หน้าหลัก / รักโบราณ / ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก / บทที่ 10 รักกันจริงหรือแค่ข่าวลือ (1/4)

แชร์

บทที่ 10 รักกันจริงหรือแค่ข่าวลือ (1/4)

ผู้เขียน: ไฉ่เลี่ยงหรง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-28 20:30:22

10

รักกันจริงหรือแค่ข่าวลือ

            ในระหว่างที่นางครุ่นคิดไป คีบข้าวเข้าปากไปนั้น จู่ๆ ประตูห้องก็เปิดออกก่อนที่หนึ่งบุรุษหนึ่งสตรีจะเดินเข้ามาด้านใน

            “ชิงหนี่ว์ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” เจิ้งเข่อชิงรีบปรี่เข้าใกล้สหายทันที แต่ยังไม่ทันถึงตัวนาง บุรุษที่นั่งอยู่ด้านข้างก็ยกมือขึ้นมากีดกันเสียก่อน

            “ข้าไม่เป็นอันใด เจ้าเล่าปลอดภัยดีหรือไม่” คำกล่าวของสตรีทั้งสองทำให้บุรุษสูงศักดิ์ทั้งสองมองหน้ากัน

            คำกล่าวของพวกนางช่างทำให้เขาสองคนกลายเป็นบุรุษกักขฬะอันตราย ถูกมองไม่ดี

            “ข้าไม่เป็นอันใด ข้าขอนั่งกับเจ้านะ” คุณหนูเจิ้งกล่าวก่อนจะเดินไปยกเก้าอี้แล้วเอามาวางแทรกกลางระหว่างนางและชินอ๋องซื่อจื่อ

            “ที่ตรงนั้นคับแคบ อย่าไปนั่งเบียดพวกเขาเลย เจ้ามานั่งกับข้าตรงนี้เถิด” กล่าวจบองค์รัชทายาทเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะโอบรั้งเอวคู่หมายตนให้ไปนั่งอีกฝั่ง โดยจับให้เจิ้งเข่อชิงนั่งข้างหลิวเมิ่ง ส่วนตนเองนั่งข้างคุณชายหลิว

            “ไม่เอา ข้าอยากนั่งข้างสหายตน”

            “ชิงเอ๋อร์ เจ้าอย่าได้ดื้อรั้น” นัยน์ตาดำของชายสูงศักดิ์จับจ้องริมฝีปากคู่หมายอย่างมีนัย

            ‘อย่าบอกนะว่าเมื่อครู่ทั้งสองจุมพิตกัน’ หลักฐานสำคัญที่จะใช้ยืนยันเรื่องนี้ก็คงจะเป็นริมฝีปากของเจิ้งเข่อชิงที่บวมแดงเล็กน้อย  

            เป็นบุรุษร้ายกาจเอาแต่ใจเสียด้วย พระรองผู้นี้...

            “หากไม่อยากโดนเช่นสหาย อย่าได้คิดจับคู่พี่กับสตรีผู้นั้น” เพราะมัวแต่จับจ้องคนที่นั่งอยู่อีกฝั่งจึงไม่ได้เห็นว่าบุรุษที่นั่งอยู่ด้านข้างโน้มใบหน้าไร้ที่ติเข้ามาใกล้แล้วกระซิบที่ข้างหูด้วยเสียงที่ได้ยินกันเพียงสองคน

            ลมหายใจที่เป่ารดหูทำให้นางขนลุกเกรียวไปทั้งตัว

            เดี๋ยวก่อน! นางเอกของท่านนั่งอยู่ข้างๆ ท่านอย่าเข้าใจผิดไป ข้าไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นสตรีชาเขียวแย่งบุรุษของผู้อื่นหรอกนะ

            ส่วนองค์รัชทายาทที่เพิ่งพาคู่หมายเข้ามาร่วมโต๊ะ ก็เอาแต่คีบอาหารใส่ชามให้คุณหนูเจิ้งที่หน้าบูดบึ้งอย่างไม่ชอบใจ สายตาฉายแววเอือมระอาชัดเจน

            ชินอ๋องก็คีบอาหารเข้าปากคำหนึ่ง จ้องมองนางพลางยิ้มคราหนึ่งทำให้นางแทบไม่รู้รสอาหาร

            คุณชายหลิวก็นั่งกินอาหารไปมองคนนั้นคนนี้ทีราวกับกำลังชมงิ้ว ครานี้พอจะเข้าใจแล้วว่าเหตุใดตนโดนสหายมองด้วยสายตากรุ่นโกรธในงานเลี้ยงวันนั้น

             ส่วนหลิวเมิ่งก็ได้แต่นั่งเม้มริมฝีปากแน่นไม่กล้ากล่าวอันใด แววตาจ้องมองนางที เข่อชิงทีอย่างรู้สึกอึดอัด

            และที่จะไม่กล่าวถึงเลยก็ไม่ได้เห็นจะเป็นท่าทีใกล้หลุดจากบทบาทสตรีดอกบัวขาวของคุณหนูสวี่ ดวงหน้าหวานจ้องมองมาที่นางสลับกับเข่อชิงด้วยสายตาริษยา แม้จะพยายามเก็บซ่อนสีหน้าแต่ทว่าแรงริษยาคงมีมากล้นจึงไม่อาจสะกดกลั้นได้

            สวี่ลู่ฟางได้แต่มองบุรุษที่ควรจะเป็นของตนเองด้วยความรู้สึกไม่พอใจ เหตุใดบุรุษที่ควรจะหลงใหลนางจนสามารถทุ่มเททุกอย่างให้ถึงไม่เป็นเช่นนั้น

            องค์รัชทายาทมิใช่ควรรักนางจนยอมทำทุกอย่างเพื่อนางหรอกหรือ ส่วนชินอ๋องซื่อจื่อเขาจะเป็นสามีของนาง เขาทั้งรักและหลงใหลนางจนปล่อยให้คู่หมั้นตนเองถูกองค์รัชทายาทแคว้นสือเจ้าที่หลงรักนางเช่นกันสังหาร

            หนังสือไร้ชื่อที่นางเคยอ่านมันเป็นเช่นนั้น ในหนังสือเล่มนั้นบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของนางและการเป็นสตรีที่มีชะตาดอกท้อ ลงเอยด้วยการได้ครองคู่กับบุรุษที่รูปงามและเก่งกาจ เป็นฮูหยินของเขาแต่เพียงผู้เดียว

            เริ่มแรกนางก็ไม่ได้เชื่อเรื่องเหล่านั้นทั้งหมด หากในหนังสือไร้ชื่อเล่มนั้นไม่ได้บอกเล่าเรื่องราวการจับพลัดจับผลูได้เป็นหมอหลวงอย่างบังเอิญของบิดา ซึ่งมันเป็นไปดังที่หนังสือบอกไว้จริงๆ ไหนจะซื่อแซ่ของบุคคลที่อยู่ในหนังสือเล่มนั้นนางก็เพิ่งได้รู้จักคนเหล่านั้นตอนที่บิดาเป็นหมอหลวง เพราะเหตุนี้นางจึงเริ่มด้วยการเข้าหาหลิวเมิ่ง คุณหนูจากจวนเสนาบดีฝ่ายขวาดั่งเช่นที่เคยอ่านมาก

            แต่เหตุใดเรื่องราวมันผิดเพี้ยนไปหมด หรือในที่นี้จะมีคนได้อ่านหนังสือไร้ชื่อเฉกเช่นเดียวกับนาง จึงกำลังพยายามฝืนเรื่องราวปรับเปลี่ยนจุดจบของตนเอง

            ชินอ๋องซื่อจื่อและองค์รัชทายาทเดิมทีทั้งสองคนนี้ควรจะหลงรักนาง แต่กลับเอาแต่จ้องมองสตรีสองคนนี้ ไม่ผิดแน่ สองคนนี้อาจจะมีโอกาสได้อ่านหนังสือเล่มนั้นเป็นแน่

            “คุณหนูจางชอบอ่านหนังสือหรือไม่เจ้าคะ”

            “อ่านบ้างเป็นบางครั้งเจ้าค่ะ”

            “เช่นนั้นท่านเคยอ่านหนังสือไร้ชื่อเล่มสีดำหรือไม่เจ้าคะ ญาติผู้พี่ของข้าเคยอ่านนางกล่าวว่าเป็นเรื่องราวลึกลับน่าค้นหา”

            “มิเคยเจ้าค่ะ หนังสือที่ข้าเคยอ่านส่วนมากเป็นพวกปรัชญาขงจื้อ”

            “เช่นนั้นหรือเจ้าคะ” สวี่ลู่ฟางตอบรับพลางเก็บซ่อนสีหน้าคลางแคลงใจ

            ‘ดูเหมือนข้าจะเข้าใจผิดไปเอง’ หากคนพวกนี้ไม่ได้รู้เรื่องราวในหนังสือแล้ว เหตุใดพวกเขาถึงไม่ตกหลุมรักนางหรือเพราะนางหลีกเลี่ยงไม่ให้ตนถูกกลั่นแกล้งในงานเลี้ยงแล้วเลือกขึ้นแสดงเป็นคนแรกกัน หรือไม่ก็อาจจะเป็นเรื่องที่นางเผลอตัวกล่าวยุยงหลิวเมิ่งไปก่อนหน้า อีกฝ่ายจึงคิดกลั่นแกล้งคุณหนูจากจวนเสนาบดีแม้ปากจะปฏิเสธบอกไม่รู้ว่าเหตุใดถึงมีชื่อสตรีผู้นั้นขึ้นแสดง แต่นางมั่นใจว่าต้องเป็นฝีมือหลิวเมิ่งแน่ ที่ทำให้สตรีผู้นั้นได้แสดงความสามารถที่เก็บงำเอาไว้ออกมา ซึ่งหากในหนังสือบรรยายไว้ว่าเจิ้งเข่อชิงมีความสามารถมากถึงเพียงนั้น นางคงไม่เปิดโอกาสให้คนที่มีความสามารถเหนือบุตรสาวหมอหลวงอย่างนางแสดงความสามารถ

            ใครจะอยากถูกเปรียบเทียบกับคนที่เก่งกว่าเล่า...

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 10 รักกันจริงหรือแค่ข่าวลือ (2/4)

    ใครจะอยากถูกเปรียบเทียบกับคนที่เก่งกว่าเล่า... ด้านชิงหนี่ว์เมื่อได้ยินคำถามเช่นนั้น นางก็เริ่มรู้สึกสงสัย หนังสือไร้ชื่อเล่มสีดำเช่นนั้นหรือ หรือแท้จริงสตรีดอกบัวขาวผู้นี้จะรู้เรื่องเหตุการณ์ต่างๆ จากหนังสือเล่มนั้นจึงสามารถเอาชนะใจบุรุษที่เลิศล้ำและเก่งกาจได้ถึงสามคน “ขอบคุณเจ้าค่ะ สำหรับอาหารเลิศรสมื้อนี้” แม้จะอึดอัดใจมากก็ตาม “หากเจ้าอยากมากินข้าวที่นี่อีกให้บอก พี่จะพามาเอง” ชินอ๋องซื่อจื่อกล่าว “เอ่อ...เจ้าค่ะ” นางปรายตามองสตรีที่นั่งอยู่ข้างๆ เห็นอีกฝ่ายกำมือแน่นราว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-28
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 10 รักกันจริงหรือแค่ข่าวลือ (3/4)

    “กล่าวถึงเรื่องที่สนทนาค้างไว้เมื่อครู่ ท่านบอกว่าที่องค์รัชทายาทไม่ยอมยกเลิกการหมั้นหมายเพราะพึงใจในสหายข้าหรือเจ้าคะ” เพราะความอยากรู้นางจึงยอมขึ้นรถมากับเจ้าตัวซวยนี่ “พี่คาดเดาว่าเป็นเช่นนั้น” เขากล่าวพลางจ้องมองนางไม่วางตา คำเรียกขานเปลี่ยนไปเมื่ออยู่ด้วยกันตามลำพัง “คาดเดา? ข้าว่าท่านเดาผิดแล้ว สตรีที่องค์รัชทายาทพึงพอใจไม่ใช่สหายข้าหรอกเจ้าค่ะ” ก็แค่อยากเอาชนะคู่หมายของตนเพียงเท่านั้น “เช่นนั้นเจ้าคิดว่าองค์รัชทายาทพึงใจใคร” “คุณหนูสวี่ลู่ฟาง” “เหตุใดถึงคิดว่าเป็นนาง”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-28
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 10 รักกันจริงหรือแค่ข่าวลือ (4/4)

    “หนี่ว์เอ๋อร์ เจ้าอย่าได้ลืมสิ ว่าสหายของเจ้าในภายหน้านางจะต้องขึ้นเป็นฮองเฮา นางจะมีข่าวลือเสียหายไม่ได้แม้เจ้าจะเป็นสหายที่สนิทสนมกันก็ตามอย่างไรก็ควรรักษาระยะห่าง” “แต่ข้ากับนางบริสุทธิ์ใจต่อกันเหตุใดต้องหวาดกลัวเสียงเล่าลือของผู้อื่นด้วยเจ้าคะ ข้าไม่สนหรอกเจ้าค่ะใครจะเอาข้าไปเล่าลืออย่างไร” ‘หนี่ว์เอ๋อร์ เจ้าบริสุทธิ์ใจ แต่สตรีผู้นั้นไม่ได้บริสุทธิ์ใจเช่นที่เจ้าคิดน่ะสิ’ แม้จะอยากกล่าวไปแต่ชินอ๋องซื่อจื่อก็เลือกที่จะเงียบ “ข่าวลือก็เป็นแค่ข่าวลือ ไม่ใช่เรื่องจริงเสียหน่อย” “แล้วเหตุใดพอเป็นเรื่องพี่ เจ้าถึงเชื่อสนิทใจว่าพี่เป็นคนรักของสตรีผู้นั้น” ‘นี่เขากำลังยอกย้อน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-28
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 11 จุดจบของข่าวลือที่น่ารังเกียจ (1/4)

    11จุดจบของข่าวลือที่น่ารังเกียจ ราวกับถูกฟ้าผ่าตั้งแต่เช้าเมื่อรับมื้อเช้ากับพี่ใหญ่เสร็จแล้วนางก็ถูกเรียกให้ไปสนทนาที่ห้องโถง ใบหน้าคมเข้มของพี่ชายฉายแววเคร่งเครียดจนนางไม่กล้าสบตา “เมื่อวานชินอ๋องซื่อจื่อมาส่งเจ้าที่จวนใช่หรือไม่” “คือ...” นางมองซ้ายทีขวาทีอย่างร้อนรน “อย่าได้คิดโกหกพี่ ตอบมาตามความจริง” เบื่อคนรู้ทัน “จริงเจ้าค่ะ แต่มันมีเหตุนะเจ้าคะ” “เหตุอันใด จงกล่าวมา” “คือหลังจากข้าไปเยี่ยมเยว่ฉ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-29
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 11 จุดจบของข่าวลือที่น่ารังเกียจ (2/4)

    สาเหตุที่จางชิงเทียนยังไม่ยอมรับการจับคู่ของฮ่องเต้ก็เพราะน้องสาว เขาเป็นห่วงกลัวว่าฮูหยินของตนจะมารังแกน้องสาว “เอาล่ะ ประเดี๋ยวพี่ต้องเข้าวังแล้ว ใกล้ปักปิ่นแล้วช่วงนี้เจ้าก็หยุดออกไปเที่ยวเล่นนอกจวนก่อน” “เจ้าค่ะ” เรื่องจัดงานประชันบุรุษรูปงามเอาไว้ค่อยทำเมื่อผ่านพ้นงานปักปิ่นไปก่อนก็แล้วกัน “พี่ไปล่ะ” “เจ้าค่ะ” จางชิงหนี่ว์ลุกขึ้นเพื่อเดินไปส่งพี่ชายที่หน้าประตูจวน เมื่อพี่ชายเข้าวังไปแล้วคุณหนูจางก็หงอยเหงาในทันที นางเลือกไปนั่งเล่นที่ลำธารในสวน ซึ่งสร้างเลียนแบบขึ้นมาตามความชอบของนาง “คนที่ชอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-29
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 11 จุดจบของข่าวลือที่น่ารังเกียจ (3/4)

    “ในเมื่อท่านมองสตรีทะลุปรุโปร่งเช่นนี้ ข้าก็คงไม่มีอันใดจะกล่าว แต่หากอยากให้ข้าเป็นผู้เฒ่าจันทราช่วยสานวาสนาผูกด้ายแดงให้ท่านกับคุณหนูสวี่ ให้รีบบอก ข้ายินดีที่จะให้การช่วยเหลือท่านเต็มที่” “ดูเหมือนเจ้าสนับสนุนคุณหนูสวี่ให้ข้ามากจนเกินงาม เจ้าได้ค่าจ้างจากนางหรือ” “ไม่เจ้าค่ะ ข้าแค่เห็นว่านางเป็นสตรีอันดับหนึ่งเอ่อ...เป็นที่หมายปองของบุรุษทั่วทั้งเมืองหลวง ข้าจึงอยากให้ท่านได้สตรีที่ดีงามเช่นนั้นมาเป็นฮูหยิน” “เจ้าเอาแต่สนับสนุนข้า แล้วเรื่องเจ้ากับชินอ๋องเล่า อยากให้ข้าช่วยผูกด้ายแดงให้หรือไม่” “ไม่ดีกว่าเจ้าค่ะ ข้าไม่ได้พึงใจบุรุษผู้นั้น” “เพราะเหตุใด ข้าได้ยินมาว่าชินอ๋อง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-29
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 11 จุดจบของข่าวลือที่น่ารังเกียจ (4/4)

    “ดูเหมือนจะมีคนเป็นเดือดเป็นร้อนเพราะข่าวลือเช่นเดียวกับข้า” “ที่ผ่านมาข้าไม่สนใจเพราะข้าไม่ไยดีคู่หมายของตน แต่ตอนนี้มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นแล้ว ข้าจึงอยากจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยนางจะได้ไม่เข้าใจข้าผิดอีก” “องค์รัชทายาทเช่นท่านก็มีวันที่เป็นเช่นนี้” “อื้อๆ อื้อๆ” เมื่อได้ยินว่าชายตรงหน้าคือบุรุษสูงศักดิ์ในข่าวลือที่ตนกล่าวถึงหลายครั้ง หญิงวัยกลางคนจึงดิ้นรนเพื่อคาดหวังให้อีกฝ่ายมีใจเมตตาช่วยเหลือ แต่ก็ไม่อาจเอื้อนเอ่ยหรือขยับตัวได้เพราะถูกตรึงให้อยู่นิ่งด้วยฝีมือของบุรุษชุดดำ “ครานี้คงไม่ใช่มีแต่ข้าที่เดือดร้อนเรื่องข่าวลือกระมัง มิเช่นนั้นข้าจะมาเจอชินอ๋องซื่อจื่ออย่างเจ้าที่นี่หรือ”&

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-29
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 12 ปิ่นไม้ดอกหมู่ตาน (1/5)

    12ปิ่นไม้ดอกหมู่ตาน งานปักปิ่นของนางถูกจัดขึ้นที่จวนราชครูจางของท่านปู่และท่านลุงตามความต้องการของทั้งสอง แม้ตั้งใจเอาไว้ว่าจะจัดงานเล็กๆ เฉพาะญาติและสหายสนิทดั่งเช่นจวนเจิ้ง แต่พอถึงวันจริงกลับมีผู้คนมากมายที่หวังจะประจบเอาใจจวนราชครูที่บรรดาขุนนางรู้ดีว่าคนตระกูลนี้มีความสำคัญในพระทัยของฮ่องเต้ จึงไม่มีใครกล้ามองข้ามแม้จะไม่ได้รับเทียบเชิญแต่ทว่าหลายคนก็ยังยินดีมาร่วมงานไม่เว้นแม้แต่ชินอ๋องซื่อจื่อ และองค์รัชทายาทที่ติดสอยห้อยตามมากับสหายของนาง พิธีปักปิ่นผ่านไปอย่างเรียบร้อย ปิ่นหลายอันถูกปักอยู่บนผมนางซึ่งนางเข้าใจว่า บุรุษตระกูลจางที่รักและเอ็นดูนางทั้งสามคงตระเตรียมเอาไว้ให้นางคนละชิ้น หลังจากเสร็จสิ้นพิธีการแล้ว คุณหนูจางจึงไปผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ชุดใหม่พร้อมกับเลือกปิ่นปักผมขึ้นมาอันหนึ่งเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-30

บทล่าสุด

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ การแต่งฮูหยินที่เร่งรีบของท่านราชครู (1/1)

    การแต่งฮูหยินที่เร่งรีบของท่านราชครู มีคนมากมายที่อาจจะสงสัยว่าเหตุใดท่านราชครูจางเหว่ยถึงได้เร่งรีบตบแต่งเถ้าแก่เนี้ยร้านขายภาพวาดซือซือเข้าจวนจาง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีข่าวลือว่าคบหากัน หรืออาจจะเป็นเพราะได้เห็นบทเรียนจากการเล่าลือเรื่องของคุณหนูสวี่ ที่จู่ๆ คนเหล่านั้นบังเอิญลิ้นขาดกลายเป็นคนพูดไม่ได้ แต่โชคดีหนึ่งในนั้นมีคนเขียนอักษรได้ จึงได้เขียนเตือนคนรอบตัวไม่ให้เล่าลือเรื่องราวเกี่ยวกับเชื้อพระวงศ์หรือตระกูลที่ใกล้ชิดราชวงศ์ สุดท้ายจึงไม่มีใครกล้าเล่าลือหรือสงสัยถึงความเร่งรีบของท่านราชครู “พี่เหว่ย ท่านจะไม่เสียใจทีหลังห

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮองเฮาพบปะสหาย (1/1)

    ฮองเฮาพบปะสหาย ภายในจวนท่านราชเลขาฯจาง วุ่นวายไม่น้อยเมื่อมีผู้สูงศักดิ์มาเยือนโดยได้นัดหมายกันล่วงหน้า “ถวายพระพรฝ่าบาท ถวายพระพรฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ” ชินอ๋องที่เพิ่งลงจากรถม้าแสดงความเคารพโอรสสวรรค์และฮองเฮา “ถวายพระพรฝ่าบาท ถวายพระพรฮองเฮาเพคะ” พระชายาสกุลจางที่ลงรถม้ามาภายหลังทำความเคารพอีกฝ่ายเช่นกัน “ตามสบายเถิด พวกเจ้าเป็นสหายของเราใช้คำธรรมดาสามัญเถิด”

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ เรื่องเล่าหลังเป็นพระชายาของชิงหนี่ว์ (2/2)

    “เจ้าโอบอุ้มบุตรชายของเราให้แน่นๆ ส่วนเจ้าพี่จะจับให้แน่นๆ เอง” กล่าวจบเขาก็ใช้วิชาตัวเบาโอบอุ้มพานางและบุตรชายกลับตำหนัก ทันทีที่ถึงตำหนักโจวหลี่หมิงถูกส่งตัวให้ซานจี สาวใช้ประจำตัวคนใหม่ของนางที่ทางพระสวามีหามาให้ แน่นอนว่านางมิใช่สาวใช้ธรรมดา เพราะสตรีผู้นี้คือองครักษ์เงาที่ถูกฝึกมาอย่างหนักเพื่อดูแลดวงใจของท่านอ๋อง “นำไปซื่อจื่อไปมอบให้แม่นมแล้วเจ้าไปพัก ข้าจะดูแลพระชายาเอง” บุรุษที่ชื่นชอบการปรนนิบัติฮูหยินกล่าว “แงๆ” แม้จะดีดดิ้นเพียงใด แต่บุตรชายมีหรือจะต่อต้านบิดาได้ “ท่านพี่ หากลูกไม่อยากไป...” ไม่มีมาร

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ เรื่องเล่าหลังเป็นพระชายาของชิงหนี่ว์ (1/2)

    เรื่องเล่าหลังเป็นพระชายาของชิงหนี่ว์ ดวงตาเมล็ดซิ่งทอดมองผืนดินที่เขียวชอุ่มไปด้วยพืชผัก ที่ดินผืนนี้นางใช้เงินที่ได้จากการวาดภาพขายมาซื้อเก็บไว้ เพื่อสร้างรายได้ให้กับบ่าวรับใช้ผู้ภักดีทั้งสอง ก่อนหน้าที่นางจะแต่งเข้าตำหนักอ๋องไม่นาน นางก็จัดการให้จื่อรั่วและจื่อเป่าที่ความสัมพันธ์คืบหน้าไปอย่างรวดเร็วได้เข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินกันก่อนจะคืนสัญญาทาสแล้วให้ทั้งสองคนย้ายมาปลูกจวนอยู่บนที่ผืนนี้ “พระชายาท่านนั่งพักดื่มน้ำก่อนเถิดเพคะ รอแดดร่มลมตกค่อยออกไปเดินดูด้านนอก”&

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮ่องเต้ผู้เด็ดขาดกับฮองเฮา (แค่บนเตียง) (2/2)

    “เช่นนั้นก่อนจะลงโทษน้อง ท่านพี่กินข้าวก่อนดีหรือไม่เจ้าคะ” “มิต้อง” กล่าวจบเขาก็รั้งนางเข้าไปแนบชิด มือใหญ่จับยึดคางเรียวเอาไว้ริมฝีปากร้อนกดลงบนกลีบปากบาง ลิ้นร้อนบุกรุกโพรงปากนางอย่างเอาแต่ใจ ในขณะที่มือช่วยปลดเปลื้องอาภรณ์ให้นางอย่างรวดเร็ว ช่างใจร้อนเสียจริง... ดวงหน้าหวานแดงก่ำด้วยความเขินอาย เมื่อพระสวามีของตนที่เพิ่งถอนจุมพิตเร่าร้อนเมื่อครู่ จับจ้องนางราวกับหมาป่าหิวกระหาย “น้องหญิงของพี่เลิศรสกว่าอาหารใดๆ” กล่าวจบเขาก็ช้อนเรือนร่างเปลือยเปล่าเข้าหลังฉากกั้น ว่ากันว่าฮองเฮาชื่นชอบการแช่น้ำร้อน ภายในตำหนักจึงมีบ่อน้ำร้อนขนาดใหญ่อยู่ติดห้องบรรทม 

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮ่องเต้ผู้เด็ดขาดกับฮองเฮา (แค่บนเตียง) (1/2)

    ฮ่องเต้ผู้เด็ดขาดกับฮองเฮา (แค่บนเตียง) นัยน์ตาดำของบุรุษสูงศักดิ์จับจ้องใบหน้าของสตรีที่ตนรักอย่างไม่ละสายตา มือใหญ่ช่วยคีบอาหารใส่ชามให้นางอย่างเอาใจ “ท่านพี่กินบ้างเถิดเจ้าค่ะ อย่ามัวแต่คีบให้ข้าเลยเจ้าค่ะ” แม้ยามนี้ทั้งสอ

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮูหยินของจางชิงเทียน (4/4)

    “เอ่อ...ท่านช่วยพาข้าลงจากหลังม้าได้หรือไม่เจ้าคะ” สิ้นเสียงนาง รอยยิ้มบางปรากฏบนใบหน้าไร้ที่ติแม้จะหล่อเหลาน้อยกว่าชินอ๋องซื่อจื่อ แต่ทว่าก็มีสตรีไม่น้อยที่ชื่นชอบบุรุษผู้นี้ หลังจากที่นางได้ขี่ม้าตัวเดียวกับบุรุษที่สตรีหลายคนหมายปอง นางก็มักจะเจอเขาที่เหลาอาหารหรือโรงเตี๊ยมอยู่บ่อยครั้ง เพราะไม่สบายใจกับสายตาจาบจ้วงของบุรุษในวันนั้นนางจึงไม่กล้าไปที่ร้านบะหมี่เนื้อของท่านป้าผู้นั้นอีก แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องแปลกหรือไม่ นางมักจะเจอท่านราชเลขาฯจางผู้นั้นอยู่บ่อยครั้ง วันนี้ก็เช่นกัน “ดูเหมือนเจ้าจะชื่นชอบการออกมากินข้าวนอกจวน มิทราบว่าพ่อครัวจวนหวังทำอาหารไม่อร่อยหรือ” เขามานั่งร่วมโต๊ะโดยที่นางไม่ต้องเชิญทุกครา จนกลายเป็นความเคยชิ

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮูหยินของจางชิงเทียน (3/4)

    “ข้าอิ่มแล้วเจ้าค่ะ ได้โปรดยกเท้าที่เหยียบชายอาภรณ์ข้าด้วยเจ้าค่ะ” “เจ้ารู้หรือไม่ มีขอทานและคนยากจนที่ไม่มีแม้แต่ข้าวจะกิน หากคนพวกนั้นมาเห็นเจ้ากินเหลือเช่นนั้น พวกเขาคงตัดพ้อ พวกเขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้กินบะหมี่น้ำธรรมดา แต่เจ้าที่เป็นคุณหนูกลับกินทิ้งกินขว้าง กินเพียงคำสองคนไม่ถูกใจก็ทิ้ง จะว่าไปก็น่าสงสารชาวบ้านที่เขาทำปลูกพืชผักและเลี้ยงสัตว์นะ พวกเขาลำบากเพียงใดกว่าจะปลูกพืชผักและเลี้ยงสัตว์มาเพื่อเป็นอาหารให้พวกเราได้กิน...” “พอแล้วเจ้าค่ะ ข้ากินให้หมดก็ได้” คุณหนูหวังกล่าวก่อนจะนั่งลงตามเดิม มือเรียวหยิบตะเกียบมาคีบกินบะหมี่เนื้อที่ตนกินค้างไว้ พร้อมกับบะหมี่เนื้อที่เขาสั่งถูกนำมาให้พอดี มุมปากของเขาหยักยิ้มเมื่อเห็นท่าทางของนาง จางชิงเทียนกินบะหมี่เนื้อไปลอบมองสหายของน้องสาวไป เขาเพิ่งสังเกตว่าคุณหน

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮูหยินของจางชิงเทียน (2/4)

    “ข้าเห็นเจ้าเดินออกจากโรงเตี๊ยมจึงเดินตามเพียงเท่านั้น” กล่าวจบสายตาของท่านราชเลขาฯ ก็จับจ้องดวงหน้าหวานที่มักจะส่งยิ้มให้เขาอยู่เสมอ แต่ทว่าวันนี้กลับบึ้งตึง “ท่านป้าเจ้าขา วันนี้ข้าต้องไปแล้ว ท่านมาเก็บโต๊ะเถิดเจ้าค่ะ คุณชายพวกนี้จะได้มีโต๊ะนั่งไม่ต้องมายืนจ้องผู้อื่นให้เสียมารยาทเช่นนี้” กล่าวจบนางก็วางเหรียญอีแปะลงบนโต๊ะก่อนจะเดินออกจากร้านไป ตั้งแต่ต้นจนจบนางไม่ทักทายเขาเช่นที่เคยทำ ต้องเป็นเพราะที่เขากล่าววาจาไม่ดีใส่นางในวันนั้นเป็นแน่ “ชิงเทียนเจ้ารู้จักคุณหนูผู้นั้นหรือ” “เจ้าชอบนางหรือ” “ใช่ ข้าอยากเกี้ยวพานาง ในเมืองหลวงนี้จะมีคุณหนูส

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status