ้นหรูเบิกตาโพลง “พระองค์ออกไปทำอะไรกันแน่เพคะ? หากในวังมีเรื่องเร่งด่วน บ่าวจะไปตามพระองค์ได้ที่ไหน?!”จ่านเหยียนดึงให้นางนั่งลง แล้วเอ่ยอย่างจริงจัง “จิ้นหรู เจ้าฟังข้านะ เวลานี้เสนาบดีกรมคลังคือถงจื่อหยา เป็นคนของสกุลถง อำนาจท้องพระคลังอยู่ในมือของคนสกุลถง เช่นนี้จะไม่เป็นผลดีต่อเซ่อเจิ้งอ๋อง แม้หลาย ๆ ครั้งจะไม่จำเป็นต้องใช้เงิน แต่เงินก็ยังต้องใช้กับหลาย ๆ เรื่อง สามทัพมิเคลื่อนเสบียงหญ้าเคลื่อนก่อน เมื่อไม่มีเงิน ก็ทำงานใหญ่ไม่ได้ ช่วงก่อนข้าออกไปตีซี้กับคุณชายสกุลใหญ่ในเมืองหลวงได้เยอ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 173

    “อื่ม!” มู่หรงฉิงเทียนนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะขานรับฮุ่ยอวิ่นตะลึงงัน แล้วจึงกล่าวอย่างทุกข์ใจเล็กน้อย “เมื่อก่อนทรมานอย่างนั้นยังผ่านมาได้ ตอนนี้...”“ตอนนี้สถานการณ์ไม่เหมือนกัน พวกเราจะผิดพลาดไม่ได้” มู่หรงฉิงเทียนเอ่ยเรียบ“ถ้าเพื่อระงับความเจ็บปวด ข้าสามารถไปหาให้ท่านได้ แต่... ถ้าเพื่อให้สติแจ่มชัดอยู่เสมอ นั่นไม่จำเป็น ข้าเคยบอกแล้ว ตอนนี้เราจะยังไม่เคลื่อนไหว”มู่หรงฉิงเทียนมองเขา นัยน์ตาดำขลับดุจม่านราตรีเจือความร้อนรนเล็กน้อย “ฮุ่ยอวิ่น เจ้าไม่เข้าใจ ตอนนี้ข้าถอยไม่ได้แล้ว หากมิใช่เขาตาย ก็คือแคว้นต้าโจวเปลี่ยนผู้ปกครอง ทางออกเดียวของเราก็คือการทุ่มสุดตัว”ฮุ่ยอวิ่นนิ่งงันครู่หนึ่ง “เอาไว้ข้าหาหลงอู่เจอแล้วค่อยว่ากัน”มู่หรงฉิงเทียนมองเขาด้วยความผิดหวัง “ฮุ่ยอวิ่น เมื่อก่อนเจ้าไม่ลังเลเช่นนี้นี่”ฮุ่ยอวิ่นช้อนตาขึ้นพรึบมองเขา มองเขานิ่ง ๆ แล้วเอ่ยด้วยอารมณ์รุนแรงเล็กน้อย “ข้าเคยบอกแล้ว นอกจากท่านกับอาหญิง ไม่ว่าเรื่องใดก็ไม่สำคัญ ท่านไม่เข้าใจหรือ? ข้าเหลือพวกท่านเป็นญาติเพียงสองคนแล้ว!”ท้ายน้ำเสียงของเขาสั่นเครือเล็กน้อย สะอื้นปนความเจ็บปวดใจการที่คนคนหนึ่งมีชีวิตอย

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 172

    ฉีชินอ๋องเอ่ย “ได้ ประเดี๋ยวข้าจะเข้าวัง”“ฟางจี้จื่อเอาวิญญาณมังกรไปกำจัดปีศาจที่ไหนหรือ?” มู่หรงฉิงเทียนถามฮุ่ยอวิ่นฮุ่ยอวิ่นตอบ “จวนตระกูลหลง เขาบอกว่าปีศาจจิ้งจอกสิงร่างหลงจ่านเหยียน ปีศาจจิ้งจอกถูกกำจัดไปแล้ว แต่วิญญาณมังกรก็กลายเป็นผุยผงไปแล้วเหมือนกัน”ทันใดนั้นสายตาเย็นชาคมกริบของมู่หรงฉิงเทียนก็ตกอยู่บนใบหน้าของฮุ่ยอวิ่น “เช่นนั้น... หลงจ่านเหยียนตายแล้วหรือ?”ฉีชินอ๋องตอบแทน “ยัง แต่นิสัยคงกลับไปเป็นหลงจ่านเหยียนที่ขี้ขลาดคนก่อนแล้ว”มู่หรงฉิงเทียนเงียบงัน สายตากลับเย็นชามากขึ้น“เทียน พระอาจารย์เป่ากวงบอกว่าทุกคืนเจ้าจะถูกไอหยินแว้งกัด...”มู่หรงฉิงเทียนขัดคำพูดของเขา “ข้ารู้ ก็เหมือนกับตอนแรก ข้าทนได้” แต่นึกถึงความทรมานปอดฉีกหัวใจแหลกลาญแบบนั้นแล้ว เขายังสั่นขึ้นมาเล็กน้อย“พระอาจารย์เป่ากวงบอกว่าหลงอู่ช่วยท่านได้ ข้าต้องตามตัวหลงอู่มาได้แน่” ฮุ่ยอวิ่นพูดอย่างปวดใจเล็กน้อยมู่หรงฉิงเทียนหัวเราะเสียงเย็น “ช่างเถอะ อย่าฝืนเลย คุณชายอายุน้อยคนหนึ่ง ไม่เห็นจะมีความสามารถเช่นนี้”สมควรจบลงแล้ว แม้จะไม่ใช่เวลา แต่การอยู่ด้วยร่างที่ตายไปแล้วเช่นนี้ ช่างทำให้เขาผิดหวังจ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 171

    ฮุ่ยอวิ่นถามอย่างร้อนใจ “พระอาจารย์ เป็นอย่างไรบ้างขอรับ?”พระอาจารย์เป่ากวงตอบเสียงเบา “อย่าเสียงดัง ท่านอ๋องเพิ่งฟื้น รอให้เขารวบรวมพลังสักหน่อยแล้วค่อยเข้าไป”“ได้ เช่นนี้ตอนนี้เขาปลอดภัยแล้วใช่หรือไม่” ฉีชินอ๋องถามพระอาจารย์เป่ากวงส่ายหน้า เอามือเช็ดเม็ดเหงื่อบนหน้าผาก “หากยังไม่มีใครช่วยเขาในหนึ่งเดือน อาตมาก็จนหนทางแล้ว”ฮุ่ยอวิ่นชายตามองเขา “พระอาจารย์ ข้าขอร้องท่านเรื่องหนึ่ง”“อาตมารู้ คุณชายวางใจเถอะ อาตมาจะไม่แพร่งพรายออกไปอย่างแน่นอน” พระอาจารย์เป่ากวงรับประกัน“เช่นนั้นก็ดี!” ฮุ่ยอวิ่นพยักหน้า สีหน้าเจ็บปวดหนักใจเล็กน้อยแม้เวลานี้จะไม่ใช่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ แต่ยามนี้ขุนนางบุ๋นบู๊ทั้งราชสำนักมีหลาย ๆ คนที่เข้าร่วมกับท่านอ๋องแล้ว มีกำลังเพียงพอจะต้านทานสกุลถง ขาดอีกก้าวเดียว ต้องการแค่เงินทุนที่เพียงพอก็จะถอนรากถอนโคนราชครูถงได้แล้ว กลับมาเกิดข้อผิดพลาดในตอนนี้ หากภายนอกรู้ เกรงแต่คนที่ยังไม่มั่นคงกับจุดยืนจะหันไปเข้ากับอีกฝ่าย“แม้เวลานี้ท่านอ๋องจะปลอดภัย แต่ทุกคืนเมื่อถึงยามโฉ่ว ช่วงสองชั่วยามนี้ไอของจันทร์หยินจะรุนแรงที่สุด เขาจะทรมานมาก” พระอาจารย์เป่ากวงเอ่ย

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 170

    ฮุ่ยอวิ่นมีกะจิตกะใจคิดเรื่องนี้ที่ไหนกัน แต่ในเมื่อฉีชินอ๋องหลงเอ่ยถึง เขาจึงคิดสักหน่อยแล้วตอบว่า “กล่าวตามตรง ไทเฮาต่างจากจ่านเหยียนที่พวกเรารู้มาเมื่อก่อนหน้านี้มาก บางทีนางอาจเป็นปีศาจจริง ๆ ก็ได้”“แต่... ปีศาจจิ้งจอกถูกกำจัดแล้ว” ฉีชินอ๋องต้องฮุ่ยอวิ่นตาเขม็ง“อื่ม!” ฮุ่ยอวิ่นพยักหน้า“แต่... แน่ใจหรือว่ามีปีศาจจิ้งจอก? เรื่องนี้จะเหลวไหลเกินไปแล้ว”ฮุ่ยอวิ่นนิ่งงันครู่หนึ่ง “โลกกว้างใหญ่ไพศาล มีเรื่องอัศจรรย์มากมาย สิ่งที่พวกเราไม่รู้ ไม่หมายถึงว่าไม่มีอยู่จริง”ฉีชินอ๋องหดหู่ใจ “หากยึดตามการพูดของเจ้า เช่นนั้นก็คือมีปีศาจจิ้งจอกอยู่จริง ๆ ยามนี้ปีศาจจิ้งจอกถูกกำจัดแล้ว เช่นนั้นหลงจ่านเหยียนจะกลับไปเป็นลูกอนุที่ขี้ขลาดเหมือนมุสิกเช่นเมื่อก่อนนี้หรือไม่?”“ก็เป็นไปได้!” ฮุ่ยอวิ่นตอบแบบใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว บางทีนี่อาจเป็นเรื่องดี อย่างน้อยก็ควบคุมง่ายไทเฮาที่เขารู้จักในเวลานี้ปราดเปรื่องเกินไป จิตใจล้ำลึกเกินไป แม้จะมีด้านดีอยู่ กลับไม่สามารถใช้ประโยชน์จากนางได้ง่ายแต่การพูดเรื่องพวกนี้ในเวลาเช่นนี้จะมีความหมายอันใด? หากพี่ชายเกิดเรื่อง แผนการทุกอย่างก็จบสิ้นลงแล้ว

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 169

    เขาไม่กล้าเปิดเผยตัวตนของจ่านเหยียน แต่เขารู้สึกว่าที่จ่านเหยียนปรากฏตัวในเมืองหลวงด้วยอีกตัวตนหนึ่ง จะต้องมีเหตุผลแน่ บางที... นางอาจยอมช่วยมู่หรงฉิงเทียนด้วยตัวตนหลงอู่ก็เป็นได้“แค่ ‘อาจจะ’? มิใช่ ‘แน่นอน’ หรือ? เช่นนั้นท่านนั้นที่ท่านบอกเมื่อครู่คือใคร?” ฮุ่ยอวิ่นถามต่อ“ไม่จำเป็นต้องพิจารณาท่านนั้นแล้ว” พระอาจารย์เป่ากวงเอ่ย“หัวใจคนทำจากเนื้อ เชื่อว่าไม่มีผู้ใดที่หนักแน่นดั่งหินผา” ฮุ่ยอวิ่นเอยพระอาจารย์เป่ากวงส่ายหน้า “คนผู้นี้หากอยู่บนโลกมนุษย์ก็มีอายุถึงสามร้อยปีแล้ว มีอายุมากกว่าอาตมา อาตมาได้ยินว่าบรรพบุรุษของคุณชายหลงอู่มีความเชื่อมโยงกับเขาอยู่บ้าง อีกทั้งคุณชายหลงอู่ยังเชี่ยวชาญศาสตร์นี้ ดังนั้นอาตมาขอเสนอให้คุณชายรีบตามหาเขาเถอะ”“อายุสามร้อยกว่าปี?” ฉีชินอ๋องสบตากับฮุ่ยอวิ่น ในดวงตามีความผิดหวังอยู่ลึก ๆ อายุสามร้อยกว่าปี นั่นยังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ที่ไหน? กลัวแต่ไปเกิดใหม่นานแล้ว“ข้าเคยได้ยินคุณชายหลงอู่มาก่อน แต่เขามิใช่พวกเสเพลหรอกหรือ? พระอาจารย์แน่ใจหรือว่าเขาเชื่อถือได้?” ฮุ่ยอวิ่นถาม“อย่าได้ดูถูกคนที่ภายนอกสนุกสนานร่าเริง บางทีพวกเขาอาจจะคมในฝัก ใช้อีกโฉ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 168

    ฮุ่ยอวิ่นปรึกษาหารือการรับมือกับฉีชินอ๋องในจวน เวลานี้ไม่ว่าเรื่องใดก็ไม่สำคัญแล้ว ที่สำคัญคือต้องทำอย่างไรจึงจะรักษาชีวิตของมู่หรงฉิงเทียนได้“ไปเชิญพระอาจารย์เป่ากวงมา!” ฮุ่ยอวิ่นสั่งกับอาซิ่นอาซิ่นขานรับก็ออกจากเรือน พร้อมปิดล้อมเรือนหลิงอวิ๋นซึ่งเป็นที่พักของมู่หรงฉิงเทียนเอาไว้จะให้เรื่องที่ท่านอ๋องเกิดเรื่องแพร่งพรายออกไปไม่ได้เด็ดขาด“นี่จะทำอย่างไรดี?” ฉีชินอ๋องจนหนทางแล้วเหมือนกัน ครั้นเห็นคนนอนหมดสติอยู่บนเตียง หัวใจของเขาก็ราวกับมีมีดกรีด หลายปีก่อนเขาเคยสูญเสียเสด็จพี่ไปหนหนึ่งแล้ว ตอนนี้จะต้องเกิดเรื่องซ้ำสองอีกหรือ?ไม่ ลำบากนักกว่าเขาจะรอดต่อไปได้“ลองถามพระอาจารย์เป่ากวงก่อนเถอะพ่ะย่ะค่ะ” ฮุ่ยอวิ่นเอ่ยด้วยความกังวล“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ไปได้?” ฉีชินอ๋องถามฮุ่ยอวิ่นฮุ่ยอวิ่นเล่าเรื่องรอบหนึ่ง ก่อนจะกัดฟันเอ่ยว่า “หากรู้ว่าฟางจี้จื่อนั่นจะเชื่อถือไม่ได้เช่นนี้ พูดอย่างไรข้าก็ไม่เห็นด้วยให้ยืนวิญญาณมังกรไปเด็ดขาด!”“เขาไปกำจัดปีศาจที่ไหน?” ฉีชินอ๋องเอ่ย“ตอนที่เขาไป ข้าสั่งให้คนสะกดรอยตามเขา เขาเข้าจวนตระกูลหลง ภายหลังได้ยินว่าปีศาจจิ้งจอกเข้าสิงร่างไทเฮา กำจั

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status