เจียเหาคำราม เปลือกตาบีบเข้าหากัน ช่องทางของดาวิชทำเขาแทบคลั่ง หากเมื่อกี้ขยับเอวไวกว่านี้แค่นิดเดียว คงได้แตกเข้าไปข้างในของเล่นชิ้นนี้ตั้งแต่เพิ่งออกจากท่าแน่
และหากมันเกิดขึ้นจริง สองแฝดคงเก็บเรื่องของเขาไปล้อไม่เลิกแน่นอนว่า คุณชายใหญ่แห่งตระกูลจางเสียท่าให้กับโอเมก้าเด็กหนุ่ม ถึงกับทำเรือล่มปากอ่าว
‘ไอ้เด็กคนนี้แม่งไม่เคยผ่านผู้ชายมาเลยเหรอวะ’
ช่องทางนั้นทั้งคับแน่น ทั้งตอดตุบ ดุ้นของคุณชายใหญ่เหมือนกับจะขาดแล้วติดค้างอยู่ข้างใน
“แฮก ๆ อา” ดาวครางเสียงสั่น แม้ครั้งแรกจะไม่ยาก แต่น้ำหล่อลื่นในช่วงฮีทของโอเมก้านั้นหลั่งไหลเหมือนฝนตก มันช่วยให้การล่วงล้ำในสภาพนี้เกิดขึ้นได้
“เป็นไงบ้างพี่เจียเหา ดีไหม” สองแฝดถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
เจียเหาพยักหน้า แล้วพอเริ่มตั้งต่อได้ ต่อจากนี้ก็ไม่มีอะไรหยุดอยู่ อัลฟ่าบ้ากามจับชายเสื้อของดาวิชไว้ ตามมาด้วยการกระแทกดุ้นกับก้นไม่ยั้ง
ตับ ๆๆ พลัก ๆๆ
เพียะ ๆ
เสียงที่ว่าเกิดขึ้นเพราะสองแฝดที่ยังว่างงานเกิดอารมณ์เกินกลั้น จึงใช้ฝ่ามือหวดไปยังแก้มก้นขาวงอนจนเป็นปื้นแดง บางคนก็เอานิ้วแหย่เข้ามาในโพรงปาก ราวกับหากดุ้นยังไม่ได้เข้าไปในร่างกาย ขอเป็นส่วนอื่นก็ยังดี
อัลฟ่าจางหมิงออกแรงกดนิ้วลงกับลิ้นจนดาวส่งเสียงอ๊อก น้ำลายไหลออกทางมุมปาก หกลงเปียกบนโต๊ะ
ส่วนเจียเหาทำไปก็ครวญครางไปด้วย
“โอ๊ยแม่งแน่นชิบหาย ตอดกูสุดยอด อะไรกันวะเนี่ยไม่เคยรู้สึกดีขนาดนี้มาก่อนเลย เป็นไปได้ไง อึก!”
คุณชายใหญ่ทำไป ตาก็มองไม่กะพริบไปที่บั้นท้ายของโอเมก้า ดุ้นเนื้อแก่นกายมันแผล็บของเขาผลุบหายเข้าไปในส่วนโค้งที่กลมงอนเหมือนลูกพีช
เจียเหากัดปากจนห้อเลือดเมื่อสัมผัสได้ว่ากล้ามเนื้อด้านในของโอเมก้าหนุ่มน้อยคนนี้คับแน่นแข็งแรง ไม่เหมือนผู้หญิงคนไหนที่เขาเคยผ่านมา ทำให้คิดว่าไม่ว่าจะใช้ท่าไหน ร่างนี้ก็เป็นภาชนะรองรับให้เขาได้อย่างดีเกินคาด
ดังนั้นการตอกเอวลงไปจึงยิ่งรุนแรงและต่อเนื่อง
ตับ ๆ
“โอย ได้เอาอย่างนี้ยิ่งกว่าได้ขึ้นสวรรค์อีก มาสิ เตรียมตัวให้พร้อม” พี่ชายเอ่ยปากบอกน้อง ๆ
อัลฟ่าฝาแฝดได้ยินจึงรีบถอดเสื้อออกอย่างรวดเร็ว ร่างกายทุกคนเปล่าเปลือย แววตาวาวโรจน์ตอนมองมายังโอเมก้าเนื้อหวาน น้ำลายไหลไม่ต่างจากสัตว์ป่ากระหายเหยื่อ
สองคนกลืนน้ำลายเอื๊อก สงสัยแต่ไม่กล้าถามว่าเมื่อไรจะถึงตาพวกเขาสักที
“อา อ๊า” ส่วนดาวเอาแต่ครางไม่หยุด อันที่จริงพอถึงตอนนี้ปลายดุ้นของเจียเหาที่เข้าไปกระทบถูกสักจุดในช่องทางด้านในของเขา กับบางจังหวะที่กระแทกเข้ามา มันได้สร้างความรู้สึกแปลก ๆ พลุ่งจี๊ดขึ้นสมองอันยากจะบอก
ซึ่งดาวรู้สึกว่ามันไม่ได้เลวร้ายเลย อันที่จริงออกจะเพลิดเพลินนิดหน่อย เหมือนตอนได้กินขนมหวานอร่อยคำแรก จนอยากได้อีกคำและอีกคำ สุดท้ายก็กินจนหมดเกลี้ยงในแค่ไม่กี่วินาที
แจะ ๆๆ
สองแฝดเผลอใช้นิ้วเล่นกับดุ้นของตัวเองอย่างลืมตัว ยิ่งได้เห็นร่างบางกระเด้งไปข้างหน้าเป็นจังหวะตอนถูกพี่ชายกระแทกยิ่งกระตุ้นความรู้สึกจนแทบพวยพุ่ง
จางฉวนทำตาโตเมื่อเห็นของเหลวจากร่างกายของโอเมก้าไหลล้นจากรูจีบลงไปตามโคนขาขาวเนียนน่าสัมผัสของดาว “โอย น้ำไหลนองเลยว่ะ”
“ท่าทางจะเสียวดุ้นมากใช่ไหม”
“หรืออยากโดนมากกว่านี้วะ”
จางหมิงออกความเห็นอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ “ผมว่าหยุดก่อนแล้วพามันไปทำที่เตียงดีกว่าไหม”
เพราะน้องชายพูดพี่ชายเลยนึกได้ เจียเหาหยุดเคลื่อนไหวเอวแล้วถอนตัวออก เปิดโอกาสให้ฝาแฝดบ้าง
พรืด
ดาวถึงกับบีบเปลือกตาแน่นด้วยความเสียวปลาบตอนดุ้นใหญ่ถูกถอนออก เขารู้สึกว่าร่างกายส่วนนั้นกลวงโบ๋ไปแล้ว ขาสั่นแทบยืนไม่ไหว ราวกับของเหลวในร่างกายถูกรีดเค้นออกไปหมดจนแห้งเหือด
เขาไม่เหลืออะไรแล้ว
เจียเหาร่างใหญ่ก้มไหล่ลงมา ใช้มือจับไหล่และคอของดาวด้วยลีลาที่ตัวเองถนัด
ใบหน้าของดาวหันไปตามแรงมือ แต่ที่น่าแปลกคือคนตัวใหญ่ก้มหน้าลงมา ก่อนตามด้วยจูบที่อ่อนหวานและดูดดื่ม
และนิ้วโป้งใหญ่ของเจียเหาก็ป้ายเช็ดน้ำตาที่ขอบตาล่างของดาวเบา ๆ อย่างนุ่มนวลจนน้ำตาแห้งเหือด
ส่วนสองแฝดได้แต่มองอย่างตกตะลึงกับท่าทีของพี่ชาย
+++++
พวกเขาทั้งสี่มาต่อกันที่เตียง
หลังจากถูกเหวี่ยงลงบนที่นอนไม่นาน ดาวแทบยกมือท่วมหัวขอร้องว่า “อา ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ”
แต่มีหรือที่สองแฝดผู้อยากลิ้มลองของเล่นชิ้นนี้ใจแทบขาดจะยอม
“ถึงตอนนี้ยังกล้าขออย่างนี้อีกเหรอ”
“ดูท่าทางแกก็ชอบมันไม่เบานี่”
“แกดูรูปร่างหน้าตาฐานะอย่างพวกฉัน คงรู้ว่ามีแต่คนอยากได้เรา นี่เรายกให้แกฟรี ๆ เลย”
“แถมเงินให้อีกต่างหากด้วยนะ จะมีอะไรดีไปกว่านี้ล่ะ”
“ควรจะภูมิใจนะที่แกได้พวกเราพร้อมกันสามคนพี่น้อง”
จากนั้นก็ตามด้วยเสียงหัวเราะลั่น
“อึก ไม่ ๆ”
“หุบปากแล้วเตรียมรับแรงกระแทกเดี๋ยวนี้”
ดาวถูกถอดเสื้อไปแล้วก่อนหน้า ร่างกายเปล่าเปลือยล่อนจ้อน เขาถูกจับให้นอนหงาย แล้วจากนั้นสองแฝดก็ยัดเยียดความเป็นผัวเข้ามาในร่างของเขา
“อา โอย”
“อั๊ก อา”
จางฉวนกับจางหมิงสลับกันทำในท่านอนหงาย ต่างคนต่างกรีดร้องเสียงดัง เข้าใจแล้วว่าทำไมพี่ชายผู้ดุดันของเขาถึงเสียอาการตอนความเป็นชายอยู่ในตัวของเมียบ้านนอกคนนี้
มันช่างคับแน่นจนเหมือนจะตัดดุ้นให้ขาดได้จริง ๆ
พอสองแฝดทำจนเกือบเสร็จก็ขอหยุด แล้วพี่ชายคนเดิมก็เปลี่ยนตำแหน่ง ขอกระแทกดาวในท่านอนหงายบ้าง
เจียเหาจับที่ข้อเท้า แขนแข็งแรงของเขาแยกต้นขาจากกัน ให้ช่องทางนั้นเปิดออก ลอยเด่นขึ้นมา เพื่อเป็นของเขาอีกครั้งและอีกครั้ง
อัก ๆ พลัก ๆ
“อร๊าย อึก โอว” ดาวครางเป็นจังหวะทุกครั้งที่ดุ้นของเจียเหาสอดเข้าไปลึกสุดในร่างกายของตน
เจียเหาอยากเสร็จ แต่ยังอยากเล่นสนุกกับของเล่นชิ้นนี้ต่อ เขาจึงโน้มตัวลงมาแนบชิดกับร่างที่นอนหงาย
น้ำหนักของร่างกายใหญ่โตที่กดลงมาทำให้หนุ่มโอเมก้าอึดอัด แต่ดาวิชก็ยอมรับว่าในตอนที่เจียเหาอ้อมแขนใหญ่โตแข็งแรงล็อกรอบลำคอของเขา เบียดใบหน้าลงมา มันทำให้ดาวรู้สึกดีอย่างประหลาด
ตอนนี้เจียเหาไม่ได้คำราม แต่กระซิบเสียงต่ำแทน คำพูดพรั่งพรูออกมาอย่างอัตโนมัติ “แกเป็นของฉัน อา เป็นของเล่นของฉัน…ของฉัน”
สองแฝดแอบมองหน้าพี่ชายแต่เจียเหาไม่รู้ตัว
พอพี่ชายใหญ่อัลฟ่ากดนิ้วลงมาตามแนวขากรรไกร ปากสีสดของดาวเผยอออก ก่อนจะแลบลิ้นออกมา
ดาวกะพริบแพขนตาที่ชุ่มไปด้วยน้ำ เขาจำใจยอมทำตาม
และไม่น่าเป็นไปได้ที่เจียเหาเองก็หลับตา ก่อนจะส่งลิ้นหนาของตัวเองดูดกลืน และเลียบนลิ้นของของเล่นตัวเองซ้ำ ๆ
แผล็บ ๆ
เจียเหาทำจนพอใจ ก่อนจะคายน้ำลายเข้าไปในโพรงปากของดาว แล้วเอามือกดขากรรไกร ให้ดาวกลืนน้ำลายของเขาลงไป
สองแฝดเห็นภาพบาดตาอันวาบหวามนั่นแล้วกลืนน้ำลายเอื๊อกด้วยความสยิว ก่อนผลัดกันส่งแท่งหยกให้ดาวใช้ปากครอบลงไปซ้ำ
+++++
ต่อจากนั้น ดาวก็แทบไม่มีสติ แทบไม่รู้ตัวว่าอะไรเกิดขึ้นบ้าง รู้แต่ว่าเขาถูกสามคนผลัดกันกระแทกก้นด้วยลีลาต่าง ๆ จนเกินจะจำได้
ตับ ๆๆๆ
และตอนนี้คือตาของจางหมิง เขาล่วงล้ำเข้ามาในท่านอนคว่ำ
“อ๊า อุก จะไม่ไหวแล้ว โอย”
อัลฟ่าเอามือผลักที่ก้นกบ เตรียมซอยเอวเข้ามาไม่ยั้ง หนึ่งในแฝดใกล้จะเสร็จแล้วนั่นเอง
ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องบอก “เฮ้ยอย่าแตกเข้าไปข้างในนะ ไม่ได้ใช้ถุงด้วยเดี๋ยวมันท้อง” เสียงที่น่าจะเป็นพี่ชายใหญ่คอยเตือนสติน้องชาย
จางหมิงได้สติ รีบถอดถอนตัวออกจากร่างกาย ดาวยังหมดสภาพอยู่ในท่านอนคว่ำ เขาไม่เหลือเรี่ยวแรงแม้จะขยับตัวแค่สักนิด
ดาวิชรู้สึกตัวอีกทีคือตอนที่ถูกจับพลิกให้นอนหงาย คอพาดตรงขอบเตียง แล้วดวงตาพร่ามัวของเขาก็เห็นโครงร่างใหญ่โตของสามพี่น้องยืนอยู่ตรงขอบเตียง
สามอัลฟ่ายืนล้อมวงดาว ราวกับนั่นคือเหยื่อสำหรับบูชายัญ ดุ้นเนื้อสามอันแกว่งไกวแถวใบหน้าของโอเมก้า
ดาวมองไม่ถนัดนัก แต่เขาได้ยินเสียงดังคล้ายชัก ๆ
แล้วต่อจากนั้นโอเมก้าก็สะดุ้งเมื่อของเหลวหนัก ๆ อุ่นวาบกระทบแก้มอย่างเต็มที่ บางส่วนเข้าไปในปาก อีกครั้งที่หน้าผาก และมันยังไม่หมดแค่ที่หน้า แม้แต่ส่วนอื่นของร่างกายอย่างหน้าอก ลำคอก็ไม่เว้น
แปะ ๆๆๆ
พอระลอกแลกได้เริ่ม ระลอกสองและสามก็ตามมาติด ๆ
ที่แท้สามคุณชายอัลฟ่าก็ทำ ‘Bukake’ ตามที่ดาวเคยรู้ นั่นคือการทำน้ำแตกใส่หน้า ในเวลาไล่เลี่ยกันทั้งสามคน
“โอ๊ย เหี้ย เสียว!”
และมีฝ่ามือของใครสักคนกดลงที่เบ้าตาของดาว ราวกับจะป้องกันไม่ให้ ‘สิ่งนั้น’ เข้าตา
พอรู้สึกตัวอีกที โพรงปากของเด็กหนุ่มโอเมก้าก็เห็นตัวเองเต็มไปด้วยของเหลวลื่น ๆ เหนียว ๆ เขาไม่กล้าคายออกมาเพราะกลัวทั้งสามจะโวยวายหาเรื่อง จึงกลืนมันลงไป
ส่วนสามคุณชายที่เพิ่งเสร็จสม ก็แทบจะดุ้นแข็งขึ้นมาอีกรอบตอนเห็นของเหลวสีขาวที่ยังเหลือเคลือบฟันซี่ขาวสวยของของเล่นที่ยับเยินของพวกเขา ในตอนที่ดาวเผยอปากขึ้นมาหอบหายใจแฮก ๆ
แต่ที่ดาวไม่อยากเชื่อคือทั้งสามยังไม่ผละของเล่นที่เล่นเสร็จแล้ว หากยังวนเวียนอยู่ไม่ห่าง โน้มตัวลงมา ผลัดกันจูบเด็กหนุ่มอย่างโลมเลียติดพัน
ตามมาด้วยการสลับกันเลียเก็บกวาดของเหลวจากของคนอื่นและของตัวเอง ลิ้นใหญ่ตวัดโอบของเหลวเหนียวติดขึ้นมาจากหน้าอกของโอเมก้าเหมือนชีสยืด แล้วอีกไม่นานตัวของเด็กหนุ่มที่กลายเป็นของเล่นก็เกือบสะอาดเอี่ยมแทบไม่ต่างจากผ่านการอาบน้ำมา
และหากดาวที่หลับตาอยู่ลืมตาขึ้นมอง เขาคงแปลกใจที่สีหน้าของทั้งสามตอนมองร่างบอบบางนอนอ้าซ่าบนเตียงที่เนื้อตัวสะอาดแล้ว แววตาของทั้งสามคุณชายเต็มไปด้วยความลุ่มหลงราวกับถูกมนตร์สะกด
หลังผ่านเหตุการณ์ไม่คาดฝันในคืนนั้น สามคุณชายมาเฟียมานั่งรวมหัวกันในห้องหยก ซึ่งแน่นอนว่าการตกแต่งในห้องใช้สีเขียวตามชื่ออัญมณีที่ว่ามานั่นเองต่างคนต่างอยู่ในความเงียบ สุดท้ายจางหมิงทนไม่ไหว วางถ้วยชาลงกับโต๊ะดังกึก นิ้วโป้งคลึงที่รอยแผลตรงหว่างคิ้วขณะทำหน้าเคร่งเครียด แต่อีกเดี๋ยวก็เปลี่ยนเป็นเหม่อลอยเคลิบเคลิ้ม ปากยิ้มทั้งที่ไม่มีสาเหตุใดให้ยิ้ม“เป็นอะไรจางหมิง” เจียเหาอดแขวะไม่ได้“อ๊ะ เปล่าครับ แค่นึกถึงเรื่องสนุก ๆ ขึ้นมา”พี่ชายใหญ่ส่ายหน้าแล้วจิบชาร้อน หัวคิ้วยังมุ่นอย่างเคยที่น่าแปลกคือเช้านี้ทั้งสามตื่นด้วยความรู้สึกสดชื่นผิดปกติ ไม่มีอาการมึนหัวเวียนหัวหมดเรี่ยวแรงดังเช่นที่มักจะเป็นในช่วงสามสี่วันในห้วงของอาการรัทจางฉวนมองคู่แฝดของตนแล้วทำท่าบิดขี้เกียจ จากนั้นก็หันไปมองเจียเหาที่ยังนั่งนิ่ง แต่สีหน้าของพี่ใหญ่มีแววครุ่นคิดจางฉวนรู้ดีว่าพี่ชายใหญ่อยากพูดเรื่องนี้ แต่วางฟอร์มไม่เอ่ยเป็นคนแรก ในฐานะน้องชายผู้รู้ใจเขาจึงจัดการเปิดประเด็นให้“ทำไมผมถึงสลัดความคิดเรื่องเมื่อคืนออกจากหัวไม่ได้เลยน้า”เจียเหาติดกับทันที “หึ เอ็งติดใจยัยโอเมก้าเข้าให้เหรอ”“อ๊ะ หรือพี่ไม่ติดใจ
ดาวได้ฟังแล้วถึงกับกัดริมฝีปาก เรื่องประเภทนี้เขารู้ดี รู้ว่าสถานะนายบำเรอนั้นแตกต่างจากสถานะภรรยามากขนาดไหน เขาไม่ใช่คนไร้เดียงสาไม่รู้เรื่องราว“พวกเราน่ะเห็นเธอเป็นแค่ของเล่นเท่านั้นจำไว้” จางหมิงเอ่ยซ้ำ แต่อาจเพื่อย้ำเตือนบอกตัวเองก็ได้ดาวเชิดหน้าขึ้น อยู่ ๆ ก็รู้สึกอยากเป็นคนดื้อดึงขึ้นมา “แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ!”คราวนี้ทั้งสามถึงกับอึ้งไปเลย“ถ้าให้ผมเป็นแค่ของเล่น ผมกลับไปทำงานใช้แรงงานเหมือนเดิมสบายใจกว่า หรือไม่ผมก็ต้องปรึกษาเรื่องนี้กับทนายสุเชาว์ก่อนถึงจะตอบตกลงได้”คราวนี้ถึงทีสามพี่น้องคิดหนัก หากเรื่องนี้ถึงหูของทนาย ก็อาจเกิดความยุ่งยากโดยไม่จำเป็นจางฉวนรีบพูดต่อ “แล้วถ้าเราให้เงื่อนไขพิเศษล่ะ”“เงื่อนไข?”จางหมิงพูดต่อ “ถ้าเธอตกลงยอมเป็นนายบำเรอ เราจะเซ็นเช็คให้เธอทันทีสามล้าน”คนฟังตาวาวทันที เงินสามล้านสำหรับเขาคือเงินจำนวนมหาศาลเจียเหาสอดนิ้วทั้งสิบหากัน เอ่ยเสียงเรียบสุขุมอย่างเคย “ฉันรู้ว่าเธอจะได้เงินค่าเลี้ยงดูจากการเป็นเมียปีละห้าล้านใช่ไหม”“ใช่ครับ”“ซึ่งจะได้ก็ต่อเมื่ออยู่ที่นี่ครบหนึ่งปี”ดาวิชพยักหน้าอีก“แต่เงินสามล้านที่บอกเมื่อกี้จะได้เลยทันที จะไม่ดีก
“คิดว่าน้ำหน้าอย่างแกจะเป็นเมียพวกเราได้งั้นเหรอ!”“โอเมก้าไร้สกุลอย่างเธอ ใครจะอยากได้ แค่เป็นนายบำเรอชั่วครั้งชั่วคราวก็เกินฝันแล้ว!”น่าแปลกที่ก่อนหน้านี้คำพูดเสียดแทงเหล่านี้ไม่ได้รบกวนเขาสักเท่าใดนัก แต่ในขณะที่ดาวกำลังกวาดคอกม้าอย่างขะมักเขม้นคำพูดเสียดแทงพวกนั้นมันย้อนมา อาจเป็นเพราะสิ่งที่เขากำลังทำอยู่–การทำความสะอาดคอกม้า ได้กระตุ้นให้หวนนึกถึงการกดขี่จากคนที่คิดว่าตัวเองอยู่สูงกว่าใครโอเมก้าหนุ่มน้อยไม่อยากเชื่อเลยว่าชีวิตนี้จะได้มีโอกาสทำความสะอาดคอกม้า ตอนนี้ไม่มีม้าอยู่ในคอกหรอก แต่เขารู้มาว่าแต่ก่อนเคยมี นับเป็นบุญเหลือเกินที่ชาตินี้ได้ทำความสะอาดคอกที่ว่างเปล่าแห่งนี้สักครั้งดาว หรือดาวิช เขาเป็นโอเมก้าวัยเพียงสิบเก้าเท่านั้น บ้านเกิดอยู่สงขลา และเขาตัดสินใจเข้ากรุงเทพฯ เพื่อทำงานทั้งที่จบแค่ระดับมัธยมนั่นเพราะความจำเป็นเรื่องเงินของที่บ้าน ที่บ้านของหนุ่มน้อยมีหนี้สินอันเกิดจากการทำประมงพื้นบ้านของพ่อกับแม่ แค่นั้นยังไม่หนำใจ เมื่อต้นปีที่ผ่านมาพ่อของเขาป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะที่สอง ส่วนแม่ ดวงตาของแม่เป็นต้อระยะเริ่มต้น หากปล่อยไว้นานกว่านี้ตาจะบอดแม้อาการเจ็บป่วยร
จากความประทับใจแรกพบที่ยอดแย่ เพียงไม่กี่วันต่อมาที่คฤหาสน์ตระกูลจาง ดาวมีโอกาสได้รู้จักบรรดาคุณชายมาเฟียทั้งสามมากขึ้น แต่เป็นในแง่มุมที่เลวร้ายลงกว่าเดิมเขาพบกับคนที่วันนั้้นใส่เชิ้ตขาวตัวใหญ่บนทางเดินจากห้องตัวเองไปห้องรับประทานอาหารโดยบังเอิญ ตอนนี้ดาวจำได้แล้วว่าคือจางเจียเหา เป็นพี่ชายคนโตทั้งคู่กำลังเดินสวนกัน ดาวิชไม่แน่ใจว่าจะทำตัวยังไงดี จึงหยุดแล้วได้แต่ทำตัวลีบกับผนังทางเดิน เพื่อเปิดโอกาสให้คนตัวใหญ่ไปก่อนแต่พอเดินมาในรัศมีเอื้อมถึง นิ้วมือใหญ่ของเจียเหากลับยื่นมาจิ้มเบา ๆ ที่หัวไหล่คนตัวเล็กจึก ๆแม้จะแค่ทำเบา ๆ แต่ก็ทำให้โอเมก้าร่างกระจ้อยร่อยอุทาน “โอ้ะ” ด้วยความตกใจ จากนั้นก็คลำที่หัวไหล่ป้อย ๆเจียเหาตวาดใส่ทันที “ถอยไป เกะกะทางจริง ๆ นังโอเมก้าซื่อบื้อ”“ขอ…ขอโทษครับ” ดาวว่าเขาก็หลีกทางให้แล้วนะแต่คุณชายใหญ่ยังไม่เลิกระราน“ไม่รู้หรือไงว่าคนใช้น่ะ มีทางเดินของตัวเอง อย่ามาสะเออะใช้ทางร่วมกับเจ้านายเด็ดขาดนะ ต่อไปนี้ห้ามแกมาเดินเพ่นพ่านในเรือนใหญ่ให้ฉันเห็น!” ประโยคสุดท้ายนั้นแทบเรียกได้ว่าตะโกนทีเดียวดาวอยากเถียงใจจะขาดว่า เขาเองก็อยากอยู่ที่เรือนคนใช้เพื่อควา
พอมาอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลจาง อะไรที่ดาวไม่อยากรู้ก็ได้รู้ เป็นเสียงลือเสียงเล่าอ้างจากบรรดาบ่าวไพร่ว่า หลังจากเขามาอยู่ที่นี่ในฐานะเมียได้ไม่นาน สามคุณชายก็วางแผนให้เมียแต่งที่ไม่ต้องการทนอยู่ไม่ได้ จนเลือกเป็นฝ่ายไปจากที่นี่เองให้พ้น ๆและดูเหมือนข่าวลือจะเป็นจริง เพราะต่อจากนั้นดาวิชก็ถูกใช้ให้ทำงานอย่างหนัก ทั้งที่บางเรื่องไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ ตัวอย่างเช่น การทำความสะอาดคอกม้า ทั้งที่ในนั้นไม่มีม้าสักตัวคุณชายฝากให้บ่าวสักคนมาบอกดาวว่า‘ฉันจะบูรณะคอกม้าใหม่ แล้วว่าจะซื้อม้าตัวใหม่มาเลี้ยง แต่บ่าวไพร่คนอื่นมีงานล้นมืออยู่แล้ว เหลือแต่เธอคนเดียวแหละในบ้านนี้ที่ยังว่าง วัน ๆ เอาแต่เดินแกว่งแขนเล่นอยู่ได้!’เมียแต่งผู้ไม่ถูกยอมรับฟังแล้วฉุนกึก แต่คำพูดนั่นก็ไม่เกินจริง เพราะดาวเองก็ไม่มีอะไรทำในบ้านหลังนี้จริง ๆ นั่นละแต่สะใภ้ไร้ศักดินาอดกระหยิ่มใจไม่ได้ว่า สามคุณชายนี้ไม่รู้อะไรเสียแล้ว งานเป็นคนใช้ต่างหากคือความตั้งใจจริงแท้แต่แรกของเขา งานใช้แรงไม่ใช่สิ่งที่เขาหวั่นเลย‘สามคนนี้คิดจะใช้เรื่องนี้มาแกล้งงั้นเหรอ ไม่สำเร็จหรอก งานอย่างนี้ละคือความถนัดของเราเลย’ ดาวคิดในใจคนทำงานในคฤห
ดาวิชรู้สึกตัวตื่นอีกทีในห้องนอนห้องหนึ่ง เขาเหลือบเห็นสายน้ำเกลือเสียบคาผิวที่หลังมือ ดูแล้วน่าจะเป็นห้องหนึ่งในคฤหาสน์ตระกูลจางนั่นล่ะความทรงจำก่อนหน้าคือกำลังเดินกลับมาที่โรงครัว แล้วภาพก็ตัดไปเลย สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เดาได้ว่าเขาอาจเป็นลมหมดสติไปดาวยันตัวลุกขึ้นจากที่นอนแล้วชะโงกมองไปที่โต๊ะข้างเตียง เขาเห็นกริ่งเรียกคนรับใช้ กับกระดาษเอสี่พับครึ่งที่มีข้อความเขียนด้วยลายมือตัวใหญ่ ราวกับจะบอกให้เขารู้เผื่อตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอใคร‘คุณดาวเป็นลมแถวโรงครัว พวกคุณชายเลยจัดให้หมอประจำตระกูลจางมาดูแลแล้วก็ให้น้ำเกลือค่ะ อ้อแล้วถ้าคุณดาวอยากได้อะไรกดกริ่งเรียกพี่โมได้เลยนะคะ’หนุ่มจากเมืองไกลอ่านข้อความแล้วไม่อยากเชื่อ‘พวกคุณชายจอมโหดเป็นห่วงกูด้วยเหรอวะ’แต่พออ่านจนจบก็แอบยิ้ม อย่างน้อยในคฤหาสน์กว้างใหญ่และโอ่อ่าที่เขามาเป็นเมียที่คุณชายมาเฟียร้ายทั้งสามไม่ต้องการ ก็ยังมีน้ำใจเล็ก ๆ เหมือนหยดน้ำในทะเลทรายอันอ้างว้างจากแม่บ้านแตงโม จากผู้ช่วยส่วนตัวที่ชื่อเดชอ้อ...แล้วก็ท่านปู่อีกคนสิ่งเหล่านั้นทำให้ดาวมีกำลังใจขึ้นมาพอได้นอนพักโอเมก้าก็รู้สึกแทบเป็นปกติแล้ว และตอนนี้ก็หิวด้วย พอมอง
พอเข้ามาในห้องส่วนตัวและปิดประตูตามหลังแล้ว คุณชายมาเฟียร่างใหญ่เหมือนยักษ์ก็ปล่อยร่างบางลง ก่อนจะใช้มือกระชากคอเสื้อยกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว“อั๊ก” ดาวรู้ตัวเลยว่าร่างตัวเองถูกยกขึ้น แต่มันไม่หยุดแค่นั้น และตอนนี้ปลายเท้าไม่แตะพื้นแล้วด้วยด้วยความตกใจ เขาวางมือกุมมือใหญ่ที่คอเสื้ออีกที น้ำเสียงของเมียจ้างตื่นกลัว “อึก จะ…จะทำอะไรผม”เจียเหาแสยะปาก “มึงยังมีหน้ามาถาม ทำตัวบริสุทธิ์ไร้เดียงสาไปได้!”ส่วนสองแฝดพูดเกือบพร้อมกัน “แกก็รู้อยู่แล้วว่าเข้ามาที่นี่ในฐานะอะไร“อย่าทำอย่างนั้น ไม่เอา ฮือ”“ทำไม ไม่ชอบรึไง พวกเราเป็นถึงสามคุณชายตระกูลจางเลยนะโว้ย!”“ที่จริงแกควรนับว่าเป็นเกียรติด้วยซ้ำที่เราลดตัวลงมาเล่นกับของเล่นบ้าน ๆ อย่างแก”คราวนี้ดวงตาของเหยื่อของเล่นเกือบถลน เขาไม่คิดว่าพี่น้องตระกูลจางจะรักใคร่สามัคคีกับทุกเรื่องอย่างนี้ “สะ…สาม หมายถึงพร้อมกันสามคนเลยเหรอ”“ทำไม รับไม่ได้รึไง”“ในเมื่อแกก็รู้ตั้งแต่แรก อาเชาว์ก็บอกในห้องว่าแกต้องเป็นเมียของพวกเราทุกคน”“ครับ นั่นก็ถูก” ดาวเถียงไม่ออก“ตอนนี้ก็ถึงเวลานั้นแล้วไง”“แกแหละต้องเป็นคนรับให้ได้ สัญญาก็เซ็นไปแล้ว”“อ๊ะ คือว่าผม…” เ
ดาวได้ฟังแล้วถึงกับกัดริมฝีปาก เรื่องประเภทนี้เขารู้ดี รู้ว่าสถานะนายบำเรอนั้นแตกต่างจากสถานะภรรยามากขนาดไหน เขาไม่ใช่คนไร้เดียงสาไม่รู้เรื่องราว“พวกเราน่ะเห็นเธอเป็นแค่ของเล่นเท่านั้นจำไว้” จางหมิงเอ่ยซ้ำ แต่อาจเพื่อย้ำเตือนบอกตัวเองก็ได้ดาวเชิดหน้าขึ้น อยู่ ๆ ก็รู้สึกอยากเป็นคนดื้อดึงขึ้นมา “แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ!”คราวนี้ทั้งสามถึงกับอึ้งไปเลย“ถ้าให้ผมเป็นแค่ของเล่น ผมกลับไปทำงานใช้แรงงานเหมือนเดิมสบายใจกว่า หรือไม่ผมก็ต้องปรึกษาเรื่องนี้กับทนายสุเชาว์ก่อนถึงจะตอบตกลงได้”คราวนี้ถึงทีสามพี่น้องคิดหนัก หากเรื่องนี้ถึงหูของทนาย ก็อาจเกิดความยุ่งยากโดยไม่จำเป็นจางฉวนรีบพูดต่อ “แล้วถ้าเราให้เงื่อนไขพิเศษล่ะ”“เงื่อนไข?”จางหมิงพูดต่อ “ถ้าเธอตกลงยอมเป็นนายบำเรอ เราจะเซ็นเช็คให้เธอทันทีสามล้าน”คนฟังตาวาวทันที เงินสามล้านสำหรับเขาคือเงินจำนวนมหาศาลเจียเหาสอดนิ้วทั้งสิบหากัน เอ่ยเสียงเรียบสุขุมอย่างเคย “ฉันรู้ว่าเธอจะได้เงินค่าเลี้ยงดูจากการเป็นเมียปีละห้าล้านใช่ไหม”“ใช่ครับ”“ซึ่งจะได้ก็ต่อเมื่ออยู่ที่นี่ครบหนึ่งปี”ดาวิชพยักหน้าอีก“แต่เงินสามล้านที่บอกเมื่อกี้จะได้เลยทันที จะไม่ดีก
หลังผ่านเหตุการณ์ไม่คาดฝันในคืนนั้น สามคุณชายมาเฟียมานั่งรวมหัวกันในห้องหยก ซึ่งแน่นอนว่าการตกแต่งในห้องใช้สีเขียวตามชื่ออัญมณีที่ว่ามานั่นเองต่างคนต่างอยู่ในความเงียบ สุดท้ายจางหมิงทนไม่ไหว วางถ้วยชาลงกับโต๊ะดังกึก นิ้วโป้งคลึงที่รอยแผลตรงหว่างคิ้วขณะทำหน้าเคร่งเครียด แต่อีกเดี๋ยวก็เปลี่ยนเป็นเหม่อลอยเคลิบเคลิ้ม ปากยิ้มทั้งที่ไม่มีสาเหตุใดให้ยิ้ม“เป็นอะไรจางหมิง” เจียเหาอดแขวะไม่ได้“อ๊ะ เปล่าครับ แค่นึกถึงเรื่องสนุก ๆ ขึ้นมา”พี่ชายใหญ่ส่ายหน้าแล้วจิบชาร้อน หัวคิ้วยังมุ่นอย่างเคยที่น่าแปลกคือเช้านี้ทั้งสามตื่นด้วยความรู้สึกสดชื่นผิดปกติ ไม่มีอาการมึนหัวเวียนหัวหมดเรี่ยวแรงดังเช่นที่มักจะเป็นในช่วงสามสี่วันในห้วงของอาการรัทจางฉวนมองคู่แฝดของตนแล้วทำท่าบิดขี้เกียจ จากนั้นก็หันไปมองเจียเหาที่ยังนั่งนิ่ง แต่สีหน้าของพี่ใหญ่มีแววครุ่นคิดจางฉวนรู้ดีว่าพี่ชายใหญ่อยากพูดเรื่องนี้ แต่วางฟอร์มไม่เอ่ยเป็นคนแรก ในฐานะน้องชายผู้รู้ใจเขาจึงจัดการเปิดประเด็นให้“ทำไมผมถึงสลัดความคิดเรื่องเมื่อคืนออกจากหัวไม่ได้เลยน้า”เจียเหาติดกับทันที “หึ เอ็งติดใจยัยโอเมก้าเข้าให้เหรอ”“อ๊ะ หรือพี่ไม่ติดใจ
เจียเหาคำราม เปลือกตาบีบเข้าหากัน ช่องทางของดาวิชทำเขาแทบคลั่ง หากเมื่อกี้ขยับเอวไวกว่านี้แค่นิดเดียว คงได้แตกเข้าไปข้างในของเล่นชิ้นนี้ตั้งแต่เพิ่งออกจากท่าแน่และหากมันเกิดขึ้นจริง สองแฝดคงเก็บเรื่องของเขาไปล้อไม่เลิกแน่นอนว่า คุณชายใหญ่แห่งตระกูลจางเสียท่าให้กับโอเมก้าเด็กหนุ่ม ถึงกับทำเรือล่มปากอ่าว‘ไอ้เด็กคนนี้แม่งไม่เคยผ่านผู้ชายมาเลยเหรอวะ’ช่องทางนั้นทั้งคับแน่น ทั้งตอดตุบ ดุ้นของคุณชายใหญ่เหมือนกับจะขาดแล้วติดค้างอยู่ข้างใน“แฮก ๆ อา” ดาวครางเสียงสั่น แม้ครั้งแรกจะไม่ยาก แต่น้ำหล่อลื่นในช่วงฮีทของโอเมก้านั้นหลั่งไหลเหมือนฝนตก มันช่วยให้การล่วงล้ำในสภาพนี้เกิดขึ้นได้“เป็นไงบ้างพี่เจียเหา ดีไหม” สองแฝดถามอย่างอยากรู้อยากเห็นเจียเหาพยักหน้า แล้วพอเริ่มตั้งต่อได้ ต่อจากนี้ก็ไม่มีอะไรหยุดอยู่ อัลฟ่าบ้ากามจับชายเสื้อของดาวิชไว้ ตามมาด้วยการกระแทกดุ้นกับก้นไม่ยั้งตับ ๆๆ พลัก ๆๆเพียะ ๆเสียงที่ว่าเกิดขึ้นเพราะสองแฝดที่ยังว่างงานเกิดอารมณ์เกินกลั้น จึงใช้ฝ่ามือหวดไปยังแก้มก้นขาวงอนจนเป็นปื้นแดง บางคนก็เอานิ้วแหย่เข้ามาในโพรงปาก ราวกับหากดุ้นยังไม่ได้เข้าไปในร่างกาย ขอเป็นส่วนอื่น
พอเข้ามาในห้องส่วนตัวและปิดประตูตามหลังแล้ว คุณชายมาเฟียร่างใหญ่เหมือนยักษ์ก็ปล่อยร่างบางลง ก่อนจะใช้มือกระชากคอเสื้อยกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว“อั๊ก” ดาวรู้ตัวเลยว่าร่างตัวเองถูกยกขึ้น แต่มันไม่หยุดแค่นั้น และตอนนี้ปลายเท้าไม่แตะพื้นแล้วด้วยด้วยความตกใจ เขาวางมือกุมมือใหญ่ที่คอเสื้ออีกที น้ำเสียงของเมียจ้างตื่นกลัว “อึก จะ…จะทำอะไรผม”เจียเหาแสยะปาก “มึงยังมีหน้ามาถาม ทำตัวบริสุทธิ์ไร้เดียงสาไปได้!”ส่วนสองแฝดพูดเกือบพร้อมกัน “แกก็รู้อยู่แล้วว่าเข้ามาที่นี่ในฐานะอะไร“อย่าทำอย่างนั้น ไม่เอา ฮือ”“ทำไม ไม่ชอบรึไง พวกเราเป็นถึงสามคุณชายตระกูลจางเลยนะโว้ย!”“ที่จริงแกควรนับว่าเป็นเกียรติด้วยซ้ำที่เราลดตัวลงมาเล่นกับของเล่นบ้าน ๆ อย่างแก”คราวนี้ดวงตาของเหยื่อของเล่นเกือบถลน เขาไม่คิดว่าพี่น้องตระกูลจางจะรักใคร่สามัคคีกับทุกเรื่องอย่างนี้ “สะ…สาม หมายถึงพร้อมกันสามคนเลยเหรอ”“ทำไม รับไม่ได้รึไง”“ในเมื่อแกก็รู้ตั้งแต่แรก อาเชาว์ก็บอกในห้องว่าแกต้องเป็นเมียของพวกเราทุกคน”“ครับ นั่นก็ถูก” ดาวเถียงไม่ออก“ตอนนี้ก็ถึงเวลานั้นแล้วไง”“แกแหละต้องเป็นคนรับให้ได้ สัญญาก็เซ็นไปแล้ว”“อ๊ะ คือว่าผม…” เ
ดาวิชรู้สึกตัวตื่นอีกทีในห้องนอนห้องหนึ่ง เขาเหลือบเห็นสายน้ำเกลือเสียบคาผิวที่หลังมือ ดูแล้วน่าจะเป็นห้องหนึ่งในคฤหาสน์ตระกูลจางนั่นล่ะความทรงจำก่อนหน้าคือกำลังเดินกลับมาที่โรงครัว แล้วภาพก็ตัดไปเลย สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เดาได้ว่าเขาอาจเป็นลมหมดสติไปดาวยันตัวลุกขึ้นจากที่นอนแล้วชะโงกมองไปที่โต๊ะข้างเตียง เขาเห็นกริ่งเรียกคนรับใช้ กับกระดาษเอสี่พับครึ่งที่มีข้อความเขียนด้วยลายมือตัวใหญ่ ราวกับจะบอกให้เขารู้เผื่อตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอใคร‘คุณดาวเป็นลมแถวโรงครัว พวกคุณชายเลยจัดให้หมอประจำตระกูลจางมาดูแลแล้วก็ให้น้ำเกลือค่ะ อ้อแล้วถ้าคุณดาวอยากได้อะไรกดกริ่งเรียกพี่โมได้เลยนะคะ’หนุ่มจากเมืองไกลอ่านข้อความแล้วไม่อยากเชื่อ‘พวกคุณชายจอมโหดเป็นห่วงกูด้วยเหรอวะ’แต่พออ่านจนจบก็แอบยิ้ม อย่างน้อยในคฤหาสน์กว้างใหญ่และโอ่อ่าที่เขามาเป็นเมียที่คุณชายมาเฟียร้ายทั้งสามไม่ต้องการ ก็ยังมีน้ำใจเล็ก ๆ เหมือนหยดน้ำในทะเลทรายอันอ้างว้างจากแม่บ้านแตงโม จากผู้ช่วยส่วนตัวที่ชื่อเดชอ้อ...แล้วก็ท่านปู่อีกคนสิ่งเหล่านั้นทำให้ดาวมีกำลังใจขึ้นมาพอได้นอนพักโอเมก้าก็รู้สึกแทบเป็นปกติแล้ว และตอนนี้ก็หิวด้วย พอมอง
พอมาอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลจาง อะไรที่ดาวไม่อยากรู้ก็ได้รู้ เป็นเสียงลือเสียงเล่าอ้างจากบรรดาบ่าวไพร่ว่า หลังจากเขามาอยู่ที่นี่ในฐานะเมียได้ไม่นาน สามคุณชายก็วางแผนให้เมียแต่งที่ไม่ต้องการทนอยู่ไม่ได้ จนเลือกเป็นฝ่ายไปจากที่นี่เองให้พ้น ๆและดูเหมือนข่าวลือจะเป็นจริง เพราะต่อจากนั้นดาวิชก็ถูกใช้ให้ทำงานอย่างหนัก ทั้งที่บางเรื่องไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ ตัวอย่างเช่น การทำความสะอาดคอกม้า ทั้งที่ในนั้นไม่มีม้าสักตัวคุณชายฝากให้บ่าวสักคนมาบอกดาวว่า‘ฉันจะบูรณะคอกม้าใหม่ แล้วว่าจะซื้อม้าตัวใหม่มาเลี้ยง แต่บ่าวไพร่คนอื่นมีงานล้นมืออยู่แล้ว เหลือแต่เธอคนเดียวแหละในบ้านนี้ที่ยังว่าง วัน ๆ เอาแต่เดินแกว่งแขนเล่นอยู่ได้!’เมียแต่งผู้ไม่ถูกยอมรับฟังแล้วฉุนกึก แต่คำพูดนั่นก็ไม่เกินจริง เพราะดาวเองก็ไม่มีอะไรทำในบ้านหลังนี้จริง ๆ นั่นละแต่สะใภ้ไร้ศักดินาอดกระหยิ่มใจไม่ได้ว่า สามคุณชายนี้ไม่รู้อะไรเสียแล้ว งานเป็นคนใช้ต่างหากคือความตั้งใจจริงแท้แต่แรกของเขา งานใช้แรงไม่ใช่สิ่งที่เขาหวั่นเลย‘สามคนนี้คิดจะใช้เรื่องนี้มาแกล้งงั้นเหรอ ไม่สำเร็จหรอก งานอย่างนี้ละคือความถนัดของเราเลย’ ดาวคิดในใจคนทำงานในคฤห
จากความประทับใจแรกพบที่ยอดแย่ เพียงไม่กี่วันต่อมาที่คฤหาสน์ตระกูลจาง ดาวมีโอกาสได้รู้จักบรรดาคุณชายมาเฟียทั้งสามมากขึ้น แต่เป็นในแง่มุมที่เลวร้ายลงกว่าเดิมเขาพบกับคนที่วันนั้้นใส่เชิ้ตขาวตัวใหญ่บนทางเดินจากห้องตัวเองไปห้องรับประทานอาหารโดยบังเอิญ ตอนนี้ดาวจำได้แล้วว่าคือจางเจียเหา เป็นพี่ชายคนโตทั้งคู่กำลังเดินสวนกัน ดาวิชไม่แน่ใจว่าจะทำตัวยังไงดี จึงหยุดแล้วได้แต่ทำตัวลีบกับผนังทางเดิน เพื่อเปิดโอกาสให้คนตัวใหญ่ไปก่อนแต่พอเดินมาในรัศมีเอื้อมถึง นิ้วมือใหญ่ของเจียเหากลับยื่นมาจิ้มเบา ๆ ที่หัวไหล่คนตัวเล็กจึก ๆแม้จะแค่ทำเบา ๆ แต่ก็ทำให้โอเมก้าร่างกระจ้อยร่อยอุทาน “โอ้ะ” ด้วยความตกใจ จากนั้นก็คลำที่หัวไหล่ป้อย ๆเจียเหาตวาดใส่ทันที “ถอยไป เกะกะทางจริง ๆ นังโอเมก้าซื่อบื้อ”“ขอ…ขอโทษครับ” ดาวว่าเขาก็หลีกทางให้แล้วนะแต่คุณชายใหญ่ยังไม่เลิกระราน“ไม่รู้หรือไงว่าคนใช้น่ะ มีทางเดินของตัวเอง อย่ามาสะเออะใช้ทางร่วมกับเจ้านายเด็ดขาดนะ ต่อไปนี้ห้ามแกมาเดินเพ่นพ่านในเรือนใหญ่ให้ฉันเห็น!” ประโยคสุดท้ายนั้นแทบเรียกได้ว่าตะโกนทีเดียวดาวอยากเถียงใจจะขาดว่า เขาเองก็อยากอยู่ที่เรือนคนใช้เพื่อควา
“คิดว่าน้ำหน้าอย่างแกจะเป็นเมียพวกเราได้งั้นเหรอ!”“โอเมก้าไร้สกุลอย่างเธอ ใครจะอยากได้ แค่เป็นนายบำเรอชั่วครั้งชั่วคราวก็เกินฝันแล้ว!”น่าแปลกที่ก่อนหน้านี้คำพูดเสียดแทงเหล่านี้ไม่ได้รบกวนเขาสักเท่าใดนัก แต่ในขณะที่ดาวกำลังกวาดคอกม้าอย่างขะมักเขม้นคำพูดเสียดแทงพวกนั้นมันย้อนมา อาจเป็นเพราะสิ่งที่เขากำลังทำอยู่–การทำความสะอาดคอกม้า ได้กระตุ้นให้หวนนึกถึงการกดขี่จากคนที่คิดว่าตัวเองอยู่สูงกว่าใครโอเมก้าหนุ่มน้อยไม่อยากเชื่อเลยว่าชีวิตนี้จะได้มีโอกาสทำความสะอาดคอกม้า ตอนนี้ไม่มีม้าอยู่ในคอกหรอก แต่เขารู้มาว่าแต่ก่อนเคยมี นับเป็นบุญเหลือเกินที่ชาตินี้ได้ทำความสะอาดคอกที่ว่างเปล่าแห่งนี้สักครั้งดาว หรือดาวิช เขาเป็นโอเมก้าวัยเพียงสิบเก้าเท่านั้น บ้านเกิดอยู่สงขลา และเขาตัดสินใจเข้ากรุงเทพฯ เพื่อทำงานทั้งที่จบแค่ระดับมัธยมนั่นเพราะความจำเป็นเรื่องเงินของที่บ้าน ที่บ้านของหนุ่มน้อยมีหนี้สินอันเกิดจากการทำประมงพื้นบ้านของพ่อกับแม่ แค่นั้นยังไม่หนำใจ เมื่อต้นปีที่ผ่านมาพ่อของเขาป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะที่สอง ส่วนแม่ ดวงตาของแม่เป็นต้อระยะเริ่มต้น หากปล่อยไว้นานกว่านี้ตาจะบอดแม้อาการเจ็บป่วยร