Share

บทที่ 0003

last update Last Updated: 2025-01-11 01:01:31

เมื่อถึงปลายยามโหย่ว หลังจากที่ทุกคนทานมื้อเย็นเสร็จ และเก็บจานชามไปทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ก็กลับมารวมตัวกันอยู่ที่โต๊ะทานข้าวอีกครั้ง และเป็นท่านพ่อที่เอ่ยถาม เรื่องที่ลู่ชิงอยากจะพูดคุยกับพวกเขาขึ้นมา ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ สำหรับทุกคนในครอบครัวอย่างมาก เพราะเมื่อก่อนลู่ชิงจะพูดน้อยและทำตัวเงียบ ๆ หากไม่มีผู้ใดถามนาง ก็จะทำงานของตนไม่เคยมีข้อสงสัยใด ๆ

“ชิงเอ๋อร์ ท่านแม่ของเจ้าบอกพ่อว่า เจ้ามีเรื่องอยากจะพูดคุยกับพวกเราเช่นนั้นหรือ” ลู่เวินเอ่ยถามบุตรสาว

“เจ้าค่ะท่านพ่อ ข้ามีเรื่องสำคัญมาก อยากจะบอกความจริงบางอย่างกับพวกท่านทุกคน ก่อนที่จะเล่าข้าอยากขอให้พวกท่านตั้งสติและทำความเข้าใจกับสิ่งที่จะได้ยิน เพราะเรื่องที่จะพูดต่อไปนี้อาจจะเหลือเชื่อจนเกินไป หรือจะเรียกว่าเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติก็ว่าได้ แต่มันเกี่ยวข้องกับบุตรสาวคนนี้ของท่าน รวมถึงน้องสาวของพวกท่านสองคนด้วยเจ้าค่ะ” ที่ลู่ชิงพูดเช่นนั้นเพราะอยากให้พวกเขามีสติ กับความจริงที่นางกำลังจะพูดออกไป

“เอาเถอะ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร พวกเราทุกคนยินดีที่จะรับฟังทั้งสิ้น เจ้าพูดมันออกมาได้เลยนะชิงเอ๋อร์” เขาอยากจะรู้ว่าบุตรสาวมีเรื่องหนักใจอันใดกันถึงได้ทำสีหน้ากังวลเช่นนั้น

“ลู่ชิงที่ยืนอยู่ต่อหน้าพวกท่านในตอนนี้ ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกยังคงเป็นบุตรสาวของท่านพ่อท่านแม่ และเป็นน้องสาวของพี่ชายทั้งสอง แต่ดวงจิตที่อยู่ในร่างกายนี้ กลับไม่ใช่บุตรสาวตัวจริงของท่าน สวีลู่ชิงตัวจริงได้ตายจากไป ตั้งแต่เมื่อเช้ามืดของวันนี้แล้วเจ้าค่ะ และข้าที่เป็นดวงวิญญาณที่ตายจากโลกคู่ขนานอีกโลกหนึ่งอันห่างไกล ถูกท่านเทพชะตาพามาอยู่ในร่างบุตรสาวของพวกท่าน ซึ่งข้าเองได้ให้สัญญากับสวีลู่ชิงไว้แล้วว่า จะช่วยดูแลพวกท่านแทนนางนับจากนี้เป็นต้นไปเจ้าค่ะ” ข้าเล่าออกไปและสังเกตอาการของทุกคนว่าเป็นอย่างไร แน่นอนว่าท่านแม่ร้องไห้ออกมา ตั้งแต่บอกว่าลู่ชิงตัวจริงนั้นได้ตายไปแล้ว ท่านพ่อกับพี่ชายดูจะเสียใจไม่น้อยแต่ไม่มีน้ำตาให้เห็น

“ขอบอกพวกท่านตามตรง ตัวข้าในโลกแห่งนั้นไม่เป็นที่รักของครอบครัวสักเท่าใดนัก พ่อแม่รักพี่ชายมากถึงมากที่สุด ไม่ว่าพี่ชายอยากได้อะไรต้องการอะไร ล้วนได้ตามที่ต้องการเสมอ แต่กับข้าอยากได้อะไรต้องหามันมา ด้วยกำลังของตนเองเท่านั้น ในใจลึก ๆ ข้าใฝ่ฝันมาตลอดว่า อยากมีครอบครัวที่พ่อแม่รักลูกทุกคน ไม่ว่าจะสตรีหรือบุรุษ

ขอแค่มีครอบครัวที่อบอุ่น ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขก็เพียงพอ ดังนั้นข้าที่ได้มาเกิดใหม่ ในร่างของบุตรสาวพวกท่าน หากจะขอความเมตตาฝากตัวเป็นบุตรสาว เป็นน้องสาวของพวกท่านจะได้หรือไม่เจ้าคะ” ลู่ชิงคนใหม่พูดถึงเรื่องครอบครัวที่นางใฝ่ฝัน และอยากมีในชีวิตสักครั้งให้กับทุกคนได้ฟัง

“เป็นเพราะพ่ออย่างข้าที่ไม่เอาไหน ปล่อยให้บุตรสาวต้องล้มป่วยจนตาย นี่คงเป็นลิขิตของสวรรค์ ที่บุตรสาวของข้าได้ใช้ชีวิตเพียงแค่สิบสองหนาว ส่วนตัวพวกเราก็ไม่อาจรู้ได้ว่า จะมีชีวิตอยู่ยืนยาวหรือไม่ ไหน ๆ เรื่องราวมันก็เกิดขึ้นแล้ว ไม่สามารถย้อนกลับไปแก้อะไรได้ ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใครก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้เจ้าคือสวีลู่ชิงบุตรสาวคนเล็กของครอบครัวตระกูลสวี” แม้จะเสียใจอยู่ลึก ๆ แต่อย่างน้อยร่างของบุตรสาว ก็ยังได้ทำความดีให้อีกคน ได้เกิดใหม่มีโอกาสใช้ชีวิต

ที่เหลือแทนนาง

“โธ่ชิงเอ๋อร์ลูกแม่ ฮือ ๆ เพราะพวกเราดูแลลูกได้ไม่ดี ทำให้เจ้าต้องจากไปเร็วเช่นนี้ ฮือ ๆ ๆ” ฟางซินเองไม่อยากเชื่อว่าบุตรสาวของนางได้จากโลกนี้ไปแล้ว จึงยังทำใจไม่ได้ขอตัวกลับเข้าห้องไปก่อน

“เจ้าช่วยให้เวลาท่านแม่ได้ทำใจสักพักเถิดนะ พวกเราเองก็เสียใจไม่น้อย แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้ว พวกเราคงต้องยอมรับความจริง เจ้าเองอย่าได้กังวล ขอเพียงไม่ทำร้ายคนในครอบครัว พวกเราก็อยู่ร่วมกันได้ต่อไป และเจ้าก็เกิดอยู่ในร่างของชิงเอ๋อร์ เจ้ายังเป็นน้องสาวของพวกเราสองคนอยู่ดี” ลู่จื้อพูดขึ้นมาอย่างจริงจังและลู่เสียนก็พยักหน้าเห็นด้วยกับพี่ชาย

“อืม อาจื้อพูดถูกแล้วล่ะ พวกเรายังต้องใช้ชีวิตต่อไป ค่อย ๆ ทำความรู้จักนิสัยใจคอกันไป อย่างไรเสียพวกเราก็ตัดใจทิ้งเจ้าไม่ได้อยู่ดี” ลู่เวินยังเคยแอบคิดว่าจะได้เห็นลู่ชิงร่าเริงสดใสบ้าง

“ฮึก ขอบคุณพวกท่านที่ไม่รังเกียจข้า ที่เป็นคนแปลกหน้ามาจากที่อื่น ข้าขอสัญญาว่าต่อจากนี้ไป ความรู้ใดที่ติดตัวมาจากโลกเดิมจะนำทุกอย่างมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพื่อให้ทุกคนได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ” ลู่ชิงคุกเข่าลงและก้มหัวคำนับให้กับพวกเขา

“ข้ายังมีอีกเรื่องที่อยากจะบอกพวกท่านเจ้าค่ะ ถือว่าข้าบริสุทธิ์ใจไม่คิดมีความลับกับพวกท่าน ที่จะให้ข้าอยู่ที่นี่ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัวตระกูลสวี และเรื่องนี้มันสำคัญมาก หากข้าบอกไปแล้วพวกท่านต้องเก็บเป็นความลับ จะบอกให้คนอื่นรู้ไม่ได้เด็ดขาดนะเจ้าคะ” ลู่ชิงไม่ลืมที่จะบอกพวกเขาเรื่องมิติวิเศษนั่น

“เรื่องสำคัญที่ต้องเก็บเป็นความลับเลยรึ ถ้าเช่นนั้นเจ้าไม่ต้องบอกพวกเราก็ได้” ท่านพ่อถามข้าด้วยความสงสัย ว่าเป็นเรื่องสำคัญอันใด แต่ก็ยังคิดเผื่อว่าไม่ต้องบอกและเก็บไว้กับตัวดีกว่า

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ บอกพวกท่านให้รู้ไว้ย่อมดีที่สุด ยามที่พวกท่านเห็นสิ่งแปลก ๆ จะได้ไม่ตกใจจนจับไข้อย่างไรเล่า ตอนนี้จับมือกันไว้และหลับตานะเจ้าคะ หายใจเข้าลึก ๆ ด้วยเจ้าค่ะ ข้าจะพาพวกท่านไปยังที่แห่งหนึ่ง ขอให้พวกท่านมีสติยามที่บอกให้ลืมตา ถ้ามีข้อสงสัยอันใดสามารถถามข้าได้ทันทีเจ้าค่ะ” ทุกคนทำตามที่ลู่ชิงบอกแล้วก็พูดคำว่าเข้ามิติ เพียงวูบเดียวก็พาทุกคนมาโผล่ด้านในของมิติแล้ว

“พวกท่านลืมตาได้แล้วเจ้าค่ะ” ลู่ชิงบอกให้พวกเขาลืมตาทันทีที่เข้ามาในมิติของตน

“ชิงเอ๋อร์!!! นะ นี่เจ้าพาพวกเรามาที่ใดกัน เมื่อครู่ยังอยู่ในบ้านอยู่เลยถ้าท่านแม่ออกมาไม่เจอเล่า” ลู่เสียนตกใจว่าตนเองมาอยู่ที่ใด

“ชิงเอ๋อร์!! เจ้าอาคารนั่นคือสิ่งใด ทำไมมันถึงมีขนาดใหญ่เช่นนั้น ที่เมืองหลวงไม่เคยเห็นมีอาคารเช่นนี้นะ” ลู่จื้อมองดูอาคารรูปร่างแปลกตาไปรอบ ๆ

“ชิงเอ๋อร์!! ที่เจ้าบอกว่าเป็นเรื่องสำคัญ หรือว่าเจ้าจะได้รับพรวิเศษมาจากท่านเทพใช่หรือไม่” ลู่เวินนึกขึ้นได้ว่านี่น่าจะเป็นสิ่งที่ลู่ชิงบอกไว้ก่อนหน้านี้

ทุกคนลืมตาขึ้นก็พากันตกใจ หันมองซ้ายทีขวาที ถามคำถามจนไม่เว้นช่องให้ลู่ชิงได้ตอบ นางจึงแอบอมยิ้มขำขันเล็กน้อย ก่อนที่ทุกคนจะตั้งคำถามอีกลู่ชิงรีบอธิบายให้ทุกคนฟังทันที

“ท่านพ่อที่นี่เป็นมิติวิเศษ ที่ท่านเทพชะตามอบเป็นของตอบแทนให้ข้าเจ้าค่ะ หากมีมิติแห่งนี้จะได้นำของต่าง ๆ ไปสร้างอาชีพให้กับพวกเรา อาคารขนาดใหญ่ที่พวกท่านเห็น มันเรียกว่าห้างสรรพสินค้า ทุกอย่างในนั้นล้วนเป็นสินค้า ที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันเจ้าค่ะ มีข้าวสาร เนื้อสัตว์ อาหารแห้ง ผักผลไม้ แป้งที่ใช้ทำอาหารหรือทำขนมก็มีครบ ร้านเครื่องประดับ อุปกรณ์ตัดเย็บ เครื่องครัว และมีอีกมากมาย

ประเดี๋ยวพวกเราค่อยไปเดินสำรวจด้วยกัน จะได้เลือกของที่อยากจะนำไปทำเป็นมื้อเช้าวันพรุ่งนี้ด้วย แต่ว่าตอนนี้ข้าอยากให้พวกท่านได้ดื่มน้ำจากบ่อวิเศษนี่ก่อนเจ้าค่ะ

ที่ข้าหายป่วยเร็วก็เพราะดื่มน้ำจากในบ่อน้ำ แม้ว่าพวกท่านจะไม่ได้เจ็บป่วย แต่เมื่อดื่มมันไปแล้ว จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิมนะเจ้าคะ”

ลู่ชิงอธิบายเรื่องห้างสรรพสินค้าไปแล้ว จึงพาบิดาและพี่ชายทั้งสองไปยังบ่อน้ำวิเศษ และตักขึ้นมาใส่แก้วให้พวกเขาได้ดื่ม พี่ชายทั้งสองดื่มแล้วไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ แต่คนที่มีอาการผิดปกติกลับเป็นท่านพ่อที่ตอนนี้มีคราบของเหลวสีดำ ซึมออกมาตามเสื้อผ้า จากที่เคยอ่านนิยายแนวกำลังภายในมาบ้างลักษณะเช่นนี้ มันเป็นอาการของคนที่ถูกวางยาพิษอย่างแน่นอน

“ท่านพ่อ!!!” ทั้งสามคนพี่น้องต่างเรียกลู่เวินขึ้นพร้อมกัน

“ท่านพ่อ อาการของท่านเช่นนี้ ข้าคิดว่าตอนที่ท่านอยู่ที่เมืองหลวง มีคนแอบวางยาพิษท่านเป็นแน่เจ้าค่ะแต่ไม่ได้ใส่ในจำนวนที่มากนัก เหมือนอยากให้ท่านค่อย ๆ มีอาการเจ็บป่วย และตายไปเองในที่สุดมากกว่าเจ้าค่ะ” ลู่ชิงรีบอธิบายความผิดปกติให้ทุกคนฟังจะได้ไม่ตกใจจนเกินไป เมื่อเห็นสิ่งแปลกจากร่างกายของบิดา ที่ยามนี้ทำให้เสื้อผ้าที่สวมอยู่กลายเป็นสีดำต่อหน้าพวกเขา

“พวกสารเลว!! แค่ใส่ร้ายท่านพ่อ จนพวกเราถูกไล่ออกจากตระกูลแล้วยังไม่พอใจ ถึงกับวางยาพิษท่านพ่ออีก” ลู่จื้อพอได้ฟังสิ่งที่ลู่ชิงพูดก็โมโหเป็นอย่างมาก

“สมมติว่าพวกเรายังใช้ชีวิตปกติ จนท่านพ่อจากไป ก็คงคิดว่าท่านพ่อป่วยจนรักษาไม่ได้ ทั้งที่จริงแล้วเป็นยาพิษที่ทำให้ท่านพ่อต้องตาย ช่างโชคดีจริง ๆ ที่ได้ดื่มน้ำจากบ่อน้ำวิเศษ จึงได้รู้ความจริงเร็วเช่นนี้ และยาพิษนั่นก็ถูกขับออกมาหมดแล้ว” พี่รองตั้งสมมติฐานได้ตรงประเด็น

“ใช่แล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้ท่านพ่อไม่มีพิษตกค้างในร่างกายอีกแล้ว จากนี้มีแต่จะแข็งแรงสุขภาพดีอายุยืนยาว รวมถึงพวกเราทุกคนด้วยนะเจ้าคะ ข้าจะตักน้ำในบ่อวิเศษนี้ไปใส่ในถังน้ำในบ้าน พวกเราจะได้ดื่มทุกวัน เพื่อบำรุงร่างกายจนแข็งแรง แล้วพอหิมะละลายอากาศเริ่มอุ่นขึ้นกว่านี้ พวกเราค่อยมาคิดกันว่า จะทำอาชีพอะไรเพื่อหาเงินดีหรือไม่เจ้าคะ” ลู่ชิงถามความคิดเห็นจากทุกคนขึ้นมา

“พ่อเห็นด้วยกับชิงเอ๋อร์ช่วงที่รอหิมะละลาย พวกเราก็ดูแลร่างกายให้ดี จากนั้นค่อยปรึกษากันเรื่องอาชีพที่จะใช้หาเงินกันอีกที” ลู่เวินเห็นด้วยกับสิ่งที่บุตรสาวพูดมา

“พวกพี่สองคนก็เห็นด้วยกับเจ้า หากมีอาชีพประจำที่สามารถหาเงินได้ พวกเราย่อมมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่านี้แน่นอน” ลู่จื้อและลู่เสียนย่อมไม่ขัดใจน้องสาวของพวกเขาอยู่แล้ว

“ขอบคุณพวกท่านที่เชื่อใจข้าเจ้าค่ะ รับรองว่าในอนาคตอันใกล้ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ถ้าท่านแม่รู้สึกสบายใจแล้ว เรื่องนี้คงต้องรบกวนท่านพ่อ อธิบายกับท่านแม่อีกครั้งนะเจ้าคะ” ลู่ชิงรู้สึกมีความสุขมากที่ได้มาอยู่ในครอบครัวนี้

“อืม พ่อจะช่วยอธิบายกับแม่ของเจ้าเอง ให้เวลานางหน่อยนะ” ลู่เวินอยากจะคิดว่าบางทีลู่ชิงคนใหม่นี้ อาจเป็นดวงจิตเสี้ยวหนึ่งของบุตรสาว ที่ขาดหายไปทำให้ร่างกายเจ็บป่วยบ่อย ๆ และมันได้กลับมาอยู่ในร่างเดิมของเจ้าของแล้ว

“ขอบคุณท่านพ่อเจ้าค่ะ”

จากนั้นลู่ชิงก็ชวนทุกคน เข้าไปเดินสำรวจในห้างสรรพสินค้า และให้ท่านพ่อเปลี่ยนเสื้อผ้าด้านในไปก่อน ทุกคนล้วนตื่นตาตื่นใจกับสิ่งของที่มีหลากหลาย ลู่ชิงแยกไปส่วนของอาหารสดและอาหารแห้ง ส่วนท่านพ่อและพี่ชายให้ไปดูฟูกนอน เพื่อจะได้นำออกไปวางในห้องของแต่ละคน

‘สวีลู่ชิงเจ้าคงวางใจได้แล้วนะว่า ข้าผู้นี้สามารถดูแลบิดามารดา รวมถึงพี่ชายทั้งสองคนของเจ้าได้จริง ๆ’

ขอแค่ทุกคนมีความสุขนั่นถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับข้าแล้ว

Related chapters

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0004

    ลู่ชิงตื่นขึ้นมายามเหม่าของอีกวัน จึงรีบเข้าไปในมิติเพื่อหยิบพวกเนื้อสัตว์และผักที่จะใช้ทำเป็นมื้อเช้าวันนี้ โดยไม่ลืมที่เดินไปหยิบเอาพวกแปรงสีฟันและยาสีฟัน เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ทำความสะอาดช่องปากลู่ชิงกลัวว่าแค่บ้วนปากด้วยเกลือมัน จะไม่สะอาดในเมื่อมีของให้ใช้ เราก็ต้องใช้จะปล่อยให้เสียของได้อย่างไร

    Last Updated : 2025-01-12
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0005

    สามวันที่ผ่านมาท่านพ่อและพี่ชาย ก็ขึ้นเขาไปวางกับดักสัตว์และหาของป่าอย่างอื่นตามปกติ พอจะเอาไปขายที่ตำบลลู่ชิงก็จะขอตามไปด้วยทุกครั้ง ไปถึงตำบลก็ให้ท่านพ่อไปขายเนื้อสัตว์ ที่วางกับดักมาได้ที่เหลาอาหาร ซึ่งเมื่อก่อนท่านพ่อมักจะนำมาขายเป็นประจำ รวมสามวันได้เงินมาสามร้อยเก้าสิบอีแปะ ส่วนตัวลู่ชิงเดินไ

    Last Updated : 2025-01-12
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0006

    สองวันต่อมาก็ถึงเวลาไปขายของวันแรกแล้ว ทุกคนตื่นพร้อมกันลู่ชิงกับฟางซินช่วยกันหมักเนื้อหมูและน่องไก่ ส่วนลู่เวินกับบุตรชายก็ช่วยกันยกเตาและอุปกรณ์ที่ใช้ทอดทุกอย่าง ขึ้นบนรถเข็นรออยู่นอกบ้านลู่ชิงได้ตั้งกฎกับครอบครัวเอาไว้ว่า จะขายของหกวันและหยุดพักหนึ่งวัน เพราะไม่อยากให้ทุกคนเอาแต่คิดเรื่องทำงานหา

    Last Updated : 2025-01-12
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0007

    กลับมาถึงบ้านก็เกือบถึงยามซื่อแล้ว มื้อเช้าทุกคนก็อาศัยกินข้าวเหนียวกับหมูทอดกัน เพราะตื่นเต้นกับการขายของวันแรก จึงลืมเตรียมมื้อเช้าไปกินด้วย ลู่ชิงจึงคิดว่าคืนนี้จะทำกับข้าวง่าย ๆ ใส่กล่องไว้ในมิติตอนเช้าจะได้ไม่ลืมอีก เมื่อเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว ลู่ชิงก็ชวนทุกคนมานั่งที่โต๊ะอาหาร เพื่อทำการนับเ

    Last Updated : 2025-01-13
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0008

    วันที่สองของการค้าขายก็ยังดีเหมือนเมื่อวาน เพราะมีลูกค้ามายืนรอบริเวณหน้าร้านหลายคนแล้ว และวันนี้ก่อนออกจากบ้านพวกเราทานข้าวผัดหมูเป็นมื้อเช้ามาเรียบร้อย ตอนนี้กำลังช่วยกันตั้งร้านใกล้จะเสร็จ หน้าที่ทอดหมูและไก่ ก็ยังคงเป็นท่านพ่อกับพี่ใหญ่พี่รองเช่นเดิม เข้าสู่ปลายยามเหม่าอาหารก็พร้อมขาย ลูกค้าหน้า

    Last Updated : 2025-01-13
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0009

    ผ่านมาได้สองอาทิตย์ การค้าของครอบครัวสวีเป็นไปด้วยดี ลูกค้าประจำมีมากขึ้น ขนาดพ่อบ้านของจวนนายอำเภอ ยังมาต่อแถวซื้อไปให้เจ้านายได้ลิ้มลอง วันนี้เป็นวันหยุดของครอบครัว ลู่ชิงอยากจะปรึกษาบิดาเกี่ยวกับผู้คนในหมู่บ้านอันผิง ว่าพวกเขาเหล่านี้มีนิสัยใจคออย่างไร คนเห็นแก่ตัวหรือขี้อิจฉา ย่อมมีอยู่ทุกที่เหม

    Last Updated : 2025-01-13
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0010

    “น้องเล็กของพี่รองคนนี้ช่างฉลาดยิ่งนัก สหายของพวกพี่พวกเขาทำงานเหล่านี้เป็น เพราะช่วยพ่อแม่สานตะกร้าไว้ไปขนฟืนจากบนภูเขา” ลู่เสียนเริ่มนึกภาพตามที่ลู่ชิงได้บอกเล่าออกมา เนื่องจากสหายของตนทำงานเหล่านี้มาตั้งแต่เด็ก“น้องเล็ก เจ้าให้ชาวบ้านทำของพวกนี้ แล้วจะเอาไปทำอะไรต่อรึ” ส่วนลู่จื้อเขายังคงมีข้อสง

    Last Updated : 2025-01-13
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0011

    เช้าวันถัดมาการตั้งร้านขายอาหารทอด ก็ยังคงมีลูกค้ามาต่อแถวอย่างคึกคักเช่นเดิม ในช่วงปลายยามเฉินท่านพ่อและพี่ชาย กำลังช่วยกันเก็บของอยู่ทางด้านหลัง เพราะของที่ขายก็เหลือน้อยแล้ว ลู่ชิงจึงบอกกับท่านแม่ว่าแถมเนื้อหมูให้ลูกค้าสักหน่อย จะได้เก็บของกลับบ้านส่วนนางกับท่านพ่อจะไปติดต่อเจ้าหน้าที่ เรื่องซื้อ

    Last Updated : 2025-01-13

Latest chapter

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0340

    “จะเรียกพวกข้าว่าอะไรก็แล้วแต่ท่านเหลียนจะเรียกเถิด และใช่ท่านทำอยู่เรื่องหนึ่งที่ข้ารู้สึกไม่พอใจมาก เพราะท่านเหลียนกำลังคิดจะจัดการตระกูลสวี ข้าพูดถูกใช่หรือไม่” เซียวหนิงหลงเดินเข้าไปนั่งโต๊ะกลางห้องและพูดถึงเรื่องตระกูลสวี“จะ จะ เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้ากำลังคิดจะทำอะไรกับตระกูลสวี” เหลียนตั๋วลู่เร

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0339

    “ตอนนี้คนเห็นแก่ผลประโยชน์ผู้นี้กำลังหารือกับพ่อบ้านคนสนิท เพื่อวางแผนจัดการกับคนในตระกูลสวีขอรับ นอกจากนี้สองสามีภรรยายังได้พูดจาดูถูกตระกูลสวี จนข้าเกือบจะทนไม่ไหวดีที่เต๋อหลินห้ามเอาไว้ก่อนขอรับ” ต่งซวินไม่กล้าคิดต่อเลยว่าคนที่เหลียนตั๋วลู่ส่งมา จะรับมือกับหน่วยลับที่มาอารักขาครอบครัวชินอ๋องอย่าง

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0338

    ยังมีคำพูดของเด็กสาวอีกคนหนึ่งฝากมาเช่นกันนางบอกว่า ‘หากตระกูลเหลียนนั่นยังไม่หยุดเรื่องนี้ ข้าจะให้พี่ชายไปถล่มจวนนั้นให้ราบหรือไม่ก็ฆ่าล้างตระกูลไปเลยยิ่งดี ก็แค่มีกิจการฐานะร่ำรวยไม่เท่าไหร่ คิดใช้เส้นสายอันน้อยนิดมาข่มขู่ อย่าให้พี่ชายของข้าต้องโกรธไปมากกว่านี้’ เหมือนว่าเด็กสาวคนนี้จะเป็นแขกของ

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0337

    แม่สื่อซินหลินกึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับหมู่บ้านอันฮุยด้วยใจที่สั่นรัว นางยังจำสายตาของเซียวหนิงหลงได้ดี เมื่อครู่นี้คล้ายกับว่าเขาสามารถสังหารนางได้ในพริบตา จึงไม่กล้าโต้เถียงกลับไปเหมือนคนอื่น ๆ ไหนจะความรู้สึกอึดอัดตอนที่มองสบตา แม่สื่อซินหลินนึกแล้วก็ขนลุกไปตลอดทางเพียงไม่นานนางก็กลับมาถึงจวนขนาดกลาง

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0336

    “ที่พูดมาคิดจะข่มขู่คนตระกูลสวีให้ยินยอมทำตามใช่ไหม ข้ารบกวนเจ้ากลับไปบอกผู้นำตระกูลเหลียนหน่อยสิ ถ้ายังอยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายอีกนาน ๆ อย่ายื่นมือมาเข้ามายุ่งกับกิจการของตระกูลสวีเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นแม้แต่ที่ซุกหัวนอนก็จะไม่มี หรือบางทีข้าใจดำมากหน่อยแม้แต่ชีวิตก็อาจไม่เหลืออย่าลืมบอกด้วยว่าผู้สนั

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0335

    แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังจะเดินเข้าประตูอันใหญ่โต กลับมีเสียงสตรีนางหนึ่งเรียกลู่เวินเอาไว้ ทำให้การจะเข้าไปพักผ่อนต้องหยุดชะงัก และหันหน้ากลับมามองพร้อมกันว่าเป็นผู้ใดกันที่ใช้เสียงแหลม ๆ จนแสบหูเช่นนั้นส่งเสียงเรียกลู่เวิน“นายท่านสวี ๆ โอยเหนื่อยจริง ๆ เลย ข้ามารอท่านตั้งหลายวัน ในที่สุดก็ได้เจอจะได้

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0334

    “เอาไว้ถึงเวลาเจ้าก็จะเห็นเองนั้นแหละเล่อเล่อ แล้วไม่ต้องมาหลอกถามเรื่องนี้กับแม่อีก ถึงจะแอบไปถามกับท่านน้าม่อหลัน เจ้าก็ไม่รู้อยู่ดีเพราะเรื่องนี้เป็นความลับ” พระชายาพูดดักทางบุตรสาวเอาไว้ เพราะอย่างไรก็รู้ทันว่านางต้องแอบไปถามกับม่อหลันเหมือนทุกครั้ง“โธ่ท่านแม่ เล่นพูดแบบรู้ทันข้าเช่นนี้ก็แย่สิเ

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0333

    อีกสองวันถัดมาช่วงเวลาปลายยามเหม่า รถม้าของอู๋เจียงสงถูกเตรียมเอาไว้แล้ว และพร้อมออกเดินทางทันทีเมื่อเจ้านายมาถึง สองแม่ลูกอย่างถางฮูหยินและอู๋ติ้งเกา ไม่มีใครออกมายืนส่งผู้นำตระกูลขึ้นรถม้าสักคน จะมีเพียงพ่อบ้านอู๋ที่มายืนรอส่งเพียงคนเดียว โดยมีผู้ติดตามคอยดูแลเจ้านายก็คืออาหลาน รวมถึงคนของสำนักคุ้

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0332

    เพราะลูกชายของเจ้าทำงานไม่ได้เรื่อง กิจการของตระกูลต้องขาดทุนไปเท่าไหร่เคยรับรู้อะไรบ้างไหม ก็ไม่เคย! ดีแต่ใช้เงินกับเรื่องไร้สาระไปวัน ๆ พอมีปัญหาเกิดขึ้นก็ไม่เคยช่วยคิดช่วยทำ ปล่อยทิ้งให้ข้าต้องมานั่งคิดแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เจ้าเป็นคนสร้างมันขึ้นมาทำให้กิจการต้องปิดตัวไปกี่ร้านแล้วแต่น้องชายคนรองข

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status