แชร์

ตอนที่ 6 ขายอาหารวันแรก

ผู้เขียน: ต้าซินซิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-12 03:03:25

สองวันต่อมาก็ถึงเวลาไปขายของวันแรกแล้ว ทุกคนตื่นพร้อมกันลู่ชิงกับฟางซินช่วยกันหมักเนื้อหมูและน่องไก่ ส่วนลู่เวินกับบุตรชายก็ช่วยกันยกเตาและอุปกรณ์ที่ใช้ทอดทุกอย่าง ขึ้นบนรถเข็นรออยู่นอกบ้าน

ลู่ชิงได้ตั้งกฎกับครอบครัวเอาไว้ว่า จะขายของหกวันและหยุดพักหนึ่งวัน เพราะไม่อยากให้ทุกคนเอาแต่คิดเรื่องทำงานหาเงิน ควรมีเวลาพักผ่อนบ้าง แม้จะมีน้ำจากบ่อวิเศษให้ดื่ม แต่อย่างน้อยการพักผ่อนให้เต็มที่ ก็เป็นผลดีต่อร่างกายมากกว่า เมื่อทุกอย่างพร้อมจึงปิดประตูบ้านและเดินเท้าไปในตำบลหย่งฝู พื้นที่ขายของที่ลู่เวินจองไว้ให้นั้นเป็นการจองแบบรายเดือน และมันก็อยู่บริเวณที่มีคนพลุกพล่านมาเดินจับจ่ายซื้อของยามเช้า

พอถึงบริเวณพื้นที่ของตนเองแล้ว ทุกคนทำตามหน้าที่ของตน ลู่เวินกับบุตรชายช่วยกันยกเตาและติดเตาไฟ ลู่ชิงกับมารดาช่วยกันจัดวางอุปกรณ์บนโต๊ะให้หยิบใช้สะดวก ยกถังไม้ที่ใส่ข้าวเหนียวที่นึ่งแล้ววางไว้ข้างโต๊ะกับใบตอง ที่เช็ดทำความสะอาดสำหรับใช้ห่ออาหาร ซึ่งก็เอามาจากป่าชั้นนอกที่อยู่ด้านหลังบ้านของพวกเขา ยามนี้ลู่เวินได้ตั้งกระทะและใส่น้ำมันลงไปทั้งสามกระทะ ควบคุมไฟไม่ให้ร้อนมากเกินไป มีเก้าอี้สามตัววางชามขนาดใหญ่ ที่ใช้หมักเนื้อทั้งสองอย่างและแป้งสำหรับชุบก่อนนำลงไปทอด

ลู่ชิงจัดหน้าร้านเรียบร้อยแล้ว ด้านบิดากับพี่ใหญ่ก็เริ่มทอดหมูและไก่ กลิ่นหอมเริ่มลอยกระจายออกไป แตะจมูกผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาไม่ว่าใกล้หรือไกล มีหลายคนที่มองมายังร้านของพวกเขาเพื่อมองดูว่าทำอะไรขาย

จากนั้นไม่นานหมูทอดและสามชั้นทอดก็เสร็จ ท่านพ่อตักขึ้นวางสะเด็ดน้ำมัน และหันไปทอดรอบใหม่ต่อทันที ทางด้านพี่รองก็ช่วยเอาเนื้อหมูมาเทใส่ถาดไม้ให้ เพราะมันร้อนจึงไม่อยากให้ท่านแม่กับน้องสาว จับของที่ร้อนเกินไปกลัวว่าจะลวกมือบาดเจ็บได้

ลู่ชิงจึงเตรียมตัวเรียกลูกค้าตอนนี้อาหารพร้อมขายแล้ว อีกไม่ถึงสองจิบชาน่องไก่ทอดก็จะสุกแล้วเช่นกัน การขายที่จะเอาแต่นั่งแล้วร้องเรียกลูกค้าเบา ๆ มันจะได้ผลได้อย่างไรกัน ต้องเสียงดังฟังชัดบรรยายความน่าทานของอาหาร เชิญชวนให้ลูกค้าอยากจะลองชิมเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ แบบนี้ถึงจะได้ผลสำหรับการขายอาหาร

“สวัสดีตอนเช้าเจ้าค่า เอ้าเร่เข้ามา ๆ เจ้าค่า พี่ ป้า น้า อาทั้งหลาย วันนี้ที่ร้านค้าของครอบครัวข้า มีของอร่อยมาขายแล้วเจ้าค่ะ เข้ามาลองชิมกันดูก่อนได้ หากรสชาติไม่อร่อยไม่ซื้อก็ไม่ว่ากันเจ้าค่ะ เร่เข้ามา ๆ ใครมาก่อนได้ชิมก่อนนะเจ้าคะ มีทั้งเนื้อหมูและเนื้อไก่เจ้าค่า” ลู่ชิงเริ่มส่งเสียงเชิญชวนชาวบ้าน ที่เดินผ่านไปมาแวะมาชิมอาหารที่ทำ กับคำพูดที่ประทับใจเพื่อเรียกลูกค้าทันที และเสียงเจื้อยแจ้วนี้ของลู่ชิง ก็เรียกความสนใจได้มากทีเดียว

มีคนไม่น้อยที่มองอย่างสนใจ ตั้งแต่ได้กลิ่นหอม ๆ ก่อนหน้านี้ พวกเขาจึงเดินเข้ามาสอบถามว่า อาหารทอดที่ทำอยู่นี้ มันแตกต่างจากเนื้อทอดทั่วไปตรงที่ใด และที่จะให้ลองชิมก่อนได้พูดจริงหรือพูดเล่นกันแน่ บุรุษคนหนึ่งที่เดินเข้ามาก่อน เอ่ยกับลู่ชิงที่ทำหน้าที่รับลูกค้าเอง

“แม่นางน้อยที่เจ้าทอดอยู่ใช่เนื้อหมูหรือไม่ ที่เจ้าบอกว่าเป็นของอร่อยของเจ้าน่ะ” ชายคนนี้เปิดปากถามเป็นคนแรก เพราะเขาได้กลิ่นหอมตอนที่เดินผ่านร้านของเด็กสาว

“ท่านอาต้องลองชิมดูเจ้าค่ะ แล้วท่านช่วยบอกข้าหน่อยว่ามันอร่อยหรือไม่ ท่านสามารถพูดความจริงได้ไม่ต้องเกรงใจ หากไม่อร่อยหรือขาดรสชาติใดไป ครอบครัวข้าจะได้นำไปปรับปรุงเจ้าค่ะ” ลู่ชิงหั่นเนื้อหมูออกเป็นชิ้นพอดีคำ และใช้ไม้จิ้มขึ้นมายื่นให้ชายคนนั้นได้ชิม

ชายคนนั้นรับเนื้อหมูทอดชิ้นเล็กมาชิม ครั้นพอลิ้นของเขาได้สัมผัสเนื้อหมูทอดก็ตาโต รีบเคี้ยวรีบกลืนแล้วพูดกับชิงเอ๋อร์อย่างตื่นเต้น เพราะมันมีรสชาติที่แตกต่างจากหมูทอดที่ตนเองเคยได้ชิมมาจริง ๆ

“อึก แม่นางน้อย เนื้อหมูทอดของเจ้าอร่อยมาก ข้าไม่เคยกินเนื้อหมูทอดที่อร่อยเช่นนี้มาก่อน เจ้าขายอย่างไรหรือ แล้วในถังนั่นคือสิ่งใดใช่เนื้อเหมือนกันหรือไม่ บนโต๊ะนี้ก็มีเนื้อถึงสองอย่าง เจ้ายังทำเนื้ออันใดมาทอดขายอีกหรือ” เขารู้สึกว่ากระเพาะของเขากำลังเรียกร้องหาเนื้อหมูทอด ที่สำคัญต้องซื้อกลับไปหลาย ๆ ห่อเผื่อคนที่จวนเช่นกัน

“ข้ามีเนื้อหมูทอด สามชั้นทอดและน่องไก่ทอด มีทั้งหมดสามอย่างเจ้าค่ะ เนื้อหมูทั้งสองอย่างข้าจะขายพร้อมข้าวเหนียวร้อน ๆ ในราคาห่อละสิบห้าอีแปะ ส่วนน่องไก่ทอดขายพร้อมข้าวเหนียว ห่อละยี่สิบอีแปะเจ้าค่ะจะได้น่องไก่สองน่อง

แต่ถ้าซื้อเฉพาะเนื้อหมูและน่องไก่ จะขายเนื้อหมูอยู่ที่เหลียงละยี่สิบห้าอีแปะ และน่องไก่ขายเหลียงละสามสิบอีแปะเจ้าค่ะ พวกท่านอย่าคิดว่ามันแพงเกินไปเลย เพราะข้าใช้น้ำมันในการทอด ทุกท่านคงจะรู้ว่าน้ำมันนั้นมีราคาค่อนข้างแพง และเนื้อหมูก็ใช่ว่าจะราคาถูก ส่วนเนื้อไก่ก็หาได้แต่ต้องสั่งจากเมืองอื่น พวกท่านซื้อไปทำกับข้าวได้ คงจะรู้ถึงราคาของเนื้อดีจริงไหมเจ้าคะ ท่านอาสนใจซื้ออย่างไหนดีเจ้าคะ” ลู่ชิงอธิบายราคาขายด้วยเสียงที่ดังนิดหน่อย เผื่อคนด้านหลังได้ยิน จะได้ตัดสินใจถูกว่าต้องการซื้อแบบไหน

“ข้าเอาเนื้อหมูกับสามชั้น พร้อมข้าวเหนียวอย่างละสองห่อ” เขาซื้อไปกินพร้อมข้าวสะดวกกว่าตั้งเยอะ และข้าวเหนียวที่ว่าก็เรียงเม็ดสวยน่ากิน อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมของข้าวอีกด้วย

“ท่านอารอสักประเดี๋ยวนะเจ้าคะ ท่านแม่ห่อข้าวกับเนื้อหมูและสามชั้นทอด ให้ท่านอาท่านนี้อย่างละสองห่อด้วยเจ้าค่ะ”

ลู่ชิงหันไปหาฟางซินเพื่อตักข้าวเหนียว แล้วโปะด้วยหมูทอดสามชั้นทอดอย่างละสองห่อ สำหรับลูกค้าคนแรกของร้านในวันนี้

“นี่เจ้าค่ะท่านอา ข้าวเหนียวหมูทอดสามชั้นทอด อย่างละสองห่อทั้งหมดหกสิบอีแปะเจ้าค่ะ” ข้ายื่นห่อข้าวไปให้พร้อมรับเงินกลับมาใส่กระปุกเป็นการประเดิมการขายในวันนี้

“แม่หนู ป้าเอาเนื้อหมูกับน่องไก่อย่างละห่อจ้ะ”

“แม่ค้า ข้าเอาทุกอย่าง ๆ ละสองห่อนะ”

“นางหนู ข้าเอาทุกอย่างเหมือนกันอย่างละห้าห่อ”

“ของข้าด้วยนะอย่างละห่อ อย่าเพิ่งขายให้ข้างหน้าจนหมดเล่า”

“ท้องข้าร้องประท้วงตั้งแต่ได้กลิ่นหอมของเนื้อหมูทอดแล้ว”

“กลิ่นเนื้อทอดนี่ช่างยั่วน้ำลายเสียเหลือเกิน ที่บ้านของข้าทำเหตุใดไม่มีกลิ่นหอมเช่นนี้บ้างนะ”

“นี่คงเป็นสูตรเฉพาะของตระกูลแม่ค้านะข้าว่า”

พอมีคนซื้อประเดิมและยืนยันว่าอร่อย คนอื่นก็รีบมาต่อแถวซื้อกันทันที ลู่ชิงกับมารดาช่วยกันห่อและคิดเงินเกือบไม่ทัน ด้านบิดากับพี่ใหญ่ก็ยืนทอดอยู่ด้านหลัง ยิ่งยุ่งกว่าคนขายอีก จะรีบร้อนมากเกินไปก็ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นเนื้อมันจะไม่สุกดี ลู่ชิงจึงให้ลูกค้าลงชื่อตามลำดับไว้ พร้อมจ่ายมัดจำไว้ครึ่งหนึ่งก่อน เมื่อไปเดินซื้อของอย่างอื่นเสร็จแล้ว ก็ค่อยแวะรับและจ่ายเงินอีกครึ่งที่เหลือ แบบนี้ทำให้พอได้หายใจหายคอคล่องขึ้นมาบ้าง

ตอนนี้เข้ายามเฉินลูกค้าก็เบาบางลงไปเยอะแล้ว ของที่เตรียมมาพอสมควรก็ทอดหมด ท่านพ่อกับพี่ชายกำลังช่วยกัน จัดการเก็บล้างกระทะกันอยู่ ลู่ชิงกับมารดาก็เริ่มเก็บของกันเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ยังมีเนื้อหมูกับสามชั้นเหลืออยู่ไม่มาก จึงรอดูว่าจะมีลูกค้ามาซื้ออีกหรือไม่ จนลู่ชิงหันไปเห็นว่ามีคนกำลังวิ่งมาทางนี้ การแต่งกายดูเหมือนคนในจวนใหญ่

“แฮ่ก ๆ ๆ แม่ค้า ๆ เนื้อหมูทอดของเจ้ายังพอมีเหลืออยู่หรือไม่ โอยเหนื่อยจริง ๆ อายุเยอะมันช่างลำบากยิ่งนัก” ดูท่าทางคงรีบวิ่งมาตลอดทางถึงได้เหนื่อยหอบ เพื่อมาถามซื้อหมูทอดของร้านนางหรือนี่

“ยังพอมีเหลืออยู่เจ้าค่ะท่านลุง ตอนนี้มีเนื้อหมูกับสามชั้นทอดเจ้าค่ะ แต่ว่าข้าวเหนียวหมดแล้วนะเจ้าคะ ท่านลุงยังจะรับอยู่หรือไม่”

“ข้าเอาเนื้อหมูกับสามชั้นทั้งหมดที่มีตอนนี้ เจ้าคิดรวมราคามาได้เลย” เขารีบวิ่งมาเพราะกลัวจะไม่ทัน หากช้ากว่านี้คงโดนหักเงินเดือนเป็นแน่ คุณชายน้อยของจวน เห็นบ่าวไพร่ที่ซื้ออาหารร้านนี้ ไปนั่งกินกันอย่างเอร็ดอร่อย จึงเดินเข้าไปถามและได้ลองชิม ก็ติดใจร่ำร้องจะกินเสียให้ได้ เมื่อถามพวกบ่าวว่าซื้อมาจากที่ใด เขาก็รีบวิ่งออกมาทันทีไม่ได้หยุดพักเลย

“นี่เจ้าค่ะท่านลุง เนื้อหมูและสามชั้นทอดของท่าน ทั้งหมดสี่เหลียงเป็นเงินหนึ่งร้อยอีแปะพอดีเจ้าค่ะ” ข้ายื่นห่อเนื้อหมูทอดไปให้ท่านลุงคนนั้นและรับเงินค่าอาหารมาพร้อมกัน

“ขอบใจเจ้ามากนะแม่ค้า ที่ยังเหลือเนื้อไว้ให้ข้าได้มาซื้อ วันนี้ข้าคงไม่โดนหักเงินเดือนแล้วล่ะ ไว้คราวหน้าข้าจะมาอุดหนุนเจ้าใหม่ข้าไปก่อนล่ะนะ” เขารีบพูดและรีบวิ่งกลับจวนไปอย่างรวดเร็ว

“หมดเกลี้ยงแล้วเจ้าค่ะ พวกเราเก็บของกลับบ้านไปพักผ่อนกันเถิด จากนั้นค่อยมาเตรียมของขายกันใหม่นะเจ้าคะ” ลู่ชิงหันไปบอกทุกคนด้านหลัง เมื่อลูกค้าคนสุดท้ายวิ่งออกไป ซึ่งตอนนี้เพิ่งจะกลางยามเฉินเท่านั้น แต่อาหารร้านนางกลับขายหมดเสียแล้ว ดูท่าคงต้องเพิ่มจำนวนเนื้อขึ้นอีกสักสองสามจิน เผื่อมีลูกค้าตื่นสายอยากกินกับเขาบ้าง

วันนี้เป็นการเริ่มกิจการได้ดี ทุกคนดูมีความสุขมากแม้จะเหนื่อยสักหน่อย แต่ทำงานเพียงสองชั่วยามก็ได้เงินไม่น้อยแล้ว ระหว่างทางเดินกลับบ้าน ก็พูดคุยกันด้วยเสียงหัวเราะไปตลอดทาง จนคนที่เดินทางสวนกันยังหันมามองพวกเราทั้งครอบครัว ก็คนมันมีความสุขถ้าไม่ให้ยิ้มแย้มหัวเราะ จะให้พวกเราทำหน้าอมทุกข์กันหรือไร แต่คนที่ดูจะมีความสุขและสนุกยิ่งกว่าใคร คงหนีไม่พ้นพี่ชายคนรองอย่างลู่เสียนที่หัวเราะเสียงดังกว่าใคร สงสัยจะชอบทำการค้ามากแน่ ๆ แบบนี้

ได้ท่านพ่อเต็ม ๆ

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 7 ชาบูชาใจฉลองกันหน่อย

    กลับมาถึงบ้านก็เกือบถึงยามซื่อแล้ว มื้อเช้าทุกคนก็อาศัยกินข้าวเหนียวกับหมูทอดกัน เพราะตื่นเต้นกับการขายของวันแรก จึงลืมเตรียมมื้อเช้าไปกินด้วย ลู่ชิงจึงคิดว่าคืนนี้จะทำกับข้าวง่าย ๆ ใส่กล่องไว้ในมิติตอนเช้าจะได้ไม่ลืมอีก เมื่อเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว ลู่ชิงก็ชวนทุกคนมานั่งที่โต๊ะอาหาร เพื่อทำการนับเงินที่ได้จากการขายของวันแรกพร้อมกัน“ท่านพ่อท่านแม่ พวกเรามานับเงินกันเจ้าค่ะว่าจะได้เท่าไหร่” ลู่ชิงอยากรู้ว่ารายได้ของวันนี้เป็นอย่างไร“ได้สิลูก พวกเราช่วยกันนับแยกเป็นกอง ๆ ไว้ จะได้รู้ว่ายอดรวมทั้งหมดเป็นเงินเท่าไหร่” ลู่เวินเองก็อยากรู้เช่นกันเพราะท่านพ่อเป็นพ่อค้า เรื่องคำนวณตัวเลขจึงสำคัญพวกเขาสามพี่น้องล้วนได้เรียนรู้เรื่องนี้ โดยมีท่านพ่อเป็นคนสอน ทุกคนจดจ้องอยู่กับการนับเงิน ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาแม้แต่คนเดียว“เอาล่ะ เจ้าใหญ่ลองนับยอดรวมทั้งหมดดูสิว่ามีเท่าไหร่” ลู่เวินให้บุตรชายคนโตอย่างลู่จื้อนับจำนวนเงินทั้งหมดอีกครั้ง“ขอรับ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก... ท่านพ่อ!! รายได้ทั้งหมดวันนี้ มีถึงหกตำลึงเงินกับอีกหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าอีแปะขอรับ” ลู่จื้อนับเสร็จก็บอกจำนวนที่นับได้ทันที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 8 อาหารทอดขายดีเกินต้าน

    วันที่สองของการค้าขายก็ยังดีเหมือนเมื่อวาน เพราะมีลูกค้ามายืนรอบริเวณหน้าร้านหลายคนแล้ว และวันนี้ก่อนออกจากบ้านพวกเราทานข้าวผัดหมูเป็นมื้อเช้ามาเรียบร้อย ตอนนี้กำลังช่วยกันตั้งร้านใกล้จะเสร็จ หน้าที่ทอดหมูและไก่ ก็ยังคงเป็นท่านพ่อกับพี่ใหญ่พี่รองเช่นเดิม เข้าสู่ปลายยามเหม่าอาหารก็พร้อมขาย ลูกค้าหน้าคุ้น ๆ ที่ยืนรออยู่ก็รีบสั่งทันที“แม่นางน้อย ข้าเอาเนื้อหมูกับสามชั้นอย่างละสองห่อ และน่องไก่หนึ่งห่อนะ ข้าจะเอาไปฝากเมียกับลูกที่บ้านด้วย”“ได้เจ้าค่ะข้าจะจัดการให้เดี๋ยวนี้เลย” ลู่ชิงไม่รอช้ารีบห่อข้าวให้ลูกค้าอย่างรวดเร็ว ท่านแม่ก็ช่วยนางห่อเช่นกัน“แม่หนู ป้าก็เอาทุกอย่างเลยนะขออย่างละสองห่อเหมือนกัน”“เจ้าค่ะ ท่านป้ารอสักประเดี๋ยวนะเจ้าคะ ลูกค้าท่านอื่น ๆ ต่อแถวกันด้วยเจ้าค่ะ รับรองได้กินของอร่อยทุกคนเจ้าค่ะ” ลู่ชิงรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าคนต่อไป และแจ้งคนอื่นเพื่อความเป็นระเบียบ“นี่ของท่านอาเจ้าค่ะ ทั้งหมดห้าสิบห้าอีแปะ รบกวนท่านอาจ่ายเงินให้ท่านแม่ของข้าได้เลยนะเจ้าคะ” ลู่ชิงให้มารดาเป็นคนรับเงินจากลูกค้าแทน เพราะนางทั้งพูดทั้งห่อข้าวไปด้วย เกรงว่าจะไม่ได้ตรวจให้ถี่ถ้วนลูกค้ามาเข้าแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 9 อาชีพเสริมช่วยชาวบ้าน

    ผ่านมาได้สองอาทิตย์ การค้าของครอบครัวสวีเป็นไปด้วยดี ลูกค้าประจำมีมากขึ้น ขนาดพ่อบ้านของจวนนายอำเภอ ยังมาต่อแถวซื้อไปให้เจ้านายได้ลิ้มลอง วันนี้เป็นวันหยุดของครอบครัว ลู่ชิงอยากจะปรึกษาบิดาเกี่ยวกับผู้คนในหมู่บ้านอันผิง ว่าพวกเขาเหล่านี้มีนิสัยใจคออย่างไร คนเห็นแก่ตัวหรือขี้อิจฉา ย่อมมีอยู่ทุกที่เหมือนกันหมด หรือแม้แต่คนที่เข้าใจอะไรยาก เอาความคิดของตนเองเป็นหลักหากได้รับการยืนยันเรื่องพวกนี้ จากท่านพ่อและหัวหน้าหมู่บ้าน เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจ บางทีนางอาจจะหาอาชีพให้พวกเขาได้ทำ จะได้มีรายได้พอจุนเจือครอบครัวเพิ่มมากขึ้น ยิ่งในฤดูหนาวนั้นทุกบ้านต้องประหยัดอาหาร ไม่แปลกที่จะมีคนตายจากการหิวโหยไม่น้อย คิดได้ดังนั้นก็รีบเดินตามหาบิดาทันทีลู่ชิงเดินตามหาบิดาจนมาเจอที่สวนผักของบ้าน พี่ชายทั้งสองก็อยู่ด้วยกำลังช่วยกันพลิกหน้าดินแปลงผัก เพื่อจะเพาะปลูกใหม่ลู่ชิงไม่รอช้า เรียกบิดาออกไปด้วยเสียงที่ดังพอสมควร“ท่านพ่อเจ้าคะท่านมาอยู่ที่แปลงผักนี่เอง ข้าเดินตามหาท่านให้ทั่วบ้านเลยเจ้าค่ะ”“อ้าว ชิงเอ๋อร์ เจ้าตามหาพ่อทำไมกันมีเรื่องอะไรหรือไม่” ลู่เวินสงสัยว่าทำไมบุตรสาวถึงตามหาตนเอง“พอดีข้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 10 ขายเครื่องประดับได้เงินทุนเพิ่ม

    เช้าวันถัดมาการตั้งร้านขายอาหารทอด ก็ยังคงมีลูกค้ามาต่อแถวอย่างคึกคักเช่นเดิม ในช่วงปลายยามเฉินท่านพ่อและพี่ชาย กำลังช่วยกันเก็บของอยู่ทางด้านหลัง เพราะของที่ขายก็เหลือน้อยแล้ว ลู่ชิงจึงบอกกับท่านแม่ว่าแถมเนื้อหมูให้ลูกค้าสักหน่อย จะได้เก็บของกลับบ้านส่วนนางกับท่านพ่อจะไปติดต่อเจ้าหน้าที่ เรื่องซื้อร้านค้าและจะนำเครื่องประดับไปขายที่ร้านของเถ้าแก่หงด้วย เผื่อมีร้านค้าที่ราคาไม่สูงมากจะได้ซื้อไว้ก่อน“ท่านแม่เจ้าคะ ถ้ามีลูกค้ามาซื้ออีกสักสองสามคน ท่านก็แถมเนื้อหมูเพิ่มไปสักหน่อย ท่านแม่กับพี่ชายจะได้กลับบ้านไปพักผ่อนรอพวกเราเจ้าค่ะ”“แม่รู้แล้ว ๆ เจ้าย้ำกับแม่หลายรอบแล้วนะชิงเอ๋อร์” นางส่ายหน้าให้กับบุตรสาวเล็กน้อย เพราะนางเอาแต่ย้ำเรื่องนี้อยู่หลายรอบ“แหะ ๆ ๆ เจ้าค่ะท่านแม่ เช่นนั้นข้ากับท่านพ่อจะรีบไปทำธุระให้เรียบร้อยนะเจ้าคะ พวกท่านกลับไปรอฟังข่าวดีอยู่ที่บ้านได้เลยเจ้าค่ะ”ฟางซินมองตามสามีกับบุตรสาว ที่เดินออกไปแล้วอยู่เงียบ ๆ ได้แต่คิดในใจ ตั้งแต่มีเด็กคนนี้เข้ามาครอบครัวก็มีเสียงหัวเราะได้ทุกวัน สองคนพ่อลูกตรงไปที่ร้านของเถ้าแก่หง เพื่อนำครื่องประดับจากในมิติไปขายจะได้มีเงินสำร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 11 ซื้อร้านค้าและเกวียนวัว

    เมื่อออกจากร้านเครื่องประดับของเถ้าแก่หง สองคนพ่อลูกก็เดินไปยังที่ว่าการของตำบลหย่งฝู เพื่อสอบถามเรื่องร้านค้า หากวันนี้สามารถซื้อได้เลยจะเป็นการดีมาก“น้องชายไม่ทราบว่าใต้เท้าอยู่หรือไม่ พอดีข้ากับบุตรสาวจะมาสอบถามเกี่ยวกับ การซื้อร้านค้าที่ติดป้ายประกาศขายน่ะ”“ท่านมาติดต่อซื้อร้านค้าเช่นนั้นหรือ ใต้เท้ากงอยู่ด้านในห้องทำงานนี่แหละเดี๋ยวพวกท่านสองคนเดินตามข้าเข้ามาก็แล้วกัน”“ขอบใจน้องชายท่านนี้มากนะ”ลู่เวินและลู่ชิงเดินตามทหารคนนั้นเข้าด้านในศาลาว่าการ เพื่อเข้าไปพบใต้เท้ากงที่นั่งอ่านรายงานการทำงานของลูกน้องอยู่ พอได้ยินเสียงคนเดินมาก็เงยหน้าขึ้นมองและเอ่ยถามออกไป“เจ้าพาผู้ใดมารึ แล้วพวกเขามาติดต่อเรื่องอะไร”“เรียนใต้เท้า พวกเขาสองคนพ่อลูกบอกว่า จะมาติดต่อเรื่องการซื้อร้านค้าขอรับ”“อืม เช่นนั้นเชิญท่านทั้งสองนั่งรอก่อนสักประเดี๋ยว ข้าจะเอารายละเอียดของร้านค้ามาให้พวกท่านได้เลือกนะ” ใต้เท้ากงหยิบกระดาษแผ่นใหญ่มากางบนโต๊ะ ให้ลู่ชิงกับบิดาได้เลือกร้านค้าที่ต้องการ“ขอบคุณใต้เท้ามากขอรับ/ขอบคุณใต้เท้าเจ้าค่ะ”นั่งรอเพียงไม่นานใต้เท้ากง ก็เดินถือเอกสารมาวางบนโต๊ะดูคร่าว ๆ น่าจะมีมา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 12 พี่ชายและสหายของเขา

    ด้านฟางซินและบุตรชายทั้งสอง เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ช่วยกันเก็บของเข้าที่จนเรียบร้อย ทั้งสองคนจึงบอกกับมารดาว่าจะไปพบสหาย เพื่อพูดคุยเรื่องอาชีพเสริมที่น้องสาวคิดขึ้นมา นางอนุญาตให้พวกเขาไปหาสหายได้ ส่วนตนเองนั้นจะอยู่รอสามีกับบุตรสาวอยู่ตรงหน้าบ้านเอง“ท่านแม่ท่านพักผ่อนอยู่ที่บ้าน รอท่านพ่อกับน้องเล็กไปก่อน ข้ากับน้องรองจะไปพบสหายเสียหน่อย เพื่อคุยเรื่องอาชีพเสริมของน้องเล็กขอรับ”“ใช่แล้วท่านแม่ พวกเราสองคนไปไม่นานจะรีบกลับมาขอรับ”“พวกเจ้าไปเถอะแม่อยู่คนเดียวได้ อีกสักพักพ่อกับน้องสาวพวกเจ้าก็คงจะกลับมาแล้วล่ะ”ลู่เวินบังคับเกวียนเข้าประตูบ้าน ภายหลังจากที่บุตรชายออกไปไม่ถึงหนึ่งจิบชา พอฟางซินเห็นสามีกับบุตรสาวกลับมาก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยว่า สามีไปเอาเกวียนมาจากที่ใดเพราะราคาน่าจะหลายตำลึง ทั้งยังเป็นเกวียนวัวที่มีหลังคาอีกด้วย“ท่านพี่นี่ท่านไปเอาเกวียนวัวจากที่ใดมาเจ้าคะ” ฟางซินเอ่ยถามสามีเมื่อเห็นเขาบังคับเกวียนเล่มใหญ่เข้ามา“อ้อ เกวียนวัวเล่มนี้เป็นของครอบครัวของเรา เพราะต้องใช้มันขนของเพื่อไปพักในตำบลชั่วคราว หลังจากนี้พวกเราจะสร้างบ้านหลังใหม่แทนหลังเดิม” ลู่เวินอธิบายให้ภรรยาข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 13 ชาวบ้านยินดีแต่มีมนุษย์ป้าด้วยนะ

    ก๊อก ๆ ๆ “มีใครอยู่หรือไม่ ท่านอาหลิ่วขอรับข้าลู่เวินมีเรื่องมาหารือกับท่านขอรับ”ลู่เวินพาบุตรสาวมาถึงบ้านท่านอาหลิ่วอาน ที่เป็นหัวหน้าหมู่บ้านก็เคาะประตูเรียกเจ้าของบ้าน รอไม่นานก็มีคนมาเปิดประตู“หืม อาเวินเองรึข้าก็นึกว่าผู้ใด เข้ามานั่งด้านในก่อนเถิดค่อยพูดคุยกัน”“ขอบคุณขอรับ”“ชิงเอ๋อร์ก็มาด้วยหรือ ว่าแต่พวกเจ้ามีเรื่องอะไรถึงมาหาข้าในยามนี้เล่า”“ข้ากับบุตรสาวมีเรื่องอยากจะหารือกับท่าน ถ้าครอบครัวข้าอยากจะหาอาชีพเสริม มาให้ชาวบ้านทำเพื่อให้มีรายได้เพิ่ม ท่านอาหลิ่วคิดเห็นว่าอย่างไรขอรับ” เมื่อเข้ามานั่งด้านในบ้านแล้วลู่เวินก็พูดขึ้นทันที“อาชีพเสริมเช่นนั้นรึ ถ้ามันช่วยให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มข้าย่อมสนับสนุน หมู่บ้านของเราใช่ว่าจะมีฐานะร่ำรวย ยามเกิดภัยแล้งภัยหนาวล้วนลำบากทั้งนั้น กว่าทางการจะให้การช่วยเหลือ ผู้คนก็ล้มป่วยหรือตายจากญาติพี่น้องก็มี พวกเจ้าลองอธิบายให้ข้าฟังสักหน่อย หากเป็นงานที่ไม่ยากเกินไป ข้าจะได้เรียกทุกคนมาประชุมหารือร่วมกันทันที”เขาเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน ย่อมไม่อยากเห็นลูกบ้านของตนอยู่อย่างยากลำบากเกินไป เมื่อมีลู่ทางหาเงินเขาจะไม่สนับสนุนได้เช่นไร“เรื่องนี้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 14 ฉากเปิดตัวพระเอกหรือเปล่านะ?

    เมื่อการประชุมเรื่องอาชีพเสริมของชาวบ้านอันผิง ผ่านไปได้ด้วยดีสองคนพ่อลูกจึงรีบกลับบ้าน จะได้ทานมื้อเที่ยงและพักผ่อน พรุ่งนี้ยังต้องไปติดต่อนายช่างหาน เพื่อว่าจ้างให้มาปรับปรุงร้านค้า“ท่านพ่อเจ้าคะวันนี้พักผ่อนให้มากหน่อยชดเชยก่อนหน้านี้ ที่ท่านต้องลำบากทำงานหาเงินตั้งหลายปี” ลู่ชิงสงสารคนในครอบครัวที่ต้องลำบาก ประคับประคองชีวิตมาจนถึงตอนนี้มันไม่ง่ายเลยจริง ๆลู่ชิงเอ่ยเช่นนี้เพราะอยากให้ครอบครัว ได้มีเวลาพักผ่อนเยอะ ๆ แม้ตอนนี้จะมีข้าวกินจนอิ่มท้องและมีน้ำจากบ่อวิเศษ แต่ร่างกายทุกคนยังดูผอมกันอยู่ จึงต้องทานอาหารบำรุงดี ๆ รวมถึงการพักผ่อนเพื่อให้ภายในร่างกายได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ลู่เวินเข้าใจความห่วงใยนี้ของลู่ชิง และมันเป็นเรื่องจริงที่พวกเขา พยายามกันอยากมากกับการทำงานเลี้ยงชีพ เมื่อยามนี้พอมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น การพักฟื้นร่างกายย่อมเป็นสิ่งสำคัญ “พ่อจะทำตามที่ชิงเอ๋อร์แนะนำเป็นอย่างดี รวมถึงท่านแม่และพี่ชายของเจ้าด้วยเช่นกัน”“ดีมากเจ้าค่ะ อิอิ”“ท่านพี่กลับมาแล้วหรือเจ้าคะ เรื่องที่ไปหารือกับผู้ใหญ่บ้านเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ” ฟางซินกังวลว่าจะมีชาวบ้านที่ไม่เชื่อเรื่องอาชีพ“กา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14

บทล่าสุด

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 81 ร้านค้าตระกูลสวีเปิดตัวที่เมืองหลวงแล้ว

    หลังจบงานเลี้ยงเหล่าขุนนางทั้งหลาย กล่าวย้ำกับฮูหยินของตนเรื่องการอบรมบุตรสาว ให้มีความพร้อมสำหรับการออกเรือน ตอนนี้ทุกคนมุ่งเป้าไปที่องค์รัชทายาท ด้วยเมื่อก่อนพระองค์มีอาการป่วยจึงไม่มีขุนนางคนใดสนใจ คิดส่งบุตรสาวเข้าตำหนักบูรพาเพื่อแต่งเข้าไปเป็นพระชายาแม้สักคนครั้งนี้พอเห็นว่ารัชทายาทหายจากอาการป่วยก็กระตือรือร้น อยากส่งบุตรสาวเข้าตำหนักเพื่ออำนาจของตระกูลจะได้มีมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือเมิ่งเหยียนรองเจ้ากรมโยธาผู้ที่อยู่เงียบ ๆ มาตลอด แต่ในใจนั้นกระหายในอำนาจไม่ต่างจากผู้อื่นเท่าใดนักใต้เท้าเมิ่งคิดว่าบุตรสาวของตนที่งดงามไม่เป็นสองรองใคร อย่างไรก็ต้องได้แต่งเข้าตำหนักองค์รัชทายาทอย่างแน่นอน เพียงแค่ต้องหาโอกาสให้ทั้งสองได้ทำความรู้จักและสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเสียก่อนทุกคนต่างคาดหวังในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แต่ใครจะรู้ว่าตัวตนลึก ๆ ขององค์รัชทายาทนั้น โหดเหี้ยมไม่ต่างกับเซียวหนิงหลงเลยสักนิด ก่อนที่จะถูกวางยาพิษจนล้มป่วยพระองค์เคยเข้าร่วมกองทัพของชินอ๋อง เพื่อฝึกการสู้รบในสงครามกับเซียวหนิงหลงมาแล้ว เพียงในยามนั้นทรงปลอมตัวเป็นลูกหลานขุนนางขั้นเจ็ดโดยไม่มีผู้ล่วงรู้ผ่านมาอีกเจ็ดว

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย    ตอนที่ 80 สมรสพระราชทานที่เจ้าบ่าวมิใช่เซียวหนิงหลง

    หลังจากไทเฮาเสด็จกลับมาถึงวังหลวง ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งให้จัดงานเลี้ยงอีกสองวันต่อจากนี้ เพื่อให้ไทเฮาได้พักผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทางไกล เพราะพระองค์ก็ทรงมีพระชนมพรรษามากแล้วนั่นเองฮ่องเต้กับฮองเฮาจึงไปส่งไทเฮาถึงตำหนักหนิงจิ้งกง แต่ด้านหลังยังมีนางสนมตำแหน่งต่าง ๆ องค์ชายองค์หญิงอีกหลายพระองค์ติดตามไปด้วย ซึ่งเรื่องนี้สร้างความอิจฉาปนความเกลียดชังให้กับจิ่งไท่เฟยเป็นอย่างมากพระนางต้องเสด็จกลับตำหนักยินเหลียงกงของตน พร้อมหลานสาวอย่างจิ่งมู่อิงและนางกำนัลเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ไทเฮาทรงทราบว่าตอนนี้ฮองเฮาตัั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้ว ทรงดีพระทัยมากและทรงคาดหวังว่าครรภ์นี้ของฮองเฮา จะเป็นองค์ชายน้อยอีกสักพระองค์ เมื่อเสด็จออกมาจากตำหนักของไทเฮา ฮ่องเต้จึงเสด็จไปส่งฮองเฮาที่ตำหนักเสียก่อน จากนั้นถึงจะเสด็จกลับตำหนังกวงจือกงของพระองค์เพื่อทรงงานของวันนี้ต่อไปก่อนถึงงานเลี้ยงหนึ่งวันขบวนสินค้าจากตำบลหย่งฝู ก็ลำเลียงเป็นแถวผ่านประตูเมืองหลวงเข้ามา และหยุดอยู่ด้านหน้าร้านค้าขนาดใหญ่ ที่เซียวหนิงหลงสั่งให้นายช่างทำร้านทั้งสองให้เป็นร้านเดียวพอทหารที่คอยเฝ้าดูแลร้านเห็นรถม้าทั้งหกคัน ท

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 79 ขบวนสินค้าออกเดินทาง

    ก้งคุนปล่อยให้เจียวมิ่งนั่งอยู่กับพวกเต๋อหลิน ส่วนตัวเขากลับไปช่วยงานต่อ เพราะถึงอย่างไรเจียวมิ่งย่อมนำเรื่องที่คุยกันมาบอกพวกเขาสามคนอยู่ดี การได้นั่งดูสหายผู้มาจากเมืองหลวงทานอาหารเช่นนี้ ช่างคล้ายกับพวกตนตอนที่มาถึงตำบลหย่งฝูครั้งแรกจริง ๆ เมื่ออาหารทุกอย่างบนโต๊ะลงไปอยู่ในท้องของแต่ล่ะคนหมดแล้ว เจียวมิ่งจึงได้เวลาพูดคุยกับเหล่าสหายเสียที“ดูสภาพพวกเจ้าแต่ล่ะคนทำไมมันดูโทรมขนาดนี้ได้ ระหว่างเดินทางไม่พักผ่อนกันบ้างหรืออย่างไร”“มันก็มีแวะพักมาตลอดทางนั่นแหล่ะ เพียงแต่พวกข้ากลัวว่าจะนำสินค้ากลับไปถึงช้า ทำให้การเปิดร้านค้าของซื่อจื่อต้องเลื่อนออกไป จึงพักเท่าที่จำเป็นเท่านั้นพวกข้าจึงมาถึงที่นี่ได้เร็วกว่ากำหนดน่ะ” เจาซ่งเป็นผู้ตอบคำถามนี้ของเจียวมิ่ง“ซื่อจื่อซื้อร้านค้าขนาดใหญ่ถึงสองร้านและยังอยู่ติดกันอีกต่างหาก เท่าที่ดูการปรับปรุงใหม่ทั้งหมดคงจะรวมให้เป็นร้านเดียวกัน เพราะรื้อไม้ของเก่าออกทั้งหมดวัสดุที่สั่งมาใช้มีแต่ของดี ข้าได้ยินชุนชานบอกว่าซื่อจื่อสั่งมาทุกอย่างต้องดีที่สุด ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ไม่เกี่ยงขอให้ปรับปรุงร้านเสร็จภายในหนึ่งเดือนเป็นพอ” เต๋ออวี่ชอบไปนั่งพูดคุยกับชุน

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 78 การค้าขายจากเมืองหลวงมาถึงตระกูลสวีแล้ว

    คำสั่งซื้อที่ได้รับจากเถ้าแก่หง ทำให้ทุกคนในครอบครัวตื่นเต้นดีใจกันมาก ครั้งนี้ส่วนแบ่งจากการขายสินค้าคงได้มากกว่าเดิมแน่ ๆ ยามเช้ามืดของวันที่สองลู่ชิงตื่นมาชวนทุกคน เพื่อช่วยกันเตรียมสินค้าตามคำสั่งซื้อและตอนสาย ๆ หลังจากเปิดร้าน ค่อยให้ลู่จื้อกับก้งเจี้ยนำไปส่งเถ้าแก่หงที่จวน เมื่อรับสินค้าครบตามจำนวนที่บอกกับลู่ชิงแล้ว เถ้าแก่หงได้บอกกับลู่จื้อมาว่าการเดินทางไปทำการค้าครั้งนี้ อาจจะมีลูกค้ามีคำสั่งซื้อมาเพิ่มอีกก็เป็นได้ผ่านมาอีกหนึ่งสัปดาห์กว่า ๆ การเดินทางที่แสนเหนื่อยล้าของพวกเต๋อหลิน ซึ่งออกจากเมืองหลวงไปตำบลหย่งฝู ตามคำสั่งของเซียวหนิงหลง ตอนนี้ได้หยุดพักรถม้าอยู่ที่เมืองหย่งจินหนึ่งวันก่อนจะออกเดินทางต่อ เพราะทั้งเหนื่อยและหิวมากเต๋อหลินจึงชวนสหายเดินไปหาของกินจนเห็นผู้คนเดินเข้าออกร้านอาหารอยู่ร้านหนึ่ง คิดว่าคงเป็นอาหารที่อร่อยมากเป็นแน่ ไม่เช่นนั้นคงไม่มีลูกค้ามากมาย บางคนถึงกับนั่งรออยู่หน้าร้านที่มีม้านั่งวางไว้ให้ ไหนจะมีคนถือเถาอาหารมาต่อแถว ทั้งหกคนไม่รอช้ารีบเดินตามคนอื่นไปบ้าง พอมาถึงก็โชคดีที่มีโต๊ะว่างให้พวกเขาได้นั่งร่วมกัน และเรียกลูกจ้างของร้านมาสั่งอาหารทั

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 77 รับทรัพย์แถมคำสั่งซื้อจากแคว้นซีหนาน

    หลี่เหลียงพร้อมสหายทั้งสองหลังจากแวะส่งเด็กเล็ก ๆ ของตระกูลเฮ่อที่อารามบนเขาเสร็จ ก็รีบเร่งเดินทางเพื่อให้พ้นเขตแดนของแคว้นเป่ยเยี่ยน ตอนนี้ผู้คนในเมืองหลวงต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงตระกูลเฮ่อ เกี่ยวกับเรื่องห้องลับใต้ดินที่เป็นห้องสำหรับทำพิธีกรรมบางอย่าง ซึ่งทุกคนต่างเชื่อมโยงกับเรื่องที่มีเด็กสาวหายตัวไปก่อนจะพบเป็นศพด้วยเรื่องนี้ไปถึงพระกรรณของฮ่องเต้เป่ยซางหลาง ทำให้พระองค์ไม่เสด็จไปเยือนตำหนักของเฮ่อกุ้ยเฟยอีก มิหนำซ้ำเหล่าขุนนางยังรวมตัวเรียกร้องให้ฮ่องเต้ ทรงปลดนางจากตำแหน่งกุ้ยเฟยยังไม่พอ ผลกระทบนี้ทำให้องค์ชายรองไม่สามารถแข่งขันชิงตำแหน่งรัชทายาทได้ เพราะขุนนางหลายคนถอนตัวไปสนับสนุนองค์ชายคนอื่นแทน เฮ่อกุ้ยเฟยพอได้ยินข่าวนี้ยิ่งทำให้ล้มป่วยไปอีกหลายเดือนทีเดียวผ่านมาสองวันหลี่เหลียงกับสหาย จึงกลับมาถึงบ้านพักที่ชายแดนแคว้นฉู่ เขารีบเขียนจดหมายรายงานการทำภารกิจครั้งนี้ส่งให้เซียวหนิงหลงได้รับทราบ รวมถึงข่าวที่อันเนี่ยนเจินเจ้ากรมอาญาคนใหม่ กำลังเดินทางไปพบเซียวหนิงหลงตามที่นัดไว้ คงใช้เวลาเดินทางอีกหนึ่งเดือนกว่าจะไปถึงเมืองเฉียนเหอ เนื่องจากแคว้นเป่ยเยี่ยนเป็นแคว้นเล็ก ๆ อยู่ใก

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 76 ชดใช้เวรกรรมด้วยเลือดทั้งตระกูล

    อันเนี่ยนเจินไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากนัก เมื่อต้าเป่ามาพร้อมกับม้าที่แข็งแรงสองตัวไม่มีการพูดจาใด ๆ ทั้งสองรีบขึ้นหลังม้าควบทะยานออกจากเมืองหลวงแคว้นเป่ยเยี่ยนทันที แม้ไม่ทราบจุดประสงค์ของผู้ส่งจดหมายฉบับนั้นว่าต้องการสิ่งใด แต่อันเนี่ยนเจินเชื่อไปเกินครึ่งแล้วว่า คนผู้นี้ต้องมีสิ่งที่เขาต้องการอย่างแน่นอนถึงการเดินทางครั้งนี้จะใช้เวลานานนับเดือนก็ตาม คนอย่างอันเนี่ยนเจินก็ไม่คิดยอมแพ้ หากเขาสามารถไขคดีนี้ให้ความจริงปรากฏออกมาได้ นอกจากความมั่นคงในหน้าที่การงาน ยังสามารถสร้างความน่าเชื่อถือต่อฮ่องเต้และขุนนางทั้งหลาย ต่อไปย่อมมีคนสนับสนุนและผลักดันให้อันเนี่ยนเจิน ไปยังตำแหน่งที่สูงขึ้นได้ในอนาคตเช้ามืดในปลายยามอิ๋นหลี่เหลียงและสหายอีกสองคน ก็ออกเดินทางจากชายแดนพวกเขามุ่งหน้าไปแคว้นเป่ยเยี่ยน ทั้งสามคนจะไปถึงเขตเมืองหลวงประมาณต้นยามซวี ซึ่งจะแวะพักโรงเตี๊ยมนอกเมืองเสียก่อน และยามเว่ยของอีกวันถึงจะเดินทางเข้าไปในเมืองหลวง เพื่อรอเวลาลงมือเมื่อความมืดมาเยือน“วันนี้พวกเราสามคนพักที่โรงเตี๊ยมนี้ก่อนเถิด พรุ่งนี้ยามเว่ยค่อยเดินทางเข้าเมืองหลวงต่อไป” หลี่เหลียงกล่าวกับสหายเมื่อเดินทางมาถึง

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 75 ผลการพิพากษากำลังจะไปเยือนตระกูลเฮ่อ

    หลังจากเจียวมิ่งบอกเล่าต้นสายปลายเหตุที่เฮ่อจาวหยูต้องการจับตัวลู่ชิงไป ทุกคนทำสีหน้าเหลือเชื่อว่าผ่านมาหลายร้อยปี ยังมีคนเชื่อเรื่องพิธีกรรมแปลก ๆ เช่นนี้อยู่อีกหรือ พวกเขาคิดถึงเด็กสาวที่ต้องสังเวยชีวิต เพราะคนหลงผิดเห็นแก่ตัวทำเรื่องผิดบาปสังหารคนเพื่อความรุ่งเรืองของตระกูลแล้วศพพวกนั้นถูกนำไปกำจัดอย่างไรก็ไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็น เมื่อกลับมาถึงบ้านเช่าพวกเจียวมิ่งทำให้เฮ่อจาวหยูฟื้นคืนสติ ด้วยมีข้อสงสัยบางอย่างที่ยังไม่ได้คำตอบ นั่นคือผู้มีอำนาจรวมถึงข้อมูลของคนในตระกูลเฮ่อทั้งหมด ว่าบุตรหลานที่เป็นสตรีแต่งงานไปตระกูลใดบ้าง อยู่ในแคว้นเป่ยเยี่ยนหรือแต่งงานไปแคว้นอื่น เจียวมิ่งเขียนรายละเอียดทุกอย่างลงในจดหมายและส่งออกไปทันทีเซียวหนิงหลงมอบหมายให้ชุนชานมีหน้าที่ดูแลการปรับปรุงร้านค้าทั้งสอง โดยให้ปาเซี่ยช่วยควบคุมดูแลนายช่าง จนกว่าพวกเขาจะปรับปรุงเสร็จ ส่วนตัวเขาได้แต่อ่านตำราพูดคุยกับมารดาและน้องสาวอยู่ในจวนบางครั้งก็ฝึกวรยุทธ์เพิ่มความแข็งแกร่ง พวกเต๋อหลินเองได้ออกเดินทางไปยังตำบลหย่งฝู พร้อมรถม้าจำนวนหกคันแล้ว นอกจากนี้ยังส่งคนไปจับตามองตระกูลเมิ่ง ที่เข้าออกตำหนักของกวนเสียนเ

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 74 ตระกูลเฮ่อสร้างปัญหานอกแคว้น

    แคว้นฉู่เป็นแคว้นที่ใหญ่รองลงมาจากแคว้นซีหนาน ซึ่งมีพื้นที่อุดมสมบูรณ์และกองทัพที่แข็งแกร่ง ไม่แปลกที่แคว้นตงหนานต้องการยึดพื้นที่ชายแดน และแคว้นเป่ยเยี่ยนที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของแคว้นฉู่แม้การใช้ชีวิตและความเป็นอยู่ของราษฎรจะดีเหมือนแคว้นอื่น แต่แคว้นเป่ยเยี่ยนกลับมีพระสนมยศกุ้ยเฟย จากตระกูลเก่าแก่ตระกูลนี้ก็คือตระกูลเฮ่อ ซึ่งมีพิธีกรรมที่เป็นความเชื่อสืบทอดกันมา เพื่อส่งเสริมให้บุตรหลานที่เป็นสตรีในตระกูล เรืองอำนาจอยู่เหนือบุรุษและสามารถควบคุมเอาไว้ในกำมือทุก ๆ หนึ่งปีผู้ทำพิธีของตระกูลเฮ่ออย่างเฮ่อจาวหยู จะออกไปเสาะหาเด็กสาวผู้มีอายุตั้งแต่สิบสองหนาวขึ้นไป เป็นเด็กสาวที่มีจิตใจบริสุทธิ์ ภาพรวมทั้งหมดที่แสดงออกต่อคนรอบข้างของเด็กสาวพวกนี้จะมีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว เมื่อพบเจอเด็กสาวตามคุณลักษณะที่ต้องการ จะนำตัวไปชำระล้างเพื่อนำเลือดจากหัวใจของเด็กสาว มอบให้พระสนมเฮ่อกุ้ยเฟยได้ดื่ม เพื่อเสริมอำนาจบารมีและคงความอ่อนเยาว์พิธีกรรมนี้ทำมาต่อเนื่องนานหลายปี ตั้งแต่พระสนมเฮ่อกุ้ยเฟยเข้าถวายตัวเป็นนางสนมเล็ก ๆ จนปีหลัง ๆ มานี้มีขุนนางหน้าใหม่ที่เข้ามารับตำแหน่งเจ้ากรมตุลาการ ติดตามสืบหากา

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 73 เซียวหนิงหลงเตรียมเปิดกิจการภายใต้ชื่อตระกูลสวี

    เซียวหนิงหลงนั่งฟังชุนชานรายงาน การลงโทษประหารนักโทษทั้งสองคน รวมถึงการขับไล่ครอบครัวทั้งสองตระกูล ห้ามอาศัยอยู่ในเขตเมืองหลวง และไม่อนุญาตให้บุตรหลานสอบเข้ารับราชการ ส่วนสตรีห้ามแต่งเข้าจวนขุนนาง พวกเขาจะต้องเดินทางโดยที่ไม่มีเงินทองติดตัว แม้แต่เครื่องประดับชิ้นเล็กชิ้นน้อยล้วนถูกยึดไปหมดบ้านเดิมไม่ให้การช่วยเหลือด้วยกลัวจะติดร่างแหไปด้วย จะหันหน้าไปพึ่งพาเพื่อนสนิทมิตรสหายที่เคยคบหากัน ทุกคนต่างก็หันหน้าหนีคล้ายกับว่าไม่เคยรู้จักมาก่อน ส่วนขุนนางที่เคยเป็นลูกค้าใช้เงินซื้อความสุขชั่วคราว เมื่อคนในครอบครัวได้รับรู้พฤติกรรมอันน่ารังเกียจ จึงเกิดทะเลาะกันอย่างหนักบางครอบครัวถึงขั้นหย่าร้างขุนนางพวกนี้มิได้มีฐานะร่ำรวยแต่อาศัยว่าได้ภรรยามีฐานะดี ทำให้มีหน้ามีตาในวงสังคมขุนนางชั้นสูงมาได้ เพราะการสนับสนุนของภรรยาทั้งสิ้นการต้องอยู่ในตำแหน่งเดิมถึงห้าปี แสดงว่าเบี้ยหวัดที่ได้ย่อมเท่าเดิม ที่สำคัญยังต้องใช้เงินสำหรับเปิดโรงทานถึงหกเดือน จะทำอาหารแจกแบบขอไปทีคงจะถูกตรวจสอบเป็นแน่แล้วค่าใช้จ่ายของคนในครอบครัวกับเงินเบี้ยหวัดของบ่าวไพร่อีก คงต้องขายบ่าวไพร่เพื่อลดค่าใช้จ่ายสิ่งของในจวนที่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status