แชร์

บทที่ 5 แบ่งแปลงที่ดิน

ผู้เขียน: ซวนซื่อยี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-01 10:40:54

ซ่งซานเฉินยอมให้เธอกลับมาทำไร่ นั่นทำให้ซ่งถานโล่งใจจริงๆ แต่ต่อไปก็ถึงคิวแม่ของเธอ อู่หลานแล้ว

ขณะนั้น อู่หลานก็พูดขึ้นมาพอดีว่า "ถึงเวลาทานข้าวแล้วเฉียวเฉียว ไปล้างมือแล้วมาช่วยยกกับข้าว! "

ซ่งเฉียวก็วิ่งไปตามคำสั่ง ในช่วงฤดูหนาวแบบนี้แต่น้องชายเธอก็ยังเปิดก๊อกน้ำนอกบ้านแล้วล้างมือจนสะอาด จากนั้นก็ขยันขันแข็งไปยกกับข้าว

น้ำซุปปลาเก๋าสีขาวข้น มีผักชีลอยอยู่ด้านบน แค่ได้กลิ่นก็รู้เลยว่าเป็นปลาที่สดมาก!

ซ่งถานเหลือบมองอาหารอีกหลากหลายจานที่ถูกยกเสิร์ฟมาติดๆ กัน เริ่มจากปลาเก่าผัดซีอิ๊วที่ขนาดตัวไม่ได้ใหญ่มากมาย น่าจะประมาณสองถึงสามขีด แต่เมื่อผัดเข้ากันกับผักชี พริก ขิงและต้นหอม คลุกเคล้ากันอย่างดีแล้ว กลิ่นหอมเข้มข้นอบอวลไปทั่วทั้งบ้าน ถ้าอากาศอุ่นกว่านี้อีกนิด ในท้องปลาก็คงมีไข่ปลาที่อร่อยกว่านี้

จานถัดมาเป็นหัวไชเท้าตุ๋นหมูสามชั้น หมูสามชั้นตุ๋นเป็นวิธีทำอาหารของท้องถิ่น นำหมูสามชั้นที่ติดมันนิดหน่อยมาหมักเกลือไว้ และหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ลงกระทะ ใส่น้ำมันถั่วลิสงแล้วผัดไปเรื่อยๆ ผัดจนชิ้นหมูเริ่มเป็นสีเหลือง น้ำมันจากหมูหอมๆ ก็จะออกมาบางส่วน จากนั้นจึงปิดท้ายด้วยใส่ทั้งน้ำมันและเนื้อหมูลงในหม้อ พอเย็นลงแล้ว น้ำมันหมูสีขาวข้นๆ ก็จะห่อหุ้มชิ้นหมูไว้แน่นหนา ปิดฝาแล้วนำไปไว้ในที่ร่ม กินเมื่อไหร่ก็ตักเมื่อนั้น ตอนนี้ที่ตุ๋นอยู่นี้ แม้แต่ส่วนที่เป็นมันก็ยังหอมๆ ซ่งถานไม่รู้สึกว่ามันจะเลี่ยนเลย

จานถัดมาก็เป็นกระเทียมป่าผัดไข่ ไข่ใส่กระเทียมป่าสีเขียวสดๆ ไข่ไก่บ้านของเราผัดออกมาเป็นสีเหลืองทอง ผสมกันแล้วหอมฉุย! จานสุดท้ายก็คืออาหารจานเด็ด  ผักโขมสีเขียวสดกรอบ อร่อยหวานเมื่อเข้าปาก ผัดกับกระเทียมเจียว รสชาติเลิศรสที่สุด

ซ่งถานทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้แล้วไม่ยอมขยับไปไหน! เพราะกลิ่นอาหารเหล่านี้เย้ายวนจมูกเธอเหลือเกิน

ซ่งเฉียวผู้เป็นน้องชายที่แสนดี ตอนนี้ยกชามข้าวมาให้แล้ว "พี่สาว ปลาที่เฉียวเฉียวช่วยตกนะ! พี่กินเยอะๆ นะ! "

จริงๆ ซ่งซานเฉินว่าจะไม่สนใจอะไรกับคำพูดลูกชายตนเอง แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะโดนขโมยความดีความชอบจากปลาที่ตัวเองเป็นคนตกล้วนๆ "แกแค่เกี่ยวเหยื่อ แกไปช่วยตกปลาตอนไหนเฉียวเฉียว..."

แต่ไม่ทันไร ซ่งซานเฉินก็ถูกอู๋หลานปราบต่อหน้าต่อตา "ก็เป็นเพราะหนอนของเฉียวเฉียวดีถึงได้ตกปลาได้! ไม่งั้นทำไมคราวนี้พ่อถึงตกปลาได้เยอะล่ะ จริงไหมเฉียวเฉียว"

ซ่งเฉียวหันไปมองยังพ่อของเขา จมูกฮึดฮัด "ก็ใช่สิ! "

แม่ลูกเข้าขากันอย่างดิบดี จนซ่งซานเฉินอดเบ้ปากไม่ได้

ซ่งถานจิบน้ำซุปปลาที่น้องชายตักให้ด้วยรอยยิ้ม รสชาติกลมกล่อม แต่สิ่งไม่ดีที่ตามมาก็คือ หลังจากรสชาติที่กลมกล่อมแล้ว ยังมีรสชาติขุ่นๆ ที่มีเพียงเธอเท่านั้นที่รับรู้ได้ ถึงแม้จะไม่มีพลังวิญญาณใดในอาหารที่จะสามารถฟื้นฟูพลังลมปราณเธอให้เพิ่มขึ้นได้ อาจจะเพราะยังคงมีสิ่งเจือปนอยู่ด้วย แต่ตอนนี้เธอที่หิวโหยก็สามารถกินมันได้อย่างสบายใจแล้ว

อย่างน้อยก็ดีกว่าอาหารที่สั่งมาตอนกลางวันเยอะเลย

อู๋หลานมองลูกสาวที่ตักเพิ่มอีกหนึ่งชาม แล้วมองไปที่ใบหน้าซีดเซียวและร่างกายผอมแห้งของเธอ ตอนนี้ทั้งภูมิใจและเป็นห่วง

"กินเยอะๆ นะ ในหม้อยังมี พรุ่งนี้แม่จะใช้เตาถ่านหุงข้าว พอถึงเวลานั้นจะเอาข้าวต้มกับน้ำซุปไก่ให้ลูก"

ครัวที่บ้านของพวกเขามีขนาดใหญ่ เตาถ่านในช่วงแรกยังไม่ได้รื้อออกไป ดังนั้นเมื่อไหร่ที่ซ่งถานกลับมา เธอจะต้องได้กินข้าวต้มคู่กับตะเกียบอย่างแน่นอน

ซ่งถานใจเต้นแรง ตอนนี้ก็แสดงท่าทีน่าสงสารออกมา "แม่ หนูไม่อยากออกไปทำงานแล้ว เหนื่อยจัง"

เธอพยายามกระแซะแม่ให้รับรู้ว่าตนเองอยากกลับมาทำงานที่บ้านเกิด

เดิมทีก็ตั้งใจจะบอกอ้อมๆ แต่กลับลืมไปว่าตัวเองบำเพ็ญเพียรมาเป็นร้อยปีแล้ว จึงจับทางอุปนิสัยของแม่ตัวเองไม่ได้เหมือนก่อน อย่างเช่นตอนนี้ เมื่อได้ยินอู๋หลานถอนหายใจ แม่เธอก็ต่างคิดว่าลูกตนเองหมดเรี่ยวแรงแล้วจริงๆ "แล้วจะทำยังไงล่ะ? ไม่งั้นก็เปลี่ยนงานสิ ลดเงินลงหน่อยก็ได้ แม่กับพ่อก็มีเงินเก็บเยอะมากพอแล้ว พอกับเราและน้องชายของลูกตอนแก่"

ซ่งเฉียวเป็นแบบนี้ โรงพยาบาลก็บอกว่าไม่มีทางรักษาได้แล้ว คนแก่ทั้งสองก็เป็นห่วงเขาเช่นกัน จึงตัดสินใจตั้งแต่แรกแล้วว่าหลังจากนี้จะอยู่กับลูกชายตอนแก่

แต่งงานเหรอ หาผู้หญิงมาดูแลเหรอ...

เป็นไปไม่ได้

เฉียวเฉียวเป็นคนโง่ แต่ก็เป็นเด็กดี สมัยนี้หลายครอบครัวแม้แต่ลูกแท้ๆ ยังรังเกียจ แล้วนับประสาอะไรกับคนอื่น อย่าไปทำให้คนอื่นเดือดร้อนเลย อย่าให้คนอื่นมาทำให้เฉียวเฉียวเสียใจ

หลายปีมานี้พวกเขากินอย่างประหยัดเพื่อเก็บเงินไว้ใช้ตอนแก่ พยายามไม่ให้เป็นภาระของลูกสาว ยิ่งถานถานหน้าตาดี เป็นนักศึกษาเรียนจบสูง จริงๆ แล้วไม่ควรกลับมาชนบทแบบนี้ให้เสียเวลา หมู่บ้านของพวกเขามีคนหนุ่มสาวอายุต่ำกว่า 30 ปีเหลืออยู่กี่คนกัน หวังว่าในอนาคตเธอจะมีงานที่ดี แต่งงานกับครอบครัวที่ดี อย่าให้เธอต้องลำบากเลย..

ซ่งถานไม่รู้ว่าในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ แม่ของเธอคิดไปไกลแค่ไหนแล้ว เมื่อเห็นว่าการอ้อมค้อมไม่มีประโยชน์ เธอก็พูดตรงๆ "แม่ หนูอยากกลับบ้านมาทำไร่"

ทันทีที่พูดประโยคนี้จบ เห็นได้ชัดว่าอู่หลานกำลังมองหากิ่งไม้เรียว ซ่งถานรู้สึกตัวเกร็งไปทั้งหลังโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็รีบพูดเสริม "แม่ เดี๋ยวนี้ร่างกายหนูไม่แข็งแรงเลย! "

อู่หลานจึงค่อยๆ หายใจเข้าลึกๆ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง "ก็จริงนะ อายุยังน้อย แต่ว่างานของลูกมันเหนื่อยเกินไป ต้องพักผ่อน"

เธอพูดต่อ "ได้ อยู่บ้านเกิดสักไม่กี่เดือน พอดีต้นปีงานก็ไม่ค่อยยุ่ง ถานถานจะได้มีเวลาออกกำลังกายไปด้วย"

ซ่งถานและซ่งซานเฉินสบตากัน พ่อลูกคู่นี้ต่างก็เงียบงัน แต่มีอย่างหนึ่งที่ซ่งถานไม่ได้พูดโกหก ร่างกายของเธออ่อนแอจริงๆ

อย่าเพิ่งมองที่เธอแรงเยอะและไม่ค่อยกลัวความหนาว แต่เพราะทั้งหมดนั้นเกิดจากการชำระล้างด้วยพลังวิญญาณตอนเกิดอุบัติเหตุ แต่เดิมบริเวณในเมืองพลังวิญญาณรอบๆ ก็หาพบได้น้อยอยู่แล้ว ตอนนั้นอวัยวะภายในของเธอได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ชีวิตใกล้จะจบสิ้นแล้ว ร่างกายเธอจึงต้องรีบรวบรวมพลังวิญญาณเพื่อเอาชีวิตรอด......

ตอนนี้ตรวจที่โรงพยาบาลทุกอย่างเป็นปกติดี แต่มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ว่า ร่างกายยังไม่ฟื้นฟูสมบูรณ์ดี จิตใจก็ยังอ่อนล้ามาก การบอกว่าไปพักฟื้นที่ชนบทนั้นไม่ใช่เรื่องโกหกเลย

กินข้าวเสร็จโดยไม่มีอะไรน่าแปลกใจ ซ่งเฉียวก็เก็บจานไปล้างอย่างว่าง่าย เขาอยากแสดงให้พี่สาวเห็น

ส่วนเธอเองก็นั่งอยู่หน้าเตาผิงกับครอบครัว คิดถึงอาชีพในอนาคต

ที่นี่มีพลังวิญญาณรายล้อมอยู่รอบตัวมากพอสมควร ซ่งถานมีความมั่นใจในอนาคตมาก ในยุคที่การดูแลสุขภาพกำลังมาแรง ทุกคนต่างก็ชอบของป่าของธรรมชาติ เธอใช้พลังวิญญาณในการปลูกพืชผัก ผลไม้ สิ่งเหล่านี้จะไม่ขาดตลาดอย่างแน่นอน

แต่ก่อนหน้านั้น เธอต้องผ่านภูเขาลูกใหญ่ที่เป็นแม่ของเธอไปให้ได้ก่อน!

บอกเลยว่าเธอตั้งใจจะเหมาพื้นที่ทำนาทำสวน และลงมือทำอย่างเต็มที่ ซ่งถานแม้จะบำเพ็ญเพียรมาเป็นร้อยปีก็ยังรู้ว่าเงินหกหมื่นของตัวเองไม่พอใช้ ต้องใช้เงินเก็บของพ่อแม่มาเสริมกำลังทัพ

ปากว่าตาขยิบ เธอเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยคนหนึ่งจู่ๆ ก็พูดว่าการทำนาทำไร่จะทำให้ร่ำรวยได้...ซ่งถานเชื่อว่าอู่หลานจะต้องใช้กิ่งไม้เฆี่ยนเธอ พร้อมกับด่าแช่งไปด้วยว่า

“เก่งนักใช่ไหม! ”

“เก่งเรื่องทำนามากใช่มั้ย! ”

“ถ้าทำนาทำไร่ทำให้ร่ำรวยได้ ทำไมทุกคนถึงได้ย้ายเข้าไปอยู่ในเมืองกันล่ะ! ”

“ถ้าทำนาทำไร่ทำให้ร่ำรวยได้ ทำไมพ่อกับแม่ยังต้องอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้ ไปไหนไม่ได้ล่ะ”

ดี! งั้นมาทำทีละขั้นตอนก่อนดีกว่า เริ่มจากจัดการที่นาของตัวเองก่อน

ตอนนี้เป็นปลายเดือนกุมภาพันธ์ตามปฏิทินจันทรคติ เทศกาลโคมไฟเพิ่งผ่านพ้นไป เป็นช่วงเวลาที่ทุกสรรพสิ่งกำลังจะฟื้นคืนชีพ เธอได้กลับบ้านในช่วงเวลานี้พอดี เธอสามารถพักฟื้นร่างกายและกระตุ้นพลังชีวิตได้ รอจนกว่าฝนฤดูใบไม้ผลิจะร่วงลงมาก่อนเถอะ เธอจะใช้ที่นาของตัวเองสร้างผลลัพท์ให้พ่อกับแม่ตกใจทีเดียว แล้วค่อยๆ คิดแผนการต่อไป

ตอนนี้สิ่งที่เธอไม่ขาดแคลนที่สุดก็คือความอดทนและเวลาแล้ว

แต่ก่อนหน้านั้น

“แม่ ที่นาที่บ้านแบ่งให้หนูทำเองสักแปลงได้ไหมคะ เอาแบบที่ไม่ต้องให้พวกแม่ช่วย”

อู่หลานยัดฟืนเข้าไปในเตาผิง พลางพูดด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจ “แล้วสรุปว่าจะทำนาหรือจะขุดเก็บใบชา ถ้าที่นาตรงมุมไผ่ให้หนูไปจัดการได้เลย ทิ้งร้างมานานหลายปีแล้ว ให้พ่อไปไถให้”

“ถ้าเป็นใบชาบนภูเขา จะแบ่งทำไมล่ะ ภูเขาหลังบ้านเป็นของบ้านเราอยู่แล้ว แล้วก็สวนชาเก่าของบ้านเราด้วย ยังมีที่ไกลๆ อีก ถ้าหนูขุดไหวก็จัดการไปเลย”

ซ่งถานนิ่งอึ้ง !!!

บทที่เกี่ยวข้อง

  • กลับจากแดนเซียนเพื่อมาไลฟ์สดขายผัก!   บทที่ 6 ห้ามร้องเหมือนหมู

    ซ่งถานตกใจจริงๆ"บ้านเราเงินเยอะขนาดนี้เลยเหรอ"มีทั้งภูเขาและที่นา"มีเงินอะไรล่ะ" อู่หลานไม่เงยหน้าขึ้นมา "ทั้งหมดก็ตกทอดมาจากคุณปู่ของหนูทั้งนั้น ภูเขารกๆ ตรงนั้น ขายก็ไม่ได้ ไม่มีใครเช่า ก็เลยรกร้างอยู่แบบนั้น"ซ่งถานเงียบไปตอนนี้ทั้งหมู่บ้านมีไม่ถึงสามสิบหลังคาเรือน อายุเฉลี่ยสี่สิบห้าสิบปี ตอนนี้ข้าวก็ไม่ค่อยมีค่าแล้ว ก็แค่พออยู่พอกินเท่านั้น ไม่ใช่แค่บ้านของพวกเขาเท่านั้น บ้านอื่นๆ ก็มีที่รกร้างเป็นผืนใหญ่เช่นกันก็ไม่มีเหตุผลอะไรอื่น นอกจากขาดแรงงานที่นี่มีภูเขาเยอะ เครื่องจักรกลการเกษตรขนาดใหญ่ก็ใช้ไม่ได้ เครื่องจักรขนาดเล็กก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง ซึ่งก็แพงมาก กำไรทั้งหมดจากที่นาหนึ่งแปลงก็ไม่พอที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ นอกจากนี้ยังมีอีก ถนนยังคดเคี้ยว ไม่มีหนทางไหนที่จะส่งขายออกไปยังนอกหมู่บ้านได้เลย ทุกวันนี้การปลูกข้าวและข้าวสาลีก็เพื่อกินเอง ทำงานหนักมาทั้งปี ทั้งรดน้ำ ใส่ปุ๋ย และกำจัดแมลง ก็ต้องใช้เงินจำนวนมากแล้วผลผลิตได้เท่าไหร่ล่ะยิ่งในกรณีที่ขาดแรงงาน ก็เก็บเกี่ยวได้แค่พอที่บ้านกินเท่านั้นหันกลับมาดูที่ซูเปอร์มาร์เก็ตในเมือง สิบกว่าหยวนต่อหนึ่งกิโลกรัม แม้ว่ารสชา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-02
  • กลับจากแดนเซียนเพื่อมาไลฟ์สดขายผัก!   บทที่ 7 ฉันเป็นเศรษฐีแล้ว

    สำนักงานอำเภอในเมืองเล็กๆ อย่างหยุนเฉิงไม่จำเป็นต้องต่อแถว เพราะประชากรน้อยยิ่งกว่าหยิบมือ ซ่งถานทำบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ใช้เวลาเพียงสิบนาทีก็เสร็จ ตอนนี้เธอจึงเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือราคาสามพันหยวนให้คุ้มค่าที่สุด ขณะที่กำลังคิดถึงเงินในกระเป๋าของเธอ เธอก็รู้สึกเศร้าใจหกหมื่นหยวน แม้จะพูดให้ถูกต้อง ต้องเป็นหกหมื่นสองพันกว่าหยวน รวมเงินอุดหนุนของแม่ที่ให้เพิ่มเพื่อซื้อโทรศัพท์มือถืออีกสองพันหยวน รวมแล้วก็เป็นหกหมื่นสี่พันหยวนเมื่อคืนก็วางแผนไว้ดีแล้ววางแผนอย่างไรบ้างน่ะหรือ..ซื้อโทรศัพท์มือถือ ซื้อเครื่องมือทำการเกษตร ซื้อเมล็ดพันธุ์ และปุ๋ย...ถ้าที่เหลือเก็บไว้ได้ไหมนะ ไม่ได้ ต้องจ้างคนขุดภูเขา ขุดดิน ขุดทุกที่ที่เธออยากปลูก...แต่เงินจำนวนนี้ก็จ้างคนทำงานได้ไม่นานนัก"พ่อ แม่บอกว่าทุ่งนาและภูเขาให้หนูจัดการได้ตามใจชอบ แค่แปลงผักอย่าไปยุ่ง ถ้าขอเช่าเครื่องจักรไถดินด้วยได้ไหม"ซื้อไม่ไหวก็เช่าได้!ซ่งซานเฉินยังไม่ค่อยเปิดใจเท่าไหร่ "ถานถาน ลูกจะทำไร่จริงๆ เหรอ ลองทำแค่หนึ่งหรือสองแปลงก่อนก็พอแล้ว ทำใหญ่ขนาดนี้ ชาวบ้านรู้เข้าจะต้องว่าเราโอ้อวดแน่ๆ "ซ่งถานเองก็คิดได้ เธอไม่ได้คิดเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-05
  • กลับจากแดนเซียนเพื่อมาไลฟ์สดขายผัก!   บทที่ 8 ถั่วม่วง

    ซ่งซานเฉินขมวดคิ้ว "นี่หนูตั้งใจจะปลูกถั่วม่วงในพื้นที่หลายสิบเอเคอร์เลยหรือ"มิเช่นนั้นจะไม่จำเป็นต้องใช้เมล็ดถั่วม่วงจำนวนมากขนาดนี้ ถั่วม่วงหนึ่งเอเคอร์ใช้เมล็ดพันธุ์เพียงห้าหรือหกกิโลกรัมเท่านั้นตอนนี้ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ยังคงสวมเสื้อผ้าขนเป็ดและเสื้อโค้ทผ้าฝ้ายหนาอยู่ เมื่อถึงเดือนมีนาคม อุณหภูมิจะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ตราบใดที่ไม่มีความหนาวเย็นในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ และความแตกต่างของอุณหภูมิช่วงหลังเที่ยงคืนไม่มากนัก พืชผลทางการเกษตรส่วนใหญ่ก็สามารถปลูกได้แล้วแต่หากปลูกถั่วม่วง อย่างน้อยที่สุดก็ต้องไถพรวนอีกครั้งในปลายเดือนเมษายนหรือพฤษภาคมเพื่อปลูกอย่างอื่นได้...ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ไม่ได้ขัดขวางการปลูกอย่างอื่นตามประสบการณ์การทำไร่ทำนาของซ่งซานเฉิน เดือนพฤษภาคมเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการปลูกพืชในชนบท ในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายนของทุกปีจะมีความหนาวเย็นในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ ความแตกต่างของอุณหภูมิก่อนและหลังเที่ยงคืนมีมาก เมล็ดพันธุ์ที่เพิ่งงอกก็อาจจะถูกแช่แข็งจนตาย ไม่เหมาะสมเพียงแต่เขาคิดว่าการใช้เงินและเสียเวลาไปมากมายตั้งแต่แรก ทำให้รู้สึกไม่สบายใจเมื่อคืนซ่งถานคิดอย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-05
  • กลับจากแดนเซียนเพื่อมาไลฟ์สดขายผัก!   บทที่ 9 เลี้ยงหมูเหรอ

    กลับถึงบ้าน อู่หลานก็ซักไซ้เรื่องเงินก้อนนี้อย่างที่เธอคิดไว้จริงๆ ซ่งถานรายงานทีไร เส้นเลือดที่หน้าผากของเธอก็เต้นตามไปด้วยทุกรอบ เต้นจนซ่งถานใจคอไม่ดี จะขอเงินทำอะไรก็ดูติดขัดเก้ๆ กังๆ ไปเสียหมดตอนนี้ ต้องรีบใช้กลยุทธ์ถัดไปปิดฉากแม่เธอ "แม่ หนูอยากเลี้ยงหมูสักสองสามตัว…ได้ไหม"ตอนนี้ราคาหมูขึ้นๆ ลงๆ แต่ไม่ว่าราคาเท่าไหร่ หมูตามบ้านนอกอย่างหยุนเฉิงก็ไม่เคยขายไม่ออก ตามหลักแล้ว เลี้ยงหมูก็เหมาะสมดี"กี่ตัว"อู่หลานฮึดฮัด เหมือนคิดว่าลูกสาวตนเองไม่เคยจับงานใหญ่ "ตอนนี้หมูแพง ลูกหมูก็แพง ตัวละตั้งหลายร้อย กลับมาบ้านก็ต้องก่อเตาทำอาหารให้หมูกินอีก แถมตอนนี้หนาวก็ต้องซื้อรำข้าวโพด”โอ๊ย ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น แค่หมูหิวก็ร้องแล้ว หมูสองสามตัวก็ร้องดังระงมไปทั่ว ต้องคอยสร้างคอกหมูอีก แค่เฉพาะทำงานในไร่ก็ยุ่งเป็นระวิงมือไม้ใช้ไม่พอแล้ว ซ่งถานเป็นแบบนี้เสมอ เห็นได้ชัดว่ายังไม่ทันเดินก็คิดจะบิน ในสายตาของอู่หลาน มันไม่น่าเชื่อถือเลย"อีกอย่าง ทรัพย์สินล้นฟ้าล้วนไม่นับสิ่งมีขน ถ้าหมูเกิดป่วยขึ้นมา..."แต่ซ่งถานอยากกินเหลือเกิน ช่วงนี้เธอสามารถฝึกฝนลมปราณได้แล้ว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น แค่เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-08
  • กลับจากแดนเซียนเพื่อมาไลฟ์สดขายผัก!   บทที่ 10 ห่านขาวตัวใหญ่

    ซ่งถานมีคุณปู่ชื่อซ่งโหย่วเต๋อ เป็นชาวนาแก่ๆ อายุ 79 ปีแล้ว ท่านป่วยเป็นโรคถุงลมโป่งพองเนื่องมาจากการสูบบุหรี่บ่อยๆ และถี่หนักตั้งแต่สมัยยังหนุ่ม ดังนั้นแกจึงหอบง่ายมาก ส่งผลให้ทำงานหนักไม่ได้มาหลายปี นอกจากการดูแลสวนผักง่ายๆ ก็ยังถนัดเล่นไพ่ใบไม้กับกลุ่มคนแก่ในหมู่บ้านเป็นกิจวัตรบ่อยๆ ด้วย ในมือแกชอบถือไปป์ยาสูบเก่าแก่ที่หายาก ในสิบหมู่บ้านแปดเมือง ทุกปีจะต้องมีคนมาขอซื้อน้ำมันยาสูบเก่าในไปป์แกเพื่อรักษาแผลคนในครอบครัวตลอดไพ่ใบไม้ คุณปู่ของฉันเคยชอบเล่นเกมลับสมองแบบนี้ แต่ผ่านไปสักพักก็ไม่มีใครเล่นตามแกกันแล้วส่วนคุณยายหวังลี่เฟินนั้น ขาแข็งแรง ร่างกายแข็งแรง ทำอาหารเก่งมาก ปัจจุบันสวนผักในบ้านก็ยังคงได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ทุกปีจะมีชาวบ้านมาหาเธอเพื่อขอซื้อต้นกล้าผักสวนครัวโดยเฉพาะ เธอจึงเป็นเสาหลักของบ้านซ่งเลยก็ว่าได้ซ่งถานออกจากบ้าน เดินผ่านสวนผัก เห็นบ้านเก่าแก่ที่ทำจากอิฐสีแดงตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา ลานหน้าบ้านปูด้วยซีเมนต์เป็นพื้นที่กว้าง ในใจก็พาลหวนนึกถึงตอนตัวเองยังเด็กขึ้นมาทันที ต้นไม้ไทรสูงใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ที่มุมลาน ใต้ต้นไม้มีไก่หลายตัวนอนอาบแดดคุ้ยเขี่ยทรายเล่นอยู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-08
  • กลับจากแดนเซียนเพื่อมาไลฟ์สดขายผัก!   บทที่ 11 การจัดการเมล็ดพันธุ์

    เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น ซ่งซานเฉินตื่นขึ้นมาแล้วก็ต้องตกตะลึงไปชั่วขณะหนึ่งอากาศ...สดชื่นจัง!ยิ่งได้เห็นแนวภูเขาที่ปกคลุมด้วยหมอกบางๆ ประกอบกับแสงสีทองอ่อนอำไพแผ่กระจายอย่างจางๆ ดูสวยงามราวกับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศก็ไม่เกินจริงคูน้ำหน้าบ้านยังมีหมอกสีขาวปกคลุม หนาแน่นและบังตาจนเขามองแทบไม่เห็นพื้นผิวน้ำ มันกำลังเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ค่อยๆ สลายไป ส่วนต้นเหมยฮวาที่อยู่รอบๆ สนาม ซ่งซานเฉินจำได้ชัดเจนว่ามันเคยร่วงโรยไปตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้ว ทำไมวันนี้ถึงกลับมาบานอีกครั้ง? ดอกตูมสีเหลืองเล็กๆ ซึ่งยังบานไม่เต็มที่นั้น ไม่เพียงแค่ดูน่ารักราวเด็กน้อยหัดเดิน แต่กลับยังมีกลิ่นหอมโชยมาแต่ไกลขณะนี้ ชาวนาชราได้มีโอกาสชื่นชมความงามที่ไม่พบเจอมานานมากแล้ว แต่ก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง เหมือนกับว่าตัวเองกำลังถูกชื่นชมเขาหันไปมอง!เห็นกระรอกสีเทาพื้นเมืองเจ็ดแปดตัวเกาะกำแพงบ้านแล้วมองเข้ามาเหมือนพวกปาปารัสซี่ พอลองมองไปที่ภูเขาหลังบ้าน ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นภาพที่เพิ่งผ่านพ้นฤดูหนาวมา แต่กลับมีกลิ่นอายของความสดใหม่ ราวกับว่าเพิ่งขัดเคลือบเงาซ่งซานเฉินมองอยู่นานจนงง แล้วก็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-10
  • กลับจากแดนเซียนเพื่อมาไลฟ์สดขายผัก!   บทที่ 12 หารือ

    ปลายเดือนกุมภาพันธ์ต้นเดือนมีนาคม จะเป็นช่วงเวลาแห่งความอึดอัดใจและกลัดกลุ้มสำหรับชาวนาในแต่ละปี เมื่อสิ้นปีได้ผ่านพ้นไป ลูกหลานส่วนใหญ่มักพากันย้ายออกไปตั้งรกร้างครอบครัวของตัวเองยังที่แห่งใหม่ นกเธอแอ่นบนคานหามยังไม่กลับมา ที่ดินรกร้างว่างเปล่าก็มีมากขึ้น หากมองไกลๆ จากบนท้องฟ้าจะพบสีเหลืองและน้ำตาลครามครอบคลุมพื้นที่ดินจำนวนมาก ยกเว้นภูเขาเขียวขจีที่อยู่ไกลออกไปแล้ว หมู่บ้านทั้งหมู่บ้านก็เงียบเหงาและสงบแต่ในวันนี้ ทุ่งนาข้างป่าไผ่ของตระกูลซ่งกลับคึกคักอีกครั้ง"ซ่งซานเฉิน ปีนี้บ้านนายเป็นอะไรไป ร่ำรวยเตรียมทำอะไรใหญ่โตหรือยังไงกัน ทุ่งนาตั้งเยอะแยะจะเก็บกวาดไปทำไม""ใช่แล้วซ่งซานเฉิน นายจะปลูกอะไรกันแน่ ที่ดินเดิมยังมีต้นชาสองสามต้น ฉันเห็นยังทิ้งๆ ขว้างๆ อยู่เลย"ทุกคนถูกซ่งซานเฉินเชิญมาเก็บกวาดที่ดิน เครื่องจักรรถไถกำลังทำงานอย่างหนักหน่วงอยู่ที่มุมหนึ่ง ก่อนจะไถดิน พวกเขาจำเป็นต้องกำจัดวัชพืชและเศษซากต้นไม้เล็กๆ ที่แห้งกรังในที่ดินก่อน ไม่เช่นนั้นเครื่องจักรขนาดเล็กอาจจะมีเศษติดอยู่ใต้ท้องเครื่องโชคดีที่มีคนมาร่วมแรงช่วยกันเยอะแยะ ทำให้งานดูสนุกและมียังมีประสิทธิภาพดีด้วย เมื่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-11
  • กลับจากแดนเซียนเพื่อมาไลฟ์สดขายผัก!   บทที่ 13 ชะตากรรมของคนยากจน

    ตอนนี้เป็นช่วงพักจากการทำนา ชายหญิงในหมู่บ้านวัยสามสิบถึงห้าสิบปีที่พอจะแบกหามได้ก็ถูกซ่งซานเฉินเรียกมาช่วยหมดแล้ว เวลาไม่คอยท่า ฉวยโอกาสนี้จัดการให้เสร็จ เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิก็ต้องหว่านเมล็ดลงดินแล้วแผนลำดับขั้นตอนของซ่งถานร่างไว้อย่างชัดเจนต้องจัดการหญ้าในสวนเกาลัด ต้นเกาลัดเหล่านั้นควรใส่ปุ๋ยและตัดแต่งกิ่งให้เรียบร้อย ถึงเวลาก็ต้องทำโครงสำหรับวางเห็ดหูหนู ต้องล้อมรั้วรอบนอกเพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์หรือคนเข้ามาสร้างความวุ่นวายพอดีที่ด้านหลังภูเขาตัดต้นไม้ทิ้งไปหลายต้น ลำต้นแบ่งเป็นท่อนๆ เพื่อใช้เพาะเห็ดได้ กิ่งก้านสามารถใช้ทำเป็นเพิงกำบังลมและกันฝนสาดให้หมู และยังต้องเตรียมรางใส่อาหารหมูกั้นด้วยตาข่ายลวดส่วนในไร่ ภายในหนึ่งหรือสองเดือนนี้จะปลูกถั่วม่วงไว้ก่อน เมื่อถั่วม่วงออกดอกแล้วก็ถึงเวลาไถพรวนดินอีกครั้ง เตรียมปลูกข้าวและผัก เมล็ดบางชนิดก็สามารถเพาะกล้าไว้ล่วงหน้าได้ในช่วงเวลานี้ นอกจากนี้ยังต้องหาไก่บ้านและเป็ด อีกทั้งต้องนัดหมายกับชาวบ้านคนอื่นเพื่อรับซื้อลูกหมู เวลามีคนมาช่วยงานเยอะๆ ก็ต้องเตรียมอาหารทุกวันซ่งซานเฉินและอู๋หลานต่างก็ยุ่งจนตัวเป็นเกลียว แล้วลูกสาวล่ะ?ก็ไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-11

บทล่าสุด

  • กลับจากแดนเซียนเพื่อมาไลฟ์สดขายผัก!   บทที่ 26 ข่าวสารจากโรงพยาบาล

    โรงพยาบาลประชาชนมณฑลหนิง สาขาที่ 1ผู้ช่วยแพทย์เจินหลี่เพิ่งลงจากห้องผ่าตัด พยาบาลก็เข้ามาบอกว่า "ผู้ช่วยเจินคะ มีพัสดุส่งมาถึงคุณค่ะ"เจินหลี่งุนงง เธอจำไม่ได้ว่าตัวเองสั่งซื้ออะไรไว้ พอไปถึงแผนกก็อุทานว่า "นี่! ทำไมเป็นของสดแช่เย็นล่ะเนี่ย"พอตรวจสอบชื่อผู้ส่งก็ถึงกับบางอ้อ "ซ่งถาน"เธอเงียบไป..พยาบาลสาวๆ แห่กันเข้ามา "ผู้ช่วยเจินคะ ผู้ช่วยสั่งอะไรมาเหรอ"เจินหลี่หัวเราะทั้งน้ำตา "นี่ฉันไม่ได้สั่งซื้อนะ ก่อนหน้านี้เคยมีอุบัติเหตุรถชนบนสะพาน แล้วผู้หญิงคนนั้นที่ฉันเป็นคนรับผิดชอบร่วมกับนายแพทย์จางหยวน เธอก็ส่งของนี่มาให้เฉยๆ ""พวกคุณคงจำได้ ตอนนั้นที่ผู้หญิงคนนั้นถูกทับอยู่ในรถ ดึงยังไงก็ดึงไม่ออกไง แล้วก็มีผู้ชายใจดีคนหนึ่งช่วยดึงเธอออกมา แต่พอส่งมาถึงโรงพยาบาล เธอดันไม่เป็นอะไรเลยซะอย่างนั้น"โชคดีอะไรอย่างนี้!พอได้ฟังต้นสายปลายเหตุของเรื่องราว ทุกคนก็ต่างนึกถึงเหตุการณ์นั้นออกทันที เนื่องจากเป็นเหตุการณ์หนึ่งที่โด่งดังไปทั่วโรงพยาบาลในรอบปี จึงสลับหันกลับไปมองพัสดุก็ยิ่งต่างแปลกใจกันใหญ่ เจินหลี่เธอเป็นผู้ช่วยแพทย์ลำดับแรก ซึ่งการช่วยชีวิตคนเป็นหน้าที่ของเธออยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป

  • กลับจากแดนเซียนเพื่อมาไลฟ์สดขายผัก!   บทที่ 25 เพื่อนร่วมชั้นเรียนเก่ามาเยือนอีกครั้ง

    "ป้า นี่คือเงินสามสิบหยวนค่ะ รับไว้เถอะ หนูรู้ดีว่าผักของตัวเองมีคุณภาพยังไง ถ้าป้าไม่ชอบกินก็ไม่จำเป็นต้องเสียเงินนี่นา คนข้างหลังรอซื้ออีกเยอะแยะเลยค่ะ ผักโขมตรงนี้ก็ปล่อยให้คนอื่นเขาซื้อกันเถอะ"ป้าคนนั้นพูดไม่ออกไปชั่วขณะ จากนั้นก็ไม่รับเงิน "หนูเป็นคนใจร้อนจริงนะ ทำการค้าจะไม่ให้คนอื่นติติงได้เลยเหรอ แค่สามสิบหยวนเอง ไม่เอาก็ได้ หนูขายผักโขมให้ฉันสิ""ไม่ได้ค่ะ" ซ่งถานหัวเราะอย่างใจเย็น แต่คำพูดที่ปฏิเสธนั้นกลับแข็งกร้าว"ป้าก็เห็น ผักของร้านเราจะขายไม่ทันอยู่แล้ว ซื้อไปแล้วไม่ชอบก็ไม่จำเป็นต้องซื้ออีกนี่คะ""ถูกต้อง! " ป้าข้างหลังเสริมรับทันที "ฉันจะเอาผักโขมกำนั้น! "ได้ของถูกแต่เสียของแพง ผักโขมป่าวางอยู่ในตะกร้า รวมแล้วเหลือไม่ถึงห้ากิโลกรัม เธอมาติติงแล้วยังจะให้ขายผักให้อีก สรุปคือเธอตั้งใจตามมาขอคืนเงินหรือแสดงนิสัยเกเรกันแน่...คนโง่ยังไม่ทำธุรกิจแบบนี้เลยนะ!รสชาติของผักป่าแบบนี้จะขายไม่ออกได้ยังไงซ่งถานถือโอกาสตอนที่อีกฝ่ายอ้าปากค้างอยู่ เธอก็ยัดเงินสามสิบหยวนใส่ในมือคุณป้าอย่างว่องไว "ป้าคะ ตลาดยังมีร้านผักอื่นๆ อีก ป้าลองไปหาเลือกดูเองนะ ฉันยุ่งอยู่"น้ำเสียงของเธอเห

  • กลับจากแดนเซียนเพื่อมาไลฟ์สดขายผัก!   บทที่ 24 คืนเงิน

    แย่ชะมัด พอซื้อรถแล้ว ผักก็พากันเจริญงอกงามอย่างบ้าคลั่ง ราวกับจะไปเพาะพันธุ์เจริญเติบโตในใจอู่หลาน สมกับที่แม่เธออยากจะให้ไปขายวันละครั้งจริงๆแต่ซ่งถานไม่ยอม เธอเป็นคนเดียวในบ้านที่มีใบขับขี่ ดังนั้นจึงดึงดันว่ายังไงก็ไม่ไปขายทุกวันเด็ดขาด จนทำให้วันรุ่งขึ้น อู่หลานต้องอัดผักลงท้ายรถถึงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบกิโลกรัม! ซ่งถานเห็นแล้วก็แอบเดินหลบๆ ไม่กล้าสู้หน้า"แม่ คราวนี้ขายหมดแล้วก็พักก่อนสักสองวันเถอะ" พลังจิตวิญญาณของผักป่าเองก็ไม่สามารถเร่งเร้าให้สูงได้มากกว่านี้ โดยไม่ให้โอกาสมันได้พักฟื้นเช่นกันอู่หลานพอนึกถึงพื้นลานบ้านที่กว่าจะลากผักขึ้นรถมาด้วยความยากลำบาก ก็ตอบไปอย่างโล่งใจว่า “อื้ม ก็ดีเหมือนกัน” จากนั้นก็บ่นปลอบตัวเอง "ค่าน้ำมันแพง แล้วอะไรนะ ไปทีก็ต้องคุ้มค่าเนอะลูก"คิดไปคิดมาเธอก็หันไปสั่งเสียลูกสาวก่อนรถจะเคลื่อนตัวออกจากหมู่บ้าน "เที่ยงวันนี้แม่จะพาคนไปที่บ้านปู่เพื่อเพาะเชื้อเห็ดด้วยนะ ส่วนพ่อก็ต้องหาคนไปดึงตาข่ายบนภูเขาเหมือนกัน ถ้าเที่ยงนี้พวกหนูกลับมาก่อน ก็ไปกินข้าวที่บ้านปู่เลยทีเดียว""ได้" ซ่งถานสตาร์ทรถ "เฉียวเฉียว ไปกันเถอะ"เฉียวเฉียวดีใจที่ได้ตำแหน่งที่นั่งข้

  • กลับจากแดนเซียนเพื่อมาไลฟ์สดขายผัก!   บทที่ 23 เหมือนผักโขมจะแก่ไปหน่อยนะ

    ในที่สุดฉินฉินก็หายใจหายคอได้สะดวกขึ้นแล้ว ชั่วครู่หนึ่งเมื่อเห็นว่าแม่กับลูกยังไม่ได้กิน จึงคีบกับข้าวไปสองสามตะเกียบอย่างเกรงใจ จนกระทั่งเฉาหยางยกข้าวมาเสิร์ฟ จานกับข้าวก็ใกล้จะหมดแล้ว“แม่ เฉาหยาง ชิมดูสิคะ กับข้าวอร่อยจริงๆ ”แม่กับลูกก็หัวเราะคิกคักแล้วตักกินไปคนละคำเฉาหยางมองก้นจาน แล้วมองภรรยาที่เห็นได้ชัดว่ายังกินไม่จุใจ ขณะนี้มองแม่ของเขาด้วยความคาดหวัง “พรุ่งนี้ซื้อเพิ่มอีกหน่อยได้ไหมครับ”สถานการณ์เดียวกันนี้ก็เกิดขึ้นในอีกชุมชนหนึ่งเช่นกันหลี่ซิ่วเฟินที่ย้อมผมหยิกสีแดงแฟชั่นตักเกี๊ยวให้หลานสาวชามใหญ่ “หยวนหยวน รีบกินสิ! เกี๊ยวผักโขมอร่อยมาก! อร่อยเหมือนเมื่อมื้อเช้าเลย”ลูกสะใภ้เห็นแล้วก็อดขำไม่ได้ “แม่คะ บอกแล้วไงว่าหยวนหยวนกินยาก แม่ตักให้เยอะขนาดนี้หลานกินไม่หมดหรอก” พูดแล้วก็วางชามของตัวเองลงไป “มาสิหยวนหยวน กินไม่หมดแบ่งให้แม่”ไม่นึกว่าเด็กน้อยจะอุ้มชามหันหน้าหนี “อ้ำ” กินเกี๊ยวทั้งลูกไปหนึ่งคำ พลางพูดเสียงอู้อี้ “อร่อย! หนูจะกินหมดเลย!”แม่ของหยวนหยวนถึงกับอึ้ง“อร่อยขนาดนั้นเลยเหรอ”เด็กกินยากคนนี้ ตั้งแต่เล็กจนโตม้ามมักจะไม่ค่อยดี กินอันนี้ไม่ได้ กินอันนั้นก็จะอ

  • กลับจากแดนเซียนเพื่อมาไลฟ์สดขายผัก!   บทที่ 22 ผักวิเศษ

    ความรู้สึกคลั่งไคล้ที่ผู้ชายมีต่อรถนั้นยากที่จะบรรยายเป็นคำพูดเสมอ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์ก็ตามซ่งซานเฉินยังคงบ่นพึมพำไม่หยุดหลังจากวางสายโทรศัพท์ไปได้ไม่นาน เขาบอกว่าขับรถคนเดียวไม่ค่อยปลอดภัย แถมถนนหนทางบนภูเขายังจะทำไว้ไม่ค่อยดีอีก รถมือสองก็หายากมากในสมัยนี้แต่พอมาถึงสถานที่ตามนัดหมาย เพื่อนของเขาก็พาไปโกดังเพื่อดูรถที่จอดเรียงรายซ้อนกันเป็นแถวอยู่ ซ่งซานเฉินรีบกลืนคำพูดตัวเองไปทันทีตอนนี้กำลังตัดสินใจระหว่างรถตู้และรถกระบะ"ถานถาน รถตู้ไม่กลัวลมหรือฝนก็จริง แต่จุของได้น้อยกว่า ไม่งั้น...""รถกระบะบรรทุกของได้เยอะกว่า แต่ถ้าสภาพอากาศไม่ดี ของที่อยู่ด้านหลังก็เปียกฝนได้นะซานเฉิน""รถกระบะบรรทุกของได้เยอะ แต่รถตู้ก็สามารถนั่งได้หลายคนนะ นายจะซื้อเอาไปใช้งานอะไรเป็นหลัก ไม่ได้เอาไปขายผักตามตลาดใช่ไหมล่ะ..."คุณพ่อของเธอนี่...โดนคนอื่นหลอกล่อจนหาทางกลับไม่เจอแล้ว เธอจะซื้อรถมาเพื่ออะไรถ้าไม่ใช่เพื่อขายผัก? อีกอย่างที่นาหลายไร่ เธอตั้งใจจะปลูกพืชผักตั้งหลายอย่าง ถ้าหาซื้อรถที่บรรทุกของไม่ได้เยอะ ก็ต้องเสียเวลาไปอีกเท่าไหร่กันรถกระบะมือสองราคา 46,500 หยวน รวมป้ายทะเบียนแ

  • กลับจากแดนเซียนเพื่อมาไลฟ์สดขายผัก!   บทที่ 21 ลูกค้าประจำ

    "สามสิบ" แม้จะไม่รังเกียจ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกดีอะไรนักซ่งถานไม่มีความคิดที่จะลดราคาให้เป็นกรณีพิเศษ"อะไรนะ?! "อู่เฉียนเฉียนตกใจ หน้าบึ้งตึงขึ้นทันที เธอเคยซื้อผักอย่างจริงจังมาก็หลายครั้ง ครั้งนี้พอได้ยินว่าแพงขนาดนี้ เธอก็รู้สึกว่าซ่งถานเหมือนกำลังแกล้งเธอกับแฟนหนุ่ม"ก็แค่ผักป่าไม่ได้มีต้นทุนอะไรเลย จะแพงขนาดนี้ได้ยังไง ซ่งถานเราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน เธอไม่ควรเอาเปรียบฉันขนาดนี้หรือเปล่า"ทันทีที่พูดจบ ก็มีป้าคนหนึ่งแทรกเข้ามาด้านหลังทันที"โห ยังมีผักเหลืออยู่อีกเหรอ นึกว่าจะไม่ทันซะแล้ว งั้นป้าเอาหมดสามมัดเลย"ป้าคนนั้นนำผักทั้งสามมัดใส่ถุงอย่างชำนิชำนาญ ขณะที่หลับตาสแกนเข้ากลุ่มอย่างงุ่มง่าม ปากก็บ่นพึมพำให้ซ่งถานฟังเรื่อยเปื่อย"ป้าสารภาพกับหนูเลย จริงๆ ที่ซื้อไปรอบแรกก็แค่อยากลองเพราะไม่เคยเห็นคนเอาผักป่ามาขาย แต่พอป้ากลับบ้านไปคลุกกับเส้นก๋วยเตี๋ยวเท่านั้นแหละ หลานสาวป้าพอแกได้ชิมคำแรกก็ล่อไปตั้งชามโตๆ เลย! ฮ่าฮ่า หนูไม่รู้หรอกว่าหลานป้ากินยากขนาดไหน... ตอนนี้ป้าเข้ากลุ่มแล้วนะ ถ้าพรุ่งนี้หนูยังมาขายอีก ก็บอกล่วงหน้ามาหน่อยนะจ๊ะ"พูดจบแกก็ควักเงินเก้าสิบหยวนจากกระเป๋าออกมา ยั

  • กลับจากแดนเซียนเพื่อมาไลฟ์สดขายผัก!   บทที่ 20 เพื่อนเก่าที่ตลาด

    คนเรามักชอบทำตามคนหมู่มากเมื่อกลุ่มคนวัยป้าๆ ที่ดูชำนาญในเรื่องการจับจ่ายซื้อของในตลาด ต่างพากันมุงล้อมรอบตะกร้าขายผักเล็กๆ เพื่อแย่งกันซื้อ ใครก็ตามที่ผ่านมาเห็นก็ต้องหยุดชะงักและเดินวกกลับมาดูร้านขายผักป่าของซ่งถานทั้งนั้นซ่งถานรู้สึกเพียงว่าการรับชำระเงินผ่าน QR Code หลั่งไหลเข้ามาไม่หยุดเลย และมือก็สาละวนหยิบผักใส่ถุงจนพันกันไปหมดคนนี้ต้องการต้นหอมป่า คนนั้นต้องการผักกาดหอม อีกคนต้องการผักโขมจีน...อีกคนต้องการผักโขมป่าโชคดีที่เธอเป็นผู้บำเพ็ญเซียน จึงมีปฏิกิริยาที่ว่องไว ไม่เช่นนั้นหากเป็นการขายผักครั้งแรกแล้วเจอสถานการณ์เช่นนี้ เธอคงถูกคนอื่นแอบขโมยหยิบผักสดไปโดยไม่รู้ตัวเฉียวเฉียวที่อยู่ข้างๆ รู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากที่ได้ดึงถุงพลาสติกส่ายไปมาเพื่อเปิดปากถุง แล้วส่งให้พี่สาว เขาเล่นอย่างสนุกสนาน ย่อมต้องไม่เข้าใจเรื่องการค้าขาย แต่การเปิดปากถุงนั้นสนุกจริงๆ"เฉียวเฉียว ประกาศหน่อย บอกว่าผักโขมป่าขายหมดแล้ว""อืม"เขาจึงวางถุงลงอย่างว่าง่าย ยืนตัวตรง แล้วประสานมือไว้ที่ปาก "ผักโขมป่า…..หมดแล้ว! "เมื่อประกาศไปเช่นนั้น ผู้ที่ต่อแถวอยู่ด้านหลังซึ่งยังไม่ได้ซื้อก็ยิ่งรู้สึกไม่พ

  • กลับจากแดนเซียนเพื่อมาไลฟ์สดขายผัก!   บทที่ 19 ผักป่าออกสู่ท้องตลาด

    อู่หลานกินไปเพียงชามเดียวก็ต้องหยุดกิน ถึงแม้จะยังรู้สึกไม่เต็มท้องดีนักก็ตาม เนื่องจากขนาดกระเพาะอาหารของคนในครอบครัวแต่ละคนเธอจะปล่อยให้มันร้อง ‘จ๊อกจ๊อก’ ไม่ได้ ต้องมั่นใจก่อนว่ามื้อเช้าตรู่นี้ทุกคนจะต้องได้อิ่มจนจุก ดังนั้นเธอจึงปฏิเสธไปทันทีว่า "เดี๋ยวแม่ค่อยกินต่อ เช้านี้เรามาลองผักป่าที่เพิ่งเก็บกันก่อนดีกว่า! ยังไม่ได้กินมื้อเช้ากันเลยนี่นา"เธอหยิบผักที่เป็นหัวปลี ผักโขม และผักกาดหอม เพื่อความสะดวกและเพื่อชิมรสชาติก่อนด้วย เธอจึงนำไปลวกน้ำร้อนแล้วนำมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงชนิดเดียวกันในขณะนี้ พริกแดงสด งาสีขาว ซอสปรุงรสสีน้ำตาลเข้ม และใบอ่อนกับลำต้นสีเขียวผสมผสานกัน ส่งกลิ่นหอมเปรี้ยวจนแสบลิ้นและเผ็ดฉุนมาแตะจมูก ซ่งซานเฉินไม่ลังเลอีกต่อไป รีบใช้ตะเกียบคีบใส่ปากทันที"อืม! "รสชาติอร่อย เผ็ดร้อน เปรี้ยว ซ่า กรุบกรอบ... รสชาติต่างๆ ผสมผสานกันจนซ่งซานเฉินหยุดกินไม่ได้ ตะเกียบหนึ่งคู่คีบกินผักไปได้เกือบครึ่งจาน"มันช่างน่ากินดีจริงๆ ถ้ารู้แบบนี้จะหุงข้าวสักเต็มหม้อแล้ว" เขารู้สึกเสียดายมากแต่ว่าอู่หลานกลับมองไปที่ท้องของเขา "อย่ากินอีกเลย มันมากไปเดี๋ยวจะจุกเสียก่อน... เดี๋ยว

  • กลับจากแดนเซียนเพื่อมาไลฟ์สดขายผัก!   บทที่ 18 หัวแม่ค้า

    หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน ซ่งถานก็ถือตะกร้าเตรียมจะไปขุดผักป่าอีกรอบหนึ่งท้องฟ้ายังคงมืดครึ้ม อุณหภูมิสิบกว่าองศา หากไม่มีแดดก็คงไม่สามารถพูดได้ว่าอบอุ่น ในสภาพอากาศเช่นนี้ ทุกครัวเรือนต่างก็ก่อไฟผิงอยู่ที่บ้าน แทบไม่มีผู้ใดออกนอกบ้านอู่หลานมองตะกร้าใบใหญ่ที่เธอถืออยู่ ก็รู้สึกสงสารลูกสาวในช่วงเวลาที่ต้องลำบากยากเข็ญเช่นนี้ "หนูจะรีบไปขุดผักป่าทำไมตอนนี้ พักให้หายเหนื่อยก่อนค่อยไปตอนเย็นอีกรอบก็ได้ พอถึงวันพรุ่งนี้ผักก็จะได้ยังสดใหม่อยู่ ดีไหม"ซ่งถานนึกถึงสีเขียวขจีที่ริมสระน้ำบนเนินเขา หากผักพวกนั้นไร้ซึ่งพลังจิตวิญญาณ เป็นแค่ผักธรรมดาทั่วไป เธอก็คงไม่จำเป็นต้องกระตือรือร้นขนาดนี้"ไม่เป็นไรค่ะแม่ แม่ห่อเกี๊ยวไปก่อนเถอะ หนูรู้สึกว่าผักกาดขาวที่เพิ่งเก็บมาวันนี้สดมาก"เมื่อเห็นว่าลูกสาวจะต้องไปให้ได้ อู่หลานก็ไม่อิดออดอีกต่อไป เพียงแค่บ่นพึมพำว่า "มันก็ชื่อผักกาดขาวเหมือนกันหมด เมื่อวานกับวันนี้จะมีอะไรแตกต่างกันนักหนา..."เธอนั่งอยู่ริมเตาผิง กะว่าจะคัดผักกาดขาวที่ขุดมาเมื่อเช้า แต่พอหยิบขึ้นมาก็รู้สึกว่าไม่ถูกต้องซะแล้ว"นี่มันดูดีขนาดนี้ได้ยังไงเนี่ย? "เฉียวเฉียวเป็นผู้ช่วยท

DMCA.com Protection Status