ความไม่พร้อมของร่างกาย และความสดใหม่ของหญิงสาว ทำให้ภากรไม่อาจรุกล้ำได้อย่างใจ แต่ความอ่อนนุ่ม และเรือนกายหอมกรุ่นของเธอปลุกเร้าให้เขาอยากจนแข็งขึงแทบระเบิด พอเธอดิ้น เขาก็หงุดหงิด
ภากรจับใต้ข้อพับขาสองข้างแยกถ่าง แล้วกดหัวเข่าขาวลงบนที่นอน บั้นท้ายอวบอัดลอยโด่ง กลีบเนื้อสาวแยกแย้มเปิดเปลือย เขาก้มมองตาเป็นประกาย
ภากรกดหัวเข่าลงข้างบั้นท้ายอวบ ขยับบั้นเอวเพื่อจะสอดใส่ตัวเองเข้าไปในร่องรัก แต่ก็ไม่อาจทำได้ดั่งใจ
“แม่งเอ๊ย !” คนหงุดหงิดสบถอย่างหัวเสีย เธอไม่พร้อมและร่องรักก็คับแน่นเกินไปจนเขาไม่อาจผลักส่งลำกายแข็งขึงเข้าไปได้
ภากรจึงเปลี่ยนท่า เขาจับขาขาวหุบเข้าหากัน ยกสองขาของเธอขึ้นแล้วกดลงไปข้างหน้าจนหัวเข่าแนบกับเต้าอวบอิ่ม กลีบเนื้อหนีบแน่นปลิ้นล้นออกมาหลังซอกขา เขาขยับเข้าประชิด เสือกไสลำกายอวบยาวกลางซอกขาที่หนีบแน่น แล้วขยับบั้นเอวเสียดสีแก่นกายบดขยี้เนื้อนวลเพียงภายนอก แต่แค่นั้นก็ทำให้คนที่ถูกเขากระทำหวาดกลัวจนน้ำตาไหลไม่หยุด
กายสาวเขยื้อนไปตามแรงสาดส่งมหาศาล แม้ไม่สอดใส่ แต่ลำกายแข็งขึงร้อนผ่าวก็เสียดสีรุนแรงจนเธอเจ็บแสบ ไม่มีความหวามหวาน ไม่เสียวซ่านหวามไหวเหมือนที่เคยอ่านในนิยายเลย
ไข่มุกหลับตาลง ยอมจำนนให้เขาทำทุกอย่างตามแต่ใจ รองรับเอาความรุนแรงที่เขาโหมกระหน่ำเข้าใส่ทั้งน้ำตา กว่าเขาจะพอ กว่าเขาจะหยุด กว่าเขาจะถึงจุดปลดปล่อย เธอก็แทบกลั้นใจตาย…
เจ้าบ่าวของเธอหลับไปแล้ว เขาหลับไปหลังจากปลดปล่อยหยาดน้ำกามสีขาวรินรดบนร่างกายเธอ
ไข่มุกนอนสะอื้นไห้อยู่ในอ้อมกอดของเขา อ้อมกอดที่ไม่ได้กอดเพราะรัก แต่กอดเพราะต้องการกักกันเธอไว้ คำพูดสุดท้ายก่อนที่เขาจะหลับยังก้องอยู่ในหู
“อย่าคิดว่าพี่ทำไปเพราะพิศวาสเธอนะ ผู้ชายเอากับใครก็ได้ ไม่จำเป็นต้องรัก”
...ดึกดื่นเงียบงัน เสียงสะอื้นของเจ้าสาวที่เจ้าบ่าวไม่ได้เลือกเงียบไปแล้ว เหลือเพียงร่องรอยคราบน้ำตาเปรอะเปื้อนแก้มเนียน ดวงตาคู่สวยพริ้มหลับไปนานแล้ว เธอหลับอยู่ในอ้อมกอดของคนที่เธอรัก แต่เขาไม่เคยรักเธอเลย
2 คนไม่ใช่ ทำอะไรก็ผิด
แม้ค่ำคืนที่ผ่านมา ไข่มุกจะเจ็บปวดรวดร้าวทั้งร่างกายและจิตใจอย่างแสนสาหัส แต่เธอยังคงตื่นแต่เช้าตรู่เหมือนเดิม เพราะตั้งแต่แม่เริ่มสอนให้เธอหุงหาอาหาร และทำงานบ้านงานเรือนเป็น ไข่มุกก็แบ่งเบาภาระพวกนี้ช่วยแม่ ทุกเช้าเธอจะตื่นขึ้นมาเตรียมมื้อเช้าสำหรับทุกคนในบ้าน วันนี้เธอจึงตื่นเวลาเดิม เพียงแต่เช้านี้แตกต่างไปจากวันก่อน ๆ ตรงที่ เธอตื่นขึ้นมาบนเตียงหลังใหม่ ในอ้อมกอดของผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามี
แม้จะลืมตาตื่นแล้ว แต่ไข่มุกยังไม่กล้าขยับตัว เพราะกลัวว่าเจ้าของอ้อมแขนที่โอบกอดเธอไว้แนบอกอุ่นจะรู้สึกตัวตื่นด้วย
แผ่นหลังเนียนเปลือยเปล่าแนบไปกับอกกว้าง ไออุ่นจากเรือนกายแกร่ง วงแขนจากอ้อมกอดสามีไม่ได้ทำให้เธออบอุ่นใจสักนิด สิ่งที่เขาทำกับเธอเมื่อคืนทำให้ไข่มุกหวาดกลัว เธอนอนหลับไปพร้อมกับความหวาดระแวงทั้งคืน พอรู้สึกตัวตื่นยามเช้า ไข่มุกจึงไม่กล้าขยับ เพราะกลัวเขาจะตื่นมาทำแบบนั้นกับเธออีก
เมื่อชั่งน้ำหนักในใจดูแล้ว ไข่มุกพบว่า ความกลัวเขาตื่นกับความอยากลุกไปจากเตียงมีเท่ากัน
แต่ถ้าเธอยังนอนอยู่ตรงนี้ แล้วเขาตื่นขึ้นมา เขาก็อาจจะทำแบบเมื่อคืนอีก เพราะไม่ว่าอย่างไร อีกไม่นานเขาก็ต้องตื่นอยู่แล้ว แต่หากเธอลุกไปจากเตียงได้โดยที่เขาไม่ตื่น เธอก็จะออกไปจากห้องนี้ได้อย่างปลอดภัย
ไข่มุกเม้มปากแน่นและกลั้นหายใจ ในตอนจับแขนที่พาดเอวบางออกไปจากตัว เธอค่อย ๆ ไถลตัวลงไปทางปลายเตียง โดยเคลื่อนไหวช้า ๆ และเงียบที่สุด พอลุกขึ้นนั่งได้ ไข่มุกก็รีบหยิบหมอนมาวางแทนที่ตัวเอง แล้ววางแขนสามีพาดลงบนหมอน
หลังจากจัดแจงท่าทางให้เขาเสร็จแล้ว ไข่มุกนั่งนิ่งมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง พอเห็นว่าคนตัวโตยังคงหลับตาอยู่ดังเดิม หญิงสาวถึงลงจากเตียง
ไข่มุกใช้ปลายเท้าเดิน แต่ละย่างก้าว เธอพยายามเดินให้เบาที่สุด เธอเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบเอาเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัว เมื่อได้ของที่ต้องการครบ ก็ซอยปลายเท้าเร็วเดินเข้าห้องน้ำไป
พอปิดประตูห้องน้ำและล็อกเรียบร้อย ไข่มุกก็พิงหลังกับบานประตู เธอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะรีบจัดการทำธุระส่วนตัว ในใจก็หวังว่า เขาจะยังไม่ตื่นจนกว่าเธอจะแต่งตัวเสร็จและออกไปจากห้องแล้ว
เมื่อได้ยินเสียงประตูห้องน้ำปิดลง คนที่ตื่นนานแล้วจึงลืมตาขึ้น เขามองบานประตูห้องน้ำด้วยสายตาดุ และถอนหายใจแรงอย่างหงุดหงิด
ภากรจับหมอนที่ภรรยาเอามาให้กอดโยนลงบนพื้นห้อง ร่างสูงใหญ่พลิกตัวนอนตะแคงหันไปอีกทาง ไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากรับรู้ว่า เช้านี้เขาตื่นมาบนเตียงที่มีภรรยาที่เขาไม่เคยต้องการนอนอยู่ด้วย
ภากรยังไม่อยากลุกไปไหน ยังไม่จากเจอหน้าใคร เขาขอหลับต่ออีกสักหน่อย ถ้าเป็นไปได้ อยากให้พอตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เรื่องบ้าบอห่าเหวที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะเป็นเพียงแค่ฝันไป
"แม่แก้วมีอะไรให้มุกช่วยไหมคะ" แม่แก้วหันไปมองคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในครัว ท่านมองสะใภ้ใหม่ด้วยความแปลกใจ"ทำไมตื่นเร็วจังล่ะมุก นอนต่ออีกสักหน่อยก็ได้นะลูก" แม้งานแต่งงานของไข่มุกกับลูกชายคนเล็กของแม่แก้วจะเป็นงานเล็ก ๆ แต่ท่านคิดว่า คนเป็นเจ้าสาวน่าจะเหนื่อยและเพลียไม่น้อย ดังนั้นเช้าแรกหลังวันแต่งงาน ลูกสะใภ้ของท่านน่าจะนอนหลับพักผ่อนให้มากหน่อย"มุกตื่นเวลานี้ประจำค่ะ พอตื่นแล้วก็นอนไม่หลับ แม่แก้วให้มุกช่วยทำกับข้าวนะคะ" ไข่มุกว่าพลางเดินเข้าไปใกล้เคาน์เตอร์ที่แม่แก้วกำลังเตรียมวัตถุดิบปรุงอาหารอยู่"แม่แก้วจะทอดปลาสลิดเหรอคะ"“ใช่จ้ะ แม่จะทำข้าวปลาแกะ กับแกงจืดฟักใส่หมูสับ”“มุกช่วยทำแกงจืดนะคะ” ไข่มุกอาสาอย่างกระตือรือร้นแม่แก้วยิ้มอ่อนโยนแล้วพยักหน้าพอได้ทำกับข้าวช่วยแม่แก้ว ไข่มุกก็รู้สึกดีขึ้น เพราะไม่ต้องคิดถึงเรื่องที่ถ่วงให้ใจหนักอึ้งอยู่ตอนนี้แม่แก้วและคนในครอบครัวนี้ดีกับเธอมาก...เมื่อก่อนพี่กรก็เคยดีกับเธอพอทำกับข้าวเสร็จ พ่อวัตก็ลงมาที่โต๊ะรับประทานอาหารซึ่งอยู่หน้าห้องครัวเป็นคนแรก ไข่มุกตักข้าวใส่จานและจัดจานข้าวโดยวางปลาสลิดทอดที่แกะก้างแล้วลงในจานข้าว ชิ้นปลาส
“กร !” แม่แก้วอยากจะเอ่ยปากต่อว่าลูกชายอีกหลายอย่าง แต่ก็ต้องหยุดไม่พูดต่อ เพราะคนที่ลุกไปตักข้าวเดินกลับมาที่โต๊ะ ไข่มุกถือถาดที่มีจานข้าวจัดสวยงามกับถ้วยแกงจืดฝีมือตัวเองเข้ามายืนใกล้สามี หญิงสาววางถาดลงบนโต๊ะ แล้วหยิบจานข้าววางลงตรงหน้าเขา “พี่ไม่กินฟักทอง” ภากรบอกเสียงแข็ง เขาเงยหน้ามองคนที่ยังจับจานไว้ด้วยสายตาดุ ไข่มุกหน้าเสีย หญิงสาวกำลังจะยกจานข้าวกลับไปจัดการเอาฟักทองออกให้เขา แต่พ่อวัตก็ขัดขึ้นก่อน “ไม่กินก็ไม่ต้องกิน เอาไว้ในจานแบบนั้นแหละ วางจานข้าวลงแล้วกลับไปกินข้าวต่อเถอะน้องมุก” ไข่มุกหันไปมองหน้าพ่อสามี พ่อวัตพยักหน้าและยิ้มอ่อนโยนให้เธอ “กินข้าวเถอะมุก ใครไม่กินอะไรก็จัดการตัวเองแล้วกัน อุตส่าห์ทำให้แล้วเอามาเสิร์ฟถึงที่ ยังจะเรื่องมากอีก” แม่แก้วว่าแล้วมองค้อนลูกชาย พอได้รับเสียงสนับสนุนสองเสียง ไข่มุกจึงเชื
หลังจากย้ายมาอยู่บ้านใหม่ได้ราวสิบปี พ่อกวีตัดสินใจเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด เป็นปีเดียวกับที่มรกตเรียบจบปริญญาตรี พ่อกวีลาออกมาใช้ชีวิตเรียบง่ายกับลูกเมีย แต่แม้ไม่ได้ทำงานแล้ว พ่อกวีก็ยังมีรายได้จากการให้เช่าที่ดินมรดกที่อยู่ต่างจังหวัดหลายแปลง และมีรายได้จากการลงทุนหลายอย่าง เพราะท่านวางแผนการเกษียณมาอย่างดี ท่านจึงสามารถเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียให้อยู่ดีกินดีได้อย่างสบาย ๆหลังจากช่วยกันขนของช่วยกันจนเสร็จเรียบร้อย ทั้งสองครอบครัวก็รับประทานอาหารเที่ยงด้วยกันที่บ้านของไข่มุกพอกินมื้อเที่ยงเสร็จ พ่อวัตกับแม่แก้วขอตัวกลับบ้านก่อน ส่วนไข่มุกอยู่พูดคุยกับพ่อ แม่ และพี่สาวเป็นครั้งแรกที่ทั้งครอบครัวได้จับเข่าคุยกันจริงจัง หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะหลังจากคืนก่อนนั้น ไข่มุกต้องเข้าพิธีแต่งงานกับภากร ทุกคนจึงวุ่นวายกับการจัดงาน จึงยังไม่ได้มีเวลาพูดคุยกันแม่บุษรานั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก โดยมีลูกสาวทั้งสองนั่งขนาบข้าง พ่อกวีนั่งที่เก้าอี้ใกล้โซฟา คนเป็นพ่อนั่งฟังอยู่เงียบ ๆ ปล่อยให้แม่ลูกคุยกันตามประสาผู้หญิง“กตไม่อยากจมอยู่กับอดีตค่ะ
ภริดาเพิ่งควักเงินเก็บครึ่งหนึ่งซื้อคอนโดมิเนียมหรูใกล้ร้านอาหารของเธอ เธอซื้อเงินสดเพราะไม่อยากเสียดอกเบี้ยเงินกู้ จะว่างก เธอก็ยอมรับ แม้จะเสียดายเงินก้อนโต แต่เพื่อความสะดวกในการทำงาน และเธอเองจะได้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น เธอจึงยอมจ่าย ในส่วนเงินเก็บที่เหลือจากการซื้อคอนโด ครึ่งหนึ่ง เธอแบ่งไปลงทุนในแหล่งที่ไม่มีความเสี่ยง และอีกครึ่ง เธอนำไปลงหุ้นในแหล่งที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็ให้ผลตอบแทนสูงเช่นกัน ในส่วนการลงทุนที่มีความเสี่ยงนี้ เธอให้บริษัทแนะนำการลงทุนเป็นคนจัดการให้ ดังนั้น...ตอนนี้เธอจนจริง ๆ นะ นี่ก็ต้องทำงานหัวหกก้นขวิด เพื่อหาเงินมาเติมส่วนที่พร่องไป“เลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก โตจนหมาเลียก้นไม่ถึงแล้ว ยังจะให้เลี้ยงอีก”“ก็คุณพ่อรวยกว่าดา ไม่รู้ล่ะ มื้อนี้คุณพ่อจ่ายนะคะ”พ่อวัตกอดอก แล้วถอนหายใจ“เหม็นสาบคนจน เลี้ยงก็ได้”ภริดายิ้มแก้มปริ พอรถจอดติดสัญญาณไฟแดง เธอก็หันไปยิ้มแฉ่งให้บิดา“คุณภวัตสุดหล่อน่ารักที่ซู้ดดด”แม่แก้วถอนหายใจใส่คนเป็นพ่อ ไม่ว่าอย่างไรคุณภวัตก็ไม่เคยทนลูกอ้อนของลูกสาวได้สักที แม้ภริดาจะโตเป็นผู้ใหญ่ ทำงานหาเงิน และรับผิดชอบตัวเองได้เป็นอย่างดีแล้ว แต่เวลาอยู
หลังจากขนของลงจากรถเสร็จแล้ว แม่แก้วก็บอกให้ทุกคนไปอาบน้ำอาบท่าแล้วพักผ่อนกันได้เลย พรุ่งนี้ค่อยมาช่วยกันแกะกล่อง และจัดของอีกทีคนอื่นก็เดินขึ้นบ้านเข้าห้องไปตามปกติ แต่คนที่ต้องเข้าไปเจอหน้าสามีที่เพิ่งเข้าหอด้วยกันครั้งแรกเมื่อคืน และเป็นคืนเข้าหอที่ไม่น่าจดจำเท่าไร ยังคงยืนลังเลอยู่หน้าประตูห้อง เธอใช้เวลาครู่ใหญ่ กว่าจะรวบรวมความกล้าได้มากพอที่จะเคาะประตูห้องหลังจากเคาะประตูห้องแล้ว ไข่มุกก็แทบกลั้นหายใจ ขณะที่รอเขามาเปิดประตูให้พอประตูห้องเปิดออก ไข่มุกก็ก้มหน้า ไม่กล้ามองสบตาเขา“ขอบคุณค่ะ”“ไม่มีมือเปิดเองหรือไง ทำไมต้องเคาะประตู”“เอ่อ...” ก็เธอเคาะประตูตามมารยาทที่ควรทำไง ถึงแม้ห้องนี้จะเป็นห้องหอของเธอกับเขา แต่เธอไม่รู้ว่าเขาที่อยู่ในห้องกำลังทำอะไรอยู่ พร้อมที่จะให้เธอเข้าไปในห้องหรือเปล่า เธอก็ต้องเคาะเพื่อขออนุญาต และรอเขามาเปิดให้“ทีหลังไม่ต้องเคาะ อยากเข้าก็เข้ามา หรือถ้าชอบเคาะ ก็เคาะไป แล้วก็เปิดประตูเอง ไม่ต้องรอให้พี่มาเปิด มันน่ารำคาญ”“ค่ะ” ไข่มุกรับคำแล้วก้มหน้าเดินตามเขาเข้าไปในห้องเพราะเดินก้มหน้า และไม่มองเขา ไข่มุกจึงไม่รู้ภากรเดินไปมุมไหนของห้อง ส่วนเธ
“มุกต้องทำยังไงต่อคะ”หากไข่มุกไม่ถาม คนที่เอาแต่มองเรือนร่างเปล่าเปลือยของเธอก็คงยังมองอยู่อีกนาน“ขึ้นมาบนเตียงสิ แล้วนอนอ้าขาให้พี่เอา”ไข่มุกเม้มปากแน่น จุกในอกอย่างบอกไม่ถูก เธอกำลังจะได้ทำหน้าที่บนเตียงในฐานะเมีย แต่สำหรับเขา เธอก็แค่คนที่เขาใช้ปลดปล่อยความต้องการทางเพศ...ไม่ต่างจากหญิงขายบริการไข่มุกคลานขึ้นเตียงไปนอนลงกลางเตียง เธอตะแคงหน้าหันมองไปอีกทาง เพราะไม่กล้าสบตาคมดุ ไข่มุกใช้แขนและมือข้างซ้ายปิดเต้านมสองข้าง และวางมือข้างขวาลงตรงกึ่งกลางหว่างขา แถมยังหนีบขาไว้แน่น“ปิดทำไม ถ้าไม่อยากให้ทำก็ลุกขึ้น ขนของกลับบ้านไป”เสียงเข้มดุของคนที่นั่งมองเรือนกายสาวอยู่ทำให้ไข่มุกค่อย ๆ เลื่อนสองแขนวางลงข้างลำตัว ความหวาดหวั่นและตื่นกลัวทำให้ไข่มุกหอบหายใจแรง ทรวงอกสะท้อนขึ้นลง เต้าสาวกระเพื่อมไหว เม็ดเนื้อนุ่มสีชมพูบนยอดเต้าเต่งตึงหดแข็งภากรกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เรือนกายขาวนวลและเย้ายวนของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียกระตุ้นความต้องการทางเพศอย่างรุนแรง ท่าทางขัดเขินไร้เดียงสาของไข่มุกยิ่งทำให้เขาอยากรังแกเธอ“อ๊ะ !” ไข่มุกอุทานตกใจเมื่อร่างสูงใหญ่ขยับมาคร่อมทับเธออย่างรวดเร็ว ห
ภากรเก็บกลืนหยาดน้ำหวานสาวจนเกลี้ยง เขาจูบกลางกลีบเนื้อนวลหนัก ๆ แล้วปาดเลียบางเบา แต่เพียงบางเบา ร่างสาวก็สั่นกระตุก เจ้าของเนื้อนวลที่ถูกเขาฉกชิมรสชาติครางเสียงหวานเซ็กซี่ อาการตอบสนองของไข่มุกทำให้ภากรยิ้มในหน้าภากรปล่อยขาเรียววางลงบนที่นอน เขาถอดอาภรณ์ที่ปกปิดช่วงล่างของตนออกจนหมด ขณะที่จัดการกับตัวเอง ตาคมก็ไม่ละสายตาไปจากคนที่นอนหอบหายใจแรงเพราะเพิ่งผ่านจุดสุขสมมาเมื่อครู่เมื่อสองกายเปล่าเปลือยเท่าเทียม คนตัวโตก็โน้มตัวลงมาทาบทับร่างสาวอีกครั้ง เขาวางสองมือค้ำยันตัวเองไว้ข้างศีรษะของเธอ ใช้หัวเข่าดันแยกต้นขาขาวให้กางออก แล้วกดตัวตนความเป็นชายนาบลงไปกลางกลีบเนื้อนวล กดเน้น ๆ แล้วขยับบั้นท้ายช้า ๆ ให้ลำกายแข็งกร้าวบดขยี้จุดที่ไวต่อสัมผัส ตาคู่คมจับจ้องดวงหน้าสาว แววตาเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย“อื๊อ...” ไข่มุกขยุ้มผ้าปูที่นอนเต็มสองมือ แอ่นบั้นท้ายขยับส่ายร่อนร้อนรน ซอกสาวร้อนวูบวาบ ร่องรักคัดหลั่งน้ำหวานออกมาจนเปียกเปื้อนเต็มซอกขา ทั้งยังชโลมลำกายแกร่งจนมันวาวภากรลดตัวลงนาบกับเรือนกายนุ่ม เขาเสียเวลาเพียงนิดในตอนที่ยื่นมือไปเปิดลิ้นชักโต๊ะเล็กข้างหัวเตียง หยิบซองถุงยางอนามัยออกม
ภากรเดินไปเปิดประตูเสื้อผ้าแล้วหยิบชุดทำงานออกมา พอเขาหยิบกางเกงในขึ้นมาสวมอย่างไม่เกรงใจสายตาใครอีกคนที่มองเขาอยู่ คนมองจึงรีบก้มมองตักตัวเองบรรยากาศยามเช้าในห้องของคู่ข้าวใหม่ปลามันช่างอึมครึม ทั้งที่เมื่อคืนเขากับเธอกอดก่ายแนบชิด ร่วมรักกันอย่างดุดันเร่าร้อนตั้งหลายครั้ง แต่พอตื่นเช้ามา เขาก็ทำราวกับว่า เธอไม่มีตัวตนอยู่ในห้องนี้ภากรใช้เวลาเพียงครู่เดียวก็แต่งตัวเสร็จ เขาเดินไปหยิบโทรศัพท์ กุญแจรถ กระเป๋าโน้ตบุ๊ก แล้วเดินไปเปิดประตูห้องเสียงเปิดประตูทำให้ไข่มุกเงยหน้าขึ้นมอง หญิงสาวจึงเห็นว่า สามีสวมชุดทำงาน เธอเห็นแค่ด้านหลังของเขา และเห็นเพียงแวบเดียว ก่อนเขาจะดึงประตูห้องปิดลงไข่มุกถอนหายใจบางเบา ค่อย ๆ ขยับตัวลงจากเตียง พอลุกขึ้นยืนข้างเตียงแล้วหันกลับไปมองร่องรอยที่เขากับเธอร่วมกันทำไว้เมื่อคืน ไข่มุกก็ต้องเม้มปากแน่นผ้าปูที่นอนสีชมพูมีจุดสีแดงอยู่กลางเตียง...ก็จริงอยู่ที่คุณค่าของผู้หญิงไม่ได้วัดกันที่เยื่อพรหมจรรย์ แต่มันจะดีกว่าไหม ถ้าคนที่ได้มันไปจากเธอจะทะนุถนอม และจะโอบกอดปลอบโยนเธอสักนิดหลังจากที่เขาเสร็จสมไปห้าครั้งเมื่อคืนพี่กรนอนหันหลังให้เธอทันทีหลังจากปลดปล่
“ดา...ไปนั่งได้แล้ว ผมจัดการเอง” เวทิศบอกเสียงดุ เพราะคนท้องโตใกล้คลอดพยายามจะช่วยเขาเสิร์ฟน้ำ ภริดาทำปากยื่นใส่คนดุ แต่ก็ยอมไปนั่งตามที่เขาบอก เธอนั่งลงข้างแม่แก้ว พอนั่งแล้วก็ถอนหายใจแรง เพราะท้องแก่ใกล้คลอดเต็มที เดินนิดหน่อยก็เหนื่อยแล้ว “เขาบอกอะไรก็เชื่อฟังบ้าง อย่าดื้อให้มันมาก ไม่ได้ตัวคนเดียวเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะเรา” “ดาก็ทำตามแล้วนี่ไงคะ ใครจะกล้าขัดใจลูกเขยขวัญใจมาดามแก้วกันล่ะคะ” ดูสิ...เจ้าเด็กบ้าของเธอในวันวานเดี๋ยวนี้กลายเป็นลูกเขยขวัญใจพ่อกับแม่ไปแล้ว ไม่ว่าเขาจะทำหรือพูดอะไร พ่อกับแม่ก็เข้าข้างเขาไปเสียหมด พ่อบอกเธอว่า เธออายุมากกว่าเขาแท้ ๆ แต่เขากลับวางตัวได้น่าเชื่อถือและดูโตเป็นผู้ใหญ่กว่าเธอเสียอีก แม่แก้วส่ายหน้ายิ้ม ๆ ท่านวางมือลงบนท้องกลมโตของลูกสาว แล้วบอกกับหลานในท้องของลูกสาวว่า “ตาหนูของยาย พอคลอดออกมาแล้วต้องมาดูแล
“มุก มะ...มันขึ้น...สองขีด” คนที่ถือแท่งตรวจอยู่ในมือลืมตาขึ้นทันทีที่สามีบอก พอเห็นผลการตรวจขึ้นสองขีด เธอยิ้มหวานสดใส แต่ยิ้มของเธอก็ต้องหุบฉับลงทันที เมื่ออยู่ดี ๆ สามีก็ยืนโงนเงน เธอรีบโอบกอดประคองเขาไว้ แล้วค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งพร้อมกับเขา “พี่กร !” “มุก ! มุกล่ะครับแม่ เมียผมอยู่ไหน” แม่แก้วถอนหายใจ แล้วส่ายหน้า หมั่นไส้พ่อคนถามหาเมีย ทั้งที่ตัวเองยังเอาตัวไม่รอด “มุกอยู่นี่ค่ะพี่กร” ไข่มุกถือกะละมังใบเล็กที่มีผ้าชุบน้ำออกมาจากห้องน้ำ แล้วเดินไปนั่งริมเตียงคนละฝั่งกับแม่แก้ว พอเมียนั่งลงข้าง ๆ ภากรก็รีบลุกขึ้นนั่ง เขาจับมือนุ่มข้างหนึ่งมากุมไว้ “มุก...เดินไปเดินมาทำไม ต่อไปนี้มุกไม่ต้องทำอะไรแล้วนะ ต้องนั่งอยู่เฉย ๆ” ไข่มุกมองหน้าแม่แก้วแล้วยิ้ม
ภากรไม่ให้เวลาเมียได้ปรับตัวรับเอาความใหญ่ที่เขาเพิ่งสอดใส่เข้าไปกายเธอ เขาขยับบั้นเอวขับเคลื่อนลำกายแกร่งกระแทกแทงใส่ความอุ่นนุ่มอย่างบ้าคลั่ง เธอคับแน่นและรัดรึง ทั้งยังนุ่มลื่นจนเขาไม่อาจอดใจถนอมออมแรงได้ แรงรักจึงถูกสาดส่งเข้าหากายสาวอย่างดุดันรุนแรง ลำกายอวบยาวขับเคลื่อนเข้าออกถี่ยิบ ทุกครั้งที่สอดประสาน แรงโถมถั่งนั้นหนักแน่น แก่นกายสอดใส่ล้ำลึกสุดทาง “พี่กร...อ๊า ๆ” ไข่มุกกอดลำคอแกร่งไว้แน่น เธอแทบไม่ต้องขยับโยกออกแรงเลย เพราะสามีขยับบั้นเอวโจนจ้วงใส่เธออย่างรุนแรง จนร่างกายสั่นกระเทือน ทุกจังหวะการสอดใส่ ทุกครั้งที่เขาเข้ามาในกายเธอจนลึกสุด ไข่มุกเสียวจนหวีดร้องเสียงหลง ยิ่งปลายทางสุขสมใกล้เข้ามา ไข่มุกก็ยิ่งเสียวจนไม่อาจควบคุมตัวเองได้ “พี่กรขา...จะเสร็จแล้ว อื๊อ !” ไข่มุกขยับบั้นเอวขย่มลงสวนทางกับลำกายแกร่งที่โถมถั่งกลางซอกขา สองกายขยับรับส่ง สอดประสานถี่กระชั้น “มุกจ๋า
ภากรเหลือบตามองพี่สาวและคุณพ่อผ่านกระจกหลังแล้วยิ้มอ่อนโยน ดูท่าทางไอ้เด็กคนนั้นคงจะดีใช้ได้ พี่สาวของเขาจึงยอมที่จะพามาหาคุณพ่อ ถ้ามันดีจริง ๆ เขาก็ดีใจกับพี่ แต่ถ้ามันร้าย เขาจะเป็นคนจัดการมันเอง ภากรดึงสายตากลับไปมองถนนเบื้องหน้า ก่อนจะปรายตามองคนที่นั่งเคียงข้างกัน ไข่มุกหันไปมองสบตาสามี เธอยิ้มหวานให้เขา สายตาอบอุ่นของพี่กร ทำให้ไข่มุกรู้สึกว่า ตัวเองเป็นผู้หญิงที่โชคดีคนหนึ่ง ไม่ได้โชคดีที่มีสามีที่รักและเอาอกเอาใจเธอเท่านั้น แต่เธอยังโชคดีที่ได้อยู่ในครอบครัวอบอุ่นที่ทุกคนรักและเข้าใจกัน “พี่กร...เดินดี ๆ สิคะ” ไข่มุกบอกพลางประคองสามีเดินเข้าประตูห้องนอน งานเลี้ยงฉลองเล็ก ๆ มื้อค่ำที่ผ่านมาไม่เล็กอย่างที่คิด เพราะพอเพื่อนของพี่กรรู้ว่า พี่กรจดทะเบียนสมรสกับเธอแล้ว เพื่อนพี่กรก็ยกโขยงมาร่วมแสดงความยินดีด้วย แถมยังสั่งอาหารมาเพิ่ม พร้อมกับเ
ไข่มุกมองค้อนคนหื่น แต่ก็ยอมพยักหน้ารับข้อเสนอของเขา เพราะมันน่าจะดีกว่ายอมให้เขาจูบอีกครั้ง “ก็ได้ค่ะ” พอข้อเสนอได้รับการตอบรับภากรก็รีบหอมแก้มเนียนฟอดใหญ่ คนถูกหอมแก้มองคนฉวยโอกาสด้วยสายตาดุ แต่คนที่ได้ชื่นใจด้วยการหอมแก้มน้องกลับยิ้มกว้าง “หอมแค่นี้เอง อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับ เอางี้ ๆ เดี๋ยวพี่พาออกไปหาคนที่จะช่วยฝึกงานให้มุกนะครับ ว่าแต่มุกอยากทำแผนกไหนหรือครับ” ไข่มุกส่ายหน้า “วันนี้มุกขอนั่งอยู่ในห้องพี่กรได้ไหมคะ” คิ้วเข้มขมวดมุ่น มองเมียอย่างไม่เข้าใจ ก็เมื่อกี้เธอเพิ่งพูดว่าอยากทำงานนี่นา แล้วทำไมตอนนี้ถึงเปลี่ยนใจ ไข่มุกมองค้อนสามี “มุกไม่กล้าออกไปเดินในออฟฟิศหรอกค่ะ มุกกลัวเจอพี่อชิกับพี่ธันวา ถ้าเจอกันในวันนี้อีกครั้ง มุกคงทำหน้าไม่ถูก เอาไว้วันพรุ่งนี้ค่อยทำงานได้ไหมคะ” ภากรยิ้ม
ภากรกอดเอวบางไว้หลวม ๆ เขาพยักหน้ายิ้ม ๆ “พี่กรต้องสัญญามาก่อนว่า ถ้ามุกเติมพลังให้พี่กรแล้ว พี่กรจะยอมให้มุกออกไปทำงานกับพี่ ๆ ในออฟฟิศ ไม่ใช่ให้มุกมานั่งอยู่เฉย ๆ ในห้องแบบนี้” คนอยากให้เมียอยู่ใกล้ ๆ ถอนหายใจ “ไม่เห็นต้องทำงานก็ได้ ยังไงพี่ก็ประเมินให้เมียผ่านอยู่แล้ว” “แต่มุกไม่อยากให้เป็นแบบนั้น มุกอยากเรียนรู้งานกับคนอื่นบ้าง” “เมียพี่ พี่สอนเองได้” คราวนี้ไข่มุกเป็นฝ่ายถอนหายใจบ้าง “แล้วคนอื่นเขาก็จะมองมุกไม่ดี เขาจะหาว่ามุกใช้เส้นสาย ใช้อภิสิทธิ์ความเป็นภรรยาของบอส เลยผ่านการฝึกงาน ทั้ง ๆ ที่วัน ๆ มุกไม่ได้ทำอะไรเลย” “ไม่รู้จะฝึกงานไปทำไม เรียนจบแล้ว พี่ก็ไม่ให้มุกทำงานหรอก” ไข่มุกปล่อยมือจากลำคอแกร่ง หญิงสาวประคองใบหน้าหล่อเหลาของสามีไว้ในสองมือ มองสบตาคมด้วยแววตาจริงจัง
ถามว่า ไม่กลัวเขาจะไปมีคนอื่น หรือผู้หญิงคนอื่นมาจดทะเบียนสมรสตัดหน้าเธอไปหรือ ก็ต้องตอบว่า...ไม่กลัว เพราะที่ผ่านมาหนักหนาจนเธอเข้มแข็งขึ้นมาก และมั่นใจว่า หากผู้ชายคนหนึ่งที่ปากบอกว่ารักเธอ แต่ลับหลังกลับไปมีผู้หญิงอีกคนและพาผู้หญิงคนนั้นไปจดทะเบียนสมรส ก็เป็นที่น่ายินดีที่เธอจะได้บอกเลิกเขา และใช้ชีวิตโสดให้มีความสุขอีกครั้ง “พี่จะรอจนกว่าจะถึงวันนั้น และน้องมุกมั่นใจได้เลยนะว่า พี่จะรอจดทะเบียนสมรสกับน้องมุกคนเดียวเท่านั้น” ไข่มุกเงยหน้าขึ้นสบตาคม เธอยิ้มหวานสดใส “ค่ะ” ภากรถอนหายใจบางเบา “อย่าทิ้งพี่นะครับ” แววตาของพี่กรหม่นเศร้าแกมหวั่นใจ ไข่มุกรีบยกมือขึ้นกอบใบหน้าหล่อเหลาไว้ในสองมือ มองสบตาเขาอย่างแน่วแน่ “ไม่ทิ้งค่ะ มุกจะซื่อสัตย์กับพี่กรตลอดไป” ไข่มุกเข้าใจพี่กร เพราะเขาผ่านการถูกหักหลังมาแล้วหนึ่งครั้ง มันจึงเป็นปมใน
ไข่มุกจิกกำบ่ากว้างไว้แน่น เธอแยกแย้มตัวเองออกจนสุดเพื่อรองรับเขา เมื่อส่วนหัวสอดใส่เข้ามาในร่องรักอุ่นอ้าว ไข่มุกห่อปากครางเสียว เธอมองสบตาคู่คมที่ชะโงกอยู่เหนือกายเธอ ไข่มุกรับรู้ถึงแก่นกายใหญ่โตที่ขับเคลื่อนสอดแทรกเข้ามาในตัวเธอช้า ๆ “พี่กรขา…” ไข่มุกบิดสายร่างกายใต้ร่างสูง เสียวซ่านทรมานต้องการให้เขาเติมเต็มเธอสุดทางเสียที “เข้ามาทั้งหมดเลยสิคะ มุกอยากได้พี่กร” พอน้องบอกอยากได้เขา ภากรก็ตอบสนองความต้องการของน้องทันที เขาเกร็งสะโพกแล้วขยับบั้นเอวสอดใส่ลำกายแกร่งสลักลึกแน่นกลางร่องรักสุดทาง “อ๊าย !” ไข่มุกหวีดร้องเสียงหลง กรีดเล็บไปบนบ่ากว้างและแผ่นหนังแน่นตึงของสามีเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ซ่านเสียว ภากรขบกรามแน่นด้วยความเสียวไม่น้อยไปกว่าเมีย เธอคับแน่น อุ่นอ้าว ทั้งนุ่มลื่น และยังตอดรัดเขาหนุบหนับไปทั้งลำกาย เมื่อต่างคนต่างต้องการกันและกัน เมื่อ
“พี่กรอาบน้ำก่อนดีไหมคะ” ไข่มุกบอกพลางถอยหลังหนีคนที่จ้องเธอเขม็ง หลังจากที่เขาปิดล็อกประตูห้องนอนแน่นหนาแล้ว “ดีครับ” ภากรบอกพลางถอดเสื้อผ้าออกจากตัว เขาสามารถทำตัวเองให้เปลือยล่อนจ้อนได้ในเวลาเพียงชั่วกะพริบตาสองที ไข่มุกกลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่ลงคอ หญิงสาวถอยหลังไปหนึ่งก้าว “พะ…พี่กรอาบก่อนเลยนะคะ มุกจะรออาบทีหลัง” เห็นความแข็งขึงพร้อมพรักของเขาแล้วเธอก็ใจสั่น นอกจะทั้งใหญ่ทั้งยาวแล้ว มันยังตั้งตรงและผงกหัวหงึก ๆ สู้สายตาเธอด้วย ภากรส่ายหน้า เขาเดินเข้าหาน้องด้วยความมุ่งมั่น ไข่มุกถอยหลังหนีไปได้สามก้าวก็ถูกคนเปลือยรวบตัวไปกอดได้เต็มวงแขน “อาบพร้อมกัน จะได้เสร็จพร้อมกัน” ภากรบอกพลางลงมือปลดเปลื้องชุดให้น้อง ครู่เดียวไข่มุกก็เปลือยเปล่าเท่าเทียมกับเขา ร่างบางถูกอุ้มขึ้นแนบอกกว้าง ภากรพาน้องเข้าไปในห้องน้ำ วางเธอลงใต้ฝักบัว แล้วเ