ดาวได้ฟังแล้วถึงกับกัดริมฝีปาก เรื่องประเภทนี้เขารู้ดี รู้ว่าสถานะนายบำเรอนั้นแตกต่างจากสถานะภรรยามากขนาดไหน เขาไม่ใช่คนไร้เดียงสาไม่รู้เรื่องราว
“พวกเราน่ะเห็นเธอเป็นแค่ของเล่นเท่านั้นจำไว้” จางหมิงเอ่ยซ้ำ แต่อาจเพื่อย้ำเตือนบอกตัวเองก็ได้
ดาวเชิดหน้าขึ้น อยู่ ๆ ก็รู้สึกอยากเป็นคนดื้อดึงขึ้นมา “แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ!”
คราวนี้ทั้งสามถึงกับอึ้งไปเลย
“ถ้าให้ผมเป็นแค่ของเล่น ผมกลับไปทำงานใช้แรงงานเหมือนเดิมสบายใจกว่า หรือไม่ผมก็ต้องปรึกษาเรื่องนี้กับทนายสุเชาว์ก่อนถึงจะตอบตกลงได้”
คราวนี้ถึงทีสามพี่น้องคิดหนัก หากเรื่องนี้ถึงหูของทนาย ก็อาจเกิดความยุ่งยากโดยไม่จำเป็น
จางฉวนรีบพูดต่อ “แล้วถ้าเราให้เงื่อนไขพิเศษล่ะ”
“เงื่อนไข?”
จางหมิงพูดต่อ “ถ้าเธอตกลงยอมเป็นนายบำเรอ เราจะเซ็นเช็คให้เธอทันทีสามล้าน”
คนฟังตาวาวทันที เงินสามล้านสำหรับเขาคือเงินจำนวนมหาศาล
เจียเหาสอดนิ้วทั้งสิบหากัน เอ่ยเสียงเรียบสุขุมอย่างเคย “ฉันรู้ว่าเธอจะได้เงินค่าเลี้ยงดูจากการเป็นเมียปีละห้าล้านใช่ไหม”
“ใช่ครับ”
“ซึ่งจะได้ก็ต่อเมื่ออยู่ที่นี่ครบหนึ่งปี”
ดาวิชพยักหน้าอีก
“แต่เงินสามล้านที่บอกเมื่อกี้จะได้เลยทันที จะไม่ดีกว่าเหรอถ้าเธอยอมตกลงตอนนี้”
ดาวทำสีหน้าครุ่นคิด แต่ก็ตัดสินใจได้ทันที ในหัวคิดอย่างปลงตกว่า
‘ความต่างของเมียกับนายบำเรอคืออะไรวะ ยังไงต้องเสียตัว ปรนเปรอสวาทให้ไอ้พวกมาเฟียสามคนนี้เหมือนกัน’
ดาวนึกถึงเงินสามล้าน มันต้องได้ใช้แน่สำหรับค่ารักษาพ่อกับแม่ เพื่อสุขภาพของผู้มีพระคุณยังไงเขาก็ยอม
แต่แล้วเสียงของเจียเหาก็เอ่ยขัดขึ้นมา
“แต่ไม่ใช่จะให้อย่างเดียว เธอต้องยอมรับข้อแม้ด้วย”
“ว่ามาสิครับ”
“ข้อแม้คือเธอต้องไม่ปริปากบอกใครก็ตามเกี่ยวกับสถานภาพลับ ๆ ระหว่างเรา ขอย้ำ ไม่ว่าใครก็ตามในบ้านหลังนี้ บ่าวไพร่ก็ไม่เว้น อาสุเชาว์ หรือท่านปู่อี้เทายิ่งห้ามเด็ดขาด!”
“รับทราบครับ”
“และเมื่อยอมเป็นของเล่นของพวกเรา ตัวเธอเองต้องไม่เรียกร้องสิทธิความเป็นเมียตามพินัยกรรมที่อาสุเชาว์เคยประกาศไว้ที่ห้องไข่มุก”
ดาวก้มหน้าคำนึงอยู่ครู่หนึ่ง เพิ่งนึกได้ว่าเงินสามล้านในฐานะของเล่น แทบไม่ต่างจากเงินที่ทั้งสามใช้ติดสินบน เงินที่เอาไว้ใช้ปิดปากไม่ให้เรียกร้องสถานะเมีย ซึ่งแท้จริงเป็นสิ่งที่เขาพึงได้
และเรื่องนี้ทำให้โอเมก้าเงียบไปครู่หนึ่ง จนจางฉวนเอากำปั้นทุบโต๊ะเบา ๆ
ดาวสะดุ้งเฮือกเมื่อเงยหน้าแล้วเห็นสองแฝดชี้นิ้วมาทางเขา
“ตกลงว่าไงยัยดาว!”
และแววตาของสองแฝดทำให้หนุ่มโอเมก้าตัดสินใจได้ เงินสามล้านในตอนนี้ บวกอีกห้าล้านถ้าทนอยู่ถึงปีไหว รวมทั้งหมดแปดล้าน…
ตอนนี้ก็ไม่จำเป็นต้องลังเลอีกแล้ว
“ผมตกลง”
ทั้งสามคนกระตุกยิ้มอย่างพอใจ “ดี”
“แล้วผมต้องเป็นของเล่นของพวกคุณทั้งสามคนเลยเหรอ”
“แน่นอนสิ”
“เอ้อ ละ…แล้วจะแบ่งกันยังไง” กว่าดาวจะหาคำพูดเหมาะ ๆ ก็ต้องใช้เวลาครู่สั้น ๆ ทีเดียว
แต่เรื่องนี้ราวกับเป็นสิ่งที่ทั้งสามคิดไว้แล้ว เจียเหาตอบง่าย ๆ ในทันควันว่า
“วันคู่เธอเป็นของฉัน ส่วนวันคี่เป็นของแฝด”
ดาวเอะใจกับคำว่า ‘ของแฝด’ เขาเลยตะกุกตะกักถามว่า “คำว่าของแฝดนี่หมายถึงอะไรครับ”
“ก็เป็นของพวกเราพร้อมกันทั้งสองคนไง” สองแฝดตอบด้วยน้ำเสียงแสร้งรำคาญ แต่คนฟังฟังออกว่าซ่อนความเขินอายไว้
พี่ชายใหญ่งอนิ้วโป้งหาน้องชาย ทำสีหน้าเรียบเฉยอย่างเคย แล้วเอ่ยสิ่งที่เหมือนคำสั่งว่า “สองคนนี้เขาชอบเล่นไปพร้อมกัน จำเอาไว้ด้วยล่ะ”
“อ้อ แล้วเธอต้องกินยาป้องกันอย่างสม่ำเสมอ เพราะพวกเราชอบสด” จางหมิงพูดอย่างหน้าไม่อาย
“อย่าแม้แต่จะคิดปล่อยท้องเพื่อจะผูกมัดพวกเราล่ะ ขอบอกว่าไม่มีทางสำเร็จหรอกนะ ถ้าเรารู้ว่าเธอท้องขึ้นมาละก็ เราจะ...”
หนุ่มโอเมก้ารีบเอ่ยตัดบททันที
“เรื่องนั้นพวกคุณไม่ต้องเตือนผมหรอกครับ ผมทราบดี” พอได้ยินคำพูดดูถูกกันเรื่องนี้ หนุ่มโอเมก้าก็เชิดหน้าสูงด้วยท่าทางหยิ่งทะนง พวกนี้เห็นเขาเป็นคนยังไง คิดว่าเขาอยากเป็นเมียของทั้งสามใจจะขาดจนต้องใช้ลูกไม้เก่า ๆ อย่างปล่อยให้ตัวเองท้องเพื่อจับผู้ชายงั้นรึ นี่ไม่ใช่เนื้อหาในละครสมัยยี่สิบปีที่แล้วสักหน่อย
ทั้งสามพยักหน้าหงึก มีท่าทีพอใจ
จางหมิงเอ่ยย้ำอีกรอบ “อ้อ แล้วอย่าลืมละว่า สถานะนี้ไม่มีความสัมพันธ์แบบผัวเมียเข้ามาเกี่ยวข้อง มีแต่หน้าที่ของของเล่นเท่านั้น รู้ไว้ซะ!”
“เพราะที่นี่ไม่มีรัก” จางฉวนพูดสำนวนติดลิเก ตามมาด้วยเสียงหัวเราะคิก
นั่นคือจุดเริ่มต้นของหนุ่มดาวิชในฐานะของเล่นของสามคุณชาย
+++++
วันต่อมาดาวจำเป็นต้องไปมหาวิทยาลัย ซึ่งเรื่องนี้เขารู้จากทนายสุเชาว์มาตั้งแต่แรกแล้วว่า เขามีสิทธิ์ออกจากบ้านได้ตามความเหมาะสมโดยแค่แจ้งคุณชายทั้งสามไว้ล่วงหน้า
แต่เนื่องจากสามมาเฟียไม่อยู่บ้าน เห็นผู้ช่วยเดชบอกว่ารีบออกไปเคลียร์งานด่วนข้างนอก นั่นเป็นเพราะมาเฟียตระกูลจางมีหน้าที่ควบคุมหลายสิ่งหลายอย่างที่ท่าเรือ
เมื่อไม่มีทางเลือกดาวจึงแค่บอกเดชและแม่บ้านแตงโมไว้ว่าจะไปแล้ว จากนั้นก็ออกจากบ้าน
ดาวคิดในใจขณะเดินทางมาเรียนว่า ‘วันนี้เป็นวันแรกของเปิดเทอมปีสองเราจะขาดไม่ได้ ไม่งั้นไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกันพอดี’
เนื่องจากเป็นวันแรกอาจารย์จึงใช้เวลาไม่นาน สองสามชั่วโมงผ่านไป เมื่อรับเอกสารบางอย่างและพูดคุยบางอย่างภารกิจก็จบลง ขณะนักศึกษาโอเมก้าเดินลงมาหน้าตึกเรียน เขาก็พบรอนเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่มีที่นี่ ซึ่งพออีกคนเห็นดาวิช หนุ่มรอนก็รีบเดินมาหาอย่างยินดี
รอนเป็นคนจากภาคใต้ เป็นชายหนุ่มที่มีหุ่นค่อนข้างหนา เขาสูงกว่าดาวไม่มาก ผิวสีเข้มและมีจุดเด่นคือเวลายิ้มเห็นฟันขาวเป็นประกาย
“อ้าว ดาว ไม่ได้เจอกันนานเลย”
“เฮ้ รอนดีใจจังที่เจอ” สองหนุ่มจับแขนจับมือทักทายกันอย่างยินดี
“เทอมที่แล้วเป็นไง เก็บวิชาได้ครบอย่างที่วางแผนไว้ไหม”
ดาวทำจมูกย่น ส่ายหน้า “เทอมก่อน เราแทบไม่ได้ลงเรียนเลย”
รอนเพื่อนของดาวพอจะรู้เกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ทางบ้านของหนุ่มโอเมก้า และไม่อยากทำให้เพื่อนหม่นหมองไปกว่านี้ รอนเลยหาเรื่องคุยสนุก ๆ อย่างอื่นแทน
“ตอนนี้ก็เสร็จแล้วไปหาอะไรกินกันไหม เราอยากกินปิ้งย่าง”
“เอ้อได้สิ”
แต่แล้วรอนก็รีบพูด เพราะคิดว่าเพื่อนยังมีฐานะขัดสนอยู่ “เดี๋ยวเราเลี้ยงดาวเองนะ เพิ่งถูกหวยมาน่ะ”
ดาวยิ้มแย้มอย่างขอบคุณ เขาโชคดีเหลือเกินที่มีเพื่อนดีอย่างนี้
แต่จู่ ๆ เพื่อนหนุ่มของดาวก็ชะงักค้างไป
“รอนเป็นอะไรหรือเปล่า”
ดาวถามว่าเป็นอะไร เมื่อเห็นว่า จู่ ๆ เพื่อนหนุ่มทำตัวแข็ง รอนตอบว่า“ดาว มีหนุ่มสองเดินตรงมาหาพวกเราแน่ะ มองเป๋งมาทางนี้เลย เราไม่รู้จักดังนั้นน่าจะเป็นคนรู้จักของดาวมากกว่า”“อ๊ะ”“แต่อย่าเพิ่งหันไปนะ”“หน้าตายังไงน่ะ”“ก็หล่อดีทีเดียว ตัวสูงใหญ่ อ้อ แล้วก็เป็นคู่แฝดกันด้วย”ดวงตาของหนุ่มโอเมก้าเบิ่งกว้าง ชาวาบตั้งแต่ศีรษะจดเท้าทีเดียวดาวก้มดูวันที่ในมือถือ วันนี้คือวันที่ 21 วันเลขคี่แต่ก่อนจะได้ทำอะไร ก็มีรถตู้อัลพาร์ดคันงามขับปราดมาจอดเทียบฟุตบาทห่างออกไปจากจุดที่ดาวยืนคุยกับรอนสองหนุ่มหันไปดู แล้วกระจกรถก็ค่อย ๆ เลื่อนลง แล้วใบหน้าเล็กที่เห็นจากที่ไกล ๆ แต่ดาวจำได้ว่าคือเดชก็โบกมือแล้วยิ้มให้ดาวทำหน้าสงสัยใส่ผู้ช่วย ‘เดชเป็นคนขับรถด้วยหรือนี่’ผู้ช่วยเห็นแล้วเข้าใจจึงส่ายหน้า ชูสองกำปั้นขึ้นมาแถวดวงตาแล้วหมุน ๆ สัญลักษณ์ของคนกำลังเศร้า บ่งบอกว่า เขาไม่ได้เต็มใจมาด้วย น่าจะถูกเจ้านายบังคับให้มาทำหน้าที่ขับรถคันงามคันนี้แ
พอลงจากรถ ดาวทำท่าจะเอาของตัวเองไปเก็บที่ห้องแต่เดชรีบกุลีกุจออาสาเอาของชอปปิงไปเก็บให้แทนส่วนดาวถูกคู่แฝดสั่งห้ามอย่าเพิ่งไปไหน ทำเอาเขางงหนักที่ทั้งคู่มาแปลกจนชวนสับสนแล้วหนุ่มโอเมก้าก็นึกประเด็นที่สงสัยได้จึงเอ่ยปากถาม“นี่...คุณจางฉวน คุณจางหมิง”“หือ”“ผมมีเรื่องถาม”“ว่ามาสิ”“คืนนั้นพวกคุณนอนอาบไฟสีรุ้ง ๆ ที่ผมทำหลอดไฟแตก...”“อื้อ แล้วไง”“คุณนอนอาบแสงไปเพื่ออะไรครับ”สองแฝดนิ่งไป ก่อนจางฉวนจะตอบว่า“พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกัน“อ้าว” ดาวไม่คิดว่าคำตอบจะเป็นอย่างนี้“รู้แค่แสงของมันช่วยทำให้ร่างกายของอัลฟ่าแข็งแรงขึ้นได้”ดาวไม่เห็นด้วย “ฮึ แต่พวกคุณก็แข็งอย่างกับหมีอยู่แล้วนะ อุ๊บ ขอโทษครับ”สองคนนั้นรู้ดีว่าหนุ่มของเล่นจิกกัดความแข็งแรงในแง่ไหนของพวกเขา เลยส่งเสียง “หึ” กับกระตุกมุมปากคล้ายรอยยิ้มจางหมิงยอมบอกในที่สุด ซึ่งที่จริ
“อ๊า อา”แผล็บ ๆ เสียงลิ้นสองอันทำงานกับหน้าอกคนละข้าง ลีลาโฉบชิมของฝาแฝดแลดูน่าเอร็ดอร่อยหนึ่งในนั้นคราง “ทำไมนมของเธอถึงหวานแบบนี้วะ”“อา ผมเสียว อย่าแกล้งผม”คำห้ามปรามลักษณะนั้นย่อมไม่ช่วยอะไร หนึ่งในนั้นเปลี่ยนมาเป็นใช้ฟันครูดตรงหัวนม ตามมาด้วยส่งลิ้นเข้ามาดูด ตอนนี้ผิวเนื้อเรียบเนียนที่หน้าอกของโอเมก้าของเล่นเป็นจ้ำแดงหมดแล้ว“อา อื้อ อื้อ โอย”แล้วในจังหวะอันราบรื่นไร้รอยต่อ สองคนนั้นรูดกางเกงในของดาวออกทางปลายเท้าพอปราการด่านสุดท้ายหายไป แก่นกายของโอเมก้าก็ชี้พุ่งอย่างหน้าไม่อาย น้ำหล่อลื่นไหลเยิ้มเป็นสาย“เฮ้ย โอเมก้ามีน้ำหล่อลื่นทั้งจากข้างหน้าและข้างหลังเลยเหรอวะ”“เหมือนเบต้าผู้หญิงน่ะเหรอ”“บ้าสิ เหมือนเบต้าผู้ชายต่างหาก”ส่วนดาว เขารู้สึกอายที่สองแฝดศึกษาตัวเขาราวกับนี่คือวิชากายวิภาคศาสตร์หรือ Anatomyแล้วจากนั้นไม่นานดาวก็กรีดร้องลั่นเพราะสองคนนั้นย้ายตัวลงไปใช้ปากเล่นกับดุ้นเนื้อ‘อ๊า ไ
อีกสามวันต่อมา เป็นวันเลขคู่ วันนี้หนุ่มโอเมก้าต้องเป็นของเล่นของพี่ใหญ่เจียเหาด้วยเหตุนี้ทั้งคู่จึงใช้เวลาด้วยกันตั้งแต่เช้า ดาวกับพี่ชายใหญ่นั่งด้วยกันในห้องดื่มชาจางเจียเหาดื่มชาหมดถ้วยแล้วลุกขึ้น เขาไม่กินข้าวเช้า ในขณะที่ดาวยังค่อย ๆ ละเลียดโจ๊กหมูที่แม่บ้านแตงโมยกมาเสิร์ฟคุณชายใหญ่มาเฟียเห็นหนุ่มของเล่นกินอาหารเช้าอย่างอร่อยแต่ไม่อิ่มเสียทีจึงเดินมาถึงตัวตอนแรกดาวิชคิดว่ามาเฟียอาจไม่พอใจที่เขาชักช้า เพราะเจียเหาก้าวมาหาอย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยการวางมือบนกลุ่มเส้นผมนุ่ม ก่อนจะขยุ้มขึ้นมาหนึ่งกำมือดาวตกใจจนทิ้งช้อนดังแกร๊ก แต่สิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้นก็เกิดขึ้น เมื่อเจียเหาก้มหลังลงมาแล้วจุ๊บดาวเบา ๆ ที่กลางกระหม่อมดาวสังเกตวิธีการจับเส้นผมของคนร่างยักษ์ มันหนักแน่นไม่นุ่มนวลก็จริง แต่ไม่ได้เป็นไปในเชิงทำร้ายร่างกาย ทว่าเป็นบางอารมณ์บางอย่างที่หนุ่มน้อยอ่อนต่อโลกอย่างเขายังไม่เคยสัมผัส‘เฮ้ย อะไรวะ หรือนี่เป็นการเล่นของเล่นรูปแบบหนึ่งของตายักษ์’แต่ที่ทำให้ดาวตกใจจนเกือบช็อกคือคำพูดว่า“ผมหอมจัง&rdq
ดาวไม่คิดว่าสิ่งที่ฝาแฝดเตือนเกี่ยวกับเจียเหาจะเป็นจริงในอีกไม่นานแต่ก่อนจะไปถึงเหตุการณ์นั้นก็มีแขกไม่คาดฝันมาหาเขาถึงคฤหาสน์ตระกูลจางแม่บ้านแตงโมเดินยิ้มมาหา แล้วหล่อนก็เอ่ยกับดาวด้วยน้ำเสียงจริงใจ “พี่ดีใจจังเลยค่ะ”“ดีใจเรื่องอะไรเหรอฮะพี่โม”“ก็ที่คุณชายทั้งสามเลิกสั่งให้คุณหนูดาวไปทำงานหนัก ๆ อย่างดูแลคอกม้าแล้วน่ะสิคะ”หนุ่มดาวิชยิ้มแห้ง ๆ หากแม่บ้านร่างท้วมที่ฝันอยากเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ได้รู้ว่าการไม่ต้องทำงานหนักดาวต้องแลกกับอะไรบ้าง พี่แตงโมคงทำหน้าไม่ถูกอย่างไรก็ตามดาวสัญญากับคุณชายทั้งสามแล้วว่าข้อตกลงนั่นคือความลับ จึงไม่อาจแพร่งพรายให้ใครรู้ได้“ว่าแต่พี่มัวแต่ชวนคุณดาวคุย ตอนนี้มีคนคนมาหาคุณดาวค่ะ เป็นผู้ชายผิวคล้ำ ๆ”ดาวงง ไม่คิดว่าจะมีคนมาหาถึงคฤหาสน์ตระกูลจาง “คนที่มาหาได้บอกชื่อหรือเปล่าครับ”“ว้ายพี่โมลืม ขอโทษทีค่ะ”สะใภ้ตระกูลจางไม่ว่าอะไร ยังไงเขาก็ได้เห็นเองอยู่ดีว่าเป็นใครและดาวไม่อยากเชื่อเลยว่ารอนเพื่อนท
พอดาวถูกวางลงกับพื้น เจียเหาก็ประกาศลั่น“ฉันจะเอาเธอตรงนี้!”“เฮ้ย อย่าเพิ่งสิ นี่มันหน้าประตูนะ”หนุ่มโอเมก้าเหลือบไปด้านข้าง กระทั่งประตูก็ยังไม่ได้ปิด เขาจึงก้าวไปตรงนั้น อย่างน้อยก็ควรปิดประตูก่อนแต่คุณชายจอมโหดรีบคว้าข้อมือดาวไว้ ผลักดันร่างของเขามาที่ผนังตรงโถงประตูห้องแทน โดยที่ประตูยังเปิดอ้าค้างไว้อย่างนั้น“ทำไม ต่อให้เอากันแล้วทำไมต้องแคร์!”“คุณไม่อายคนอื่นในบ้านเรอะ”“ก็เธอเป็นเมียของฉัน เป็นภรรยาของฉัน!”ดาวเลิกคิ้วอย่างงุนงงเจียเหาได้สติ เขาชี้หน้าใส่อย่างโอหัง แล้วรีบเปลี่ยนคำพูดเสียใหม่ “เธอเป็นของเล่นของฉัน และตอนนี้ฉันก็อยากจะเล่นแล้ว อีกอย่างของเล่นชิ้นนี้จ่ายมาแพงด้วยสิ ต้องเล่นให้คุ้มหน่อย!”“อึก หยุดก่อน!”ดาวยังไม่ทันพูดจบ อีกคนก็จับไหล่ของเขาด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างบีบที่กระพุ้งแก้ม ทำให้ดาวจำต้องแลบลิ้นออกมา“อา”แล้วสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นก็เกิดขึ้นอีก แต่ครั้งนี้ไม่รุ
พอถึงตอนนี้ดาวได้แต่เคลิบเคลิ้มปลดปล่อยตัวเองอย่างไร้การควบคุม คุณชายใหญ่มาเฟียย่อตัวลงเล่นกับร่างกายส่วนล่างของดาวอย่างมึนเมานิ้วมือใหญ่เจียเหาทำงานอย่างคล่องแคล่ว ลูบไล้พื้นที่สงวนของโอเมก้าอย่างเมามัน เขาส่งจมูกโด่งเข้าไปสูดดมความหอมหวานตรงขาหนีบ“อ๊า”“ผิวแม่งโคตรเนียนขาวแถมยังมีกลิ่นหอมอีกด้วยการถูกทำเช่นนั้นทำให้แก่นกายของดาวชี้ไปข้างหน้า แต่แน่นอนว่ามันสู้ขนาดของอัลฟ่าไม่ได้หรอกเจียเหาพักหอบหายใจ สูดดมความเป็นโอเมก้าชายเข้าไปอีกฟอด ในขณะที่ด้านข้างดุ้นเนื้อของหนุ่มของเล่นถูกใช้ถูไถไปมาตามโหนกแก้มสวยของคุณชาย“อา กลิ่นดีมาก”อีกประเดี๋ยวคนตัวใหญ่จับดาวให้หันหลัง ก่อนจะสั่งว่าให้แอ่นก้นเยอะ ๆดาวทำตามอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ซึ่งพอแอ่นหลังแล้วก็ต้องกรีดร้องลั่น เพราะคุณชายเล่นส่งลิ้นหนาลงไปเบิร์นที่ช่องทางรูจีบให้ไม่ยั้ง จนพื้นที่เล็ก ๆ นั่นชุ่มโชกเปียกชื้นไปด้วยน้ำลายและน้ำหล่อลื่นของโอเมก้าแผล็บ ๆ แจะ ๆ“ซู้ด น้ำอะไรวะเนี่ย โคตรอร่อยเลย!”+++++
ดาวปรับตัวเข้ากับชีวิตที่คฤหาสน์ตระกูลจางได้แล้ว เขายังพักอยู่ที่ห้องโล่งห้องเดิม ห้องใหญ่ที่แทบไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไร แต่วันนี้ที่หน้าห้องส่วนตัว แม่บ้านแตงโมมายืนขวางอยู่“อ้าวพี่แตงโม มาทำความสะอาดห้องให้ผมเหรอ ไม่ต้องหรอกนะ ผมทำเองเรียบร้อย ไม่ต้องกวนพี่ให้เหนื่อยหรอก”“พี่แตงโมก็ว่าจะทำให้ค่ะ แต่มีคนเยอะแยะมาวุ่นวายในห้องเลยทำให้ไม่ได้”“หา? มีคนอยู่ในห้องผมเนี่ยนะ”“คุณดาวลองเดินเข้าไปดูเองสิคะ”พอดาวิชเดินเข้าไปในห้องตัวเองแล้วก็ไม่อยากเชื่อ เมื่อเห็นสองแฝดยืนอยู่กับชายคนหนึ่งที่รีบแนะนำตัวกับเขาทันทีว่าเป็นมัณฑนากร“ผมชื่อวิษณุ มาดูแลเรื่องแต่งห้องใหม่ให้คุณดาวครับ”“หือ ใครสั่งไปเหรอครับ” ดาวทำหน้างงสนิท“ก็คุณชายของบ้านหลังนี้เป็นคนสั่งครับ”ดาวมุ่นคิ้วอย่างตงิดใจ แต่ยังไม่แน่ชัดนักว่าคือใครสะใภ้เหลือบมองไปรอบ ๆ “แล้วทำไมถึงมีคนมาเยอะแยะเลยครับ ไม่ได้มาดูหน้างานแล้วถึงเริ่มงานเหรอ”“อ้อ เห็นคุณชาย
ที่ห้องส่วนตัวของดาว หนุ่มโอเมก้าเดินกลับมาหาสามอัลฟ่าคุณชายที่แทบนั่งไม่ติดด้วยความกระวนกระวายพอเห็นหน้าเจ้าของห้องก็รีบถามทันที“เป็นไง เธอเข้าใจพวกเราแล้วใช่ไหม”ดาวพยักหน้าเร็ว ๆ “ครับ”ภรรยาเดินมานั่งเก้าอี้ที่หนึ่งในแฝดรีบสละให้ทันที พอนั่งลงดาวเขาก็ยังก้มหน้านิ่ง ไร้คำพูดคำจาสามคุณชายทนไม่ไหว รีบผลัดกันถามภรรยาของพวกเขา“เป็นยังไงบ้างล่ะดาว ท่านปู่ว่าอย่างไรบ้าง”“เธอรู้เรื่องราวทั้งหมดจากปากคุณปู่แล้วใช่ไหม”“ถ้าเธอได้รู้จะได้เข้าใจที่มาที่ไปของพวกเราทั้งหมด…ว่าทำไมเราถึงไม่ชอบเธอในตอนแรก”เมียที่กลายเป็นของเล่นตอบแต่ไม่เงยหน้า “สำหรับเรื่องนั้นท่านปู่จางอี้เทาเล่าให้ผมฟังแล้วเหมือนกันครับ”ดาวทราบแล้วและเข้าใจเหตุผลว่าทำไมทั้งสามถึงอาละวาดและตามมาข่มเหงเขาแทบแย่เมื่อรู้ว่าเมียแต่งของพวกตนเป็นโอเมก้า แต่ถ้าพูดอย่างยุติธรรม การกลั่นแกล้งก็คือการกลั่นแกล้ง ไม่อาจซักฟอกให้เป็นสิ่งถูกต้องได้นั่นคือสิ่งที่ดาวคิด แต่แล้วก็ถอ
สามคุณชายยอมให้ดาวใช้เวลาส่วนตัวคุยกับท่านปู่จางอี้เทาโดยพวกเขาไม่เข้ามารบกวนสองแฝดออกตัวว่า‘เผื่อเมียของเราอาจมีเรื่องลับ ๆ อยากคุยกับท่านปู่’‘หรือในทางกลับกันท่านปู่ก็อาจมีอะไรลับ ๆ อยากบอกหลานสะใภ้ก็ได้’‘เอ๊ะ คุณสองคนพูดอย่างนี้แปลว่าอะไรแน่!’ ดาวทำเสียงดุใส่ เขาแปลกใจตัวเองเหมือนกันที่สถานะระหว่างเขากับสามคุณชายดูจะสลับบทกันอย่างไรบอกไม่ถูกส่วนเจียเหาได้แต่ยิ้มบาง ๆ ก้มหน้าแล้วกอดไหล่น้องชายแฝดเดินหลบมุมไปเงียบ ๆดาวรู้ว่า ก่อนหน้านั้นคุณชายใหญ่เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้อี้เทาฟังคร่าว ๆ แล้วว่า ที่คฤหาสน์หลานสะใภ้ได้ยินเรื่องที่ปู่เล่าให้พวกหลาน ๆ ฟัง และไม่พอใจอย่างรุนแรงจนหนีกลับบ้านดาวได้ยินแล้วทำท่าขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน อยากชูกำปั้นใส่ด้วยที่คุณชายยังใช้คำว่าหนีกลับบ้านไม่เลิก มันฟังเหมือนดาวเป็นแค่เด็กเอาแต่ใจไม่มีผิดตอนนี้ในโทรศัพท์ของเจียเหามีหน้าคุณปู่อยู่ในนั้น ใบหน้าของท่านยังใจดีอย่างเคย[หนูดาวสบายดีไหม][สบายดีครับ แล้วท่านปู่ละครับ]หนุ่มน้อยโอเมก้าว่าที
สามคุณชายเอ่ยเสียงลั่นเกือบพร้อมกันว่า “แล้วเราต้องขอโทษยังไงเธอถึงจะเชื่อล่ะ”แล้ว ณ ตอนนั้นสะใภ้จากสงขลาไม่รู้นึกอย่างไร เขาสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วโพล่งไปว่า“ตามธรรมเนียมคนบ้านผม ถ้าเราอยากให้คนที่เราตั้งใจขอโทษรู้ว่าเราสำนึกผิดจริง ๆ จากใจ ไม่มีทางอื่นเว้นแต่เราต้องกราบขอโทษแทบเท้าคนสำคัญของเขา”สามอัลฟ่าได้ยินแล้วถึงกับทำตาเบิกโพลง “ฮะ?! นั่นหมายถึง…”ดาวิชพยักหน้าแล้วเม้มปากล่าง “หมายถึงเท้าพ่อกับแม่ของผม”คราวนี้ถึงตาสามคุณชายไฮโซถึงกับอึ้งไปนานเลยแต่แล้วก็มีเสียงขัดจังหวะ เมื่อพ่อกับแม่ร้องบอกอย่างร่าเริงว่า“อาหารเย็นพร้อมแล้วมากินข้าวกันเถอะ”+++++อีกไม่นานอาหารง่าย ๆ ข้าวสวยร้อน ๆ น้ำพริกกับผัก และกับข้าวอีกสามสี่จาน–ยำกุ้งหวาน ปลาเล็กปลาน้อยทอดกรอบ กับไข่เจียวใบโหระพาฟูนุ่มก็พร้อมเสิร์ฟ“กินสิขรับคุณ ๆ อาจไม่ถูกปากนัก เพราะของสดที่เอามาทำก็ของพื้น ๆ ชาวประมงแถวนี้ พวกเราจับเอง เหลือก็เอาแบ่งกันกิน
ดาวกลับมาอยู่ที่อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา บ้านเกิดของเขาได้เกือบหนึ่งเดือนแล้วการตัดสินใจแค่ไม่กี่นาทีส่งผลให้ชีวิตของดาวเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ความเป็นอยู่ที่นี่สงบเงียบเรียบร้อย จนหนุ่มโอเมก้าไม่อยากเชื่อเลยว่านี่คือชีวิตเดียวกับตอนที่เป็นของเล่นของสามคุณชายที่คฤหาสน์และวันธรรมดาวันหนึ่ง ระหว่างที่พ่อกับแม่นั่งกินข้าวกลางวัน ส่วนดาวล้างจาน พ่อกับแม่ถามคำถามกับลูกเพราะเพิ่งนึกได้“ดาวเอ๊ย ตกลงแกไม่ได้ทำงานที่กรุงเทพฯ แล้วเหรอ”ลูกชายหรี่ก๊อกน้ำแล้วหันมาตอบ “เปล่าแล้วจ้ะแม่”พ่อกับแม่มองด้วยสีหน้านิ่งอย่างสงสัย แต่ไม่ถามอะไรที่กดดันอย่างเช่น ‘แล้วจะทำอะไรต่อ’ ทั้งคู่รู้ดีกว่าลูกชายของพวกตนไม่ใช่คนหลักลอยเหลวไหลคราวนี้เป็นตาพ่อถามบ้าง “เอ้อ พ่อว่าจะถามเรื่องค่ารักษาของพ่อ หนูไปเอาเงินมาจากไหน”“อ๋อ” ดาวชะงัก แต่ก็รีบแก้ตัวว่า “หนูไปคุยกับหมอและเจ้าหน้าที่ที่โรงพยาบาลมาแล้วจ้ะ ใช้สิทธิบัตรทองได้ ของแม่ก็เหมือนกันนะ ไม่ต้องกังวล”พ่อกับแม่กลืนอาหา
“นั่นเลยเป็นที่มาตั้งแต่ก่อนพ่อแกจะตาย เราถึงเฝ้าเพียรพยายามหาคนที่ใช่ และมันไม่ง่ายเลย เราใช้เวลานานหลายปี หลายคนที่คุณสมบัติใช่แต่เขาไม่ร้อนเงิน ไม่มีเหตุผลที่จะยอมลำบากมาแต่งงานเป็นสะใภ้ตระกูลจาง มีหนูดาวนี่ละลงตัวที่สุด เป็นดอกบัวขาวอย่างที่เรามองหา แถมฐานะที่บ้านยังขัดสน”ชายชราเว้นช่วงเพื่อให้ความจริงตกตะกอนในสมองทึบ ๆ ของสามหลายชาย ก่อนจะย้ำด้วยประโยคอันเด็ดขาดและเสียงดังว่า“แกคิดว่าจะหาโอเมก้าคุณสมบัติเพียบพร้อมอย่างนี้ได้ง่าย ๆ หรือไง!”สามคุณชายพูดอุบอิบ รู้สึกผิดหวังอะไรสักอย่างกับตัวผู้ให้กำเนิด “แล้วทำไมพ่อกับแม่ไม่เคยบอกพวกเราเรื่องนี้เลย”“พ่อแกเคยมาปรึกษาฉัน แล้วเราก็ตกลงว่า จะดีกว่าถ้าปล่อยให้เรื่องนี้เป็นความลับ”สามคนถามโดยพร้อมเพรียง “ทำไมล่ะครับ”“การรู้จุดด้อยของตัวเองเร็วเกินไปส่งผลไม่ดีต่อความมั่นใจ โดยเฉพาะในช่วงที่แกเปลี่ยนจากวัยรุ่นกลายเป็นวัยผู้ใหญ่เต็มตัว พ่อแกรู้ว่าสักวันตำแหน่งหลงโถวของเขาจะต้องถูกส่งต่อให้พวกแกคนใดคนหนึ่ง ดังนั้นย่อมไม่ดีแน่ถ้า
เจียเหาในฐานะพี่ใหญ่รวบรวมความกล้าเอ่ยถามท่านปู่ตรง ๆ“ดะ…ดาวเอาเรื่องนี้มาบอกคุณปู่เหรอครับ”“เปล่า ฉันรู้เอง ดังนั้นพวกแกอย่าเอาเรื่องนี้ไปโทษเขาล่ะ เขาไม่ได้เอามาฟ้องฉัน”ตอนแรกอี้เทากระหยิ่มในใจ แผนการโยนหินถามทางกับสามคุณชายปากแข็งน่าจะสำเร็จ ชายชราแค่ลองปะติดปะต่อเรื่องเอาเองแล้วเอ่ยโพล่งออกไป ซึ่งพอเห็นปฏิกิริยาของสามคุณชายเลยฟันธงว่าน่าจะเข้าใจถูกในประเด็นที่ทั้งสามคงตกลงอะไรบางอย่างกับดาวเกี่ยวกับสถานะความเป็นเมียแต่อี้เทาเป็นคนยุติธรรม เขาอยากให้ทั้งสามคุณชายเป็นผู้ใหญ่ เป็นลูกผู้ชายตัวจริงที่กล้ายอมรับเองว่าพวกตนทำอะไรไว้ทั้งสามนั่งตัวลีบแต่ยังปากแข็งไม่ยอมรับเวลาผ่านไป เข็มนาฬิกาของนาฬิกาคุณปู่ หรือนาฬิกาโบราณตั้งพื้นเรือนใหญ่ดังติ๊ก ๆ อย่างต่อเนื่องขนาดอี้เทาเป็นคนอารมณ์เย็นยังหมดความอดทน“ไอ้พวกหลานโง่ นี่ฉันทนพวกแกไม่ไหวแล้วนะ!”สามคนทำหน้าซีด แต่ยังปากแข็งไม่ยอมพูดสักคำท่านปู่จางอี้เทาทนไม่ไหวอีกจึงกระชากเสียงถามหลานชายจอมมึน“แกรู้ไหมว่า
หวังหงถามดาวว่า “...ว่าแต่เธอเป็นคู่รัก หรือคู่หมั้นของคุณชายมาเฟียตระกูลจางคนไหนนะ”พอดาวได้ยินคำถามนั้น เขาก็ทำหน้าเศร้าอย่างไม่ปิดบัง น่าแปลกที่เขารู้สึกว่าหนุ่มใหญ่ตรงหน้าคือคนที่เขาไม่จำเป็นต้องเสแสร้งหรือระมัดระวังความรู้สึกเท่าใดนัก“ผมมาอยู่ที่นี่ในฐานะผู้อาศัยเท่านั้นครับ ไม่ได้เป็นคู่รักของใคร”หวังหงมองออก เขาเห็นสายตาของสามคุณชายที่มีต่อตนตั้งแต่ตอนกินมื้อกลางวันในห้องมรกตแล้ว ด้วยสายตาของหนุ่มใหญ่ผู้มีประสบการณ์ แค่มองแวบเดียวก็รู้แล้วว่าสามคนนั้นหึงเขา อาจกลัวว่าเขาจะมาจีบหรือเกี้ยวพาใครสักคนในคฤหาสน์หลังงามนี้ และสาเหตุแห่งความหวงก็คงมาจากหนุ่มน้อยน่ารักตรงหน้านั่นเองหวังหงกระแอมเบา ๆ ทีหนึ่งแล้วเปลี่ยนเรื่องคุยอย่างกะทันหัน“เธอคงรู้แล้วว่าฉันเคยเป็นมาเฟียมาก่อน”“ทราบมาบ้างจากท่านปู่ครับ”“และไม่ใช่แค่มาเฟียด้วย แต่เป็นหัวหน้ามาเฟียเลยทีเดียว”คราวนี้หนุ่มน้อยดาวิชทำตาโตหวังหงเห็นแล้วหัวเราะ “เป็นแค่อดีตน่ะ แต่ที่ฉันจะบอกคือ เวลามองหน้าเ
การปรากฏกายของหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบกว่าคนหนึ่งที่คฤหาสน์ตระกูลจางได้เปลี่ยนเรื่องราวของสมาชิกในคฤหาสน์ตระกูลจางไปจากชนิดหน้ามือเป็นหลังมือที่ห้องมรกต ห้องพักผ่อนโปรดของท่านปู่จางอี้เทา ต่อหน้าหลานชายทั้งสาม ชายชราพูดเสียงดังฟังชัดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า“คนนี้เป็นเพื่อนรุ่นน้องของปู่เอง ชื่อว่าคุณหวังหง[1]”ขณะสามคุณชายทำหน้าแปลกใจอยู่ว่าทำไมคุณปู่ถึงแนะนำชายแปลกหน้าคนนี้ให้รู้จัก ก็พอดีที่ชายชราเล่าต่อว่า หวังหงเป็นเพื่อนเก่าแก่ของเขา เคยเป็นหัวหน้าใหญ่ของมาเฟียตระกูลหวังก่อนจะรามือลงจากบัลลังก์พร้อมทรัพย์สินมากมาย ตอนนี้เป็นนักธุรกิจ นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ และทำอะไรที่ดีงามมีคุณค่าอีกหลายอย่างผิดไปจากตอนที่เป็นมาเฟียสามคุณชายมองหนุ่มใหญ่ตรงหน้าด้วยท่าทีไม่ไว้วางใจ ต่างสัมผัสได้ว่าหวังหงมีอะไรบางอย่างที่เหนือกว่าพวกเขา และนั่นเป็นอะไรที่ทั้งสามไม่ชินและรับไม่ได้เอาเสียเลย ไม่ว่าจะในสถานที่ไหนหรือเมื่อไร พวกเขาจะต้องโดดเด่นเหนือคนอื่นเสมอหวังหงเป็นหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบกว่า แต่เรือนร่างยังสมบูรณ์แบบในชุดเสื้อเชิ้ตสีสะอาดที่ทับด้วยเสื้อตัวนอก
ผ่านไปอีกสองเดือน นายดาวิชคนเดิมยังอยู่ที่คฤหาสน์เดิมของสามคุณชายมาเฟีย และสิ่งที่ยังเหมือนเดิมนับตั้งแต่เขาได้เป็นของเล่นของทั้งสาม คือทั้งสามยังเปย์ให้เขาอย่างไม่อั้น ทั้งเงินและข้าวของ ดาวนำเงินที่ได้ส่งให้ทางบ้าน นี่นับเป็นเรื่องดี มารดาของเขาได้คิวการผ่าตัดจากโรงพยาบาลที่ค่อนข้างมีชื่อที่หาดใหญ่แล้ว และดาวก็มีเงินจ้างคนดูแลพ่อในช่วงพักฟื้นหลังให้คีโมอย่างไรก็ตามดาวก็ยังคงสถานะเป็นของเล่นที่มีชีวิต ไม่ได้เป็นอะไรมากกว่านั้น เขายังทำหน้าที่ภาชนะรองรับความใคร่ให้สามพี่น้อง และทั้งสามก็ยังโปรดปรานที่ได้ใช้เวลาร่วมกับเขาตามวันคู่และวันคี่สิ่งหนึ่งที่หนุ่มโอเมก้าสงสัย ตอนแรกดาวคาดว่าหลังจากทั้งสามได้เสพสมกับร่างกายของเขามาสักระยะ อัลฟ่าพวกนั้นคงเบื่อของเล่นชิ้นนี้ แต่กลายเป็นว่าร่างกายของดาวประดุจสิ่งเสพติดของอัลฟ่า ยิ่งได้บ่อยเท่าไรพวกเขาก็ยิ่งอยากได้มากขึ้น ดาวตกเป็นของทั้งสามทั้งในแบบหนึ่งต่อหนึ่ง สองต่อหนึ่ง หรือบางทีก็สามต่อหนึ่งอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันและยังมีอีกอย่างที่น่าประหลาดใจ คือเริ่มมีประโยคเพราะ ๆ หวานหูให้ได้ยินบ่อยขึ้นจากทั้งสามในระหว่างการร่วมรัก