Share

บทที่ 0004

last update Last Updated: 2025-01-12 02:26:47

ลู่ชิงตื่นขึ้นมายามเหม่าของอีกวัน จึงรีบเข้าไปในมิติเพื่อหยิบพวกเนื้อสัตว์และผักที่จะใช้ทำเป็นมื้อเช้าวันนี้ โดยไม่ลืมที่เดินไปหยิบเอาพวกแปรงสีฟันและยาสีฟัน เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ทำความสะอาดช่องปาก

ลู่ชิงกลัวว่าแค่บ้วนปากด้วยเกลือมัน จะไม่สะอาดในเมื่อมีของให้ใช้ เราก็ต้องใช้จะปล่อยให้เสียของได้อย่างไร เช้านี้ลู่ชิงอาสาเป็นคนปรุงอาหารเอง โดยนางจะทำข้าวต้มกุ้งให้ทุกคนได้ทาน ขณะที่กำลังเตรียมของอยู่ ก็มีเสียงดังมาจากด้านหลังของนาง

ฟางซินตื่นมาก็เห็นบุตรสาว กำลังเตรียมวัตถุดิบทำมื้อเช้าอยู่ เมื่อนางได้พูดคุยกับสามี ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับชิงเอ๋อร์ คงเป็นลิขิตของสวรรค์นางไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ จะให้ขับไล่นางออกไปสตรีคนนั้นก็ไม่ได้ทำผิด นางไม่ได้เข้ามาอยู่ในร่างของชิงเอ๋อร์เองแต่เป็นท่านเทพที่พานางมา เพื่อใช้ชีวิตที่เหลือแทนชิงเอ๋อร์ของนางต่างหาก ฟางซินจึงคิดว่าค่อย ๆ เรียนรู้กันไปต่อจากนี้ก็แล้วกัน

“ทำไมถึงได้ตื่นมาแต่เช้าเช่นนี้เล่า นี่กำลังเตรียมทำมื้อเช้าอยู่หรือ มีอะไรให้ช่วยไหม”

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านแม่ ข้าเองก็ชอบทำอาหารเหมือนกันมื้อเช้านี้จะลงมือปรุงเอง ท่านแม่คอยเป็นผู้ช่วยให้ข้าได้หรือไม่เจ้าคะ”

ลู่ชิงหันไปคุยกับมารดาแกมขอร้อง ให้นางยืนเป็นผู้ช่วยในการเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำอาหารเช้าของวันนี้

“อืมได้ จะให้ทำอะไรบ้างเจ้าบอกมาได้เลย และมีวัตถุดิบอย่างอื่นอีกหรือไม่” ฟางซินจำต้องยอมบุตรสาว ด้วยเห็นความตั้งใจที่จะทำอาหาร

“ท่านแม่ช่วยล้างกระดูกหมู และผักพวกนี้ให้สะอาด จากนั้นหั่นผักใส่ชามไว้ให้ข้าเจ้าค่ะ ส่วนกุ้งก็ต้องดึงเอาเส้นสีดำ ด้านหลังมันออกมาด้วยนะเจ้าคะ ประเดี๋ยวข้าจะไปติดเตาไฟก่อน” ท่านแม่ก็นำทุกอย่างไปล้างให้สะอาด และเตรียมไว้ในชามให้เรียบร้อย ส่วนตนเองก็ติดเตาไฟทั้งสองเตาและนำหม้อใส่น้ำขึ้นตั้งไว้เช่นกัน

“ขอบคุณท่านแม่เจ้าค่ะ ที่เหลือเดี๋ยวข้าจัดการเอง ท่านแม่ไปพักผ่อนต่อเถิดเจ้าค่ะ” มันยังเช้าอยู่มากลู่ชิง จึงอยากให้มารดาไปพักต่ออีกสักหน่อย

“ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอก ไว้จะรอชิมอาหารฝีมือของเจ้านะ” ฟางซินพูดจบก็เดินออกจากห้องครัวไป

เมื่อท่านแม่ออกไปแล้วลู่ชิงก็มาจัดการมื้อเช้าต่อ โดยต้มน้ำซุปหนึ่งเตา ส่วนอีกเตาก็ต้มน้ำลวกกุ้ง และเจียวกระเทียมใส่ชามไว้ ส่วนข้าวนั้นเข้าไปหุงในมิติเรียบร้อยแล้ว เพราะห้างในมิติสามารถเสียบปลั๊กใช้ไฟฟ้าได้ ทำให้ประหยัดเวลาไปได้มากทีเดียว

พอหม้อน้ำซุปเริ่มเดือดก็ใส่สามเกลอลงไป ตามด้วยกระดูกหมูและซุปก้อนรสหมูไปอีกสองก้อน ปรุงเพิ่มด้วยซีอิ้วขาวกับเกลือเล็กน้อย จากนั้นรอให้น้ำซุปเดือดอีกครั้ง คอยช้อนฟองทิ้งเพื่อให้น้ำซุปใสน่ากิน และต้มต่อให้ได้ความหวานจากกระดูกหมู จะทำให้ได้รสชาติกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น

ผ่านไปอีกสองเค่อลู่ชิงตักน้ำซุปขึ้นมาชิมดู ก็พยักหน้ากับตัวเอง ดีใจที่ฝีมือการทำอาหารยังใช้ได้เหมือนเดิม ตอนนี้ฟ้าเริ่มสว่างขึ้นมากพอสมควร และนางก็ได้ยินเสียงเปิดประตูแสดงว่าทุกคนตื่นนอนแล้วสินะ ลู่ชิงไม่รอช้าจัดแจงตักข้าวสวยใส่ชาม ที่มีขนาดกลางวางกุ้งตัวโต ๆ โรยต้นหอม ผักชี ขึ้นฉ่ายตักน้ำซุปราดลงไป ปิดท้ายด้วยกระเทียมเจียวหอม ๆ เท่านี้ก็พร้อมทานลงท้องแล้ว

“น้องเล็ก เจ้าทำอะไรเป็นมื้อเช้างั้นหรือ กลิ่นมันหอมมากจนลอยออกไปถึงด้านนอกเลยเชียว” ลู่เสียนที่ได้กลิ่นหอมของอาหาร จึงเดินตามมาถึงในห้องครัว

“ข้าทำข้าวต้มกุ้งเจ้าค่ะ รบกวนพี่รองช่วยยกออกไปที่โต๊ะให้หน่อยนะเจ้าคะ” ลู่ชิงถือโอกาสไหว้วานพี่รอง ยกถาดข้าวต้มออกไป

“ท่านพ่อท่านแม่พี่ใหญ่ทานข้าวได้แล้วขอรับ น้องเล็กทำมื้อเช้าน่าทานมาก ๆ เลยนะ” ลู่เสียนยกถาดข้าวต้มออกมา ก็รีบตะโกนเรียกทุกคนมาชิมอาหารฝีมือลู่ชิงทันที

“น้องเล็กเจ้าทำอาหารได้น่าทานมากเลย” ลู่จื้อชมน้องสาวอีกคน

“เอาล่ะ ๆ นั่งลงทานข้าวกันได้แล้ว หลังจากนี้พวกเราจะได้พูดคุยว่าจะทำอะไรเพื่อหาเงินดี” ลู่เวินรีบบอกให้ทุกคนนั่งลงทานมื้อเช้าก่อนที่จะคุยเรื่องอื่นกัน

“ซู้ด อื้อ!! อร่อยมาก!! ชิงเอ๋อร์ข้าวต้มนี่อร่อยมากจริง ๆ” ลู่เสียนที่ทนกลิ่นหอมของอาหารไม่ไหว ตักข้าวต้มเข้าปากไปก็ร้องออกมาด้วยความอร่อยจากอาหารฝีมือของลู่ชิง

“ฝีมือทำอาหารของเจ้าไม่เลวเลยจริงๆ” ฟางซินยังอดที่จะเอ่ยชมไม่ได้เช่นกัน

“น้องเล็ก ทานข้าวต้มร้อน ๆ ยามที่อากาศเย็นเช่นนี้ มันช่วยให้ท้องอุ่นได้มากเลย พี่ใหญ่ชอบอาหารฝีมือเจ้ามาก”

“ขอบคุณเจ้าค่ะพี่ใหญ่ที่ชอบอาหารฝีมือข้า ไว้จะทำให้พวกท่านทานทุกมื้อเลยดีไหมเจ้าคะ”

“แน่นอนว่าต้องดีอยู่แล้วล่ะ ฮ่า ๆ ๆ” ลู่จื้อยิ่งชอบใจกับคำพูดของลู่ชิง

“อื้ม น้องเล็กทำอาหารอร่อยแบบนี้ ถ้าหากพวกเราทำไปขายคงได้เงินไม่น้อยทีเดียว ท่านพ่อท่านแม่คิดว่าอย่างไรขอรับ” ลู่เสียนคิดไปถึงการค้าขายแล้ว

เมื่อพี่รองพูดจบทุกคนก็หันมามองข้าทันที เหมือนจะเห็นด้วยกับคำพูดของพี่รองที่ว่า ทำอาหารขายน่าจะดี หากเป็นของอร่อยคนย่อมซื้อกินได้ไม่ยากอยู่แล้ว

“พวกท่านมองข้าทำไมหรือเจ้าคะ? บนหน้าข้ามีอะไรติดอยู่งั้นหรือ” ลู่ชิงที่กำลังทานข้าวต้มเพลิน ๆ จนไม่ได้ตั้งใจฟังเท่าไหร่ ถึงกับทำหน้างงที่ทุกคนหันมามองเป็นจุดเดียว

“ไม่มีอะไรติดบนหน้าเจ้าหรอกชิงเอ๋อร์ เมื่อครู่พี่รองของเจ้าแค่บอกว่า ถ้าทำอาหารขายคงจะได้เงินไม่น้อย เจ้าคิดว่าการขายอาหารเป็นอย่างไร” ลู่เวินเอ่ยถามความเห็นของบุตรสาว

“ทำอาหารขายก็ดีเจ้าค่ะ แต่เราจะทำอาหารง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก หรือว่ามีหลายขั้นตอนจนเกินไป ไม่เช่นนั้นทุกคนจะเหนื่อยเอาได้เจ้าค่ะเพราะพวกท่านเพิ่งจะแข็งแรง หากต้องทำงานหนักอีกภายในร่างกายจะกลับมาสมบูรณ์ได้ช้านะเจ้าคะ” ลู่ชิงคิดว่าขายอาหารก็เป็นวิธีหาเงินที่ดีไม่น้อย

หลังจากทานอาหารมื้อเช้ากันเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็มานั่งคุยเรื่องการทำอาหารไปขายในตัวตำบลหย่งฝู แต่ตอนนี้ครอบครัวมีเงินเก็บอยู่เพียงสามตำลึงเงิน คงไม่พอสำหรับการเริ่มทำการค้าอย่างแน่นอน ลู่ชิงจึงเสนอวิธีการหาเงินทุนก่อนเป็นอันดับแรก เงินเก็บของครอบครัวนี้มีน้อยแล้วอย่างไร เพราะในมิติมีของมีค่าใช้ขายแลกเงินได้มากมาย

“ท่านพ่อเจ้าคะ ตอนนี้เงินเก็บของบ้านเรา คงไม่พอที่จะลงทุนทำอาหารขาย ดังนั้นเราควรจะหาเงินทุนก่อน โดยสองสามวันนี้ท่านพ่อกับพี่ใหญ่พี่รอง ขึ้นเขาไปวางกับดักสัตว์ตามปกติ พอถึงเวลาเอาไปขายในตำบล ข้าจะเอาเครื่องประดับที่มีในมิติออกไปขายด้วยเจ้าค่ะ

ขอแค่มีเงินมาสำรองในมือมากหน่อย ย่อมดีกว่าต้องประหยัด ถ้าคนในหมู่บ้านถามก็บอกพวกเขาไปว่า เราเอาของมีค่าที่ติดตัวมาได้ทั้งหมด ไปขายเพื่อนำเงินมาลงทุนก็พอ พวกท่านเห็นด้วยหรือไม่เจ้าคะ” ข้าเสนอวิธีการหาเงินก้อนแรกให้ทุกคนฟัง

“ท่านพ่อขอรับ ทำตามวิธีของน้องเล็กก็ดีเหมือนกัน อีกอย่างพวกเรายังไม่ต้องตอบคำถามกับชาวบ้าน ที่ชอบสงสัยว่าเอาเงินมาจากที่ใดอีกขอรับ” ลู่จื้อเห็นด้วยกับน้องสาว เพราะเขาเป็นคนไม่ชอบให้คนอื่น มาวุ่นวายเรื่องครอบครัวของตนสักเท่าไหร่

“แล้วคนอื่นมีความเห็นอะไรอีกหรือไม่ ถ้าไม่มีก็ตกลงทำตามวิธีของชิงเอ๋อร์” ท่านพ่อถามท่านแม่กับพี่รองแต่พวกเขาก็พยักหน้าเห็นด้วย

“น้องเล็ก แล้วเราจะทำอะไรไปขายล่ะ ที่ตำบลมีคนทำอาหารขาย แต่มักจะสู้พวกเหลาอาหารไม่ได้ บางคนขายได้กับพวกลูกจ้างทั่วไปเท่านั้น ไม่ค่อยได้กำไรสักเท่าไหร่นะ” ลู่เสียนที่อยากรู้ว่าจะทำอะไรออกไปขายถามขึ้นมา เพราะเขาเองเคยเห็นพ่อค้าแม่ค้า ทำอาหารไปขายอยู่หลายคน แต่ก็ขายอยู่ได้ไม่นานเท่าที่ควร

“ข้าคิดไว้แล้วเจ้าค่ะ อาหารชนิดนี้ทำง่ายและอร่อยด้วยกินได้ทุกเพศทุกวัย เมื่อได้กินแล้วจะต้องกลับมาซื้อซ้ำแน่นอนเจ้าค่ะ” ลู่ชิงคิดอาหารที่จะทำขายไว้แล้ว

“มันคืออาหารแบบไหนหรือชิงเอ๋อร์ เจ้าถึงมั่นใจนักว่าคนจะกลับมาซื้อซ้ำ เพราะน้อยคนที่จะปรุงอาหาร ให้ได้รสชาติที่ผู้คนชื่นชอบ” ฟางซินก็สงสัยไม่น้อยจึงถามบุตรสาวขึ้นมาบ้าง

“มันก็คือเนื้อหมูทอด สามชั้นทอดและไก่ทอดเจ้าค่ะ เราจะหมักเนื้อทั้งสามอย่างเอาไว้ก่อน และค่อยนำไปทอดขาย

พร้อมกับข้าวเหนียวร้อน ๆ รับรองว่าคนในตลาดต้องมาซื้อทานเจ้าค่ะ” อาหารที่ง่ายและอร่อย หากมีสูตรการหมักหมูไว้ทอดโดยเฉพาะ ทำง่ายขายคล่องรสชาติโดนใจ ใครจะไม่อยากซื้ออาหารของนาง

“เจ้าพูดมาเสียเห็นภาพเลย พี่รองอยากจะลองชิมดูเสียแล้วสิ” ลู่เสียนนึกภาพตามที่ลู่ชิงอธิบายให้ฟังก็อยากจะชิมเร็ว ๆ

“แน่นอนว่าพวกเราต้องลองทำ และชิมรสชาติเสียก่อนเจ้าค่ะเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด ลูกค้าจะได้ประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ทานอาหารของเรา พวกท่านให้คำติชมตามความจริง ยามที่ได้ชิมว่าการหมักเนื้อหมู่และเนื่อไก่แบบไหน ที่ให้รสชาติอร่อยพอดีและลงตัวที่สุด จากนั้นพวกเราจะทำตามสูตรนั้นไปขายเจ้าค่ะ” ต้องทำกินเองเสียก่อนถึงจะนำไปทำเป็นอาชีพได้

“งั้นพวกเราทุกคนควรช่วยชิงเอ๋อร์ทำ เพื่อเรียนรู้สูตรการหมักเนื้อทั้งสามอย่าง หากมีร้านเป็นของตนเองเมื่อใด พวกเราจะได้ทำมันในห้องครัวเองได้ป้องกันมิให้ใครสงสัย” ลู่เวินกำชับเรื่องการเรียนรู้และจดจำสูตรอาหาร

“ข้ากับน้อง ๆ เห็นด้วยกับท่านพ่อขอรับ/เจ้าค่ะ”

ลู่ชิงรู้สึกว่าพี่รองเหมือนจะชอบชิมอาหารที่อร่อย คล้าย ๆ กับพวกนักรีวิวอาหารของโลกนั้น ทุกคนเห็นด้วยอย่างเป็นเอกฉันท์ และคิดว่าไม่ต้องเตรียมวัตถุดิบหลายอย่าง ให้วุ่นวายจนเกินไปอีกด้วย พวกเขาล้วนเฝ้ารอให้ถึงวัน ที่จะไปทดลองขายอาหารรายการนี้ไม่ไหวเสียแล้ว และครั้งนี้ลู่ชิงจะพาท่านแม่เข้าไปในมิติเป็นครั้งแรก ไม่รู้ว่าหากท่านแม่ได้เห็นพวกอุปกรณ์ตัดเย็บที่มีมากมาย จะตื่นตาตื่นใจเหมือนบิดากับพี่ชายทั้งสองคนบ้างหรือไม่

Related chapters

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0005

    สามวันที่ผ่านมาท่านพ่อและพี่ชาย ก็ขึ้นเขาไปวางกับดักสัตว์และหาของป่าอย่างอื่นตามปกติ พอจะเอาไปขายที่ตำบลลู่ชิงก็จะขอตามไปด้วยทุกครั้ง ไปถึงตำบลก็ให้ท่านพ่อไปขายเนื้อสัตว์ ที่วางกับดักมาได้ที่เหลาอาหาร ซึ่งเมื่อก่อนท่านพ่อมักจะนำมาขายเป็นประจำ รวมสามวันได้เงินมาสามร้อยเก้าสิบอีแปะ ส่วนตัวลู่ชิงเดินไ

    Last Updated : 2025-01-12
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0006

    สองวันต่อมาก็ถึงเวลาไปขายของวันแรกแล้ว ทุกคนตื่นพร้อมกันลู่ชิงกับฟางซินช่วยกันหมักเนื้อหมูและน่องไก่ ส่วนลู่เวินกับบุตรชายก็ช่วยกันยกเตาและอุปกรณ์ที่ใช้ทอดทุกอย่าง ขึ้นบนรถเข็นรออยู่นอกบ้านลู่ชิงได้ตั้งกฎกับครอบครัวเอาไว้ว่า จะขายของหกวันและหยุดพักหนึ่งวัน เพราะไม่อยากให้ทุกคนเอาแต่คิดเรื่องทำงานหา

    Last Updated : 2025-01-12
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0007

    กลับมาถึงบ้านก็เกือบถึงยามซื่อแล้ว มื้อเช้าทุกคนก็อาศัยกินข้าวเหนียวกับหมูทอดกัน เพราะตื่นเต้นกับการขายของวันแรก จึงลืมเตรียมมื้อเช้าไปกินด้วย ลู่ชิงจึงคิดว่าคืนนี้จะทำกับข้าวง่าย ๆ ใส่กล่องไว้ในมิติตอนเช้าจะได้ไม่ลืมอีก เมื่อเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว ลู่ชิงก็ชวนทุกคนมานั่งที่โต๊ะอาหาร เพื่อทำการนับเ

    Last Updated : 2025-01-13
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0008

    วันที่สองของการค้าขายก็ยังดีเหมือนเมื่อวาน เพราะมีลูกค้ามายืนรอบริเวณหน้าร้านหลายคนแล้ว และวันนี้ก่อนออกจากบ้านพวกเราทานข้าวผัดหมูเป็นมื้อเช้ามาเรียบร้อย ตอนนี้กำลังช่วยกันตั้งร้านใกล้จะเสร็จ หน้าที่ทอดหมูและไก่ ก็ยังคงเป็นท่านพ่อกับพี่ใหญ่พี่รองเช่นเดิม เข้าสู่ปลายยามเหม่าอาหารก็พร้อมขาย ลูกค้าหน้า

    Last Updated : 2025-01-13
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0009

    ผ่านมาได้สองอาทิตย์ การค้าของครอบครัวสวีเป็นไปด้วยดี ลูกค้าประจำมีมากขึ้น ขนาดพ่อบ้านของจวนนายอำเภอ ยังมาต่อแถวซื้อไปให้เจ้านายได้ลิ้มลอง วันนี้เป็นวันหยุดของครอบครัว ลู่ชิงอยากจะปรึกษาบิดาเกี่ยวกับผู้คนในหมู่บ้านอันผิง ว่าพวกเขาเหล่านี้มีนิสัยใจคออย่างไร คนเห็นแก่ตัวหรือขี้อิจฉา ย่อมมีอยู่ทุกที่เหม

    Last Updated : 2025-01-13
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0010

    “น้องเล็กของพี่รองคนนี้ช่างฉลาดยิ่งนัก สหายของพวกพี่พวกเขาทำงานเหล่านี้เป็น เพราะช่วยพ่อแม่สานตะกร้าไว้ไปขนฟืนจากบนภูเขา” ลู่เสียนเริ่มนึกภาพตามที่ลู่ชิงได้บอกเล่าออกมา เนื่องจากสหายของตนทำงานเหล่านี้มาตั้งแต่เด็ก“น้องเล็ก เจ้าให้ชาวบ้านทำของพวกนี้ แล้วจะเอาไปทำอะไรต่อรึ” ส่วนลู่จื้อเขายังคงมีข้อสง

    Last Updated : 2025-01-13
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0011

    เช้าวันถัดมาการตั้งร้านขายอาหารทอด ก็ยังคงมีลูกค้ามาต่อแถวอย่างคึกคักเช่นเดิม ในช่วงปลายยามเฉินท่านพ่อและพี่ชาย กำลังช่วยกันเก็บของอยู่ทางด้านหลัง เพราะของที่ขายก็เหลือน้อยแล้ว ลู่ชิงจึงบอกกับท่านแม่ว่าแถมเนื้อหมูให้ลูกค้าสักหน่อย จะได้เก็บของกลับบ้านส่วนนางกับท่านพ่อจะไปติดต่อเจ้าหน้าที่ เรื่องซื้อ

    Last Updated : 2025-01-13
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0012

    ลู่เวินเห็นชุดเครื่องประดับ ที่บุตรสาวนำออกมาขายก็ตะลึงไม่แพ้เถ้าแก่เช่นกัน เขาเห็นด้วยกับเถ้าแก่ที่ว่าไม่อยากขายเพราะมันสวยมาก“เถ้าแก่อย่าพูดเช่นนั้นเลยเจ้าค่ะ ของซื้อของขายถึงยังไงข้าก็จะพยายามหาเครื่องประดับสวย ๆ มาขายให้กับท่านอยู่แล้ว แต่อาจจะไม่บ่อยนะเจ้าคะถ้าเป็นชุดเช่นครั้งนี้ เถ้าแก่จะว่าอ

    Last Updated : 2025-01-13

Latest chapter

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0340

    “จะเรียกพวกข้าว่าอะไรก็แล้วแต่ท่านเหลียนจะเรียกเถิด และใช่ท่านทำอยู่เรื่องหนึ่งที่ข้ารู้สึกไม่พอใจมาก เพราะท่านเหลียนกำลังคิดจะจัดการตระกูลสวี ข้าพูดถูกใช่หรือไม่” เซียวหนิงหลงเดินเข้าไปนั่งโต๊ะกลางห้องและพูดถึงเรื่องตระกูลสวี“จะ จะ เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้ากำลังคิดจะทำอะไรกับตระกูลสวี” เหลียนตั๋วลู่เร

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0339

    “ตอนนี้คนเห็นแก่ผลประโยชน์ผู้นี้กำลังหารือกับพ่อบ้านคนสนิท เพื่อวางแผนจัดการกับคนในตระกูลสวีขอรับ นอกจากนี้สองสามีภรรยายังได้พูดจาดูถูกตระกูลสวี จนข้าเกือบจะทนไม่ไหวดีที่เต๋อหลินห้ามเอาไว้ก่อนขอรับ” ต่งซวินไม่กล้าคิดต่อเลยว่าคนที่เหลียนตั๋วลู่ส่งมา จะรับมือกับหน่วยลับที่มาอารักขาครอบครัวชินอ๋องอย่าง

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0338

    ยังมีคำพูดของเด็กสาวอีกคนหนึ่งฝากมาเช่นกันนางบอกว่า ‘หากตระกูลเหลียนนั่นยังไม่หยุดเรื่องนี้ ข้าจะให้พี่ชายไปถล่มจวนนั้นให้ราบหรือไม่ก็ฆ่าล้างตระกูลไปเลยยิ่งดี ก็แค่มีกิจการฐานะร่ำรวยไม่เท่าไหร่ คิดใช้เส้นสายอันน้อยนิดมาข่มขู่ อย่าให้พี่ชายของข้าต้องโกรธไปมากกว่านี้’ เหมือนว่าเด็กสาวคนนี้จะเป็นแขกของ

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0337

    แม่สื่อซินหลินกึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับหมู่บ้านอันฮุยด้วยใจที่สั่นรัว นางยังจำสายตาของเซียวหนิงหลงได้ดี เมื่อครู่นี้คล้ายกับว่าเขาสามารถสังหารนางได้ในพริบตา จึงไม่กล้าโต้เถียงกลับไปเหมือนคนอื่น ๆ ไหนจะความรู้สึกอึดอัดตอนที่มองสบตา แม่สื่อซินหลินนึกแล้วก็ขนลุกไปตลอดทางเพียงไม่นานนางก็กลับมาถึงจวนขนาดกลาง

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0336

    “ที่พูดมาคิดจะข่มขู่คนตระกูลสวีให้ยินยอมทำตามใช่ไหม ข้ารบกวนเจ้ากลับไปบอกผู้นำตระกูลเหลียนหน่อยสิ ถ้ายังอยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายอีกนาน ๆ อย่ายื่นมือมาเข้ามายุ่งกับกิจการของตระกูลสวีเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นแม้แต่ที่ซุกหัวนอนก็จะไม่มี หรือบางทีข้าใจดำมากหน่อยแม้แต่ชีวิตก็อาจไม่เหลืออย่าลืมบอกด้วยว่าผู้สนั

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0335

    แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังจะเดินเข้าประตูอันใหญ่โต กลับมีเสียงสตรีนางหนึ่งเรียกลู่เวินเอาไว้ ทำให้การจะเข้าไปพักผ่อนต้องหยุดชะงัก และหันหน้ากลับมามองพร้อมกันว่าเป็นผู้ใดกันที่ใช้เสียงแหลม ๆ จนแสบหูเช่นนั้นส่งเสียงเรียกลู่เวิน“นายท่านสวี ๆ โอยเหนื่อยจริง ๆ เลย ข้ามารอท่านตั้งหลายวัน ในที่สุดก็ได้เจอจะได้

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0334

    “เอาไว้ถึงเวลาเจ้าก็จะเห็นเองนั้นแหละเล่อเล่อ แล้วไม่ต้องมาหลอกถามเรื่องนี้กับแม่อีก ถึงจะแอบไปถามกับท่านน้าม่อหลัน เจ้าก็ไม่รู้อยู่ดีเพราะเรื่องนี้เป็นความลับ” พระชายาพูดดักทางบุตรสาวเอาไว้ เพราะอย่างไรก็รู้ทันว่านางต้องแอบไปถามกับม่อหลันเหมือนทุกครั้ง“โธ่ท่านแม่ เล่นพูดแบบรู้ทันข้าเช่นนี้ก็แย่สิเ

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0333

    อีกสองวันถัดมาช่วงเวลาปลายยามเหม่า รถม้าของอู๋เจียงสงถูกเตรียมเอาไว้แล้ว และพร้อมออกเดินทางทันทีเมื่อเจ้านายมาถึง สองแม่ลูกอย่างถางฮูหยินและอู๋ติ้งเกา ไม่มีใครออกมายืนส่งผู้นำตระกูลขึ้นรถม้าสักคน จะมีเพียงพ่อบ้านอู๋ที่มายืนรอส่งเพียงคนเดียว โดยมีผู้ติดตามคอยดูแลเจ้านายก็คืออาหลาน รวมถึงคนของสำนักคุ้

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   บทที่ 0332

    เพราะลูกชายของเจ้าทำงานไม่ได้เรื่อง กิจการของตระกูลต้องขาดทุนไปเท่าไหร่เคยรับรู้อะไรบ้างไหม ก็ไม่เคย! ดีแต่ใช้เงินกับเรื่องไร้สาระไปวัน ๆ พอมีปัญหาเกิดขึ้นก็ไม่เคยช่วยคิดช่วยทำ ปล่อยทิ้งให้ข้าต้องมานั่งคิดแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เจ้าเป็นคนสร้างมันขึ้นมาทำให้กิจการต้องปิดตัวไปกี่ร้านแล้วแต่น้องชายคนรองข

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status