หย่าที่ 5
โจรกระจอก
หลังส่งมอบสินค้า เวลาก็ผ่านไปแล้วเกือบหนึ่งเดือน หากไม่ติดที่ว่าทุกๆ สามวันห้าวัน คุณชายเฉินจะส่งย่าของเขามาพบนาง ถังโหรวก็ได้หามีเรื่องใดทุกร้อนใจไม่ ลูกๆ ของนางก็เหมือนจะปรับตัวได้ หลายคืนมานี้น้อยมากที่จะงอแงเรียกหานาง
“นายหญิงขอรับ คุณชายเฉินขอเข้าพบ”
ในห้องหนังสือ ถังโหรวหางคิ้วกระตุก เพิ่งจะด่าทอเขาในใจ ตัวคนก็โผล่มาแล้ว
“ไฉนวันนี้เขามาเองไม่ส่งเฉินไท่ไท่มา?”
ในบรรดาบุรุษที่ติดพันนาง เจ้าหมอนี่นับว่ามีความพยายามสุด ผู้อื่นพอถูกนางยันกลับไปครั้งหนึ่งก็ไม่กล้าเขาหานางอีก แต่เฉินคุนกับพัวพันนางไม่เลิกรา ขนาดนางบอกว่า “ข้ามีลูกและสามีแล้วนะ!” เขายังไม่ยอมแพ้ กล่าวกับนางว่า “ท่านอย่ามาโกหกเรา ไหนสามีท่าน หากมีตัวตนจริงก็เรียกเขาออกมา เราจะเลิกตอแยท่านชั่วชีวิต!”
“บอกว่าไม่พบ ข้าปวดหัว!”
นางไม่ใส่ใจ ตะโกนออกไปนอกประตู พ่อบ้านได้ยินรับคำหมุนตัวกลับไปรายงาน
กับคนๆ นี้ นางไม่ต้องไว้หน้าอันใดก็ได้
“…”
ห่างจากชายแดนต้าเว่ยราวห้าสิบลี้
ขบวนสินค้าของถังโหรวเพิ่งออกนอกด่านได้หนึ่งวัน ความจริงตลอดเส้นทางมุ่งไปยังชนเผ่าต่างๆ นั้นเป็นทุ่งโล่ง มีเพียงต้นไม้เกาะกลุ่มกันขึ้นเล็กน้อย ส่วนมากเป็นหญ้าอ่อนขนาดเล็ก เหมาะแก่การเลี้ยงแพะเลี้ยงม้าเป็นอย่างมาก
หากแต่ตรงหน้า ทุกคนพลันมองเห็นฝูงม้าเล็มหญ้าอยู่ที่ไกลๆ
“ม้าป่าหรือ! ไฉนอยู่แถวนี้?”
ผู้นำขบวนอุทาน ม้าป่าแดนเหนือตัวใหญ่พ่วงพี เหมาะจะนำมาทำเป็นม้าศึก ปกติราคาขายหนึ่งตัวก็แพงมาก ยิ่งเป็นม้าหนุ่มรูปร่างดี บางตัวขายได้ถึงพันตำลึงเงิน แต่ถ้าเป็นเหงื่อโลหิต นี่มีราคาหลายหมื่นเลยทีเดียว
จุดนี้ยังไม่ห่างจากต้าเว่ยเท่าใด ทุกคนพอเห็นไม่ต้องบอกด้วยปากก็ทราบความคิด ผู้นำขบวนเอ่ยเป็นคนแรก บอกทั้งหมดหยุดพักเฝ้าม้าป่าไว้ จากนั้นส่งคนควบม้าเร็วกลับเข้าด่าน ส่งข่าวให้พรรคพวกตนเองทราบ เพื่อนำกำลังคนและอุปกรณ์ปราบพยศม้า คิดทำกำไรจากลาภลอยฝูงนี้ ถือว่าไม่เสียเที่ยวเปล่า
ขบวนสินค้าทั้งหมดจอดรอ บุรุษหลายคนใช้ไม้หมอนรองล้อเกวียนไว้ ม้าป่ากว่าร้อยตัวเล็มหญ้ากินอยู่ข้างธารน้ำ สองฟากข้างมีป่าหน้าทึบเล็กๆ
แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดพลันเกิดขึ้น ขณะคนงานส่วนหนึ่งควบม้าอ้อมไปดักทาง ลูกเกาทัณฑ์ปริศนาหลายดอกพุ่งออกมาจากดงไม้ ปักเข้าทีลำคอพวกเขาจนเลือดพุ่ง หงายท้องตกหลังม้าไป
“ฆ่าให้หมด! อย่าให้เหลือรอดแม้แต่คนเดียว!” !!!
เสียงตะโกนดังลั่น ฝูงม้าไร้บังเหียนถูกเข้าใจผิดว่าเป็นม้าป่า พอได้ยินเสียงผิวปากเรียกของเจ้านายก็กระทืบเท้า แต่ละตัวทะยานมุ่งหน้ามาทางดงไม้ ก็เป็นจังหวะเดียวกับโจรรังผึ้งจำนวนมากพุ่งออกมา พวกเขาฝีมือขี่ม้ายิงธนูเป็นเลิศ ไม่ต้องใช้อานหรือเชือกโกลน ก็สามารถพลิกตัวขึ้นหลังม้าคู่ใจ เอื้อมมือกลับหลังดึงลูกเกาทัณฑ์ออกจากซอง มุ่งเข้าใส่กลุ่มพ่อค้าพร้อมกับยิงด้วยวิชาธนูลูกโซ่
น่าสมเพชนักบู๊พิทักษ์ขบวน พวกเขาเพิ่งชักดาบ บางคนตกใจคว้าคันธนูแต่ก็ไม่ทันการ โจรรังผึ้งแนวหน้าหลายสิบคนยิงลูกเกาทัณฑ์ติดๆ กันด้วยความเร็ว จนแต่ละคนไม่ต่างจากตัวเม่น เข่นฆ่าเข้าหาแต่ฝ่ายเดียว
ชั่วกาน้ำเดือด ร้อยกว่าชีวิตกลายเป็นศพสมประกอบบ้างไม่สมประกอบบ้าง แผนใช้ม้าล่อของโจรรังผึ้งประสบความสำเร็จนัก หากเป็นปกติการเข้าใกล้เป้าหมายในทุ่งโล่งนั้นมิใช่เรื่องง่าย ทั้งพวกเขายังได้รับคำสั่งฆ่าคนมิให้เหลือรอด จึงพากันคิดได้แผนการหนึ่ง ช่วยกันถอดอานและเชือกม้า ปล่อยม้าให้หากินราวกับม้าป่า ดักซุ่มรอพ่อค้ากลุ่มนี้มาสองวันแล้ว
นี่เป็นการปล้นครั้งใหญ่ หากนับทั้งปีถือว่าไม่มีครั้งใดใหญ่เท่าครั้งนี้ แต่คำสั่งอีกอย่างคือสินค้าที่ยึดมาห้ามแตะต้อง ให้เคลื่อนย้ายไปเก็บไว้ที่รังลับ รอคนจากตระกูลเฉินมาขนย้ายไป
“ระวังให้ดีอย่าทำผ้าคลุมรถม้าขาด หัวหน้ากำชับว่าอย่างให้เสียหายแม้แต่น้อย”
ชายเคราครึ้มนั่งสั่งการบนหลังม้า แม้คำสั่งจะแปลกอยู่บ้าง แต่เขายังทำตามแต่โดยดี...
***
“ฮูหยิน ฟังว่าท่านโหวมาถึงแล้วเจ้าคะ หากแต่เขามุ่งตรงไปเมืองต้าถง มิได้มาถงหลินเรา”
“อะไรนะ! ที่เจ้าพูดเป็นความจริง!”
ขณะถังโหรวนอนคว่ำหน้ารับการปรนนิบัติบีบนาด หงอี้พลันเดินเข้ามารายงาน นางแทบเด้งตัวดันสาวใช้รุ่นเล็กตกเตียงหลัวฮั่น หงอี้ก็ยืนยันว่า “เจ้าคะ เป็นความจริง เมื่อครู่สายข่าวเรารายงานว่า ท่านโหวนำกำลังคนเดินแยกไปทิศตะวันตก มิได้มุ่งหน้ามาทางเรา”
“สวรรค์ช่วยเรา สวรรค์ช่วยเราแล้ว!”
ถังโหรวหัวใจเต้นตูมตาม จริงดังคาด ชายแดนเหนือสามมณฑลมิได้มีแต่เมืองถงหลิน เป็นไปได้สูงว่าเขาจะไม่เลือกพักอาศัยอยู่ที่นี่
ขณะยินดีในโชคลาภ พ่อบ้านใหญ่กับเดินเขามาในโถงห้อง เขายืนประสานมืออยู่เบื้องหน้านางกล่าวว่า
“นายหญิงขอรับ คุณชายเฉินมาขอพบ”
อารมณ์ดีอยู่แท้ๆ พอได้ยินชื่อคนนางเปลี่ยนเป็นบูดบึ้ง หางตาหงส์กลายเป็นเฉียบแหลม บอกพ่อบ้านใหญ่ให้นำนักบู๊ไปไล่เขาซักห้าคน
“นายหญิงทำเช่นนั้นไม่ได้!”
“ไฉนไม่ได้ มิได้ตีให้เขาขาหักซักหน่อย”
“คุณชายเฉินพาท่านลุงของเขามาด้วยขอรับ”
ไม่เพียงแต่ลุงเขาเฉินพ่าน พ่อบ้านกล่าวต่อ เฒ่าแก่คู่ค้าหลายคนของนางก็มาด้วย แต่ละคนสีหน้าย่ำแย่ มิทราบเกิดเรื่องราวใหญ่โตอันใด
หญิงสาวพอฟังก็ทราบมิใช่เรื่องส่วนตัว นางลุกขึ้นยืนปุบปับ สั่งหงอี้ช่วยข้าแต่งตัว ดูว่าด้านนอกเกิดเรื่องราวอะไร
นางเดินเข้าห้องข้าง หงอี้และสาวใช้หลายคนช่วยกันเปลี่ยนชุด ครู่เดียวหญิงสาวก็อยู่ในชุดสีม่วงเข้มเฉิดฉัน ปักปิ่นหงส์บนมวยผม เดินนำหน้าสาวใช้ของตนไปที่ห้องรับแขกส่วนกลาง
โถงชั้นนอก คหบดีหุ้นสวนสิบกว่าคนของถังโหรวอยู่กันพร้อม ไม่นานพวกเขาถูกเชิญเข้าโถงชั้นใน เดินตามสาวใช้เข้าคฤหาสน์ไปลึกขึ้นอีก
นี่เป็นห้องรับแขกอย่างเป็นทางการ หลังม่านไม้ไผ่นั่งไว้ด้วยหญิงสาวเจ้าบ้าน คนทั้งหมดพอเข้ามาก็ถูกเชิญให้นั่งประจำที่ โดยพวกเขาไม่เห็นใบหน้าถังโหรวแม้แต่น้อย หากแต่เสียงของนางเจื้อยแจ้วราวนกขมิ้นดังออกจากหลังม่านมาว่า
“พวกท่านไฉนมาบ้านเรากันมากมายเจ้าคะ”
สิ้นเสียงนาง เศรษฐีจวงร่ำร้องโหยหวนว่า โหรวฮูหยินเราก็เพิ่งทราบ ขบวนสินค้าท่านถูกปล้น คนของเราตายเรียบ ครั้งนี้ย่อยยับแล้ว! ย่อยยับแล้ว!
มูลค่าความเสียหายเฉพาะตัวสินค้าก็นับแสนตำลึง ไหนจะคนที่ตายไปยังต้องให้ค่าทำขวัญครอบครัว ต่อให้พวกเขาร่ำรวยแค่ไหน นี่ยังกระทบกระเทือนฐานะการเงินแต่ละคนมิใช่น้อย
ไม่เพียงหุ่นส่วนที่ตกใจ ถังโหรวหลังม่านพอได้ฟังสีหน้าเปลี่ยนเป็นย่ำแย่ โดยเฉพาะคำว่าตายเรียบ ในใจนางราวกับมีคนลั่นกลองรบ ทรวงอกตูมตั้งสะท้านขึ้นลง ถึงกับขาดสติแหวกม่านไม้ไผ่ออกมา กล่าวว่า
“เป็นฝีมือมันผู้ใด!”
ที่ผ่านมานางเรียบร้อยอ่อนหวาน บางครั้งพบปะเป็นการส่วนตัวนางมักยิ้มแย้ม หากแต่พออยู่กับคนหมู่มากรับแขกนางจะกั้นตัวเองไว้ด้วยม่านชั้นหนึ่ง คุยกับพวกเขาตามธรรมเนียมมารยาท มิเคยเสียกริยาอะไรแบบนี้
เฉินคุนนั่งอยู่ข้างๆ ยังตกใจ เขาไม่เคยเห็นสีหน้าดุร้ายนาง หากแต่นี่กับทำให้เขาชอบนางมากขึ้น คนงามยามคับแค้น ให้ความรู้สึกน่ารักในแบบที่เปลี่ยนไป
“เป็นโจรรังผึ้ง”
ผู้เอ่ยเป็นเฉินพ่าน นายท่านใหญ่ตระกูลเฉินเอง
เมื่อเห็นแววสงสัย เขาก็กล่าวต่อ บอกว่าสองวันก่อนขบวนขนสินค้าเขากลับจากชนเผ่าหู บังเอิญเห็นเกวียนเทียมม้าจำนวนมาก ถูกผู้คนบังคับขึ้นเหนือ ซึ่งเส้นทางนั้นเป็นเขตของโจรรังผึ้ง หามีผู้ใดใช้ขนสินค้าผ่านไปไม่ โชคดีที่คนของเขาพบเห็นอีกฝ่ายก่อน จึงรอจนขบวนทั้งหมดผ่านไป จากนั้นก่อนเข้าด่านห้าสิบลี้ ก็พบซากศพจำนวนมาก ถูกสังหารอย่างโหดร้ายกระจัดกระจายไปทั่ว พอเห็นตราสัญลักษณ์ ค่อยทราบได้ว่าทั้งหมดเป็นคนของกลุ่มการค้าในเมืองเรา
ถังโหรวหอบหายใจฟึดฟัด “โจรรังผึ้งหรือ?” นางคิดในใจ ต่อให้พวกเจ้าอยู่นอกด่าน หากกล้าเล่นงานมารดา มารดาผู้นี้ก็จะไม่เอาพวกเจ้าไว้แน่!
นี่เป็นครั้งแรกที่สินค้าของนางถูกปล้น ถังโหรวรู้สึกตัวว่าตนเสียกริยาก็ย่อกายคารวะเฉินพ่าน กล่าวขอบคุณว่า “นายท่านเฉินมีไมตรีส่งข่าว เราขอเป็นตัวแทนเฒ่าแก่ทั้งหลายขอบคุณท่าน” กล่าวจบส่งสัญญาณให้หงอี้หยิบภาพวาดออกมาม้วนหนึ่ง ส่งให้กับเขา แต่เฉินพ่านปฏิเสธไม่รับ หลังจากนั้นเป็นคนทั้งหมดหารือกันต่อ
“เช่นนั้นเอาตามที่โหรวฮูหยินว่า เราจะส่งรายชื่อคนเสียชีวิตให้ท่าน ทางเราก็เสียหายไม่ใช่น้อย สมควรให้ค่าทำขวัญผู้ตายอย่างเป็นธรรม”
ผู้กล่าวเป็นเฒ่าแก่จวง เขายินดียิ่งที่ฮูหยินโหรวบอกว่าจะช่วยค่าทำขวัญทั้งหมด จากนั้นถามต่อว่านางคิดทำเช่นไร มีทางแก้ไขหรือไม่
“ฮูหยิน อย่าว่าเราสอดมือ แต่เราพอมีหนทาง”
ทุกสายตาต่างหันไปมองเฉินพ่าน แม้แต่หลานชายเขาก็คิดไม่ถึง หากแต่พอรู้ว่าลุงเป็นคนกล่าว เขากับยืดอกฮึกเหิม พูดสมทบว่า “ใช่แล้ว ท่านลุงเรารู้จักชาวเผ่านอกด่านมากมาย ต้องช่วยพวกท่านได้แน่นอน”
เฉินคุนไม่เพียงพูด เขาหันไปทางถังโหรว ส่งสายตาลึกซึ้งให้นาง “…”
ท่ามกลางเสียงซักถาม เฒ่าแก่ทั้งหลายเริ่มมีความหวัง เมื่อนายท่านเฉินกล่าวว่า ชนเผ่าต้าจิงมีกำลังทหารอยู่มาก ข้าเป็นคู่ค้าเขามานาน ที่ผ่านมาไม่ถูกปล้นก็เพราะมีหัวหน้าเผ่าหนุนหลัง โจรรังผึ้งจึงไม่กล้าแตะต้องสินค้าข้า
เขาไม่พูดเปล่า ทั้งยังเสนอตัวติดต่อกับหัวหน้าเผ่าให้ ร้องขอการช่วยเหลือให้อีกฝ่ายนำสินค้ากลับคืนมา
ขณะทุกคนกำลังยินดีที่ได้ทางออก ถังโหรวกับกล่าวคำที่ทำให้เฉินพ่านโกรธจนหนวดกระตุก นางบอกเสียงนิ่มนวลว่า
“เรื่องนี้เราไม่ลำบากท่านเฉิน เราเองก็พอมีเส้นสายอยู่บ้าง กะอีแค่โจรกระจอกกลุ่มหนึ่ง ยังไม่อยู่ในสายตาเรา”
“…”
***
หย่าที่ 1เมืองถงหลินขึ้นเหนือไปสามพันหกร้อยลี้ เมืองถงหลินจัดเป็นหนึ่งในชายแดนหน้าด่านต้าเว่ย เดินทางต่ออีกแค่วันเดียวก็ถึงกำแพงหมื่นลี้แล้ว ดังนั้นสถานที่ๆ แม้แต่นกยังไม่อยากขี้ใส่ จึงไม่เป็นที่นิยมของผู้อยู่ในศูนย์กลางอำนาจเช่นเมืองหลวง หากขุนนางใดได้รับแต่งตั้งตำแหน่งมานี่ แทบเท่ากับเป็นการถูกเนรเทศ ต้องถูกผู้คนไถ่ถาม ว่าตกลงท่านทำความผิดใดกันแน่“นายหญิงตื่นเร็ว! แย่แล้วเจ้าคะ! แย่แล้ว!”ใต้ผ้าห่มอย่างหนา สตรีอิ่มเอิบร่างหนึ่งถูกกอดซ้ายกอดขวา ทารกหญิงรกชายของนางได้ยินเสียงรบกวนก็พากันตื่นขึ้น ทั้งสองคลำหาความอบอุ่นอวบอิ่มโดยมิได้นัดหมาย พลันฝังศีรษะเข้าไปยังซอกแขนคนละข้าง งึมงำบอกมารดาว่าหนวกหูยิ่ง“หงอี้! เจ้าโวยวายอะไรแต่เช้า หากมิใช่เรื่องคอขาดอย่างทัพม้าเผ่าซ่งบุกเข้าด่านมา ข้าจะฟาดโบยเจ้า!”เสียงดุด่าดังจากผ้าห่มโดยที่เจ้าตัวมิทันลุก หงอี้ที่อุส่ารีบคาบข่าวมาบอกต้องกระทืบเท้า นางยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนนายสาว ใช้มือทุบ ปึง! ปึง! ปึง! กล่าวเสียงดังโดยไม่กลัวตายว่า“โอ้ย! ท่านย่าของบ่าว ทัพม้าซ่งไหนเลยบุกมา แต่ผู้มาเป็นสามีท่าน คิดว่าพอให้คอขาดหรือไม่เจ้าคะ”ในความมืดสลัว ถังโ
หย่าที่ 2โหรวฮูหยินยังคงมีเวลาอีกหลายเดือน หลังคำสั่งแต่งตั้งอย่างน้อยหกสิบวัน กำลังทหารในมือเซียวโหวถึงจะเตรียมพร้อมเดินทางได้ ถังโหรวจะอย่างไรเคยร่วมเดินทางไปกับกองทัพ แทบจะกล่าวได้เต็มปากว่านางโตมากับทัพเซียวชีวิตต้องดำเนินต่อไป หลังวางแผนรับมือ นางก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ซ้ำยังคิดเข้าข้างตัวเอง ไม่แน่สามีใจร้ายของนางอาจลืมนางไปแล้ว“นายหญิงขอรับ เฉินไท่ไท่ขอเข้าพบ ตอนนี้รออยู่ที่โถงชั้นนอก”เสียงจากพ่อบ้านชราดังขึ้น ภายในห้องหนังสือ นางกล่าวโดยไม่เงยหน้าว่า “ไม่พบ” บอกว่าข้าปวดหัวพ่อบ้านยืนอยู่หน้าประตูมิได้เปิดเข้ามากล่าวรับคำ หงอี้ยืนอยู่ข้างๆ นายสาวต้องสบถอย่างชิงชังรังเกียจว่า “ตัวอุบาทยังไม่ยอมแพ้คิดกินเนื้อหงส์ ฮูหยินไม่ด่าไปตรงๆ ซักรอบ บ่าวว่าเดี๋ยวเขาก็ส่งคนมาอีก”ถังโหรวนั่งอ่านบันทึกเดินทางเงียบๆ ต้องเงยหน้ามองสาวใช้ปากกล้า ดุด่านางไปว่า “นิสัยแบบนี้ไงเจ้าถึงแต่งไม่ออกไม่มีคนเอา!”“…”โถงกลางรับแขกเฉินไท่ไท่รู้ตัวว่าถูกปฏิเสธก็กลับไปอย่างมีมารยาท หากแต่พอขึ้นรถม้าของตนได้ นางก็ด่าทอถังโหรวว่า “น่าชิงชักนัก คิดว่าตนสูงส่งนักหรือ หากมิใช่หลานชายข้าตาต่ำพอใจในตัวเจ้า แ
หย่าที่ 3พันธมิตรการค้าเพราะมีบทเรียนจากหลายราชวงศ์ที่ผ่านมา ฮ่องเต้จึงมิกล้าจับคู่ให้กับใครสุ่มสี่สุ่มห้า ยกตัวอย่างสองร้อยกว่าปีก่อน มีฮ่องเต้หลี่จงออกราชโองการพระราชทานสมรสให้กับแม่ทัพผู้หนึ่ง ยามนั้นฮ่องเต้หาทราบไม่ ว่าหญิงสาวที่พระองค์บีบให้แต่งงานมีคนรักอยู่ก่อน เรื่องนี้กับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความแค้น เพราะชายคนรักของนางก็เป็นแม่ทัพเหมือนกันต่อมาอีกหลายปี คนรักเก่าของนางสมคบคิดกับอ๋องต่างแซ่ สุดท้ายนำมาสู่การสิ้นราชวงศ์หลี่ในตอนนั้นปัญหาส่วนตัวทางด้านสามีของตนจะเป็นยังไง เช่นเดียวกับที่เซียวฉีไม่สนใจนาง ถังโหรวเองก็ไม่ได้สนใจเขา ความจริงหากไม่มีข่าวการถูกลดตำแหน่ง นางก็ไม่ได้นึกถึงเขา เพียงคิดใช้ชีวิตของตนกับลูกๆ อยู่สุขสบายในเมืองห่างไกลแห่งนี้หากแต่ทุกอย่างเปลี่ยนไป นั่นคือนางคิดถึงเขาแล้ว โดยเฉพาะตอนนี้คิดถึงมากๆ คิดถึงว่าพอเขามาจะนึกได้หรือไม่ว่าตนเคยส่งภรรมาอยู่นี่ “…”ถังโหรวคาดหวังให้เขาลืมนางไปจริงๆ!ตลอดระยะเวลาสี่ปี เขาไม่เคยถามไถ่ข่าวสารนาง ท่านพ่อก็ส่งจดหมายมาว่า เขาไม่เคยพูดถึงนางซักครั้ง ทั้งยังใช้ชีวิตอย่างปกติมาก ถึงขนาดเข้าออกหอนางโลมไปทั่ว จนผู้คนทั่วไป
หย่าที่ 4โจรรังผึ้งเกือบสองเดือนหลังราชโองการแต่งตั้ง ในที่สุดวันเดินทางเคลื่อนทัพถูกกำหนด นอกจากทหารส่วนตัวของเซียวฉีหมื่นกว่าคน เขายังต้องนำนักโทษที่ถูกเนรเทศติดตามไปด้วย คนเหล่านี้ส่วนมากเป็นครอบครัวขุนนางกระทำผิด ที่ผ่านมาใช้ชีวิตสุขสบาย พอออกเดินทางไกลจึงมีปัญหาอยู่บ้างเนื่องจากจำนวนคนมาก เส้นทางที่ใช้จึงมิใช่สายหลัก ตัดผ่านป่าเขาลำห้วย ตีคู่ขนานไปกับทางหลวงด้วยความยากลำบากนอกจากข่าวเซียวโหวเคลื่อนทัพที่ไม่ใช่เรื่องแปลก เมืองหลวงก็ยังมีอีกข่าวหนึ่งที่น่าตกใจ ฟังว่าองค์หญิงชิงถิงออกบวชแล้ว นางออกบวชเป็นนักพรตหญิงอยู่ที่อารามเมี้ยวกวนตอนแรกชาวบ้านร้านตลาดยังสงสัย นางมีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงกงจู่ ไฉนยอมทิ้งบรรดาศักดิ์ออกบวชให้ลำบาก แต่แล้วหลังเซียวโหวเดินทางครึ่งเดือน ทุกคนค่อยทราบ โถ่!ที่แท้นางคิดติดตามชายคนรัก ใช้ข้ออ้างศึกษาวิชาบำเพ็ญตน ออกเดินทางไปฝึกฝนยังสำนักหรงหู่ใครบ้างไม่ทราบ สำนักหรงหู่มีชื่อเสียงโด่งดัง ที่ผ่านมาส่งอาจารย์พรตมากวิชาเข้ารับใช้ราชวงศ์เว่ยในวังหลวง มีหน้าที่ทำนายหมู่ดาว และช่วยคำนวณฤกษ์ยามประกอบพิธีกรรมต่างๆในเมืองหลวง ผู้คนส่วนใหญ่ทราบถึงความสัมพันธ์ชิ
หย่าที่ 5โจรกระจอกหลังส่งมอบสินค้า เวลาก็ผ่านไปแล้วเกือบหนึ่งเดือน หากไม่ติดที่ว่าทุกๆ สามวันห้าวัน คุณชายเฉินจะส่งย่าของเขามาพบนาง ถังโหรวก็ได้หามีเรื่องใดทุกร้อนใจไม่ ลูกๆ ของนางก็เหมือนจะปรับตัวได้ หลายคืนมานี้น้อยมากที่จะงอแงเรียกหานาง“นายหญิงขอรับ คุณชายเฉินขอเข้าพบ”ในห้องหนังสือ ถังโหรวหางคิ้วกระตุก เพิ่งจะด่าทอเขาในใจ ตัวคนก็โผล่มาแล้ว“ไฉนวันนี้เขามาเองไม่ส่งเฉินไท่ไท่มา?”ในบรรดาบุรุษที่ติดพันนาง เจ้าหมอนี่นับว่ามีความพยายามสุด ผู้อื่นพอถูกนางยันกลับไปครั้งหนึ่งก็ไม่กล้าเขาหานางอีก แต่เฉินคุนกับพัวพันนางไม่เลิกรา ขนาดนางบอกว่า “ข้ามีลูกและสามีแล้วนะ!” เขายังไม่ยอมแพ้ กล่าวกับนางว่า “ท่านอย่ามาโกหกเรา ไหนสามีท่าน หากมีตัวตนจริงก็เรียกเขาออกมา เราจะเลิกตอแยท่านชั่วชีวิต!”“บอกว่าไม่พบ ข้าปวดหัว!”นางไม่ใส่ใจ ตะโกนออกไปนอกประตู พ่อบ้านได้ยินรับคำหมุนตัวกลับไปรายงานกับคนๆ นี้ นางไม่ต้องไว้หน้าอันใดก็ได้“…”ห่างจากชายแดนต้าเว่ยราวห้าสิบลี้ขบวนสินค้าของถังโหรวเพิ่งออกนอกด่านได้หนึ่งวัน ความจริงตลอดเส้นทางมุ่งไปยังชนเผ่าต่างๆ นั้นเป็นทุ่งโล่ง มีเพียงต้นไม้เกาะกลุ่มกันขึ้นเล็ก
หย่าที่ 4โจรรังผึ้งเกือบสองเดือนหลังราชโองการแต่งตั้ง ในที่สุดวันเดินทางเคลื่อนทัพถูกกำหนด นอกจากทหารส่วนตัวของเซียวฉีหมื่นกว่าคน เขายังต้องนำนักโทษที่ถูกเนรเทศติดตามไปด้วย คนเหล่านี้ส่วนมากเป็นครอบครัวขุนนางกระทำผิด ที่ผ่านมาใช้ชีวิตสุขสบาย พอออกเดินทางไกลจึงมีปัญหาอยู่บ้างเนื่องจากจำนวนคนมาก เส้นทางที่ใช้จึงมิใช่สายหลัก ตัดผ่านป่าเขาลำห้วย ตีคู่ขนานไปกับทางหลวงด้วยความยากลำบากนอกจากข่าวเซียวโหวเคลื่อนทัพที่ไม่ใช่เรื่องแปลก เมืองหลวงก็ยังมีอีกข่าวหนึ่งที่น่าตกใจ ฟังว่าองค์หญิงชิงถิงออกบวชแล้ว นางออกบวชเป็นนักพรตหญิงอยู่ที่อารามเมี้ยวกวนตอนแรกชาวบ้านร้านตลาดยังสงสัย นางมีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงกงจู่ ไฉนยอมทิ้งบรรดาศักดิ์ออกบวชให้ลำบาก แต่แล้วหลังเซียวโหวเดินทางครึ่งเดือน ทุกคนค่อยทราบ โถ่!ที่แท้นางคิดติดตามชายคนรัก ใช้ข้ออ้างศึกษาวิชาบำเพ็ญตน ออกเดินทางไปฝึกฝนยังสำนักหรงหู่ใครบ้างไม่ทราบ สำนักหรงหู่มีชื่อเสียงโด่งดัง ที่ผ่านมาส่งอาจารย์พรตมากวิชาเข้ารับใช้ราชวงศ์เว่ยในวังหลวง มีหน้าที่ทำนายหมู่ดาว และช่วยคำนวณฤกษ์ยามประกอบพิธีกรรมต่างๆในเมืองหลวง ผู้คนส่วนใหญ่ทราบถึงความสัมพันธ์ชิ
หย่าที่ 3พันธมิตรการค้าเพราะมีบทเรียนจากหลายราชวงศ์ที่ผ่านมา ฮ่องเต้จึงมิกล้าจับคู่ให้กับใครสุ่มสี่สุ่มห้า ยกตัวอย่างสองร้อยกว่าปีก่อน มีฮ่องเต้หลี่จงออกราชโองการพระราชทานสมรสให้กับแม่ทัพผู้หนึ่ง ยามนั้นฮ่องเต้หาทราบไม่ ว่าหญิงสาวที่พระองค์บีบให้แต่งงานมีคนรักอยู่ก่อน เรื่องนี้กับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความแค้น เพราะชายคนรักของนางก็เป็นแม่ทัพเหมือนกันต่อมาอีกหลายปี คนรักเก่าของนางสมคบคิดกับอ๋องต่างแซ่ สุดท้ายนำมาสู่การสิ้นราชวงศ์หลี่ในตอนนั้นปัญหาส่วนตัวทางด้านสามีของตนจะเป็นยังไง เช่นเดียวกับที่เซียวฉีไม่สนใจนาง ถังโหรวเองก็ไม่ได้สนใจเขา ความจริงหากไม่มีข่าวการถูกลดตำแหน่ง นางก็ไม่ได้นึกถึงเขา เพียงคิดใช้ชีวิตของตนกับลูกๆ อยู่สุขสบายในเมืองห่างไกลแห่งนี้หากแต่ทุกอย่างเปลี่ยนไป นั่นคือนางคิดถึงเขาแล้ว โดยเฉพาะตอนนี้คิดถึงมากๆ คิดถึงว่าพอเขามาจะนึกได้หรือไม่ว่าตนเคยส่งภรรมาอยู่นี่ “…”ถังโหรวคาดหวังให้เขาลืมนางไปจริงๆ!ตลอดระยะเวลาสี่ปี เขาไม่เคยถามไถ่ข่าวสารนาง ท่านพ่อก็ส่งจดหมายมาว่า เขาไม่เคยพูดถึงนางซักครั้ง ทั้งยังใช้ชีวิตอย่างปกติมาก ถึงขนาดเข้าออกหอนางโลมไปทั่ว จนผู้คนทั่วไป
หย่าที่ 2โหรวฮูหยินยังคงมีเวลาอีกหลายเดือน หลังคำสั่งแต่งตั้งอย่างน้อยหกสิบวัน กำลังทหารในมือเซียวโหวถึงจะเตรียมพร้อมเดินทางได้ ถังโหรวจะอย่างไรเคยร่วมเดินทางไปกับกองทัพ แทบจะกล่าวได้เต็มปากว่านางโตมากับทัพเซียวชีวิตต้องดำเนินต่อไป หลังวางแผนรับมือ นางก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ซ้ำยังคิดเข้าข้างตัวเอง ไม่แน่สามีใจร้ายของนางอาจลืมนางไปแล้ว“นายหญิงขอรับ เฉินไท่ไท่ขอเข้าพบ ตอนนี้รออยู่ที่โถงชั้นนอก”เสียงจากพ่อบ้านชราดังขึ้น ภายในห้องหนังสือ นางกล่าวโดยไม่เงยหน้าว่า “ไม่พบ” บอกว่าข้าปวดหัวพ่อบ้านยืนอยู่หน้าประตูมิได้เปิดเข้ามากล่าวรับคำ หงอี้ยืนอยู่ข้างๆ นายสาวต้องสบถอย่างชิงชังรังเกียจว่า “ตัวอุบาทยังไม่ยอมแพ้คิดกินเนื้อหงส์ ฮูหยินไม่ด่าไปตรงๆ ซักรอบ บ่าวว่าเดี๋ยวเขาก็ส่งคนมาอีก”ถังโหรวนั่งอ่านบันทึกเดินทางเงียบๆ ต้องเงยหน้ามองสาวใช้ปากกล้า ดุด่านางไปว่า “นิสัยแบบนี้ไงเจ้าถึงแต่งไม่ออกไม่มีคนเอา!”“…”โถงกลางรับแขกเฉินไท่ไท่รู้ตัวว่าถูกปฏิเสธก็กลับไปอย่างมีมารยาท หากแต่พอขึ้นรถม้าของตนได้ นางก็ด่าทอถังโหรวว่า “น่าชิงชักนัก คิดว่าตนสูงส่งนักหรือ หากมิใช่หลานชายข้าตาต่ำพอใจในตัวเจ้า แ
หย่าที่ 1เมืองถงหลินขึ้นเหนือไปสามพันหกร้อยลี้ เมืองถงหลินจัดเป็นหนึ่งในชายแดนหน้าด่านต้าเว่ย เดินทางต่ออีกแค่วันเดียวก็ถึงกำแพงหมื่นลี้แล้ว ดังนั้นสถานที่ๆ แม้แต่นกยังไม่อยากขี้ใส่ จึงไม่เป็นที่นิยมของผู้อยู่ในศูนย์กลางอำนาจเช่นเมืองหลวง หากขุนนางใดได้รับแต่งตั้งตำแหน่งมานี่ แทบเท่ากับเป็นการถูกเนรเทศ ต้องถูกผู้คนไถ่ถาม ว่าตกลงท่านทำความผิดใดกันแน่“นายหญิงตื่นเร็ว! แย่แล้วเจ้าคะ! แย่แล้ว!”ใต้ผ้าห่มอย่างหนา สตรีอิ่มเอิบร่างหนึ่งถูกกอดซ้ายกอดขวา ทารกหญิงรกชายของนางได้ยินเสียงรบกวนก็พากันตื่นขึ้น ทั้งสองคลำหาความอบอุ่นอวบอิ่มโดยมิได้นัดหมาย พลันฝังศีรษะเข้าไปยังซอกแขนคนละข้าง งึมงำบอกมารดาว่าหนวกหูยิ่ง“หงอี้! เจ้าโวยวายอะไรแต่เช้า หากมิใช่เรื่องคอขาดอย่างทัพม้าเผ่าซ่งบุกเข้าด่านมา ข้าจะฟาดโบยเจ้า!”เสียงดุด่าดังจากผ้าห่มโดยที่เจ้าตัวมิทันลุก หงอี้ที่อุส่ารีบคาบข่าวมาบอกต้องกระทืบเท้า นางยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนนายสาว ใช้มือทุบ ปึง! ปึง! ปึง! กล่าวเสียงดังโดยไม่กลัวตายว่า“โอ้ย! ท่านย่าของบ่าว ทัพม้าซ่งไหนเลยบุกมา แต่ผู้มาเป็นสามีท่าน คิดว่าพอให้คอขาดหรือไม่เจ้าคะ”ในความมืดสลัว ถังโ