พอเข้ามาในห้องส่วนตัวและปิดประตูตามหลังแล้ว คุณชายมาเฟียร่างใหญ่เหมือนยักษ์ก็ปล่อยร่างบางลง ก่อนจะใช้มือกระชากคอเสื้อยกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“อั๊ก” ดาวรู้ตัวเลยว่าร่างตัวเองถูกยกขึ้น แต่มันไม่หยุดแค่นั้น และตอนนี้ปลายเท้าไม่แตะพื้นแล้วด้วย
ด้วยความตกใจ เขาวางมือกุมมือใหญ่ที่คอเสื้ออีกที น้ำเสียงของเมียจ้างตื่นกลัว “อึก จะ…จะทำอะไรผม”
เจียเหาแสยะปาก “มึงยังมีหน้ามาถาม ทำตัวบริสุทธิ์ไร้เดียงสาไปได้!”
ส่วนสองแฝดพูดเกือบพร้อมกัน “แกก็รู้อยู่แล้วว่าเข้ามาที่นี่ในฐานะอะไร
“อย่าทำอย่างนั้น ไม่เอา ฮือ”
“ทำไม ไม่ชอบรึไง พวกเราเป็นถึงสามคุณชายตระกูลจางเลยนะโว้ย!”
“ที่จริงแกควรนับว่าเป็นเกียรติด้วยซ้ำที่เราลดตัวลงมาเล่นกับของเล่นบ้าน ๆ อย่างแก”
คราวนี้ดวงตาของเหยื่อของเล่นเกือบถลน เขาไม่คิดว่าพี่น้องตระกูลจางจะรักใคร่สามัคคีกับทุกเรื่องอย่างนี้ “สะ…สาม หมายถึงพร้อมกันสามคนเลยเหรอ”
“ทำไม รับไม่ได้รึไง”
“ในเมื่อแกก็รู้ตั้งแต่แรก อาเชาว์ก็บอกในห้องว่าแกต้องเป็นเมียของพวกเราทุกคน”
“ครับ นั่นก็ถูก” ดาวเถียงไม่ออก
“ตอนนี้ก็ถึงเวลานั้นแล้วไง”
“แกแหละต้องเป็นคนรับให้ได้ สัญญาก็เซ็นไปแล้ว”
“อ๊ะ คือว่าผม…” เล่นพูดอย่างนี้เขาก็เถียงไม่ออก แต่ดาวิชไม่อยากเชื่อว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนคนเหล่านี้ยังรังเกียจเขาจะแย่ แต่ตอนนี้กลับอยากยัดเยียดบทบาทผัวให้ ซึ่งหนุ่มโอเมก้ายอมรับว่าพอถึงเวลาจริง ๆ กลับคิดว่ามันทำใจยอมรับยากพิกล เขาไม่ได้เตรียมใจมาก่อน
“สายไปแล้วล่ะที่จะลังเลตอนนี้”
ยังไม่ทันจบประโยคดี หนึ่งในแฝดเขี่ยก็ปลายเท้าของดาวทำให้เขาเสียหลัก ส่วนอีกคนกดบ่าเขาให้กลับลงไปนั่งบนพื้น จากนั้นขากรรไกรของดาวก็ถูกบีบ ริมฝีปากเผยออ้า
แล้วคุณชายใหญ่ก็ถลกกางเกงกับกางเกงในลงพร้อมกันในคราวเดียว ดุ้นเนื้อแกร่งสะบัดตอนเป็นอิสระ มันคงแข็งรอตั้งแต่ข้างใน นั่นเกิดจากกลิ่นหอมหวนของโอเมก้า
เจียเหาพูดแทบไม่ขยับปาก แต่ดาวได้ยินเสียงของอัลฟ่าพี่ใหญ่ชัด
“ใช้ปากให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
ส่วนน้องชายอีกสองคนคอยตรึงร่างบางของดาวไว้ไม่ให้หนี ก่อนจะผลักหลังศีรษะของดาวให้ครอบทับดุ้นเนื้อที่ใหญ่แข็งที่ส่วนหัวสีแดงเป็นมันลื่นเข้าปาก
“อั๊ก อ๊อก”
“อา นั่นละ อมอย่างนั้นดีมาก”
+++++
ดุ้นเนื้อของเจียเหาใหญ่และยาวตรงสวย ดาวไม่สามารถส่งทั้งดุ้นเข้าไปในโพรงปากได้ แต่เพราะถูกฝาแฝดผลักดันจากด้านหลัง มันก็เข้าไปลึกขึ้นเรื่อย ๆ
และคุณชายใหญ่ถึงกับตาเหลือกตาค้างเมื่อส่วนหัวนุ่มนิ่มของเขาดุนดันกับผนังลำคอ
“อ๊อก ๆ” ดาวน้ำตาคลอเบ้า น้ำลายหยดออกมาตามมุมปาก
สองคนด้านหลังผลักดันเป็นจังหวะ กะให้คนใช้ปากมีช่วงพักหายใจ พอทำได้สักพักจังหวะการครูดเนื้อปากเข้าออกก็เริ่มเข้าที่
ขวับ ๆ
เจียเหาเอานิ้วกุมที่โคน ส่วนมืออีกข้างวางบนกระหม่อมเล็กของดาวิช “อ๊า อา แม่งดีอย่างไม่น่าเชื่อเลยว่ะ”
สองแฝดที่มองตาไม่กะพริบกลืนน้ำลาย จางหมิงที่มีแผลตรงหว่างคิ้วก็เอ่ยประโยคที่เคยใช้สมัยยังเด็ก ตอนที่ทั้งสามมีของเล่นชิ้นโปรดชิ้นเดียว แต่พี่ชายคนโตครอบครองมันนานเกินไป
“ขอผมเล่นบ้างสิพี่”
+++++
แล้วอีกไม่นานต่อมา สามคุณชายก็ถูกดาวทำรักด้วยปากให้จนครบถ้วน
“อ๊า แม่งดีเป็นบ้า ไม่อยากเชื่อเลย”
หนึ่งในนั้นที่ดาวจำได้ว่าเป็นจางฉวนเอาฝ่ามือตบแก้มของเขาเบา ๆ เป็นท่าทีที่บอกความเหนือกว่า หรืออาจเหมือนการแสดงความเอ็นดูต่อสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง
“ทำได้ไม่เลวนี่หว่า นังคนบ้านนอก!”
แต่พวกนั้นปล่อยให้พักได้ไม่นานนิ้วมือแข็งแรงของอัลฟ่าก็ทำงานต่อ มือของใครสักคนบีบลงมาที่ขากรรไกร อีกมือผลักดันที่ศีรษะ นิ้วมืออีกข้างกดลงมาที่กะโหลก
เจียเหาผู้ดุดันข่มขู่ “แกต้องทำให้ฉันมากกว่านี้!”
พอทำนานเกินไปดาวรู้สึกขากรรไกรเริ่มค้าง
สุดท้ายโอเมก้าทนไม่ไหว เอามือผลักร่างข้างนอกออก พอหลุดออกไปได้เขาก็อ้าปาก น้ำลายเหนียวหยดลงพื้น
ดาวไอโขลก ๆ ใบหน้าย่นยู่ เป็นสีชมพูไปทั้งหน้า
อัลฟ่าทั้งสามพอเห็นของเล่นของพวกเขามีอาการแบบนั้นก็บังเกิดความเห็นใจขึ้นมา นิ้วมือที่เคยจิกผมเปลี่ยนมาสอดเข้าไปในเรือนผมแล้วลูบไล้ไปตามหนังศีรษะ
หนึ่งในนั้นราวกับหลุดคำพูดพึมพำออกมาว่า “แม่ง ดูไปดูมาก็น่ารักว่ะ”
สองคนที่เหลือเหลือบมองอย่างไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน
ส่วนดาว เขาใช้เวลาไอจนรู้สึกดีขึ้น จากนั้นจึงเชิดหน้าสูง สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไป ปลายจมูกกับแก้มเป็นสีชมพูตัดกับผิวขาว เส้นผมยุ่งเหยิงจนดูแตกต่างจากเดิม
และไม่น่าเชื่อที่ทั้งสามมองของเล่นชิ้นนี้ด้วยแววตากึ่งหลงใหลกึ่งไม่แน่ใจ
เท่านั้นยังไม่พอ กลิ่นของโอเมก้าโชยขึ้นมาด้วย ยิ่งทำให้สามคุณชายแข็งขึง ส่วนหัวผงกขึ้นลงจนทำให้น้ำหล่อลื่นของอัลฟ่าหยดลงมาเป็นทาง
จางหมิงคราง “ไม่ไหวแล้ว กูอยากทำมันมากกว่านี้”
+++++
ดาวทำรักด้วยปากจนในที่สุดร่างบางก็ทนไม่ไหว เขาถอนตัวออกมา หอบแฮกศีรษะตกพื้น แต่มือยันพื้นอยู่ในท่าคลาน
เจียเหาอารมณ์ค้าง “แกเป็นอะไร!”
“แฮก ๆๆ ผมหายใจไม่ทัน”
สองแฝดเองก็ยังอยากถูกทำต่อเลยร้องว่า “อย่ามาสำออยนะ พวกเราเพิ่งจะเล่นแกเอง แค่นี้จะไม่ไหวแล้วหรือยังไง!”
แล้วทั้งสามก็นึกได้ว่าโอเมก้าคนนี้มีไว้เพื่อเป็นของเล่น เป็นแค่ที่ระบาย ไม่เห็นต้องแสดงความเห็นอกเห็นใจใด ๆ สามคุณชายร่างใหญ่จึงลากคอคนตัวเล็กขึ้นมาจากพื้น
“อึก อย่า จะทำอะไรผม” ดาวหวีดร้อง
แต่ช้าไปแล้ว ร่างบางถลาไปข้างหน้า หน้าท้องกระแทกกับขอบโต๊ะ
พลัก
ดาวไม่เจ็บท้อง เพราะเมื่อกี้เอามือยันไว้ทัน เขาแค่คาดไม่ถึง และยิ่งคาดไม่ถึงมากขึ้นในตอนที่หนึ่งในนั้นกดไหล่ของเขาลง ใบหน้าด้านข้างแนบกับผิวโต๊ะ
“อ๊า”
แล้วจากการเคลื่อนไหวนิ้วมือต่อมา กางเกงกับกางเกงในของดาวก็ถูกรูดลงไปกองที่หัวเข่าทันที
และนั่นทำให้สามคนอุทานเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
“น้ำอะไรวะเนี่ย”
ช่องทางด้านหลังของดาวเปียกนอง น้ำหล่อลื่นปริบจนร่องก้นดูชื้นนิดหน่อย
สามคุณชายร้องอ๋ออย่างนึกได้ “ที่แท้แกก็ชอบให้ทำอย่างนี้นี่เอง”
“โดนทำอย่างนี้แล้วเกิดอารมณ์งั้นเหรอ นังบ้านนอก ฮ่า ๆ!”
ดาวิชพูดทั้ง ๆ ที่ใบหน้าด้านข้างถูกกดลงกับโต๊ะ ริมฝีปากได้รูปสวยถูกบี้ติดผิวโต๊ะ “อือ ไม่ใช่ อือ”
ที่จริงสิ่งที่เกิดเป็นไปตามธรรมชาติระหว่างโอเมก้าและอัลฟ่า หาใช่ดาวเกิดอารมณ์ขึ้นมากับสามอัลฟ่าไม่
“ถ้าชอบเดี๋ยวเราจะจัดให้หนัก ๆ เลย” จางฉวนทำเสียงหื่นเต็มพิกัด
แล้วคุณชายอัลฟาคนแรก เจียเหา ที่ถลกกางเกงลงแต่ยังใส่เสื้ออยู่ ก็เอาดุ้นเนื้อจ่อชิดแล้วผลักข้าไป
ปึด ๆ
“อา ได้โปรดเถอะครับ”
เด็กหนุ่มได้แต่อ้อนวอนแต่ไม่เป็นผล ความต้องการของอัลฟ่าทั้งสามพุ่งสูงถึงเพดานห้องแล้ว
“อ๊า อา อย่า...”
เจียเหาคำราม เปลือกตาบีบเข้าหากัน ช่องทางของดาวิชทำเขาแทบคลั่ง หากเมื่อกี้ขยับเอวไวกว่านี้แค่นิดเดียว คงได้แตกเข้าไปข้างในของเล่นชิ้นนี้ตั้งแต่เพิ่งออกจากท่าแน่และหากมันเกิดขึ้นจริง สองแฝดคงเก็บเรื่องของเขาไปล้อไม่เลิกแน่นอนว่า คุณชายใหญ่แห่งตระกูลจางเสียท่าให้กับโอเมก้าเด็กหนุ่ม ถึงกับทำเรือล่มปากอ่าว‘ไอ้เด็กคนนี้แม่งไม่เคยผ่านผู้ชายมาเลยเหรอวะ’ช่องทางนั้นทั้งคับแน่น ทั้งตอดตุบ ดุ้นของคุณชายใหญ่เหมือนกับจะขาดแล้วติดค้างอยู่ข้างใน“แฮก ๆ อา” ดาวครางเสียงสั่น แม้ครั้งแรกจะไม่ยาก แต่น้ำหล่อลื่นในช่วงฮีทของโอเมก้านั้นหลั่งไหลเหมือนฝนตก มันช่วยให้การล่วงล้ำในสภาพนี้เกิดขึ้นได้“เป็นไงบ้างพี่เจียเหา ดีไหม” สองแฝดถามอย่างอยากรู้อยากเห็นเจียเหาพยักหน้า แล้วพอเริ่มตั้งต่อได้ ต่อจากนี้ก็ไม่มีอะไรหยุดอยู่ อัลฟ่าบ้ากามจับชายเสื้อของดาวิชไว้ ตามมาด้วยการกระแทกดุ้นกับก้นไม่ยั้งตับ ๆๆ พลัก ๆๆเพียะ ๆเสียงที่ว่าเกิดขึ้นเพราะสองแฝดที่ยังว่างงานเกิดอารมณ์เกินกลั้น จึงใช้ฝ่ามือหวดไปยังแก้มก้นขาวงอนจนเป็นปื้นแดง บางคนก็เอานิ้วแหย่เข้ามาในโพรงปาก ราวกับหากดุ้นยังไม่ได้เข้าไปในร่างกาย ขอเป็นส่วนอื่น
หลังผ่านเหตุการณ์ไม่คาดฝันในคืนนั้น สามคุณชายมาเฟียมานั่งรวมหัวกันในห้องหยก ซึ่งแน่นอนว่าการตกแต่งในห้องใช้สีเขียวตามชื่ออัญมณีที่ว่ามานั่นเองต่างคนต่างอยู่ในความเงียบ สุดท้ายจางหมิงทนไม่ไหว วางถ้วยชาลงกับโต๊ะดังกึก นิ้วโป้งคลึงที่รอยแผลตรงหว่างคิ้วขณะทำหน้าเคร่งเครียด แต่อีกเดี๋ยวก็เปลี่ยนเป็นเหม่อลอยเคลิบเคลิ้ม ปากยิ้มทั้งที่ไม่มีสาเหตุใดให้ยิ้ม“เป็นอะไรจางหมิง” เจียเหาอดแขวะไม่ได้“อ๊ะ เปล่าครับ แค่นึกถึงเรื่องสนุก ๆ ขึ้นมา”พี่ชายใหญ่ส่ายหน้าแล้วจิบชาร้อน หัวคิ้วยังมุ่นอย่างเคยที่น่าแปลกคือเช้านี้ทั้งสามตื่นด้วยความรู้สึกสดชื่นผิดปกติ ไม่มีอาการมึนหัวเวียนหัวหมดเรี่ยวแรงดังเช่นที่มักจะเป็นในช่วงสามสี่วันในห้วงของอาการรัทจางฉวนมองคู่แฝดของตนแล้วทำท่าบิดขี้เกียจ จากนั้นก็หันไปมองเจียเหาที่ยังนั่งนิ่ง แต่สีหน้าของพี่ใหญ่มีแววครุ่นคิดจางฉวนรู้ดีว่าพี่ชายใหญ่อยากพูดเรื่องนี้ แต่วางฟอร์มไม่เอ่ยเป็นคนแรก ในฐานะน้องชายผู้รู้ใจเขาจึงจัดการเปิดประเด็นให้“ทำไมผมถึงสลัดความคิดเรื่องเมื่อคืนออกจากหัวไม่ได้เลยน้า”เจียเหาติดกับทันที “หึ เอ็งติดใจยัยโอเมก้าเข้าให้เหรอ”“อ๊ะ หรือพี่ไม่ติดใจ
ดาวได้ฟังแล้วถึงกับกัดริมฝีปาก เรื่องประเภทนี้เขารู้ดี รู้ว่าสถานะนายบำเรอนั้นแตกต่างจากสถานะภรรยามากขนาดไหน เขาไม่ใช่คนไร้เดียงสาไม่รู้เรื่องราว“พวกเราน่ะเห็นเธอเป็นแค่ของเล่นเท่านั้นจำไว้” จางหมิงเอ่ยซ้ำ แต่อาจเพื่อย้ำเตือนบอกตัวเองก็ได้ดาวเชิดหน้าขึ้น อยู่ ๆ ก็รู้สึกอยากเป็นคนดื้อดึงขึ้นมา “แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ!”คราวนี้ทั้งสามถึงกับอึ้งไปเลย“ถ้าให้ผมเป็นแค่ของเล่น ผมกลับไปทำงานใช้แรงงานเหมือนเดิมสบายใจกว่า หรือไม่ผมก็ต้องปรึกษาเรื่องนี้กับทนายสุเชาว์ก่อนถึงจะตอบตกลงได้”คราวนี้ถึงทีสามพี่น้องคิดหนัก หากเรื่องนี้ถึงหูของทนาย ก็อาจเกิดความยุ่งยากโดยไม่จำเป็นจางฉวนรีบพูดต่อ “แล้วถ้าเราให้เงื่อนไขพิเศษล่ะ”“เงื่อนไข?”จางหมิงพูดต่อ “ถ้าเธอตกลงยอมเป็นนายบำเรอ เราจะเซ็นเช็คให้เธอทันทีสามล้าน”คนฟังตาวาวทันที เงินสามล้านสำหรับเขาคือเงินจำนวนมหาศาลเจียเหาสอดนิ้วทั้งสิบหากัน เอ่ยเสียงเรียบสุขุมอย่างเคย “ฉันรู้ว่าเธอจะได้เงินค่าเลี้ยงดูจากการเป็นเมียปีละห้าล้านใช่ไหม”“ใช่ครับ”“ซึ่งจะได้ก็ต่อเมื่ออยู่ที่นี่ครบหนึ่งปี”ดาวิชพยักหน้าอีก“แต่เงินสามล้านที่บอกเมื่อกี้จะได้เลยทันที จะไม่ดีก
“คิดว่าน้ำหน้าอย่างแกจะเป็นเมียพวกเราได้งั้นเหรอ!”“โอเมก้าไร้สกุลอย่างเธอ ใครจะอยากได้ แค่เป็นนายบำเรอชั่วครั้งชั่วคราวก็เกินฝันแล้ว!”น่าแปลกที่ก่อนหน้านี้คำพูดเสียดแทงเหล่านี้ไม่ได้รบกวนเขาสักเท่าใดนัก แต่ในขณะที่ดาวกำลังกวาดคอกม้าอย่างขะมักเขม้นคำพูดเสียดแทงพวกนั้นมันย้อนมา อาจเป็นเพราะสิ่งที่เขากำลังทำอยู่–การทำความสะอาดคอกม้า ได้กระตุ้นให้หวนนึกถึงการกดขี่จากคนที่คิดว่าตัวเองอยู่สูงกว่าใครโอเมก้าหนุ่มน้อยไม่อยากเชื่อเลยว่าชีวิตนี้จะได้มีโอกาสทำความสะอาดคอกม้า ตอนนี้ไม่มีม้าอยู่ในคอกหรอก แต่เขารู้มาว่าแต่ก่อนเคยมี นับเป็นบุญเหลือเกินที่ชาตินี้ได้ทำความสะอาดคอกที่ว่างเปล่าแห่งนี้สักครั้งดาว หรือดาวิช เขาเป็นโอเมก้าวัยเพียงสิบเก้าเท่านั้น บ้านเกิดอยู่สงขลา และเขาตัดสินใจเข้ากรุงเทพฯ เพื่อทำงานทั้งที่จบแค่ระดับมัธยมนั่นเพราะความจำเป็นเรื่องเงินของที่บ้าน ที่บ้านของหนุ่มน้อยมีหนี้สินอันเกิดจากการทำประมงพื้นบ้านของพ่อกับแม่ แค่นั้นยังไม่หนำใจ เมื่อต้นปีที่ผ่านมาพ่อของเขาป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะที่สอง ส่วนแม่ ดวงตาของแม่เป็นต้อระยะเริ่มต้น หากปล่อยไว้นานกว่านี้ตาจะบอดแม้อาการเจ็บป่วยร
จากความประทับใจแรกพบที่ยอดแย่ เพียงไม่กี่วันต่อมาที่คฤหาสน์ตระกูลจาง ดาวมีโอกาสได้รู้จักบรรดาคุณชายมาเฟียทั้งสามมากขึ้น แต่เป็นในแง่มุมที่เลวร้ายลงกว่าเดิมเขาพบกับคนที่วันนั้้นใส่เชิ้ตขาวตัวใหญ่บนทางเดินจากห้องตัวเองไปห้องรับประทานอาหารโดยบังเอิญ ตอนนี้ดาวจำได้แล้วว่าคือจางเจียเหา เป็นพี่ชายคนโตทั้งคู่กำลังเดินสวนกัน ดาวิชไม่แน่ใจว่าจะทำตัวยังไงดี จึงหยุดแล้วได้แต่ทำตัวลีบกับผนังทางเดิน เพื่อเปิดโอกาสให้คนตัวใหญ่ไปก่อนแต่พอเดินมาในรัศมีเอื้อมถึง นิ้วมือใหญ่ของเจียเหากลับยื่นมาจิ้มเบา ๆ ที่หัวไหล่คนตัวเล็กจึก ๆแม้จะแค่ทำเบา ๆ แต่ก็ทำให้โอเมก้าร่างกระจ้อยร่อยอุทาน “โอ้ะ” ด้วยความตกใจ จากนั้นก็คลำที่หัวไหล่ป้อย ๆเจียเหาตวาดใส่ทันที “ถอยไป เกะกะทางจริง ๆ นังโอเมก้าซื่อบื้อ”“ขอ…ขอโทษครับ” ดาวว่าเขาก็หลีกทางให้แล้วนะแต่คุณชายใหญ่ยังไม่เลิกระราน“ไม่รู้หรือไงว่าคนใช้น่ะ มีทางเดินของตัวเอง อย่ามาสะเออะใช้ทางร่วมกับเจ้านายเด็ดขาดนะ ต่อไปนี้ห้ามแกมาเดินเพ่นพ่านในเรือนใหญ่ให้ฉันเห็น!” ประโยคสุดท้ายนั้นแทบเรียกได้ว่าตะโกนทีเดียวดาวอยากเถียงใจจะขาดว่า เขาเองก็อยากอยู่ที่เรือนคนใช้เพื่อควา
พอมาอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลจาง อะไรที่ดาวไม่อยากรู้ก็ได้รู้ เป็นเสียงลือเสียงเล่าอ้างจากบรรดาบ่าวไพร่ว่า หลังจากเขามาอยู่ที่นี่ในฐานะเมียได้ไม่นาน สามคุณชายก็วางแผนให้เมียแต่งที่ไม่ต้องการทนอยู่ไม่ได้ จนเลือกเป็นฝ่ายไปจากที่นี่เองให้พ้น ๆและดูเหมือนข่าวลือจะเป็นจริง เพราะต่อจากนั้นดาวิชก็ถูกใช้ให้ทำงานอย่างหนัก ทั้งที่บางเรื่องไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ ตัวอย่างเช่น การทำความสะอาดคอกม้า ทั้งที่ในนั้นไม่มีม้าสักตัวคุณชายฝากให้บ่าวสักคนมาบอกดาวว่า‘ฉันจะบูรณะคอกม้าใหม่ แล้วว่าจะซื้อม้าตัวใหม่มาเลี้ยง แต่บ่าวไพร่คนอื่นมีงานล้นมืออยู่แล้ว เหลือแต่เธอคนเดียวแหละในบ้านนี้ที่ยังว่าง วัน ๆ เอาแต่เดินแกว่งแขนเล่นอยู่ได้!’เมียแต่งผู้ไม่ถูกยอมรับฟังแล้วฉุนกึก แต่คำพูดนั่นก็ไม่เกินจริง เพราะดาวเองก็ไม่มีอะไรทำในบ้านหลังนี้จริง ๆ นั่นละแต่สะใภ้ไร้ศักดินาอดกระหยิ่มใจไม่ได้ว่า สามคุณชายนี้ไม่รู้อะไรเสียแล้ว งานเป็นคนใช้ต่างหากคือความตั้งใจจริงแท้แต่แรกของเขา งานใช้แรงไม่ใช่สิ่งที่เขาหวั่นเลย‘สามคนนี้คิดจะใช้เรื่องนี้มาแกล้งงั้นเหรอ ไม่สำเร็จหรอก งานอย่างนี้ละคือความถนัดของเราเลย’ ดาวคิดในใจคนทำงานในคฤห
ดาวิชรู้สึกตัวตื่นอีกทีในห้องนอนห้องหนึ่ง เขาเหลือบเห็นสายน้ำเกลือเสียบคาผิวที่หลังมือ ดูแล้วน่าจะเป็นห้องหนึ่งในคฤหาสน์ตระกูลจางนั่นล่ะความทรงจำก่อนหน้าคือกำลังเดินกลับมาที่โรงครัว แล้วภาพก็ตัดไปเลย สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เดาได้ว่าเขาอาจเป็นลมหมดสติไปดาวยันตัวลุกขึ้นจากที่นอนแล้วชะโงกมองไปที่โต๊ะข้างเตียง เขาเห็นกริ่งเรียกคนรับใช้ กับกระดาษเอสี่พับครึ่งที่มีข้อความเขียนด้วยลายมือตัวใหญ่ ราวกับจะบอกให้เขารู้เผื่อตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอใคร‘คุณดาวเป็นลมแถวโรงครัว พวกคุณชายเลยจัดให้หมอประจำตระกูลจางมาดูแลแล้วก็ให้น้ำเกลือค่ะ อ้อแล้วถ้าคุณดาวอยากได้อะไรกดกริ่งเรียกพี่โมได้เลยนะคะ’หนุ่มจากเมืองไกลอ่านข้อความแล้วไม่อยากเชื่อ‘พวกคุณชายจอมโหดเป็นห่วงกูด้วยเหรอวะ’แต่พออ่านจนจบก็แอบยิ้ม อย่างน้อยในคฤหาสน์กว้างใหญ่และโอ่อ่าที่เขามาเป็นเมียที่คุณชายมาเฟียร้ายทั้งสามไม่ต้องการ ก็ยังมีน้ำใจเล็ก ๆ เหมือนหยดน้ำในทะเลทรายอันอ้างว้างจากแม่บ้านแตงโม จากผู้ช่วยส่วนตัวที่ชื่อเดชอ้อ...แล้วก็ท่านปู่อีกคนสิ่งเหล่านั้นทำให้ดาวมีกำลังใจขึ้นมาพอได้นอนพักโอเมก้าก็รู้สึกแทบเป็นปกติแล้ว และตอนนี้ก็หิวด้วย พอมอง
ดาวได้ฟังแล้วถึงกับกัดริมฝีปาก เรื่องประเภทนี้เขารู้ดี รู้ว่าสถานะนายบำเรอนั้นแตกต่างจากสถานะภรรยามากขนาดไหน เขาไม่ใช่คนไร้เดียงสาไม่รู้เรื่องราว“พวกเราน่ะเห็นเธอเป็นแค่ของเล่นเท่านั้นจำไว้” จางหมิงเอ่ยซ้ำ แต่อาจเพื่อย้ำเตือนบอกตัวเองก็ได้ดาวเชิดหน้าขึ้น อยู่ ๆ ก็รู้สึกอยากเป็นคนดื้อดึงขึ้นมา “แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ!”คราวนี้ทั้งสามถึงกับอึ้งไปเลย“ถ้าให้ผมเป็นแค่ของเล่น ผมกลับไปทำงานใช้แรงงานเหมือนเดิมสบายใจกว่า หรือไม่ผมก็ต้องปรึกษาเรื่องนี้กับทนายสุเชาว์ก่อนถึงจะตอบตกลงได้”คราวนี้ถึงทีสามพี่น้องคิดหนัก หากเรื่องนี้ถึงหูของทนาย ก็อาจเกิดความยุ่งยากโดยไม่จำเป็นจางฉวนรีบพูดต่อ “แล้วถ้าเราให้เงื่อนไขพิเศษล่ะ”“เงื่อนไข?”จางหมิงพูดต่อ “ถ้าเธอตกลงยอมเป็นนายบำเรอ เราจะเซ็นเช็คให้เธอทันทีสามล้าน”คนฟังตาวาวทันที เงินสามล้านสำหรับเขาคือเงินจำนวนมหาศาลเจียเหาสอดนิ้วทั้งสิบหากัน เอ่ยเสียงเรียบสุขุมอย่างเคย “ฉันรู้ว่าเธอจะได้เงินค่าเลี้ยงดูจากการเป็นเมียปีละห้าล้านใช่ไหม”“ใช่ครับ”“ซึ่งจะได้ก็ต่อเมื่ออยู่ที่นี่ครบหนึ่งปี”ดาวิชพยักหน้าอีก“แต่เงินสามล้านที่บอกเมื่อกี้จะได้เลยทันที จะไม่ดีก
หลังผ่านเหตุการณ์ไม่คาดฝันในคืนนั้น สามคุณชายมาเฟียมานั่งรวมหัวกันในห้องหยก ซึ่งแน่นอนว่าการตกแต่งในห้องใช้สีเขียวตามชื่ออัญมณีที่ว่ามานั่นเองต่างคนต่างอยู่ในความเงียบ สุดท้ายจางหมิงทนไม่ไหว วางถ้วยชาลงกับโต๊ะดังกึก นิ้วโป้งคลึงที่รอยแผลตรงหว่างคิ้วขณะทำหน้าเคร่งเครียด แต่อีกเดี๋ยวก็เปลี่ยนเป็นเหม่อลอยเคลิบเคลิ้ม ปากยิ้มทั้งที่ไม่มีสาเหตุใดให้ยิ้ม“เป็นอะไรจางหมิง” เจียเหาอดแขวะไม่ได้“อ๊ะ เปล่าครับ แค่นึกถึงเรื่องสนุก ๆ ขึ้นมา”พี่ชายใหญ่ส่ายหน้าแล้วจิบชาร้อน หัวคิ้วยังมุ่นอย่างเคยที่น่าแปลกคือเช้านี้ทั้งสามตื่นด้วยความรู้สึกสดชื่นผิดปกติ ไม่มีอาการมึนหัวเวียนหัวหมดเรี่ยวแรงดังเช่นที่มักจะเป็นในช่วงสามสี่วันในห้วงของอาการรัทจางฉวนมองคู่แฝดของตนแล้วทำท่าบิดขี้เกียจ จากนั้นก็หันไปมองเจียเหาที่ยังนั่งนิ่ง แต่สีหน้าของพี่ใหญ่มีแววครุ่นคิดจางฉวนรู้ดีว่าพี่ชายใหญ่อยากพูดเรื่องนี้ แต่วางฟอร์มไม่เอ่ยเป็นคนแรก ในฐานะน้องชายผู้รู้ใจเขาจึงจัดการเปิดประเด็นให้“ทำไมผมถึงสลัดความคิดเรื่องเมื่อคืนออกจากหัวไม่ได้เลยน้า”เจียเหาติดกับทันที “หึ เอ็งติดใจยัยโอเมก้าเข้าให้เหรอ”“อ๊ะ หรือพี่ไม่ติดใจ
เจียเหาคำราม เปลือกตาบีบเข้าหากัน ช่องทางของดาวิชทำเขาแทบคลั่ง หากเมื่อกี้ขยับเอวไวกว่านี้แค่นิดเดียว คงได้แตกเข้าไปข้างในของเล่นชิ้นนี้ตั้งแต่เพิ่งออกจากท่าแน่และหากมันเกิดขึ้นจริง สองแฝดคงเก็บเรื่องของเขาไปล้อไม่เลิกแน่นอนว่า คุณชายใหญ่แห่งตระกูลจางเสียท่าให้กับโอเมก้าเด็กหนุ่ม ถึงกับทำเรือล่มปากอ่าว‘ไอ้เด็กคนนี้แม่งไม่เคยผ่านผู้ชายมาเลยเหรอวะ’ช่องทางนั้นทั้งคับแน่น ทั้งตอดตุบ ดุ้นของคุณชายใหญ่เหมือนกับจะขาดแล้วติดค้างอยู่ข้างใน“แฮก ๆ อา” ดาวครางเสียงสั่น แม้ครั้งแรกจะไม่ยาก แต่น้ำหล่อลื่นในช่วงฮีทของโอเมก้านั้นหลั่งไหลเหมือนฝนตก มันช่วยให้การล่วงล้ำในสภาพนี้เกิดขึ้นได้“เป็นไงบ้างพี่เจียเหา ดีไหม” สองแฝดถามอย่างอยากรู้อยากเห็นเจียเหาพยักหน้า แล้วพอเริ่มตั้งต่อได้ ต่อจากนี้ก็ไม่มีอะไรหยุดอยู่ อัลฟ่าบ้ากามจับชายเสื้อของดาวิชไว้ ตามมาด้วยการกระแทกดุ้นกับก้นไม่ยั้งตับ ๆๆ พลัก ๆๆเพียะ ๆเสียงที่ว่าเกิดขึ้นเพราะสองแฝดที่ยังว่างงานเกิดอารมณ์เกินกลั้น จึงใช้ฝ่ามือหวดไปยังแก้มก้นขาวงอนจนเป็นปื้นแดง บางคนก็เอานิ้วแหย่เข้ามาในโพรงปาก ราวกับหากดุ้นยังไม่ได้เข้าไปในร่างกาย ขอเป็นส่วนอื่น
พอเข้ามาในห้องส่วนตัวและปิดประตูตามหลังแล้ว คุณชายมาเฟียร่างใหญ่เหมือนยักษ์ก็ปล่อยร่างบางลง ก่อนจะใช้มือกระชากคอเสื้อยกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว“อั๊ก” ดาวรู้ตัวเลยว่าร่างตัวเองถูกยกขึ้น แต่มันไม่หยุดแค่นั้น และตอนนี้ปลายเท้าไม่แตะพื้นแล้วด้วยด้วยความตกใจ เขาวางมือกุมมือใหญ่ที่คอเสื้ออีกที น้ำเสียงของเมียจ้างตื่นกลัว “อึก จะ…จะทำอะไรผม”เจียเหาแสยะปาก “มึงยังมีหน้ามาถาม ทำตัวบริสุทธิ์ไร้เดียงสาไปได้!”ส่วนสองแฝดพูดเกือบพร้อมกัน “แกก็รู้อยู่แล้วว่าเข้ามาที่นี่ในฐานะอะไร“อย่าทำอย่างนั้น ไม่เอา ฮือ”“ทำไม ไม่ชอบรึไง พวกเราเป็นถึงสามคุณชายตระกูลจางเลยนะโว้ย!”“ที่จริงแกควรนับว่าเป็นเกียรติด้วยซ้ำที่เราลดตัวลงมาเล่นกับของเล่นบ้าน ๆ อย่างแก”คราวนี้ดวงตาของเหยื่อของเล่นเกือบถลน เขาไม่คิดว่าพี่น้องตระกูลจางจะรักใคร่สามัคคีกับทุกเรื่องอย่างนี้ “สะ…สาม หมายถึงพร้อมกันสามคนเลยเหรอ”“ทำไม รับไม่ได้รึไง”“ในเมื่อแกก็รู้ตั้งแต่แรก อาเชาว์ก็บอกในห้องว่าแกต้องเป็นเมียของพวกเราทุกคน”“ครับ นั่นก็ถูก” ดาวเถียงไม่ออก“ตอนนี้ก็ถึงเวลานั้นแล้วไง”“แกแหละต้องเป็นคนรับให้ได้ สัญญาก็เซ็นไปแล้ว”“อ๊ะ คือว่าผม…” เ
ดาวิชรู้สึกตัวตื่นอีกทีในห้องนอนห้องหนึ่ง เขาเหลือบเห็นสายน้ำเกลือเสียบคาผิวที่หลังมือ ดูแล้วน่าจะเป็นห้องหนึ่งในคฤหาสน์ตระกูลจางนั่นล่ะความทรงจำก่อนหน้าคือกำลังเดินกลับมาที่โรงครัว แล้วภาพก็ตัดไปเลย สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เดาได้ว่าเขาอาจเป็นลมหมดสติไปดาวยันตัวลุกขึ้นจากที่นอนแล้วชะโงกมองไปที่โต๊ะข้างเตียง เขาเห็นกริ่งเรียกคนรับใช้ กับกระดาษเอสี่พับครึ่งที่มีข้อความเขียนด้วยลายมือตัวใหญ่ ราวกับจะบอกให้เขารู้เผื่อตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอใคร‘คุณดาวเป็นลมแถวโรงครัว พวกคุณชายเลยจัดให้หมอประจำตระกูลจางมาดูแลแล้วก็ให้น้ำเกลือค่ะ อ้อแล้วถ้าคุณดาวอยากได้อะไรกดกริ่งเรียกพี่โมได้เลยนะคะ’หนุ่มจากเมืองไกลอ่านข้อความแล้วไม่อยากเชื่อ‘พวกคุณชายจอมโหดเป็นห่วงกูด้วยเหรอวะ’แต่พออ่านจนจบก็แอบยิ้ม อย่างน้อยในคฤหาสน์กว้างใหญ่และโอ่อ่าที่เขามาเป็นเมียที่คุณชายมาเฟียร้ายทั้งสามไม่ต้องการ ก็ยังมีน้ำใจเล็ก ๆ เหมือนหยดน้ำในทะเลทรายอันอ้างว้างจากแม่บ้านแตงโม จากผู้ช่วยส่วนตัวที่ชื่อเดชอ้อ...แล้วก็ท่านปู่อีกคนสิ่งเหล่านั้นทำให้ดาวมีกำลังใจขึ้นมาพอได้นอนพักโอเมก้าก็รู้สึกแทบเป็นปกติแล้ว และตอนนี้ก็หิวด้วย พอมอง
พอมาอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลจาง อะไรที่ดาวไม่อยากรู้ก็ได้รู้ เป็นเสียงลือเสียงเล่าอ้างจากบรรดาบ่าวไพร่ว่า หลังจากเขามาอยู่ที่นี่ในฐานะเมียได้ไม่นาน สามคุณชายก็วางแผนให้เมียแต่งที่ไม่ต้องการทนอยู่ไม่ได้ จนเลือกเป็นฝ่ายไปจากที่นี่เองให้พ้น ๆและดูเหมือนข่าวลือจะเป็นจริง เพราะต่อจากนั้นดาวิชก็ถูกใช้ให้ทำงานอย่างหนัก ทั้งที่บางเรื่องไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ ตัวอย่างเช่น การทำความสะอาดคอกม้า ทั้งที่ในนั้นไม่มีม้าสักตัวคุณชายฝากให้บ่าวสักคนมาบอกดาวว่า‘ฉันจะบูรณะคอกม้าใหม่ แล้วว่าจะซื้อม้าตัวใหม่มาเลี้ยง แต่บ่าวไพร่คนอื่นมีงานล้นมืออยู่แล้ว เหลือแต่เธอคนเดียวแหละในบ้านนี้ที่ยังว่าง วัน ๆ เอาแต่เดินแกว่งแขนเล่นอยู่ได้!’เมียแต่งผู้ไม่ถูกยอมรับฟังแล้วฉุนกึก แต่คำพูดนั่นก็ไม่เกินจริง เพราะดาวเองก็ไม่มีอะไรทำในบ้านหลังนี้จริง ๆ นั่นละแต่สะใภ้ไร้ศักดินาอดกระหยิ่มใจไม่ได้ว่า สามคุณชายนี้ไม่รู้อะไรเสียแล้ว งานเป็นคนใช้ต่างหากคือความตั้งใจจริงแท้แต่แรกของเขา งานใช้แรงไม่ใช่สิ่งที่เขาหวั่นเลย‘สามคนนี้คิดจะใช้เรื่องนี้มาแกล้งงั้นเหรอ ไม่สำเร็จหรอก งานอย่างนี้ละคือความถนัดของเราเลย’ ดาวคิดในใจคนทำงานในคฤห
จากความประทับใจแรกพบที่ยอดแย่ เพียงไม่กี่วันต่อมาที่คฤหาสน์ตระกูลจาง ดาวมีโอกาสได้รู้จักบรรดาคุณชายมาเฟียทั้งสามมากขึ้น แต่เป็นในแง่มุมที่เลวร้ายลงกว่าเดิมเขาพบกับคนที่วันนั้้นใส่เชิ้ตขาวตัวใหญ่บนทางเดินจากห้องตัวเองไปห้องรับประทานอาหารโดยบังเอิญ ตอนนี้ดาวจำได้แล้วว่าคือจางเจียเหา เป็นพี่ชายคนโตทั้งคู่กำลังเดินสวนกัน ดาวิชไม่แน่ใจว่าจะทำตัวยังไงดี จึงหยุดแล้วได้แต่ทำตัวลีบกับผนังทางเดิน เพื่อเปิดโอกาสให้คนตัวใหญ่ไปก่อนแต่พอเดินมาในรัศมีเอื้อมถึง นิ้วมือใหญ่ของเจียเหากลับยื่นมาจิ้มเบา ๆ ที่หัวไหล่คนตัวเล็กจึก ๆแม้จะแค่ทำเบา ๆ แต่ก็ทำให้โอเมก้าร่างกระจ้อยร่อยอุทาน “โอ้ะ” ด้วยความตกใจ จากนั้นก็คลำที่หัวไหล่ป้อย ๆเจียเหาตวาดใส่ทันที “ถอยไป เกะกะทางจริง ๆ นังโอเมก้าซื่อบื้อ”“ขอ…ขอโทษครับ” ดาวว่าเขาก็หลีกทางให้แล้วนะแต่คุณชายใหญ่ยังไม่เลิกระราน“ไม่รู้หรือไงว่าคนใช้น่ะ มีทางเดินของตัวเอง อย่ามาสะเออะใช้ทางร่วมกับเจ้านายเด็ดขาดนะ ต่อไปนี้ห้ามแกมาเดินเพ่นพ่านในเรือนใหญ่ให้ฉันเห็น!” ประโยคสุดท้ายนั้นแทบเรียกได้ว่าตะโกนทีเดียวดาวอยากเถียงใจจะขาดว่า เขาเองก็อยากอยู่ที่เรือนคนใช้เพื่อควา
“คิดว่าน้ำหน้าอย่างแกจะเป็นเมียพวกเราได้งั้นเหรอ!”“โอเมก้าไร้สกุลอย่างเธอ ใครจะอยากได้ แค่เป็นนายบำเรอชั่วครั้งชั่วคราวก็เกินฝันแล้ว!”น่าแปลกที่ก่อนหน้านี้คำพูดเสียดแทงเหล่านี้ไม่ได้รบกวนเขาสักเท่าใดนัก แต่ในขณะที่ดาวกำลังกวาดคอกม้าอย่างขะมักเขม้นคำพูดเสียดแทงพวกนั้นมันย้อนมา อาจเป็นเพราะสิ่งที่เขากำลังทำอยู่–การทำความสะอาดคอกม้า ได้กระตุ้นให้หวนนึกถึงการกดขี่จากคนที่คิดว่าตัวเองอยู่สูงกว่าใครโอเมก้าหนุ่มน้อยไม่อยากเชื่อเลยว่าชีวิตนี้จะได้มีโอกาสทำความสะอาดคอกม้า ตอนนี้ไม่มีม้าอยู่ในคอกหรอก แต่เขารู้มาว่าแต่ก่อนเคยมี นับเป็นบุญเหลือเกินที่ชาตินี้ได้ทำความสะอาดคอกที่ว่างเปล่าแห่งนี้สักครั้งดาว หรือดาวิช เขาเป็นโอเมก้าวัยเพียงสิบเก้าเท่านั้น บ้านเกิดอยู่สงขลา และเขาตัดสินใจเข้ากรุงเทพฯ เพื่อทำงานทั้งที่จบแค่ระดับมัธยมนั่นเพราะความจำเป็นเรื่องเงินของที่บ้าน ที่บ้านของหนุ่มน้อยมีหนี้สินอันเกิดจากการทำประมงพื้นบ้านของพ่อกับแม่ แค่นั้นยังไม่หนำใจ เมื่อต้นปีที่ผ่านมาพ่อของเขาป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะที่สอง ส่วนแม่ ดวงตาของแม่เป็นต้อระยะเริ่มต้น หากปล่อยไว้นานกว่านี้ตาจะบอดแม้อาการเจ็บป่วยร