แชร์

ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย
ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย
ผู้แต่ง: ต้าซินซิน

บทที่ 0001

ผู้เขียน: ต้าซินซิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-11 00:54:00

บนที่นอนเก่า ๆ มีร่างของเด็กสาวอายุสิบสองหนาวที่นอนป่วยติดต่อกันมาห้าวันแล้วกำลังขยับตัว ร่างผอมบางแทบจะปลิวหากถูกลมแรง ๆ พัดมา จนลืมตาขึ้นมาได้ก็รู้สึกปวดเมื่อยตามตัวไปหมด เมื่อปรับสายตาได้จึงมองสำรวจรอบ ๆ ก็แปลกใจว่าเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง เข็มขาวจำได้ว่าเธอถูกรถชนอย่างแรง และตายไปแล้วแต่ตอนนี้ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ แถมยังใส่ชุดเหมือนคนจีนโบราณ

เมื่อนั่งทบทวนเรื่องราวอยู่จู่ ๆ ก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างแรงและมีความทรงจำของร่างนี้ มันกำลังหลั่งไหลเข้ามาในหัวของเธอจนต้องนอนนิ่ง ๆ อยู่เกือบหนึ่งเค่อ อาการปวดหัวเหล่านั้นจึงเริ่มดีขึ้น เธอเรียบเรียงความทรงจำของร่างนี้ ก็พบว่าร่างที่เธอเข้ามาอยู่นั้นมีชื่อว่าสวีลู่ชิงอายุสิบสองหนาว ท่านพ่อของนางถูกท่านปู่แท้ ๆ ไล่ออกจากตระกูล เพราะมีคนสร้างหลักฐานเท็จใส่ร้ายว่า ท่านพ่อทำบัญชีปลอมเพื่อโกงเงินร้านค้าผ้า

เมื่อมีหลักฐานชี้ชัดก็ไม่อาจก้ตัวอะไรได้ ท่านพ่อจึงพาทุกคนเดินทางมาบ้านเดิมของท่านย่าที่หมู่บ้านอันผิง ยามออกจากจวนพวกเขาไม่อาจหยิบของมีค่าติดตัวมาได้ โชคดีที่ท่านแม่แอบนำตั๋วเงิน มาเย็บไว้ในเสื้อผ้าของลู่ชิงจึงพอมีเงินจ่ายค่าเดินทาง จากพ่อค้าต้องขึ้นเขาล่าสัตว์ทำสวนปลูกผัก ท่านแม่ก็รับผ้ามาปักหารายได้ช่วยครอบครัวอีกแรง

ด้วยตอนนี้เป็นฤดูหนาวที่มีหิมะตกหนัก สวีลู่ชิงที่ร่างกายขาดสารอาหาร และช่วยงานของครอบครัวเกิดล้มป่วยไข้ขึ้นสูง

เงินเก็บในบ้านก็มีไม่พอที่จะไปตามหมอมารักษา ท่านพ่อจึงหาสมุนไพรมาต้มให้ดื่มแก้ขัด เพื่อบรรเทาอาการเท่านั้น แต่ร่างกายนี้ทนพิษไข้ไม่ไหวจึงจากไปในที่สุด และเป็นวิญญาณของเธอที่เข้ามาอยู่ในร่างนี้แทน แม้จะไม่รู้ว่าทำไมถึงมาอยู่ในร่างนี้ได้ แต่ก็อยากขอบคุณเจ้าของร่างอยู่ดีที่ทำให้เธอได้มีโอกาสได้ใช้ชีวิตในโลกใหม่นี้อีกครั้ง

“สวีลู่ชิง ขอให้เจ้าไปสู่ภพภูมิที่ดีเถิด อย่าได้เป็นห่วงครอบครัวของเจ้า จากนี้ต่อไปข้าจะช่วยดูแลพวกเขาแทนเจ้าเอง” เข็มขาวพูดจบก็รู้สึกถึงสายลมวูบหนึ่งพัดผ่านตัวเธอไป ขณะที่กำลังจะลงจากเตียงก็มีเสียงเอ่ยเรียกขึ้นมาเสียก่อน

“นะ นะ น้องเล็กเจ้าฟื้นแล้ว ดีจริง ๆ ทุกคนเป็นห่วงเจ้ามากนะ ท่านแม่เองก็แอบร้องไห้อยู่บ่อย ๆ เพราะกลัวว่าเจ้าจะไม่ยอมตื่น” คนที่พูดกับข้าคือพี่ชายคนรองสวีลู่เสียน ด้วยความเป็นห่วงน้องสาว เขาจึงแวะเวียนมาดูอาการก่อนจะไปช่วยบิดากวาดหิมะ

“ข้าฟื้นแล้วเจ้าค่ะพี่รอง รบกวนท่านหาน้ำมาให้ข้าสักหน่อยได้หรือไม่เจ้าคะ ข้ารู้สึกกระหายน้ำมากเลยเจ้าค่ะตอนนี้” ด้วยร่างกายที่ผอมบางและเพิ่งฟื้น ทำให้ไม่ค่อยมีแรงมากนัก ทำอะไรก็ดูจะชักช้าไปหมด จนรู้สึกขัดใจตนเองอยู่ลึก ๆ ที่สำคัญยังเป็นร่างของเด็กหญิงอายุสิบสองหนาวอีกนี่สิ

“ได้สิ ๆ เจ้ารอพี่รองสักประเดี๋ยว พี่รองจะไปเอาน้ำมาให้เจ้านะ และจะไปตามท่านพ่อท่านแม่และพี่ใหญ่ด้วย พวกเขาต้องดีใจมากแน่ ๆ ที่เห็นเจ้าฟื้นขึ้นมาเช่นนี้” ลู่เสียนบอกน้องสาวเสร็จ ก็รีบวิ่งออกจากห้องไปตามทุกคน โดยไม่ลืมเอาน้ำต้มสุกอุ่น ๆ กลับมาให้สวีลู่ชิงได้ดื่ม

“ได้รับโอกาสมีชีวิตใหม่อีกครั้ง และมีครอบครัวที่รักกันแบบนี้ก็ดีไม่น้อยเลย” เข็มขาวขอบคุณสิ่งศักดิสิทธิ์ หรือท่านเทพทั้งหลายที่เมตตาให้โอกาสเธอได้ใช้ชีวิตใหม่อีกครั้ง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามที่ทำให้วิญญาณของเธอ ได้มาเกิดใหม่ในโลกแห่งนี้ แม้ในอนาคตจะเจอกับอุปสรรค เธอก็จะพยายามฝ่าฟันและไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน

จากนี้ไปเธอไม่ใช่เข็มขาวอีกแล้ว แต่เธอคือสวีลู่ชิงบุตรสาวคนเล็กของตระกูลสวี อย่างแรกคงต้องรักษาตัวเองให้แข็งแรงก่อนถึงจะคิดเรื่องอื่น ๆ ได้ ไม่งั้นคงจะได้ตายรอบสองแน่ ถ้ายังมีร่างกายผ่ายผอมขาดสารอาหารเช่นนี้

“ชิงเอ๋อร์!! เจ้าฟื้นจริง ๆ ด้วย พี่รองของเจ้าไม่ได้โกหกแม่ดีใจเหลือเกินที่เจ้าฟื้นเสียที เจ้าหิวหรือไม่เจ้านอนหลับไม่ได้สติไปหลายวัน จนแม่กลัวว่าเจ้าจะไม่ยอมตื่นขึ้นมาเสียแล้ว เจ้าคุยกับท่านพ่อและพี่ชายของเจ้าไปก่อนนะ ประเดี๋ยวแม่จะไปต้มโจ๊กมาให้เจ้ากินรองท้อง เจ้าเพิ่งจะฟื้นต้องกินอาหารอ่อน ๆ ไปก่อน” ท่านแม่มาเร็วเคลมเร็วไปหรือไม่เจ้าคะ ท่านแม่เข้ามาก็พูดขึ้นรัว ๆ และรีบออกไปที่ห้องครัวทันทีหลังพูดจบ ไม่เปิดโอกาสให้ข้าได้ตอบเลย

“ชิงเอ๋อร์ของพ่อรู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง ยังปวดหัวอยู่หรือไม่” ท่านพ่อถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและเป็นห่วงนางยิ่งนัก

“ท่านพ่ออย่าได้กังวล ชิงเอ๋อร์ดีขึ้นแล้วเจ้าค่ะ อาจจะมีอ่อนเพลียอยู่บ้าง แต่นอนพักสักสองสามวัน ก็ลุกออกไปช่วยงานท่านพ่อได้แล้วเจ้าค่ะ” ลู่ชิงตอบกลับบิดาเพื่อให้เขาคลายกังวล เพราะท่าทีของท่านพ่อเหมือนคนรู้สึกผิด

“เจ้าต้องพักผ่อนให้มากหน่อย รอให้หายดีจริง ๆ ก่อน ค่อยคุยเรื่องทำงานเข้าใจหรือไม่” เขาเห็นบุตรสาวยิ้มได้ก็สบายใจขึ้น แม้นางจะยังดูซีดเซียวอ่อนแรงอยู่บ้างก็ตาม

“น้องเล็กเจ้าต้องพักผ่อนอย่างที่ท่านพ่อบอกให้ดี อยากได้อะไรเจ้าก็บอกพี่ใหญ่มาได้เลย เดี๋ยวพี่ใหญ่จะช่วยทำให้เจ้าเอง”

ลู่ชิงหันไปมองพี่ชายคนโตที่กำลังเข้าสู่วัยหนุ่มแล้ว ปีนี้พี่ใหญ่อายุสิบห้าหนาว เขาหน้าตาคล้ายท่านพ่อถึงเจ็ดส่วน ด้านพี่รองนั้นเพิ่งอายุครบสิบสามหนาวเมื่อเดือนก่อน ก็มีหน้าตาคล้ายท่านพ่อสี่ส่วน รูปร่างไม่ได้สูงใหญ่เหมือนท่านพ่อ แต่กลับสูงโปร่งคล้ายบัณฑิตมากกว่า ที่สำคัญยังมีใบหน้าที่อ่อนหวานเยี่ยงสตรีมากกว่าบุรุษ ส่วนข้านั้นคล้ายท่านแม่ถึงแปดส่วนเลยทีเดียว ท่านแม่มีใบหน้าที่งดงามไม่น้อยแม้จะไม่ถึงกับงามล่มเมืองแต่กลับน่ามอง ท่านแม่มาจากครอบครัวบัณฑิตท่านตาเป็นซิ่วฉายสอนอยู่สำนักศึกษาที่เมืองเฉียนเหอ

ท่านพ่อมักจะไปติดต่อค้าขายที่เมืองนี้บ่อย ๆ จึงได้เจอกับท่านแม่ เวลาที่ท่านพ่อมาทำการค้าที่เมืองนี้ ก็ได้พูดคุยกันจนเกิดเป็นความรัก ท่านพ่อจึงให้แม่สื่อมาเจรจาสู่ขอ เมื่อแต่งงานแล้วท่านแม่ก็ต้องไปอยู่เมืองหลวงกับท่านพ่อ จะกลับไปเยี่ยมท่านตากับท่านยายนาน ๆ ครั้ง

จนกระทั่งสองปีต่อมา ที่เมืองเฉียนเหอเกิดโรคระบาด ท่านตาท่านยายต่างก็ติดโรคระบาดนี้จนเสียชีวิตทั้งคู่ ขณะที่ลู่ชิงกำลังนึกถึงอดีตของครอบครัว ท่านแม่ก็ถือชามโจ๊กร้อน ๆ เข้ามาหานางพอดี

“ชิงเอ๋อร์มากินโจ๊กรองท้องก่อนนะลูก จะได้ดื่มยาต่อเจ้าจะได้หายไว ๆ” ท่านแม่เดินเข้ามานั่งลงที่ข้างเตียง พร้อมกับเป่าไล่ความร้อนของโจ๊กให้นาง

“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านแม่” ลู่ชิงรู้สึกอบอุ่นในหัวใจเหลือเกินจึงได้เอ่ยขอบคุณท่านแม่ด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

“แม่ยินดีทำให้ชิงเอ๋อร์ มากินโจ๊กเถอะเดี๋ยวแม่จะป้อนให้เจ้าเอง” ตอนนี้ฟางซินนางมีความสุขมาก ที่บุตรสาวฟื้นจากอาการป่วยในครั้งนี้ จึงนั่งป้อนโจ๊กให้บุตรสาวด้วยรอยยิ้ม

ลู่ชิงมองดูถ้วยโจ๊กที่ท่านแม่ทำมาให้ แม้ว่ามันจะมีน้ำมากกว่าเม็ดข้าว แต่กลับรู้สึกว่าในถ้วยใบนี้มันเต็มไปด้วยความรัก ลู่ชิงจึงอ้าปากให้ท่านแม่ป้อนและมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“ท่านแม่ข้าอิ่มแล้วเจ้าค่ะกินอีกไม่ไหวแล้ว” ลู่ชิงกินโจ๊กไปได้ไม่กี่คำก็รู้สึกอิ่ม เพราะนอนป่วยมาหลายวันทำให้กินได้ไม่มากนัก

“ถ้าเช่นนั้นก็ดื่มยาแล้วนั่งพักสักครู่ ค่อยนอนพักผ่อนนะลูก” ท่านแม่วางถ้วยโจ๊กแล้วหยิบถ้วยยาสีดำปี๋ แถมกลิ่นก็ไม่น่าพิสมัยเอาเสียเลยยื่นมาให้ลู่ชิง

“ท่านแม่เจ้าคะ ไม่ดื่มได้หรือไม่ดูแล้วมันคงจะขมมากนะเจ้าคะ” แค่เห็นสีของยาลู่ชิงก็ไม่อยากจะดื่มมันขึ้นมาเสียอย่างนั้น

“ยาก็ต้องมีรสขมเป็นธรรมดา เจ้ากลั้นใจดื่มสักหน่อยเถิดนะ” นางพยายามพูดปลอบใจบุตรสาวที่ไม่อยากดื่มยารสขม

“ก็ได้เจ้าค่ะท่านแม่” ลู่ชิงรับถ้วยยามาถือไว้และกลั้นหายใจดื่มมันลงไปทีเดียว อื้อหือขมมากแม่ ล้วงคอเอาออกมายังทันไหมนะ

“เอาล่ะอีกสักพักเจ้าค่อยนอนพักผ่อน มีอะไรก็เรียกแม่ได้แม่จะนั่งปักผ้าอยู่ตรงหน้าบ้านนะ” ฟางซินเห็นสีหน้าบุตรของสาวหลังดื่มยา ก็อดที่จะขำไม่ได้ นางกำชับบุตรสาวเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

หลังจากที่ลู่ชิงดื่มยาถ้วยนั้นแล้ว นั่งอยู่สักครู่ก็เริ่มจะง่วงขึ้นมาอีกครั้ง จึงค่อย ๆ เอนตัวลงนอน ด้วยร่างกายที่ยังอ่อนเพลียจากพิษไข้อยู่ ลู่ชิงจึงหลับไปอย่างง่ายดาย โดยไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังมีเรื่องอัศจรรย์เกิดขึ้นกับตนเอง

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0002

    ลู่ชิงนอนหลับสนิทอยู่สักพัก แต่กลับถูกรบกวนด้วยเสียงใครบางคน ที่พยายามเรียกตนเองให้ตื่น ทั้งที่กำลังนอนหลับสบาย จากอาการป่วยจนร่างกายไร้เรี่ยวแรงมานาน เมื่อทนการรบเร้านี้ไม่ไหว จึงได้ลืมตาตื่นมองไปรอบ ๆ ที่ยามนี้ไม่ใช่เตียงนอนเก่า ๆ อีกแล้ว แต่เป็นสถานที่หนึ่งกับชายชราผมขาว ที่ยืนถือไม้เท้าลักษณะแปล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-11
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0003

    เมื่อถึงปลายยามโหย่ว หลังจากที่ทุกคนทานมื้อเย็นเสร็จ และเก็บจานชามไปทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ก็กลับมารวมตัวกันอยู่ที่โต๊ะทานข้าวอีกครั้ง และเป็นท่านพ่อที่เอ่ยถาม เรื่องที่ลู่ชิงอยากจะพูดคุยกับพวกเขาขึ้นมา ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ สำหรับทุกคนในครอบครัวอย่างมาก เพราะเมื่อก่อนลู่ชิงจะพูดน้อยและทำต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-11
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0004

    ลู่ชิงตื่นขึ้นมายามเหม่าของอีกวัน จึงรีบเข้าไปในมิติเพื่อหยิบพวกเนื้อสัตว์และผักที่จะใช้ทำเป็นมื้อเช้าวันนี้ โดยไม่ลืมที่เดินไปหยิบเอาพวกแปรงสีฟันและยาสีฟัน เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ทำความสะอาดช่องปากลู่ชิงกลัวว่าแค่บ้วนปากด้วยเกลือมัน จะไม่สะอาดในเมื่อมีของให้ใช้ เราก็ต้องใช้จะปล่อยให้เสียของได้อย่างไร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-12
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0005

    สามวันที่ผ่านมาท่านพ่อและพี่ชาย ก็ขึ้นเขาไปวางกับดักสัตว์และหาของป่าอย่างอื่นตามปกติ พอจะเอาไปขายที่ตำบลลู่ชิงก็จะขอตามไปด้วยทุกครั้ง ไปถึงตำบลก็ให้ท่านพ่อไปขายเนื้อสัตว์ ที่วางกับดักมาได้ที่เหลาอาหาร ซึ่งเมื่อก่อนท่านพ่อมักจะนำมาขายเป็นประจำ รวมสามวันได้เงินมาสามร้อยเก้าสิบอีแปะ ส่วนตัวลู่ชิงเดินไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-12
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0006

    สองวันต่อมาก็ถึงเวลาไปขายของวันแรกแล้ว ทุกคนตื่นพร้อมกันลู่ชิงกับฟางซินช่วยกันหมักเนื้อหมูและน่องไก่ ส่วนลู่เวินกับบุตรชายก็ช่วยกันยกเตาและอุปกรณ์ที่ใช้ทอดทุกอย่าง ขึ้นบนรถเข็นรออยู่นอกบ้านลู่ชิงได้ตั้งกฎกับครอบครัวเอาไว้ว่า จะขายของหกวันและหยุดพักหนึ่งวัน เพราะไม่อยากให้ทุกคนเอาแต่คิดเรื่องทำงานหา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-12
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0007

    กลับมาถึงบ้านก็เกือบถึงยามซื่อแล้ว มื้อเช้าทุกคนก็อาศัยกินข้าวเหนียวกับหมูทอดกัน เพราะตื่นเต้นกับการขายของวันแรก จึงลืมเตรียมมื้อเช้าไปกินด้วย ลู่ชิงจึงคิดว่าคืนนี้จะทำกับข้าวง่าย ๆ ใส่กล่องไว้ในมิติตอนเช้าจะได้ไม่ลืมอีก เมื่อเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว ลู่ชิงก็ชวนทุกคนมานั่งที่โต๊ะอาหาร เพื่อทำการนับเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0008

    วันที่สองของการค้าขายก็ยังดีเหมือนเมื่อวาน เพราะมีลูกค้ามายืนรอบริเวณหน้าร้านหลายคนแล้ว และวันนี้ก่อนออกจากบ้านพวกเราทานข้าวผัดหมูเป็นมื้อเช้ามาเรียบร้อย ตอนนี้กำลังช่วยกันตั้งร้านใกล้จะเสร็จ หน้าที่ทอดหมูและไก่ ก็ยังคงเป็นท่านพ่อกับพี่ใหญ่พี่รองเช่นเดิม เข้าสู่ปลายยามเหม่าอาหารก็พร้อมขาย ลูกค้าหน้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0009

    ผ่านมาได้สองอาทิตย์ การค้าของครอบครัวสวีเป็นไปด้วยดี ลูกค้าประจำมีมากขึ้น ขนาดพ่อบ้านของจวนนายอำเภอ ยังมาต่อแถวซื้อไปให้เจ้านายได้ลิ้มลอง วันนี้เป็นวันหยุดของครอบครัว ลู่ชิงอยากจะปรึกษาบิดาเกี่ยวกับผู้คนในหมู่บ้านอันผิง ว่าพวกเขาเหล่านี้มีนิสัยใจคออย่างไร คนเห็นแก่ตัวหรือขี้อิจฉา ย่อมมีอยู่ทุกที่เหม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13

บทล่าสุด

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0340

    “จะเรียกพวกข้าว่าอะไรก็แล้วแต่ท่านเหลียนจะเรียกเถิด และใช่ท่านทำอยู่เรื่องหนึ่งที่ข้ารู้สึกไม่พอใจมาก เพราะท่านเหลียนกำลังคิดจะจัดการตระกูลสวี ข้าพูดถูกใช่หรือไม่” เซียวหนิงหลงเดินเข้าไปนั่งโต๊ะกลางห้องและพูดถึงเรื่องตระกูลสวี“จะ จะ เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้ากำลังคิดจะทำอะไรกับตระกูลสวี” เหลียนตั๋วลู่เร

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0339

    “ตอนนี้คนเห็นแก่ผลประโยชน์ผู้นี้กำลังหารือกับพ่อบ้านคนสนิท เพื่อวางแผนจัดการกับคนในตระกูลสวีขอรับ นอกจากนี้สองสามีภรรยายังได้พูดจาดูถูกตระกูลสวี จนข้าเกือบจะทนไม่ไหวดีที่เต๋อหลินห้ามเอาไว้ก่อนขอรับ” ต่งซวินไม่กล้าคิดต่อเลยว่าคนที่เหลียนตั๋วลู่ส่งมา จะรับมือกับหน่วยลับที่มาอารักขาครอบครัวชินอ๋องอย่าง

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0338

    ยังมีคำพูดของเด็กสาวอีกคนหนึ่งฝากมาเช่นกันนางบอกว่า ‘หากตระกูลเหลียนนั่นยังไม่หยุดเรื่องนี้ ข้าจะให้พี่ชายไปถล่มจวนนั้นให้ราบหรือไม่ก็ฆ่าล้างตระกูลไปเลยยิ่งดี ก็แค่มีกิจการฐานะร่ำรวยไม่เท่าไหร่ คิดใช้เส้นสายอันน้อยนิดมาข่มขู่ อย่าให้พี่ชายของข้าต้องโกรธไปมากกว่านี้’ เหมือนว่าเด็กสาวคนนี้จะเป็นแขกของ

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0337

    แม่สื่อซินหลินกึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับหมู่บ้านอันฮุยด้วยใจที่สั่นรัว นางยังจำสายตาของเซียวหนิงหลงได้ดี เมื่อครู่นี้คล้ายกับว่าเขาสามารถสังหารนางได้ในพริบตา จึงไม่กล้าโต้เถียงกลับไปเหมือนคนอื่น ๆ ไหนจะความรู้สึกอึดอัดตอนที่มองสบตา แม่สื่อซินหลินนึกแล้วก็ขนลุกไปตลอดทางเพียงไม่นานนางก็กลับมาถึงจวนขนาดกลาง

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0336

    “ที่พูดมาคิดจะข่มขู่คนตระกูลสวีให้ยินยอมทำตามใช่ไหม ข้ารบกวนเจ้ากลับไปบอกผู้นำตระกูลเหลียนหน่อยสิ ถ้ายังอยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายอีกนาน ๆ อย่ายื่นมือมาเข้ามายุ่งกับกิจการของตระกูลสวีเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นแม้แต่ที่ซุกหัวนอนก็จะไม่มี หรือบางทีข้าใจดำมากหน่อยแม้แต่ชีวิตก็อาจไม่เหลืออย่าลืมบอกด้วยว่าผู้สนั

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0335

    แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังจะเดินเข้าประตูอันใหญ่โต กลับมีเสียงสตรีนางหนึ่งเรียกลู่เวินเอาไว้ ทำให้การจะเข้าไปพักผ่อนต้องหยุดชะงัก และหันหน้ากลับมามองพร้อมกันว่าเป็นผู้ใดกันที่ใช้เสียงแหลม ๆ จนแสบหูเช่นนั้นส่งเสียงเรียกลู่เวิน“นายท่านสวี ๆ โอยเหนื่อยจริง ๆ เลย ข้ามารอท่านตั้งหลายวัน ในที่สุดก็ได้เจอจะได้

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0334

    “เอาไว้ถึงเวลาเจ้าก็จะเห็นเองนั้นแหละเล่อเล่อ แล้วไม่ต้องมาหลอกถามเรื่องนี้กับแม่อีก ถึงจะแอบไปถามกับท่านน้าม่อหลัน เจ้าก็ไม่รู้อยู่ดีเพราะเรื่องนี้เป็นความลับ” พระชายาพูดดักทางบุตรสาวเอาไว้ เพราะอย่างไรก็รู้ทันว่านางต้องแอบไปถามกับม่อหลันเหมือนทุกครั้ง“โธ่ท่านแม่ เล่นพูดแบบรู้ทันข้าเช่นนี้ก็แย่สิเ

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0333

    อีกสองวันถัดมาช่วงเวลาปลายยามเหม่า รถม้าของอู๋เจียงสงถูกเตรียมเอาไว้แล้ว และพร้อมออกเดินทางทันทีเมื่อเจ้านายมาถึง สองแม่ลูกอย่างถางฮูหยินและอู๋ติ้งเกา ไม่มีใครออกมายืนส่งผู้นำตระกูลขึ้นรถม้าสักคน จะมีเพียงพ่อบ้านอู๋ที่มายืนรอส่งเพียงคนเดียว โดยมีผู้ติดตามคอยดูแลเจ้านายก็คืออาหลาน รวมถึงคนของสำนักคุ้

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0332

    เพราะลูกชายของเจ้าทำงานไม่ได้เรื่อง กิจการของตระกูลต้องขาดทุนไปเท่าไหร่เคยรับรู้อะไรบ้างไหม ก็ไม่เคย! ดีแต่ใช้เงินกับเรื่องไร้สาระไปวัน ๆ พอมีปัญหาเกิดขึ้นก็ไม่เคยช่วยคิดช่วยทำ ปล่อยทิ้งให้ข้าต้องมานั่งคิดแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เจ้าเป็นคนสร้างมันขึ้นมาทำให้กิจการต้องปิดตัวไปกี่ร้านแล้วแต่น้องชายคนรองข

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status