กรงรักราชาโจร
ตอนที่ 14 (ออกล่า)
"สั่งคนให้เฝ้านางไว้ให้ดี และให้มีผู้หญิงมาเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด จนกว่าเราจะเสร็จกิจกลับมา" ในขณะที่ยืนจัดแต่งชุดที่พร้อมสำหรับปฏิบัติการ พลันสายตาของจาห์มาล์มองเห็นจัสซีเนียที่ยังคงนอนหลับอยู่ฉุกคิดขึ้นมาได้ จึงออกคำสั่งกับคนสนิททันทีทันใด
"....ฮึ"
"อย่ามองเราด้วยสายตาเช่นนั้นริฎวาน มันไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิดในหัว เราก็แค่กลัวนางจะหลบหนี ทั้งที่มันยังไม่สาแก่ใจเรา จึงต้องมีคนเฝ้าอย่างใกล้ชิด ก็แค่นั้น"
ริฎวานที่จับจ้องมองนายเหนือหัว คำสั่งการที่ฟังแล้วมีเลศนัย ทำให้คนสนิทถึงกับแสยะยิ้มเย้ยทีเล่นทีจริง เลยทำเอาจาห์มาล์ต้องรีบแก้ต่างให้แก่ตัวเอง ด้วยอาการลุกลี้ลุกลนในแววตา แต่ว่ายังวางท่านิ่งขรึมในแบบที่เคยเป็น
"ยังไม่ได้ว่าอันใดสักนิดครับ...ท่านอย่าร้อนตัวนักสิ" ริฎวานรีบท้วงทันทีทันใด
"หุบปากแล้วเตรียมคนเพื่อออกเดินทางได้ละ" และนั่นเลยทำให้จาห์มาล์รีบตัดบทสนทนาไป เมื่อถูกคนสนิทจับพิรุธได้
"ครับ" ริฎวานโค้งหัวตอบรับ ไม่วายทิ้งรอยยิ้มกริ่มก่อกวนผู้เป็นนาย จากนั้นจึงเดินออกจากกระโจมไป เพื่อเตรียมการตามคำสั่ง
ณ เวลานี้มีเพียงจาห์มาล์ที่อยู่จุดเดิม พลันสายตามองไปยังจัสซีเนียยังคงอยู่ในท่าหลับนิ่ง สองขาก้าวเดินเข้าไปใกล้ แล้วจึงหย่อนก้นนั่งลงข้างเตียง ทำเพียงจ้องมองหน้าของหล่อนอย่างพินิจด้วยความรู้สึกบางอย่าง
"เลือกที่จะหนี แล้วนี่กลับมาหาเราทำไมกัน จัสซีเนีย" เสียงเพรียกแผ่วเบาเอื้อนเอ่ย ในจังหวะเดียวกันกับมือที่ค่อย ๆ เอื้อมไปอย่างเชื่องช้า หวังสัมผัสกับใบหน้าเขียวช้ำที่แน่นิ่ง
"พร้อมแล้วครับ"
แต่แล้วต้องดึงมือกลับคืน เพราะเสียงของริฎวานแว่วเข้ามา ทั้งที่มือหนาแกร่งยังไม่ได้สัมผัสใบหน้าหล่อนอย่างที่ต้องการแต่อย่างใด
"อืม" เสียงแค่นตอบรับ พร้อมกับพยักหน้ารับรู้ ในจังหวะเดียวกันกับที่เอียงหน้าไปมองคนสนิทที่ยืนอยู่ และมีหญิงสาวหนึ่งคนที่ยืนข้างหลังริฎวาน นั่นคงเป็นคนที่ต้องมาดูแลจัสซีเนียตามที่จาห์มาล์สั่งการ
"ซัลมาจะเป็นคนดูแลนางในระหว่างที่เราไม่อยู่ครับ" ริฎวานแจ้งทันที เมื่อนายเหนือหัวเดินมาหยุดยืนตรงหน้า ด้วยท่าทีนิ่งน่าเกรงขาม สายตาเพ่งพิศจ้องมองซัลมา จนเธอต้องก้มหน้าหลบสายตาทันที ด้วยความหวาดหวั่นในแววตานั้น ที่มันแสนจะดุดันน่ากลัว
"จับตานางและดูแลให้ดี หากนางหลบหนีไป เราจะขังเจ้าในกรงอูฐ งดให้อาหารปล่อยให้อูฐเหยียบเจ้าจนตาย" จาห์มาล์เปล่งวาจานิ่ง ๆ แต่ทำเอาคนฟังนั้นขนลุกชูชันไปทั้งตัว ก้มหัวไม่กล้าแม้จะเงยหน้ามองสบตา แค่เสียงอันทรงพลังเอื้อนเอ่ย ก็ทำเอาซัลมานั้นแทบกลั้นหายใจ
“ค่ะ”
“ไปริฎวาน”
หล่อนตอบรับเสียงสั่น จากนั้นทั้งจาห์มาล์และริฎวานก็เดินออกจากกระโจมไป ซัลมาจึงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น มองตามแผ่นหลังหนาที่เดินห่างออกไปเรื่อย ๆ อย่างโล่งใจจนพ้นสายตา เพราะเมื่ออยู่ต่อหน้าจาห์มาล์ หล่อนยืนเกร็งปลายเท้าจิกพื้นรองเท้าด้วยความหวาดกลัว
“ฟู่...ทำไมโหดเยี่ยงนี้ น่ากลัวเสียจริง” มือทาบลงอกพร้อมกับถอนลมหายใจเฮือกใหญ่ เหมือนกับว่าได้ยกภูเขาที่ทับแน่นออกไป เมื่อได้อยู่พ้นสายตาดุร้ายนั้น "แกจะมาตายที่นี่ไม่ได้ซัลมา ตราบใดที่แกยังหาคู่ครองไม่เจอ ทำไมนายต้องดุอย่างกับเสือด้วยนะ" ยืนบ่นเพียงลำพังดั่งใจนึก สายตาทอดมองไปยังทางเข้ากระโจมอย่างเลิ่กลั่กหวาดระแวง กลัวทั้งสองจะเดินวนกลับเข้ามาอีกครั้ง หล่อนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามีคนบนเตียงจดจ้องหล่อนอยู่เงียบ ๆ
"เธอเป็นใคร? " จัสซีเนียเอ่ยถามเสียงแข็ง จนซัลมาต้องหันกลับมามอง
"รู้สึกตัวแล้วรึ" เสียงเรียกแว่วดัง ทำให้หล่อนขยับขาเดินเข้ามาใกล้ แล้วย้อนถามออกไป โดยที่ยังไม่ได้ให้คำตอบแก่จัสซีเนียที่ใคร่รู้
"ฉันถามว่าเธอเป็นใคร!? " นัยษ์ตาสีนิลเปล่งประกายอย่างหวาดระแวง เอ่ยเสียงแข็งถามย้ำอีกครั้ง ทั้งยังหยัดตัวลุกนั่ง ใช้ผ้าห่มคลุมร่างกาย ค่อย ๆ ขยับถอยหลังออกห่างซัลมาไป ด้วยความระแวดระวังอันตราย หล่อนไม่อาจจะไว้ใจใครได้ เพราะที่นี่มีแต่บริวารของเขาทั้งนั้น
"ไม่ต้องกลัวฉันนะ ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก....ฉันชื่อซัลมา เป็นลูกสาวของแม่ครัวที่นี่" ซัลมาพยายามอธิบาย เมื่อเห็นสายตาของจัสซีเนียมีความหวาดระแวง
"เธอคือคนของไอ้ชั่วนั่น ฉันจะไว้ใจได้ยังไง! "
"ชู่~~ เบา ๆ สิ อยากตายหรือไง เรียกท่านจาห์มาล์ไอ้ชั่ว ไม่กลัวใครมาได้ยินเหรอ เดี๋ยวก็ถูกขังให้อูฐเหยียบตายหรอก"
จัสซีเนียเอื้อนเอ่ยอย่างระวังตัว แต่กลับเป็นวาจาที่หยามเหยียดและด่าทออีกคนที่เพิ่งออกจากกระโจมไป จนซัลมาต้องปรี่เข้าหา ใช้มือปิดปากจัสซีเนียไว้ เพราะห่วงว่าใครจะมาเผลอได้ยิน ซึ่งมันคงทำให้ลมหายใจของหล่อนหมดลงเป็นแน่
"......คนที่สมควรตายคือมัน! ระยำแบบนั้นไม่เรียกว่ามนุษย์ แต่มันคือปีศาจร้าย ไม่ก็อสูรกายใจโฉด! "
"ฉันบอกให้พูดเบา ๆ ไงเล่า....โธ่เอ้ย! ไม่ฟังกันบ้างเลยนะ"
ความคับแค้นใจทำให้วาจาเกรี้ยวกราดหลุดจากปากอย่างง่ายดาย แววตาคมเปล่งประกายความเกลียดชังชัดเจน ทำเอาซัลมาที่แสนจะเกรงกลัวจาห์มาล์ขนลุกขนพองเลยทีเดียว
"ถามอะไรหน่อยสิ...ไอ้ชั่วนั่นมันไปไหนเหรอ"
"ออกไปช่วยกำจัดคนไม่ดี แล้วก็ช่วยชาวบ้าน"
"เหอะ!! คนไม่ดีก็มันนั่นไง ไม่ต้องไปไกลหรอก ทำไมไม่ยิงสมองตัวเองให้ตาย ๆ ไปซะ อยู่ไปก็รกแผ่นดิน"
เมื่อสมองพลันนึกคิดบางอย่างได้ จึงออกปากถามออกไปกับสิ่งที่เธอได้ยินก่อนหน้า ภายนอกที่เหมือนนอนหลับสนิท แท้จริงแล้วหล่อนรู้สึกตัวและได้ยินตั้งแต่ประโยคแรก แต่แสร้งทำทีเป็นนอนหลับเท่านั้น
"ชู่~~ เบา ๆ สิ เดี๋ยวได้ตายจริงหรอก"
"ฉันไม่กลัวมันหรอก"
คนกลัวก็กลัวจนตัวสั่น ย้ำเตือนครั้งแล้วครั้งเล่าจัสซีเนียก็ไม่ยอมฟัง หล่อนยังคงเอื้อนเอ่ยวาจาแค้นออกมาอยู่ร่ำไปอย่างท้าทาย
"เออ ๆ เธอนี่รั้นน่าดู ว่าแต่ชื่อว่าอะไรเหรอ ฉันจะได้เรียกถูก" เมื่อมันแสนจะระอา ย้ำเตือนยังไงจัสซีเนียก็ไร้ท่าทีความกลัว จนตัวซัลมาเป็นฝ่ายยกธงขาวในความหนักแน่น เธอคงแค้นเขาฝังใจด้วยเบื้องลึกอันใดหล่อนคงไม่กล้าถาม
"จำเป็นต้องบอก? " จัสซีเนียยอกย้อนนั่นเพราะหล่อนคิดว่าไม่จำเป็น
"เอ้า! ...ถ้าไม่บอกจะเรียกถูกได้อย่างไรเล่า" ซัลมาถึงกับสบถดัง กับประโยคที่ออกจากปากจัสซีเนีย
"เดี๋ยวฉันก็จะไปจากที่เลว ๆ นี่ไม่จำเป็นต้องบอกก็ได้มั้ง" ตอบแบบลวก ๆ พร้อมกระชับผ้าห่มห่อกาย
"หยิ่งเสียจริง ก็แค่ถามชื่อเท่านั้น....แต่บอกไว้ก่อนเลยนะว่าตัดคำว่าหลบหนีไปได้เลย เพราะว่าที่นี่ยากที่จะหลบหนี เนื่องจากมีคนเฝ้าหนาแน่นมาก ทุกคนที่เฝ้าระวังล้วนแต่มีฝีมือ เธอหนีไม่รอดหรอก" ซัลมานั่งลงบนเตียงแล้วขยายความตามสิ่งที่เป็น
"...จัสซีเนีย แล้วเธอล่ะ? " นิ่งคิดตามคำพูดของซัลมา จึงเอ่ยชื่อตามที่หล่อนใคร่รู้ การคิดหลบหนีของหล่อนคงยากเสียแล้ว แถมร่างกายก็ยังเจ็บป่วยไม่เอื้ออำนวยอีก แต่ยังไงต้องหนีไปตั้งหลักให้ได้
"บอกไปก่อนหน้าเหมือนจะไม่เข้าหูเธอสินะ ฉันชื่อซัลมาไง เป็นลูกสาวแม่ครัวที่นี่" เกิดความระอาอีกละลอก เนื่องจากหล่อนแนะนำตัวเองตั้งแต่เริ่มแรก แต่เหมือนจัสซีเนียจะไม่สนใจ ทำให้หล่อนต้องบอกชื่อแนะนำตัวย้ำอีกครั้ง
"อืม..." จัสซีเนียพยักหน้ารับรู้ พร้อมกับหย่อนขาลงจากเตียง เดินวนก้มเก็บเสื้อผ้ามาสวมใส่
"เดี๋ยว ๆ แล้วนั่นจะไปไหน" ซัลมาเบิกตาโตทันที เมื่อจัสซีเนียเดินวนรอบกระโจม อีกทั้งยังแง้มประตูทางเข้าสอดส่องสายตา
"หาทางไปจากที่นี่"
กรงรักราชาโจรตอนที่ 15 (ทำไมดื้อ)"เธอจะบ้าเหรอ!!...หนีไม่ได้ ถ้าเธอหนีฉันก็ถูกอูฐเหยียบตายสิ ห้ามออกจากกระโจมนี้ หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ให้ไป" ซัลมารีบวิ่งไปกางแขนดักหน้าไว้ทันทีด้วยความตกใจ การที่ได้ยินจัสซีเนียว่าไปแบบนั้นทำให้เธอนึกกลัวกับบทลงโทษที่จาห์มาล์กล่าวทิ้งท้ายไว้ก่อนไป"............" แต่คนดื้อก็ไม่ยอมฟัง ยังดันทุรังเดินหลบไปอีกฝั่ง ไม่พูดจากหรือให้ความสนใจกับซัลมาสักนิด"จัสซีเนีย! ฟังกันบ้างสิ" แต่ด้วยคำสั่งที่น่าเกรงขาม ทำให้ซัลมาต้องใช้ความพยายามเหนี่ยวรั้ง วิ่งไปยังประตูดักทางไว้"หลบไป!" เสียงแข็งกร้าวตะเบ็งขู่ ประกอบด้วยสายตาดุเพ่งพิศจ้องมองอย่างไม่นึกกลัว"ฟังฉันนะจัสซีเนีย...เธอไม่มีทางหนีออกไปจากที่นี่ได้ โดยที่ยังมีลมหายใจ คนมากมายรายล้อมที่นี่อย่างหนาแน่น ถ้าใครจะออกไปจากที่นี่ได้ มันผู้นั้นจะออกไปโดยที่ไร้ลมหายใจ...แม้จะหนีไปพ้นเขตนี้ยังไงก็ถูกตามตัวจนเจออยู่ดี" ซัลมาพยายามหว่านล้อมด้วยคำพูด หวังให้คนดื้อรั้นเข้าใจ"มันต้องมีสักทางให้ฉันหนี.....อยู่ก็เหมือนตายอยู่ดี" แต่มันกลับเหมือนจะไม่เป็นผลเอาเสียเลย"โอ้ย!! ทำไมดื้อแบบนี้นะ" จนซัลมาต้องใช้สองมือกุมหัวด้
กรงรักราชาโจรตอนที่ 16 (ปล้น)ฟากฝั่งของจาห์มาล์ ในเวลาวิกาลอันมืดสนิท ผ้าคลุมหัวสีดำทมิฬปกปิดใบหน้าแทบมิดชิด เว้นไว้เพียงดวงตาเท่านั้นเพื่อใช้ในการมอง เพ่งพิศมองไปยังตัวบ้านเป้าหมายที่ไม่ได้รู้การณ์ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น กำลังพลที่ตระเตรียมพลเพื่อทำการที่วางไว้ ซุ่มมองความเคลื่อนไหวของเหยื่ออย่างเงียบ ๆ รอเวลาที่เหมาะสมในการปล้น"เราจะทำการณ์นี้เป็นครั้งสุดท้าย...ในเมื่อเราพบสิ่งที่เราตามหาแล้ว ก็ไม่มีอันจำเป็นต้องทำต่อ" จาห์มาล์ยื่นคำสัตย์ขึ้นมาลอย ๆ ท่ามกลางความเงียบสงัดและมืดมิดในพุ่มไม้ลับตา"กระผมวิงวอนให้เป็นเช่นนั้นมาแสนนาน...แต่ที่ผ่านมาไม่อาจทัดทานท่านได้ ด้วยความเอาแต่ใจของท่าน" ริฎวานเอ่ยสำทับด้วยความเห็นดีเห็นงาม นึกโล่งใจกับนายเหนือหัวที่คิดจะหยุดสิ่งที่เคยทำ"นี่ว่าเรารึ?" คนหัวร้อนหันขวับมองหน้าทันที เมื่อริฎวานเอ่ยแซวทีเล่นทีจริง"ชู่~~ เดี๋ยวมีใครได้ยินครับ" อดที่จะกลั้นขำแทบไม่ได้ กับสีหน้าและท่าทางของนายเหนือหัว ที่แทบอยากบีบคอเขาให้ตาย"ฝากไว้ก่อนริฎวาน""ครับ"ชี้หน้าอย่างคาดโทษจนริฎวานส่ายหัว ความไม่ยอมคนมีมาแต่ไหนแต่ไร นิสัยเบื้องลึกที่ยากจะเปลี่ยนแปลง ก็คง
กรงรักราชาโจรตอนที่ 17 (ทาเธียน่า)“นางคือทาเธียน่า” ริฎวานที่มองแล้วว่าอย่างไรนายเหนือหัวผู้ดื้อรั้นคงไม่ยอม ตนเลยต้องเป็นฝ่ายยอมเอ่ย ในสิ่งที่รับรู้มา ที่ตัดสินใจปิดบังเรื่องนี้ นั่นเพราะอยากให้นายผู้ดื้อรั้น ได้มีความคิดตรองด้วยตัวเอง พยายามเอ่ยเป็นนัยหลายครั้งให้คิดตาม แต่กลับไร้วี่แวว“ใคร!?” เสียงกร้าวเอ่ยถาม พร้อมกับจดจ้องมองหน้าริฎวานอย่างดุดัน“ที่ท่านพบเจอเมื่อสักครู่ นางเป็นพี่สาวฝาแฝดของจัสซีเนีย ใช้กลอุบายลวงหลอกใช้ชื่อน้องสาว นางทำเช่นนี้มาหลายคน จนท่านกลายเป็นเหยื่ออีกคน กระผมก็เพิ่งทราบเรื่องราวไม่นานมานี้ และเพิ่งทราบเช่นกันว่านางคือคนรักของฮาดี้บุตรชายของหุ้นส่วนของท่านเชคฮ ทาเธียน่าในตอนนั้นทะเยอทะยานเฉกเช่นเดียวกับพ่อและพี่ชายนาง ต้องการเชิดหน้าชูตา และนางคิดว่าท่านแล้นแค้นยากไร้ จึงคิดตีจากไป และสุดท้ายก็ได้เจอกับฮาดี้จึงตามกันไปอยู่ต่างประเทศ โดยไม่สนใจคำห้ามปรามของบิดา และต่อมาบิดาพร้อมพี่ชายของนางก็ทำการทุจริตยักยอกเงิน จากการธุรกิจที่ร่วมหุ้นกับบริษัท asr อยู่หลายหน จนท้ายที่สุดโดนท่านจุดไฟเผาเพื่อสังเวยความผิดแทนกฎหมาย”“แล้วทำไมไม่บอก ห๊ะ! เป็นใบ้หรือไงกัน!
กรงรักราชาโจรตอนที่ 18 (อสูรออกจากร่าง)นั่งนิ่งประดุจคนหยุดหายใจ จ้องมองใบหน้าของคนที่นอนหลับสนิทไม่กะพริบตา จวบจนเวลาผันผ่านนานเป็นชั่วโมง ก็ยังคงนั่งมองในท่าเดิมอยู่แบบนั้น ไม่ขยับกายลุกไปไหนเสียที ปากบอกว่าต้องการพักผ่อน แต่พฤติกรรมกลับสวนทาง เอาแต่มองจัสซีเนียอย่างใช้ความคิด แอบรู้สึกผิดที่กระทำร้ายต่อหล่อน จนล้มป่วยและร่างกายบอบช้ำแสงแห่งดวงตะวันเริ่มสาดทอเข้ามาในกระโจม ความสว่างไสวเริ่มมีมากจนเผยใบหน้าของจัสซีเนียเด่นชัด รอยช้ำที่ยังคงมี พวงแก้มเนียนที่ยังคงทิ้งรอยนิ้วมือทั้งห้า ยิ่งสายตาคมดุเพ่งพิศยิ่งหวนคิดต่อการกระทำของตัวเองที่แสนจะดิบเถื่อนต่อสตรีผู้ไม่รู้เรื่องราว แม้หล่อนจะเคยปฏิเสธตนก็ไม่คิดเชื่อ"อื้อ...อ๊ะ!" ร่างอรชรนอนบิดไปมาโดยไม่ได้ลืมตาแต่อย่างใด การนอนหลับใหลตลอดทั้งคืนอย่างที่ไม่เคยสบายเช่นนี้มาก่อน ทำให้หล่อนรู้สึกสดชื่นเหมือนลืมว่ากำลังอยู่ที่ใด บิดเส้นให้ผ่อนคลาย จนเผลอไผลเกลือกกลิ้งกระแทกเข้ากับเข่าของคนนั่งมอง"........." ไร้การต่อว่า ทำเพียงมองหน้าหล่อนนิ่ง ๆ เท่านั้น แต่อีกคนกลับสะดุ้งตกใจ พลางนึกในใจว่าผีห่าซาตานหลอกหลอนในยามเช้าสดใสของหล่อนเสียแล้วจั
กรงรักราชาโจรตอนที่ 19(แค่ของชั่วคราว)“ไอ้ลามก!” ดวงตากลมจ้องมองอย่างเกรี้ยวโกรธ เมื่อคำพูดสองแง่สองง่ามนั้นทำให้หล่อนนึกอาย พยายามบิดแขนหวังให้หลุด แต่แรงที่มีก็ช่างน้อยนิด สู้แรงของคนตัวใหญ่ไม่ได้ แม้นจะดีดดิ้นสุดแรงแค่ไหน“ปากแบบนี้ ชายหน้าไหนจะกล้าเอาทำเมีย” ใบหน้าที่อยู่ในระยะใกล้เพียงคืบ สัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่กระทบผิวหน้าของกันและกัน วาจาร้ายเอ่ยอย่างไม่คิดรักษาน้ำใจคนฟัง“แกไง!!” หล่อนสวนกลับทันที เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ว่าเขาที่ย่ำยีให้เธอเจ็บปวดทั้งทางกายและใจ อย่างไม่อาจที่จะให้อภัยได้“เอาแบบนั้นไม่ได้เรียกเมีย...ก็แค่ของชั่วคราวเท่านั้น” ประโยคที่บาดใจทำเอาหัวใจหญิงสาวนั้นแทบแหลกสะบั้น มันช่างบาดหูเสียเหลือเกิน แค่ของชั่วคราวที่ไร้เกียรติ ถูกเหยียดหยามย่ำยีอย่างป่าเถื่อน ทำเอาจัสซีเนียถึงกับนิ่งไปชั่วขณะ น้ำสีใสเอ่อคลอในดวงตาอย่างไม่อาจหักห้ามได้“ไอ้ชั่ว!” ตวาดเสียงกร้าวใส่หน้าอย่างโมโห ยิ่งได้มองลึกเข้าไปในแววตาคมเข้มนั้น ยิ่งทำให้หล่อนอยากตะบันหน้าเขาให้แหลก กระแทกกำปั้นลงตามแต่ใจ ให้สาสมกับที่เขานั้นทำกับเธอไว้“ฮึ!...เธออาจจะติดใจคนชั่ว ๆ แบบเราก็ได้ ลอง
กรงรักราชาโจรตอนที่ 20(ยอมรับ...)“ทุกคนจงฟังเราให้ดี...วันนี้เรามีธุระต้องไปทำ และจะย้ำกับทุกคนว่าให้ดูแลอาณาบริเวณนี้ให้ดี อย่าให้มีใครหน้าไหนเล็ดลอดเข้ามาได้ และอย่าให้ ใคร!...ออกไปเพ่นพ่านนอกบริเวณนี้เป็นอันขาด ไม่ว่าผู้ใด! หากใครฝ่าฝืนมันผู้นั้นจะต้องถูกลงโทษตามกฎของที่นี่ เข้าใจไหม?”(ครับ/ค่ะ)เมื่อรู้ว่าจะต้องเดินทางเข้าพบบิดาตามที่ท่านต้องการ แต่จะปล่อยทิ้งไปเลยก็เสียจะไม่ได้ จึงต้องนัดรวมตัวของเหล่าบริวารออกคำสั่ง หากเป็นคนที่อยู่ในความดูแลก่อนหน้า จาห์มาล์คงไม่ต้องทำขนาดนี้ ด้วยทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเองดี แต่ที่ต้องทำแบบนี้นั่นเพราะมีคนหัวรั้นอย่างจัสซีเนีย จ้องจะหลบหนีอยู่ตลอดเวลา ที่รับรู้เพราะว่าคนเฝ้าหน้ากระโจมรายงาน แต่กระนั้นเขาก็ไม่ได้จัดการหรือลงโทษหล่อน แสร้งทำเป็นปิดหูปิดตา ไม่รู้ว่าจะต้องทำร้ายหล่อนไปอีกทำไม ในเมื่อรู้แล้วหล่อนไม่ได้มีความผิดตามที่เขาคิด แต่ความปากหนักก็ไม่ได้พูดไปตามตรง ยังคงวางท่าในแบบเดิมตามนิสัยที่เป็น“ทุกคนแยกย้ายได้”(ครับ/ค่ะ)“ยกเว้นจัสซีเนีย”ทุกคนตอบรับอย่างเกรงขาม ก็คงมีแต่จัสซีเนียเท่านั้นไม่ยอมว่าตามคนอื่น หล่อนเบือนหน้าหนีเบ้ปากอย
กรงรักราชาโจรตอนที่ 21(บาดแผลที่ยากจะรักษาหาย)“อึก!” แส้สีดำทมิฬกระหน่ำฟาดลงแผ่นหลังที่ไร้อาภรณ์นุ่งห่มครั้งแล้วครั้งเล่า ราวสิบครั้งเห็นจะได้ ผิวกายที่ว่าแกร่งของชายชาตรี โดนฟาดแต่ละทีอย่างแรงจนเลือดซึมตามรอย"ท่านจาห์มาล์" การลงมือกระทำต่อเพื่อนรักเพื่อนสนิท ทำก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายของริฎวานระทม บาดแผลจากการถูกเฆี่ยน ที่เห็นเต็มสองตา ยิ่งสร้างความสงสารให้แก่ริฎวาน แม้นรู้ว่าเพื่อนรักจะทำผิด แต่ก็อดสงสารและอดเห็นใจต่อการลงโทษไม่ได้ ยิ่งเขาเป็นคนลงมือเอง ยิ่งทำให้เขาช้ำอยู่ในอกอย่างรู้สึกผิด"เรายังไหว" น้ำเสียงแหบแห้งเอื้อนเอ่ย แรงขาที่หยัดยืนก็เริ่มโรยแรง แต่ก็ยังเข้มแข็งฝืนทน"อีกยี่สิบแส้...กระหม่อมเกรงว่าท่านจะ...""เราไม่เป็นไร เฆี่ยนต่อให้ครบตามคำสั่งท่านพ่อเถิด"หยุดการกระทำ พูดถ่วงเวลาหวังว่าให้เพื่อนได้พักหายใจ แต่ยังพูดได้ไม่ทันไร ก็ถูกแทรกเสียอย่างนั้น ความแข็งแกร่งที่จาห์มาล์มี ความอดทนอดกลั้นต่อความเจ็บปวด บาดแผลภายนอกที่สามารถรักษาหาย แต่บาดแผลภายในใจนั้นยากที่จะรักษา...ริฎวานรู้ดีว่าเพื่อนนั้นเจ็บขั้วหัวใจแค่ไหน จากคนหนึ่งกลายเป็นอีกคนหนึ่งใช้เพียงเวลาไม่นานในการเปลี
กรงรักราชาโจรตอนที่ 22(บทลงโทษที่เจ็บปวด)"ทุกคนออกไปก่อน" เชคฮอานัสออกคำสั่ง เมื่อเห็นแล้วว่าหมอรักษาอาการเสร็จสิ้น"ท่านจะทำอะไรลูกคะ...แค่นี้จาห์มาล์ก็บอบช้ำเกินทน" ทันทีทันใดฟาตินก็เอ่ยถาม เกรงว่าผู้เป็นสวามีจะลงโทษบุตรชายที่รักซ้ำอีกครั้ง"ไม่ทำอะไรหรอกน่า ฟาตินก็ออกไปเช่นกัน""ไม่ค่ะ...ฟาตินจะอยู่กับลูก" ชักน้ำเสียงอย่างดื้อรั้น จากนั้นก็หย่อนก้นงอนมนนั่งลงเคียงข้างบุตรชาย สบตาประจันหน้าต่อสวามีอย่างข่มขู่"ท่านพ่อไม่ทำอะไรลูกหรอกท่านแม่ เราสองคนแค่จะคุยกันอย่างชายชาตรีเท่านั้น" จาห์มาล์ระบายยิ้มให้แก่มารดา ที่ตอนนี้หน้านิ่วคิ้วขมวดใส่ผู้เป็นสวามี"จาห์มาล์ยังเข้าใจ" บ่นเบา ๆ แต่ทำเอาฟาตินนั้นสะบัดหน้ามองด้วยรังสีอำมหิตทันที"ว่าให้ฟาตินหรือคะ?" คำพูดที่เหมือนเสียดสี ทำให้ฟาตินถึงกับดีดตัวลุกยืนประจันหน้าท้าทาย"เปล่าซะหน่อย...ออกไปรอที่ห้องนะ ขอคุยกับลูกแป๊บเดียว แล้วจะตามไปนะ" เชคฮอานัสนึกขำกับสีหน้านั้นของภริยา จับบ่าสองข้างแผ่วเบา สื่อเป็นนัยว่ามันจะไม่มีอะไรที่ร้ายอย่างที่นางกังวล"อย่าทำอะไรลูกนะ ถ้ารู้ว่าทำลูกบาดเจ็บอีกครั้ง ฟาตินไม่ยอมจริง ๆ ด้วย" ความห่วงใยบุตรชาย ทำใ
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 15(ภาพจำตลอดกาล)ถึงวันเวลาบุตรคนที่สองของจาห์มาล์ถือกำเนิด นับเป็นความยินดีปรีดาที่ได้มาซึ่งบุตรชาย พระโอรสตัวน้อยที่เค้าโครงใบหน้าค่อนไปทางมารดา ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดีทุกประการ และองค์หญิงจัสทีน่าก็ช่างแสนจะเห่อน้องชายที่เพิ่งคลอดได้ไม่ถึงเดือน"ฮะมีสเรามีน้องแล้วนะ น้องของเราน่ารักเหมือนเราเลย" องค์หญิงจัสทีน่าว่าขึ้นอย่างอวดอ้าง ในขณะที่กำลังนั่งเล่นในสวน มีอัยนูนที่นอนนิ่งอยู่ข้างกาย อีกทั้งยังมีพี่เลี้ยงคอยดูแลปรนนิบัติในทุกย่างก้าว "เราตั้งชื่อน้องชายเองด้วยนะ ให้ชื่อว่าจาห์เนีย""ขอรับ...แล้วจาห์เนียแปลว่าอะไรหรือองค์หญิง" ฮะมีสในวัยเก้าขวบตอบรับอย่างเห็นตาม เขาไม่เคยขัดในสิ่งที่องค์หญิงจัสทีน่าปรารถนา ตามด้วยย้อนถามในพระนามขององค์ชาย"แปลเหรอ? เราก็ไม่รู้เหมือนกัน คิกคิก" องค์หญิงตัวน้อยพูดเจื้อยแจ้ว ทำเอาพี่เลี้ยงที่นั่งฟังถึงกับอมยิ้ม ชอบใจในจินตนาการที่เดียงสาของจัสทีน่า"อ้าว""ก็เราเอาชื่อท่านแม่กับท่านพ่อบวกกัน บวกเหมือนเลขที่โรงเรียนไงครูสอนมา อยากให้มันเยอะต้องบวก มีจาห์เนียมาเพิ่มก็ต้องเป็นบวก...เอ๊ะ! หรือจะบวกกันให้หมดเลยเป็น จัสซีมาล์จาห์เน
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 14(สัตว์เลี้ยงขององค์หญิง)"ท่านแม่ขา" เสียงเจื้อยแจ้วขององค์หญิงตัวน้อยที่นอนหนุนขาของมารดาเอ่ยถาม หันหน้าเข้าหาท้องกลมใหญ่ที่ใกล้คลอด มือป้อม ๆ ขององค์หญิงจัสทีน่า ลูบคลำด้วยความแผ่วเบา"ว่าอย่างไรคะองค์หญิงของแม่" ผู้เป็นมารดาที่นั่งเอนหลังพิงกับหัวเตียง มือหนึ่งลูบหัวเพื่อขับกล่อมบุตรสาว ขานรับเมื่อองค์หญิงจัสทีน่าพร่ำเรียก"เมื่อไหร่น้องจะออกมาเล่นเป็นเพื่อนลูกคะ" จินตนาการด้วยการเฝ้ารอน้องที่อยู่ในท้องของมารดา"อยากเจอหน้าน้องแล้วเหรอคะ" ผู้เป็นมารดาเอ่ยถามด้วยความเอ็นดู"อยากเจอแล้วค่ะ" องค์หญิงจัสทีน่าให้คำตอบ พร้อมกับกดปลายจมูกเล็กเชิดรั้นสัมผัสลงท้องกลมของมารดา มีการขยับเคลื่อนไหวของทารกน้อยในครรภ์ เหมือนกับตอบรับพี่สาวที่เฝ้ารออยู่ด้านนอก"รออีกหน่อยนะคะ อีกไม่กี่วันน้องก็จะมาแล้ว องค์หญิงจะเลี้ยงน้องช่วยแม่ไหมคะ" ผู้เป็นมารดาให้คำตอบ จากนั้นจึงเอ่ยถามอย่างลองเชิงบุตรสาวที่ยังไร้เดียงสา"ต้องเลี้ยงค่ะท่านแม่ ลูกรักน้อง พี่น้องต้องรักกันค่ะ ท่านปู่กับท่านย่าบอกแบบนี้" คำสั่งสอนของปู่กับย่า องค์หญิงจัสทีน่าจดจำได้ดี ครั้นเข้าเฝ้าทีไรต้องได้สิ่งที่มีประ
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 13(วุ่นทั้งวัง)วันเวลาล่วงใหญ่ผ่านไป การใช้ชีวิตคู่ก็ชื่นมื่นสุขสม ทุกอย่างดำเนินไปตามเจตนารมณ์ของคนทั้งสอง ลูกน้อยที่เคยอยู่ในท้อง ออกมาท่องโลกกว้างมาจนอายุครบสี่ปีและยังมีทารกน้อยในท้องอีกหนึ่งคนที่จวนจะคลอดในอีกไม่กี่วันข้างหน้าองค์หญิงตัวน้อยเป็นที่รักของทุกคน ความสดใสเจื้อยแจ้วเดียงสา ทำให้ราชวังที่เงียบเหงามีสีสันสดใส และวุ่นวายในเวลาเดียวกัน“จัสทีน่า! องค์หญิงอยู่ไหนลูก” เสียงของบิดาตะโกนเรียกขาน เมื่อบุตรสาวตัวน้อยไม่รู้ว่าแอบหนีไปเล่นซุกซนที่ไหน“คิก คิก” เสียงหัวเราะชอบใจเมื่อคนที่อยู่บนต้นไม้ มองไปเห็นบิดากำลังเดินตรงมา สายตาก็กวาดมองหา ทว่าก็ไม่เจอคนที่หลบซ่อน มันทำให้หล่อนชอบใจ“องค์หญิงเพคะ องค์หญิง” เสียงของพี่เลี้ยงตะโกนเรียกหา ทว่าจัสทีน่าองค์หญิงตัวน้อยก็ไม่ยักจะขานรับ“จัสทีน่า” เสียงมารดาแว่วดังตามมา ความวุ่นวายในวังมีไม่หยุดหย่อน สีสันที่ทำเอาเหล่านางในถึงกับเหนื่อยหอบได้ทุกวี่วัน ก็องค์หญิงตัวน้อยชอบแอบหนีไปเล่นเพียงลำพัง แล้วให้คนไล่ตามหา เหมือนกับว่าหนูน้อยชอบใจที่ได้กลั่นแกล้งปั่นหัวผู้คน“ท่านพ่อเดินมาทางนี้แล้ว จะเห็นเราไหมนะ” จัสท
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 12(ยอมป้ะล่ะ?)หลังจากสร้างความสบายใจให้กับจัสซีเนียเสร็จสิ้น จาห์มาล์ก็กลับเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัว เพื่อสะสางสิ่งที่ต้องทำ เตรียมพร้อมสำหรับการที่จะพาจัสซีเนียไปพักผ่อนตามคำบัญชาของมารดา ที่ห่วงลูกสะใภ้หนักหนา ทว่ากับมีบางอย่างให้ฉุกคิดขึ้นมาในหัว"ส่งมาหยาเรียบร้อยใช่ไหม?" เขาเอ่ยถามเมื่อรับรู้ถึงการเข้ามาในห้องของริฎวาน"ขอรับ" ตอบรับด้วยน้ำเสียงสุขุม"ได้ไปดูทาเธียน่าบ้างหรือไม่" มันคือสิ่งที่ฉุกคิดขึ้นมาได้เลยเอ่ยถาม ตั้งแต่วันที่เขาสำเร็จโทษของทาเธียน่า ก็ไม่มีทีท่าจะไปพบหน้าหล่อนอีกเลย ได้แต่ถามไถ่จากริฎวานเท่านั้น เป็นครั้งคราวที่นึกถึง"กระผมเพิ่งแวะไปเยี่ยมตอนไปส่งคุณมาหยาขอรับ" ริฎวานให้คำตอบ"นางเป็นอย่างไรบ้าง" จาห์มาล์ยืนมือไขว้หลัง ทอดสายตามองออกไปยังทัศนียภาพเบื้องหน้าอย่างไร้เป้าหมาย ครุ่นคิดถึงเรื่องราวในอดีตที่พบเจอมา ดั่งกับว่าเป็นนิยายปลำปลา ไม่เคยคิดว่าชีวิตหนึ่งจะต้องมาเจอสิ่งเหล่านี้ ไม่เคยคิดว่าจะต้องพบกับความเจ็บปวดและมีปมในใจ ทั้งที่เกิดมาพร้อมศักดินาที่สูงส่งในเชื้อพระวงศ์ คิดแล้วก็ตลกสิ้นดี"เหมือนเดิมขอรับ เซื่องซึม ไม่พูดไม่จาและ
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 11(อธิบาย)"เธอ!""พระชายา"จัสซีเนียที่เดินมาหวังจะเข้าพบพระสวามี บรรจบพบเข้ากับมาหยาพอดิบพอดี กับที่หล่อนนั้นเปิดประตูออกมา มาหยาฉีกยิ้มให้แล้วโค้งตัวทำความเคารพ แต่กับจัสซีเนียหล่อนคิ้วขมวดชนกัน งุนงงกับการที่มาหยาเดินออกมาจากห้องทำงานของพระสวามีในยามนี้เพี๊ยะ! ไม่ทันจะได้ถามหาความจริง สิ่งที่เห็นทำให้จัสซีเนียเลือดขึ้นหน้า ปรี่ประชิดตัวมาหยาแล้วกระแทกฝ่ามือใส่จนใบหน้าสวยของมาหยาหันไปตามแรง ทำเอาคนสนิทที่เดินประกบหลังมาถึงกับเบิกตากว้างตกใจ ไม่คิดว่าพระชายาที่กำลังอารมณ์ดี จะมีความโมโหรุนแรงเช่นนี้เพียงชั่วพริบตาเดียว มันทำให้พวกหล่อนตั้งหลักไม่ทัน"ท่านพี่!" และสิ่งที่ทำให้ตะลึงยิ่งกว่านั้น คือจาห์มาล์เปิดประตูออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน มันทำให้หัวใจของจัสซีเนียวูบไหว คาดหวังว่าพระสวามีคงไม่ตลบหลังหล่อนใช่ไหม? ภาพที่เห็นทำให้คิดไกล ดวงตาสั่นไหวด้วยความหวาดหวั่น กระนั้นก็ย่างสามขุมเข้าหาจาห์มาล์ที่ยืนทำหน้างุนงง"โอ๊ย ๆ น้องใจเย็น ฟังพี่ก่อน...จัส จัส พี่เจ็บ ท้องอยู่นะ" แต่ต้องร้องโอดครวญด้วยความเจ็บแสบ จนเรียกชื่อของจัสซเนียเพียงพยางค์เดียว เมื่อหล่อนฟาดฝ่ามื
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 10(ทางแยก)"คิดจะกำจัดฉันเหรอ มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอก กว่าจะได้เข้ามาในนี้ไม่ใช่ง่าย ๆ ฉันต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ" มาหยาที่เผลอมาได้ยิน สิ่งที่พระนางเอื้อนเอ่ยทำให้มาหยากำมือแน่นด้วยความแค้นใจเรื่องราวที่องค์รัชทายาทบาดหมางกับพระชายานับว่าเป็นข่าวดีไม่น้อยที่จาห์มาล์พูดระบายตอนเมา เพราะมันทำให้หล่อนตะล่อมจาห์มาล์ได้ง่ายขึ้น จนเขายอมพาหล่อนเข้ามาในวัง นานทีเขาจะไปหาที่ฮาเร็ม หล่อนจะทิ้งโอกาสไปได้อย่างไรความว้าวุ่นก่อเกิดทำให้มาหยาถึงกับนั่งไม่ติดที่ เดินวนอย่างใช้ความคิด เพื่อหาทางได้อยู่ในวังต่อ เดินคิดทวนอยู่นานหลายนาที ความคิดมาดร้ายจึงบังเกิด"ฮึ! พระชายาคงไม่ถือสาหรอกมั้งที่จะใช้สามีร่วมกัน เพราะที่ผ่านมาองค์รัชทายาทก็เคยร่วมเตียงกับหม่อมฉันนะเพคะ" มาหยาที่มีความคิดมาดร้ายในหัว หล่อนยืนพร่ำคนเดียวในห้องนอนรับรอง มโนภาพใบหน้าของพระชายาด้วยความปรีดา หากว่าได้เห็นในสิ่งที่จะผูกมัดให้ตนได้อยู่ต่อก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูทำให้มาหยาสะดุ้งตัวหลุดจากภวังค์ความคิด ไม่สบอารมณ์เมื่อมันเป็นการรบกวนสิ่งที่จินตนาการไว้อย่างสวยหรู"มีอะไรคะ" มาหยาเปิดประตูออกมา แล้
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ(คำบัญชา)"เป็นอย่างไรกันบ้าง แม่ได้ข่าวว่ามีปากเสียงกันหนักเลย" องค์ราชินีที่คอยดูบุตรชายและสะใภ้อยู่ห่าง รู้เห็นทุกอย่างแต่ไม่อยากก้าวก่าย พระนางเอ่ยถามเมื่อพบเจอกับลูกทั้งสองในสวนยามเย็น"ขอรับ" จาห์มาล์ขานรับ"แล้วทำไมต้องทะเลาะขนาดนั้น มันหนักหนามากมายเลยหรือจาห์มาล์" พระนางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุขุม จ้องมองไปยังบุตรชายและสะใภ้ ที่ตอนนี้มีสีหน้าแห่งความรู้สึกผิด กระนั้นก็ยังจับมือกันไม่ปล่อยห่าง ทุกความรู้สึกเผยแก่สายตาของมารดา ความรักที่ให้แก่กันยังแน่นแฟ้น แม้นจะมีปากเสียงกันลูกทั้งสองก็รีบเคลียร์ใจ ไม่ปล่อยไว้ให้มันยืดเยื้อ"ไม่ขอรับ" จาห์มาล์ขานรับ แต่จัสซีเนียนั้นยังเงียบ ใบหน้ายังมีความเศร้าที่ปะปนความรู้สึกผิด"อดทนข่มอารมณ์ไม่ได้เลยหรือลูกแม่ ลูกไม่ได้ตัวคนเดียวเหมือนแต่ก่อน ตอนนี้กำลังจะเป็นพ่อคนแล้ว หากวุฒิภาวะในการควบคุมอารมณ์ยังน้อยนิด ลูกจะเป็นพ่อที่ดีได้อย่างไร จะให้ลูกดูใครเป็นเยี่ยงอย่างถ้าไม่ใช่พ่อกับแม่" พระนางว่าขึ้นตักเตือนบุตรชาย"อย่าทรงตำหนิท่านพี่เลยนะเพคะ...หม่อมฉันผิดเองที่ดื้อรั้น ไม่ฟังสิ่งที่ท่านพี่ปรามด้วยความหวังดี ไม่รักษาความร
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 8(ผิดทั้งคู่)กลางดึกที่ผู้คนในวังนอนหลับใหล แสงไฟที่เคยเจิดจ้าสว่างไสวดับมอดลง มีเพียงแสงสีนวลจากดวงจันทร์ทอแสงสว่างเลือนลาง เพื่อให้คนที่กำลังเดินกลับเข้ามาในตำหนักได้เห็นทางจาห์มาล์ค่อย ๆ ผลักประตูห้องนอนแผ่วเบา เขาไม่อยากให้จัสซีเนียรู้สึกตัวตื่น แสงจันทร์ที่สาดส่องกระทบกับใบหน้าคนที่นอนหลับ ทำให้เขาลอบยิ้มหากอยู่นิ่งก็ดูว่านอนสอนง่าย แต่พอรู้สึกตัวตื่นไฉนเลยถึงดื้อรั้นเอาแต่ใจ"ฝันดีนะจัสซีเนีย" จาห์มาล์ไล้ใบหน้าเนียนนั้นอย่างเบามือ โน้มตัวจูบลงกลางหน้าผากนูนนั้นด้วยความอ่อนโยน แตะริมฝีปากจูบซับบางเบา เพราะเขาห่วงว่าหล่อนจะสะดุ้งตื่น...แม้ปากจะไวแต่ถึงอย่างไรเขาก็ทำร้ายคนที่รักมากกว่านี้ไม่ลง"ฝันดีนะเจ้าตัวน้อย..." ตามด้วยแตะจูบลงหน้าท้องที่นูนออกมาเล็กน้อย ที่มีกลอยใจอาศัยอยู่ด้านในจากนั้นจึงเอนตัวนอนเคียงข้าง แทรกร่างกายหนาอุ่นในผ้าห่มผืนเดียวกัน สอดแขนให้จัสซีเนียนอนหนุน กระชับโอบกอดคนที่นอนนิ่งไม่รู้สึกตัว ได้ยินเพียงเสียงของลมหายใจที่พ่นเข้าออกเป็นจังหวะ"อื้อ~~" การถูกรบกวนทำให้คนที่อ่อนล้านอนหลับสนิท มีเพียงเสียงอู้อี้ในลำคอเล็ดลอดออกมาบางเบา แต่
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 7(ที่หนึ่งไม่ไหว)นานราวยี่สิบนาทีตั้งแต่ที่จาห์มาล์ทิ้งหล่อนไว้ข้างหลังให้ร้องไห้น้ำตาไหลเพียงลำพัง จัสซีเนียก็ยังไม่ขยับขาก้าวเดินไปไหน มันจุกในอก มันเจ็บปวดเหมือนหัวใจตกหล่นลงสู่พื้นที่เต็มไปด้วยหนามแหลม ทิ่มแทงลงก้อนเนื้อหัวใจให้เจ็บร้าว ยิ่งเขาเมินเฉยใส่ ยิ่งสร้างความทรมานหัวใจแก่จัสซีเนียผู้มีความผิด"พระชายาเพคะ" ซัลมาเดินเข้าไปใกล้ เรียกขานคนที่เอาแต่ยืนร้องไห้หวังให้รู้สึกตัว"เสด็จเข้าด้านในเถิดเพคะ อากาศตอนนี้หนาวเย็นแล้วเพคะ" ลีนาว่าขึ้นอย่างนึกสงสาร สิ่งที่เห็นทำเอาหญิงรับใช้ทั้งสองน้ำตาซึมตามอย่างไม่อาจหักห้าม"ฉันไม่เคยแคร์ความรู้สึกของท่านพี่เลย ไม่เคยฟังในสิ่งที่เขาห้าม...ฉันเป็นคนที่แย่มาก ฮึก ฮึก ใช่ไหม?" จากที่เงียบอยู่นานก็เอ่ยวาจาขึ้นถามความเห็นด้วยน้ำเสียงสะอื้น น้ำตารื้นขอบตาจนมาไหลรดอาบแก้มเป็นทางยาว"ที่องค์รัชทายาททรงห้ามปรามนั่นก็เพราะทรงห่วงพระชายานะเพคะ หม่อมฉันอยู่ในวังมาหลายปี ไม่เคยมีหญิงใดที่พระองค์จะทรงห่วงใยถึงเพียงนี้...ไม่ใช่สิเพคะ องค์รัชทายาทดูเหมือนจะแทบไม่มีใครเลยด้วยซ้ำไป" ลีนาคุกเข่ากับพื้นแล้วจับมือของจัสซีเนียแนบแก้