ณัฐการลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ผละตัวจากเขารีบคว้ากระเป๋า และโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว เพราะกำลังสับสนกับการกระทำของเขาที่มีต่อเธอ ความอ่อนโยนพวกนี้ กำลังเล่นตลกอะไรกับเธอกันแน่
“จะกลับแล้วเหรอ”
เขาถาม และคว้าเอวเธอไว้ เมื่อเห็นอาการร้อนรน ร่างที่แนบชิดกับอกของเขา ทำให้ณัฐการใจเต้นแรง และพยายามแกะแขนเขาออกจากเอว แต่ยิ่งแกะมันกลับยิ่งแน่น
“ขอบคุณที่ทานข้าวเป็นเพื่อน”
เธอขอบคุณเขาอย่างละล่ำละลัก ปากสั่นเพราะประหม่า ที่เขาอยู่ใกล้มาก
“แค่นี้เองเหรอ” เขายิ้มที่เห็นเธอกำลังประหม่า ดวงตาสั่นไหว
“อืม” ณัฐการหลบตาต่ำลงจ่ออยู่ที่อก
“แต่ผมอยากทำอย่างอื่นอีก” พูดจบ เขาก็พรมจูบไปทั่วหน้า บดขยี้ริมฝีปากเธออย่างโหยหา
“อ่า” ณัฐการทำได้แค่หาจังหวะได้หายใจ เพราะมันรัวไปหมดจนหายใจไม่ทัน
“ไม่เจอกันตั้งนานคุณไม่ต้องการมันเหรอ”
เขาซุกไซร้จนเธอไม่มีจังหวะปฏิเสธ&n
ร่างที่นอนคว่ำอ่อนระโหยโรยแรง แทบไม่มีแรงต้านและปฏิกิริยาตอบสนอง สหัสวรรษชั่งมีพลังล้นเหลือ สอดใส่ไม่หยุดแม้จะปลดปล่อยครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เขากลับไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เขาใช้สองมือประคองบั้นท้ายให้แอ่นโค้งขึ้นรับคันชัก จากนั้นไม่นาน เกศิตาถึงกับเบิกตาโพรง เมื่อเขาเริ่มหาช่องทางใหม่ที่คับแน่นกว่า และบีบรัดเขาได้ดีกว่าโพรงเก่าที่บวมช้ำจากการกรำศึกมานาน“แล้วเธอจะชอบ” เขากอดเธอไว้ ไม่ให้ขยับ เพราะยิ่งขยับมันจะยิ่งเจ็บ“คุณใหญ่เกินไป” เธอร้องแทบขาดใจ“ชอบไหม”สหัสวรรษรู้สึกถึงแรงฮึด ที่อยากจะกดมันเข้าให้สุด เพราะเธอบอกว่ามันใหญ่เกินไป“ชอบ แต่เบาหน่อยได้ไหม คุณใจร้ายกับฉันมาก”เกศิตาตอบและร้องขอ เจ็บปวดและหฤหรรษ์จนต้องร้องไห้ออกมา สะอื้นไห้จนร่างกายสั่นไหวไปหมด“ร้องสิ ร้องเยอะๆ ผมชอบ”สหัสวรรษชอบความรุนแรง ความเจ็บปวด ยิ่งเธอร้อง
“คืนนี้เราค้างที่นี่กันไหม”ปารวัตรถามณัฐการอย่างแผ่วเบา ขณะที่ร่างทั้งสองนอนซ้อนกันอยู่บนเก้าอี้โยกหวายตัวเก่าริมระเบียง เพื่อมองพระอาทิตย์ที่กำลังจะพ้นขอบฟ้า“ค่ะ”ณัฐการตอบรับ ขณะที่มือของเขาที่ลูบไล้เธอไปตามเนินอกนุ่มนิ่มอวบอิ่ม จนใบหน้าที่แนบกับแขนของเขา ที่แทนหมอนหนุนให้เธอเริ่มขยับขึ้นลงเสียดสีกับต้นแขน ก่อนจะครางเบาๆ“ผมชอบเสียงแบบนี้ของคุณที่สุด” ก่อนจะจูบข้างแก้ม และติ่งหูเลยถึงซอกคอไล่มาตามแนวไหล่เปล่าเปลือย“คุณหิวไหม” ณัฐการถามเขาเพราะมันเย็นค่ำ ใกล้ถึงเวลามื้อเย็นเพราะดวงอาทิตย์เพิ่งจะลาลับไป“หิวสิ”ก่อนจะดึงเธอกลับมาและจูบอย่างเร่าร้อน และเคล้าคลึงเนินอกนุ่ม ก่อนจะลากฝ่ามือผ่านหน้าท้องแบนราบ เลยต่ำลงตรงจุดกลางกายสาวที่อบอุ่น“ทานข้าวก่อนดีกว่าไหม”ณัฐการจับมือเขาไว้ และยิ้มอย่างอ่อนโยน เพราะเขาควรจะอิ่มท้องก่อน จึงจะมีแรงอิ่มรักกันต่อไป&nbs
สหัสวรรษ ข่มตาไม่ลง เพราะร่างกายของเขากำลังพุ่งพล่าน แม้จะเพิ่งจบเกมส์ไป แต่มันผิดแปลกไปจากเดิม ที่เขาเคยเติมเต็มนับครั้งไม่ถ้วน แต่ครั้งนี้เขาต้องควบคุมมันเพราะเกศิตา เขาอยากให้ร่างกายของเธอหายเป็นปกติโดยเร็ว จึงไม่อยากลงมือกับเธอเกินกว่าร่างกายของเธอจะรับไหว เขานอนหันหลังให้เธอทั้งที่ยังคงสวมเสื้อผ้าเรียบร้อย แม้มันจะเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเขาหายใจแรงจนปลุกให้เกศิตาค่อยๆ ลืมตาตื่น แต่เธอกลับไม่ไหวติง แค่มองแผ่นหลังที่เปียกชื้นอยู่อย่างนั้น กลิ่นกายที่เกศิตาได้กลิ่น ทั้งหอมและเย้ายวนจนร่างกายเริ่มตุบตอด พลันร่างกายที่ทนไม่ไหวของสหัสวรรษก็ลุกขึ้น และตรงไปที่ห้องน้ำ โดยไม่ทันสังเกตว่าเธอตื่นและมองตามเขาไปสหัสวรรษถอดเสื้อผ้าของตัวเองจนเปล่าเปลือยก่อนจะเปิดน้ำเย็นๆ จากฝักบัวผ่านศีรษะ ปล่อยให้มันไหลผ่านเรือนร่างสูงโปร่ง ผิวขาวสะอาดตา ที่มีร่องรอยถูกกัด รอยเล็บ รอยนิ้วมือที่พยายามตบตี ขีดข่วนเขา เสียงน้ำตกกระทบในความเงียบ ทำให้เกศิตาเริ่มหายใจติดขัด
ภาพของปรารณที่โปะยาสลบณัฐการชัดเจน ทำให้เขาโมโหและโกรธจัด ออกคำสั่งให้ลูกน้องของเขาไล่ล่ามันมาให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย ปารวัตรมีเส้นสายค่อนข้างมาก เพราะเขาอยู่ในกลุ่มชมรมศิลปะการต่อสู้ หน่วยอบรมพิเศษฝึกการต่อสู้ กลุ่มนักเลงและเครือข่ายผู้มีอิทธิพลทั้งหลาย โดยเฉพาะกลุ่มใหญ่และมีอิทธิพลมากอย่าง คงทรัพย์“ครับพี่ ผมรู้ที่ ที่มันชอบพาผู้หญิงไป ผมได้ที่อยู่มาแล้ว ผมส่งลูกน้องไปดักแล้ว ส่วนพี่ปกรณ์กำลังตามมา”คงทรัพย์โทรแจ้งปารวัตรทันที เมื่อรู้ห้องเชือดของปรารณ“จับตัวมันไว้ก่อน อย่าเพิ่งทำไร ฉันจะจัดการกับมันเอง” น้ำเสียงของเขาเย็นชาและเหี้ยมเกรียม“ครับ”คงทรัพย์รู้จักเขาดี เพราะเขาคือมืออาชีพด้านนี้ ภายนอกเขาอาจจะดูเฉยชาไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึกมากนัก แต่เมื่อไหร่ที่เขาสวมวิญญาณนักสู้ เขาคือบอร์ดี้การ์ดที่พร้อมจะปกป้องและฆ่าศัตรูของเขาได้อย่างไม่ลังเลปรารณวางณัฐการลงบนเตียง และ
นับหนึ่งกลับถึงบ้านเกือบเที่ยงคืน ด้วยความเหนื่อยล้ามาทั้งวัน เธอแทบจะไม่มีแรงยืน หรือเดินไปไหน ได้แต่ทอดตัวนอนที่โซฟาตัวเก่า ที่ทำให้รำลึกถึงความหลัง ที่ครั้งหนึ่งธนญเคยนอนอยู่ตรงนี้ กลิ่นหอมละมุนที่คุกรุ่นผสมกับกลิ่นเหงื่อทำให้นับหนึ่งต้องหลับตาลง น้ำหอมที่เธอใช้คือกลิ่นที่เขาบรรจงสร้างสรรค์ให้กับเธอ ตั้งแต่ได้มันมา เธอไม่เคยแตะต้องกลิ่นอื่นอีกเลยการมาปรากฏตัวของธนญ ที่แม้เวลาจะผ่านไป 10 ปี นับหนึ่งก็ไม่เคยลืมเขา แม้ครั้งสุดท้ายที่เจอกันเขาจะสร้างความเจ็บช้ำแสนสาหัสให้แก่เธอมากก็ตาม แต่ใจที่รักเขามานานแสนนาน กลับเก็บเขาไว้จนลึก ยากที่จะหาใครมาทดแทนหรือเติมเต็มหัวใจของเธอได้อีก“ทำไมนายเงียบจัง” สืบสายถามเพื่อนรัก เมื่อเห็นเขาเงียบไป เอาแต่ดื่ม มีแต่เขาและพัศวีที่พูดคุยกันอยู่สองคน“ได้ข่าวว่านายไปเทคบริษัทออลโมส ฟราแกรนซ์มาเหรอ” พัศวีสนใจข่าวสังคมธุรกิจที่กำลังมาแรง“ใช่ วันนี้เพิ่งเข้าไปแนะ
ใบหน้าที่เคร่งเครียด จับจ้องอยู่ที่จอคอมพิวเตอร์ นับหนึ่งกำลังอ่านรายงานความเสียหายจากเหตุระเบิดห้องวิจัยเมื่อสองวันก่อน เธอหัวหมุนมาสองวันเต็ม เพิ่งจะมีโอกาสได้นั่งพัก และอ่านรายงานต่างๆ รวมถึงเมล์ที่ส่งเข้ามาอย่างต่อเนื่องเป็นร้อย ๆ เรื่อง ที่เธอต้องอ่านและตอบกลับโดยด่วนในขณะที่มินตรา กำลังเรียบเรียงเอกสารที่นับหนึ่งต้องเซ็นอนุมัติมากมายตามลำดับความสำคัญก่อนหลัง และไม่ลืมที่จะเตือน นัดหมายเรื่องสำคัญ“วันนี้ช่วงบ่าย ท่านรองจะพาท่านประธานมาเยี่ยมชมแผนกของเรา และดูความคืบหน้าเกี่ยวกับ การปรับปรุงห้องแล็ปที่ได้รับความเสียหาย แล้วก็พรุ่งนี้มีงานเลี้ยงต้อนรับท่านประธานและคณะ ผอ.จะให้ดิฉันไปรับชุดจากที่ร้านมาให้ที่นี่เลยใช่ไหมคะ”นับหนึ่งหยุดคิดนิดหนึ่ง เมื่อมินตรารายงานเรื่องที่ ธนญ จะมาเยี่ยมแผนกของเธอในวันนี้ และยังจะเรื่องชุดที่ใส่ในงานเลี้ยงต้อนรับ ที่เพิ่งมีเมล์แจ้งมาว่าจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับประธานคนใหม่ที่ชั้นดาดฟ้าของตึกสำนักงาน ในธีมแองเจิล
นับหนึ่งเอนกายพิงศีรษะลงที่ขอบพนักเก้าอี้ทำงาน และหลับตาลง เพื่อพักสายตาที่อ่อนล้าจากการจ้องมองจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน จนกระทั่งมีเสียงเคาะประตูเบาๆ เธอจึงลืมตาขึ้นและยืดตัวลุกขึ้นนั่งในท่าปกติที่สง่างาม“เชิญค่ะ” นับหนึ่งขานรับ“ผอ.ค่ะ ดิฉันรับชุมมาเรียบร้อยแล้วค่ะ ให้ไว้ที่ห้องพักเลยไหมคะ”มินตรานำชุดที่จะใส่ในงานเลี้ยงคืนนี้มาให้เธอ เพื่อจะถามเธอว่าจะเอาไว้ที่ห้องแล็ปที่เปรียบเสมือนห้องพักส่วนตัวของเธอเลยหรือไม่“ค่ะ ขอบใจนะคุณมินตรา” นับหนึ่งยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนนับหนึ่งมองที่นาฬิกาบอกเวลาเกือบหนึ่งทุ่มแล้ว แต่เธอยังไม่ได้เตรียมตัวเลยสักนิด เพราะติดพันธ์งานวิจัยเปลือกไม้ที่หยุดมาสักระยะหนึ่งแล้วตั้งแต่อุบัติเหตุครั้งนั้น เมื่อหยิบมันขึ้นมาทำต่อ จึงลืมเรื่องอื่นไปเสียสนิท อีกประมาณ 20 นาทีก็จะเสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว ไปช้าสักหน่อยคงจะไม่เป็นไร เพราะสถานที่จัดเลี้ยงก็อยู่ที่ชั้นดาดฟ้าสำนักงานนี่เ
ขบวนขันหมากของปารวัตรมาถึง โดยมีเพื่อนเจ้าบ่าวในชุดราชปะแตนสีขาวนุ่งโจงสีม่วง ส่งเสียงโห่ร้องที่หน้าบ้านของเจ้าสาวอย่างอึกทึก มัสยาวิ่งออกมาดูด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะรีบเข้าไปดูความเรียบร้อยของเจ้าสาว ณัฐการในชุดไทยจักรพรรดิสีครีมห่มสไบรองสีฟ้าอมเขียวทับด้วยสะพักปักลายวิจิตรบรรจงทั่วทั้งผืน ผ้านุ่งไหมยกสีครีมไล่สีเหลือบวาว ในขณะที่เพื่อนเจ้าสาวสวมชุดไทยอัมรินทร์คอตั้ง แขนกระบอกเข้ารูปแบบเรียบง่าย สีชมพูอ่อนแต่ดูสง่างามปารวัตรในชุดราชปะแตนสีครีม ผ้านุ่งโจงสีเขียวอมน้ำตาล ถูกเด็กๆ ตัวน้อยลูกหลานเครือญาติที่มาร่วมงาน กั้นประตูเงินประตูทอง 5 ชั้น แจกซองค่าผ่านประตู เป็นที่สนุกสนานกว่าที่เจ้าบ่าวจะผ่านด่านเข้ามาได้พิธีหมั้น และพิธีรดน้ำสังข์ถูกจัดต่อเนื่องในช่วงเช้า นับหนึ่งมองดูพิธีการและขั้นตอนต่างๆ อย่างสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการกล่าวสู่ขอเจ้าสาว และแสดงสินสอดต่อหน้าพ่อแม่ และญาติผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง การสวมแหวนและรับพรจากผู้ใหญ่ จนถึงพิธีการทางสงฆ์ ใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุขของคุณหญิง