แชร์

ตอนที่  3 พบกันครั้งแรก

 

ห้องส่วนตัว

ลู่เหม่ยหลินที่เดินเข้ามาในห้องส่วนตัวก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าคนที่อยู่ในห้องมีทั้งพ่อแม่ของเธอและผู้ใหญ่อีกสองคนซึ่งเป็นผู้หญิงหน้าตายิ้มแย้มใจดีและผู้ชายที่ดุอีกคนหนึ่ง ซึ่งมองปราดเดียวก็รู้ทันทีว่าเขาคือนายพลเฉินพ่อของคุณชายเฉินคนนั้นอย่างแน่นอน

“อ้าวอาหลินมาแล้วเหรอ มาทักทายคุณลุงคุณป้าเร็ว ๆ เข้า”

เธอค่อย ๆ เดินเข้าไปอย่างเรียบร้อยจนแม้แต่นายพลเฉินเองก็คิดว่าเธอแสร้งทำ เขาแสยะยิ้มนิดหน่อยเพราะไม่ได้ชอบพอเธอแต่ก็ไม่ได้แสดงออกว่าไม่ชอบเมื่อเธอหันมาโค้งทักทายพวกเขา

“สวัสดีค่ะคุณลุงคุณป้า ลู่เหม่ยหลินค่ะขอโทษด้วยนะคะที่ให้คุณลุงกับคุณป้าต้องรอนาน”

ของนายพลเฉินถึงกับนิ่งไปเมื่อได้ยินลู่เหม่ยหลินที่ยืนทักทายและเอ่ยปากขอโทษพวกเขาเพียงแค่เดินเข้ามาช้า หรือนี่จะเป็นท่าทีใหม่ที่บ้านตระกูลลู่อบรมลูกสาวมางั้นเหรอ

“ไม่เป็นไรหรอกเราเองก็พึ่งมา นั่งก่อนสิลูกชายผมต่างหากที่เสียมารยาทจนป่านนี้ก็ยังมาไม่ถึงเลย”

“ขอบคุณค่ะ”

นายพลเฉินต้องตกใจอีกครั้งเมื่อลู่เหม่ยหลินเอ่ยขอบคุณที่เขาเชิญเธอนั่ง ไวน์ขาวในมือแกว่งไปมาพร้อมกับมองท่าทางที่เปลี่ยนไปจากคนหยิ่งจองหองไม่เห็นหัวผู้ใหญ่อย่างเธอ แต่ผ่านไปเพียงไม่กี่วันกลับกลายเป็นคนรู้มารยาทขนาดนี้นับว่าตระกูลลู่เก่งมากจริง ๆ แม้แต่ “อวี้หลิงเฟย” ภรรยาของเขายังมองเธอด้วยสายตาที่ชื่นชม

“นึกไม่ถึงเลยว่าไม่ได้เจอหนูเหม่ยหลินไม่นานแต่กลับโตได้ขนาดนี้ วันนี้หนูสวยมากเลยนะจ๊ะ”

“ขอบคุณค่ะคุณป้า คุณป้าเองก็สวยมาก ๆ เช่นกันค่ะ”

“ตายจริงดูเด็กคนนี้สิ เข้าใจพูดจริง ๆ”

“คุณป้ายังไม่แก่สักหน่อยค่ะ ลิปสติกสีนี้ทาแล้วทำให้คุณป้าดูเด็กลงด้วยนะคะ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นสีพีชอ่อน ๆ คาดว่าคุณลุงคงจะเหมือนได้ภรรยาใหม่ค่ะ”

“หึหึ งั้นเหรอ”

แม้แต่นายพลเฉินที่ตามปกติจะชอบให้เธอเรียกเขาว่านายพลมากกว่าก็เผลอไปกับรอยยิ้มและคำพูดเอาใจของลู่เหม่ยหลินนี้เข้าเสียแล้ว จากเดิมที่เขาไม่ชอบหน้าเด็กคนนี้แต่ตอนนี้ดูเหมือนบุคลิกและท่าทางเธอจะเหมือนดูน่ารักและรู้ความมากขึ้น อีกทั้งวิธีการพูดก็ดูเหมือนผู้ดีกับเขาขึ้นมากแล้ว

“ทำไมต้าเว่ยยังไม่มาอีก”

“เอ่อ…”

ไม่นานประตูก็เปิดออกมา ผู้ชายสองคนที่เธอเดินชนเมื่อครู่นี้แม้ว่าจะไม่เห็นหน้าชัด ๆ เธอก็จำได้ว่าเป็นเขา หรือว่าเธอจะเจอตอเข้าเสียแล้ว เมื่อทั้งสองถอดเสื้อโค้ตออกและมาทักทายพ่อแม่ของเธอ เหม่ยหลินก็รู้ทันทีว่าไม่ผิดแน่ เขาก็คือ “เฉินต้าเว่ย” 

“สวัสดีครับคุณน้าทั้งสอง วันนี้ก็ยังสวยเหมือนเดิมนะครับ”

“ขอบคุณค่ะคุณชายสามคุณก็ยังปากหวานเหมือนเดิมเลยนะคะ”

“สวัสดีครับคุณหนูลู่พบกันอีกแล้วนะครับ”

เขาเอ่ยทักทายเธอ เมื่อกี้นี้แม่เธอพูดกับเขาว่าอะไรนะ คุณชายสามงั้นเหรอ

“สวัสดีค่ะคุณชายสาม ต้องขอโทษอีกครั้งนะคะที่เดินชนพวกคุณพอดีฉันรีบไปหน่อยน่ะค่ะ”

นายพลเฉินหันมามองหน้าลูกชายสองคนและภรรยา ดูเหมือนว่าทั้งสามเองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ทำไมลู่เหม่ยหลินในวันนี้เปลี่ยนคำเรียกไป

“เหม่ยหลิน วันนี้ไม่สบายหรือเปล่าทำไมเรียกเสียห่างเหินแบบนี้ล่ะ ปกติเรียกว่า “พี่หยวนลี่" ไม่ใช่เหรอ"

ท่าทางยิ้มนิ่ง ๆ ของเธอทำให้คนทั้งโต๊ะเริ่มสงสัย เพราะนอกจากเธอจะเปลี่ยนมาเรียก “เฉินหยวนลี่” คุณชายสามตระกูลเฉินด้วยคำห่างเหินแล้วยังไม่สนใจที่จะทักทาย “เฉินต้าเว่ย” ที่เธอคลั่งไคล้เลยอีกด้วย นั่นยิ่งทำให้ทุกคนสงสัยกับความแปลกไปของลู่เหม่ยหลิน

“ขอโทษนะครับที่มาสาย พี่รองติดงานที่โรงพยาบาลนิดหน่อยก็เลยมาช้า”

เหม่ยหลินทำแค่หันไปดื่มน้ำแก้เขินเท่านั้นก่อนที่แม่ของเธอจะสะกิดให้เธอทักทายว่าที่คู่หมั้น

“คะ”

“ทักทายพี่ต้าเว่ยสิ”

“เอ่อ… สวัสดีค่ะคุณชายรองต้าเว่ย”

ความกระอักกระอ่วนนี้ทำให้เธอรู้ทันทีว่าเธอพลาดไปแล้วเพราะโดยปกติเหม่ยหลินคงไม่เรียกเขาแบบนี้แน่แต่เพราะแม่ของเธอเรียกเธอจึงรีบเอ่ยทักทาย

“คือว่า พี่… ต้าเว่ย คือว่าขอโทษทีค่ะพอดีวันนี้ฉันนอนมากไปหน่อยก็เลย...”

“เอ่อ คือว่าอาหลินไม่ค่อยสบายน่ะค่ะก็เลยให้นอนพักนี่พึ่งจะดีขึ้นอย่าถือสาแกเลยนะคะ”

“อ้อ แล้วเป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ กินอะไรอ่อน ๆ สักหน่อยดีกว่า ให้ป้าสั่งข้าวต้มให้ดีไหมนี่ต้าเว่ยตรวจให้น้องสักหน่อยสิ”

“มะ ไม่เป็นไรค่ะคุณป้าหนูก็แค่รู้สึกเวียนหัวนิดหน่อยค่ะได้ดื่มอะไรเย็น ๆ ก็ดีขึ้นค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นน้องเหม่ยหลิน มาดวลไวน์กันไหมเผื่อว่าจะสดชื่นขึ้น”

“ขอโทษค่ะพี่... หยวนลี่ คือว่าฉันแพ้แอลกอฮอล์ค่ะ”

“ห๊ะ! อ้อ ได้ ๆ ถ้าอย่างนั้นเอาน้ำผลไม้ก็แล้วกันดีไหม”

“ค่ะ รบกวนขอน้ำส้มคั้นบีบมะนาวหนึ่งซีกหยดน้ำผึ้งลงไปหน่อยและโรยเกลือขอบแก้วใส่ใบสะระแหน่มาด้วยนะคะ”

“ว้าว..พี่รองดูท่าพี่คงจะต้องคิดใหม่แล้วล่ะ นี่เธอถึงกับไม่ดื่มเหล้าแต่เปลี่ยนไปดื่มน้ำผลไม้ ดูท่าพระอาทิตย์จะขึ้นทางตะวันตกแล้ว”

หมอเฉินไม่ได้พูดอะไร เขาเองก็ทำแค่สังเกตเธอเงียบ ๆ จะเป็นไปได้ยังไงที่เธอจะแพ้แอลกอฮอล์ ใคร ๆ ในเมืองต่างก็รู้ว่าลู่เหม่ยหลินดื่มเก่งมากขนาดไหน วันนี้คงอยากจะแต่เพราะท่าทางที่แปลกไปทำเอาคนทั้งโต๊ะแทบจะทำตัวไม่ถูกเช่นกัน แม้ว่าจะดูเป็นการทานอาหารร่วมกันแต่เมื่อเริ่มสนทนาเข้าเรื่องงานหมั้น น้ำส้มที่เธอสั่งก็ดื่มเกือบหมดแก้วอีกทั้งอาหารก็เริ่มทยอยหมด

“คุณป้าลองกินอันนี้นะคะ เปลี่ยนจากโรสแมร์รี่ลองกินกับพาสลี่นี่ดูค่ะ รสชาติจะเข้ากันและเหมือนละลายในปากได้เลยค่ะ”

นอกจากเธอจะไม่ดื่มไวน์แล้วยังรู้เรื่องการกินอาหารแบบตะวันตกหลายอย่างซึ่งแม่ของเขาเมื่อลองดินที่เธอบอกก็รู้สึกว่าอาหารนั้นอร่อยขึ้นจริง ๆ 

“ทีนี้คุณป้าลองกินมะเขือเทศตามและจิบไวน์ค่ะ เป็นยังไงบ้างคะ”

“อื้ม อร่อยจริง ๆ ด้วยคุณลองดูสิคะ”

พ่อแม่ของลู่เหม่ยหลินรู้สึกได้ว่าครั้งนี้ลูกสาวไม่ทำให้ขายหน้าเหมือนทุกครั้งที่เอาแต่สนใจเฉินต้าเว่ยจนไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตาเพราะเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวของเธอคือเขา

แต่มาวันนี้เธอแทบจะไม่คุยกับเขาเลยซึ่งนั่นทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรู้สึกแปลกใจไม่น้อย เมื่อพวกผู้ใหญ่เริ่มคุยกันเรื่องหมั้นหมายและเงื่อนไขความช่วยเหลือเธอก็แค่ฟังนิ่ง ๆ เหมือนกับไม่ใช่เรื่องของตัวเอง

“เดือนเก้านี้มีฤกษ์ดี เราจัดงานหมั้นเอาไว้ก่อนว่ายังไงคะคุณลู่”

“ครับ ทางผมยังไงก็ได้ครับส่วนเรื่องชุดและยาที่จะส่งให้กองทัพผมจะจัดเตรียมให้อยู่แล้ว แต่เรื่องยาอาจจะต้องทยอยส่งไปบางส่วนก่อนเพราะอีกส่วนยังมาไม่ถึงท่าเรือ”

“นั่นไม่มีปัญหาครับ ต้าเว่ยลูกว่ายังไง”

“ครับ เมื่อไหร่ก็แจ้งวันผมอีกทีก็ได้ครับ แต่ว่าคุณพ่อแจ้งคุณย่าหรือยังครับ”

เมื่อต้าเว่ยพูดเรื่องนี้ขึ้นมาพ่อของเขาก็หันมามองหน้าพ่อแม่ของฝ่ายหญิงก่อนจะหันมามองลูกชาย

“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก คุณย่าน่ะเข้าใจเหตุผลดี”

“แล้วคุณล่ะ ไม่คิดจะพูดอะไรบ้างเลยเหรอ”

เขาหันไปถามเธอที่กำลังฟังด้วยความสนใจแต่ก็ต้องชะงักเมื่อถูกเขาถามอีกทั้งยังมองมาด้วยสีหน้าดุ ๆ นั้นอีกด้วยซึ่งเธอไม่ชอบเลย แม้ว่าจะหล่อและหน้าตาดีไม่ต่างจากดาราหนุ่มที่เธอชอบแต่ก็ไม่ควรดุเธอแบบนี้สิ

“เรื่องนี้… ฉันพูดได้จริง ๆ เหรอคะ”

“ได้สิ เรื่องนี้เป็นงานหมั้นของคุณกับผม ถ้าคุณอยากพูดอยากถามอะไรก็ควรจะพูดออกมา สมัยนี้ชายหญิงเท่าเทียมกันแล้วไม่ต้องกลัวหรอก”

“ค่ะ ถ้าอย่างนั้นขอถามได้ไหมคะ”

“อาหลินลูกอยากจะถามอะไร”

ถ้าหมั้นหมายกันแล้วต่อไปพวกเราไปกันไม่ได้ สามารถถอนหมั้นได้ไหมคะ”

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status